Monday, September 28, 2020

แนวร่วมผู้ผลิตสินค้าอุปโภคและบริโภคใหม่เพื่อเร่งรัดความพยายามอย่างเป็นระบบในการขจัดการตัดไม้ทำลายป่าและการทำให้ป่าเสื่อมโทรมออกจากซัพพลายเชนสินค้าโภคภัณฑ์หลัก

- แนวร่วมปฏิบัติเพื่อการอนุรักษ์ป่าของประชาคมสินค้าอุปโภคบริโภคประกอบด้วยบริษัทผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค 17 แห่ง ที่มีมูลค่าตลาดรวมกันอยู่ที่ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ


- แนวร่วมปฏิบัติเพื่อการอนุรักษ์ป่าเปิดตัวขึ้นที่สัปดาห์การประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศประจำปี 2020 เมื่อวันอังคารที่ 22 กันยายน เวลา 10.00 น. ตามเขตเวลาตะวันออก


เมื่อวันนี้ ในสัปดาห์การประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศประจำปี 2020 ประชาคมสินค้าอุปโภคบริโภค (CGF) ได้ประกาศเปิดตัวแนวร่วมปฏิบัติเพื่อการอนุรักษ์ป่าอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีแบรนด์ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้ค้าปลีกและผู้ผลิตระดับโลกเข้าร่วมทั้งหมด 17 แห่ง โดยจะมาร่วมมือกันและใช้เสียงของทุกคนเพื่อเร่งรัดความพยายามอย่างเป็นระบบในการขจัดการตัดไม้ทำลายป่า การทำให้ป่าเสื่อมโทรมและการถางป่าออกจากซัพพลายเชนน้ำมันปาล์ม ซอสถั่วเหลือง กระดาษ บรรจุภัณฑ์ที่ใช้เยื่อไม้และไฟเบอร์หลักๆ และกระตุ้นให้เกิดการปฏิรูปทั่วทั้งอุตสาหกรรม


แนวร่วมนี้ ซึ่งนำโดยประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทต่างๆ และได้รับการสนับสนุนร่วมจาก Carrefour และ Mars, Incorporated ในระดับคณะกรรมการของ CGF จะรวมพลังของแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีมูลค่าตลาดรวมกันอยู่ที่ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เข้าด้วยกัน เป้าหมายของแนวร่วมนี้ก็คือการใช้การเข้าถึงและความรู้ ตลอดจนเครือข่ายและทรัพยากรระดับโลกที่มีร่วมกันเพื่อให้ผู้ผลิต ซัพพลายเออร์และผู้ค้า ตลอดจนรัฐบาลและประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมและประสานงานกัน เพื่อผลักดันให้มีการคิดค้นวิธีอนุรักษ์ป่า สมาชิกแนวร่วมปฏิบัติเพื่อการอนุรักษ์ป่าประกอบด้วย:


- Carrefour

- Colgate-Palmolive

- Danone

- Essity

- General Mills

- Grupo Bimbo

- Jeronimo Martins

- Mars, Incorporated

- METRO AG

- Mondelez International

- Nestle

- P&G

- PepsiCo

- Sainsbury's

- Tesco

- Unilever

- Walmart


แนวร่วมปฏิบัติเพื่อการอนุรักษ์ป่าได้มุ่งมั่นที่จะดำเนินการในด้านหลักๆ ดังต่อไปนี้:


1) ขอให้ซัพพลายเออร์และผู้ค้าดำเนินการอนุรักษ์ป่าในทุกขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภค


2) รวมพลังกันแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการอนุรักษ์ป่าในด้านการผลิตหลักๆ


3) ส่งเสริมให้รัฐบาลและผู้มีส่วนได้เสียสร้างสภาพแวดล้อมในการอนุรักษ์ป่า


4) รับประกันว่ามีความโปร่งใสและภาระรับผิดชอบด้วยการรายงานความคืบหน้าอย่างเป็นประจำ


สมาชิกของแนวร่วมมีหน้าที่ในการร่วมมือกับรัฐบาลอย่างสร้างสรรค์ ทั้งในประเทศที่ผลิตและประเทศที่ส่งออกสินค้า เพื่อส่งเสริมให้นำมาตรการที่ใช้ได้ในทางปฏิบัติมาเพื่อสนับสนุนอนาคตที่มีการอนุรักษ์ป่า แนวร่วมจะส่งเสริมและสนับสนุนแนวปฏิบัติต่างๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและขั้นตอนในระดับมหภาค ที่จะสนับสนุนป่าทั่วโลกและไม่ใช่แค่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเท่านั้น


Grant Reid ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Mars, Incorporated และผู้สนับสนุนร่วมของแนวร่วมปฏิบัติเพื่อการอนุรักษ์ป่าของคณะกรรมการ CGF ให้สัมภาษณ์ว่า "เราเชื่อมั่นว่าการพิทักษ์ป่าเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ ไม่ใช่เป็นการเสียการเจริญเติบโตไป การพิทักษ์ป่าจะทำให้เรามีระบบนิเวศที่ดีและสนับสนุนการมีผลิตภาพและชุมชนที่มีความสามารถในการฟื้นตัวได้ ท่ามกลางวิกฤติโรคโควิด-19 เราจะต้องรับประกันว่ามีการพยายามพิทักษ์ป่า เพื่อเป็นหนึ่งในการตอบสนองระดับโลก การตอบสนองนี้จำเป็นต้องให้ทุกคนที่สนใจจะยุติการตัดไม้ทำลายป่าและมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของหนทางแก้ไขปัญหามารวมพลังกัน"


Alexandre Bompard ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Carrefour และผู้สนับสนุนร่วมของแนวร่วมปฏิบัติเพื่อการอนุรักษ์ป่าของคณะกรรมการ CGF ให้สัมภาษณ์ว่า "เรากำลังเปลี่ยนแปลงแบบจำลองของเราในเชิงรุกเพื่อปรับเปลี่ยนให้ธุรกิจอนุรักษ์ป่ามากยิ่งขึ้น เรามุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับซัพพลายเชนเข้ามามีส่วนร่วม ดำเนินการในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องและจับมือกันเร่งรัดให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การดำเนินการที่ได้รับความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้เสียหลายคนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระดับชาติและภูมิภาค และเช่นเดียวกับการได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างยิ่งจากชุมชนนักลงทุน"


จะมีการประกาศให้แนวร่วมปฏิบัติเพื่อการอนุรักษ์ป่าเป็นส่วนหนึ่งของสัปดาห์การประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศประจำปี 2020 อย่างเป็นทางการ โดยที่สมาชิกของแนวร่วม ตัวแทนรัฐบาลสหราชอาณาจักรและอินโดนีเซีย ตลอดจนพันธมิตรเพื่อการอนุรักษ์ป่าในเขตร้อนจะประชุมเพื่อหารือกันและตอบคำถามของประชาชนเกี่ยวกับแนวร่วม จุดมุ่งหมายและแผนในการบรรลุเป้าหมายของแนวร่วม


Wai-Chan Chan กรรมการผู้จัดการของประชาคมสินค้าอุปโภคบริโภคให้สัมภาษณ์ว่า "การตัดไม้ทำลายป่ายังคงเป็นปัญหาสำคัญของโลกเราอยู่อย่างต่อเนื่อง งานที่สัปดาห์การประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่นิวยอร์กจะทำให้เราเห็นอย่างชัดเจนว่าแนวร่วมมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการในพื้นที่เพื่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้างและจะอธิบายว่าเรามีเป้าหมายที่จะประสบความสำเร็จอย่างไร นอกจากนี้ เรายังนำเสนอความคิดเห็นต่างๆ เพื่อรับประกันว่ามีการดำเนินการตั้งแต่ต้นกระบวนการและรับฟังข้อกังวลของผู้ที่ต่อสู้เพื่อให้ปัญหาด้านการตัดไม้ทำลายป่าเป็นกระแสหลักและผู้ที่สนับสนุนโซลูชันนวัตกรรมที่อาศัยธรรมชาติอย่างมีประสิทธิผล เราต้องร่วมมือต่อสู้ด้วยกัน"


งานประชุมนี้จัดขึ้นผ่านทาง Zoom ตั้งแต่เวลา 10.00-11.00 น. ตามเขตเวลาตะวันออกเมื่อวันอังคารที่ 22 กันยายน 2020 โปรดลงทะเบียนตรงนี้: cwnyc.tcgfforestpositive.com


หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสัปดาห์การประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศประจำปี 2020 โปรดเข้าไปที่ : https://www.climateweeknyc.org/event/breaking-chains-cgf-forest-positive-coalition-action


หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวร่วม สมาชิกและเป้าหมาย โปรดเข้าไปที่: www.tcgfforestpositive.com


ข้อมูลเกี่ยวกับประชาคมสินค้าอุปโภคบริโภค :


ประชาคมสินค้าอุปโภคบริโภค ("CGF") คือเครือข่ายอุตสาหกรรมระดับโลกที่มีความเสมอภาค ซึ่งผลักดันโดยสมาชิก เพื่อส่งเสริมการปรับเปลี่ยนหลักปฏิบัติและมาตรฐานในระดับโลกที่ให้บริการแก่อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วโลก ประชาคมนี้ประกอบด้วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารและคณะผู้บริหารระดับสูงของผู้ค้าปลีก ผู้ผลิต ผู้จัดหาบริการ และผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ 400 รายใน 70 ประเทศมารวมตัวกัน และแสดงถึงความหลากหลายของอุตสาหกรรมในแง่ภูมิศาสตร์ ขนาด หมวดหมู่ และรูปแบบของผลิตภัณฑ์ บริษัทสมาชิกมียอดขายรวม 3.5 ล้านล้านยูโร และว่าจ้างพนักงานเกือบ 10 ล้านคนโดยตรง โดยประมาณการว่ามีตำแหน่งงานเกี่ยวข้องภายในห่วงโซ่คุณค่า 90 ล้านตำแหน่ง ประชาคมนี้กำกับดูแลโดยคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารของผู้ผลิตและผู้ค้าปลีก 58 คน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม: www.theconsumergoodsforum.com




No comments:

Post a Comment