Tuesday, July 8, 2025

EBC มองเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังเสี่ยง ปัจจัยการเมืองภายในกดดัน ตลาดโลกผันผวน เงินเยนแข็ง ดอลลาร์อ่อน

 

แนะจับตาการเมือง-สงครามการค้า โลกการเงินป่วน เงินเยนแข็ง ดอลลาร์อ่อน นักลงทุนต้องวางแผนพอร์ตอย่างรอบคอบ

EBC Financial Group ประเมินภาพเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังยังคงมีความเปราะบางจากหลายปัจจัย ทั้งการเมืองภายในประเทศ ภาคการท่องเที่ยวที่ยังไม่ฟื้นเต็มที่ สงครามการค้าโลก และแนวโน้มเศรษฐกิจหลักอย่างสหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่นที่ยังสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อตลาดการเงินอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญไทยมีคำสั่งให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว จากกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง สมเด็จฮุน เซน จุดชนวนการเมืองไทยให้กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง คำสั่งศาลที่ให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่นั้นเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ครม. ชุดใหม่ “แพทองธาร 2” สะท้อนว่าการเมืองยังเป็นตัวแปรสำคัญที่ฉุดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ปัจจัยกดดันเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง

ข้อมูลของ ธนาคารแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า เศรษฐกิจเดือนพฤษภาคมยังคงชะลอตัว โดยรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติหดตัว 7% จากเดือนก่อนหน้า จำนวนผู้เดินทางลดลง 2.9% โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวระยะไกลที่มีกำลังใช้จ่ายสูง ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมก็ลดกำลังการผลิตลง 0.6% จากแรงกดดันสินค้าคงคลังและการซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมัน ภาคการลงทุนและการบริโภคยังขยายตัวเพียงเล็กน้อย สะท้อนความกังวลเรื่องหนี้ครัวเรือนและนโยบายสหรัฐฯ

EBC Financial Group วิเคราะห์ว่า ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ยังต้องติดตามใกล้ชิดมี 4 ประเด็นหลัก ได้แก่

  • ทิศทางนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และจีน
  • ความเปราะบางของการท่องเที่ยว
  • การปรับตัวของธุรกิจต่อการแข่งขันและพฤติกรรมผู้บริโภค
  • ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และเสถียรภาพทางการเมืองไทย

ตลาดโลกผันผวน

นอกจากปัจจัยภายในแล้ว ความผันผวนในภูมิภาคเอเชียยังรุนแรงขึ้นจากสถานการณ์ล่าสุดในญี่ปุ่นและจีน โดยค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อ USD/JPY ร่วงลงแตะระดับ 143.50 หลังผลสำรวจ BoJ Tankan ไตรมาส 2 ของญี่ปุ่นส่งสัญญาณเชิงบวกเหนือคาดเล็กน้อย สะท้อนความเชื่อมั่นธุรกิจภาคการผลิตที่ฟื้นตัว ขณะที่ Manufacturing PMI เดือนมิถุนายนของญี่ปุ่นกลับมาสูงกว่า 50 เป็นครั้งแรกในรอบ 13 เดือน แม้ภาพรวมธุรกิจบริการและผู้ผลิตยังประเมินว่าภาวะเศรษฐกิจใน 3 เดือนข้างหน้าอาจอ่อนตัวลง

ขณะที่จีนเองก็มีสัญญาณฟื้นตัวในฝั่งอุตสาหกรรมเช่นกัน โดยดัชนี Caixin Manufacturing PMI เดือนมิถุนายนดีดขึ้นแตะ 50.4 จาก 48.3 เดือนก่อนหน้า ส่งสัญญาณกลับสู่โซนขยายตัว แม้คำสั่งซื้อส่งออกยังอ่อนแรงและภาคจ้างงานยังหดตัว สะท้อนว่าการเติบโตยังต้องพึ่งนโยบายกระตุ้นจากภาครัฐต่อไป

อีกด้านหนึ่ง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์ยังใกล้ระดับต่ำสุดรอบ 3 ปี หลังตลาดเชื่อว่า Fed มีแนวโน้มจะลดดอกเบี้ยภายในกันยายนนี้ ประกอบกับความกังวลต่อ “Big Beautiful Bill” ของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่อาจเพิ่มภาระหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ อีกกว่า 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ในทศวรรษหน้า สร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศลงทุนทั่วโลก

สถานการณ์นี้ส่งผลให้ค่าเงินในเอเชียหลายสกุลยังเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด ท่ามกลางความไม่แน่นอนเรื่องสงครามการค้าใหม่ที่ทรัมป์ขู่จะกดดันญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นด้วยมาตรการภาษีข้าว และยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนก่อนกำหนดเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคมนี้

สำหรับประเทศไทย แม้เงินบาทยังแข็งค่าตามภูมิภาค ล่าสุดอยู่ที่ 32.63 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบควบคุม แต่ภาพรวมเศรษฐกิจยังคงเปราะบาง โดย GDP อาจขยายตัวได้เพียง 1.5–1.7% ตามการประเมินของหลายสำนักวิจัย หากการเมืองภายในยืดเยื้อ และแรงส่งจากการท่องเที่ยว-การส่งออกแผ่วลง

EBC Financial Group จึงแนะนำนักลงทุนและภาคธุรกิจไทยให้จับตาปัจจัยความเสี่ยงทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด บริหารพอร์ตลงทุนอย่างระมัดระวัง และติดตามพัฒนาการด้านนโยบายการค้า สงครามภาษี รวมถึงทิศทางดอกเบี้ยของ Fed ที่ยังเป็นตัวแปรสำคัญต่อทิศทางค่าเงินและตลาดการเงินโลกในช่วงครึ่งปีหลังนี้

เกี่ยวกับ EBC Financial Group

EBC Financial Group (EBC) ก่อตั้งขึ้นในย่านการเงินที่มีชื่อเสียงของกรุงลอนดอน เป็นแบรนด์ด้านโบรกเกอร์การเงินและการบริหารจัดการสินทรัพย์ ผ่านหน่วยงานที่ได้รับการควบคุมในหลายเขตการเงิน เช่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย หมู่เกาะเคย์แมน มอริเชียส และอื่น ๆ

ในฐานะพันธมิตรอย่างเป็นทางการด้านการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของทีมฟุตบอล FC Barcelona, EBC ให้บริการเฉพาะทางครอบคลุมภูมิภาคเอเชีย ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง แอฟริกา และโอเชียเนีย นอกจากนี้ EBC ยังร่วมมือกับองค์กร United to Beat Malaria เพื่อสนับสนุนโครงการสุขภาพทั่วโลก และสนับสนุนโครงการ “What Economists Really Do” ของภาควิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ซึ่งเป็นการส่งเสริมความเข้าใจและบทสนทนาเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์และการนำไปประยุกต์ใช้กับความท้าทายทางสังคมอย่างกว้างขวาง

“ไบรท์ตัน คอลเลจ” จากอังกฤษ เปิดตัวแคมปัสใหม่ในไทย “ไบรท์ตัน คอลเลจ วิภาวดี” เปิดบทใหม่การศึกษาระดับโลก โดยเปิดตัวครูใหญ่ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษานานาชาติ


ไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ วิภาวดี ขอแสดงความยินดีและต้อนรับ นายคริสเปียน วอเตอร์แมน อาจารย์ใหญ่คนใหม่ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษานานาชาติที่เข้ารับตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ผู้ก่อตั้ง ก่อนที่โรงเรียนจะเปิดการเรียนการสอนในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2568

ผู้นำแห่งวงการการศึกษา

นายวอเตอร์แมน มาพร้อมประสบการณ์อันยาวนานกว่า 20 ปี ในสายงานการศึกษานานาชาติ โดยเคยดำรงตำแหน่งบริหารระดับสูงในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งอังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ ฮ่องกง เกาหลีใต้ และประเทศไทย ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ล้ำค่าของท่านจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาสถาบันการศึกษาแห่งใหม่นี้

“นี่คือบทบาทใหม่ที่น่าตื่นเต้นอย่างมากในวงการการศึกษา โรงเรียนนานาชาติ ไบรท์ตัน คอลเลจ วิภาวดี กำลังจะเปิดสอนพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ยอดเยี่ยม สังคมที่มีชีวิตชีวา เรากำลังสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เต็มไปด้วยโอกาส นี่จะเป็นโรงเรียนที่มีรากฐานในการสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ ได้เป็นตัวเองในรูปแบบที่ดีที่สุด – เด็กๆ ที่มีความเมตตากรุณา เคารพผู้อื่น มีความใฝ่รู้ทางวิชาการ และมั่นใจในตนเอง พร้อมที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างโลกที่ดีกว่าสำหรับคนรุ่นต่อไป” นายคริสเปียน วอเตอร์แมน กล่าว

ส่วนหนึ่งของเครือข่ายการศึกษาระดับโลก

ไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ วิภาวดี เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวโรงเรียนไบรท์ตัน คอลเลจ ทั่วโลก ซึ่งมีโรงเรียนในเครือ ในสหราชอาณาจักร สิงคโปร์ เวียดนาม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (อาบูดาบี อัลไอน์ และดูไบ) และ ถ.กรุงเทพกรีฑา กรุงเทพมหานคร เครือข่ายนานาชาตินี้เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ร่วมมือ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และเสริมสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการในระดับโลก

ไบรท์ตัน คอลเลจ สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นต้นแบบ ได้รับรางวัล ‘โรงเรียนแห่งทศวรรษ’ จากหนังสือพิมพ์ The Sunday Times และได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่องในฐานะโรงเรียนเอกชนชั้นนำของสหราชอาณาจักร ในปี พ.ศ. 2567 นักเรียนของไบรท์ตัน คอลเลจ ได้คะแนนสอบที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับโรงเรียนทั้งหมดในสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติให้เป็น ‘โรงเรียนอันดับหนึ่งในอังกฤษสำหรับ STEM’ และ ‘หลักสูตรระดับมัธยมปลายที่ดีที่สุดในอังกฤษ’

สิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลก

ไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ วิภาวดี ภูมิใจนำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นเลิศที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในทุกมิติ ประกอบด้วยห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย พื้นที่สร้างสรรค์และเทคโนโลยี รวมถึงเวิร์กช็อปเทคโนโลยีการออกแบบและห้องปฏิบัติการหุ่นยนต์ โรงละครขนาด 370 ที่นั่งที่ตกแต่งอย่างสวยงาม 

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกทางการศึกษา โรงเรียนมีห้องเรียนร่วมสมัยกว่า 70 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องพร้อมด้วยเครื่องมือการสอนดิจิทัล แบ่งเป็นกลุ่มระดับ ประถม มัธยม และกลุ่มเด็กปฐมวัย ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับเด็กเล็ก

สำหรับกิจกรรมนันทนาการ โรงเรียนมีโรงยิมภายในอาคารขนาดใหญ่ที่รองรับสนามบาสเก็ตบอลขนาดมาตรฐานสองสนาม สระว่ายน้ำลอยฟ้า 8 เลน ยาว 25 เมตร พร้อมสนามกีฬาขนาดมาตรฐาน และลู่วิ่งยาว 100 เมตร

ที่สำคัญคือ โรงเรียนให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ด้วยการออกแบบวิทยาเขตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ระบบปรับอากาศและกรองอากาศทั่วทุกอาคาร และใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากดาดฟ้า

โปรโมชั่นพิเศษช่วงเปิดตัว

เพื่อฉลองการเปิดตัว ไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ วิภาวดี ขอนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษสำหรับครอบครัวที่สมัครเรียนในช่วงปีการศึกษาแรกนี้ เนื่องจากจำนวนที่นั่งมีอย่างจำกัด ผู้ปกครองที่สนใจสามารถติดต่อทีมรับสมัครเพื่อจองที่นั่งได้ที่ admissions@brightoncollegevibhavadi.com หรือติดตามข่าวสารได้ที่หน้าเฟซบุ๊ก Brighton College Vibhavadi

ภายใต้การนำของนายวอเตอร์แมน นักเรียนของไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ วิภาวดี จะได้รับการศึกษาที่เป็นเลิศ ซึ่งมีรากฐานมาจากค่านิยมหลักของไบรท์ตัน คอลเลจ คือ ความใฝ่รู้ ความมั่นใจ และความเมตตากรุณา

ไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ วิภาวดี ขอแสดงความยินดีต้อนรับอาจารย์ใหญ่คนใหม่ นายคริสเปียน วอเตอร์แมน

ด้วยความเป็นเกียรติและความปลาบปลื้มใจอย่างยิ่ง เราขอประกาศการแต่งตั้งนายคริสเปียน วอเตอร์แมน ให้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ผู้ก่อตั้ง ของไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ วิภาวดี ซึ่งจะเปิดให้บริการการศึกษาในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2568

นายวอเตอร์แมน ผู้ทรงคุณวุฒิ มีประสบการณ์อันยาวนานกว่า 20 ปี ในสายงานการศึกษานานาชาติ รวมถึงการดำรงตำแหน่งบริหารระดับสูงในประเทศอังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ ฮ่องกง เกาหลีใต้ และประเทศไทย ท่านได้นำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์อันล้ำค่ามาสู่สถาบันการศึกษาแห่งนี้

ภายใต้การนำของนายวอเตอร์แมน นักเรียนของไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ วิภาวดี จะได้รับการศึกษาที่เป็นเลิศ ซึ่งมีรากฐานมาจากค่านิยมหลักของไบรท์ตัน คอลเลจ คือ ความอยากรู้อยากเห็น ความมั่นใจ และความเมตตากรุณา

“นี่คือบทใหม่ที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริงในเรื่องราวของไบรท์ตัน คอลเลจ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ยอดเยี่ยม ชุมชนที่มีชีวิตชีวา เรากำลังสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เต็มไปด้วยโอกาส นี่จะเป็นโรงเรียนที่มีรากฐานในการสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ เป็นตัวตนที่ดีที่สุดของพวกเขา – เด็กๆ ที่มีความเมตตากรุณา เคารพผู้อื่น มีความทะเยอทะยานทางวิชาการ และมั่นใจในตนเอง พร้อมที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างโลกที่ดีกว่าสำหรับคนรุ่นต่อไป”

– นายคริสเปียน วอเตอร์แมน อาจารย์ใหญ่

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณวอเตอร์แมน คลิกที่นี่

ไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ วิภาวดี เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวใหญ่ของโรงเรียนไบรท์ตัน คอลเลจ ทั่วโลก โดยมีโรงเรียนพี่น้องในสหราชอาณาจักร สิงคโปร์ เวียดนาม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (อาบูดาบี อัลไอน์ และดูไบ) และในส่วนอื่นๆ ของกรุงเทพมหานคร เครือข่ายนานาชาตินี้มอบโอกาสอันมีคุณค่าแก่เด็กๆ ในการร่วมมือ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และเสริมสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการทั่วโลก

ไบรท์ตัน คอลเลจ สหราชอาณาจักร ซึ่งได้รับรางวัล ‘โรงเรียนแห่งทศวรรษ’ จากหนังสือพิมพ์เดอะ ซันเดย์ ไทมส์ ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่องในฐานะโรงเรียนเอกชนชั้นนำของสหราชอาณาจักร ในปี พ.ศ. 2567 ไบรท์ตัน คอลเลจ ได้คะแนนสอบที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับโรงเรียนทั้งหมดในสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ ไบรท์ตัน คอลเลจ ยังได้รับเกียรติอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ‘โรงเรียนอันดับหนึ่งในอังกฤษสำหรับ STEM’ และ ‘หลักสูตรระดับมัธยมปลายที่ดีที่สุดในอังกฤษ’

Cr. Mr Robert Bendall Head of Preparatory School, คุณ Joanne Wergan ที่ปรึกษาอาวุโสด้านการศึกษาระดับประถมศึกษา, Dr Visut Charoensiriwatana ผู้อำนวยการโรงเรียน, Mr. Crispian Waterman ครูใหญ่คนแรกของ Brighton College Bangkok Vibhavadi, Mr Napong Paripontpochanapisuti กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ และกรรมการบริหารโรงเรียน, คุณ Nicola Collins ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษา, Mr Neil Heyward Head of Senior School. 

10 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นเลิศของไบรท์ตัน คอลเลจ วิภาวดี

1. ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย พร้อมด้วยห้องเตรียมการที่เชื่อมต่อกัน ครบครันด้วยระบบสาธารณูปโภคเพื่อรองรับพื้นที่การเรียนการสอนที่ยืดหยุ่นสำหรับวิชาชีววิทยา เคมี และฟิสิกส์

2. พื้นที่สร้างสรรค์และเทคโนโลยี ประกอบด้วยเวิร์กช็อปเทคโนโลยีการออกแบบ (DT) ที่ครบครัน พื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กเล็ก ห้องปฏิบัติการหุ่นยนต์ และห้องปฏิบัติการออกแบบดิจิทัลและคอมพิวเตอร์ช่วย

3. โรงละครขนาด 370 ที่นั่ง ตกแต่งอย่างสวยงามและพร้อมอุปกรণ์สำหรับจัดการแสดงและการแสดงดนตรีระดับสูง

4. ฝ่ายศิลปะการแสดงที่ครอบคลุม ประกอบด้วยพื้นที่แสดงเดี่ยว ห้องซ้อมกลุ่มและส่วนตัว สตูดิโอละครและเต้นรำ และห้องดนตรีไทย ทั้งหมดได้รับการออกแบบด้านเสียงอย่างยอดเยี่ยม

5. ห้องเรียนร่วมสมัยกว่า 70 ห้อง แต่ละห้องพร้อมด้วยเครื่องมือการสอนดิจิทัลเพื่อมอบสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นเลิศสำหรับการเรียนการสอน

6. ศูนย์มัธยมปลายที่กว้างขวาง พร้อมทั้งพื้นที่ชมรมสำหรับการสังสรรค์และร่วมมือ รวมถึงพื้นที่ศึกษาเฉพาะ

7. หมู่บ้านการเรียนรู้ปฐมวัย ที่ออกแบบมาสำหรับนักเรียนน้อย โดยผสานพื้นที่การเรียนรู้และเล่นทั้งในร่มและกลางแจ้งภายในสภาพแวดล้อมการศึกษาที่อบอุ่นและส่งเสริมการร่วมมือ

8. โรงยิมกีฬาภายในอาคารที่กว้างขวาง มีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับสนามบาสเก็ตบอลเต็มขนาดสองสนาม และรองรับกีฬาในร่มหลากหลายประเภท

9. สระว่ายน้ำบนดาดฟ้า 8 เลน ยาว 25 เมตร พร้อมด้วยสนามกีฬาเต็มขนาดทนทุกสภาพอากาศ และลู่วิ่งยาว 100 เมตร

10. การออกแบบวิทยาเขตที่ยั่งยืน ระบบปรับอากาศและกรองอากาศทั่วทุกอาคาร รวมถึงพื้นที่การเรียนการสอนและการสัญจร ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์จากดาดฟ้า

โปรโมชั่นเปิดตัวพิเศษ

เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวของไบรท์ตัน คอลเลจ วิภาวดี เราขอนำเสนอ โปรโมชั่นเปิดตัวพิเศษ สำหรับครอบครัวที่สมัครเรียนในช่วงแรกเริ่มนี้ จำนวนที่นั่งมีอย่างจำกัด และเราขอให้ผู้ปกครองที่สนใจติดต่อทีมรับสมัครของเราเพื่อจองที่นั่ง

ติดต่อรับสมัคร: admissions@brightoncollegevibhavadi.com

ติดตามข่าวสารได้ที่https://bit.ly/BCBV-MrWaterman-DATA

มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางทางการศึกษาที่พิเศษเหนือธรรมดากับนายวอเตอร์แมนและทีมผู้สร้างแรงบันดาลใจของเรา

Monday, July 7, 2025

การประชุมความร่วมมือเศรษฐกิจดิจิทัลโลก หนึ่งในกิจกรรมสำคัญของงาน GDEC 2025 เปิดเวทีแลกเปลี่ยน-ส่งเสริมความร่วมมือ ณ กรุงปักกิ่ง

 การประชุมเศรษฐกิจดิจิทัลโลก ประจำปี 2568

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 การประชุมความร่วมมือเศรษฐกิจดิจิทัลโลก (Global Digital Economy Collaboration Forum) ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญของการประชุมเศรษฐกิจดิจิทัลโลก ประจำปี 2568 (GDEC 2025) ได้จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในหัวข้อ "Sail Together, Thrive Together" โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเปิดเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ การส่งเสริมนวัตกรรมความร่วมมือ และการสร้างศูนย์กลางความร่วมมือทางอุตสาหกรรม พร้อมกันนี้ ยังได้มีการสำรวจรูปแบบบริการในการสนับสนุนองค์กรเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อก้าวสู่สากล และเป็นกำลังขับเคลื่อนความร่วมมือด้านนวัตกรรมในระดับนานาชาติ

บรรดาแขกผู้มีเกียรติจากนานาประเทศได้เข้าร่วมงานครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียง อาทิ จ้าว โหวหลิน (Zhao Houlin) ประธานกิตติมศักดิ์ของกลุ่มพันธมิตรเมืองเศรษฐกิจดิจิทัลโลก (Global Digital Economy City Alliance) อดีตเลขาธิการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) และที่ปรึกษาอาวุโสของสมาคมองค์กรการสื่อสารแห่งประเทศจีน, ฟรานซิส เกอร์รี (Francis Gurry) ประธานของกลุ่มพันธมิตรเมืองเศรษฐกิจดิจิทัลโลก อดีตผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) และประธานร่วมของคณะกรรมการที่ปรึกษาประจำศูนย์พัฒนาภาวะผู้นำและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ, เฉียว จ้าน (Qiao Zhan) รองผู้แทนถาวรของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประจำประเทศจีน และไมเคิล แคมป์เบลล์ ฮุกเกอร์ (Michael Campbell Hooker) เอกอัครราชทูตนิการากัวประจำประเทศจีน ตลอดจนผู้แทนกว่า 800 คนจากองค์กรเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งรวมถึง IBM, Thales และ Yonyou

การประชุมความร่วมมือเศรษฐกิจดิจิทัลโลกถือเป็นส่วนสำคัญของ GDEC 2025 โดยเป็นการประชุมแรกที่มุ่งเน้นประเด็นโลกาภิวัตน์ของเศรษฐกิจดิจิทัลและความร่วมมือระหว่างประเทศ ในโอกาสนี้ ผู้เข้าร่วมงานได้หารือในเชิงลึกเกี่ยวกับประเด็นสำคัญต่าง ๆ อาทิ "โอกาสของการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในตลาดเกิดใหม่" "การส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านองค์กรระหว่างประเทศ" และ "การก้าวสู่สากล: แนวปฏิบัติขององค์กรดิจิทัลจีน"

ในการกล่าวสุนทรพจน์หลัก ผู้แทนจากองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก, สถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศจีน, ภาคการศึกษาของอินโดนีเซีย, สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศจีน (CAICT), เขตต้าซิงในกรุงปักกิ่ง, iSoftStone และสถาบันต่าง ๆ ได้มาร่วมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกจากมุมมองที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งความเป็นผู้นำด้านนโยบาย แนวปฏิบัติทางอุตสาหกรรม ความร่วมมือระหว่างประเทศ การวิจัยเชิงวิชาการ และนวัตกรรมขององค์กร นับเป็นการนำเสนอมุมมองที่หลากหลายและข้อมูลเชิงลึกเชิงกลยุทธ์ให้แก่องค์การต่าง ๆ เพื่อบูรณาการและสร้างสรรค์นวัตกรรมในบริบทของโลกาภิวัตน์ ขณะเดียวกันก็เป็นการเปิดเวทีให้นานาประเทศได้มาร่วมกันส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ภายในเศรษฐกิจดิจิทัล

ในการประชุมครั้งนี้ ยังได้มีการจัดพิธีร่วมลงนามในเอกสารของโครงการสาธิตนวัตกรรมเศรษฐกิจดิจิทัลที่เป็นมิตรและยั่งยืนในปักกิ่งของ UNDP โดยผู้แทนจาก 4 ฝ่าย ได้แก่ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP), ศูนย์แลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและเทคนิคระหว่างประเทศของจีน สังกัดกระทรวงพาณิชย์, สำนักเศรษฐกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศเทศบาลกรุงปักกิ่ง และรัฐบาลประชาชนเขตต้าซิงของเทศบาลกรุงปักกิ่ง

นอกจากนี้ ศูนย์บริการนวัตกรรมสำหรับองค์กรเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อก้าวสู่สากลประจำกรุงปักกิ่ง (Beijing Innovation Service Hub for Digital Economy Enterprise Going Global) ยังได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับองค์กรชั้นนำ 16 แห่ง อาทิ China Silk Road Group Co., Ltd., China Digital Culture Group Co., Ltd. และ Global Infotech Co., Ltd รวมถึงบริษัทที่ติดอันดับ Fortune Global 500, รัฐวิสาหกิจ, บริษัทจดทะเบียน, บริษัทไฮเทคระดับชาติ ตลอดจน SME ที่ทำธุรกิจเฉพาะทาง โดยข้อตกลงดังกล่าวมีมูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านหยวน

ในการประชุมยังได้มีการเปิดตัวกลุ่มพันธมิตรระหว่างประเทศด้านบริการเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อก้าวสู่สากล (International Alliance for Digital Economy Going Global Services) อย่างเป็นทางการ โดยสมาชิกกลุ่มแรกประกอบด้วยสมาคมธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 500 รวม 24 แห่ง เช่น สมาคมวิสาหกิจสหภาพยุโรป-จีน, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน, China Telecom, Li Auto และ KPMG

ที่มา: การประชุมเศรษฐกิจดิจิทัลโลก ประจำปี 2568

Global Digital Economy Collaboration Forum Held in Beijing as Part of GDEC 2025

 2025 Global Digital Economy Conference

On July 3, 2025, the Global Digital Economy Collaboration Forum -- one of the key events of the 2025 Global Digital Economy Conference (GDEC 2025) -- was held in Beijing. Under the theme "Sail Together, Thrive Together," the forum aimed to build a platform for international exchange, promote collaborative project innovation, and establish a hub for industrial cooperation. It explored distinctive service models for digital economy enterprises going global and served as a driving force for international innovation collaboration.

Distinguished international guests attended the event, including Zhao Houlin, Honorary President of the Global Digital Economy City Alliance, former Secretary-General of the International Telecommunication Union (ITU), and Senior Advisor to the China Association of Communications Enterprises; Francis Gurry, President of the Global Digital Economy City Alliance, former Director General of the World Intellectual Property Organization (WIPO), and Co-Chair of the Advisory Board of the UN Sustainable Development Goals and Leadership Development Center; Qiao Zhan, Deputy Resident Representative of the United Nations Development Programme (UNDP) in China; and Michael Campbell Hooker, Ambassador of Nicaragua to China. Over 800 representatives from digital economy enterprises, including IBM, Thales, and Yonyou, gathered for the event.

As a core segment of GDEC 2025, this was the first forum to focus specifically on the themes of digital economy globalization and international cooperation. Participants held in-depth discussions around pressing topics such as "Digital Transformation Opportunities in Emerging Markets," "Empowering Sustainable Development through International Organizations," and "Going Global: Practices of Chinese Digital Enterprises."

During the keynote sessions, representatives from the World Intellectual Property Organization, the Embassy of Malaysia in China, the Indonesian education sector, the China Academy of Information and Communications Technology (CAICT), Beijing's Daxing District, iSoftStone, and other institutions shared insights from various perspectives, including policy leadership, industrial practices, international collaboration, academic research, and enterprise innovation. Their contributions offered diverse perspectives and strategic insights into how enterprises can achieve integration and innovation in the context of globalization, while also providing a platform for countries to advance cross-sector cooperation in the digital economy.

At the forum, a joint signing ceremony was held for the UNDP Beijing Digital-Friendly and Sustainable Digital Economy Innovation Demonstration Project Document by representatives of four parties: the United Nations Development Programme (UNDP), the China International Center for Economic and Technical Exchanges under the Ministry of Commerce, the Beijing Municipal Bureau of Economy and Information Technology, and Daxing District People's Government of Beijing Municipality.

Additionally, the Beijing Innovation Service Hub for Digital Economy Enterprise Going Global signed strategic cooperation agreements with 16 leading enterprises, including China Silk Road Group Co., Ltd., China Digital Culture Group Co., Ltd., and Global Infotech Co., Ltd. The participating companies include Fortune Global 500 firms, central and state-owned enterprises, listed companies, national high-tech enterprises, and specialized and innovative SMEs. The total value of the agreements exceeded 10 billion yuan.

The International Alliance for Digital Economy Going Global Services was officially launched at the forum. The first group of members includes 24 domestic and international business associations and Fortune 500 companies such as the EU-Sino Enterprises Association, the Export-Import Bank of China, China Telecom, Li Auto, and KPMG.

Source: 2025 Global Digital Economy Conference

Friday, July 4, 2025

Krungsri Cordially Invites You to the Premier Annual Seminar “Krungsri-MUFG Business Forum: Thriving to Sustainable Future” Overcoming Transformations, Advancing Towards a Stable and Sustainable Future


Krungsri (Bank of Ayudhya Public Company Limited) cordially invites entrepreneurs, investors, and interested parties to attend the premier annual seminar “Krungsri-MUFG Business Forum: Thriving to Sustainable Future,” to be held on Tuesday, 5 August 2025 at the Bangkok Convention Centre, 22nd Floor, Centara Grand at CentralWorld.

The morning session features a special activity, Krungsri ESG Awards: Minute of Changes—a business pitching competition presented by exemplary ESG-minded SME leaders who will showcase their sustainable transition plans before a distinguished panel of judges. The event will also include the award announcement and presentation of certificates to participants of the Krungsri ESG Academy

The afternoon session features an exclusive talk by national and global leaders in finance and economics on a series of distinguished topics, including:

  • Akanat Promphan, Minister of Industry, on “Industrial Reform: Steering Thailand’s Economy under Structural Disruptions”
  • Kanetsugu Mike, Chairman of Mitsubishi UFJ Financial Group (MUFG)
  • Kenichi Yamato, President and Chief Executive Officer of Bank of Ayudhya PCL, on “Krungsri Sustainable and Regional Bank”
  • Dr. Phirun Saiyasitpanich, Director General of the Department of Climate Change and Environment, on “The Upcoming Thailand’s Climate Change Act”
  • Dr. Somkiat Tangkitvanich, President of TDRI, on “Navigating Global Shifts: Strengthening Thailand’s Economic Competitiveness”
  • Mari Elka Pangestu, Indonesian President’s Special Envoy and Former Managing Director of Development Policy and Partnerships at the World Bank, on “Capturing Regional Opportunities in a Shifting Global Landscape”
  • Panel discussion on “Strategic Growth through Innovation in Global Sustainable Finance” featuring:

– Paroche Hutachareon, Advisor on Bond Markets, Public Debt Management Office, Ministry of Finance

– Prakob Phiencharoen, Head of Corporate and Investment Banking Group, Bank of Ayudhya

– Colin Chen, Head of ESG Finance APAC, MUFG Bank

– Hideaki Takase, CSuO of MUFG

  • Thammasak Sethaudom, President of SCG, on “Achieving Sustainability and Growth Amid the Current Economic Climate: A Case Study of SCG”

Attendees will also enjoy the Exhibition Zone featuring a wide range of business and financial innovations and solutions from Krungsri, its partners, and entrepreneurs, aimed at empowering customers to grow their businesses sustainably and securely.

Do not miss this important opportunity! The “Krungsri-MUFG Business Forum: Thriving to Sustainable Future” will take place on Tuesday, 5 August 2025, from 08:30 AM to 05:00 PM at the Bangkok Convention Centre, 22nd Floor, Centara Grand at CentralWorld. Admission is free of charge (limited seats). Register today at: https://bit.ly/PR_KrungsriBusinessForum2025

กรุงศรีขอเชิญร่วมสัมมนายิ่งใหญ่แห่งปี “Krungsri-MUFG Business Forum: Thriving to Sustainable Future” ก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลง เดินหน้าสู่อนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

 


กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ขอเรียนเชิญผู้ประกอบการ นักลงทุน และผู้สนใจเข้าร่วมงานสัมมนายิ่งใหญ่ประจำปี “Krungsri-MUFG Business Forum: Thriving to Sustainable Future” ในวันอังคารที่ 5 สิงหาคม 2568 ณ ห้องบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์

ช่วงเช้าพบกับกิจกรรมพิเศษ Krungsri ESG Awards: Minute of Changes รายการ Pitching แผนธุรกิจจากผู้นำ SME ต้นแบบ ESG ที่จะนำเสนอแนวทางการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจอย่างยั่งยืนต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พร้อมทั้งประกาศรางวัลผู้ชนะและมอบเกียรติบัตรแก่ผู้เข้าอบรมหลักสูตร Krungsri ESG Academy พร้อมร่วมกิจกรรมในโซน Exhibition แสดงนวัตกรรมและโซลูชั่นธุรกิจและการเงินหลากหลายจากกรุงศรี พันธมิตร และผู้ประกอบการ เพื่อให้ลูกค้าได้ต่อยอดธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ช่วงบ่ายพบกับเวทีทอล์คสุด Exclusive จากผู้นำด้านเศรษฐกิจการเงินและธุรกิจระดับประเทศและระดับโลก ในหัวข้อสุดพิเศษ อาทิ:

  • คุณเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในหัวข้อ Industrial Reform: Steering Thailand’s Economy under Structural Disruptions
  • Kanetsugu Mike, Chairman of Mitsubishi UFJ Financial Group (MUFG)
  • •คุณเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในหัวข้อ Krungsri Sustainable and Regional Bank
  • ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ในหัวข้อ The Upcoming Thailand’s Climate Change Act
  • ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธาน TDRI ในหัวข้อ Navigating Global Shifts: Strengthening Thailand’s Economic Competitiveness
  • Mari Elka Pangestu Indonesian President’s Special Envoy, Former MD. of Development Policy and Partnerships, World Bank ในหัวข้อ Capturing Regional Opportunities in a Shifting Global Landscape
  • คุณพลช หุตะเจริญ ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง, คุณประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีฯ, Colin Chen, Head of ESG Finance APAC, MUFG Bank และ Hideaki Takase, CSuO of MUFG ร่วมเสวนาในหัวข้อ Strategic Growth through Innovation in Global Sustainable Finance
  • คุณธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี ในหัวข้อ Achieving sustainability and growth amid the current economic climate: A case study of SCG

โอกาสสำคัญนี้พลาดไม่ได้! งาน Krungsri-MUFG Business Forum: Thriving to Sustainable Future จะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 5 สิงหาคม 2568 เวลา 08.30 – 17.00 น. ณ ห้องบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานสัมมนาไม่มีค่าใช้จ่าย (รับจำนวนจำกัด) ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้ที่: https://bit.ly/PR_KrungsriBusinessForum2025

การประชุมเศรษฐกิจดิจิทัลโลก ประจำปี 2568 เปิดฉากแล้วที่ปักกิ่ง

        การประชุมเศรษฐกิจดิจิทัลโลก ประจำปี 2568 (GDEC 2025) ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ณ กรุงปักกิ่ง ในหัวข้อ "Building a Digital-Friendly City" (สร้างสรรค์เมืองที่เป็นมิตรกับดิจิทัล) งานนี้ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้หลายพันคน รวมถึงแขกต่างชาติกว่า 300 ราย จากกว่า 50 ประเทศและองค์กรชั้นนำในระดับสากล

ในพิธีเปิดงาน กรุงปักกิ่งได้จับมือกับเมืองพันธมิตรกว่า 40 แห่งจากภูมิภาคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นยุโรป อเมริกาเหนือ เอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และลาตินอเมริกา เพื่อร่วมกันเปิดตัวกลุ่มพันธมิตรเมืองเศรษฐกิจดิจิทัลโลก (Global Digital Economy City Alliance) โดยจะมุ่งเน้นประเด็นสำคัญ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การกำกับดูแลข้อมูลข้ามประเทศ จริยธรรม AI และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเมืองอัจฉริยะ เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างกลุ่มเมืองต่าง ๆ สร้างระบบนิเวศทางอุตสาหกรรมร่วมกัน และส่งเสริมนวัตกรรมในด้านธรรมาภิบาลดิจิทัล การจัดตั้งพันธมิตรครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่เข้ามายกระดับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัล จากเดิมที่เป็นการแลกเปลี่ยนแบบทวิภาคี ไปสู่การประสานงานแบบพหุภาคี และจากการริเริ่มโครงการเป็นครั้ง ๆ ไปสู่กลไกที่มีรูปแบบสถาบันที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

จากจุดเริ่มต้นในการริเริ่ม "เมืองพันธมิตรเศรษฐกิจดิจิทัล" ในงาน GDEC เมื่อปี 2566 สู่การที่ปักกิ่งได้เปิดตัว "แผนปฏิบัติการ 6 ด้าน" ร่วมกับกลุ่มเมืองสมาชิกชุดแรกในปี 2567 และล่าสุดกับการก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรฯ ในปี 2568 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสถาบันเพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยแห่งสหประชาชาติ สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ รวมถึงศูนย์พาณิชยกรรมระหว่างประเทศ เหตุการณ์สำคัญเหล่านี้ล้วนสะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของปักกิ่ง ในการสำรวจหาวิสัยทัศน์และแนวทางใหม่ ๆ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล

สำหรับการประชุมเศรษฐกิจดิจิทัลโลก ประจำปี 2568 ได้รับการอนุมัติจากสภาแห่งรัฐของจีน และจัดขึ้นโดยความร่วมมือของรัฐบาลประชาชนเทศบาลนครปักกิ่ง สำนักงานบริหารไซเบอร์สเปซแห่งประเทศจีน สำนักงานข้อมูลแห่งชาติ สำนักข่าวซินหัว และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ โดยโครงสร้างของการประชุมจะแบ่งเป็นรูปแบบ "1+6+N" ซึ่งประกอบด้วยพิธีเปิด 1 งาน, เวทีหลัก 6 เวที และยังมีเวทีย่อยตามหัวข้อต่าง ๆ พร้อมกิจกรรมพิเศษอีกมากมาย