Tuesday, March 25, 2025

จุฬาฯ อันดับ 1 มหาวิทยาลัยไทย Top ของประเทศ 34 สาขา จัดอันดับโดย QS University Rankings by Subject 2025

 


จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ ของไทยถึง 34 สาขา จากการจัดอันดับโดย QS University Rankings by Subject 2025 ซึ่งประกาศผลเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568

สาขาวิชาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ ของไทย ได้แก่

  • Accounting & Finance
  • Anthropology
  • Architecture / Built Environment
  • Arts & Humanities
  • Business & Management Studies
  • Chemistry
  • Computer Science
  • Dentistry
  • Economics & Econometrics
  • Education
  • Engineering & Technology
  • Engineering – Chemical
  • Engineering – Civil & Structural
  • Engineering – Electrical
  • Engineering – Mechanical
  • Engineering – Mineral & Mining
  • Engineering – Petroleum
  • English Language & Literature
  • Environmental Sciences
  • Geography
  • History
  • Law
  • Linguistics
  • Materials Science
  • Modern Languages
  • Natural Sciences
  • Physics & Astronomy
  • Politics & International Studies
  • Social Policy & Administration
  • Social Sciences & Management
  • Sociology
  • Sports-related Subjects
  • Theology & Religious Studies
  • Veterinary Science

QS World University Rankings เป็นหนึ่งในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก

ผลการจัดอันดับ QS University Rankings by Subject 2025 พิจารณาจาก 5 ตัวชี้วัด ได้แก่

  1. ชื่อเสียงทางวิชาการ (Academic Reputation)
  2. ชื่อเสียงจากผู้จ้างงาน (Employer Reputation)
  3. งานวิจัยและการอ้างอิงต่อจำนวนผลงานวิจัย (Research Citations per Paper)
  4. ดัชนีการประเมินคุณภาพผลงานตีพิมพ์ในวารสาร (H-index)
  5. เครือข่ายความร่วมมือวิจัยนานาชาติ (International Research Network)

ติดตามผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยเพิ่มเติมได้ที่ https://www.topuniversities.com/subject-rankings

“จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยที่สร้างนวัตกรรมเพื่อสังคม และได้รับการจัดอันดับว่าเป็นมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงติด 100 อันดับแรกของโลกด้านชื่อเสียงทางวิชาการ โดย (QS) World University Rankings 2021-2022

Chula Ranked #1 in Thailand Across 34 Subjects in QS University Rankings by Subject 2025

 


Chulalongkorn University has been recognized as the leading university in Thailand across 34 subjects in the QS University Rankings by Subject 2025, announced on March 12, 2025.

Subjects ranked #1 in Thailand: 

  • Accounting & Finance 
  • Anthropology   
  • Architecture / Built Environment   
  • Arts & Humanities   
  • Business & Management Studies   
  • Chemistry   
  • Computer Science   
  • Dentistry   
  • Economics & Econometrics   
  • Education   
  • Engineering & Technology   
  • Engineering—Chemical   
  • Engineering—Civil & Structural   
  • Engineering – Electrical   
  • Engineering—Mechanical   
  • Engineering – Mineral & Mining   
  • Engineering – Petroleum   
  • English Language & Literature   
  • Environmental Sciences   
  • Geography   
  • History   
  • Law   
  • Linguistics   
  • Materials Science   
  • Modern Languages   
  • Natural Sciences   
  • Physics & Astronomy   
  • Politics & International Studies   
  • Social Policy & Administration   
  • Social Sciences & Management   
  • Sociology   
  • Sports-related Subjects   
  • Theology & Religious Studies   
  • Veterinary Science   

The QS World University Rankings is one of the most widely recognized university ranking systems globally. The 2025 edition evaluated over 1,500 institutions across 55 subjects, making it the most extensive to date. 

Ranking Methodology: 

The QS University Rankings by Subject 2025 is based on five indicators: 

1. Academic Reputation   
2. Employer Reputation   
3. Research Citations per Paper   
4. H-index (research publication impact)   
5. International Research Network 

For more detailed information on university rankings, follow updates at: https://www.topuniversities.com/subject-rankings

“Chulalongkorn University sets the standard as a university of innovations for society and is listed in the World’s Top 100 Universities for Academic Reputation, in the Quacquarelli Symonds (QS) World University Rankings 2021-2022.”

Monday, March 24, 2025

"พอร์ทัลเทคโนโลยีการดูแลระยะยาว" เปิดตัวเวอร์ชันภาษาอังกฤษแล้ว นำเสนอนวัตกรรมล่าสุดด้านการดูแลและเทคโนโลยีผู้สูงวัยในญี่ปุ่น

สำนักงานบริหารพอร์ทัลหุ่นยนต์ช่วยดูแลระยะยาว

          สำนักงานบริหารพอร์ทัลหุ่นยนต์ช่วยดูแลระยะยาวได้เปิดตัว "พอร์ทัลเทคโนโลยีการดูแลระยะยาว" เวอร์ชันภาษาอังกฤษแล้วเป็นที่เรียบร้อย ( https://robotcare.jp/en/home/index?type=pw ) ซึ่งเป็นเว็บที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับนวัตกรรมล้ำสมัยในการดูแลและเทคโนโลยีสำหรับผู้สูงวัยในญี่ปุ่น
          รูปภาพ 1: https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M108324/202503045133/_prw_PI1fl_ZPnxc6Qp.png
          เว็บไซต์นี้นำเสนอข้อมูลที่หลากหลายเกี่ยวกับเทคโนโลยีการดูแลระยะยาว โดยมุ่งส่งเสริมการพัฒนาและการนำไปใช้จริงในสถานพยาบาล ทางสำนักงานได้จัดทำเว็บไซต์ภาษาอังกฤษขึ้นมาให้ผู้สนใจจากต่างประเทศ เพื่อแนะนำเทคโนโลยีทันสมัยของญี่ปุ่น ผู้เข้าชมจะได้เรียนรู้วิธีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ในสังคมสูงวัยขั้นสุดของญี่ปุ่น โดยเว็บไซต์นี้ได้รับการสนับสนุนจากองค์การวิจัยและพัฒนาการแพทย์แห่งญี่ปุ่น (AMED, https://www.amed.go.jp/en/index.html )
          เว็บไซต์นี้มุ่งช่วยให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการดูแลระยะยาวเข้าใจวิธีใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในสถานการณ์เหล่านี้ พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาและการนำไปใช้จริง เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลหลากหลายเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีการดูแลระยะยาวไปใช้ในสถานพยาบาลและการพัฒนาอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึง "โครงการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีการดูแลระยะยาว" ซึ่งขับเคลื่อนโดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม และองค์การ AMED
          เนื้อหาในเว็บไซต์ (บางส่วนอยู่ระหว่างจัดทำ)
- รายการเทคโนโลยีล้ำสมัยในการดูแลระยะยาวที่ได้รับการสนับสนุนจาก AMED ในญี่ปุ่น
          รูปภาพ 2: https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M108324/202503045133/_prw_PI2fl_Uqr6hM7r.png
          - วิดีโอสาธิตในการนำเทคโนโลยีการดูแลระยะยาวไปใช้จริง
มีการเผยแพร่วิดีโอให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีล้ำสมัยในการดูแลระยะยาว โดยแนะนำเทคโนโลยีที่ว่านี้ใน 10 ประเภทด้วยกัน พร้อมแสดงวิธีการนำไปใช้งานในพื้นที่จริง (เนื้อหาบางส่วนอยู่ระหว่างการจัดเตรียม)
          รูปภาพ 3: https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M108324/202503045133/_prw_PI3fl_khnqmWRJ.png
          - วิดีโอและบทความพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการดูแลระยะยาว
นักพัฒนา นักวิจัย และผู้ให้บริการดูแล ร่วมกันพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานในพื้นที่จริง ปัญหาท้าทายในปัจจุบัน และอนาคตในอุดมคติ
          *เนื้อหาจะได้รับการปรับปรุงตามความเหมาะสม
          ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีการดูแลระยะยาวในญี่ปุ่นได้ที่:
พอร์ทัลเทคโนโลยีการดูแลระยะยาว
https://robotcare.jp/en/home/index?type=pw

เจาะเทรนด์ "ซูชิ" เมนูฮิตติดกระแส คนแชร์สนั่นรีวิวแน่น

          "ซูชิ" อาหารญี่ปุ่นยอดนิยมที่ครองใจคนไทยมาทุกยุค ตั้งแต่โอมากาเสะสุดหรู ร้านเชนในห้างสรรพสินค้าไปจนถึงซูชิตลาดนัดราคาย่อมเยา ความนิยมนี้สะท้อนผ่านกระแสโซเชียลมีเดียที่พุ่งแรงจากยอดเอ็นเกจเมนต์ (Engagement) และการกล่าวถึง (Mention) ผู้บริโภคต่างให้ความสนใจและแชร์ประสบการณ์การลิ้มรสซูชิกันอย่างคึกคัก ไม่ใช่แค่ความอร่อย แต่รวมถึงร้านซูชิแนวใหม่ที่มอบประสบการณ์ให้กับผู้บริโภคที่แตกต่างไปจากเดิม
          บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ได้รวบรวมข้อมูลจากโซเชียลมีเดียผ่านเครื่องมือ DXT360 เพื่อฟังความคิดเห็นของผู้บริโภคในสังคมออนไลน์ (Social Listening) ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 15 มีนาคม 2568 เพื่อนำมาวิเคราะห์ Insight เกี่ยวกับความนิยมและพฤติกรรมการบริโภคซูชิในไทย พร้อมเผยร้านดังที่ถูกพูดถึงมากที่สุด และเมนูยอดฮิตที่คนแชร์สนั่น

เปิดศึกซูชิ เจาะแบรนด์ดัง ใครมาแรง!

          จากข้อมูล Social Listening พบว่า Sushiro เป็นหนึ่งในแบรนด์ซูชิสายพานที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดบนโซเชียลมีเดีย ด้วย Engagement สูงถึง 48% ซึ่งสะท้อนถึงความนิยมของซูชิสายพานที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ เนื่องจากความสะดวก รวดเร็ว รับประทานง่าย รวมถึงมีเครือข่ายสาขาที่ครอบคลุมทำให้เข้าถึงได้ง่าย นอกจากนี้ Katsu Midori ซึ่งเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาดไทยก็ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว ด้วย Engagement 18% แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตในกลุ่มซูชิสายพานเช่นกัน
          สำหรับ Shinkanzen ซึ่งเป็นแบรนด์สัญชาติไทย ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซูชิคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ ด้วย Engagement 12% ขณะที่ซูชิระดับพรีเมียมอย่าง Kouen (9%) และ Maguro (7%) ก็ยังได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าที่มองหาซูชิคุณภาพสูง โดยมีฐานลูกค้าประจำที่แข็งแกร่ง
          ในส่วนของแบรนด์อื่นๆ (6%) แม้อาจมีสัดส่วน Engagement ที่น้อยกว่า แต่ก็ยังคงมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นและมีกระแสบนโซเชียลอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าตลาดซูชิยังมีความหลากหลาย และมีแนวโน้มเติบโตในทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นซูชิสายพาน ซูชิพรีเมียม หรือซูชิทั่วไป

ชาวเน็ตว่าไง? ส่องกระแสซูชิที่ทุกคนพูดถึง

          เคยสงสัยไหมว่าคนบนโลกออนไลน์พูดถึงซูชิอย่างไรกันบ้าง? วันนี้เรามาเจาะลึกคำพูดเกี่ยวกับซูชิที่ถูกพูดถึงมากที่สุดบนโซเชียลมีเดีย ผ่านข้อมูลจาก Social Listening มาดูกันว่าชาวเน็ตคิดเห็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นคำพูดยอดฮิตที่พูดถึงซูชิในด้านต่างๆ หรือเทรนด์การกินที่กำลังมาแรง!"
          เมื่อพูดถึง "ซูชิ" ผู้ใช้โซเชียลมีเดียส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับ ความสดใหม่ มากที่สุด เพราะซูชิที่ดีต้องเริ่มจากวัตถุดิบคุณภาพสูง สดจากท้องทะเล และผ่านการจัดเตรียมอย่างพิถีพิถัน คำว่า "สดใหม่" ปรากฏในบทสนทนาของผู้บริโภคจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงความคาดหวังต่อรสสัมผัสที่เป็นธรรมชาติ สะอาด ไม่มีกลิ่นคาว และนอกจากความสดแล้ว คำว่า "ระดับพรีเมียม" ก็ปรากฏบ่อยครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยไม่ได้ต้องการแค่ซูชิธรรมดา แต่ต้องการซูชิที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง มีมาตรฐานดีเยี่ยม และอาจต้องมีความเป็น "ต้นตำรับ" ตามแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ ด้วย
          อีกปัจจัยที่ได้รับการพูดถึงไม่น้อยคือ ความคุ้มค่า คำว่า "สุดคุ้ม" และ "คุ้มค่า" ปรากฏในบทสนทนาเกี่ยวกับซูชิ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงให้ความสำคัญกับสมดุลระหว่าง คุณภาพและราคา แสดงให้เห็นว่าแม้ซูชิจะเป็นอาหารระดับพรีเมียม แต่ผู้คนยังคงต้องการความเหมาะสมระหว่างราคากับคุณภาพอยู่
          นอกจากนี้ คำว่า "ไม่อั้น" ก็ถูกพูดถึงไม่น้อย ซึ่งสะท้อนถึงความนิยมของบุฟเฟต์ซูชิ ในกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการรับประทานซูชิแบบจุใจ โดยยังให้ความสำคัญกับปริมาณและความอิ่มคุ้มค่า
          จากข้อมูล Social Listening แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคให้ความสำคัญกับ ความสดใหม่ที่มีคุณภาพระดับพรีเมียม ความคุ้มค่า และทานจุแบบไม่อั้น ซึ่งสะท้อนออกมาในบทสนทนาเกี่ยวกับร้านซูชิที่ถูกพูดถึงมากที่สุด เช่น แบรนด์ซูชิสายพาน ที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มที่มองหาความสะดวกและรวดเร็ว ร้านซูชิระดับพรีเมียม ที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการประสบการณ์แบบต้นตำรับ และ ร้านบุฟเฟต์ซูชิ ที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับปริมาณและความคุ้มค่า
          ด้วยแนวโน้มเหล่านี้ ทำให้ตลาดซูชิยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มซูชิสายพาน พรีเมียม และบุฟเฟต์ ซึ่งแต่ละแบรนด์ต่างพัฒนาเมนูและบริการให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

Sushiro vs. Katsu Midori: ซูชิสายพานที่ถูกพูดถึงมากที่สุดบนโซเชียล

          จากข้อมูล Social Listening พบว่า Sushiro และ Katsu Midori เป็นสองแบรนด์ซูชิสายพานที่ได้รับการพูดถึงอย่างมากบนโซเชียลมีเดีย ทั้งสองร้านเป็นแบรนด์จากญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์และแนวทางการให้บริการแตกต่างกัน ทำให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการไม่เหมือนกัน
          แม้ว่าทั้งสองร้านจะให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัตถุดิบ ความพิถีพิถันในการทำซูชิ และประสบการณ์การรับประทาน แต่ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันในแง่ของราคา การเข้าถึง และรูปแบบการให้บริการ
          Sushiro ซูชิสายพานที่เข้าถึงง่ายและเมนูหลากหลาย
          Sushiro เป็นหนึ่งในแบรนด์ซูชิสายพานที่มีเครือข่ายสาขาครอบคลุม โดยมีสาขาทั้งหมดถึง 32 สาขาทั่วประเทศ ทำให้เข้าถึงได้ง่ายและสะดวกสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการซูชิคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้ จุดเด่นของ Sushiro คือ ความหลากหลายของเมนู ซึ่งมีทั้งปลาดิบและซูชิที่ใช้วัตถุดิบปรุงสุกอย่างเช่น ซูชิหน้าไก่ทอด และอื่น ๆ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ไม่รับประทานปลาดิบ นอกจากนี้ การให้บริการผ่านระบบสายพานอัตโนมัติช่วยเพิ่มความรวดเร็วและสะดวกสบาย แม้ว่าจะไม่มีบริการรับซูชิจากเชฟโดยตรงแบบโอมากาเสะก็ตาม
          Katsu Midori ซูชิพรีเมียมจากโตเกียวเน้นประสบการณ์ใกล้เคียงต้นตำรับ
          Katsu Midori เป็นแบรนด์ซูชิสายพานจากโตเกียวที่เพิ่งเปิดตัวในไทย และได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วแม้จะมีเพียง 1 สาขาที่ Central World แต่ก็มาพร้อมกับจุดเด่นที่แตกต่างจากซูชิสายพานทั่วไป โดยเน้น วัตถุดิบระดับสูง และยังสามารถเลือกสัมผัสประสบการณ์รับประทานอาหารสดใหม่ เสิร์ฟตรงจากมือเชฟ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสบรรยากาศร้านซูชิแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ด้วยความที่เมนูของ Katsu Midori ส่วนใหญ่เป็นอาหารจำพวกปลาดิบ ทำให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบซูชิแบบต้นตำรับมากกว่ากลุ่มที่ต้องการตัวเลือกเมนูที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัจจุบันมีเพียง 1 สาขา จึงอาจต้องใช้เวลารอคิวมากกว่าร้านที่มีสาขาจำนวนมาก
          แม้ว่าทั้งสองแบรนด์จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ คุณภาพและรสชาติ ที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค ซึ่งช่วยให้ซูชิสายพานได้รับความนิยมในไทย

          เจาะลึกซูชิหน้าโปรด "แซลมอน" ครองแชมป์

          "ซูชิ" อาหารที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทั้งรสชาติและวัตถุดิบ ทำให้เป็นเมนูที่ถูกใจทั้งผู้ที่ชื่นชอบรสชาติดั้งเดิมแบบคลาสสิกไปจนถึงผู้ที่ต้องการลิ้มลองรสชาติแปลกใหม่ด้วยตัวเลือกที่หลากหลาย การเลือกหน้าซูชิจึงเป็นอีกความสนุกที่เพิ่มมิติให้มื้ออาหาร เพราะแต่ละหน้ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาดูกันว่าเมนูไหนที่คนไทยนิยมมากที่สุด ด้วยยอดการกล่าวถึง (Mention) บนโซเชียลมีเดีย
          เมนูอันดับ 1 ที่ได้รับการกล่าวถึง (Mention) มากที่สุดถึง 27% คือ "ซูชิแซลมอน (Salmon Sushi)" ซึ่งยังคงครองใจคนไทยได้อย่างเหนียวแน่น ด้วยความสดใหม่ของเนื้อปลาแซลมอนที่มีรสชาติหวานมันและเนื้อสัมผัสนุ่ม นอกจากความอร่อยแล้ว แซลมอนยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและได้ประโยชน์จากกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ดีต่อสุขภาพ ซูชิแซลมอนจึงเป็นเมนูที่หลายคนเลือกเป็นตัวเลือกแรกสำหรับซูชิ และครองใจนักทานทั้งหน้าใหม่และขาประจำ
          เมนูอันดับ 2 คือ "ซูชิกุ้ง (Ebi Sushi)" ซึ่งได้รับการกล่าวถึง (Mention) 20% ซูชิกุ้งเป็นอีกหนึ่งเมนูที่นิยมอย่างมาก ด้วยรสชาติที่หวานและเนื้อสัมผัสที่หนึบหนับของเนื้อกุ้ง นอกจากนี้ ซูชิกุ้งยังมักจะทาซอสหรือเพิ่มเครื่องเทศเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความเข้มข้นและรสชาติให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จึงทำให้ซูชิกุ้งเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับคนที่อยากสัมผัสรสชาติที่ไม่หนักมากและยังสามารถทานได้ทุกวัย
          เมนูอันดับ 3 คือ "ซูชิหน้าไก่ทอด (Crispy Chicken Sushi)" ได้รับการกล่าวถึง 15% เป็นเมนูซูชิฟิวชั่นที่มีความแปลกใหม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบทานปลาดิบ โดยการใช้เนื้อไก่ทอดกรอบมาวางบนข้าวปั้นซูชิแทนการใช้ปลาดิบ ทำให้ได้รสชาติที่กรอบอร่อยและเข้ากันได้ดีราวกับซูชิแบบดั้งเดิม ซูชิหน้าไก่ทอดจึงเป็นทางเลือกยอดนิยมที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ที่ไม่ทานปลาดิบและผู้ที่ต้องการสัมผัสรสชาติใหม่ ๆ โดยยังคงคอนเซปต์ความอร่อยและความเป็นซูชิได้อย่างลงตัว
          นอกจากนี้ เมนูซูชิอื่น ๆ ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดย "ซูชิทูน่า" (Maguro Sushi) มีการกล่าวถึง 9%, ตามมาด้วย "ซูชิซาบะ" (Mackerel Sushi) 7%, "ซูชิหน้าปลาไหล" (Unagi Sushi) 6%, และ "ซูชิปลาหมึก" (Ika Sushi) 6% ขณะที่เมนูอื่น ๆ รวมกันคิดเป็น 10% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความหลากหลายของซูชิยังคงเป็นที่สนใจของผู้บริโภค ซูชิจึงเป็นเมนูที่ตอบโจทย์รสนิยมที่แตกต่างกันได้เป็นอย่างดี ให้ทุกคนเลือกรับประทานตามความชื่นชอบส่วนตัวได้อย่างลงตัว

สายพานหมุนไว โซเชียลหมุนตาม! สำรวจเทรนด์ซูชิสายพานที่กำลังบูม

          ซูชิสายพานกำลังเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมในไทย เห็นได้จากการรีวิวและแชร์ประสบการณ์บนโซเชียลอย่างแพร่หลาย จุดเด่นของซูชิสายพานไม่ใช่แค่ความสะดวกและรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังมอบประสบการณ์การรับประทานที่สนุกและเข้าถึงง่าย ทำให้ร้านแนวนี้กลายเป็นจุดเช็กอินที่สายกินไม่ควรพลาด!
          อะไรทำให้ซูชิสายพานเป็นที่พูดถึงบนโซเชียล?
  • สะดวก รวดเร็ว กินได้เลยไม่ต้องรอ: ไม่ต้องสั่งอาหารแล้วรอนาน แค่เลือกหยิบจานจากสายพานก็กินได้ทันที เหมาะสำหรับมื้อเร่งด่วน หรือคนที่ไม่อยากเสียเวลารออาหารทีละเมนู
  • ราคาเข้าถึงง่าย กินได้ตามงบ: ซูชิสายพานมีราคาหลากหลาย เริ่มต้นเพียงหลักสิบบาทต่อจาน สามารถเลือกกินได้ตามงบประมาณได้ ไม่ต้องจ่ายแพง
  • เมนูหลากหลาย ถูกใจทุกสไตล์: มีทั้งซูชิแบบดั้งเดิมและซูชิฟิวชั่นที่ปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทย บางร้านมีเมนูพิเศษ เช่น ซูชิหน้าเนื้อวากิว เบอร์เกอร์ซูชิ หรือของหวานสไตล์ญี่ปุ่น
  • ความตื่นเต้นจากสายพาน ดึงดูดให้อยากลอง: เมนูซูชิที่หมุนเวียนผ่านสายพานตลอดเวลา ทำให้รู้สึกสนุกและอยากลองจานใหม่ ๆ ซึ่งการได้เห็นอาหารจริงก่อนหยิบ ทำให้ตัดสินใจง่ายกว่าการอ่านจากเมนู
  • เทคโนโลยีทันสมัย เพิ่มความสะดวก: หลายร้านมีแท็บเล็ตให้สั่งอาหาร พร้อมระบบรางสำหรับเสิร์ฟที่ส่งอาหารจากครัวตรงถึงโต๊ะได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่ต้องรอนาน อีกทั้งระบบสีของจานช่วยให้เข้าใจราคาง่าย เลือกหยิบได้ตามงบ
  • บรรยากาศเป็นกันเอง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์: การแบ่งที่นั่งเป็นสัดส่วนชัดเจน สามารถนั่งกินที่สายพานคนเดียวได้ ไม่ต้องกลัวเขิน บางร้านมีที่นั่งสำหรับกลุ่มสำหรับการนัดสังสรรค์ จึงเหมาะทั้งสำหรับคนที่มาคนเดียวและมากับเพื่อนหรือครอบครัว

          แม้บางร้านจะต้องรอคิวยาว แต่ผู้บริโภคจำนวนมากก็ยินดีรอ เพราะซูชิสายพานมอบทั้งความคุ้มค่า ทั้งราคา คุณภาพ และประสบการณ์การรับประทานที่สนุกและสะดวก เทรนด์นี้จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมในหมู่คนไทย และเปลี่ยนพฤติกรรมการกินซูชิไปจากเดิม ไม่เพียงแต่เป็นอาหารสำหรับโอกาสพิเศษ แต่ยังเป็นมื้อที่สามารถรับประทานได้บ่อยขึ้นอีกด้วย
          เกี่ยวกับ DXT360
          DXT360 เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลข่าวสารได้ทั้งจากโซเชียลมีเดีย สื่อออนไลน์ สื่อบรอดคาสท์ และสื่อสิ่งพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นเสียงของผู้บริโภค (Consumer Voices) คอนเทนต์จาก Influencers และ KOLs ไปจนถึงข่าวจากสื่อมวลชน ที่รวบรวมเข้ามาอยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกัน มีการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบ Dashboard ที่สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการของผู้ใช้งานแต่ละราย (Customizable Dashboard) จึงทำให้เข้าใจและเห็น Insight ในประเด็นต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยให้เห็นทิศทางการสื่อสารของแบรนด์ต่าง ๆ สามารถนำมาต่อยอดเพื่อพัฒนากลยุทธ์การสื่อสารขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

English Version of "Long-term Care Tech Portal" Newly Launched, Introducing Latest Care and Age Tech in Japan

The long-term care robot portal site management office

          The long-term care robot portal site management office released the English version of the "Long-term Care Tech Portal" ( https://robotcare.jp/en/home/index?type=pw ), a portal site providing information on state-of-the-art care and age tech in Japan.
          Image1: https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M108324/202503045133/_prw_PI1fl_ZPnxc6Qp.png
          The portal site provides a wide range of information on long-term care technology with the aim of promoting its development and utilization in nursing care sites. The office has launched an English site for overseas visitors in order to introduce Japan's latest technologies. Visitors can learn how these technologies are being used in Japan's super-aged society. The sponsor of this site is the Japan Agency for Medical Research and Development (AMED, https://www.amed.go.jp/en/index.html ).
          This website aims to help everyone involved in long-term care to understand how such technology can be used safely and effectively in these situations, as well as to encourage its development and use. It has a variety of information about the introduction of long-term care technology to care sites and the development of such devices, including the "Project to Promote the Development of Long-term Care Technology" being promoted by the Ministry of Economy, Trade and Industry and AMED.
          Featured contents (Some items are in preparation)
          - List of cutting-edge long-term care technologies supported by AMED in Japan
          Image2: https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M108324/202503045133/_prw_PI2fl_Uqr6hM7r.png
          - Videos of actual use of long-term care technology
          Among the cutting-edge long-term care technologies in Japan, the videos have been published to introduce 10 types and how they are used in the field. (Some contents are in preparation.)
          Image3: https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M108324/202503045133/_prw_PI3fl_khnqmWRJ.png
          - Videos and articles of discussions with experts on long-term care technology
          Developers, researchers and care providers are discussing their efforts in the field, current issues, and the ideal future.
          *Content will be updated as appropriate.
          For more information about long-term care technology in Japan, please visit:
          Long-term Care Tech Portal
          https://robotcare.jp/en/home/index?type=pw
  

Friday, March 21, 2025

กลุ่ม ทีซีซี เทคโนโลยี จับมือ! ลูกค้า ร่วมแบ่งปันความสุขผ่าน "Turn Gift to Give ปี 3"



          เมื่อเร็วๆนี้ กลุ่ม ทีซีซี เทคโนโลยี ได้ส่งต่อความสุขและโอกาสให้กับสังคม ผ่านโครงการ "Turn Gift to Give" ปีที่ 3 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเปลี่ยนของขวัญเป็นการให้ ร่วมสร้างสังคมที่ดีและยั่งยืนไปด้วยกัน
          สำหรับปีนี้ กลุ่ม ทีซีซี เทคโนโลยี และลูกค้า ได้ร่วมส่งมอบการสนับสนุนให้กับ มูลนิธิกระจกเงา, มูลนิธิคนพิการไทย และ ศิริราชมูลนิธิ ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้การช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนเด็กและเยาวชน ผู้พิการ และการแพทย์

TCC Technology Group, Together with Customers, Spreads Happiness through "Turn Gift to Give Year 3"


          Recently, TCC Technology Group continued our commitment to giving back to society through the "Turn Gift to Give" initiative for the third year. The project aims to transform gifts into acts of giving, fostering a better and more sustainable society.

          This year, TCC Technology Group, together with customers, has extended support to the Mirror Foundation, the Thai with Disability Foundation, and the Siriraj Foundation. These organizations are dedicated to various social causes, including supporting children and youth, empowering people with disabilities, and advancing medical initiatives.