Tuesday, February 28, 2017

ZTE แสดงศักยภาพโซลูชั่น Pre5G FDD Massive MIMO ด้วยการส่งถ่ายข้อมูลในอัตราความเร็วสูงสุด 2.6Gbps


          ZTE Corporation ( 0763.HK / 000063.SZ ) ผู้ให้บริการรายใหญ่ในด้านโซลูชั่นโทรคมนาคม เทคโนโลยีระดับองค์กรและผู้บริโภคสำหรับอินเทอร์เน็ตมือถือ ประกาศว่า โซลูชั่น Massive MIMO สำหรับย่านความถี่ Pre5G FDD ของบริษัท ได้รับการพิสูจน์ศักยภาพในการทำงานกับอุปกรณ์ปลายทางที่เชื่อมต่อกัน 8 เครื่องบนเครือข่าย 4G ด้วยอัตราความเร็วในการส่งถ่ายข้อมูลสูงสุดถึง 2.6Gbps ในหนึ่งเซลล์ ซึ่งมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 8 เท่า

          ZTE ได้เปิดตัวโซลูชั่น Massive MIMO ที่ทำงานบนเครือข่าย FDD-LTE เป็นครั้งแรกในโลกเมื่อเดือนธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา หลังจากที่ได้ดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องในการทดสอบภาคสนามก่อนให้บริการเชิงพาณิชย์ร่วมกับผู้ให้บริการอย่าง China Unicom และ China Telecom ทั้งนี้ จากการที่เทคโนโลยี Massive MIMO สำหรับย่านความถี่ TDD ซึ่งมีการใช้งานอย่างแพร่หลายนั้น พบว่ามีการสะสมของข้อมูลการรับส่งในปริมาณมาก ดังนั้น  ZTE จึงได้นำเสนออัลกอริทึมสำหรับตรวจวัดและประมาณค่าช่องสัญญาณ FDD Massive MIMO เพื่อช่วยให้เครือข่าย FDD สามารถแลกเปลี่ยนช่องสัญญาณได้ (channel reciprocity) พร้อมทั้งยกระดับประสิทธิภาพของสเปกตรัม โดยไม่ต้องเปลี่ยนเทอร์มินัล 4G แต่อย่างใด นอกจากนี้ ชิปประมวลผลแบบเวคเตอร์ของ ZTE อย่าง MCS2.0 ยังมาพร้อมกับศักยภาพอันแข็งแกร่งในการคำนวณและประมวลผลสัญญาณด้วย เพื่อเติมเต็มอัลกอริทึมของ FDD Massive MIMO ที่มีความซับซ้อน

          จาง เจี้ยนกั๋ว รองประธานอาวุโสของ ZTE กล่าวว่า "Massive MIMO เป็นเทคโนโลยีระดับแนวหน้าในบริการ Pre5G ของ ZTE หลังจากที่เราได้นำร่องเปิดตัวและให้บริการ TDD Massive MIMO ในเชิงพาณิชย์ เราก็ได้เดินหน้าพัฒนาต่อเพื่อขับเคลื่อนเทคโนโลยี Massive MIMO ให้ครอบคลุมเครือข่าย FDD-LTE ซึ่งเป็นเทคโนโลยี 4G ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก เราได้นำเสนอเทคโนโลยี 5G ให้กับเครือข่าย 4G เพื่อก้าวเข้าสู่ยุค 5G ได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งหาก FDD Massive MIMO สามารถเติบโตในเชิงพาณิชย์ได้เป็นอย่างดี ก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เรามีศักยภาพในการส่งมอบโซลูชั่น Pre5G ที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงสุด และยังสามารถมอบประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้าของเราอีกด้วย"

          จากการเปิดตัวเทคโนโลยีระดับแกนกลางในขอบข่าย Pre5G อย่าง Massive MIMO ให้ครอบคลุมในย่านความถี่ FDD นั้น ในอนาคตข้างหน้า บริษัทจะเปิดให้บริการ Pre5G เชิงพาณิชย์ให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น โดยเมื่อปลายปี 2559 ที่ผ่านมา ได้มีการใช้งานเครือข่าย Pre5G ของ ZTE กว่า 40 จุดแล้วใน 30 ประเทศทั่วโลก และในปี 2560 ทาง ZTE จะอาศัยข้อได้เปรียบของ Massive MIMO เพื่อเร่งเปิดให้บริการ FDD Massive MIMO ในเชิงพาณิชย์ เพื่อตอบสนองความต้องการในด้านประสิทธิภาพของสเปกตรัมที่เหนือกว่า พร้อมกรุยทางสำหรับผู้ให้บริการ 4G ทั่วโลกในการก้าวเข้าสู่ยุค 5G อย่างสมบูรณ์

No comments:

Post a Comment