Friday, December 12, 2025

บริดจสโตน จับมือ ม.กรุงเทพ จัดโครงการ “EVENT BU X BRIDGESTONE CREATOR AWARDS” ชวนเด็กนิเทศฯ โชว์ไอเดียครีเอทคลิปไวรัลตอบไลฟ์สไตล์ Gen Z ในหัวข้อ “VALUE OVER PRICE”


บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จัดโครงการเฟ้นหาสุดยอดครีเอเตอร์รุ่นใหม่ใน “EVENT BU X BRIDGESTONE CREATOR AWARDS” เปิดเวทีให้น้องๆ นักศึกษาภาควิชาการผลิตอีเว้นท์ และการจัดการนิทรรศการและการประชุม มหาวิทยาลัยกรุงเทพ อัพสกิลโชว์ไอเดียครีเอทคอนเทนต์ไวรัลในรูปแบบของตนเองผ่านคลิปวิดีโอสั้นบน TikTok นำเสนอเรื่องราวเชื่อมโยงกับแบรนด์บริดจสโตน ตอบไลฟ์สไตล์ Gen Z ในหัวข้อ VALUE OVER PRICE” โดยเล่าให้เห็นความสำคัญของ คุณค่า จากยางรถยนต์บริดจสโตนที่ลูกค้าจะได้รับ เช่น สมรรถนะ ความปลอดภัย และความคงทน มากกว่าราคาที่ลูกค้าต้องจ่าย พร้อมชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 50,000 บาท

โครงการ EVENT BU X BRIDGESTONE CREATOR AWARDS  สานต่อความสำเร็จจากเฟสแรก ซึ่งจัดในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2568 สะท้อนความมุ่งมั่นของบริดจสโตนในการสนับสนุนภาคการศึกษาไทย และเตรียมพร้อมคนรุ่นใหม่ให้ก้าวสู่เส้นทางอาชีพอย่างมั่นใจ พร้อมทั้งเชื่อมโยงแบรนด์บริดจสโตนเข้ากับไลฟ์สไตล์การเดินทางของคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น ในเฟสนี้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากน้องๆ นักศึกษา โดยได้ครีเอทคลิปวิดีโอมากกว่า 120 คลิป ซึ่งบริดจสโตนมอบรางวัลให้ทีมชนะเลิศเป็นเงินสดมูลค่า 20,000 บาท และรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 50,000 บาท

คุณโชทาโร่ คิตะมุระ ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจยางรถยนต์นั่งและรถบรรทุกขนาดเล็ก บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจเป็นอย่างมากกับการสร้างสรรค์คอนเทนต์ ผมรู้สึกยินดีที่ได้เห็นพลังความคิดสร้างสรรค์ของน้องๆ นักศึกษา บริดจสโตนต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้เด็กรุ่นใหม่ได้พัฒนาทักษะอย่างเต็มศักยภาพ เพราะเวทีนี้ไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่เป็นโอกาสเตรียมความพร้อมให้พวกเขาก้าวสู่เส้นทางอาชีพในอนาคตอย่างมั่นใจ เราเชื่อว่าคนรุ่นใหม่คือพลังสำคัญที่จะขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเดินทางซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของบริดจสโตนที่มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชั่น พร้อมเดินหน้าสร้างประสบการณ์และกิจกรรมการตลาดออนไลน์อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์การเดินทางของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง

ผศ.ดร.อริชัย อรรคอุดม คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล่าวว่า ขอขอบคุณบริดจสโตนและผู้บริหารที่เปิดพื้นที่ให้นักศึกษาภาควิชาการผลิตอีเว้นท์ และการจัดการนิทรรศการ และการประชุมได้แสดงศักยภาพในบทบาทคอนเทนต์ครีเอเตอร์ พร้อมทั้งสนับสนุนและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดตลอดโครงการ ผมเชื่อว่าไอเดียของนักศึกษาจะช่วยสร้างผลงานที่ตอบโจทย์แบรนด์ต่อยอดคุณค่าของบริดจสโตนได้จริง และเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ารุ่นใหม่ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

ร่วมติดตามโครงการ EVENT BU X BRIDGESTONE CREATOR AWARDSเพิ่มเติมได้ทาง TikTok ที่ hashtag #BridgestoneXBangkokUniversity #ValueoverPrice

เกี่ยวกับบริดจสโตน ประเทศไทย:

บริดจสโตน ผู้นำระดับโลกด้านยางรถยนต์และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับยาง พร้อมนำเสนอโซลูชั่นด้านการเดินทางที่ปลอดภัยและยั่งยืน และสำหรับประเทศไทย บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด คือหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการนำเข้า จัดจำหน่าย และทำการตลาดยางรถยนต์ภายใต้แบรนด์บริดจสโตน, ไฟร์สโตน และเดย์ตันแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย บริดจสโตนเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ตัวแทนจำหน่าย และพันธมิตรทางธุรกิจ เรานำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์พรีเมียมที่หลากหลายและโซลูชั่นขั้นสูงซึ่งพัฒนาจากนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาการเดินทางการใช้ชีวิต, การทำงาน และการพักผ่อนของผู้คนทั่วโลก

Bridgestone Joins Hands with Bangkok University Organize “EVENT BU X BRIDGESTONE CREATOR AWARDS” Inviting Communication Arts Students to Create Viral Content for Gen Z under the Theme “VALUE OVER PRICE”


Bridgestone Sales (Thailand) Co., Ltd., in collaboration with the School of Communication Arts at Bangkok University, organized the “EVENT BU X BRIDGESTONE CREATOR AWARDS” to discover the young generation of outstanding creators. The project provided an opportunity for students from the Event Production and MICE Management program to enhance their skills and showcase their creativity through viral content creation. The students created short-form videos on TikTok, aligning with Gen Z lifestyles, under the theme “VALUE OVER PRICE”.Their content highlighted the meaningful “value” customers gain from Bridgestone tires such as performance, safety, and durability, reflecting benefits that go “beyond the price they pay”, with total prizes exceeding 50,000 THB.

The EVENT BU X BRIDGESTONE CREATOR AWARDS continued its success from the first phase, held during April–May 2025, reflecting Bridgestone’s commitment to supporting Thailand’s education sector and empowering the young generation as they prepare to enter their future careers with confidence. The project also strengthened the connection between the Bridgestone brand and the travel lifestyles of young consumers. Bridgestone awarded the winning team 20,000 THB in cash, with total prizes exceeding 50,000 THB.

Mr. Shotaro Kitamura, Consumer Group Director of Bridgestone Sales Thailand Co., Ltd. said, “Content creation is a growing passion among young generation, and I am delighted to see the creativity students have shown. Bridgestone is committed to supporting young generation in developing their skills to the fullest potential, and this project is not just a competition, but an opportunity to prepare them for their future careers with confidence. We believe that they are a driving force for innovation and future mobility, aligning with our commitment to developing products, services, and mobility solutions. We will continue delivering experiences and online marketing activities that truly resonate with the travel lifestyles of the new generation.”

Asst. Prof. Dr. Arishai Akraudom Dean, School of Communication Arts at Bangkok University said, “Thank you to Bridgestone and the management team for giving a stage for students from the Event Production and MICE Management program to showcase their potential as content creators, along with the continuous support and guidance throughout the project. I believe the students’ ideas will deliver work that aligns with the brand, enhances Bridgestone’s value, and strengthens the brand image to better meet the needs of today’s young consumers.”

Follow any updates from the EVENT BU X BRIDGESTONE CREATOR AWARDS on TikTok via the hashtags #BridgestoneXBangkokUniversity and #ValueoverPrice.

About Bridgestone in Thailand:   
Bridgestone is a global leader in tires and rubber building on its expertise to provide solutions for safe and sustainable mobility. In Thailand, Thai Bridgestone Co., Ltd. (TBSC) is a leading manufacturer in the Thai automotive industry, while Bridgestone Sales (Thailand) Co., Ltd. (BSTL) is the exclusive importer & distributor, and supervises the marketing strategy for Bridgestone, Firestone and Dayton branded tires in Thailand. Bridgestone is a brand trusted by its customers, dealers and business partners. Bridgestone offers a diverse product portfolio of premium tires and advanced solutions backed by innovative technologies, improving the way people around the world move, live, work and play.

นครฝูโจวได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งใน "เมืองที่มีความสุขที่สุด" ของจีน ประจำปี 2568

เมื่อไม่นานมานี้ นครฝูโจวได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน "เมืองที่มีความสุขที่สุด" ของจีน เช่นเดียวกับเมืองเอกประจำมณฑลและเมืองสำคัญที่ถูกกำหนดไว้ในแผนของรัฐบาลกลางอีก 10 แห่ง ในพิธีประกาศผลซึ่งจัดขึ้นภายใต้กรอบการประชุมเมืองแห่งความสุข (Happy Cities Forum) ประจำปี 2568 ณ เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน



โครงการสำรวจและคัดเลือก "เมืองที่มีความสุขที่สุด" รวมถึงการประชุมเมืองแห่งความสุขนี้ จัดโดยนิตยสารออเรียนทัล เอาต์ลุค (Oriental Outlook) ของสำนักข่าวซินหัว ซึ่งดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 และยังคงถือเป็นหนึ่งในโครงการสำรวจเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดของจีน


โครงการปีนี้จัดขึ้นในธีม "ปฏิบัติตามแนวคิดเมืองที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อสร้างชีวิตที่ดีและมีความสุขยิ่งขึ้น" โดยเริ่มต้นตั้งแต่เดือนสิงหาคม มีเมืองและเขตเมืองทั่วประเทศรวม 220 แห่งเข้าร่วมการเสนอชื่อ และหลังจากที่ได้ประเมินอย่างเข้มข้น รายชื่อ "เมืองที่มีความสุขที่สุด ประจำปี 2568" จึงได้รับการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ


ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นครฝูโจว หรือที่รู้จักในนาม "เมืองแห่งความเป็นสิริมงคล" และ "เมืองต้นไทรร่มรื่น" ได้ยึดมั่นปฏิบัติตามหลักการสำคัญของยุทธศาสตร์ "3820" (โครงร่างเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของนครฝูโจว ทั้งในระยะ 3 ปี 8 ปี และ 20 ปี จัดทำขึ้นในปี 2535) ส่งผลให้เมืองแห่งนี้เร่งเปลี่ยนผ่านสู่เมืองสากลสมัยใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และในปี 2567 ผลผลิตทางเศรษฐกิจของเมืองนี้ก็อยู่ในอันดับ 8 ในบรรดาเมืองเอกประจำมณฑลต่าง ๆ ทั่วประเทศ


แล้วอะไรคือความลับสู่การเป็นเมืองที่ประชาชนมีความสุขของฝูโจว คำตอบนั้นอยู่ที่การรังสรรค์ความพยายามอย่างรอบด้านในทุกมิติ ตั้งแต่มรดกวัฒนธรรมฝูเจี้ยนอันลึกซึ้งที่หล่อหลอมบรรยากาศแห่งความอบอุ่นและความพึงพอใจในชีวิต ภูมิทัศน์ชายฝั่งอันตระการตาที่สร้างทัศนียภาพงดงาม ดินแดนแห่งการประกอบการที่มีชีวิตชีวา ซึ่งบ่มเพาะอุตสาหกรรมที่เจริญรุ่งเรือง สิ่งแวดล้อมเมืองที่พัฒนาสวัสดิการสาธารณะสำหรับทุกวัยอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงวิถีชีวิตที่ผ่อนคลายและสุนทรีย์ราวบทกวี ซึ่งสะท้อนถึงความรื่นเริงและสุขสันต์ สิ่งเหล่านี้คือแก่นแท้แห่งความสุขของฝูโจว ซึ่งถือกำเนิดขึ้นจากภูมิทัศน์ที่ตราตรึงใจ เจริญรุ่งเรืองด้วยชีวิตชีวาในทุกวัน และ ดำรงอยู่ด้วยพลวัตที่ไม่หยุดนิ่ง เมืองนี้เชื้อเชิญให้ผู้มาเยือนหยุดพักอยู่กับที่ และสร้างความประทับใจให้กลับมาเยือนอีกครั้ง

Fuzhou crowned one of China's "Happiest Cities" for 2025

Fuzhou has recently been honoured as one of China's "Most Happiest Cities", a title shared with ten other provincial capitals and cities specifically designated in the state plan, at the Happy Cities Forum 2025 held in Chengdu, Sichuan Province.



The "Most Happiest City" survey and selection campaign, together with the Happy Cities Forum, are organized by Xinhua News Agency's Oriental Outlook . Having been conducted for nineteen consecutive years, it remains one of China's most influential urban survey initiatives.


This year's campaign, themed "Practising the People-Centred City Concept to Create a Better and Happier Life", commenced in August, with 220 cities and urban districts nationwide nominated. Following a rigorous evaluation, the "2025 Most Happiest Cities" series lists were officially announced.


Fuzhou, known as the "Blessed State" and the "Cosy City of Banyan Trees", has diligently adhered to the core principle of the "3820" Strategic Initiative (an outline of Fuzhou's social and economic development goals in 3-year, 8-year and 20-year plans, compiled in 1992) in recent years, significantly accelerating its transformation into a modern international city. By 2024, its economic output had secured the eighth position among provincial capitals nationwide.


What is the secret to Fuzhou's happiness? The answer lies in it's tapestry of all-around efforts: its profound cultural heritage of Fujian culture, which nurtures a humanistic atmosphere of contentment; its stunning coastal landscapes that create picturesque scenes; its vibrant entrepreneurial soil that cultivates prosperous industries; its urban environment that consistently enhances public welfare for all ages; and its leisurely and poetic lifestyle that embodies joy and happiness. These depict the essence of Fuzhou's happiness - born of its unforgettable landscapes, flourishing through its daily vitality, and sustained by its dynamism. It is a city that invites visitors to linger and ensures they are eager to return.

Thursday, December 11, 2025

Shanghai launches fully online business registration service for Singaporean firms via interoperable digital identity service

 Shanghai Data Bureau

On November 25, at the main forum of the Global Data Ecosystem Conference 2025, the fully online business registration service which is based on the Shanghai-Singapore cross-border digital trust framework was officially launched. This service will help reduce the time and cost associated with mailing and processing paper-based notarised documents. Once fully implemented, Singaporean enterprises investing in and establishing businesses in Shanghai will benefit from faster, simpler and more secure cross-border service procedures, thereby promoting two-way investment flows between Shanghai and Singapore.

Previously, under the lead of the Shanghai Data Bureau, the Shanghai Electronic Certification Authority (SHECA) established a cross-border digital trust service platform and explored pathways for cross-border digital identity interoperability. The initiative aims to enhance the efficiency, security and reliability of cross-border identity and document authentication, break down barriers to cross-border trust, and foster international cooperation and exchange.

Since the beginning of this year, the Shanghai Data Bureau, together with the Shanghai Administration for Market Regulation, has collaborated with Singapore's Infocomm Media Development Authority and the Singapore Academy of Law to develop the first application scenario for digital identity interoperability. Through the launch of a pilot project based on Decentralized Identifiers (DID) and Verifiable Credentials (VC) techniques, the programme tested the process of Singaporean corporate investors registering foreign-invested enterprises in Shanghai via an entirely online process.

For the first time, the authorisation relationships of duly empowered signatories from Singaporean companies were clearly defined, effectively resolving the long-standing challenge of verifying the authenticity and validity of notarised documents. As a result, eligible Singaporean enterprises can now complete business registration in Shanghai without submitting paper-based notarised documents.

Going forward, Shanghai and Singapore will promote services that help Chinese enterprises "Go Global," applying the model in scenarios of business establishment in Singapore to provide Chinese companies with convenient online registration services when expanding in Singapore. At the same time, the two sides will gradually broaden areas of cooperation, advancing the adoption of cross-border digital identity and electronic document interoperability in more fields. Shanghai will also continue to enhance its cross-border digital identity interoperability platform, explore the development of a blockchain-based model, and extend its application to Belt and Road countries and neighbouring regions. This will strengthen the city's identity authentication capabilities in relation to overseas individuals and enterprises, while continuously improving Shanghai's overall digital identity service capacity.

Source: Shanghai Data Bureau

เซี่ยงไฮ้เปิดระบบจดทะเบียนธุรกิจออนไลน์เต็มรูปแบบให้บริษัทสิงคโปร์ ผ่านระบบยืนยันตัวตนดิจิทัลที่เชื่อมโยงกัน

สำนักบริหารข้อมูลเซี่ยงไฮ้

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในการประชุมระบบนิเวศข้อมูลโลก (Global Data Ecosystem Conference) ประจำปี 2568 ได้มีการเปิดตัวบริการจดทะเบียนธุรกิจออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบภายใต้กรอบความเชื่อมั่นดิจิทัลข้ามพรมแดนระหว่างเซี่ยงไฮ้กับสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ บริการใหม่นี้จะเข้ามาช่วยลดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย ที่แต่เดิมต้องใช้ในการจัดส่งและดำเนินการเอกสารกระดาษที่ต้องผ่านการรับรองโดยโนตารี เมื่อมีการนำไปใช้งานเต็มระบบแล้ว ผู้ประกอบการชาวสิงคโปร์ที่ประสงค์จะเข้ามาลงทุนและจัดตั้งกิจการในเซี่ยงไฮ้ จะได้รับความสะดวกจากขั้นตอนการบริการข้ามพรมแดนที่เร็วขึ้น เรียบง่ายขึ้น และมีความปลอดภัยสูงขึ้น ซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมการลงทุนแบบสองทางระหว่างเซี่ยงไฮ้กับสิงคโปร์

ก่อนหน้านี้ ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักบริหารข้อมูลเซี่ยงไฮ้ ทางหน่วยงานรับรองอิเล็กทรอนิกส์เซี่ยงไฮ้ (SHECA) ได้ริเริ่มจัดตั้งแพลตฟอร์มบริการความเชื่อมั่นดิจิทัลข้ามพรมแดน พร้อมทั้งสำรวจแนวทางการเชื่อมต่อการยืนยันตัวตนดิจิทัลระหว่างประเทศ โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือในการยืนยันตัวตนและตรวจสอบเอกสารข้ามพรมแดน เพื่อลดอุปสรรคด้านความเชื่อมั่น และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในระดับนานาชาติ

นับตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ ทางสำนักบริหารข้อมูลเซี่ยงไฮ้ร่วมกับสำนักงานกำกับดูแลตลาดเซี่ยงไฮ้ ได้ผนึกกำลังกับหน่วยงานพัฒนาสื่อสารสนเทศของสิงคโปร์ และสถาบันกฎหมายแห่งสิงคโปร์ เพื่อพัฒนารูปแบบการใช้บริการเชื่อมโยงการยืนยันตัวตนดิจิทัลเป็นครั้งแรก โดยเปิดตัวโครงการนำร่องที่ใช้เทคนิคระบุตัวตนแบบกระจายศูนย์ (DID) และเอกสารรับรอง (VC) เพื่อทดสอบกระบวนการทั้งหมดให้นักลงทุนองค์กรจากสิงคโปร์สามารถจดทะเบียนจัดตั้งวิสาหกิจลงทุนจากต่างประเทศในเซี่ยงไฮ้ผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างเบ็ดเสร็จ

ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการกำหนดความสัมพันธ์ในการมอบอำนาจของผู้ลงนามที่ได้รับสิทธิ์อย่างเป็นทางการจากบริษัทสิงคโปร์ได้อย่างชัดเจน ซึ่งได้เข้ามาแก้ไขปัญหาสำคัญที่มีมาอย่างยาวนานในการตรวจสอบความแท้จริงและความสมบูรณ์ของเอกสารที่ผ่านการรับรองโดยโนตารี ส่งผลให้วิสาหกิจสิงคโปร์ที่เข้าเกณฑ์ที่กำหนดนั้น สามารถดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในเซี่ยงไฮ้ได้ ไม่ต้องส่งมอบเอกสารกระดาษที่ผ่านการรับรองจากโนตารีอีกต่อไป

นับตั้งแต่นี้ เซี่ยงไฮ้และสิงคโปร์จะร่วมกันผลักดันบริการที่สนับสนุนให้วิสาหกิจจีน "ก้าวสู่สากล" (Go Global) โดยจะนำโมเดลความสำเร็จนี้ไปประยุกต์ใช้ในการจัดตั้งธุรกิจในสิงคโปร์ เพื่อมอบบริการจดทะเบียนออนไลน์ที่สะดวกรวดเร็วให้บริษัทจีนที่ต้องการขยายตลาดในสิงคโปร์ ขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายมีแผนจะขยายขอบเขตความร่วมมือไปยังด้านอื่น ๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อผลักดันการนำระบบยืนยันตัวตนดิจิทัลและเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนไปใช้ในวงกว้างมากขึ้น นอกจากนี้ เซี่ยงไฮ้ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมโยงการยืนยันตัวตนดิจิทัลข้ามพรมแดนอย่างต่อเนื่อง โดยจะสำรวจการสร้างโมเดลบนบล็อกเชน และขยายการใช้งานไปยังประเทศในโครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (Belt and Road) และกลุ่มประเทศใกล้เคียง ความเคลื่อนไหวนี้จะช่วยเสริมศักยภาพในการยืนยันตัวตนของเซี่ยงไฮ้สำหรับบุคคลและองค์กรจากต่างประเทศ พร้อมปรับปรุงขีดความสามารถโดยรวมของเซี่ยงไฮ้ในการให้บริการยืนยันตัวตนดิจิทัลให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: สำนักบริหารข้อมูลเซี่ยงไฮ้

Tuesday, December 9, 2025

อีซี่มันนี่ กรุ๊ป ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในภาคใต้ มอบถุงยังชีพกว่า 3,000 ชุด พร้อมมาตรการช่วยเหลือพิเศษ


จากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในหลายจังหวัดของภาคใต้ โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ทำให้ประชาชนต้องเผชิญกับความยากลำบากในการดำรงชีวิต ขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น  อีซี่มันนี่ กรุ๊ป จึงได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วนภายใต้โครงการ “Easy Money ปันน้ำใจสู้ภัยน้ำท่วม” เพราะทุกการช่วยเหลือ มีความหมาย

หลังจากการประเมินผลกระทบ ทางอีซี่มันนี่ได้จัดทำแผนการช่วยเหลือที่รวดเร็วและครอบคลุม โดยระดมพนักงานและผู้บริหารร่วมแรงร่วมใจจัดเตรียมถุงยังชีพกว่า 3,000 ชุด บรรจุด้วยสิ่งของจำเป็นที่ผู้ประสบภัยต้องการอย่างเร่งด่วน อาทิ น้ำดื่ม อาหารแห้ง ยา และเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ

ทีมงานอีซี่มันนี่ได้ลงพื้นที่แจกจ่ายความช่วยเหลือในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 บริเวณด้านหน้าโรงรับจำนำอีซี่มันนี่ สาขาหาดใหญ่ 1 และสาขาหาดใหญ่ 2 โดยมีประชาชนจำนวนมากเดินทางเข้ารับสิ่งของตลอดทั้งวัน สะท้อนให้เห็นถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ต่อมาในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ผู้บริหารและพนักงานได้ลงพื้นที่ ณ วัดมหัตตมังคลาราม (วัดหาดใหญ่ใน) เพื่อมอบถุงยังชีพและให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัย พร้อมส่งมอบความช่วยเหลือที่จำเป็น

นอกจากการช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยตรงแล้ว อีซี่มันนี่ยังได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือพิเศษสำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% (สำหรับบริการจำนำใหม่) ในระหว่างวันที่ 3 ธันวาคม 2568 – 31 มกราคม 2569 ณ สาขาหาดใหญ่ที่เปิดให้บริการ

อีซี่มันนี่ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาความลำบากของทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ และยังคงยืนเคียงข้างพี่น้องชาวหาดใหญ่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ พร้อมส่งกำลังใจให้ทุกคนปลอดภัยและกลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ในฐานะผู้ให้บริการทางการเงินที่มุ่งมั่นดูแลและให้ความช่วยเหลือชุมชนอย่างต่อเนื่อง

เกี่ยวกับอีซี่มันนี่

อีซี่มันนี่ เป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อทางเลือกของไทย ปัจจุบันมี 98 สาขาทั่วประเทศ ให้บริการสินเชื่อที่มีหลักประกัน (Asset-backed Financing) ครอบคลุมทองคำ เครื่องประดับ และทรัพย์สินมีค่าอื่น ๆ อีซี่มันนี่มุ่งมั่นที่จะเป็น “โซลูชันทางการเงินที่ชาญฉลาดและเข้าถึงได้” โปร่งใส ยุติธรรม และทันสมัย เพื่อช่วยให้คนไทยทุกกลุ่มสามารถเปลี่ยนสินทรัพย์ให้เป็นโอกาสทางการเงินได้อย่างมั่นใจ