Monday, October 31, 2016

งานแสดงสินค้านานาชาติเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 มณฑลกวางตุ้ง ปิดฉากด้วยยอดความร่วมมือสูงสุดเป็นประวัติการณ์


          เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา งานแสดงสินค้านานาชาติเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 มณฑลกวางตุ้ง (Guangdong 21st Century Maritime Silk Road International Expo) ปิดฉากลงอย่างงดงามด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างมณฑลกวางตุ้งและประเทศต่าง ๆ บนเส้นทางสายไหม ที่ทำสถิติสูงสุด ข้อมูลจากคณะกรรมการจัดงานระบุว่า มีการทำสัญญาในงานครั้งนี้รวม 700 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 2.068 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
          รายงานระบุว่า เมื่อเทียบจากความสำเร็จในการจัดงานมาแล้ว 2 ครั้งเมื่อช่วงปีก่อน ๆ ทำให้งานแสดงสินค้านานาชาติเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 มณฑลกวางตุ้ง มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มอิทธิพลของตราสินค้าด้วย โดยงานในปีนี้ดึงดูดผู้เข้าชมงานจาก 73 ประเทศ (ภูมิภาค) และดึงดูดผู้จัดแสดงสินค้าจากกว่า 52 ประเทศ (ภูมิภาค) โดยประเทศ (ภูมิภาค) ต่าง ๆ กว่า 39 แห่งตั้งซุ้มจัดแสดงเป็นของตน ซึ่งจำนวนซุ้มต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา
          ทั้งนี้ มณฑลกวางตุ้งเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมโบราณของจีน อีกทั้งยังเป็นแหล่งบุกเบิกการปฏิรูปประเทศและการเปิดกว้างเศรษฐกิจ โดยในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มณฑลกวางตุ้งตั้งเป้าพัฒนาท้องถิ่นให้เป็นศูนย์กลางด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าตามโครงการเส้นทางสายไหมตามที่รัฐบาลกลางมอบหมาย โดยจะบุกเบิกการสร้างความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ตลอดเส้นทางของโครงการในหลาย ๆ ด้าน อาทิ การเชื่อมต่อ การลงทุนด้านเศรษฐกิจและการค้า ความร่วมมือเพื่อพัฒนาด้านกำลังการผลิต นวัตกรรมเทคโนโลยี และการแลกเปลี่ยนด้านต่าง ๆ อย่างเป็นมิตร
          ในส่วนของความร่วมมือด้านกำลังการผลิตและการพัฒนานวัตกรรมนั้นถือเป็นเป้าหมายหลักของโครงการริเริ่มเส้นทางสายไหมดังกล่าว จากการประชุมภายในงานพบว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามณฑลกวางตุ้งมีความพยายามที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านสมรรถนะการผลิตระดับนานาชาติ โดยกองทุนเส้นทางสายไหมแห่งมณฑลกวางตุ้งก่อตั้งด้วยเงินทุนก้อนแรกมูลค่า 2 หมื่นล้านหยวน โดยร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการสร้างอุทยานอุตสาหกรรมหัวเจี๋ยนในประเทศเคนยา, เขตปลอดภาษี Qeshm ในประเทศอิหร่าน, เกตเวย์มะละกาในประเทศมาเลเซีย, อุทยานอุตสาหกรรมจีน - กิซาน ในประเทศซาอุดิอาระเบีย, อุทยานอุตสาหกรรมจีน - เบลารุส และอื่น ๆ ซึ่งวิสาหกิจจากมณฑลกวางตุ้งที่มีชื่อเสียง อาทิ Huawei, ZTE, Midea และ TCL ล้วนลงทุนและพัฒนาสินค้าของตนเองในประเทศต่าง ๆ ตามเส้นทางสายไหมอย่างต่อเนื่อง  
          อนึ่ง เมื่อปี 2558 รายงานระบุว่า วิสาหกิจจากมณฑลกวางตุ้งลงทุนในประเทศหลัก 14 แห่งตามเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 คิดเป็นมูลค่า 480 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งพิ่มขึ้น 56% โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2559 งบประมาณที่แท้จริงซึ่งบริษัทในเมืองกวางตุ้งลงทุนใน 14 ประเทศหลักเหล่านี้อยู่ที่ระดับ 490 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 103.6% เทียบรายปี ซึ่งเป็นการสร้างรากฐานอันมั่นคง รวมถึงประสิทธิภาพของความร่วมมือด้านการผลิตระหว่างมณฑลกวางตุ้งและประเทศต่าง ๆ ตามเส้นทางสายไหมอย่างเต็มศักยภาพ
          ที่มา: คณะกรรมการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 มณฑลกวางตุ้ง
          AsiaNet 66353

No comments:

Post a Comment