Friday, September 30, 2022

อะบิลิตี ไดอะบีทิส โกลบอล โครงการศึกษาทดลองสำคัญในด้านการถ่างขยายหลอดเลือดหัวใจสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน รับสมัครผู้เข้าร่วมศึกษาเสร็จสิ้นแล้ว

      อะบิลิตี ไดอะบีทิส โกลบอล (ABILITY DIABETES-GLOBAL หรือ ADG) คือโครงการศึกษาทดลองสุ่มตัวอย่างเปรียบเทียบ (RCT) สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยเปรียบเทียบโดยตรงระหว่างขดลวดเคลือบยาไซโรลิมัส (Sirolimus) อย่างอะบลูมินัส DES+ (Abluminus DES+) ของคอนเซปต์ เมดิคอล อิงค์ (Concept Medical Inc.) กับขดลวดเคลือบยาตระกูลไซเอนซ์ (XIENCE) ของแอบบอต คาร์ดิโอวาสคูลาร์ (Abbott Cardiovascular)

โรคเบาหวานถือเป็นจุดอ่อนสำคัญสำหรับกระบวนการรักษาผ่านเส้นเลือดโดยใช้สายสวนทุกวิธี จึงมีความต้องการเชิงคลินิกสำหรับการศึกษาทดลองสุ่มตัวอย่างเปรียบเทียบที่มีความครอบคลุมอย่างเพียงพอ ในแง่นี้โครงการ RCT แบบทดลองเปิด (open-label) ไปข้างหน้า (prospective) และสุ่มกับกลุ่มตัวอย่างขนานกันสองกลุ่มนี้ได้รับผู้เข้าร่วมเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานจำนวนมากถึง 3,050 คน โครงการ RCT ดังกล่าวนี้กำกับโดยศาสตราจารย์โรซานา เมห์ราน (Roxana Mehran) (ประธาน), ศาสตราจารย์มารี คล้อด โมริซ (Marie-Claude Morice) (ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์), ศาสตราจารย์อเล็กซานเดร อะบิซาอิด (Alexandre Abizaid), ศาสตราจารย์อันโตนิโอ โคลอมโบ (Antonio Colombo) และศาสตราจารย์ชิเกรู ไซโต (Shigeru Saito) (หัวหน้าคณะนักวิจัย)

ผลลัพธ์หลักของโครงการ RCT ที่วางแผนไว้คือหลอดเลือดหัวใจเป้าหมายล้มเหลว (TLF) (ประกอบด้วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน กล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือการต้องทำหัตถการที่รอยโรคซ้ำจากการขาดเลือด) โดยมีการทดสอบความไม่ด้อยกว่า (non-inferiority) ประกอบกับการติดตามอาการสำหรับการต้องทำหัตถการที่รอยโรคซ้ำจากการขาดเลือดที่ระยะเวลาหนึ่งปี โดยมีการทดสอบความไม่ด้อยกว่าและความเหนือกว่าแบบเป็นลำดับ (sequential superiority) สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

"ในระหว่างวิกฤตโรคระบาด การรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการอะบิลิตี โรคเบาหวาน (ABILITY DM) นี้เสร็จสมบูรณ์ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการศึกษาทดลองเชิงคลินิกแบบสุ่มและไปข้างหน้าขนาดใหญ่ที่สุดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยเป็นรอยต่อสำคัญในการมอบหลักฐานแบบทันทีที่เป็นปัจจุบันสำหรับเทคโนโลยีอะบลูมินัส DES+ (พร้อมด้วยบอลลูนเคลือบยา) โดยเปรียบเทียบกับขดลวดเคลือบยาชนิดที่ดีที่สุด" ศ.โรซานา เมห์ราน ชี้

ด้านศ.อันโตนิโอ โคลอมโบ แสดงความเห็นใกล้เคียงกันว่า "เราดำเนินการรับสมัครผู้เข้าร่วมในโครงการศึกษาทดลองครั้งสำคัญนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว การทดลองแรกเปรียบเทียบระหว่างขดลวดเคลือบยาสองแบบที่แตกต่างกันในผู้ป่วยโรคเบาหวาน 3,050 ราย ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นมาตรฐานสำหรับเทคโนโลยีถ่างขยายหลอดเลือดหัวใจ (PCI) ทั้งใหม่และเก่า"

"ฉันอยากขอขอบคุณผู้วิจัย ณ สถานที่วิจัย ผู้ดำเนินการ เจ้าหน้าที่เทคนิค และผู้ประสานงานการศึกษาทุกท่าน ศูนย์วิจัยโรคหัวใจและหลอดเลือดแห่งยุโรป (CERC) ตลอดจนเมาท์ซีนาย (Mount Sinai) และวิทยาลัยการแพทย์ไอคาห์น (ICAHN School of Medicine) ที่มีบทบาทสำคัญในการบรรลุสิ่งนี้" ศ.มารี คล้อด โมริซ (CERC) กล่าว "โดยเฉพาะทีมนักวิจัยของ CERC และเมาท์ซีนายที่ได้ดำเนินการศึกษาทดลองนี้เป็นอย่างดีในช่วงเวลาอันซับซ้อนเช่นนี้ ความมุ่งมั่นทุ่มเทของพวกเขาหาไม่ได้จากที่อื่นใดและจะมีส่วนช่วยสร้างความสำเร็จของการศึกษาทดลองนี้ ซึ่งมีแนวโน้มเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด"

สถาบันโรคหัวใจดานเต ปาสซานีส (Instituto Dante Pazzanese de Cardiologia) (บราซิล) นำโดยดร.แดเนียล ชามิเย (Daniel Chamie) และโรงพยาบาลและศูนย์วิจัยมูลนิธิหัวใจแห่งชาติ (บังกลาเทศ) นำโดยดร.ฟาซิลา มาลิค (Fazila Malik) มีบทบาทสำคัญในการดำเนินการรับผู้สมัครเข้าร่วมเสร็จสิ้น ตามด้วย OLVG (เนเธอร์แลนด์) นำโดยดร. มาร์เตน วิงค์ (Maarten Vink)

อะบลูมินัส DES+ (ของบริษัทคอนเซปต์ เมดิคอล อิงค์) ซึ่งได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปและประเทศอื่น ๆ ใช้เทคโนโลยีเอนวิโซลูชัน (Envisolution technology) ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ในการนำส่งยาอย่างสม่ำเสมอด้วยการเคลือบพื้นผิวของขดลวดและส่วนที่มีการสัมผัสและขอบของบอลลูน ในการศึกษาเชิงคลินิกที่ดำเนินการที่ศูนย์ทดลองอื่น ๆ พบว่าอะบลูมินัส DES+ มีประสิทธิผลในการจัดการกับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน

ศ.อเล็กซานเดร อะบิซาอิด ซึ่งได้ใช้งานผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้ในหลากหลายกรณี กล่าวว่า "ขอแสดงความยินดีกับคอนเซปต์ เมดิคอล และนักวิจัยทุกคน ที่ได้ดำเนินการศึกษาทดลองแบบสุ่มในด้านการถ่างขยายหลอดเลือดหัวใจสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานครั้งใหญ่ที่สุด การศึกษาทดลองกับผู้ป่วย 3,000 รายในครั้งนี้ได้ทดสอบเทคโนโลยีขดลวดเคลือบยาแบบใหม่เรียกว่าอะบลูมินัส ซึ่งเป็นการผสมผสานของขดลวดเคลือบยาไซโรลิมัสที่ยึดอยู่กับบอลลูนเคลือบยา ถือเป็นการศึกษาครั้งสำคัญอย่างแน่นอนในยุคใหม่ของการรักษาหลอดเลือดหัวใจแบบไม่ผ่าตัดอันเป็นวิธีการรักษาที่มีความซับซ้อน"

เกี่ยวกับคอนเซปต์ เมดิคอล อิงค์ ( CMI)

CMI  มีสำนักงานใหญ่ในเมืองแทมปา รัฐฟลอริดา และมีสำนักงานปฏิบัติการในประเทศเนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ และบราซิล และมีหน่วยการผลิตในอินเดีย CMI เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบการจ่ายยา และมีแพลตฟอร์มเทคโนโลยีเฉพาะตัวที่ได้รับการจดสิทธิบัตร และสามารถนำไปใช้ในการส่งมอบยา/เวชภัณฑ์ใด ๆ สำหรับพื้นผิวที่ยื่นออกของหลอดเลือด

www.conceptmedical.com 


ABILITY DIABETES GLOBAL - A Landmark RCT in the field of PCI for patients with DM, completes Enrolment

       ABILITY DIABETES-GLOBAL (ADG), is the World's largest Randomized Controlled Trial (RCT) for patients with DM (Diabetes Mellitus), comparing head-to-head the Sirolimus eluting stent , Abluminus DES+ (Concept Medical Inc.) with the XIENCE family of DES (Abbott Cardiovascular).

Diabetes has been the Achilles heel for any vascular interventional procedures and there is a clinical need for adequately powered RCTs. The prospective, randomized, open-label, 2-arm parallel-group RCT has enrolled a mammoth 3050 diabetic patients. The RCT is steered by Prof. Roxana Mehran (Chairperson), Prof. Marie-Claude Morice (Medical Director), Prof. Alexandre Abizaid, Prof. Antonio Colombo & Prof. Shigeru Saito (Principal Investigators).

The primary endpoints of the planned RCT are TLF (composite of cardiac death, MI or ischemia-driven TLR) powered for non-inferiority and ischemia-driven TLR at 1- year FU powered for non-inferiority and sequential superiority for diabetic patients.

"In the face of the pandemic, the completion of enrollment of the ABILITY DM study marks an important milestone in the largest ever prospective randomized clinical trial in patients with Diabetes Mellitus. This signifies a crucial juncture in providing real-time and current evidence with Abluminus DES+ (with DCB) technology pitched against the best-in-class DES," reflected Roxana Mehran.

Prof. Antonio Colombo shares similar sentiments. "We completed enrollment of a landmark trial. The first trial comparing two different DES in 3050 diabetics. The results will be a benchmark for any new or old PCI technology," he said.

"I would like to thank all the site investigators, operators, technicians, and study coordinators, the Cardiovascular European Research Center (CERC), and Mount Sinai and ICAHN School of Medicine who played a stellar role in achieving this," exuded Prof. Marie-Claude Morice (CERC), "in particular the CERC and Mount Sinai research team who conducted the trial so well at such a complex time; their commitment is unique and will contribute to the success of the trial, a potentially significant improvement for Diabetic patients with cardiovascular disease".

Instituto Dante Pazzanese de Cardiologia (Brazil) led by Dr Daniel Chamie, and the National Heart Foundation Hospital & Research Centre (Bangladesh), led by Dr Fazila Malik, played a major role in completing the enrollment followed by OLVG (The Netherlands) led by Dr Maarten Vink.

Abluminus DES+ (Concept Medical Inc.), which has regulatory approvals in Europe and other countries, uses a proprietary Envisolution technology to provide homogenous drug delivery by coating the stent surface and exposed parts of the balloon and on the edges of the balloon. In clinical studies conducted at other centers Abluminus DES+ has proven effective in managing patients with DM.

Prof. Alexandre Abizaid, who has widely used the product, "I would like to congratulate Concept Medical and all the investigators for completing the largest randomized trial in PCI for diabetic patients. This 3000-patient trial tested a novel DES technology called Abluminus which is the combination of a Sirolimus eluting stent crimped on a drug coated balloon. This is certainly a landmark study in the modern era of complex coronary intervention".

About Concept Medical Inc (CMI):

CMI is headquartered in Tampa, Florida and has operational offices in The Netherlands, Singapore and Brazil and manufacturing units in India. CMI specializes in developing drug-delivery systems and has unique and patented technology platforms that can be deployed to deliver any drug / pharmaceutical agent across the luminal surfaces of blood vessels.

www.conceptmedical.com 

Peking University pockets nearly half of all awards in global math competition

Students and alumni from Peking University (PKU) scored big wins in the 2022 Alibaba Global Mathematics Competition, clinching 35 of the 77 total awards, according to the list of winners released on September 26.

They stood out from over 50,000 contestants from dozens of countries and took home 3 (of four) gold, 2 (of six) silver and 5 (of ten) bronze awards plus 25 (of 57) honorable mentions, making Peking University the most decorated university in this year's competition.

Amongst the 4 winners of the Gold Award were Chen Zekun, a PhD candidate from Beijing International Center for Mathematical Research (BICMR), PKU, Lu Weixiao and Rao Zhenghao—both are PKU alumni. Upon the announcement of the awards, the three shared the strong and special bonds they have formed with mathematics.

For Chen Zekun, whose academic interest is number theory, doing research is like groping in a gigantic maze with just one exit, and the "maze runners" are, for most of the time in a day, "heading towards a dead-end, or wandering between one dead-end to another." Yet still, Chen is doing every research with an undamped ardor. "Because during the process, you can come across many 'Aha!' moments, which are a lot of fun," he added.

Lu Weixiao, a PKU alumnus who is pursuing his PhD degree at MIT, expressed his indelible and unabated admiration for his alma mater and for mathematics. "It is no exaggeration to say that Peking University is a paradise for math students," he said, recalling the conducive environment at PKU.

Drawing from his research experience, Rao Zhenghao illustrated how he enjoyed the process of solving math problems—despite that the problem-solving can lead to no solution sometimes. "I've found solving geometry problems quite interesting and relatively concrete," he said, "I also revel in the experience of drawing, and sometimes a piece of a clear and intuitive graph can enlighten my thinking. This is one of the reasons why I've chosen geometric topology as my research direction."

In the turn of the century, a cadre of talents appeared at Peking University who made breakthroughs in the field of mathematics that commanded global attention, and they were famed as the "Golden Generation." Twenty years later, the "Golden Generation" has added new lusters as a batch of rising young stars have emerged.

In his congratulations to the awardees of the competition, the Director of BICMR and Professor Tian Gang put it that each generation of mathematicians have their missions and the young blood at PKU have borne on their shoulders fresh expectations from the society. "They are at the golden age of their lifetime."

Alibaba Global Mathematics Competition is open to math enthusiasts all over the world. The competition has been held annually since 2018, attracting a total of some 200 thousand contestants from over 70 countries and regions.

Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1910920/West_Gate_Peking_University.jpg
Caption - West Gate of Peking University

"เธทัน ไรวอลส์" จากสตูดิโอเดียวกันกับ "เธทัน อารีนา" เปิดโอเพนเบตาแล้ว

 เปิดโอเพนเบตาตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน ก่อนที่จะเปิดตัวเกมนี้อย่างเป็นทางการให้เล่นได้ทั่วกัน

เธทัน ไรวอลส์ (Thetan Rivals) เป็นเกมแคชชวลแนวแบตเทิลรอยัลที่พัฒนาขึ้นโดยวูลฟ์ฟัน เกม (Wolffun Game) สตูดิโอเบื้องหลังเกมแบบเพลย์ทูเอิร์นอย่างเธทัน อารีนา (Thetan Arena) โดยจะเริ่มเปิดโอเพนเบตาตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน ก่อนที่จะเปิดตัวเกมนี้อย่างเป็นทางการให้เล่นได้ทั่วโลกในปลายปี 2565 หรือไม่ก็ต้นปี 2566

โปรเจกต์ใหม่เอี่ยมนี้จะมอบประสบการณ์เล่นเกมที่แตกต่างออกไปแก่ผู้ที่เล่นเกมเธทัน อารีนา อยู่แล้ว รวมถึงเกมเมอร์ทั่วโลก โดยผู้ที่เล่นผ่านพีซีจะเล่นเกมนี้ได้จากโปรแกรมลอนเชอร์ ซึ่งจะดาวน์โหลดได้บนเว็บไซต์ของเธทัน อารีนา นอกจากนี้ ยังจะปล่อยโอเพนเบตาบนกูเกิล เพลย์ สำหรับผู้ใช้แอนดรอยด์ และเทสต์ไฟลท์สำหรับผู้ใช้ไอโอเอสด้วย

หากความสนุกสนานในการเล่นเกมเธทัน อารีนา มาจากการคว้าชัยชนะในสนามรบสุดโหดโดยเล่นเป็นทีมจากการเลือกฮีโร่และวางกลยุทธ์ให้เหมาะสมแล้ว ความน่าตื่นเต้นในการลุยเดี่ยวเพื่อสู้กับผู้เล่นคนอื่น ๆ และเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ที่ขวางหน้าเพื่อเป็นผู้ชนะอันดับหนึ่งก็นับเป็นแกนกลางสำคัญของการเล่นเกมเธทัน ไรวอลส์ โดยตัวละครในเธทัน ไรวอลส์ เปรียบได้กับมินิเวอร์ชันของฮีโร่ในเกมเธทัน อารีนา และมีชื่อว่าเธเนียน (Thenion) ทำให้เธทัน ไรวอลส์ มีเอกลักษณ์ของตนเอง แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งองค์ประกอบความท้าทายที่นับเป็นหัวใจสำคัญของเกมเธทัน อารีนา

ผู้เล่นทุกคนจะได้เล่นเกมในหลายโหมด โดยมีระดับความท้าทายต่างกันในแมปต่าง ๆ แต่ละแมปตกแต่งมาอย่างสวยงาม ใช้วัตถุในระดับสีต่าง ๆ ซึ่งภายนอกอาจดูสวยดี แต่สิ่งเหล่านี้เป็นอุปสรรคที่ผู้เล่นต้องเผชิญในทุกด่าน ผู้เล่นจำเป็นต้องเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ และทำภารกิจหลักให้เสร็จสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการกระโดดข้ามช่องว่าง วิ่งคว้าเส้นชัย ส่งระเบิดให้ผู้เล่นอีกคน และอีกมากมาย แล้วแต่ว่าเป็นด่านอะไร

คุณเหวียน ดิ่ญ คั้ญ (Nguyen Dinh Khanh) ซีอีโอของวูลฟ์ฟัน เกม กล่าวว่า "เธทัน ไรวอลส์ เป็นเกมแคชชวล ซึ่งจะมอบประสบการณ์ที่ทุกคนเข้าถึงได้มากขึ้น สร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดรับทุกคนที่ใจรักการเล่นเกม เธทัน ไรวอลส์ ยังเป็นตัวอย่างที่สะท้อนถึงก้าวแรกในการขยายเธทัน เวิลด์ ให้ก้าวไกล (Thetan World) รวมไว้ซึ่งตัวเกมนี้เอง ไปจนถึงเธทัน อารีนา และโปรเจกต์อื่น ๆ ที่กำลังพัฒนาอยู่"

ในขณะที่เธทัน อารีนา เรียกความสนใจจากผู้เล่นได้กว่าหลายล้านคนทั่วโลก เธทัน ไรวอลส์ ก็จะมุ่งสนับสนุนการใช้โทเคน THG และเสริมสร้างมูลค่า เพื่อมอบคุณประโยชน์ต่าง ๆ ให้ทั้งคอมมิวนิตี โดยขอเชิญชวนทั้งผู้ที่เล่นเธทัน อารีนา อยู่แล้ว และผู้เล่นหน้าใหม่ของทั้งสองเกม ให้มาร่วมการเดินทางที่น่าตื่นเต้นไม่รู้จบ

เกี่ยวกับเธทัน ไรวอลส์

เธทัน ไรวอลส์ (Thetan Rivals) เป็นเกมแนวแบตเทิลรอยัลที่ผู้เล่นจะเจอกับความท้าทายรูปแบบต่าง ๆ โดยมีภารกิจหลักอยู่ที่การอยู่รอดเป็นคนสุดท้าย มุ่งสร้างประสบการณ์การเล่นเกมให้กับเกมเมอร์ทั้งสายแคชชวลและฮาร์ดคอร์ โดยขอเชิญชวนเกมเมอร์ทั่วโลกร่วมสนุกและยกระดับทักษะการเล่นเกมของตนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และเริ่มสำรวจโลกเกมไฟอันกว้างใหญ่ไปด้วยกัน

เว็บไซต์: http://thetanrivals.com/   

สื่อมวลชนติดต่อ: media@wolffungame.com

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1910792/image_5025431_19784513.jpg
วิดีโอ - https://mma.prnewswire.com/media/1911703/Video_Onboarding_Thetan_Rival.mp4


Thetan Rivals, A Thetan Arena Successor, Is Entering Open Beta

 The open beta stage will begin from 30th September before the game is officially introduced to the masses.

Thetan Rivals is an upcoming casual game in the battle royale genre developed by Wolffun Game, the studio behind the Play-to-Earn game titled Thetan Arena. The open beta will be available on 30th September before the game is launched to global public at the end of 2022 or early 2023.

The brand-new project will deliver a different gaming experience to the current playerbase of Thetan Arena and the global gamers. PC users can access it via a launcher, which can be downloaded on the Thetan Arena website. The open beta will also be released on Google Play for Android users and TestFlight for iOS users.

If the enjoyment of Thetan Arena comes from joining some of the toughest battles that require teamwork, choosing the right heroes and strategies, then the thrill of soloing against other players and overcoming a bunch of obstacles to become the ultimate winner is the centrepiece of Thetan Rivals' gameplay. The characters in Thetan Rivals will be the mini version of the heroes in Thetan Arena and named Thenions, giving the former its own identity yet maintaining the challenging element that has been the core of the latter.

All players will participate in several game modes that come with different challenges on different maps. Each map is beautifully decorated with various objects in palette colours, which may look pleasant to the eyes, yet they are the obstacles players have to face in every challenge. Players have to overcome these obstacles and complete the main objective, which can be jumping over the gaps, racing to the finishing line, passing the bomb to another player, and plenty more, depending on the challenge.

"As a casual game, Thetan Rivals will provide a more accessible experience to everybody, thus creating a very public-friendly environment for those with a gaming passion. Thetan Rivals is also representative of the first step in the expansion of the Thetan World, which includes the game itself, Thetan Arena and more projects down the line," said Nguyen Dinh Khanh - CEO of Wolffun Game.

As Thetan Arena has been attracting millions of players around the world, Thetan Rivals will contribute to the utilization of the THG token and strengthen its value, promising the whole community lots of benefits in the future. Both the playerbase of Thetan Arena and newcomers to both games are welcome to join the journey that is never short of excitement.

About Thetan Rivals

Thetan Rivals is a battle royale game where players will participate in several challenges where their main objective is to be the last man standing. Aiming at a gaming experience for both casual and hardcore gamers, the global public is welcome to join in the fun to level up their gaming skills like never before and start exploring the massive world of GameFi.

Website: http://thetanrivals.com/

Media Inquiries: media@wolffungame.com

Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1910792/image_5025431_19784513.jpg
Video - https://mma.prnewswire.com/media/1911703/Video_Onboarding_Thetan_Rival.mp4

CCTV+: จีน-อาร์เจนตินา จัดการประชุมระดับสูงว่าด้วยการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม

 จีนและอาร์เจนตินาจัดการประชุมระดับสูงว่าด้วยการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ณ กรุงปักกิ่ง เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

นายหวง คุนหมิง สมาชิกของกรมการเมืองประจำคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และหัวหน้าสำนักประชาสัมพันธ์ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้เข้าร่วมการประชุมและกล่าวสุนทรพจน์

นายหวงได้อ่านจดหมายแสดงความยินดีจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ต่อที่ประชุม พร้อมกับเน้นย้ำว่า จดหมายจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และประธานาธิบดีอัลแบร์โต เฟอร์นันเดซ ผู้นำอาร์เจนตินา แสดงให้เห็นว่าผู้นำทั้งสองให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความร่วมมือจีน-อาร์เจนตินาในยุคใหม่ และมีความคาดหวังอย่างสูงในการกระชับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมในระดับทวิภาคี รวมถึงการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและการสร้างความร่วมมือระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ

เขากล่าวว่า จีนและอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาที่มีความสำคัญ กำลังเผชิญกับภารกิจสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังเกิดโรคระบาดใหญ่ รวมถึงการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน

จีนหวังว่าประชาชนจากทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง รักษาสันติภาพและการพัฒนา สนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า ตลอดจนกระชับมิตรภาพจีน-อาร์เจนตินาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

นายหวงกล่าวเสริมว่า ทั้งสองประเทศควรยกระดับการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนและวัฒนธรรม ตลอดจนดำเนินการแลกเปลี่ยนและสร้างความร่วมมือในหลากหลายด้านในทุกระดับ นอกจากนี้ ประชาชนทั้งสองประเทศควรส่งเสริมความเข้าใจและมิตรภาพซึ่งกันและกัน

นายหวงกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายควรเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการสื่อสารและความร่วมมือ ร่วมกันส่งเสริมความเท่าเทียมและความยุติธรรม ตลอดจนสร้างมติมหาชนด้วยความเท่าเทียม ยุติธรรม เป็นบวก และแข็งแกร่ง เพื่ออัดฉีดพลังบวกในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับจีนและลาตินอเมริกา รวมถึงมวลมนุษยชาติในยุคใหม่

การประชุมระดับสูงครั้งนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างจีนกับอาร์เจนตินา ซึ่งมีเจ้าภาพร่วมคือ ไชน่า มีเดีย กรุ๊ป (China Media Group หรือ CMG) และสำนักเลขาธิการสื่อและการสื่อสารสาธารณะของอาร์เจนตินา (Secretariat of Media and Public Communication of Argentina) โดยดึงดูดผู้เข้าร่วมงานกว่า 100 คนทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์

ลิงก์: https://youtu.be/RXwU6lBov0U    

การประชุมว่าด้วยการลงทุนและการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานระหว่างประเทศ ครั้งที่ 13 ที่มาเก๊า เน้นย้ำบทบาทสำคัญของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง

 


การประชุมว่าด้วยการลงทุนและการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานระหว่างประเทศ ครั้งที่ 13 (13th International Infrastructure Investment and Construction Forum หรือ IIICF) ซึ่งร่วมกันจัดโดยสมาคมผู้รับเหมานานาชาติแห่งประเทศจีน (China International Contractors Association) และสถาบันส่งเสริมการค้าและการลงทุนมาเก๊า (Macao Trade and Investment Promotion Institute) ได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่มาเก๊า ในฐานะการประชุมที่ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก พิธีเปิดงานในปีนี้ดึงดูดคนในแวดวงการลงทุนและการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานระหว่างประเทศจำนวนมาก โดยบุคคลสำคัญที่เข้าร่วมพิธีเปิดประกอบด้วย คุณโฮ ยัต เส่ง (Ho Iat Seng) ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษมาเก๊า, คุณเจิ้ง ซินชง (Zheng Xincong) ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานของรัฐบาลประชาชนกลางในเขตบริหารพิเศษมาเก๊า, คุณหลิว เซียนฟา (Liu Xianfa) กรรมาธิการกระทรวงกิจการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีนในเขตบริหารพิเศษมาเก๊า, คุณหว่อง เซียว ชัก (Wong Sio Chak) รัฐมนตรีความมั่นคงของเขตบริหารพิเศษมาเก๊า ตลอดจนผู้บริหารของสถาบันผู้รับเหมาและสถาบันการเงินระหว่างประเทศอีกหลายแห่ง

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นในหัวข้อ "การสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีมาตรฐานสูง มีความยั่งยืน และมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง" (Building High-standard, Sustainable and People-centered Infrastructure) โดยดึงดูดผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 1,300 คน จากสถาบันกว่า 600 แห่ง รวมถึงผู้บริหารระดับสูงของสถาบันการเงิน 20 แห่ง ผู้นำระดับสูงขององค์กรกว่า 70 แห่งที่ติดกลุ่มบริษัทผู้รับเหมา 250 อันดับแรกของโลก ซึ่งจัดอันดับโดย ENR ตลอดจนผู้มีอำนาจตัดสินใจจากองค์กรอุตสาหกรรมรายใหญ่และซัพพลายเออร์จากทั่วโลก การประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่โอกาสและความท้าทายที่ต้องเผชิญในยุคหลังเกิดโรคระบาด ตลอดจนมองหาโอกาสในการสร้างฉันทามติในวงกว้างและประสานความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับโครงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลก

หนึ่งในไฮไลท์ของงานคือ การเผยแพร่ดัชนีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ประจำปี 2565 (Belt and Road Infrastructure Development Index 2022) และรายงานดัชนีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ประจำปี 2565 (Belt and Road Infrastructure Development Index Report 2022) เพื่อนำเสนอบทบาทของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative หรือ BRI) ที่มีต่อการลงทุนและการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานระหว่างประเทศ

ในระหว่างการประชุม สมาคมผู้รับเหมานานาชาติแห่งประเทศจีนได้เปิดตัว "กลไกส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานระหว่างประเทศที่ยั่งยืน" (Mechanism for International Sustainable Infrastructure Promotion) ร่วมกับธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของเอเชีย (AIIB), โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP), องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมนี (GIZ) และองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนซึ่งมีความหลากหลาย ครอบคลุม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คาร์บอนต่ำ และมีความยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศ

"ในยุคหลังเกิดโรคระบาด ประเทศต่าง ๆ จะต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ซึ่งตอกย้ำถึงความสำคัญของการรวมตัวกันของประชาคมโลกเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการก่อสร้าง เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนา ตลอดจนยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน" คุณฟาง ฉิวเฉิน (Fang Qiuchen) ประธานสมาคมผู้รับเหมานานาชาติแห่งประเทศจีน กล่าว

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประชุมได้ที่ http://en.iiicf.org/

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1911571/1.jpg


IMA เปิดหลักสูตรประกาศนียบัตร ให้ความรู้ด้านธุรกิจเกิดใหม่สองสาขา

หลักสูตรใหม่ซึ่งให้ความรู้เกี่ยวกับความยั่งยืนและ DE&I จะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีและการเงินมีเครื่องมือและความรู้ในการแก้ไขปัญหาในองค์กรของตน

IMA(R) (Institute of Management Accountants หรือสถาบันนักบัญชีบริหาร) หนึ่งในสมาคมที่ใหญ่ที่สุดและน่าเชื่อถือมากที่สุดในด้านการพัฒนาอาชีพนักบัญชีบริหาร ได้เปิดหลักสูตรประกาศนียบัตรใหม่ 2 สาขา โดยหลักสูตรแรกเน้นที่การดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน และหลักสูตรที่สองเน้นที่ความหลากหลาย ความเท่าเทียม และความเสมอภาค (DE&I) ในวิชาชีพบัญชีและการเงิน หลักสูตรใหม่นี้กล่าวถึงประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับทั้งสองหัวข้อสำคัญสำหรับนักธุรกิจในปัจจุบัน โดยทั้งสองหลักสูตรมีการประเมิน ซึ่งผู้เข้าร่วมรับใบประกาศนียบัตรวิชาชีพและเหรียญดิจิทัลได้

"แนวปฏิบัติทางธุรกิจเกี่ยวกับความยั่งยืนและ DE&I ยังคงเป็นประเด็นใหม่ที่องค์กรต่าง ๆ กำลังให้ความสำคัญ หลักสูตรประกาศนียบัตรเหล่านี้กำลังรวบรวมข้อมูลสำคัญในด้านบัญชีและการเงิน ซึ่งสะท้อนให้เห็นความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงไปในภาคธุรกิจ" แจกกี ออพเพนไฮม์ (Jackie Oppenheim), CPTD, CAE, รองประธานฝ่ายบริการการศึกษาและวิชาชีพที่สถาบัน IMA กล่าว "หลักสูตรประกาศนียบัตรนี้ถือเป็นการฝึกอบรมประเภทหนึ่งสำหรับมืออาชีพทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้นำระดับสูงที่จำเป็นต้องเร่งทำความเข้าใจทั้งสองเรื่องนี้ และเพื่อให้ผู้นำในอนาคตเห็นว่าพวกเขากำลังสร้างความแตกต่าง การได้รับประกาศนียบัตรรับรองเหล่านี้จะแสดงให้นายจ้างเห็นถึงระดับความสามารถและความเข้าใจว่า ทั้งสองส่วนนี้มีผลลัพธ์ต่อหน้าที่การบัญชีและการเงินอย่างไร รวมถึงความสามารถในการมีส่วนร่วมด้วย"

หลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อธุรกิจที่ยั่งยืนของสถาบัน IMA (IMA Sustainability Business Practices Certificate,(TM)) จะให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนแก่ผู้เข้าร่วม รวมถึงความเกี่ยวข้องกับปัญหาในปัจจุบันที่โลกกำลังเผชิญอยู่ และผลกระทบทั้งหมดนั้นจะส่งผลต่อกระบวนการทางการเงินและทิศทางเชิงกลยุทธ์ในอนาคตอย่างไร หลักสูตรนี้ครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำความเข้าใจประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) รวมถึงการเป็นพันธมิตรเพื่อบูรณาการความยั่งยืนในธุรกิจ ตลอดจนกลยุทธ์ การวางแผน ประสิทธิภาพ การติดตาม และการรายงานในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ยั่งยืน โปรแกรมนี้มี 6 หลักสูตรย่อยด้วยกัน

ส่วนหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อส่งเสริมความหลากหลาย ความเท่าเทียม และความเสมอภาคของ IMA (IMA Diversity, Equity, & Inclusion Practices Certificate,(TM)) จะให้เครื่องมือและแนวทางปฏิบัติแก่ผู้เข้าร่วมรับการอบรม เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เปิดรับหลักการ DE&I โปรแกรมนี้มาพร้อมแบบฝึกที่ตอบโต้ได้ ซึ่งคอยอธิบายหลักการ DE&I ให้ชัดเจน รวมถึงอธิบายความซับซ้อนระหว่าง DE&I กับความยั่งยืน และแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นทางด้านจริยธรรมเพื่อสนับสนุนการริเริ่มในเรื่อง DE&I ภายในสาขาวิชาชีพการบัญชีและการเงิน เนื้อหาในหลักสูตรมีพื้นฐานมาจากบทบาทผู้นำทางความคิดและผลงานวิจัยของสถาบัน IMA โดยมีแนวปฏิบัติที่นำไปปฏิบัติได้จริงหลายสิบรูปแบบ เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับองค์กร พัฒนานวัตกรรมขององค์กร พร้อมดึงดูด รักษา และส่งเสริมผู้ที่มีความสามารถหลากหลาย โปรแกรมนี้มี 5 หลักสูตรย่อยด้วยกัน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรประกาศนียบัตรสาขาความยั่งยืนได้ที่ https://bit.ly/3fr38pd และสาขา DE&I ได้ที่ https://bit.ly/3BV3sUr 

เกี่ยวกับ  IMA(R) (Institute of Management Accountants)
IMA(R) เป็นหนึ่งในสมาคมที่ใหญ่ที่สุดและน่าเชื่อถือมากที่สุดในด้านการพัฒนาอาชีพนักบัญชีบริหาร สถาบัน IMA ให้การสนับสนุนนักบัญชีทั่วโลกผ่านการวิจัย, หลักสูตร CMA(R) (Certified Management Accountant) และ CSCA(R)  (Certified in Strategy and Competitive Analysis), การศึกษาต่อเนื่อง, การสร้างเครือข่าย และการส่งเสริมจรรยาบรรณทางธุรกิจในระดับสูงสุด โดยคว้าตำแหน่งองค์กรวิชาชีพแห่งปี (Professional Body of the Year) จากนิตยสาร The Accountant/International Accounting Bulletin มาแล้วสองครั้ง และมีเครือข่ายทั่วโลกที่ประกอบด้วยสมาชิกประมาณ 140,000 ราย ใน 150 ประเทศ รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพและนักศึกษา 350 กลุ่ม สถาบัน IMA มีสำนักงานใหญ่ในเมืองมอนต์เวล รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา และให้บริการใน 4 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ ทวีปอเมริกา, เอเชียแปซิฟิก, ยุโรป และตะวันออกกลาง/อินเดีย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IMA ได้ที่ www.imanet.org 


"แซดทีอี" รับรองข้อตกลงเร่งการเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้า


เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนทั่วโลก

แซดทีอี คอร์ปอเรชัน (ZTE Corporation) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประกาศรับรองข้อตกลงเร่งการเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้า (Catalyzing Electrification Accord) ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรพลังงานไฟฟ้าเพื่อความยั่งยืนระดับโลก (GSEP) โดยมีเป้าหมายเพื่อร่วมสร้างสรรค์แนวทางนวัตกรรมในการเร่งการเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อประโยชน์ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคมอย่างยั่งยืน แซดทีอีสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าวและมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลและเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกำจัดคาร์บอนและการบรรลุเป้าหมายด้านสภาพอากาศทั่วโลก

GSEP เป็นพันธมิตรระดับโลกที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาด้านพลังงานทั่วโลกภายในกรอบการทำงานสากล ส่งเสริมการใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อให้เกิดการพัฒนาด้านพลังงานที่ยั่งยืน ข้อตกลงเร่งการเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการเจรจาแบบเปิดในเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้า (Strategic Open Dialogue on Electrification หรือ SODE) ซึ่งเป็นความร่วมมือระดับโลกที่สร้างขึ้นโดย GSEP รวมไว้ซึ่ง 14 บริษัทวิสัยทัศน์กว้างไกลจากภาคพลังงาน ภาคผู้ใช้ปลายทาง (โทรคมนาคม การขนส่ง อุตสาหกรรม และการก่อสร้าง) ตลอดจนพันธมิตรด้านกลยุทธ์และเทคโนโลยี

ข้อตกลงนี้ให้คำแนะนำและขั้นตอนการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม 5 ประการเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้า ทั้งการปรับใช้กรอบนโยบายที่สนับสนุนการเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้า ส่งเสริมรูปแบบธุรกิจนวัตกรรมใหม่ ๆ ขับเคลื่อนการกระจายข้อมูลข้ามห่วงโซ่คุณค่า ทำให้การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมรักษาไว้ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานที่มีความเหมาะสมต่อการเปลี่ยนแปลง

ในฐานะสมาชิกของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact) และโครงการริเริ่มเพื่อความยั่งยืนระดับโลก (Global Enabling Sustainability Initiative หรือ GeSI) บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนทั่วโลก และกำหนดลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์สำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 17 ประการของสหประชาชาติและแนวโน้มต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม เพื่อเติมเต็มความรับผิดชอบต่อสังคม

ในการเผชิญกับความท้าทายที่เกิดจากการลดจำนวนการปล่อยคาร์บอน แซดทีอี ในฐานะผู้เล่นหลักและผู้ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาเป็นเวลากว่า 37 ปี ได้กรุยเส้นทางสีเขียวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลด้วยการส่งเสริมการดำเนินงาน ซัพพลายเชน และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว เป้าหมายของแซดทีอีคือการบรรลุจุดสูงสุดของการปล่อยคาร์บอนภายในปี 2573 และมีความเป็นกลางของคาร์บอนก่อนปี 2603 ตามลำดับ ผ่านปฏิบัติงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

แซดทีอีทำงานร่วมกับพันธมิตร โดยยังคงสำรวจการใช้งาน 5G รูปแบบใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีโครงการแบบอย่างมากกว่า 60 โครงการทั่วโลก จากประสบการณ์อันยาวนานในด้านพลังงานการสื่อสาร บริษัทฯ ได้จัดหาผลิตภัณฑ์และบริการด้านพลังงานให้แก่ผู้ให้บริการ 386 รายในกว่า 160 ประเทศและภูมิภาค บริษัทฯ ยังได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์ไฟฟ้ากระแสตรงดีเด่นในภาคโทรคมนาคมโลก (Global Telecom DC Power Product Leadership Award) ประจำปี 2565 ในรายงานประเมินอุตสาหกรรมไฟฟ้ากระแสตรงภาคโทรคมนาคมจากบริษัทวิจัยและที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกอย่างฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน (Frost & Sullivan) ซึ่งยกให้เป็นโซลูชันพลังงานที่มีประสิทธิภาพ แยกส่วนได้ อัจฉริยะ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกัน ธุรกิจพลังงานของแซดทีอีได้ขยายไปสู่อุตสาหกรรมพลังงานและการขนส่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเทคโนโลยีอัจฉริยะดิจิทัลคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ ทำให้แซดทีอีนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันต่าง ๆ เช่น การผลิตพลังงานสีเขียว การจัดเก็บพลังงานอัจฉริยะ การใช้พลังงานอัจฉริยะ การจัดการพลังงาน ยานยนต์ไฟฟ้า และอื่น ๆ ได้

บทบาทและผลงานที่โดดเด่นของแซดทีอีในการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรม โดยในปี 2565 ทั้งหุ้นระดับ A และ H ของแซดทีอีได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนองค์กรของฮั่งเส็ง นอกจากนี้ แซดทีอียังได้รับการเสนอชื่อให้ติดทำเนียบผู้ทรงอิทธิพลในสาขา ESG ของฟอร์จูน ไชน่า (Fortune China) ในปี 2565 อย่างเป็นทางการ ขณะที่บริษัทได้เผยแพร่รายงานความยั่งยืนต่อสาธารณชนเป็นเวลา 14 ปีติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 2552

ในอนาคตข้างหน้า แซดทีอีจะยังคงปฏิบัติตามพันธกิจเพื่ออนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความชาญฉลาด โดยจะเพิ่มการวิจัยพลังงานใหม่ วัสดุใหม่ และอุปกรณ์ใหม่ โดยคาดว่าจะสร้างรากฐานทางเทคนิคที่มั่นคงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญ ในขณะเดียวกัน บริษัทจะเสริมสร้างความเข้มแข็งในการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะเข้ากับอุตสาหกรรมการใช้พลังงานสูงแบบดั้งเดิม เพื่อขับเคลื่อนการใช้พลังงานไฟฟ้าร่วมกับพันธมิตรในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

สื่อมวลชนติดต่อ:
มาร์กาเร็ต หม่า (Margaret Ma)
แซดทีอี คอร์ปอเรชัน
โทร: +86 755 26775189
อีเมล: ma.gaili@zte.com.cn 

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1909752/image.jpg
คำบรรยายภาพ - "แซดทีอี" รับรองข้อตกลงเร่งการเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้า

The 13th IIICF in Macao shined a spotlight on BRI's vital role in international infrastructure


The 13th International Infrastructure Investment and Construction Forum ("IIICF", "the Forum"), co-organized by China International Contractors Association and Macao Trade and Investment Promotion Institute, opened in Macao on September 28. As the largest and most influential such forum in the world, the opening of this year's IIICF drew many major figures from the international infrastructure investment and construction community. Present at the opening ceremony were Ho Iat Seng, Chief Executive of the Macao Special Administrative Region (Macao SAR); Zheng Xincong, Director of the Liaison Office of the Central People's Government in the Macao SAR; Liu Xianfa, Commissioner of the Ministry of Foreign Affairs of the People's Republic of China in the Macao SAR; Wong Sio Chak, Secretary for Security of the Macao SAR; as well as heads of international contractors and financial institutions.

With the theme "Building High-standard, Sustainable and People-centered Infrastructure", the forum attracted more than 1,300 guests from over 600 institutions, including senior executives of 20 financial institutions, top leaders of more than 70 enterprises among ENR's Top 250 International Contractors, as well as decision makers from major industrial enterprises and suppliers from across the globe. With a focus on the opportunities and challenges facing international infrastructure cooperation in the post-pandemic era, the forum will look to build a broad consensus, and consolidate international cooperation for the facilitation of green infrastructure projects around the world.

As one of the event's highlights, The Belt and Road Infrastructure Development Index (2022) and the Belt and Road Infrastructure Development Index Report (2022) was launched at the forum and presented how the Belt and Road Initiative (BRI) has played an important role in international infrastructure investment and construction projects.

During the forum, the China International Contractors Association (CHINCA) launched the "Mechanism for International Sustainable Infrastructure Promotion" in association with the Asian Infrastructure Investment Bank (AIIB), the UN Environment Programme (UNEP), the German Agency for International Cooperation (GIZ) and the World Wide Fund for Nature (WWF), in a joint bid to promote the diversified, inclusive, green, low-carbon and climate-resilient development of sustainable infrastructure.

"In the post-pandemic era, countries will face unique challenges, and stressed the importance of the international community to come together to invest in infrastructure and construction, in order to fuel economic growth and development, and improve people's livelihoods," said Fang Qiuchen, Chairman of CHINCA.

For more information about the Forum, please visit: http://en.iiicf.org/.

Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1911571/1.jpg

CCTV+: China, Argentina hold high-level forum on cultural exchanges

China and Argentina held a high-level forum on cultural exchanges in Beijing on Wednesday.

Huang Kunming, a member of the Political Bureau of the Communist Party of China (CPC) Central Committee and head of the Publicity Department of the CPC Central Committee, attended the forum and gave a speech.

Reading Chinese President Xi Jinping's congratulatory letter to the forum, Huang noted that the letters sent by Xi and Argentine President Alberto Fernandez have demonstrated the enormous importance the two leaders place on China-Argentina cooperation in the new era and their earnest expectations for deepening bilateral comprehensive strategic partnership and advancing people-to-people and cultural exchanges and cooperation.

He said that China and Argentina, both important emerging markets and developing countries, are facing the important tasks of economic recovery after the pandemic and improving people's livelihoods and well-being.

China hopes people from the two countries will work hand in hand to promote prosperity, safeguard peace and development, facilitate economic and trade cooperation, and deepen the China-Argentina friendship, the official said.

The two countries should deepen people-to-people and cultural exchanges, and carry out exchanges and cooperation in various fields at all levels, Huang said, adding that the two peoples should also enhance their mutual understanding and friendship.

Both sides should strengthen communication and cooperation, jointly promote equity and justice, and create a fair, objective, positive and healthy public opinion environment to inject more positive energy into the construction of a community with a shared future for China and Latin America as well as mankind in the new era, Huang said.

As one of a series of activities marking the 50 anniversary of the establishment of diplomatic ties between the two countries, the high-level forum, co-hosted by China Media Group (CMG) and the Secretariat of Media and Public Communication of Argentina, attracted more than 100 representatives online and offline.

Link: https://youtu.be/RXwU6lBov0U   

Sustainability as top priority Mondaine: CO2-neutral, already today

- Picture is available at AP Images (http://www.apimages.com) -

Mondaine has been committed to the 3R rule already for years now: Reduce, Reuse, Recycle. It is applied to each individual area of business: from the acquisition of raw materials to transport and production, operation of the headquarters and the factory, right to business trips. The outcome is a completely CO2-neutral enterprise, including all its watch brands. The main drivers behind this approach are Andre and Ronnie Bernheim, and decades of family tradition.

The brothers Andre and Ronnie Bernheim are joint owners of the Swiss SME with its four brands: Mondaine, Luminox, M-Watch and Pierre Cardin. The president of the board is Andre Bernheim. As Chief Sustainability Officer (CSO), he also answers for the sustainability strategy. He is making sustainability a top priority and treating it as a strategic topic. The people in charge at Mondaine are convinced: sustainability must be every business' top priority. With its commitment to CO2-neutrality, Mondaine hopes to inspire other businesses in the industry to do the same.

We care

Social, ecological and economic engagement is Mondaine's guiding principle: We care. Mondaine's record of success is based on decades of systematically introducing and implementing sustainable processes and products. As a leading international watch company, Mondaine is far ahead of its time in developing environmentally friendly processes. The company has been guided by the 3R rule already for many years: Reduce, Reuse, Recycle. It applies across the board: whether it is the acquisition of components, their transport and that of the watches, the production of the watches, operation of the headquarters and the factory, as well as for business trips. Thanks to these extensive efforts, since 2020 the group and each of the four brands are completely climate-neutral (Scopes 1, 2, 3 [1]). But, on top of that, Mondaine - likely as first watch company in the world - also offers a watch recycling service for all customers sending their watch to the Swiss factory - soon introducing this offer in other countries.

Comprehensive climate-neutrality through reforestation

It is impossible to avoid CO2 emissions completely. That is why, in its management of sustainability, Mondaine also includes compensation projects. For all the unavoidable emissions, the group compensates with specific reforestation projects. Mondaine does this by maintaining strong and committed partnerships (Gula, Indonesia, www.gulagula.org,https://fairventures.org/, OAK in Pfaeffikon, Switzerland). This is how they succeeded in becoming completely CO2-neutral (Scopes 1, 2, 3).

Mondaine's sustainability story

1951: Erwin Bernheim founds the Mondaine business enterprise.

1973: Mondaine launches the world's first solar-powered watch.

1990s: Mondaine metal watch cases are made from upcycled scrap metal.

2013: Mondaine watch straps are made from ecological materials such as linen, rPET-felt and rPET-nylon, cotton or cork.

2017: Mondaine essence is launched with an organic plastic case made of a composite derived from castor oil.

2019: A photovoltaic system on the factory roof in Biberist supplies up to 80 percent of their electric power needs.

2020: Luminox Tide is launched with case and strap made of 100 percent recycled plastic collected from the world's oceans.

2020: Thanks to compensation through reforestation, Mondaine is CO2-neutral (Scopes 1, 2, and partially 3).

2021: The ecological balance sheet now takes into account the shipping of products to direct customers worldwide (i.e expansion of Scope 3).

Mondaine's goals for the future

The Mondaine Group will continue its efforts in promoting sustainability. Mondaine's commitment to CO2-neutrality will continue, and they are even considering becoming CO2-positive in the medium term. The systematic cradle-to-cradle approach to achieve a circular economy will be maintained by the group. Mondaine is currently studying ways, for example, to make watch cases with high recycled stainless-steel content. In a further milestone, since January 2022 Mondaine is replacing straps made of animal-based leather with straps made of vegan grape leather. The Mondaine Group continues to be guided by the 3R rule - Reduce, Reuse, Recycle. And they are encouraging their suppliers and direct customers to also take a more sustainable approach.

Detailed information

A detailed overview of their efforts in the area of sustainability can be found in the Sustainability Report (Version 2021 available starting July 2022). It contains an overview of the ecological balance sheet calculations by the external agency E2 Management Consulting AG.

For more information please contact:

Compresso AG, Suzanne Nievergelt, Seestrasse 49, 8702 Zollikon
Phone: +41 43 488 86 34, e-mail: pr@compresso.ch, compresso.ch

Mondaine Watch Ltd., Niels M?ller (CEO), Etzelstrasse 27, 8808 Pfaeffikon/SZ
Phone: +41 58 666 88 00, Fax: +41 58 666 87 00, e-mail: info@mondaine.ch, mondaine.com

[1]  Scope 1 comprises company processes; Scope 2 relates to the supply of electricity and heating; Scope 3 covers supply chains, air travel and the company's auxiliary processes.

บริษัทเกม "ฉวนฉี ไอพี"ผู้ให้บริการเกม MIR2M: The Warrior อัปเดตระบบผู้ชี้แนะแล้ว

 

  • MIR2M: The Warrior เปิดตัวทั่วโลก (ยกเว้นในเกาหลีและจีน) เมื่อวันที่ กันยายน
  • เตรียมอัปเดตระบบผู้ชี้แนะและกิจกรรมแจกรางวัลรายเดือนสุดหรูสำหรับสมาชิกเพิ่มเติม
  • เกมแนวสวมบทบาทผสมผสานศิลปะการต่อสู้ของโลกตะวันออก พัฒนาต่อยอดมาจากเกม The Legend of Mir 2

ฉวนฉี ไอพี (ChuanQi IP) บริษัทเกมในเครือวีเมด (WEMADE) ซึ่งมีคุณเฮนรี ชาง (Henry Chang) ดำรงตำแหน่งซีอีโอ ได้เปิดตัวเกมแรกในซีรีส์ MIR2M นั่นคือ "MIR2M: The Warrior" ในตลาดทั่วโลก (ยกเว้นในเกาหลีและจีน) เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา

ระบบผู้ชี้แนะ (Recommender system) คือระบบจัดกลุ่มแบบใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เชื่อมต่อการผลิตกับการใช้งานทรัพยากรระหว่างกันได้อย่างอิสระ สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นผู้ชี้แนะสามารถเชิญผู้เล่นคนอื่น ๆ เข้าร่วมกับตัวเองได้ในฐานะสมาชิกกลุ่ม และทั้งผู้ชี้แนะและสมาชิกในกลุ่มจะได้รับบัฟค่าพลังต่าง ๆ (การโจมตีกายภาพ, การป้องกันกายภาพ, ความอึด และโชค ฯลฯ) เมื่อสมาชิกในกลุ่มใช้ทรัพยากร ผู้ชี้แนะจะได้รับ Septaria จำนวนหนึ่งเป็นค่าตอบแทน นอกจากนี้ ยังคงมีกิจกรรมแจกรางวัลรายเดือนสุดหรูสำหรับสมาชิกเพิ่มเติมต่อไป

"MIR2M: The Warrior" เป็นเกมแนวสวมบทบาท (RPG) ที่ผสมผสานศิลปะการต่อสู้ของโลกตะวันออก ซึ่งพัฒนาต่อยอดมาจากเกม The Legend of Mir 2 ของวีเมด โดยในเกมใหม่นี้ ผู้เล่นจะได้สนุกสนานกับคอนเทนต์ PK ที่หลากหลาย (เช่น Sabuk Overlord และ Sanctuary Battlefield) รวมถึงคอนเทนต์ Clan (เช่น Guild Boss และ Guild Carriage Escort)

ผู้เล่นจะสนุกสนานมากขึ้นกับการเล่นแบบเพลย์แอนด์เอิร์น (Play and Earn หรือ P&E) ด้วยการรับเหรียญ CQB ที่ผลิตได้จาก Septaria โดยสามารถรับ Septaria ได้ฟรีระหว่างเล่นเกม นอกจากนี้ เหรียญ CQB ยังใช้กับเกมอื่นในซีรีส์ MIR2M ได้ด้วยในอนาคต

"MIR2M: The Warrior" ร่วมกันพัฒนาโดยฉวนฉี ไอพี และ ฮันเตอร์ เกมส์ (Hunter Games) โดยเปิดให้เล่นบนแพลตฟอร์มเกมบล็อกเชนของวีเมดอย่าง "วีมิกซ์ เพลย์" (WEMIX PLAY) และเล่นได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์มือถือ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกม MIR2M: The Warrior รวมถึงการอัปเดตและกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

เว็บไซต์ทางการ /โซเชียลเน็ตเวิร์ก:
เว็บไซต์ทางการของ MIR2M: The Warrior: www.mir2m.world
เทเลแกรม MIR2M: The Warrior: www.mir2m.world/community
ยูทูบ MIR2M: The Warrior: www.mir2m.world/youtube

รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1909748/ChuanQi_IP_image.jpg
คำบรรยายภาพ: บริษัทเกม "ฉวนฉี ไอพี"ผู้ให้บริการเกม MIR2M: The Warrior อัปเดตระบบผู้ชี้แนะแล้ว

"ทรินา โซลาร์" ชูโมดูล 600W+ เน้นการประหยัดต้นทุนต่อหน่วย พร้อมขับเคลื่อนตลาดเซลล์แสงอาทิตย์ด้วยหลักการสำคัญ 4 ข้อ

ทรินา โซลาร์ (Trina Solar) ได้นำเสนอหลักการที่มุ่งเน้นการประหยัดต้นทุนต่อหน่วย (LCOE) เพื่อลด LCOE ในโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ (PV) ที่มีกำลังสูง ประสิทธิภาพสูง ความน่าเชื่อถือสูง และให้พลังงานสูง โดยหลักการนี้อิงตามประสบการณ์ในโลกความเป็นจริง ซึ่งรวมถึงแนวโน้มตลาดที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมเพื่อสร้างโลกที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์  

โมดูลกำลังสูงกลายเป็นอุปกรณ์ประจำของตลาดโลก

ผลิตภัณฑ์พลังแสงอาทิตย์กำลังสูงกำลังแพร่หลายไปทั่วโลก ซึ่งเห็นได้ในงานกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ อินเตอร์โซลาร์ ยุโรป (Intersolar Europe) ในเยอรมนีเมื่อเดือนพฤษภาคม และอินเตอร์โซลาร์ เซาธ์ อเมริกา (Intersolar South America) ในบราซิลในช่วงปลายเดือนสิงหาคม โดยผู้ผลิตโมดูลราว 30 รายได้นำผลิตภัณฑ์รุ่น 600W+ จำนวนกว่า 40 ตัวที่ใช้เทคโนโลยีต่างๆ อาทิ PERC, HJT และ TOPCon มาจัดแสดง

ทรินา โซลาร์ ได้ส่งออกโมดูลขนาด 210 ที่มีกำลังการผลิตกว่า 30GW ไปทั่วโลก โดยภาคอุตสาหกรรมโดยรวมส่งออกกว่า 50GW นับจนถึงเดือนมิถุนายน ขณะที่อินโฟลิงค์ (InfoLink) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านพลังงานหมุนเวียนชั้นนำระดับโลก คาดการณ์ว่า กำลังการผลิตของเซลล์ขนาด 210 มม.ในปีนี้จะแตะ 309 GW ส่วนโมดูลจะอยู่ที่ 344GW

สมรรถนะหลักของโมดูลแบบ 600W+ และกุญแจหลัก 4 ประการที่ทำให้ LCOE ต่ำ 

การลด LCOE เป็นปัจจัยสำคัญมาโดยตลอดที่ทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้า PV เพิ่มขึ้น และยังคงเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของการสร้างนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรม PV

การลดการลงทุนเบื้องต้นในโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ และการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดในรอบวงจรชีวิตนั้น เป็นสิ่งสำคัญต่อการทำให้ LCOE ลดลง ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ที่มีพลังงานสูงและมีประสิทธิภาพสูงเพิ่มพลังงานจากสตริง (string power) ได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งยังลดต้นทุน BOS รวมทั้งลดการลงทุนในโครงการเบื้องต้นได้ โมดูลพลังแสงอาทิตย์ที่ให้พลังงานสูงและมีความน่าเชื่อถือสูงนั้น จะเพิ่มพลังงานทั้งหมดที่ได้จากโรงไฟฟ้าหนึ่งแห่งได้ในช่วงตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งทรินา โซลาร์ พบว่าการมีกำลังสูง ประสิทธิภาพสูง พลังงานที่ได้สูง และความน่าเชื่อถือสูง รวมทั้งการลด LCOE ลงอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นองค์ประกอบสำคัญของโมดูลพลังแสงอาทิตย์ที่มีความเป็นเลิศ

หลักการ LCOE ทำให้โมดูล 600W+ แพร่หลายมากขึ้นทั่วโลก

โมดูล Vertex 600W+ ของทรินา โซลาร์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดหลัก ๆ 4 ข้อดังที่ระบุไปได้อย่างครบถ้วน และยังได้รับการพิสูจน์มาแล้วในโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ต่าง ๆ และจากบุคคลที่สาม ซึ่งเมื่อรวมคุณสมบัติเหล่านี้กับการลด LCOE ก็จะทำให้เราได้รับสิ่งที่เราเรียกว่าเป็นหลักการที่มุ่งเน้น LCOE

เมื่อเทียบกับโมดูลปกติในตลาด โมดูล 600W+ ทำให้พลังงานทั้งหมดเพิ่มขึ้น 125W-130W ประสิทธิภาพของโมดูลเพิ่มขึ้น 0.3%-0.5% และการให้พลังงานเพิ่มขึ้น 1.51%-2.1% ต่อวัตต์ อีกทั้งโมดูล 600W+ ยังผ่านการทดสอบด้าน static mechanical load และการทดสอบที่มีความเข้มงวดอื่น ๆ อีก 5 รายการมาแล้ว และยังทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในสภาพอากาศที่แปรปรวน 

ด้านองค์กรภายนอก อาทิ แบล็ก แอนด์ วีทช์ (Black & Veatch), ดีเอ็นวี (DNV), เอเนอร์ติส (Enertis) และสถาบันระบบพลังงานแสงอาทิตย์ฟราวน์โฮเฟอร์ (Fraunhofer ISE) ได้ทำการวิเคราะห์คุณค่าเชิงขยายในโมดูลกำลังสูงรุ่น 600W+ ทั่วโลก ครอบคลุมสถานที่ที่มีการใช้งานหลัก ๆ 15 แบบ โดยผลการวิเคราะห์พบว่า โมดูล 600W+ ลด LCOE ได้ถึง 4.1% เมื่อเทียบกับ LCOE ของโมดูลอ้างอิงขนาด 540W

โมดูล 600W+ ถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางทั่วโลก ซึ่งสนับสนุนโรงไฟฟ้าระดับ GW หลายแห่ง โดยมีการใช้ในลาตินอเมริกา ยุโรป และภูมิภาคอื่น ๆ ทั้งในทะเลทรายและพื้นที่ทำประมง ในตลาดเชิงพาณิชย์และเชิงอุตสาหกรรม ช่วยให้อุตสาหกรรมหลายกลุ่มบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำได้

Rockwell Automation คว้าโครงการมูลค่า 1,242 ล้านบาท จาก Exyte Group ในมาเลเซีย

การดำเนินงานจะครอบคลุมถึงการให้บริการที่ครบวงจรในฐานะผู้รับจ้างเหมาด้านระบบอัตโนมัติรายหลัก , Main Automation Contractor, ในการสร้างระบบเฝ้าระวังและควบคุมโรงงาน

Rockwell Automation, Inc. (NYSE: ROK) บริษัทรายใหญ่ที่สุดในโลกในด้านการพัฒนานวัตกรรมระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล ได้รับการตกลงทำสัญญาโครงรับจ้างเหมาเบ็ดเสร็จมูลค่า 1,242 ล้านบาท (ราว 45 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์) จาก Exyte Group ผู้นำระดับโลกด้านการออกแบบ วิศวกรรม และการส่งมอบโรงงานไฮเทคในมาเลเซีย

ในฐานะผู้รับจ้างเหมาด้านระบบอัตโนมัติรายหลัก Rockwell Automation จะให้การสนับสนุน Exyte ด้วยการดำเนินการ LifecycleIQ Services เพื่อเสริมสร้างระบบเฝ้าระวังและควบคุมโรงงาน (Facility Monitoring and Control System หรือ FMCS) ให้สมบูรณ์ สำหรับโรงงานผลิตของบริษัทรายนี้ ซึ่งเป็นบริษัทข้ามชาติด้านเทคโนโลยีชั้นนำในปีนัง ประเทศมาเลเซีย โครงการ FMCS นี้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานปลายทางได้มีโซลูชันการติดตามข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่มีประสิทธิภาพสูง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2566

ความขาดประสิทธิภาพเชิงปฏิบัติการในสภาพแวดล้อมเชิงอุตสาหกรรมที่มีความแตกต่างหลากหลายสูง ซึ่งประกอบด้วยผู้ให้บริการหลายรายและระบบขับเคลื่อนองค์กรหลายรูปแบบ ส่งผลให้บริการวงจรชีวิตกลายเป็นที่ต้องการ โดย Frost & Sullivan ได้ประมาณว่าในแต่ละปี อุตสาหกรรมการผลิตต้องประสบกับความสูญเสียเชิงปฏิบัติการมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในทั่วโลก[1] บริการวงจรชีวิตช่วยให้บริษัทต่าง ๆ มีผลิตภาพมากขึ้นในทุกขั้นของวงจรชีวิต อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทได้รับคุณค่ามากขึ้นจากโครงการเปลี่ยนแปลงเชิงดิจิทัล

บริการ LifecycleIQ Services ของ Rockwell Automation เชื่อมต่อ สร้างความมั่นคง ยกระดับ และขยายปฏิบัติการผลิตให้เกิดสมรรถนะ ความเชื่อถือได้ ความปลอดภัย และการพัฒนานวัตกรรมที่เพิ่มขึ้น ด้วยการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับองค์ความรู้เชิงเทคนิคที่กว้างขวาง LifecycleIQ Services สามารถช่วยให้ผู้ผลิตเร่งระยะเวลานำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด ลดต้นทุน เพิ่มการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ให้เป็นไปอย่างสูงสุด และขจัดความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการ บริการเหล่านี้เหมาะสำหรับธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม อย่างเช่น อาหารและเครื่องดื่ม เภสัชภัณฑ์และชีววิทยาศาสตร์ เหมืองแร่ เซมิคอนดักเตอร์ ศูนย์ข้อมูล และอื่น ๆ อีกมากมาย

"เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน บริษัทต่าง ๆ ต้องทำงานให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ฉลาดยิ่งขึ้น และมีความคล่องตัวมากขึ้นในทุกช่วงของวงจรชีวิตขององค์กร พวกเขาประสบกับประเด็นปัญหาอย่างเช่นโครงสร้างพื้นฐานที่เสื่อมสภาพ ผลิตภาพที่ต่ำกว่า ช่องวางของทักษะบุคลากร และความต้องการในการบรรลุการเติบโตที่ยั่งยืน บริการวงจรชีวิตบูรณาการอุตสาหกรรม เทคโนโลยี ตลอดจนความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติการและการประยุกต์ใช้งาน เพื่อทำให้เกิดการผลิตที่ปลอดภัย มั่นคง และเชื่อถือได้" Marcelo Tarkieltaub ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท Rockwell Automation กล่าว

"เราตื่นเต้นที่ได้ทำงานร่วมกับ Exyte ซึ่งมีเป้าหมายเช่นเดียวกับเราในการส่งเสริมธุรกิจด้วยเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรม ด้วยความเชี่ยวชาญระดับโลกของเรา เรามีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานปลายทางของ Exyte มีความพร้อมสำหรับอนาคตด้วยการบูรณาการความคล่องตัวและความยืดหยุ่นในทั้งโครงสร้างพื้นฐานและกระบวนการต่าง ๆ" Marcelo กล่าว

"ตลาดระบบอัตโนมัติเชิงอุตสาหกรรมและการควบคุมกระบวนการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คาดว่าจะมีมูลค่า 4.97 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2568 การเติบโตดังกล่าวนี้จะขับเคลื่อนโดยโครงการของรัฐบาลในการส่งเสริมการใช้ระบบอัตโนมัติควบคู่ไปกับการลงทุนที่ขยายตัว ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับระบบอัตโนมัติจากการผลิตในหลายภาคส่วน และความต้องการที่สูงขึ้นสำหรับการผลิตปริมาณมากโดยมีต้นทุนการดำเนินงานลดลง[2] ในระดับโลกนั้น ขนาดของตลาดการประยุกต์ใช้การบริหารจัดการวงจรชีวิตบริการคาดว่าจะเติบโตจาก 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 เป็น 2.93 ดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี 2573[3]

Rockwell Automation อยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากว่า 40 ปี และมุ่งลงทุนต่อไปในวิสัยทัศน์ของบริษัทในการขยายความเป็นไปได้ของมนุษย์และการเปลี่ยนแปลงเชิงดิจิทัลสำหรับลูกค้าในทั่วทั้งภูมิภาค ด้วยพนักงานที่อุทิศตนกว่า 5,800 คนในภูมิภาคแห่งนี้และระบบนิเวศคู่ค้าที่แข็งแกร่งซึ่งทำงานร่วมกันในการส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าของเรา Rockwell Automation มุ่งเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่อไป ด้วยการปลดล็อกศักยภาพและผลิตภาพผ่านนวัตกรรมอัตโนมัติที่เชื่อมต่อถึงกัน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Rockwell Automation, Inc. และ Exyte

เกี่ยวกับ Rockwell Automation

Rockwell Automation, Inc. (NYSE: ROK) คือผู้นำระดับโลกด้านระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล เราเชื่อมโยงจินตนาการของผู้คนเข้ากับศักยภาพของเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มพูนความเป็นไปได้ใหม่ ๆ เท่าที่มนุษย์จะทำได้ ซึ่งจะทำให้โลกใบนี้มีความอุดมสมบูรณ์และยั่งยืนยิ่งขึ้น Rockwell Automation ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน มีพนักงานราว 25,000 คนที่คอยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าในกว่า 100 ประเทศอย่างทุ่มเท เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่เราใช้เพื่อสร้างองค์กรที่เชื่อมต่อถึงกันทั้งหมดให้เกิดขึ้นจริงกับองค์กรในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ที่ https://www.rockwellautomation.com/en-id.html 

[1] https://www.frost.com/frost-perspectives/new-era-in-industrial-automation/

[2] https://www.meticulousresearch.com/product/southeast-asia-industrial-automation-process-control-market-5073

[3] https://www.futuremarketinsights.com/reports/service-lifecycle-management-application-market


SI GROUP ขยายธุรกิจสารเติมแต่งน้ำมันหล่อลื่นด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอะมินิกชนิดใหม่

      บริษัทเพิ่มกำลังการผลิตสารต้านอนุมูลอิสระอะมินิก ETHANOX(TM) 4757 ในอินเดีย

SI Group บริษัทสารเติมแต่งสมรรถนะชั้นนำประกาศว่า จะเพิ่มขีดความสามารถด้านการผลิตและกำลังการผลิต เพื่อเริ่มผลิตสารต้านอนุมูลอิสระอะมินิก ETHANOX(TM) 4757 ที่โรงงานเมืองราซัล ประเทศอินเดีย โดย ETHANOX(TM) 4757 เป็นสารต้านอนุมูลอิสระปฐมภูมิแบบไดฟินิลลามีนชนิดออกทิเลต-บิวทิเลตเตต (octylated-butylated diphenylamine) ที่ใช้ในน้ำมันหล่อลื่น, จาระบี, อุตสาหกรรม, ยานยนต์ และของไหลรับถ่ายโอนความร้อน โดยคาดว่าจะวางจำหน่ายวัตถุดิบในเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/2565 และจะเพิ่มจำนวนสารเคมีที่มีความสำคัญนี้อีกหลายพันตัน

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารต้านอนุมูลอิสระอะมินิก ETHANOX(TM) 4757 ได้ที่เว็บไซต์ www.siigroup.com

ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ช่วยเสริมกลุ่มผลิตภัณฑ์สารต้านอนุมูลอิสระสำหรับสารหล่อลื่นที่มีอยู่ในปัจจุบันของ SI Group และจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์เสนอขายของบริษัทสำหรับลูกค้าน้ำมันหล่อลื่น โดยสารต้านอนุมูลอิสระอะมินิก ETHANOX(TM) 4757 ออกแบบมาเพื่อยืดอายุการใช้งานสารหล่อลื่นและเป็นส่วนสำคัญของบรรจุภัณฑ์สารเติมแต่ง โดยคุณสจ๊วต แมกเทวิช (Stuart McTavish) ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาตลาดฝ่ายสารเติมแต่งเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นของ SI Group กล่าวว่า "SI Group เป็นซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านสารต้านอนุมูลอิสระฟีนอลมานานหลายทศวรรษ และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเราให้ครอบคลุมถึงสารต้านอนุมูลอิสระอะมินิก ด้วยการใช้ประโยชน์จากการบูรณาการแบบย้อนกลับของเรา SI Group จะสามารถนำเสนอความปลอดภัยเพิ่มเติมให้แก่ลูกค้าในการจัดหาวัตถุดิบหลักนี้"

SI Group ยังคงมุ่งมั่นสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าน้ำมันหล่อลื่นอย่างไม่ลดละผ่านข้อเสนอมากมาย โดยคุณชัก เรียร์ดอน (Chuck Reardon) รองประธานฝ่ายโซลูชันอุตสาหกรรมของ SI Group กล่าวว่า "เรามุ่งมั่นต่อตลาดน้ำมันหล่อลื่นและนำเสนอโซลูชันที่ตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรม สารต้านอนุมูลอิสระอะมินิกมีความสำคัญต่อบรรจุภัณฑ์สารเติมแต่งน้ำมันหล่อลื่น และการเพิ่มกำลังการผลิตในภูมิภาคสำคัญแห่งนี้จะทำให้ลูกค้าของเราทั่วโลกได้รับประโยชน์"

SI Group ทำการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์สารต้านอนุมูลอิสระสำหรับเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นภายใต้ชื่อแบรนด์ ETHANOX(TM) โดยสารต้านอนุมูลอิสระ ETHANOX(TM) 4757 สามารถใช้ได้กับน้ำมันหล่อลื่นในอุตสาหกรรม, จาระบี และการขนส่งที่หลากหลาย

เกี่ยวกับ SI Group
SI Group คือบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านเทคโนโลยีสารเติมแต่งสมรรถนะ, สารละลาย, สารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม และสารเคมีตัวกลาง โซลูชันของ SI Group มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพของสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าอุปโภคบริโภคมากมายนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นพลาสติก, ยางและกาว, เชื้อเพลิงและสารหล่อลื่น, แหล่งน้ำมัน และยา ทั้งนี้ SI Group มีโรงงานผลิต 20 แห่ง ใน 3 ทวีป โดยให้บริการลูกค้าใน 80 ประเทศ และมีพนักงานประมาณ 2,000 คนทั่วโลก และในปี 2564 SI Group ได้รับการจัดอันดับเหรียญทองด้านความรับผิดชอบต่อสังคมจาก EcoVadis ทั้งยังอยู่ในกลุ่มท็อป 5% จากบริษัทกว่า 50,000 แห่งทั่วโลกด้วย SI Group สร้างสรรค์นวัตกรรมและผลักดันการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างมูลค่าด้วยความมุ่งมั่นในด้านความปลอดภัย, เคมี และผลลัพธ์ที่ไม่ธรรมดา ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.siigroup.com

สื่อมวลชนติดต่อ: Joseph Grande
โทร: + 1.413.684.2463
อีเมล: joe@jgrandecommunications.com

โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/95496/si_group__inc__logo.jpg

ฟาร์มิ่ง เผยยา "เลนิโอลิซิบ" ได้รับการประเมินเป็นกรณีเร่งด่วนโดยอย.สหรัฐ

      อย.สหรัฐ กำหนดวันตัดสินใจว่าจะอนุมัติหรือไม่อนุมัติคำขอขึ้นทะเบียนยาใหม่ในวันที่ 29 มีนาคม 2566 สำหรับยาเลนิโอลิซิบที่ใช้รักษาโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องชนิดหายาก APDS โดยอ้างอิงข้อมูลจากการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม รวมถึงการทดลองระยะยาว

ฟาร์มิ่ง กรุ๊ป เอ็น.วี. (Pharming Group N.V.) (Euronext Amsterdam: PHARM) (NASDAQ: PHAR) ประกาศว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (US FDA) ได้รับเรื่องเพื่อดำเนินการประเมินยากรณีเร่งด่วน (Priority Review) สำหรับยาเลนิโอลิซิบ (leniolisib) ที่มีการยื่นขอขึ้นทะเบียนยาใหม่ (New Drug Application หรือ NDA) โดยยาเลนิโอลิซิบเป็นยายับยั้งฟอสโฟอิโนซิไทด์ 3-ไคเนส เดลตา (Phosphoinositide 3-kinase Delta หรือ PI3K?) แบบรับประทาน สำหรับใช้รักษาโรค APDS หรือ แอคติเวเตด ฟอสโฟอิโนซิไทด์ 3-ไคเนส เดลตา ซินโดรม (Activated Phosphoinositide 3-kinase Delta Syndrome) ซึ่งเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องปฐมภูมิชนิดหายาก ในผู้ใหญ่และเด็กวัยรุ่นอายุ 12 ปีขึ้นไปในสหรัฐอเมริกา โดย FDA ได้กำหนดวันตัดสินใจว่าจะอนุมัติหรือไม่อนุมัติคำขอขึ้นทะเบียนยาใหม่ (Prescription Drug User Fee Act (PDUFA) Goal Date) ในวันที่ 29 มีนาคม 2566 เพื่อให้สอดคล้องกับการประเมินยากรณีเร่งด่วน

ฟาร์มิ่งยื่นขอขึ้นทะเบียนยาใหม่เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2565 โดยได้รับการสนับสนุนจากข้อมูลเชิงบวกของการทดลองยาเลนิโอลิซิบ ระยะที่ 2/3 ซึ่งบรรลุผลลัพธ์หลักร่วม (co-primary endpoints) ในการลดขนาดของต่อมน้ำเหลืองและการปรับแก้ภูมิคุ้มกันบกพร่องในกลุ่มประชากรเป้าหมาย ผลลัพธ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของยาเลนิโอลิซิบเมื่อเทียบกับยาหลอก (placebo) โดยรอยโรคต่อมน้ำเหลืองของผู้เข้าร่วมการทดลองมีขนาดลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับค่าพื้นฐาน (p=0.006) ขณะที่การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งเห็นได้จากสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของเซลล์บีที่ไม่เคยผ่านการรักษามาก่อน (na?ve B cells) เมื่อเทียบกับค่าพื้นฐาน (p=0.002) ผลการค้นพบเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวลดลงของตัวบ่งชี้โรค APDS ซึ่งประกอบด้วยการแพร่กระจายของต่อมน้ำเหลืองและการทำงานผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน รวมถึงความเสี่ยงของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกัน ข้อมูลด้านความปลอดภัยจากการศึกษายังแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยทนต่อยาเลนิโอลิซิบได้ดี นอกจากนั้นยังมีข้อมูลจากการทดลองทางคลินิกระยะยาวแบบเปิด (open-label) ด้วยการใช้ยาเลนิโอลิซิบในผู้ป่วยโรค APDS จำนวน 38 คน เป็นระยะเวลา 102 สัปดาห์โดยเฉลี่ย    

นพ. อนุรัก เรลาน (Anurag Relan) สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ของฟาร์มิ่ง กล่าวว่า "การที่ยาเลนิโอลิซิบของฟาร์มิ่งได้รับการประเมินเป็นกรณีเร่งด่วนจาก FDA ถือเป็นหลักชัยสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยโรคหายาก ยาเลนิโอลิซิบก้าวหน้าไปอีกขั้นบนเส้นทางของการอนุมัติยา ในฐานะยาที่ปรับเปลี่ยนการดำเนินโรคเพื่อรักษาโรค APDS ในผู้ใหญ่และเด็กวัยรุ่นอายุ 12 ปีขึ้นไปในสหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบันต้องพึ่งพาการรักษาแบบประคับประคอง เช่น การใช้ยาปฏิชีวนะและการบำบัดรักษาด้วยอิมมูโนโกลบูลิน เราตั้งตารอที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ FDA รวมถึงหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก เพื่อช่วยให้นักภูมิคุ้มกันวิทยา นักโลหิตวิทยา และผู้ป่วยโรค APDS สามารถเข้าถึงยาเลนิโอลิซิบได้"

เกี่ยวกับแอคติเวเตด ฟอสโฟอิโนซิไทด์ 3-ไคเนส เดลตา ซินโดรม (APDS)
APDS เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องปฐมภูมิที่พบได้ยาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อคนประมาณหนึ่งถึงสองคนต่อล้านคน โดยเกิดจากตัวแปรในยีน PIK3CD หรือไม่ก็ยีน PIK3R1 ที่ควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์เม็ดเลือดขาว ตัวแปรของยีนเหล่านี้ทำให้เกิดการทำงานมากกว่าปกติของวิถี PI3K? (ฟอสโฟอิโนซิไทด์ 3-ไคเนส เดลตา)[1],[2] การส่งสัญญาณที่สมดุลในวิถี PI3K? จำเป็นสำหรับการทำงานของภูมิคุ้มกันทางสรีรวิทยา เมื่อวิถีนี้ทำงานมากกว่าปกติ เซลล์ภูมิคุ้มกันจะไม่เติบโตเต็มที่และทำงานไม่ถูกต้อง นำไปสู่ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องและภูมิคุ้มกันผิดปกติ[1],[3] โรค APDS มีลักษณะเฉพาะคือการติดเชื้อรุนแรงบริเวณทางเดินหายใจและไซนัส และติดเชื้อซ้ำได้ ไปจนถึงมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง และโรคลำไส้[4],[5] เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจมีเงื่อนไขที่หลากหลายประกอบกัน รวมถึงภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องชนิดปฐมภูมิอื่น ๆ ผู้ที่เป็นโรค APDS จึงมักได้รับการวินิจฉัยผิดพลาดและได้รับการวินิจฉัยล่าช้าเฉลี่ยถึง 7 ปี[6] เนื่องจาก APDS เป็นโรคที่ลุกลามมาก ความล่าช้านี้อาจทำให้เกิดความเสียหายสะสมเมื่อเวลาผ่านไป รวมทั้งความเสียหายที่ปอดอย่างถาวรและเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง[4]-[7] วิธีเดียวที่จะวินิจฉัยภาวะนี้ได้อย่างชัดเจนคือผ่านการทดสอบทางพันธุกรรม

เกี่ยวกับเลนิโอลิซิบ
เลนิโอลิซิบ (Leniolisib) เป็นตัวยับยั้งโมเลกุลขนาดเล็กของไอโซฟอร์มเดลตาของหน่วยย่อยตัวเร่งปฏิกิริยา 110 kDa ของคลาส IA PI3K ที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายและมีโอกาสต้านมะเร็งได้ เลนิโอลิซิบยับยั้งการผลิตฟอสฟาติดิลโนซิทอล-3-4-5-ไตรฟอสเฟต (PIP3) ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวส่งสารในเซลล์ที่สำคัญซึ่งกระตุ้น AKT (ผ่าน PDK1) และควบคุมการทำงานของเซลล์มากมาย เช่น การเพิ่มจำนวนของเซลล์ การพัฒนาให้มีความจำเพาะของเซลล์ การผลิตไซโตไคน์ การอยู่รอดของเซลล์ การสร้างเส้นเลือดใหม่ และเมแทบอลิซึม ทั้งนี้ PI3K? และ PI3K? มีอยู่ทั่วไป แต่ PI3K? และ PI3K? พบในเซลล์ต้นกำเนิดที่ควบคุมการสร้างเม็ดเลือดเป็นหลัก บทบาทสำคัญของ PI3K? ในการควบคุมการทำงานของเซลล์จำนวนมากของระบบภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะ (เซลล์บีและเซลล์ทีในระดับที่น้อยกว่า) ตลอดจนระบบภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด (เม็ดเลือดขาวชนิดนิวโตรฟิล แมสต์เซลล์ และเม็ดเลือดขาวชนิดแมคโครฟาจ) บ่งชี้อย่างชัดเจนว่า PI3K? เป็นเป้าหมายการรักษาที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพสำหรับโรคภูมิคุ้มกันประเภทต่าง ๆ จนถึงปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยทนต่อยาเลนิโอลิซิบได้ดี ทั้งในการทดลองระยะที่ 1 เป็นครั้งแรกในมนุษย์ โดยทดลองในคนที่มีสุขภาพดี และการทดลองระยะที่ 2/3 ที่มีการเปิดรับผู้ป่วยเข้าร่วมการทดลอง

เกี่ยวกับฟาร์มิ่ง กรุ๊ป เอ็น.วี.
ฟาร์มิ่ง กรุ๊ป เอ็น.วี. (Pharming Group N.V.) (Euronext Amsterdam: PHARM) (NASDAQ: PHAR) เป็นบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ระดับโลกที่มุ่งมั่นเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้ป่วยที่เป็นโรคหายาก ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และเป็นอันตรายถึงชีวิต ฟาร์มิ่งพัฒนาและทำการตลาดยาทดแทนโปรตีนและยารักษาแบบแม่นยำ ซึ่งรวมถึงยาโมเลกุลขนาดเล็ก ยาชีววัตถุ และยีนบำบัด ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาทั้งในระยะแรกและระยะสุดท้าย ทั้งนี้ ฟาร์มิ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองไลเดิน ประเทศเนเธอร์แลนด์ และมีพนักงานทั่วโลกที่คอยช่วยเหลือผู้ป่วยในตลาดกว่า 30 แห่ง ทั้งในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียแปซิฟิก

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pharming.com และติดตามเราได้ทางลิงก์อิน

ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า
ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งรวมถึงกรอบเวลาและความคืบหน้าในการศึกษาระยะก่อนคลินิกและการทดลองทางคลินิกของฟาร์มิ่ง เพื่อศึกษาผลิตภัณฑ์ที่กำลังพัฒนา โอกาสทางคลินิกและการค้าของฟาร์มิ่ง ศักยภาพของฟาร์มิ่งในการเอาชนะปัญหาท้าทายต่าง ๆ อันเป็นผลจากการระบาดของโรคโควิด-19 ที่กระทบต่อการทำธุรกิจ และความคาดหวังของฟาร์มิ่งเกี่ยวกับข้อกำหนดเรื่องเงินทุนหมุนเวียนและทรัพยากรเงินสดที่วางแผนไว้ ข้อความเหล่านี้มีความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และสมมติฐานมากมาย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ขอบข่าย ความคืบหน้า และการขยับขยายการทดลองทางคลินิกและผลลัพธ์ในเรื่องต้นทุนจากการดำเนินการดังกล่าว ไปจนถึงความก้าวหน้าทางคลินิก วิทยาศาสตร์ ระเบียบกำกับดูแล และเทคนิค ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้ รวมถึงความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่น ๆ มีการระบุไว้ในรายงานประจำปี 2564 ของฟาร์มิ่ง และรายงานประจำปีบน Form 20-F สำหรับปีที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ซึ่งยื่นให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐแล้ว โดยเหตุการณ์ที่กล่าวถึงในข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้อาจไม่เกิดขึ้น และผลการดำเนินงานจริงของฟาร์มิ่งอาจแตกต่างไปอย่างมากจากที่คาดการณ์หรือระบุเป็นนัยไว้ในที่นี้ ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้านั้นให้ข้อมูล ณ วันที่เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยอิงกับข้อมูลที่ฟาร์มิ่งมีอยู่ ณ วันที่เผยแพร่

ข้อมูลภายใน
ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลที่มีคุณสมบัติหรืออาจมีคุณสมบัติเป็นข้อมูลภายใน ตามความหมายของมาตรา 7(1) ของระเบียบว่าด้วยการละเมิดตลาดของสหภาพยุโรป

อ้างอิง

  1. Lucas CL, et al. Nat Immunol. 2014;15:88-97.
  2. Elkaim E, et al. J Allergy Clin Immunol. 2016;138(1):210-218.
  3. Nunes-Santos C, Uzel G, Rosenzweig SD. J Allergy Clin Immunol. 2019;143(5):1676-1687.
  4. Coulter TI, et al. J Allergy Clin Immunol. 2017;139(2):597-606.
  5. Maccari ME, et al. Front Immunol. 2018;9:543.
  6. Jamee M, et al. Clin Rev Allergy Immunol. 2019;May 21.
  7. Condliffe AM, Chandra A. Front Immunol. 2018;9:338.

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

ฟาร์มิ่ง กรุ๊ป (Pharming Group) เมืองไลเดิน ประเทศเนเธอร์แลนด์
เฮเทอร์ โรเบิร์ตสัน (Heather Robertson) ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร
โทร: +31 71 524 7400
อีเมล: investor@pharming.com

เอฟทีไอ คอนซัลติง (FTI Consulting) กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร
วิกตอเรีย ฟอสเตอร์ มิตเชลล์ (Victoria Foster Mitchell), อเล็กซ์ ชอว์ (Alex Shaw), เอมี เบิร์น (Amy Byrne)
โทร: +44 203 727 1000

ไลฟ์สปริง ไลฟ์ ไซเอนเซส คอมมิวนิเคชัน (LifeSpring Life Sciences Communication) กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
ลีออน เมเลนส์ (Leon Melens)
โทร: +31 6 53 81 64 27
อีเมล: pharming@lifespring.nl

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ในสหรัฐอเมริกา
อีธาน เมเทเลนิส (Ethan Metelenis)
โทร: +1 (917) 882 9038
อีเมล: Ethan.Metelenis@precisionvh.com

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ในสหภาพยุโรป
แดน เคลีย์ (Dan Caley)
โทร: +44 (0) 787 546 8942
อีเมล: Dan.caley@aprilsix.com

โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1454235/Pharming_Group_NV_Logo.jpg