Friday, March 30, 2018

Professional Fighters League ประกาศจับมือ มาร์ค เบอร์เน็ตต์ และ MGM Television




         - PFL แต่งตั้ง มาร์ค เบอร์เน็ตต์ นั่งเก้าอี้ทีมที่ปรึกษา

          The Professional Fighters League (PFL) การแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานรายการสำคัญหนึ่งเดียวของโลก ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรกับ มาร์ค เบอร์เน็ตต์ ประธานของ MGM Television Group & Digital และ MGM Television เพื่อพัฒนาและผลิตรายการ รวมทั้งคอนเทนต์ใหม่ๆสำหรับฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงนี้ โดย MGM และเบอร์เน็ตต์ (ผู้ผลิตรายการ Survivor, The Voice, Shark Tank, The Contender) จะร่วมงานกันในฐานะนักลงทุน  PFL และเบอร์เน็ตต์ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทีมที่ปรึกษาของ PFL ทั้งนี้ การแข่งขัน PFL ฤดูกาล 2018 จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ และจะถ่ายทอดสดการแข่งขันรายการสำคัญ 11 รายการบน NBC Sports Network และ Facebook Watch

          Professional Fighters League เป็นองค์กรแรกที่เสนอให้ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) เป็นกีฬาอย่างแท้จริงโดยที่นักสู้แต่ละคนจะมาร่วมแข่งขันในฤดูกาลปกติ, รายการเฟ้นหาผู้ชนะเข้าสู่การแข่งขันในรอบเพลย์ออฟ และรอบชิงชนะเลิศจบฤดูกาล ด้วยความร่วมมือครั้งใหม่กับ MGM Television นี้ PFL จะเผยแพร่รายการที่ไม่มีการจัดเตรียมบทล่วงหน้าและคอนเทนต์สั้นๆ บนแพลตฟอร์มต่างๆของบริษัทที่ถูกออกแบบมา เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมกับแฟนๆของ MMA กว่า 300 ล้านคนทั่วโลกให้ได้มากที่สุด รายการซีรีย์ที่ไม่มีการเตรียมบทพูดล่วงหน้านี้จะเปิดโอกาสให้แฟนๆ MMA เข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันของเหล่านักสู้ทั้งหลาย ควบด้วยการแข่งขันแบบคู่ขนานซึ่งผู้ชนะจะได้เข้าร่วมในการแข่งขันรอบเพลย์ออฟ

          ปีเตอร์ เมอร์เรย์ ซีอีโอของ Professional Fighters League กล่าวว่า "เราตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับ MGM Television และมาร์ค เบอร์เน็ตต์ วิสัยทัศน์ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ไม่เหมือนใครของเบอร์เน็ตต์นี้นับเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมที่เราจะมอบให้กับกับแฟนๆ MMA ในฤดูกาลนี้"

          เมื่อต้นปีที่ผ่านมา PFL ได้ประกาศ ลงนามในข้อตกลงเผยแพร่บนหลากแพลตฟอร์มสำหรับการแข่งขันประจำฤดูกาล 2018 ร่วมกับ NBC Sports Group และ Facebook โดย NBC Sports Group ได้รับสัมปทานในการถ่ายทอดสดการแข่งขันในช่วงคืนวันพฤหัสบดีแต่เพียงผู้เดียว และจะแพร่ภาพช่วงเวลาสำคัญๆของการแข่งขัน 7 รายการในฤดูกาลปกติทางช่อง NBCSN ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.จนกระทั่งสิ้นสุดฤดูกาลในเดือนส.ค.

          เบอร์เน็ตต์กล่าวว่า "ม่ใช่ความลับที่ MMA มีคนดูเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและ PFL ก็เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั่วโลก ในฐานะที่เป็นผู้คลั่งไคล้นวัตกรรมใหม่ๆในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ ผมประทับใจกับการเติบโตและวิสัยทัศน์ของ PFL เป็นอย่างมาก และนี่ก็เป็นเวลาที่การแข่งรายการนี้ได้วนกลับมาอีกครั้ง พร้อมๆกับที่พวกเขากำลังยกระดับการแข่งขันในแนวทางใหม่ๆ ซึ่งผมเองก็กำลังรอคอยที่จะได้เป็นส่วนหนึ่ง"

          นอกเหนือไปจากการถ่ายทอดสดแล้ว ข้อตกลงในการพัฒนาประกอบด้วยรายการ "What Do you Fight For?" ของ PFL ซึ่งเป็นการถ่ายทอดเนื้อหาผ่านทางดิจิทัลและโซเชียลมีเดียแบบสั้น ๆ เกี่ยวกับชีวิตประจำวันและเรื่องราวชีวิตเบื้องหลังของนักกีฬา เพื่อที่จะสร้างสังคมออนไลน์ให้กับเหล่าแฟน ๆ PFL อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแฟน ๆ นักกีฬา และทีมงานผู้ถ่ายทอดผลงานของ PFL ผู้ชมสามารถกดติดตามนักกีฬาของ PFL ผ่านรายการคอนเทนต์สั้น ๆ  เช่น "10 อันดับแรกประจำสัปดาห์ เส้นทางสู่รอบสุดท้าย 24:7 ชีวิตนักสู้ และ เรื่องราวในยิม"

          "PFL รู้สึกยินดีที่ได้เป็นพันธมิตรกับมาร์ค เบอร์เน็ตต์ ผู้เป็นไอคอนและนักนวัตกรรมที่คิดค้นและสร้างความสมบูรณ์แบบให้กับรายการโทรทัศน์ที่ไร้สคริปต์" ดอนน์ เดวิส (Donn Davis)1 ประธานdii,dkiบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง PFL กล่าว "PFL ได้ปรับรูปลักษณ์ของ MMA โดยการเริ่มต้นฤดูแข่งขันใหม่ประจำปี 2561 ในวันที่ 4 มิ.ย. นี้ จะมอบความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ เหมือนเช่นเคย และจะสร้างความรู้สึก "เอ๊ะ เราไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน" ทิ้งไว้ให้แฟน ๆ เหมือนกับช่วงที่รายการ Survivor เพิ่งเปิดตัวใหม่ ๆ และนำวงการโทรทัศน์เข้าสู่ยุคใหม่"

Professional Fighters League Announces Deal With Mark Burnett And MGM Television





          - PFL Appoints Mark Burnett to Advisory Board

          The Professional Fighters League (PFL), the world's only major mixed martial arts league, announced today that they are partnering with Mark Burnett, President of MGM Television Group & Digital and MGM Television to develop and produce new content and programming for PFL's upcoming season. MGM and Burnett (Survivor, The Voice, Shark Tank, The Contender) will both join as PFL investors and Burnett has personally been added to the advisory board. The PFL 2018 league season debuts June 7 and consists of 11 events live on NBC Sports Network and Facebook Watch.

          The Professional Fighters League is the first organization ever to present MMA as a true sport with individual fighters competing in regular season, "win-and-advance" playoffs, and season-ending championship. The new partnership with MGM Television will bring unscripted programming and short-form content to PFL's multi-platform distribution designed to maximize engagement with MMA's 300 million fans worldwide. The initial unscripted series will engage fans in the day-to-day life of the fighters and feature a parallel tournament whose champion will win a spot in the PFL league playoffs.

          "We are thrilled to partner with MGM Television and Mark Burnett," said Peter Murray, Chief Executive Officer, Professional Fighters League. "Mark's creative vision for delivering innovative live content is among the absolute best the industry has to offer - and that is exactly what we will bring MMA fans this season."

          Earlier this year,  PFL announced exclusive multi-platform distribution agreements for the 2018 season with NBC Sports Group and Facebook. NBC Sports Group will establish an exclusive live Thursday night PFL fight franchise, presenting seven regular-season live events in prime time exclusively on NBCSN beginning June 7 through the end of August.

          "It's no secret that MMA's audience is rapidly growing and PFL has an enormous global presence. As an enthusiast for innovation within the television industry, I'm passionate about the growth and vision of PFL and it's time this sport revolves around a league format," said Burnett. "They're elevating the sport in an entirely new way and I'm looking forward to being part of it."

          In addition to the live events, the development deal will feature PFL's "What Do you Fight For?" programming that brings viewers short-form digital & social content that will showcase the day-to-day lives and back stories of the fighters, designed to help build online communities of PFL's fan base and engage fans, fighters, and PFL's on-air talent. Viewers can follow PFL athletes through an array of short-form original content, such as the "Top 10 of The Week, Path to the Finals, 24:7: Life of a Fighter, and "Inside the Gym" Cam.

          "PFL is thrilled to partner with Mark Burnett the innovator and icon who invented and perfected unscripted TV," said Donn Davis, Co-Founder and Chairman of the Board of the PFL. "The PFL is re-imagining MMA and the start of the 2018 Season June 7 will bring fans the same excitement and 'hey, I have never seen that' reaction they felt when Survivor debuted and ushered in the new age of television."





GAC Motor สร้างความประทับใจในมหกรรม NADA พร้อมดึงดูดความสนใจอย่างท่วมท้นจากดีลเลอร์ในอเมริกาเหนือ


คำบรรยายภาพ - คุณยวี่ จวิน ประธาน GAC Motor, คุณมาร์ค สการ์เปลลี ประธานกรรมการ NADA, คุณเวส ลุตซ์ รองประธานกรรมการ NADA, คุณปีเตอร์ เวลช์ ประธานและซีอีโอ NADA, คุณจู จินไห่ รองประธาน GAC Motor


          GAC Motor ผู้ผลิตยานยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในจีน ได้สร้างความประทับใจให้กับดีลเลอร์ในอเมริกาเหนือระหว่างการเปิดตัวครั้งแรกในมหกรรม National Automobile Dealers Association Show (NADA) ด้วยการอวดโฉมยานยนต์ขายดีหลายรุ่น นอกจากนั้นยังจัดการประชุมสำหรับดีลเลอร์โดยเฉพาะ เพื่อดึงดูดความสนใจในขณะที่บริษัทกำลังสร้างเครือข่ายดีลเลอร์ในอเมริกาเหนือ

คำบรรยายภาพ - คุณยวี่ จวิน ประธาน GAC Motor ในมหกรรม NADA 2018


          คุณยวี่ จวิน ประธาน GAC Motor กล่าวว่า "การเข้าร่วมมหกรรม NADA ประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมายของเรามาก มีดีลเลอร์หลายร้อยรายที่สนใจร่วมมือกับเราเมื่อเรารุกเข้าสู่ตลาดอเมริกาอย่างเป็นทางการในไตรมาส 4 ปี 2019 เราประสบความสำเร็จอย่างมากตลอดการจัดงาน 3 วัน ต้องขอขอบคุณผู้จัดงานเป็นอย่างสูง เรารู้สึกซาบซึ้งใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานนี้"

          NADA เป็นมหกรรมยานยนต์ระดับพรีเมียมสำหรับผู้ผลิตยานยนต์และดีลเลอร์นานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1917 ส่วนบริษัท GAC Motor ในเครือ GAC Group เป็นผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติจีนรายแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้เข้าร่วมมหกรรมนี้

คำบรรยายภาพ - การประชุมดีลเลอร์ซึ่งจัดโดย GAC Motor ระหว่างมหกรรม NADA

          ภายในงานนี้ GAC Motor ได้จัดแสดงยานยนต์หลายรุ่น ได้แก่ รถเอสยูวีรุ่นเรือธง GS8, รถคอมแพคเอสยูวียอดนิยม GS4, รถซีดานรุ่นใหม่ GA4 และรถมินิแวนระดับไฮเอนด์ GM8 ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากสาธารณชน ยานยนต์คุณภาพสูงเหล่านี้สะท้อนถึงความสำเร็จล่าสุดในการค้นคว้าวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยีสุดล้ำของบริษัท

          นอกจากนี้ แขกผู้มีเกียรติกว่า 150 ท่าน ซึ่งรวมถึงดีลเลอร์ นักลงทุน ตลอดจนผู้นำคนสำคัญจากสมาคมยานยนต์และมหกรรมยานยนต์อื่นๆในหลายรัฐของอเมริกาและแคนาดา ยังเข้าร่วมการประชุมดีลเลอร์ของ GAC Motor ในมหกรรมครั้งนี้ด้วย มีการคาดการณ์ว่า GAC Motor จะเป็นแบรนด์รถยนต์หน้าใหม่รายแรกในรอบ 20 ปีที่รุกเข้าสู่ตลาดอเมริกา ดีลเลอร์หลายรายยินดีที่จะมีแบรนด์ใหม่เข้ามาในตลาดอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในประเทศของตนเอง นอกจากนั้นยังกล่าวชื่นชมยานยนต์ของ GAC Motor และอวยพรให้บริษัทประสบความสำเร็จในการดำเนินแผนการพัฒนาธุรกิจ

          GAC Motor จะออกแบบรถรุ่นพิเศษสำหรับตลาดอเมริกาโดยเฉพาะ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศ นอกจากนี้ บริษัทได้ตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาขึ้นที่ซิลิคอนแวลลีย์ และจะเปิดศูนย์อีกสองแห่งในดีทรอยท์และลอสแองเจลิสภายในปีนี้ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีสุดล้ำโดยเฉพาะ

          นอกเหนือจากตลาดอเมริกาเหนือแล้ว GAC Motor ยังทำผลงานได้ดีในหลายประเทศตามแนวเส้นทางสายไหม ปัจจุบันบริษัทมีรากฐานทางธุรกิจที่มั่นคงใน 14 ประเทศทั่วโลก

          GAC Motor มุ่งมั่นในการเจาะตลาดยานยนต์ระดับกลางและระดับไฮเอนด์ รวมถึงดำเนินกลยุทธ์การวิจัยและพัฒนาโดยมีผู้ใช้รถเป็นศูนย์กลาง โดยบริษัทกำลังวางระบบการผลิตรถยนต์ระดับเวิลด์คลาสที่ผสานเครือข่ายการวิจัยและพัฒนา ศักยภาพด้านการผลิต และซัพพลายเชนอันครอบคลุมเข้าด้วยกัน เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของผู้บริโภคด้วยเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และบริการที่ทันสมัย

          คุณยวี่ จวิน กล่าวว่า "GAC Motor มุ่งมั่นในการบรรลุผลสำเร็จร่วมกับทีมงาน ลูกค้า รวมถึงชุมชนที่เราอาศัยและดำเนินงานอยู่ เราเคารพในวัฒนธรรมที่แตกต่างของตลาดต่างๆทั่วโลก GAC Motor เป็นแบรนด์น้องใหม่ที่พร้อมเรียนรู้และพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เราให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือกับดีลเลอร์ในระยะยาว และเราให้ความสำคัญกับการบรรลุผลสำเร็จร่วมกับลูกค้าและพันธมิตรในตลาดที่เราเข้าไปดำเนินงาน"




         


         


         

แอร์ ไชน่า ประกาศผลการดำเนินงานปี 2560

          - ปรับปรุงความสามารถในการแข่งขันหลัก และทำกำไรได้อย่างโดดเด่น

          บริษัท แอร์ ไชน่า จำกัด ("แอร์ ไชน่า" หรือ "บริษัทฯ" และบริษัทย่อย รวมเรียกว่า "กลุ่มบริษัท") (HKEX: 00753; LSE: AIRC; SSE: 601111: ADR OTC: AIRYY) ประกาศผลการดำเนินงานทั้งปี สำหรับงวด 12 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ("งวดปี")
          ข้อมูลสำคัญทางธุรกิจ

          -รายได้เพิ่มขึ้น 7.71% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 1.24026 แสนล้านหยวน

          - รายจ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 15.02% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 1.12270 แสนล้านหยวน

          - กำไรก่อนภาษีเพิ่มขึ้น 12.47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่ระดับ 1.1486 หมื่นล้านหยวน

          - กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 11.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 8.631 พันล้านหยวน

          ในปี 2560 ตลาดการบินโดยสารของจีนยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน ขณะที่อุปสงค์การเดินทางขาออกยังคงปรับตัวขึ้น การขนส่งระหว่างประเทศขยายตัวต่อเนื่อง และธุรกิจขนส่งสินค้าแสดงสัญญาณของการฟื้น ทั้งนี้ ประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีการบริหารจัดการปริมาณการขนส่งให้เหมาะสมกับขีดความสามารถในการรองรับ กลุ่มบริษัทใช้ประโยชน์จากโอกาสที่มีอยู่อย่างมากมายในตลาด ด้วยการขยายขนาดธุรกิจอย่างรอบคอบ ปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างเหมาะสม รักษาระดับรายได้ให้มีเสถียรภาพ และเสริมสร้างการบริหารจัดการต้นทุน เพื่อสนับสนุนความได้เปรียบด้านการแข่งขันในธุรกิจหลัก โดยถึงแม้มีปัจจัยที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น ราคาน้ำมันเชื่อเพลิงเครื่องบินที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ทางกลุ่มบริษัทก็ยังคงสามารถทำผลประกอบการได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงปีที่ผ่านมา

          ข้อมูลการเงินที่สำคัญ

          กลุ่มบริษัทมีรายได้ 1.24026 แสนล้านหยวนในปี 2560 เพิ่มขึ้น 7.71% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รายได้จากการขนส่งทางอากาศเพิ่มขึ้น 7.53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สู่ระดับ 1.15380 แสนล้านหยวน รายได้จากการโดยสารทางอากาศเพิ่มขึ้น 6.19% ขณะที่รายได้จากการขนส่งสินค้าทางอากาศเพิ่มขึ้น 23.48% และรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 8.646 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 10.19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

          รายจ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 15.02% แตะ 1.12270 แสนล้านหยวน ต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 6.427 พันล้านหยวน หรือ 29.24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า กลุ่มบริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.938 พันล้านหยวน

          ในปี 2560 กำไรก่อนภาษีอยู่ที่ 1.1486 หมื่นล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้น 12.47% จากปีก่อนหน้า กำไรสุทธิอยู่ที่ 8.641 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 11.38% จากปีก่อนหน้า กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียน อยู่ที่ 7.244 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 6.39% จากปีก่อนหน้า

          ตามแผนการจัดสรรกำไรปี 2560 ของบริษัท ทางคณะกรรมการได้เสนอแนะให้มีการจัดสรรกำไรหลังหักภาษี 10% เป็นเงินสำรองส่วนเกินตามกฎหมาย และ 10% เป็นเงินสำรองส่วนเกินตามดุลยพินิจ และจ่ายเงินสดปันผล 1.1497 หยวน (รวมภาษี) ต่อทุก ๆ 10 หุ้นสำหรับปี 2560 แผนจ่ายเงินปันผลสุทธิที่เกี่ยวข้องจะถูกส่งให้กับที่ประชุมสามัญประจำปี 2560 ของบริษัทพิจารณาต่อไป

          การทบทวนธุรกิจ

          ในงวดปีที่ผ่านมา ระวางบรรทุกของเครื่องบินโดยคำนวณจากปริมาณการขนส่งรวม คิดเป็นตันต่อกิโลเมตร (ATK) อยู่ที่ 3.5673 หมื่นล้าน ซึ่งเพิ่มขึ้น 5.61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่ปริมาณการขนส่งรวม คิดเป็นตันต่อกิโลเมตร (RTK) อยู่ที่ 2.5385 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 7.12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

          ผู้โดยสาร

          ในช่วงเวลาดังกล่าว กลุ่มบริษัทได้ขนส่งผู้โดยสารรวมกันทั้งสิ้น 102 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 5.15% ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร ซึ่งคิดเป็นที่นั่งต่อกิโลเมตร (ASK) เพิ่มขึ้น 6.26% สู่ระดับ 2.47815 แสนล้าน ขณะที่ปริมาณการขนส่งผู้โดยสารบนเส้นทางบินในประเทศและระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 5.88% และ 7.80% ตามลำดับ ส่วนปริมาณการขนส่งผู้โดยสารระหว่างภูมิภาคลดลง 1.99% สำหรับปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร ซึ่งวัดจากปริมาณการขนผู้โดยสารโดยรวม (RPK) เพิ่มขิ้น 6.87% สู่ระดับ 2.10078 แสนล้าน นอกจากนี้ ความถี่ของเที่ยวบินในประเทศ ระหว่างประเทศ และภูมิภาค เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 6.16%, 8.55% และ 2.79% ตามลำดับ ขณะที่อัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 0.46% เป็น 81.14% ทั้งนี้ ในปี 2560 ทางกลุ่มบริษัทได้เปิดตัวเครื่องบินใหม่จำนวน 56 ลำ และปลดระวางเครื่องบินเก่าไป 11 ลำ ส่งผลให้มีเครื่องบินให้บริการอยู่ทั้งสิ้น 655 ลำ โดยเครื่องบินเหล่านั้นมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 6.53 ปี

          เดินหน้าขยายเครือข่ายเส้นทางบิน และยกระดับการก่อสร้างสนามบินศูนย์กลาง

          สืบเนื่องจากยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ของรัฐบาล ซึ่งรวมถึง Belt and Road Initiative และโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ย กลุ่มบริษัทจึงได้เปิดตัวเส้นทางบินในประเทศ 49 เส้นทาง อาทิ ปักกิ่ง-เหมาไถ่ และเส้นทางบินระหว่างประเทศและภูมิภาคอีก 12 เส้นทางซึ่งรวมถึง ปักกิ่ง-อัสตานา ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2560 นอกจากนี้ ทางกลุ่มบริษัทยังได้พยายามเร่งการเชื่อมโยงโครงข่ายเส้นทางบินให้ครอบคลุม 6 ทวีปทั่วโลกผ่านเมืองหลักอย่างปักกิ่ง เฉิงตู เซี่ยงไฮ้ และเซินเจิ้น ในขณะเดียวกันก็เดินหน้าพัฒนาประสิทธิภาพของโครงสร้างเครือข่ายเที่ยวบินอย่างต่อเนื่อง และมีเที่ยวบินที่เชื่อมโยงระหว่างต้นทางจนถึงปลายทาง (O&D) อยู่ถึง 5,918 เที่ยวบิน เนื่องจากคุณภาพและปริมาณการขนส่งผู้โดยสารเปลี่ยนเครื่องที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้จากการให้บริการเชื่อมต่อระหว่างสายการบินอยู่ที่ 5.51 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 15.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีบริการเช็คทรูกระเป๋าในทุกเที่ยวบินจากยุโรป อเมริกาเหนือ และออสเตรเลีย ที่เปลี่ยนเครื่องไปเป็นเที่ยวบินในประเทศผ่านสนามบินปักกิ่ง นอกจากนี้ ฐานการบินของกลุ่มบริษัทยังมีความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งมากขึ้นด้วย โดยข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 พบว่า บริษัทให้บริการเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารถึง 420 เส้นทาง โดยแบ่งเป็นเส้นทางบินในแผ่นดินใหญ่ 303 เส้นทาง เส้นทางบินระหว่างประเทศ 101 เส้นทาง และเส้นทางบินระหว่างภูมิภาค 16 เส้นทาง ที่บินไปยัง 40 ประเทศและภูมิภาค และ 185 เมื่อง แบ่งออกเป็น 116 เมืองในแผ่นดินใหญ่ 66 เมืองในต่างประเทศ และ 3 เมืองภูมิภาค

          ปรับปรุงความสามารถทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง และเร่งการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจ

          ในปี 2560 กลุ่มบริษัทได้ปรับปรุงความสามารถด้านการตลาด พร้อมเร่งการเปลี่ยนแปลงรูปแบบรูปแบบธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นสุดงวดปี พบว่า สมาชิกสะสมไมล์มีจำนวนมากกว่า 50 ล้านคน ซึ่งสร้างรายได้คิดเป็น 43.7% ของรายได้ทั้งหมดของกลุ่มบริษัท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 3.8% ทั้งนี้ ความทุ่มเทพยายามในการปรับปรุงแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันมือถืออย่างต่อเนื่อง ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นแตะ 5.02 พันล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 39.4% นอกจากนี้ การศึกษาเชิงลึกกี่ยวกับความต้องการของผู้โดยสาร ซึ่งจัดทำโดยกลุ่มบริษัท ยังช่วยให้แอร์ ไชน่า มีรายได้จากให้บริการชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.311 หมื่นล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 12.7% โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นนี้มาจากบริการเสริมต่าง ๆ อาทิ ค่าบริการเลือกที่นั่ง การซื้อน้ำหนักกระเป๋าเดินทางล่วงหน้า และการอัพเกรดเพื่อขึ้นเครื่องก่อน ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 32% เมื่อเทียบเป็นรายปี

          ส่งเสริมกลยุทธ์แบรนด์คุณภาพสูง และปรับปรุงคุณภาพบริการ

          กลุ่มบริษัทมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับแนวคิด "อินเทอร์เน็ตกับการขนส่งที่สะดวกสบาย" ผ่านการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ การเช็คอินด้วยตัวเอง การรับรองตั๋วโดยสารด้วยตัวเอง การพิมพ์ใบจองตั๋วและการเช็คอินกระเป๋าเดินทางด้วยตัวเองในทุกเส้นทางการบิน รวมไปถึงสร้างโหมดบริการเดินทางที่สะดวกตลอดขั้นตอน นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังคงเดินหน้าปรับปรุงบริการฮาร์ดแวร์อย่างต่อเนื่อง เช่น รหัสดำเนินการเพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการ โดยแอร์ ไชน่า พยายามที่จะส่งเสริมการประยุกต์ใช้บิ๊กดาต้า และสร้าง "ห้องโดยสารเคลื่อนที่" ขึ้นเพื่อต้องการทราบถึงการส่งข้อมูลการดำเนินงานอย่างทันท่วงที รวมทั้งเชื่อมโยงห่วงโซ่ของข้อมูลการบริการทั้งหมดเข้าด้วยกัน โดยในฐานะพันธมิตรอย่างเป็นทางการในการขนส่งผู้โดยสารทางอากาศสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวและพาราลิมปิกฤดูหนาว ปักกิ่ง ในปี 2565 และมหกรรมพืชสวนโลกปี 2562 ในกรุงปักกิ่ง กลุ่มบริษัทได้ใช้โอกาสนี้ในการประชาสัมพันธ์แบรนด์ในรูปแบบใหม่ และสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยการชูความเป็น "ผู้นำของอุตสาหกรรมการบินพลเรือนในประเทศจีน" และให้บริการ "ครอบคลุมเครือข่ายระหว่างประเทศ"

          เพิ่มการควบคุมค่าใช้จ่าย และรักษาความได้เปรียบด้านต้นทุน

          กลุ่มบริษัททุ่มเทพลังอย่างมากในการปรับปรุงและยกระดับการจัดการ รวมถึงปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของบริการ โดยแอร์ ไชน่า มุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการบริการของเครื่องบินโดยสารลำตัวกว้าง เพื่อปรับปรุงระบบการจัดการต้นทุน เสริมสร้างกระบวนการบริหารจัดการต้นทุนและพัฒนาประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันกลุ่มบริษัทได้ดำเนินนโยบาย "Lower Leverage, Reduce Liability and Control Risk" เป็นผลให้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของกลุ่มบริษัทลดลง 6.15% มาอยู่ที่ 59.75% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำในอุตสาหกรรม กลุ่มบริษัทยังได้มีการประชาสัมพันธ์โครงการพิเศษ เช่น "เพิ่มยอดขายทางตรงและลดต้นทุนการจัดจำหน่าย" รวมถึง "ลดลูกหนี้การค้าและสินค้าคงคลัง" และ "ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการ" นับตั้งแต่ปี 2557 อัตราส่วนร้อยละของการขายตรงเที่ยวบินโดยสารของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้น 26% สู่ระดับ 50.9% และอัตราส่วนร้อยละของค่านายหน้าตัวแทนท่องเที่ยวต่อรายได้ด้านการตลาดลดลง 4.2% มาอยู่ที่ 1.5% ดังนั้น ความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนของแอร์ ไชน่า จึงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

          ธุรกิจขนส่งสินค้า

          ในปี 2560 ธุรกิจแอร์ ไชน่า คาร์โก้ มีผลประกอบการที่ดี เป็นผลจากโมเดลธุรกิจใหม่ การเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดการเส้นทางและโครงสร้างของแหล่งขนส่งสินค้า ตลอดจนมุ่งเน้นการพัฒนาและเพิ่มบริการเสริมที่มีมูลค่าสูง เช่น โลจิสติกส์ห้องเย็น

          โดยในช่วงเวลาดังกล่าว แอร์ ไชน่า คาร์โก้ มีพื้นที่ระวางบรรทุกของเครื่องบินขนส่งสินค้าคิดเป็นตันต่อกิโลเมตร (AFTK) เพิ่มขึ้น 4.57% จากปีก่อนหน้า สู่ระดับ 1.3319 หมื่นล้าน ขณะที่ปริมาณการขนส่งพัสดุภัณฑ์คิดเป็นตันต่อกิโลเมตร (RFTK) เพิ่มขึ้น 7.97% จากปีก่อน อยู่ที่ 7.553 พันล้าน ส่วนอัตราการบรรทุกสินค้าและพัสดุภัณฑ์เพิ่มขึ้น 1.78% เป็น 56.70%

          เกี่ยวกับ แอร์ ไชน่า

          บริษัท แอร์ ไชน่า จำกัด เป็นผู้ประกอบการสายการบินแห่งชาติของจีน และเป็นผู้ให้บริการเที่ยวบินโดยสาร การขนส่งสินค้าทางอากาศ รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสายการบินในประเทศจีน โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ในปักกิ่ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการบินภายในประเทศและระหว่างประเทศที่สำคัญของจีน สำหรับบริการที่เกี่ยวข้องกับสายการบินนั้นรวมถึงการซ่อมบำรุงเครื่องบิน และการบริการภาคพื้นในปักกิ่ง เฉิงตู และเมืองอื่น ๆ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 ทางกลุ่มบริษัทมีฝูงบินจำนวน 655 ลำ ซึ่งมีอายุเฉลี่ย 6.53 ปี ขณะที่บริษัทฯ มีฝูงบิน 396 ลำ ซึ่งมีอายุเฉลี่ย 6.57 ปี สำหรับให้บริการในเส้นทางบินโดยสาร 420 เส้นทาง ประกอบด้วยเส้นทางบินระหว่างประเทศ 101 เส้นทาง ภูมิภาค 16 เส้นทาง และในประเทศ 303 เส้นทาง เครือข่ายการบินของบริษัทครอบคลุม 40 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก และ 185 เมือง ซึ่งประกอบด้วย 66 เมืองในต่างประเทศ 3 เมืองในภูมิภาค และ 116 เมืองในประเทศ  แอร์ ไชน่าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นลอนดอน เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2547 ภายใต้รหัส 00753 และ AIRC ตามลำดับ และเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2549 แอร์ ไชน่าได้นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ ภายใต้รหัส 601111 สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเข้าชมเว็บไซต์ของแอร์ ไชน่า ที่ www.airchina.com.cn

          ข้อจำกัดความรับผิด

          ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต ซึ่งสะท้อนมุมมองปัจจุบันของบริษัทเกี่ยวกับเหตุการณ์และผลการดำเนินงานทางการเงินในอนาคต มุมมองเหล่านี้ตั้งอยู่บนสมมติฐาน ณ ปัจจุบัน ซึ่งมีความเสี่ยงหลายประการ และอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ ไม่สามารถรับประกันได้ว่า เหตุการณ์ในอนาคตจะเกิดขึ้น การคาดการณ์จะเป็นจริง หรือสมมุติฐานของบริษัทจะถูกต้อง โดยผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างอย่างมากจากที่ได้คาดการณ์ไว้

          นักลงทุนสัมพันธ์และสื่อมวลชนติดต่อตอบถามได้ที่:

          Air China
          Joyce Zhang
          Investor Relations
          Air China Limited
          โทร: (8610) 6146-2560
          อีเมล: joycezhang@airchina.com

          Cao Yu
          Investor Relations
          Air China Limited
          โทร: (8610) 6146-2788
          อีเมล: caoyu@airchina.com

          Investor Relations
          Serana Liu
          Wonderful Sky Financial Group
          โทร: (852) 3970 2198
          อีเมล: seranaliu@wsfg.hk

          Wendy Lu
          Wonderful Sky Financial Group
          โทร: (852) 3641 1325
          อีเมล: wendyluw@wsfg.hk

GAC Motor Makes Great First Impression at NADA to Inspire North American Dealer Partners with Successful Dealer Gathering

          LAS VEGAS--30 Mar--PRNewswire/InfoQuest

          GAC Motor, China's fastest-growing automaker, made a strong first impression with North American auto dealers with a successful debut at the National Automobile Dealers Association Show (NADA). The company showcased a star lineup of best-selling vehicles and held a dealer gathering to attract solid dealer interest for the company for its North American dealership network.

          "The NADA show has surpassed our expectations," said Yu Jun, president of GAC Motor. "We have met hundreds of US dealers who have expressed genuine interest in working with us as we launch GAC Motor in the fourth quarter of 2019. This has been a wonderful three days. Congratulations to the show's organizers. We are very grateful and honored for such privilege."

          NADA, which was first launched in 1917, is a premium auto show for international dealers and automakers. As a subcompany of GAC Group, GAC Motor is the first Chinese automaker to participate in NADA in the event's history.

          At the show, the presence of GAC Motor's flagship SUV GS8, blockbuster compact SUV GS4, newly launched sedan GA4 and high-end minivan GM8 attracted much attention from the crowds. The high-quality vehicles highlight the company's latest achievements in independent research and development and cutting-edge technologies.

          In addition, more than 150 distinguished guests, including dealers and investors as well as important leaders from industrial events and associations from not only various states in the United States but also Canada, attended GAC Motor's dealer gathering during NADA. GAC Motor is expected to be the first new car brand to enter the US market in 20 years. Many dealers present at the event said they were fascinated by the possibility of having a new brand in the US that had a proven record in its home country. They spoke highly of the GAC Motor product lineup and wished the Guangzhou carmaker well with their development plans.

          Special models will be designed for the US market to meet local environmental standards and meet the demands of local customers. The company has set up a research and development center in Silicon Valley and will be opening two additional centers in Detroit and Los Angeles later this year to specialize in cutting-edge technology.

          In addition to the North American market, GAC Motor also delivered solid market performances in participating countries along China's "Belt and Road" Initiative. The company currently has set up footholds in 14 countries globally.

          With a focus of breaking into the mid- to high-end market and a user-centered R&D strategy, GAC Motor is constructing a world-class auto manufacturing system that integrates GAC Motor's global R&D network, production capacities and supply chain to upgrade consumers' mobile lifestyle through innovations in technology, product and service.

          "GAC Motor is committed to mutual achievements with our staff, our customers and the communities where we live and work. We respect different cultures in different markets across the globe," said Yu. "We are young and it means we are willing to learn and are continually striving for progress. We value long term partnerships with our dealers, and we value mutual achievement with our customers, and our local partners."

          About GAC Motor

          Founded in 2008, Guangzhou Automobile Group Motor CO., LTD (GAC Motor) is a subsidiary of GAC Group which ranks 238 among the Fortune Global 500 companies. The company develops and manufactures premium quality vehicles, engines, components and auto accessories. GAC Motor has now ranked first among all Chinese brands for five consecutive years in J.D. Power Asia Pacific's China Initial Quality Study SM (IQS), demonstrating the company's quality-centric strategy from innovative research and development (R&D), manufacturing to supply chain and sales & services.

          For more information, please visit:

          Facebook: https://www.facebook.com/GACMotor
          Instagram: https://www.instagram.com/gac_motor
          Twitter: https://www.twitter.com/gac_motor

          Media Contact:

          Sukie Wong
          +86-186-8058-2829
          GACMotor@126.com

          Photo - https://photos.prnasia.com/prnh/20180330/2093364-1-a
          Caption - Yu Jun, GAC Motor president; Mark Scarpelli, NADA chairman; Wes Lutz, NADA vice chairman; Peter Welch, NADA president and CEO; Ju Jinhai, Assistant President of GAC Motor

          Photo - https://photos.prnasia.com/prnh/20180330/2093364-1-b
          Caption - Yu Jun, GAC Motor president, at NADA 2018

          Photo - https://photos.prnasia.com/prnh/20180330/2093364-1-c
          Caption - GAC Motor's dealer gathering during NADA

“เน็กเซ็นไทร์” จับมือ “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” สร้างสรรค์วิดีโอโปรโมทแบรนด์ตัวใหม่ล่าสุด

          นำแสดงโดย แวงซองต์ กงปานี, แอเดร์ซง โมไรซ์ และแบ็งฌาแม็ง เมนดี ดาวเตะจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้



          เน็กเซ็นไทร์ (Nexen Tire) ผู้ผลิตยางรถยนต์ชั้นนำระดับโลก เตรียมปล่อยวิดีโอโปรโมทแบรนด์ตัวใหม่ล่าสุดที่สร้างสรรค์ร่วมกับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นพันธมิตรกันมาอย่างยาวนาน

          วิดีโอดังกล่าวจะนำเสนอคุณค่าที่เน็กเซ็นไทร์ไขว่คว้ามาโดยตลอด ผ่านภาพลักษณ์ระดับโลกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และสามดาวเตะของสโมสร ได้แก่ แวงซองต์ กงปานี, แอเดร์ซง โมไรซ์ และแบ็งฌาแม็ง เมนดี คอนเซปต์ของวิดีโอคือ "Stylish Mobilian" ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกคนที่กระตือรือร้นและรักในสิ่งที่ทำ นำความคิดสร้างสรรค์มาปฏิบัติจริง แสวงหาความท้าทายและสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ซึ่งคอนเซปต์นี้สะท้อนตัวตนของเน็กเซ็นไทร์ได้เป็นอย่างดี ในฐานะแบรนด์เพื่อผู้บริโภคที่โดดเด่นด้วยภาพลักษณ์ "เอาใจใส่" "นำเทรนด์" และ "ก้าวล้ำนวัตกรรม"

          ทราวิส คัง ซีอีโอของเน็กเซ็นไทร์ กล่าวว่า "วิดีโอโปรโมทแบรนด์ตัวใหม่ของเน็กเซ็นไทร์สะท้อนถึงการพัฒนาและการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งของเรา เรายินดีที่ได้นำเสนอคุณสมบัติเหล่านี้ร่วมกับพันธมิตรอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และหวังที่จะสื่อถึงคุณค่าของเราให้ผู้บริโภคทั่วโลกได้รับรู้"

          เน็กเซ็นไทร์ขยายความร่วมมือระยะเวลาหลายปีกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเดือนมีนาคม 2560 และกลายเป็นสปอนเซอร์บนแขนเสื้อชุดแข่งอย่างเป็นทางการ (Official Sleeve Partner) รายแรกในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เน็กเซ็นไทร์เดินหน้าโปรโมทแบรนด์ทั่วโลกผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้ และมีแผนขยายความร่วมมือกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อไปอีกในอนาคต

          วิดีโอโปรโมทแบรนด์ตัวใหม่จะเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆของเน็กเซ็นไทร์ ได้แก่ เว็บไซต์ทางการ ยูทูบ และเฟซบุ๊ก ก่อนเปิดฉากมหกรรม 2018 PURPLE SUMMIT, Manchester ซึ่งเป็นอีเวนต์การตลาดแบบบูรณาการที่บริษัทจัดขึ้นทุกปีเพื่อส่งเสริมความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจและขยายกิจกรรมการตลาด

          เกี่ยวกับ เน็กเซ็นไทร์

          เน็กเซ็นไทร์ เป็นผู้ผลิตยางรถยนต์ชั้นนำระดับโลก บริษัทก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2485 และมีสำนักงานใหญ่ในเมืองยางซัน จังหวัดคย็องซังใต้ และในกรุงโซลของเกาหลีใต้ บริษัทเป็นหนึ่งในผู้ผลิตยางรถยนต์ที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก โดยร่วมมือกับดีลเลอร์ 491 ราย ใน 141 ประเทศทั่วโลก (ณ เดือนกรกฎาคม 2558) บริษัทมีโรงงานสามแห่ง โดยอยู่ในเกาหลีใต้สองแห่ง (ยางซันและชางเกียง) และในเมืองชิงเต่า ประเทศจีนอีกหนึ่งแห่ง ส่วนโรงงานอีกแห่งในเมืองซาเทค สาธารณรัฐเช็ก มีกำหนดเปิดดำเนินงานในปี 2561 ทั้งนี้ เน็กเซ็นไทร์ ผลิตยางล้อสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) รถบรรทุกขนาดเล็ก-กลาง ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการออกแบบที่เป็นเลิศ นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการผลิตยางรถยนต์สมรรถนะสูง (UHP) ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ทั้งยังผลิตยาง OE ป้อนผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำในหลายประเทศทั่วโลก ในปี 2557 บริษัทผงาดเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์รายแรกของโลกที่สามารถกวาดรางวัลด้านการออกแบบ 4 รางวัลใหญ่สุดของโลกมาครองได้ทุกรางวัล สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.nexentire.com



Aluminium China 2018 Marks New Industry Chapter Following Positive Performance Indicators

          This year's Aluminium China exhibition and conference in July, organized by Reed Exhibitions China, will provide a platform for China's rapidly changing and expanding aluminium industry, showcasing new state-of-the-art processes and products.

          Since the launch of the 'Made in China 2025' strategy, China has made great strides towards becoming the world's leading manufacturing hub. Aluminium China 2018 will focus on global innovation, aerospace and automotive materials, new processing technologies, and innovative, smart and green manufacturing trends, helping mark a new chapter in the aluminium industry.

          With overcapacity easing and strong environmental protection measures put in place in 2017, domestic and international aluminium prices have risen sharply, causing demand for new facilities and the need to recover capacity, which currently lies idle. In 2017, China's electrolytic aluminium output was 36.5 million tons, representing an increase of 12.2%; while downstream processed output, including aluminium sheets, extrusion, foils, wires, powders and casts, was 38.2 million tons, an increase of 8.5%. At the same time, aluminium consumption has continued to rise, thanks to new emerging markets.

          According to Reed Exhibitions China, this year's event will feature a larger exhibition area than in 2017 and the number of trade visitors is expected to surpass 20,000. International visitors will come mainly from Southeast Asia, primarily Thailand. Reed is working with the Thai government, industry associations and other bodies to invite industry spokespeople to join discussions on industrial policy, in-depth analysis of the aluminium processing and consumption market, as well as putting the spotlight on topics such as the impact of new tariffs imposed on aluminium imported to the US.

          Aluminium China 2018 will play its part in boosting industry growth as the event continues to attract industry leaders. Confirmed exhibitors include leading local giants such as CHALCO, Zhongwang, Weiqiao, Nanshan, Conglin, Nannan, Zhongfu, Nanping, Lufeng, Mingtai, Mingde, Fenglu, Yunhai, Yuhang and Hesheng. International players like UACJ, Constellium, Danieli, Pyrotek, Tenova, Fronius, AP&T and Panasonic will also be there.

          The event takes place in the Shanghai New International Expo Center from July 11 to 13, 2018. Collocated with Aluminium China this year will be Lightweight Asia 2018. This event will feature advanced lightweight auto materials for whole vehicles and automotive parts and combine a one-stop procurement platform for lightweight auto solutions with insights into advanced processing technologies.



Nexen Tire Unveils New Brand Video in Collaboration with Manchester City Football Club

          Nexen Tire to launch new viral video featuring Manchester City Football Club stars Vincent Kompany, Ederson Moraes and Benjamin Mendy



          Nexen Tire, a leading global tire manufacturer, will be unveiling a new brand video in collaboration with longtime partner Manchester City Football Club (Manchester City FC).

          Through the top-class image of Manchester City FC and three of its leading players, Vincent Kompany, Ederson Moraes and Benjamin Mendy, the new viral clip shows the values pursued by Nexen Tire. The concept of the video is 'Stylish Mobilian', a term used to represent a person who is active and passionate about one's work, puts creative ideas into practice and seeks adventure and positive changes. This concept successfully captures the key elements of Nexen Tire: a customer-friendly brand differentiated by the image of "caring", "trendy" and "innovative."

          "Nexen Tire's new brand video reflects our continuous development and growth as a company," said Travis Kang, CEO of Nexen Tire. "We are excited to showcase these qualities with our partner Manchester City FC and hope to communicate our values with global audience around the world."

          Nexen Tire extended its multi-year partnership with Manchester City in March 2017, becoming the first ever Official Sleeve Partner in the English Premier League (EPL). The company has been increasing its global brand awareness through this strategic partnership and plans to continue its marketing efforts with Manchester City FC.

          The new video will be available through Nexen Tire's owned media channels including its official website, YouTube and Facebook pages before the 2018 PURPLE SUMMIT, Manchester taking place. 2018 PURPLE SUMMIT, Manchester is the company's annual, integrated global marketing event designed to reinforce cooperation with its business partners and expand marketing activities.

          About Nexen Tire

          Nexen Tire, established in 1942, is a global tire manufacturer headquartered in Yangsan, South Gyeongsang Province, and in Seoul, South Korea. Nexen Tire, one of the world's fastest growing tire manufacturers, works with 491 dealers based in 141 countries around the world (as of July 2015) and owns three manufacturing plants -- two in Korea (Yangsan and Changnyeong) and one in Qingdao, China. Another plant in Zatec, Czech Republic will be operational by 2018. Nexen Tire produces tires for passenger cars, SUVs, and light trucks with advanced technology and excellence in design. The company also focuses on producing UHP tires, which are based on advanced technologies. Nexen Tire supplies OE tires to global car makers in various countries around the world. In 2014, the company achieved a grand slam of the world's top 4 design awards for the first time amongst the various tire makers in the world. For more information, please visit http://www.nexentire.com .



Thursday, March 29, 2018

ออเนอร์ สยายปีกรุกตลาดไทยครั้งแรก

         พร้อมเปิดฉากเขย่าตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลาง ด้วยสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดHonor 9Liteสมาร์ทโฟนสุดโฉบเฉี่ยวพร้อมกล้อง 4 ตัว และHonor 7Xสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพล้ำสำหรับคอเกม

          ออเนอร์ (Honor) สมาร์ทโฟน อี-แบรนด์ (E-Brand) อันดับ 1 จากประเทศจีน รุกตลาดประเทศไทยและขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มตัว เปิดตัวสมาร์ทโฟนHonor 9LiteและHonor 7Xสู่ผู้บริโภคชาวไทยในงานเปิดตัวสุดพิเศษ โดยมีสื่อมวลชน พันธมิตรทางธุรกิจ คนดัง และแฟน ๆ ของแบรนด์ออเนอร์ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ โรงแรมอวานี ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ

          "ออเนอร์เป็นแบรนด์ที่มีอายุไม่มากเพราะเราเพิ่งถือกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2556 แต่เราเติบโตอย่างรวดเร็วในหลากหลายตลาดทั่วทุกมุมโลก ออเนอร์ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งและเป็นผู้นำในหลายภูมิภาค ทั้งจีน ยุโรปตะวันตก กลุ่มประเทศนอร์ดิก ยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก รวมทั้งเอเชียแปซิฟิก" คุณจอร์จ เซา ประธานของออเนอร์ กล่าว "ผมรู้สึกปลาบปลื้มอย่างยิ่งที่ได้เห็นการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งและออเนอร์พร้อมจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ บริการ และนวัตกรรมทางเทคโนโลยีสู่บริโภคอย่างต่อเนื่อง"

          ประเทศไทย ตลาดใหม่ของออเนอร์

          ออเนอร์เป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟน อี-แบรนด์ ในประเทศจีน อีกทั้งยังเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในประเทศฟินแลนด์และอันดับที่สามในประเทศรัสเซีย[1] และเมื่อปีที่ผ่านมา ยอดขายสมาร์ทโฟนของออเนอร์เติบโตขึ้นสูงมากในช่วงวันแบล็กฟรายเดย์ของสหรัฐฯ และประเทศต่าง ๆ ในทวีปยุโรปอีกด้วย ในฐานะผู้นำตลาดอี-แบรนด์ ออเนอร์สร้างความสำเร็จโดยใช้จุดเด่นและความล้ำหน้าของการพัฒนาโมบายอินเตอร์เน็ตสู่ผู้ใช้ และยังมุ่งมั่นจะเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่กลุ่มวัยรุ่นหรือผู้บริโภคที่พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ชื่นชอบมากที่สุด ในทุกๆ ตลาดทั่วโลกที่ออเนอร์ดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ ออเนอร์ยังประสบความสำเร็จจากการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางหลักควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงหลากหลายรายการที่คุ้มค่า คุ้มราคา โดยออเนอร์ตั้งเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนระดับท็อป 3 ในประเทศไทย ภายในปี พ.ศ. 2563

          "การเติบโตของออเนอร์อย่างรวดเร็วในแต่ละประเทศนั้น เป็นผลสืบเนื่องจากการควบคุมคุณภาพการสรรสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค และเนื่องจากประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดต่างประเทศที่สำคัญที่สุดตลาดหนึ่งของออเนอร์ เราจึงให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของแบรนด์และพันธมิตรทางธุรกิจของเรามากกว่าการมุ่งสร้างยอดขาย ซึ่งหลักการดำเนินธุรกิจนี้ คือสิ่งที่ช่วยตอกย้ำรากฐานของแบรนด์ออเนอร์ในฐานะแบรนด์ที่มีความสดใหม่ เปี่ยมนวัตกรรม และพร้อมนำเสนอเทรนด์ใหม่ ๆ สู่ผู้บริโภค นอกจากนี้ วิธีการดำเนินธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของโลกอินเทอร์เน็ต และเน้นโมเดลทางธุรกิจแบบ Light-Asset เป็นวิธีที่เราใช้และประสบความสำเร็จมาแล้วในหลากหลายประเทศทั่วโลก" คุณอาคิน ลี ประธานออเนอร์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวเพิ่มเติม "ในช่วงแรกที่เราเริ่มเข้าสู่ตลาดประเทศไทย เรามุ่งเน้นสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์กับผู้บริโภคและพันธมิตรทางธุรกิจเป็นอันดับแรก เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของรากฐานในทุกองค์ประกอบของออเนอร์ให้สมบูรณ์"

          พบกับสุดยอดสมาร์ทโฟนที่มีคุณสมบัติเทียบเท่าสมาร์ทโฟนเรือธงในราคาที่เกินห้ามใจ

          สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นอัน ได้แก่ รุ่น Honor 9Lite และ Honor 7X นั้นมีคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่ไร้ขีดจำกัด อีกทั้งยังออกวางจำหน่ายในราคาที่เร้าใจอย่างที่สุด Honor 9Lite เป็นสมาร์ทโฟนที่สวยงามและเปี่ยมประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นสมาร์ทโฟนที่เคยปรากฎโฉมในงานปารีสแฟชั่นวีคร่วมกับแบรนด์แฟชั่นชื่อดังสำหรับคนรุ่นใหม่อย่างโคเช่ (Koche) Honor 9Lite เป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับบันทึกทุกจังหวะของชีวิต เพราะสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีกล้องสี่ตัว 13 ล้านพิกเซลและ 2 ล้านพิกเซล ด้านหน้า 2 ตัวและด้านหลัง 2 ตัว รูปลักษณ์ที่ดูเรียบหรูสวยงาม ทั้งการใช้กระจกหน้าจอแบบ 2.5D และหน้าจอไร้ขอบ Honor FullView FHD+ (Full HD Plus) Display ขนาดใหญ่จัดเต็ม 5.65 นิ้ว ทำให้ Honor 9Lite สามารถบ่งบอกสไตล์ของผู้ใช้ได้อย่างดี

          Honor 7X เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยีหน้าจอไร้ขอบ Honor FullView FHD+ (Full HD Plus) Display ขนาด 5.93 นิ้วที่มีคุณภาพสูงสุด ด้วยหน้าจอสัดส่วน 18:9 สมาร์ทโฟนรุ่นนี้เหมาะสมกับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมในสมาร์ทโฟน ประมวลผลด้วย Octa-core Kirin 659 และมีหน่วยประมวลผลกราฟิกส์ Mali T830-MP2 จึงสามารถแสดงผลภาพได้ชัดเจนและให้ประสบการณ์การใช้งานที่เยี่ยมยอดที่สุด ในระดับราคาที่เร้าอารมณ์อย่างยิ่ง

          Honor 9Lite ราคา 6,490 บาทและ Honor 7X ราคา 7,490 บาท จะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2561 ทั้งนี้ Honor 9Lite จะวางจำหน่ายที่ Shopee ในขณะที่ Honor 7X จะวางจำหน่ายที่ Lazada

          "ออเนอร์มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่การเปิดตัวสมาร์ทโฟนครั้งแรกอย่างเป็นทางการในประเทศไทยประสบความสำเร็จด้วยดี รวมถึงได้รับเสียงตอบรับอย่างยอดเยี่ยมจากพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้บริโภคและสื่อมวลชน โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งยังเป็นตลาดหลักสำหรับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สวยงามและเปี่ยมนวัตกรรมของออเนอร์ และออเนอร์พร้อมจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นสู่ผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่อง" คุณลีกล่าวสรุป

          [1] ข้อมูลจากจีเอฟเค (GFK)
          ###

         เกี่ยวกับออเนอร์ (Honor)

          Honor คืออีแบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำภายใต้หัวเว่ย กรุ๊ป (Huawei Group) ด้วยสโลแกน "For The Brave" แบรนด์ Honor ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนที่มีวิถีแบบดิจิทัลผ่านผลิตภัณฑ์สำหรับการใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งจะมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือชั้น สร้างความจูงใจและการกระทำ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และผลักดันให้คนรุ่นใหม่ก้าวไปให้บรรลุความฝันได้ ด้วยแนวทางดังกล่าว Honor สร้างความโดดเด่นด้วย แสดงให้เห็นการก้าวออกนอกกรอบอย่างกล้าหาญของตัวเอง ทำสิ่งที่ในแตกต่าง และดึงเอาขั้นตอนที่จำเป็นต่างๆ เพื่อการนำเอาเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ล่าสุด นำเสนอให้กับลูกค้าของเรา

         ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม  หรือติดตามเราผ่านทาง #HonorThailand #ForTheBraveได้ที่
          https://www.facebook.com/honorglobal/
          https://twitter.com/Honorglobal
          https://www.instagram.com/honorglobal/
          https://www.youtube.com/honorglobal

          ดาวน์โหลดข้อมูลและรูปภาพเพิ่มเติม https://goo.gl/EFXKxz

“เมืองมิชิมะ” ในจังหวัดชิซุโอกะ สมญานามประตูสู่ภูเขาไฟฟูจิ เปิดตัวเว็บไซต์ 6 ภาษาเพื่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รองรับการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน

          มิชิมะ, ญี่ปุ่น--28 มี.ค.--เกียวโด เจบีเอ็น-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์

          เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เทศบาลเมืองมิชิมะได้เปิดตัวเว็บไซต์หลายภาษาที่รองรับการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของเมืองมิชิมะ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะได้สนุกสนานกับการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเว็บไซต์ดังกล่าวจะให้บริการในภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ จีนประยุกต์ จีนดั้งเดิม เกาหลี และไทย

          เว็บไซต์ให้ข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองมิชิมะที่รองรับการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน
          http://mishima-tourism.jp

          เมืองมิชิมะตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของจังหวัดชิซุโอกะในภาคกลางของญี่ปุ่น โดยใช้เวลาเดินทางจากมหานครโตเกียวด้วยรถไฟหัวกระสุนชินคังเซ็นเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนี้ เมืองมิชิมะยังมีสิ่งที่น่าดึงดูดใจมากมาย เช่น "ศาลเจ้ามิชิมะไทฉะ" โบราณสถานสำคัญของเมือง และ "มิชิมะ สกายวอล์ค" สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น รวมถึงลำธารใสสวยงามที่ไหลผ่านเมือง ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาเยือนเมืองมิชิมะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเมืองแห่งนี้เป็นประตูไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียง เช่น ภูเขาไฟฟูจิ และคาบสมุทรอิซุ และส่วนหนึ่งเป็นเพราะการแข่งขันจักรยานในมหกรรมโอลิมปิกและพาราลิมปิก 2020 จะจัดขึ้นที่เมืองอิซุ

          (รูปภาพ: https://kyodonewsprwire.jp/release/201803262317?p=images )

          เว็บไซต์ดังกล่าวได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้อเนกประสงค์ ตั้งแต่การวางแผนท่องเที่ยวไปจนถึงการเดินทางท่องเที่ยวจริง เพราะมีคอนเทนต์มากมายที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวสนุกสนานกับการเที่ยวเมืองมิชิมะมากขึ้น เช่น ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ทัวร์ในพื้นที่ เส้นทางแนะนำ สถานที่เด่นประจำฤดูกาล ทัวร์พื้นที่โดยรอบ ร้านอาหาร รวมถึงเครื่องมือต่างๆที่มีประโยชน์สำหรับการท่องเที่ยว

          ที่มา: กรมพาณิชย์และการท่องเที่ยว เทศบาลเมืองมิชิมะ

Mishima City in Shizuoka Pref., Gateway to Mt. Fuji, Launches Six-Language Smartphone-Friendly Website for Foreign Tourists

          MISHIMA, Japan--28 Mar--Kyodo JBN-AsiaNet/InfoQuest

          Against the backdrop of an increasing number of foreign travelers, the Mishima Municipal Government has launched a smartphone-friendly multilingual website on tourist information designed to share information on Mishima City's tourism and historic landscapes so that foreign visitors can enjoy traveling the city to a greater degree. The languages used on the website are Japanese, English, simplified Chinese, traditional Chinese, Korean and Thai.

          Smartphone-friendly website for Mishima City tourism information:
          http://mishima-tourism.jp

          Mishima City is situated in the eastern part of Shizuoka Prefecture, central Japan, and is easily accessible from the Tokyo metropolitan area in about one hour by Shinkansen bullet train. Furthermore, the city has fascinating features such as the historic "Mishima Taisha Shrine," the "Mishima Skywalk," Japan's longest suspended bridge, and beautiful limpid streams running through the city. The number of foreign tourists visiting the city has been rising in recent years as the city is also functioning as a gateway to neighboring sightseeing destinations such as Mt. Fuji and the Izu Peninsula and partly because cycling competitions for the 2020 Tokyo Olympic and Paralympic Games are scheduled to be held in Izu City.

          (Photo: https://kyodonewsprwire.jp/release/201803262317?p=images )

          The website is designed to be useful in every setting from planning trips to actual travel as it carries a wealth of content to help people enjoy traveling Mishima City to a greater extent, such as information on tourist spots, hands-on tours, recommended model courses, seasonal picks, tours of surrounding areas, and restaurants, as well as useful tools for traveling.

          Source: Commerce and Tourism Division, Mishima Municipal Government

Infinity Economics Platform ประกาศอัพเดทฟีเจอร์ใหม่เพื่อระบบนิเวศสกุลเงินดิจิทัลที่ดียิ่งขึ้น

          ซูริค--29 มี.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

          Infinity Economics Platform (IEP) ระบบนิเวศสกุลเงินดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่มาพร้อมฟีเจอร์ด้านการเงินและเศรษฐกิจ ประกาศอัพเดทฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้ใช้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

          (โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/659916/Infinity_Economics_Logo.jpg )
          (รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/659917/Infinity_Economics_New_Features.jpg )
          (รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/659914/Infinity_Economics_Infographic.jpg )

          IEP ประกาศอัพเดทฟีเจอร์หลัก, ฟีเจอร์ในอนาคต, จดทะเบียน XIN coin ในตลาดแลกเปลี่ยน BitBay และปรับโฉมหน้าเว็บรูปแบบใหม่เพื่อสื่อถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของแพลตฟอร์ม เพื่อการใช้งานที่เหมาะสมมากขึ้นสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ผู้ซื้อขาย นักลงทุน และสถาบันการเงิน

          การอัพเดทหลักของ IEP จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถลงทุนในโครงการต่างๆ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้ด้วยวิธีการที่ทันสมัย ช่วยให้แต่ละคนสามารถลงทุนในสตาร์ทอัพด้วยโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่โปร่งใส

          ในเดือนหน้า IEP จะปล่อย "Coin Shuffling" ฟีเจอร์ส่วนตัวที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถผสานทุนของตนกับทุนของผู้ใช้รายอื่นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างแผนที่แบบสุ่มระหว่างบัญชี จากนั้นจะเปิดตัว "Subscription" ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ต้องชำระเงินเป็นระยะโดยที่ผู้ใช้สามารถยกเลิกเมื่อใดก็ได้ และภายในสิ้นเดือนเมษายนจะมีการเปิดตัวฟีเจอร์ "Escrow" ที่ช่วยให้การชำระเงินมีความปลอดภัย ด้วยการดึงเงินของผู้ซื้อเอาไว้จนกว่าจะบรรลุเงื่อนไขการซื้อขายและผู้ซื้อยินยอมชำระเงินให้แก่ผู้ขาย สุดท้ายในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม จะมีการเปิดตัว "Smart Contracts" สัญญาอัจฉริยะที่จะเติมเต็มเงื่อนไขของข้อตกลงโดยอัตโนมัติโดยอิงจากเงื่อนไขเดิมที่กำหนดไว้

          เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา IEP ได้จดทะเบียนในตลาด BitBay หนึ่งในตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป นอกจากนั้นยังมีแผนเดินหน้าพัฒนาและยกระดับระบบนิเวศสำหรับผู้ใช้งานในอนาคต ด้วยการเปิดตัวเว็บไซต์โฉมใหม่ไปเมื่อไม่นานมานี้

          เกี่ยวกับ Infinity Economics Platform
          Infinity Economics Platform เป็นแพลตฟอร์มที่อยู่ภายใต้การนำของชุมชนผู้ใช้งาน 100% ตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งหมายความว่าสมาชิกทุกรายในชุมชนมีอำนาจในการตัดสินใจ วิธีนี้ทำให้เรากลายเป็นองค์กรอิสระแบบกระจายอำนาจ (DAO) โดยกระบวนการทุกอย่างตั้งแต่การพัฒนาแพลตฟอร์ม การทำตลาด ไปจนถึงการจัดทำเอกสารต่างอยู่ในลักษณะของการกระจายอำนาจทั้งสิ้น ดังนั้น "อำนาจ" จึงอยู่ในมือของผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่ยุติธรรมสำหรับบล็อกเชน และเราเชื่อว่าเป็นเพียงวิธีเดียวที่จะขจัดความผิดพลาด ทั้งนี้ Infinity Economics Platform ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้อย่างเป็นอิสระจากนักลงทุน นักพัฒนา หรือผู้ก่อตั้ง สำหรับการอัพเดทฟีเจอร์ใหม่ทั้งหมดถูกรวบรวมล่วงหน้าโดยระบบโหวตออนไลน์

          วิดีโอ: https://www.youtube.com/watch?v=eWLB2ZCF834

          ติดตามเราได้ทาง
          เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/InfinityEconomicsOfficial/
          ทวิตเตอร์: https://twitter.com/XIN_Foundation
          เว็บไซต์: https://web.infinity-economics.org

          ที่มา: Infinity Economics Platform

Blockchain-based Infinity Economics Platform Announces Slew of New Features

          ZURICH--29 Mar--PRNewswire/InfoQuest

          Infinity Economics Platform (IEP), a new kind of cryptocurrency ecosystem equipped with total financial and economic features, this week announced a slew of new features designed to improve upon and augment the overall IEP experience for users in the months to come.

          (Logo: https://mma.prnewswire.com/media/659916/Infinity_Economics_Logo.jpg )
          (Photo: https://mma.prnewswire.com/media/659917/Infinity_Economics_New_Features.jpg )
          (Photo: https://mma.prnewswire.com/media/659914/Infinity_Economics_Infographic.jpg )

          Geared towards users, traders, investors, and financial institutions, IEP announced a new core update, future features roadmap, the listing of XIN on the BitBay Exchange, and a new web presence that matches these revolutionary announcements for the platform.

          IEP's core updates support users to finance existing or future projects in an innovative way, enabling individuals to invest in startups while offering a transparent fee structure.

          Next month, IEP will release "Coin Shuffling," a privacy feature that enables users to mix their funds quickly and efficiently with other users' funds to create a random mapping between the existing accounts. Following the first feature release, IEP will launch their "Subscription," which is a recurring payment feature that can be terminated by the user at any time. At the end of April, IEP will release "Escrow," enabling secure payments by retaining the buyer's coins until the terms of the sale are satisfied and the buyer releases the payment to the seller. Lastly, at the beginning of May, IEP is releasing "Smart Contracts," known as intelligent contracts that automatically fulfil the conditions of a contract according to predefined terms.

          On March 15, 2018, IEP began listing on one of the biggest cryptocurrency exchanges in Europe: BitBay. Having recently launched redesigned website and re-launched their web presence, IEP plans to continue to developing and improving their ecosystem for users in the future.

          About Infinity Economics Platform:
          Infinity Economics Platform has been a 100% community-led project since the outset. This means that the deciding power of all community members corresponds to their voting power. This approach essentially makes us a DAO (Decentralized Autonomous Organization). All processes from platform development to marketing and documentation are organized in a decentralized manner. The "power" rests with the users - the only consistent and fair approach for a blockchain. Because we believe that's the only way to eliminate sources of error. The Infinity Economics platform was designed for users to decide independently of major investors, developers or founders - all new features are coordinated in advance via the built-in e-voting system.

          Videotrailer: https://www.youtube.com/watch?v=eWLB2ZCF834

          Follow us on:
          Facebook: https://www.facebook.com/InfinityEconomicsOfficial/
          Twitter: https://twitter.com/XIN_Foundation
          Website: https://web.infinity-economics.org

          Source: Infinity Economics Platform

“โรนัลโด” สวมบทฮาในโฆษณาตัวใหม่ของ “สนิกเกอร์ส”

          เซาเปาโล--29 มี.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

          กองหน้าที่ดีที่สุดตลอดกาลเปิดตัวโฆษณาที่สร้างสรรค์โดย AlmapBBDO พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคจากกว่า 50 ประเทศได้มาเจอตัวจริงถึงบราซิล

          สนิกเกอร์ส (SNICKERS(R)) เจ้าของแคมเปญระดับโลก "อย่าให้ความหิว ทำให้คุณเปลี่ยนไป" กลับมาอีกครั้งพร้อมแคมเปญต่อเนื่อง "ความหิวทำให้คุณสับสน" โดยเมื่อวันอังคารที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา โรนัลโด นักเตะชาวบราซิลเจ้าของฉายา "o Fenomeno" หรือ "the phenomenon" ถูกบันทึกภาพขณะกำลังเชียร์ทีมอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นคู่ปรับตลอดกาลของบราซิล ในเกมที่อาร์เจนตินาลงฟาดแข้งกับสเปนที่กรุงมาดริด ภาพสุดแปลกตานี้มาจากโฆษณาของสนิกเกอร์ส ที่นำนักเตะที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกมาเจอกับช็อกโกแลตที่ขายดีที่สุดยี่ห้อหนึ่งของโลก

          โรนัลโดเปิดตัวโฆษณาดังกล่าวด้วยการโพสต์คลิปผ่านทางโซเชียลมีเดียในวันนี้ ในคลิปจะเห็นแฟนบอลอาร์เจนตินาเฮกันยกใหญ่เมื่อทีมอาร์เจนตินายิงประตูได้ แต่ที่เซอร์ไพรส์สุดๆคือโรนัลโดเองก็เฮไปกับเขาด้วย เมื่อเพื่อนเห็นความสับสนของโรนัลโดจึงยื่นสนิกเกอร์สให้กินรองท้อง เขาถึงกลับมาเป็นปกติและออกอาการหงุดหงิดที่อาร์เจนตินาทำประตูได้

          โอดูวัลโด เวียนา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดประจำบราซิลของมาร์ส และผู้นำแคมเปญนี้ กล่าวว่า "โฆษณาตัวใหม่ยังคงอารมณ์ขันแบบฉบับสนิกเกอร์สไว้อย่างครบถ้วน และต่อยอดแคมเปญ "อย่าให้ความหิว ทำให้คุณเปลี่ยนไป" ผ่านการนำเสนอความรู้สึกหิวซึ่งเคยเกิดขึ้นกับทุกคน และแสดงให้เห็นว่าเพราะเหตุใดสนิกเกอร์สจึงเป็นแบรนด์ในดวงใจของคนทั่วโลก นอกจากนี้ แฟนสนิกเกอร์สผู้โชคดีกว่า 50 คนจะได้เดินทางมาพบโรนัลโดตัวจริงถึงบราซิลด้วย"

          แคมเปญดังกล่าวเริ่มตั้งแต่สัปดาห์นี้ไปจนถึงเดือนกรกฎาคมนี้ ผู้บริโภคที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปสามารถส่งรหัสในห่อสนิกเกอร์สที่จำหน่ายในกว่า 50 ประเทศใน 4 ทวีป ได้แก่ อเมริกา ยุโรป เอเชีย และแอฟริกา เพื่อลุ้นโอกาสพบโรนัลโดตัวจริงที่บราซิลในเดือนตุลาคมนี้

          เกี่ยวกับ มาร์ส อินคอร์ปอเรทเต็ด

          มาร์ส อินคอร์ปอเรทเต็ด เป็นบริษัทเอกชนและธุรกิจครอบครัวที่มีความเป็นมายาวนานกว่าหนึ่งศตวรรษ โดยเป็นเจ้าของแบรนด์อันเป็นที่โปรดปรานของผู้คนทั่วโลก ได้แก่ M&M'S(R), TWIX(R), SNICKERS(R), PEDIGREE(R), EUKANUBA(R), ROYAL CANIN(R), WHISKAS(R), UNCLE BEN'S(R), MASTERFOODS(R), ORBIT(R), EXTRA(R), SKITTLES(R) และ STARBURST(R) บริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ย่านแม็คลีนในรัฐเวอร์จิเนีย และมีรายได้กว่า 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจาก 5 กลุ่มธุรกิจ อันได้แก่ ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง (อาหารสัตว์), ริกลีย์ (ช็อกโกแลตและหมากฝรั่ง), อาหาร, เครื่องดื่ม และซิมไบโอไซแอนซ์ (Symbioscience) บริษัทมีผู้ร่วมงานกว่า 100,000 คนใน 80 ประเทศ ที่ดำเนินงานตามหลักธุรกิจ 5 ประการของบริษัท ได้แก่ คุณภาพ ประสิทธิภาพ ความรับผิดชอบ ความสัมพันธ์ และอิสระ ทั้งยังมีความมุ่งมั่นในการสานสัมพันธ์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันให้บริษัทของเราเติบโตอย่างภาคภูมิ

          รับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาร์ส อินคอร์ปอเรทเต็ด ได้ที่ www.mars.com

          ติดตามเราทางโซเชียลมีเดียได้ที่เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ลิงค์อิน และยูทูบ

          ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อมวลชน
          Mars Brasil | In Press Porter Novelli
          Bruna Hakan ( bruna.hakan@inpresspni.com.br ) – (+ 55 11) 3323-1608
          Emilia Spirlandelli ( emilia.spirlandelli@inpresspni.com.br ) – (+ 55 11) 3323-1620

-ปม-

Has Ronaldo Turned Argentinian? "Fenomeno" Stars In New Snickers(R) Global Campaign

          SAO PAULO--29 Mar--PRNewswire/InfoQuest

          One of the biggest football strikers of all time is confused when he's hungry, kicking off a campaign, created by AlmapBBDO, to bring consumers from more than 50 countries to meet him in Brazil

          SNICKERS(R), with its iconic global campaign "You're not you when you're hungry", is introducing a new twist - "You get confused when you're hungry." On Tuesday, March 27, Ronaldo, "o Fenomeno" (the phenomenon), was caught cheering for Argentina - Brazil's historical football rival - at an exhibition game against Spain, in Madrid. This unique scene is part of a SNICKERS(R) campaign – bringing together one of the best-selling chocolates in the world - and one of the greatest football players of all time.

          Ronaldo launched the campaign on his social media profiles by posting a film earlier today. It starts with Argentinian fans watching a soccer match on TV. What surprises everyone is that Ronaldo is cheering among them. When he notices the confused people around him, he eats a SNICKERS(R), satisfying his hunger and returning back to normal, getting pissed off by the happening.

          "This exciting new campaign builds on SNICKERS(R)' unique sense of humor, reinforcing our global 'You're not you when you're hungry' platform. This campaign brings to life one of our main objectives: bringing exclusive experiences to our consumers and showcasing why SNICKERS(R) is one of the world's most beloved brands; which is why more than 50 lucky SNICKERS(R) fans will have the unforgettable opportunity to meet Ronaldo in-person," says Oduvaldo Viana, Mars Marketing Director, in Brazil and leader of the global project.

          Kicking off this week, this campaign will take place through July 2018. To participate, consumers 18+ are encouraged to register codes present on product packaging in 50+ countries across 4 continents: America, Europe, Asia and Africa to win the chance to meet Ronaldo in Brazil in October.

          About Mars, Incorporated

          Mars, Incorporated is a private, family-owned company with more than 100 years of history and owner of some of the world's most beloved brands such as M&M'S(R), TWIX(R), SNICKERS(R), PEDIGREE(R), EUKANUBA(R), ROYAL CANIN(R), WHISKAS(R), UNCLE BEN'S(R), MASTERFOODS(R), ORBIT(R), EXTRA(R), SKITTLES(R) and STARBURST(R). Headquartered in McLean, Virginia, Mars has revenues of more than US $35 billion from its five business segments: Petcare (pet food), Wrigley Confectionary (Chocolate, Gum and Chewing Gum), Food, Beverage and Symbioscience. More than 100,000 employees from 80 countries are gathered under the Five Principles of the company: Quality, Efficiency, Responsibility, Mutuality and Freedom, working daily to develop a mutual relationship with everyone that is related, seeking a growth from which the company is proud.

          For more information on Mars, Incorporated, please visit www.mars.com .

          Follow us on social media as well: Facebook, Twitter, LinkedIn and YouTube.

          Press contacts
          Mars Brasil | In Press Porter Novelli
          Bruna Hakan ( bruna.hakan@inpresspni.com.br ) – (+ 55 11) 3323-1608
          Emilia Spirlandelli ( emilia.spirlandelli@inpresspni.com.br ) – (+ 55 11) 3323-1620

-PM-

คณะตัวแทนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมหมิ่นหนานเยือนฟิลิปปินส์ จัดการแสดงสุดซึ้งเรียกน้ำตาจากผู้ชมชาวจีนโพ้นทะเล


          เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา คณะตัวแทนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากเมืองเซียะเหมินของจีน ซึ่งสนับสนุนการเดินทางโดย Xiamen Port Holding Group Co. ได้ทำการแสดงละครเพลง ณ ศูนย์วัฒนธรรมฟิลิปปินส์ ในกรุงมะนิลา โดยเป็นการแสดงในภาษาหมิ่นหนาน (Minnan) ซึ่งเป็นภาษาถิ่นที่ใช้พูดกันทางตอนใต้ของมณฑลฝูเจี้ยน ขณะที่เรื่องราวของละครนั้นได้สอดแทรกวัฒนธรรมประเพณี ตลอดจนเอกลักษณ์ท้องถิ่น ทำให้ชาวจีนและชาวจีนโพ้นทะเลที่ได้รับชมการแสดงรู้สึกคิดถึงบ้านจนไม่อาจกลั้นน้ำตาได้

          คณะตัวแทนแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวหมิ่นหนานเดินทางถึงกรุงมะนิลาในวันที่ 24 มีนาคม ด้วยเครื่องบินโดยสาร ภายใต้ชื่อคณะว่า "The Passion of Minnan Culture on Maritime Silk Road - Cultural Tourism Celebrations of Xiamen, China"

          ลั่ว กัง ที่ปรึกษาและกงสุลใหญ่ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศฟิลิปปินส์ ได้ให้เกียรติเข้าร่วมงานนี้ โดยเขากล่าวว่า มณฑลฝูเจี้ยนของจีนเป็นหน้าต่างสำหรับการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล และวัฒนธรรมหมิ่นหนานก็ได้ฝังรากลึกในหลายประเทศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ ชาวหมิ่นหนานยังได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของฟิลิปปินส์ คุณลั่ว กัง ยังได้กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ปัจจุบันมีชาวจีนและชาวจีนโพ้นทะเลราว 1.10 ล้านคนอาศัยอยู่ในฟิลิปปินส์ มากกว่า 80% ในจำนวนนี้เป็นลูกหลานของบรรพบุรุษชาวหมิ่นหนาน ซึ่งนอกจากการแสดงโดยคณะตัวแทนแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมในประเทศฟิลิปปินส์ จะนำโอกาสแห่งความร่วมมือที่มากขึ้นมาสู่ประเทศต่าง ๆ ตามแนวเส้นทางสายไหมใหม่ หรือ Belt and Road แล้ว งานนี้ยังมีส่วนสนับสนุนการแลกเปลี่ยนฉันมิตรระหว่างประชาชนของจีนและฟิลิปปินส์อีกด้วย

          นอกจากนี้ ภายในงานยังได้มีการฉายวิดีโอเพื่อเผยแพร่ภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามน่าหลงใหลของเมืองเซียะเหมิน ซึ่งเรียกเสียงชื่นชมจากผู้ชม โดยเฉพาะชาวจีนและชาวจีนโพ้นทะเล เป็นอย่างมาก "เราภาคภูมิใจในเซียะเหมินเป็นอย่างมากที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ มาได้อย่างยอดเยี่ยมและมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว" โดมินโก ยัป ประธานสมาพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรมฟิลิปปินส์-จีน กล่าว

          เส้นทางเดินเรือไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องบนเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 โดยเออร์วิน บาเลน หัวหน้าฝ่ายการพัฒนาเส้นทางของการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า มีชาวจีนเดินทางไปท่องเที่ยวในฟิลิปปินส์เป็นจำนวน 256,880 คนในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 56.44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งการเดินเรือจากเซียะเหมินไปยังประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย

          Xiamen Port Holding Group Co. จะส่งเสริมการเปิดให้บริการเส้นทางเดินเรือประจำระหว่างเซียะเหมินและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนสำรวจรูปแบบการสื่อสารใหม่ที่เรียกว่า "cruise + culture" รวมทั้งเสริมจุดแข็งและอิทธิพลในระดับนานาชาติของอุตสาหกรรมเดินเรือเซียะเหมิน เพื่อช่วยสนับสนุนการก่อสร้างเส้นทางสายไหมใหม่ตามแนวนโยบาย Belt and Road ของจีน

          รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20180328/2091139-1

“โรนัลโด” สวมบทฮาในโฆษณาตัวใหม่ของ “สนิกเกอร์ส”

          กองหน้าที่ดีที่สุดตลอดกาลเปิดตัวโฆษณาที่สร้างสรรค์โดย AlmapBBDO พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคจากกว่า 50 ประเทศได้มาเจอตัวจริงถึงบราซิล

          สนิกเกอร์ส (SNICKERS(R)) เจ้าของแคมเปญระดับโลก "อย่าให้ความหิว ทำให้คุณเปลี่ยนไป" กลับมาอีกครั้งพร้อมแคมเปญต่อเนื่อง "ความหิวทำให้คุณสับสน" โดยเมื่อวันอังคารที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา โรนัลโด นักเตะชาวบราซิลเจ้าของฉายา "o Fenomeno" หรือ "the phenomenon" ถูกบันทึกภาพขณะกำลังเชียร์ทีมอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นคู่ปรับตลอดกาลของบราซิล ในเกมที่อาร์เจนตินาลงฟาดแข้งกับสเปนที่กรุงมาดริด ภาพสุดแปลกตานี้มาจากโฆษณาของสนิกเกอร์ส ที่นำนักเตะที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกมาเจอกับช็อกโกแลตที่ขายดีที่สุดยี่ห้อหนึ่งของโลก

          โรนัลโดเปิดตัวโฆษณาดังกล่าวด้วยการโพสต์คลิปผ่านทางโซเชียลมีเดียในวันนี้ ในคลิปจะเห็นแฟนบอลอาร์เจนตินาเฮกันยกใหญ่เมื่อทีมอาร์เจนตินายิงประตูได้ แต่ที่เซอร์ไพรส์สุดๆคือโรนัลโดเองก็เฮไปกับเขาด้วย เมื่อเพื่อนเห็นความสับสนของโรนัลโดจึงยื่นสนิกเกอร์สให้กินรองท้อง เขาถึงกลับมาเป็นปกติและออกอาการหงุดหงิดที่อาร์เจนตินาทำประตูได้

          โอดูวัลโด เวียนา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดประจำบราซิลของมาร์ส และผู้นำแคมเปญนี้ กล่าวว่า "โฆษณาตัวใหม่ยังคงอารมณ์ขันแบบฉบับสนิกเกอร์สไว้อย่างครบถ้วน และต่อยอดแคมเปญ "อย่าให้ความหิว ทำให้คุณเปลี่ยนไป" ผ่านการนำเสนอความรู้สึกหิวซึ่งเคยเกิดขึ้นกับทุกคน และแสดงให้เห็นว่าเพราะเหตุใดสนิกเกอร์สจึงเป็นแบรนด์ในดวงใจของคนทั่วโลก นอกจากนี้ แฟนสนิกเกอร์สผู้โชคดีกว่า 50 คนจะได้เดินทางมาพบโรนัลโดตัวจริงถึงบราซิลด้วย"

          แคมเปญดังกล่าวเริ่มตั้งแต่สัปดาห์นี้ไปจนถึงเดือนกรกฎาคมนี้ ผู้บริโภคที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปสามารถส่งรหัสในห่อสนิกเกอร์สที่จำหน่ายในกว่า 50 ประเทศใน 4 ทวีป ได้แก่ อเมริกา ยุโรป เอเชีย และแอฟริกา เพื่อลุ้นโอกาสพบโรนัลโดตัวจริงที่บราซิลในเดือนตุลาคมนี้

          เกี่ยวกับ มาร์ส อินคอร์ปอเรทเต็ด

          มาร์ส อินคอร์ปอเรทเต็ด เป็นบริษัทเอกชนและธุรกิจครอบครัวที่มีความเป็นมายาวนานกว่าหนึ่งศตวรรษ โดยเป็นเจ้าของแบรนด์อันเป็นที่โปรดปรานของผู้คนทั่วโลก ได้แก่ M&M'S(R), TWIX(R), SNICKERS(R), PEDIGREE(R), EUKANUBA(R), ROYAL CANIN(R), WHISKAS(R), UNCLE BEN'S(R), MASTERFOODS(R), ORBIT(R), EXTRA(R), SKITTLES(R) และ STARBURST(R) บริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ย่านแม็คลีนในรัฐเวอร์จิเนีย และมีรายได้กว่า 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจาก 5 กลุ่มธุรกิจ อันได้แก่ ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง (อาหารสัตว์), ริกลีย์ (ช็อกโกแลตและหมากฝรั่ง), อาหาร, เครื่องดื่ม และซิมไบโอไซแอนซ์ (Symbioscience) บริษัทมีผู้ร่วมงานกว่า 100,000 คนใน 80 ประเทศ ที่ดำเนินงานตามหลักธุรกิจ 5 ประการของบริษัท ได้แก่ คุณภาพ ประสิทธิภาพ ความรับผิดชอบ ความสัมพันธ์ และอิสระ ทั้งยังมีความมุ่งมั่นในการสานสัมพันธ์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันให้บริษัทของเราเติบโตอย่างภาคภูมิ



Has Ronaldo Turned Argentinian? "Fenomeno" Stars In New Snickers(R) Global Campaign

          One of the biggest football strikers of all time is confused when he's hungry, kicking off a campaign, created by AlmapBBDO, to bring consumers from more than 50 countries to meet him in Brazil

          SNICKERS(R), with its iconic global campaign "You're not you when you're hungry", is introducing a new twist - "You get confused when you're hungry." On Tuesday, March 27, Ronaldo, "o Fenomeno" (the phenomenon), was caught cheering for Argentina - Brazil's historical football rival - at an exhibition game against Spain, in Madrid. This unique scene is part of a SNICKERS(R) campaign – bringing together one of the best-selling chocolates in the world - and one of the greatest football players of all time.

          Ronaldo launched the campaign on his social media profiles by posting a film earlier today. It starts with Argentinian fans watching a soccer match on TV. What surprises everyone is that Ronaldo is cheering among them. When he notices the confused people around him, he eats a SNICKERS(R), satisfying his hunger and returning back to normal, getting pissed off by the happening.

          "This exciting new campaign builds on SNICKERS(R)' unique sense of humor, reinforcing our global 'You're not you when you're hungry' platform. This campaign brings to life one of our main objectives: bringing exclusive experiences to our consumers and showcasing why SNICKERS(R) is one of the world's most beloved brands; which is why more than 50 lucky SNICKERS(R) fans will have the unforgettable opportunity to meet Ronaldo in-person," says Oduvaldo Viana, Mars Marketing Director, in Brazil and leader of the global project.

          Kicking off this week, this campaign will take place through July 2018. To participate, consumers 18+ are encouraged to register codes present on product packaging in 50+ countries across 4 continents: America, Europe, Asia and Africa to win the chance to meet Ronaldo in Brazil in October.

          About Mars, Incorporated

          Mars, Incorporated is a private, family-owned company with more than 100 years of history and owner of some of the world's most beloved brands such as M&M'S(R), TWIX(R), SNICKERS(R), PEDIGREE(R), EUKANUBA(R), ROYAL CANIN(R), WHISKAS(R), UNCLE BEN'S(R), MASTERFOODS(R), ORBIT(R), EXTRA(R), SKITTLES(R) and STARBURST(R). Headquartered in McLean, Virginia, Mars has revenues of more than US $35 billion from its five business segments: Petcare (pet food), Wrigley Confectionary (Chocolate, Gum and Chewing Gum), Food, Beverage and Symbioscience. More than 100,000 employees from 80 countries are gathered under the Five Principles of the company: Quality, Efficiency, Responsibility, Mutuality and Freedom, working daily to develop a mutual relationship with everyone that is related, seeking a growth from which the company is proud.



Etherparty จับมือพันธมิตรหนุนร้านค้ากว่า 760,000 แห่งทั่วโลกรับชำระเงินด้วยเหรียญ FUEL

          - ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรรายใหม่ CoinPayments



          Etherparty Smart Contracts Inc. บริษัทเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ให้บริการโซลูชั่นสมาร์ทคอนแทรคท์สำหรับองค์กรธุรกิจและการใช้งานในชีวิตประจำวันบนโลกแห่งบล็อกเชนที่กำลังได้รับความนิยม มีความยินดีที่จะประกาศให้ทราบถึงความร่วมมือกับผู้ให้บริการระบบชำระเงินสกุลเงินดิจิทัล  CoinPayments ในฐานะพันธมิตรรายใหม่

          เจสัน บุตเชอร์ ซีโอโอของ CoinPayments เปิดเผยว่า ขณะนี้เหรียญโทเคน FUEL ซึ่งเป็นเงินดิจิทัลของ Etherparty ได้ถูกรวมเข้ากับระบบและเครือข่ายทั่วโลกของ CoinPayments แล้ว

          นั่นหมายความว่า ผู้ใช้จะสามารถใช้เหรียญ FUEL ในการชำระค่าสินค้าและบริการที่ร้านค้ากว่า 760,000 แห่งใน 182 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังจะสามารถซื้อโทเคน FUEL ด้วยสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 55 สกุล ที่ระบบ CoinPayments รองรับอยู่ในปัจจุบันอีกด้วย

          "ความร่วมมือครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมในวงการบล็อกเชน" เควิน ฮอบส์ ซีอีโอ Etherparty กล่าว "การทำงานร่วมกับ CoinPayments จะช่วยให้เราขยายการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ และทำให้การใช้สกุลเงินคริปโต เหรียญ FUEL และแพลตฟอร์มของเราเป็นเรื่องง่ายขึ้น"

          สำหรับการซื้อบริการทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม Etherparty ตลอดจนผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น จะต้องซื้อด้วยเหรียญ FUEL รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้อย่าง Rocket ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระดมทุนด้วยสกุลเงินคริปโตที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นประจำทุกวัน

          แอปพลิเคชันระดมทุนของ Etherparty เป็นผลิตภัณฑ์แรกที่มีการทำงานสอดคล้องกับโซลูชันบล็อกเชน ซึ่งจะติดตั้งวางระบบโดยบริษัท CoinPayments ในแวนคูเวอร์

          FUEL เป็นเหรียญประเภท ERC-20 ซึ่งทำงานอยู่บนเครือข่ายอีเธอเรียม และจะทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องในการทำธุรกรรมของผู้ใช้บนแพลตฟอร์มอีเธอเรียมและผลิตภัณฑ์ทีเกี่ยวข้อง

          ดูข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครรับข่าวสารจากบริษัททางอีเมลได้ที่  etherparty.com นอกจากนี้ คุณยังสามารถร่วมพูดคุยกับ Etherparty ผ่านช่องทาง  Telegram หรือ Facebook ,  Twitter และ BitcoinTalk

          เกี่ยวกับ Etherparty
          Etherparty คือแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ช่วยให้โลกเชื่อมโยงถึงกันอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ด้วยการสร้างสรรค์โซลูชันสมาร์ทคอนแทรคท์ที่ใช้งานง่าย มีความสามารถรอบด้านและใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ etherparty.com

          เกี่ยวกับ CoinPayments
          CoinPayments เป็นบริษัทแคนาดา ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 เพื่อให้บริการรับชำระเงินในสกุลเงินดิจิทัลกว่า 310 สกุล ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ coinpayments.net



FUEL Now Accepted by Over 760,000 Merchants Worldwide

          - Enabled through new partnership with CoinPayments



          Etherparty Smart Contracts Inc., a blockchain technology company providing smart contract solutions for enterprise and everyday use on the world's most popular blockchains, is excited to announce a new partnership with cryptocurrency payment gateway provider, CoinPayments .

          Etherparty's digital token, FUEL, is now integrated into CoinPayments' system and its global network, according to CoinPayments COO, Jason Butcher.

          This means FUEL will be accepted for payment of goods and services at over 760,000 merchants worldwide, stretching across 182 countries. Users will also be able to use over 55 cryptocurrency varieties currently supported by CoinPayments to purchase FUEL.

          "This partnership is another example of working with a great technology partner in the blockchain space," said Etherparty CEO, Kevin Hobbs. "Working with CoinPayments will help us expand our offerings and make it easier to use cryptocurrency, FUEL and our platform."

          FUEL tokens are required to purchase all services on Etherparty and its associated products, like the soon-to-launch Rocket, a cryptocurrency crowdfunding platform designed for the everyday Internet user.

          Etherparty's crowdfunding application is the first product in a line of blockchain solutions to be deployed by the Vancouver-based technology company.

          The FUEL token is a transferable ERC-20 compliant digital token deployed on the Ethereum network and will serve as a method of validating a user's transactions on the Etherparty platform and its related products.

          For more information, visit  etherparty.com and subscribe to the company mailing list. You can also join the Etherparty conversation via our community Telegram  channel, or on Facebook ,  Twitter and BitcoinTalk .

          About Etherparty
          Etherparty is a blockchain platform working to enable a connected and inclusive world by building easy-to-use, versatile and intuitive smart contract solutions. Visit: etherparty.com .

          About CoinPayments
          Founded in 2013, CoinPayments is a Canadian payment processor of over 310 cryptocurrencies. Visit: coinpayments.net .



การอัพเดทครั้งยิ่งใหญ่ของ Black Desert Online ประเทศไทย

          หลังจากบริษัท Pearl Abyss เปิดตัวเกม MMORPG สุดยิ่งใหญ่ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา หลายท่านคงได้ออกผจญภัยใน "Black Desert" กันอย่างสนุกสนานและได้ทราบถึงความยอดเยี่ยมของตัวเกม แต่ความสำเร็จจากการให้บริการเกม MMORPG ในภูมิภาคนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น บริษัท Pearl Abyss ยังมีแผนการอัพเดทอีกมากมายในอนาคตเพื่อมอบความสุขให้กับนักผจญภัยทุกท่าน



          James Heo ผู้เป็น COO ของบริษัท Pearl Abyss ได้กล่าวว่า "พวกเรารู้สึกประทับใจที่ทุกท่านให้การสนับสนุนและให้ความสนใจในเกม Black Desert ของเรามาตั้งแต่ช่วง Closed Beta จนกระทั่งเปิดให้บริการเกมอย่างเป็นทางการ อีกทั้งพวกเรายังรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มอบความสุขแก่นักผจญภัยทุกท่าน จึงอยากตอบแทนความรักที่ได้รับโดยการประกาศแผนกำหนดการอัพเดทแพทช์ของช่วงครึ่งปีแรก ให้นักผจญภัยทุกท่านได้ทราบ"

          มีอะไรใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2018

          อัพเดทตัวละครอาชีพใหม่
          ในสัปดาห์นี้ ทุกท่านสามารถพบกับอาชีพใหม่ "เมฮวา" หลังจากการอัพเดทตัวละครล่าสุด "มูซา" ไปเมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่แล้ว "เมฮวา" คือตัวละครลำดับที่ 12 ของเซิร์ฟเวอร์ไทย และเป็นตัวละครหญิงที่มาคู่กับ "มูซา" โดยทั้งคู่เป็นนักดาบที่มีจุดเด่นในการโจมตีระยะใกล้ ใช้มีดดาบเป็นอาวุธหลักพร้อมเชือดเฉือนศัตรูอย่างว่องไว การกวัดแกว่งดาบของทั้งสองดูสง่างาม แต่มาพร้อมกับพลังโจมตีที่รุนแรงยากที่จะต้านทานได้

          อัพเดทการปลุกพลัง
          ปลุกพลังตัวละครทั้ง 12 ให้แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม โดยการบรรลุเลเวล 56 และดำเนินการปลุกพลังในช่วงกลางเดือนเมษายน เมื่อท่านปลุกพลังสำเร็จ ท่านจะได้รับอาวุธปลุกพลังที่มาพร้อมกับทักษะใหม่ๆ โดยการอัพเดทการปลุกพลังนี้ จะถูกแบ่งออกเป็นสองรอบ คือ 6 ตัวละครแรกและตามมาด้วย 6 ตัวละครที่อัพเดทล่าสุด ซึ่งนักผจญภัยสามารถติดตามการปลุกพลังได้ในสัปดาห์ต่อไป

          เปิดเขตปกครองใหม่: บาเลนเซีย
          อาณาจักรทะเลทรายที่ยิ่งใหญ่ได้ถูกค้นพบแล้ว โดยจะถูกเปิดให้สำรวจในเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนดันเจี้ยนใหม่ของเขตพื้นที่นี้จะถูกเปิดให้เข้าร่วมในเดือนมิถุนายน เขตปกครองบาเลนเซียแยกออกเป็นสองเขตซึ่งกำลังมีความขัดแย้งกันอยู่ นั่นคือ "ราชอาณาจักรบาเลนเซีย" และ "สาธารณรัฐคาลเพออน" เป็นพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเขตปกครองอื่นๆ มีสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยพายุทะเลทราย สภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างรุนแรง และมีสิ่งลึกลับใหม่ๆ ที่รอให้นักผจญภัยมาสำรวจ

          อย่างไรก็ตาม ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบใหม่ อาทิ การล่าสมบัติและรับไอเทมที่คุ้มค่าต่อการเสี่ยงอันตราย  การจับช้างและอูฐ รวมไปถึงการสร้างเส้นทางการค้าใหม่ๆ ใน Black Desert เป็นต้น

          แม้ว่าเวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเราตั้งใจมอบให้ล้วนมีความหมาย ทางบริษัทได้เตรียมการตอบแทนสุดพิเศษสำหรับการครบรอบ 100 วันหลังจากการเปิดให้บริการ Black Desert Online ในประเทศไทย เพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับการสนับสนุนจากนักผจญภัยทุกท่าน และจะตั้งใจจัดกิจกรรมที่น่าสนใจและให้บริการที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นสำหรับปีต่อไป

          เนื่องจากเกม Black Desert Online เป็นเกมที่ขึ้นชื่อว่ามีกราฟฟิคยอดเยี่ยม จึงมีผู้เล่นหลายท่านสงสัยและข้องใจเกี่ยวกับความต้องการขั้นต่ำของระบบในการเล่นเกมคุณภาพนี้ บริษัท Pearl Abyss จึงได้ลดความต้องการขั้นต่ำของระบบในการเล่น เพื่อรองรับผู้เล่นที่มากขึ้นเรื่อยๆ ท่านตรวจสอบความต้องการขั้นต่ำของระบบได้ ที่นี่

          Black Desert Online เป็นเกมแนวแอคชั่น MMORPG แบบ Open World ที่มีภาพสวยงาม และการต่อสู้รูปแบบใหม่ที่ง่ายต่อการควบคุม พร้อมระบบการปรับแต่งตัวละครที่สมจริง และละเอียดที่สุดในปัจจุบัน โดยผู้เล่นสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ และสร้างตัวละครที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้เล่นเองได้อย่างสร้างสรรค์ไม่ซ้ำใคร เรื่องราวมากมายบนโลกเสมือนจริงที่ไร้รอยต่อของ Black Desert จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เล่นทุกท่านอย่างแน่นอน

          เกม Black Desert ประสบความสำเร็จมาแล้วกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ด้วย 12 ภาษา และมีผู้ลงทะเบียนเล่นเกมแล้ว กว่า 8.5 ล้านราย นอกจากนี้ ยังมีเวอร์ชั่นมือถือและคอนโซลที่มีกำหนดเปิดตัวในปี 2018 นี้



Black Desert Online is a Major Hit with Southeast Asian Adventurers

          Adventurers from all over Southeast Asia have been flocking to the Black Desert to embark on their journeys. Pearl Abyss's highly anticipated PC MMORPG launched in the SEA region on January 10, and users have been continuously raving about just how amazing the game is. It can be seen as one of the most successful launches in the region for an open world MMORPG. This is only the beginning as Pearl Abyss has so much more planned for everyone.



          "Everyone has been so supportive over the months leading up to the CBT and through to the release of the game. We felt their passion and excitement for Black Desert Online even before the launch. It was a wonderful feeling and we're extremely grateful that we've managed to bring even more Adventurers along the way," said James Heo, COO of Pearl Abyss. "We are elated to have had such a successful launch, and we're happy to announce the new update roadmap for the first half of 2018."

          What's Coming Up in the First Half of 2018

          New Class
          Maewha will be making her way into the game today as the twelfth playable character on the SEA server. She joined the team just one week after the introduction of her male counterpart, Musa. They are both melee type classes that wield longswords as their main weapon to execute lightning quick attacks and powerful combos. She does tons of damage with her seamless skill chain features and exceptional maneuverability to provide an unforgettably dynamic gameplay style.

          Awakening Update
          New classes are just the beginning of the company's plan to bring even more new content to Black Desert Online SEA. They have also announced the plan for the long awaited Awakening of the twelve classes. All twelve classes will be reborn stronger than ever. In April, characters that reach level 56 can start their awakening quests. Once complete, they can obtain an Awakening weapon that have a batch of new skills that will completely change how Adventurers play the game. It will really amp everything to the next level. The Awakenings will be divided into two separate updates, starting with the first six characters that were playable in the game. The rest will be available the following week.

          New Territory Expansion: Valencia
          A large desert territory has been discovered and will be open for exploration in May and will have new dungeons available in June. This is the territory that separates the two warring states, the Kingdom of Valencia and the Republic of Calpheon. It is larger in size than any of the other territories currently open in the game. It is filled with sandstorms, severe temperature changes and new mysteries to solve. However, as dangerous as it is, the new territory offers great rewards, new activities, and a whole slew of new content like treasure hunting, capturing elephants or camels, and establishing new trade routes to strengthen your foothold in the Black Desert.

          Although time passed in the blink of an eye, everything fell into place like it was meant to be. Soon Black Desert Online SEA will have been out for 100 days. There will be a 100th day celebration to thank all of the Adventurers for their support so stay tuned for amazing events and so much more. Pearl Abyss plans to continue their successful journey in Southeast Asia by providing even better service and contents for years to come.

          About Black Desert Online
          Black Desert Online is an open world action MMORPG with cutting edge visuals and skill-based combat that redefines we see the genre. Black Desert Online has the most fully developed character customization system of any game that is currently on the market. This feature allows users to break out of the norm and make unique characters that truly represent each and every player. Its intuitive controls, beautifully designed world and extensive lore will excite both newcomers and veterans of MMO games and action RPGs in general. The game has been successfully launched in over 150 countries, is available in 12 languages and has over 8.5 million registered users. The mobile and console version are scheduled to launch globally in 2018.

          About Pearl Abyss
          Pearl Abyss is the Korean studio behind the hit PC MMORPG Black Desert Online, which was named MMORPG of the Year in 2016 and 2017. It has been successfully launched in over 150 countries, is available in 12 languages and has over 8.5 million registered users. The mobile version, launched in Korea and became an instant hit. Black Desert Mobile reached the number one position as the Most Popular Game in the Korean app stores for both Apple and Google in less than a week. It is scheduled to start launching globally in 2018. All of Pearl Abyss' games are developed on their own proprietary game engine. Pearl Abyss is poised to continue its growth through 2018 and beyond to maintain its position as one of Asia's leaders in game development.