Tuesday, October 31, 2017

ผลวิจัยเผยการใช้ยาแอสไพรินในระยะยาวช่วยลดการเกิดมะเร็งในระบบทางเดินอาหารได้สูงสุด 47%

          ผลวิจัยใหม่ล่าสุดที่ได้รับการเปิดเผยในการประชุม UEG Week ครั้งที่ 25 แสดงให้เห็นว่า การใช้ยาแอสไพรินในระยะยาวสามารถลดการเกิดมะเร็งในระบบทางเดินอาหารได้อย่างมีนัยสำคัญ

          คณะนักวิจัยได้ทำการศึกษาผู้ป่วยกว่า 600,000 คน โดยเปรียบเทียบกลุ่มผู้ป่วยที่แพทย์สั่งให้กินยาแอสไพรินในระยะยาว (อย่างน้อย 6 เดือน, ค่าเฉลี่ย 7.7 ปี) กับกลุ่มที่ไม่ได้ใช้ยาแอสไพริน เพื่อประเมินการเกิดโรคมะเร็งชนิดต่างๆ ซึ่งผลปรากฏว่า กลุ่มที่ใช้ยาแอสไพรินมีอัตราการเกิดมะเร็งตับและมะเร็งหลอดอาหารลดลง 47%, การเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารลดลง 38%, การเกิดมะเร็งตับอ่อนลดลง 34% และการเกิดมะเร็งลำไส้ลดลง 24%

          มะเร็งในระบบทางเดินอาหารคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 4 ของมะเร็งทั้งหมดที่เกิดขึ้นในยุโรป โดยมะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งตับอ่อน ติดท็อป 5 มะเร็งที่คร่าชีวิตผู้ป่วยมากที่สุดในยุโรป ขณะที่มะเร็งในระบบทางเดินอาหารทั้งหมดคร่าชีวิตผู้ป่วยคิดเป็นสัดส่วนถึง 30.1%

          แอสไพรินถูกนำไปใช้ทั่วโลกเพื่อรักษาอาการต่างๆ ตั้งแต่บรรเทาอาการปวดในระยะสั้นไปจนถึงระยะยาว แม้วงการแพทย์ยังคงถกเถียงกันในเรื่องของการใช้ยาแอสไพริน ทว่าผลวิจัยเมื่อไม่นานมานี้บ่งชี้ว่า ผู้ป่วยที่หยุดใช้ยาแอสไพรินมีแนวโน้มเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหลอดเลือดสมองหรือภาวะหัวใจวาย มากกว่าผู้ป่วยที่กินยาแอสไพรินต่อเนื่องมากถึง 37%
จุดที่เกิดมะเร็ง   อัตราการเกิดมะเร็งที่ลดลงในกลุ่มผู้ใช้ยาแอสไพริน 

          นอกจากนี้ ผลของการใช้ยาแอสไพรินในระยะยาวที่มีต่อการเกิดโรคมะเร็งยังแสดงให้เห็นนอกระบบทางเดินอาหารเช่นกัน โดยพบว่าอัตราการเกิดมะเร็งบางชนิดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งปอด และมะเร็งต่อมลูกหมาก) แต่มะเร็งบางชนิดก็ไม่มีผล (มะเร็งทรวงอก มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งไต และมัลติเพิล มัยอิโลมา)

          Professor Kelvin Tsoi หัวหน้าคณะนักวิจัยจาก Chinese University of Hong Kong ได้นำเสนอผลการค้นพบดังกล่าวในวันนี้ ระหว่างการประชุม UEG Week ครั้งที่ 25 ซึ่งจัดขึ้นที่บาร์เซโลนา พร้อมกับระบุว่า "ผลการค้นพบแสดงให้เห็นว่า การใช้ยาแอสไพรินในระยะยาวสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งพบว่าอัตราการเกิดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ที่เด่นชัดที่สุดคือมะเร็งตับและมะเร็งหลอดอาหาร"



No comments:

Post a Comment