La Creme ใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับพฤติกรรมของเซลล์ผิวเพื่อมอบผลลัพธ์อันเหนือชั้น โดยอิงข้อมูลเชิงลึก Skin Intelligence นั่นคือความสามารถโดยธรรมชาติของผิวในการแยกตัวกระตุ้นที่ดีและไม่ดี รวมถึงความสามารถของเซลล์ผิวในการส่งข้อมูลระหว่างกัน ผลิตภัณฑ์ La Creme ปรับสูตรมาแล้ว 8 ครั้งนับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2525 โดยแต่ละเวอร์ชันล้ำสมัยด้วยการค้นพบใหม่ล่าสุดจากการวิจัยอย่างไม่หยุดยั้ง และมีประสิทธิภาพลึกล้ำกว่าเดิมเสมอมา
ผลิตภัณฑ์ La Creme สูตรใหม่ผสมผสานประสิทธิภาพอันลึกล้ำของ Skin-Empowering Illuminator ที่ประกอบด้วย 5 ส่วนผสมสำคัญ ได้แก่ Platinum Golden Silk Essence, Japanese Pearl Shell Extract, Theanine, Perilla Extract และ Angelica Acutiloba Extract ช่วยเสริมประสิทธิภาพของ Skin Intelligence และเพิ่มความสามารถของผิวในการซ่อมแซมและป้องกันตัวเองจากริ้วรอยที่เป็นผลพวงมาจากปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดความเครียด
นอกจากนี้ La Creme สูตรใหม่ยังมีส่วนผสมของ CeraFerment Extract ซึ่งสกัดจากยีสต์ชนิดหนึ่งที่ค้นพบในจังหวัดอากิตะของญี่ปุ่น โดยช่วยเพิ่มความสามารถของผิวในการฟื้นฟูและสร้างความแข็งแรงจากภายใน
เนื้อครีมเข้มข้นพิเศษของ La Creme รังสรรค์โดยผู้เชี่ยวชาญ โดยใช้เวลานานหลายวันและใช้กรรมวิธีหลายขั้นตอนและการวัดผลด้วยความแม่นยำสูง ส่วนผสมที่คัดสรรมาอย่างดีกว่า 60 ชนิดได้รับการผสมผสานเพื่อปลดล็อกผิวสว่างกระจ่างใสจากภายในและปรับสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์สดใสอย่างมีประสิทธิภาพภายใน 12 สัปดาห์ [1]
La Creme สูตรใหม่ในแพคเกจสวยงามดุจอัญมณี เปิดตัวในอีเวนต์พิเศษซึ่งจัดขึ้นที่ Serpentine Magazine แลนด์มาร์กอันโด่งดังใน Hyde Park ใจกลางกรุงลอนดอน โดยบรรณาธิการ อินฟลูเอนเซอร์ และรีเทลเลอร์ชั้นนำกว่า 100 รายจากทั่วโลกเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง โดยมีคุณยูคาริ ซูซูกิ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายแบรนด์ของ Cle de Peau Beaute และคุณคัตสึโนริ โยชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Cle de Peau Beaute Laboratory เป็นเจ้าภาพ
เพื่อสะท้อนถึงความสว่างกระจ่างใสเมื่อใช้ La Creme สถานที่จัดงานจึงตกแต่งอย่างสว่างไสวด้วยแสงไฟ โดยมีการผสานเทคโนโลยีและแสงเพื่อสร้างประสบการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟ แต่ละจุดตอกย้ำความสำเร็จของ Cle de Peau Beaute ในการก้าวข้ามขีดจำกัดด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม แขกของงานได้ชมศิลปะจัดวางมัลติมีเดียแบบอินเทอร์แอคทีฟและดิจิทัลที่แสดงการเดินทางของแบรนด์ วิวัฒนาการของ La Creme และการค้นพบทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับผิว ซึ่งเป็นรากฐานของประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของ La Creme
นอกจากนั้นยังมีอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในงาน นั่นคือ แบรนด์ Cle de Peau Beaute ได้เปิดตัวในยุโรป โดยมีลอนดอนเป็นจุดหมายแรก
คุณซูซูกิ กล่าวว่า "La Creme คือหัวใจของ Cle de Peau Beaute เรารู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติที่ได้นำเสนอสูตรใหม่ที่ดีกว่าเดิม ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละของเราในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมสกินแคร์ La Creme เป็นความหรูหราที่ผสานเทคโนโลยีสูงสุดเพื่อเพิ่มความสามารถตามธรรมชาติของผิวในการเปล่งประกายสว่างกระจ่างใสมากขึ้นทุกวัน"
"เราตัดสินใจจัดงานเปิดตัวที่ลอนดอนเพราะเราเริ่มก้าวแรกในยุโรปที่เมืองอันสว่างไสวแห่งนี้ เราตื่นเต้นกับความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดที่รออยู่เบื้องหน้า อันเกิดจากความทุ่มเทของทีมวิจัยและพัฒนาซึ่งพยายามอย่างไม่ลดละในการบุกเบิกแนวคิดใหม่ๆ ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อมอบความสว่างกระจ่างใสที่โดดเด่นจากภายใน"
นอกจากนี้ Cle de Peau Beaute ยังจับมือกับคุณเฟลิซิตี โจนส์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ จัดงานกาล่าดินเนอร์ที่โรงแรม Corinthia Hotel London
เกี่ยวกับ Cle de Peau Beaute
Cle de Peau Beaute แบรนด์หรูระดับโลกจากชิเซโด้ คอสเมติกส์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2525 โดยแสดงถึงความสง่างามและวิทยาศาสตร์อันเหนือชั้น Cle de Peau Beaute แปลว่ากุญแจสู่ผิวสวย ปรัชญาของแบรนด์คือการปลดล็อกพลังความเปล่งประกายของผู้หญิงด้วยเทคโนโลยีเครื่องสำอางและสกินแคร์คุณภาพจากทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ของ Cle de Peau Beaute ยึดมั่นในสัมผัสแห่งสุนทรียศาสตร์และอัจฉริยภาพเป็นสำคัญ จึงอัดแน่นไปด้วยความทันสมัย เสน่ห์เย้ายวน และแรงผลักดันที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในการมอบความสว่างกระจ่างใสจากภายใน ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของ Cle de Peau Beaute วางจำหน่ายใน 14 ประเทศและดินแดนทั่วโลก
เว็บไซต์ทางการของ Cle de Peau Beaute: www.cledepeau-beaute.com
อินสตาแกรมทางการของ Cle de Peau Beaute: instagram.com/cledepeaubeaute
[1] *ทดสอบในแอฟริกาใต้กับหญิงชาวคอเคเซียน 100-103 คน อายุ 40-68 ปี ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม ถึง 18 ตุลาคม 2561
No comments:
Post a Comment