Friday, January 29, 2021

GAC Group ประสบความสำเร็จในเทคโนโลยีแบตเตอรี่กราฟีนชาร์จเร็วพิเศษ เล็งติดตั้งในรถรุ่น Aion V ที่พร้อมเดินเครื่องผลิตในเดือนกันยายน

 รถยนต์พลังงานใหม่ได้กลายเป็นโซลูชันสำคัญสำหรับการเดินทางแบบปลดปล่อยคาร์บอนต่ำทั่วโลก แต่เทคโนโลยีแบตเตอรี่มักจะเป็นข้อจำกัดการพัฒนาและการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในวงกว้าง โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กราฟีนซึ่งเป็นวัสดุใหม่ที่มีคุณสมบัตินำไฟฟ้าเป็นเลิศ ได้เข้ามาเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ไปอีกขั้น

ล่าสุด GAC Group ได้ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในเทคโนโลยีแบตเตอรี่ โดยแบตเตอรี่กราฟีนแบบชาร์จเร็วพิเศษเป็นความก้าวหน้าครั้งใหม่และได้เข้าสู่ขั้นตอนของการทดสอบใช้งานจริงกับรถยนต์แล้ว Aion V เป็นรถยนต์รุ่นแรกที่จะติดตั้งแบตเตอรี่ดังกล่าว กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบช่วงฤดูหนาวและมีกำหนดการเริ่มต้นผลิตจำนวนมากในเดือนกันยายนปีนี้

แต่แรกนั้นกราฟีนมีราคาสูงถึงกรัมละ 200-300 ดอลลาร์ จึงถูกเรียกว่า "ทองคำสีดำ" โดยที่งาน "2020 GAC Tech Day" ซึ่งจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม GAC Group ได้จัดแสดงเทคโนโลยีการผลิต 3DG (กราฟีนสามมิติ) ที่มีสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาเป็นของตัวเอง จนเข้ามาช่วยแก้ปัญหาราคากราฟีนแพง วิธีการผลิตที่ง่าย เสถียร และมีประสิทธิภาพ ช่วยลดค่าใช้จ่ายลงเหลือเพียงหนึ่งในสิบของวิธีแบบเดิม

หลังประสบความสำเร็จในการผลิตกราฟีนต้นทุนต่ำจำนวนมาก GAC Group ยังได้สร้างความคืบหน้าใหม่ในการใช้งานกราฟีนด้วย โดยอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าให้ความสนใจกับแบตเตอรี่กราฟีนแบบชาร์จเร็วพิเศษมากที่สุด แบตเตอรี่กราฟีนนี้สามารถชาร์จเร็วแบบ 6C เมื่อรวมกับตัวชาร์จพลังสูง 600A ทำให้สามารถชาร์จได้ 80% ในเวลาเพียง 8 นาที นอกจากนี้ แบตเตอรี่ยังผ่านการทดสอบความปลอดภัยที่เข้มงวดที่สุด นั่นคือ การทดสอบ Battery Shooting Test แสดงให้เห็นถึงคุณภาพและความน่าเชื่อถือในมาตรฐานสูงสุด

เทคโนโลยีแบตเตอรี่กราฟีนนี้เป็นผู้นำของอุตสาหกรรม โดยจะช่วยลดเวลาการชาร์จได้อย่างมาก รวมถึงยืดอายุแบตเตอรี่ได้นาน แก้จุดอ่อนปัจจุบันของรถยนต์ไฟฟ้าล้วน ข่าวดีคือ เทคโนโลยีแบตเตอรี่นี้ผ่านขั้นตอนวิจัยในห้องทดลองสู่ขั้นตอนการผลิตจริงแล้ว Aion V เป็นรถยนต์รุ่นแรกที่มาพร้อมแบตเตอรี่กราฟีน และปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการทดสอบการผลิตจำนวนมาก

การวางแผนเชิงกลยุทธ์และแนวทางเชิงรุกของ GAC Group ในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง จะให้การสนับสนุนที่แข็งแกร่งต่อการขยายและพัฒนาแบรนด์ GAC MOTOR ทั่วโลก ไม่ยากเลยที่จะคาดการณ์ว่าเทคโนโลยีนวัตกรรมล้ำสมัยต่าง ๆ ภายใต้แบรนด์ GAC MOTOR จะช่วยส่งเสริมการสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งล้ำด้วยคุณภาพ เทคโนโลยี และความพึงพอใจสำหรับผู้ขับขี่


Absen Deliver Overwhelming LED Display Solutions for Kaisa Prosperity

       Kaisa Prosperity, a large real estate developer in China, utilized cutting edge digital signage technology from Absen (SZSE: 300389) to unlock the full potential of Guangzhou Kaisa Baiyun City Plaza, its newly developed premises. Absen, the leading LED display manufacturer, worked with Jiake Intelligent, a company well experienced in providing advanced intelligent solutions, to customize a complete suite of breath-taking LED solutions for the new property.

The stunning Absen LED displays were installed inside and out of the sales center on the Guangzhou Baiyun Kaisa City Plaza, including a customized 3D naked-eye OOH display, a bespoke immersive LED cave, a seamless LED video wall and four LED strips in the hall inside the building.

3D Naked-eye OOH display

Mounted on the exterior of the building, the custom trapezoid-shaped LED wall of 274.89sqm has become an integral part of the whole building. With creative 3D content, it has transformed the building into a unique landmark with a combination of art and technology.

Interactive LED wall + LED strips in the hall 

Entering the sales center, visitors will get astounded by the innovative LED strips mounted on the ceiling above the architectural model and the large-format LED video wall. The videowall playing images and commercials of Kaisa Prosperity communicates the real estate information. The LED strips, visually intermingled in a picturesque disorder, are playing various content such as floral images, creating a relaxing atmosphere.

LED cave

Having delivered multiple LED cave solutions successfully, Absen is capable of realizing a 720? LED cave for Guangzhou Baiyun Kaisa with ease. Lying right behind the interactive LED video wall, the cave is an immersive space where the customer can play creative, futuristic content and real-estate commercials to visitors, introducing its residential and commercial properties. The product utilized here is the PL lite series. 

Commenting on this project, Qin Yi said, "We chose Absen as it is a public listed company and recognized LED manufacturer, with a renowned reputation of providing high quality products. The cooperation and support we received from the Absen team were invaluable. The team are professional; they paid great attention to detail and were quick in response during this project. Especially in this urgent project, they worked hard to deliver the perfect solutions."

Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1428689/1.jpg
        Photo Caption: Absen GS5.9 Plus, 274.89sqm

DDPAI สรรค์สร้างกล้องติดรถยนต์สำหรับรถ XPeng โดยเฉพาะ เปิดตัวที่ XPeng Auto Boutique Mall

   


DDPAI สรรค์สร้างกล้องติดรถยนต์สำหรับรถ XPeng โดยเฉพาะ เปิดตัวที่ XPeng Auto Boutique Mall




      เมื่อเร็ว ๆ นี้ XPeng (เสี่ยวเผิง) แบรนด์รถยนต์อัจฉริยะพลังงานไฟฟ้าจากประเทศจีน ได้ร่วมพัฒนากล้องติดรถยนต์รุ่น Mini5 และ Mini3 Pro และได้เปิดตัวที่ Xpeng Auto Boutique Mall แล้ว สำหรับ XPeng นั้นเป็นแบรนด์รถที่รู้ใจผู้ใช้งานชาวจีนเป็นอย่างดี ขณะที่กล้องติดรถยนต์ของ DDPAI ให้ความสำคัญกับคุณสมบัติการใช้งานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพความคมชัดสูง ดีไซน์ที่ดูดี ความบันเทิงที่หลากหลาย และฟังก์ชันอื่น ๆ ทั้งหมดนี้เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ล้ำสมัยและน่าหลงใหลสำหรับเจ้าของรถยนต์ XPeng

DDPAI และ XPeng ได้ร่วมกันพัฒนากล้องรุ่น Mini5 และ Mini3 Pro ให้สามารถใช้งานกับรถยนต์ Xpeng รุ่น P7 และ G3 ที่เชื่อมต่อเข้ากับอแดปเตอร์ Xpeng ได้โดยตรง นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันช่วยติดตามการจอดรถและฟีเจอร์อื่น ๆ จาก DDPAI ด้วย

แฟน ๆ ของ Xiaopeng Automobile เองก็ต่างตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง โดยได้สรุปข้อมูลและแชร์การสอนติดตั้งกล้อง รวมถึงลูกเล่นและประสบการณ์การใช้งานอีกมากมายในแวดวงผู้ใช้รถ โดยฟังก์ชันการจับภาพด้วยรีโมทคอนโทรลและสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ SR ได้สร้างมิติใหม่แห่งการบันทึกภาพการเดินทางที่น่าทึ่ง ซึ่งได้รับคำชื่นชมและการบอกต่อจากเจ้าของรถมากมาย

ตัวอย่างเช่น ในรุ่น Mini5 ด้วยคุณภาพกล้องที่ความละเอียดระดับ 4K ไม่เพียงจับภาพป้ายทะเบียนรถได้ชัดเจนเท่านั้น แต่ยังเก็บบรรยากาศสำหรับการถ่ายวีล็อกได้อย่างงดงาม นอกจากนี้ กล้อง Mini5 ยังมีฟังก์ชัน SR สุดล้ำ โดยมีการแสดงข้อมูลความเร็ว ระยะทาง ตำแหน่งความสูง อัตราเร่ง และข้อมูลอื่น ๆ ในวิดีโอด้วย ซึ่งนับเป็นประสบการณ์อันน่าทึ่ง

Xpeng Automobile เป็นผู้ออกแบบและผลิตรถยนต์อัจฉริยะพลังงานไฟฟ้าชั้นนำในจีน และยังเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีที่ผสมผสานการใช้งานอินเทอร์เน็ตเข้ากับนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ Xiaopeng Automobile มีความมั่งมุ่นที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำแห่งการขนส่งในอนาคต ด้วยการคิดค้นพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล โดยขณะนี้ Xpeng G3 และ P7 ได้ออกวางจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว

DDPAI ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 ยึดมั่นในการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเพื่อเปลี่ยนแปลงการเดินทางและไลฟ์สไตล์ของผู้คน DDPAI ผสานการรับรู้ทางสายตาเข้ากับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ โดยได้สร้างสรรค์อุปกรณ์รุ่นใหม่สำหรับบันทึกภาพ ระบบการรับรู้ของรถทั้งภายในและภายนอก และแพลตฟอร์ม Internet of Vehicles ซึ่งช่วยให้การเดินทางมีความอัจฉริยะและแบ่งปันไลฟ์สไลต์ที่น่าสนใจไปพร้อมกัน

ทั้ง DDPAI และ Xpeng Auto เป็นบริษัทที่มีนวัตกรรมล้ำสมัยและก่อตั้งขึ้นในประเทศจีน ต่างมุ่งมั่นคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมในด้านต่าง ๆ เพื่อการเดินทางอัจฉริยะ เพื่อให้เจ้าของรถและเพื่อน ๆ ได้สัมผัสประสบการณ์แห่งการขับขี่ที่ชาญฉลาด สะดวกสบาย และน่าหลงใหล ในอนาคต DDPAI จะสานต่อความร่วมมือกับ Xpeng Automobile เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การเดินทางอัจฉริยะที่เหนือชั้นกว่าด้วยนวัตกรรม

DDPAI x XPeng customized dash camera launched at XPeng Auto Boutique Mall

 Recently, the XPeng customized version of Mini5 and Mini3 Pro dash camera launched at Xpeng Auto Boutique Mall, Xpeng Automobile is smart car brand who more knows China. DDPAI dash camera, focus on the features with high-definition picture quality, good looking design, high playability and other functions, to bring innovative and interesting travel experience for the owners of XPeng cars.

DDPAI and XPeng jointly developedMini5 and Mini3 Pro to adapt to Xpeng Auto P7 and G3, which connects with the original adapter Xpeng auto directly, also achieve parking monitoring and all DDPAI feature functions.

The fans of Xiaopeng Automobile are also very enthusiastic. They spontaneously summarized and shared the installation tutorials, the boarding effect and experience in the community. The remote control capture of the staring and SR special effects brought a new way to record the wonderful journey, which won many owners' praise and sharing.

For example, Mini5, the definition of 4K picture quality is not only to see the license plate clearly, but also to shoot the beautiful scenery VLOG. In addition, Mini5 has a cool SR function. The speed, distance, altitude, acceleration, etc. data showed at the footage, that is amazing experience.

Xpeng Automobile is a leading intelligent electric vehicle designer and manufacturer in China, as well as a technology company integrating cutting-edge Internet and artificial intelligence innovation. Xiaopeng Automobile is committed to leading the future transportation mode through data-driven intelligent electric vehicle revolution. Now Xpeng G3, P7 are available.

DDPAI, founded in 2013, is committed to using innovative technology to change human travel and life style. Through visual perception and artificial intelligence, DDPAI creates a new generation of image consumer products, inside and outside vehicle perception system and Internet of Vehicles platform, enabling intelligent travel and sharing interesting life.

As highly innovative domestic enterprises, DDPAI and Xpeng Auto keep innovating and upgrading in different areas of smart travel, so that more owners and friends can experience intelligent, convenient and interesting car life. In the future, DDPAI will cooperate with Xpeng Automobile to create more intelligent travel experience with innovation.

Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1426598/1.jpg
Caption - DDPAI x XPeng customized dash camera launched at XPeng Auto Boutique Mall


Replika Software Secures Series A Financing from LVMH Luxury Ventures and L'Oreal BOLD Ventures to Power the Future of Social Selling

Replika Software, the turnkey social selling solution enabling brands to empower their networks of social sellers to inspire and sell online, has completed its Series A financing round with LVMH Luxury Ventures and L'Oreal BOLD, both investment arms of their parent companies. The funding will enable Replika to aggressively expand its global footprint of brands and industries which can significantly benefit from creating new social selling channels. With this financing, the company plans to continue investing in its technology, introduce new breakthrough features and add to their team to support the rapid adoption of the platform. Representatives from LVMH Luxury Ventures and L'Oreal BOLD (Business Opportunities for L'Oreal Development) will be a part of Replika's Board of Directors.

Kareen Mallet, Co-founder of Replika Software, said, "When we founded Replika, we envisioned a future where every brand would be able to benefit from the power of social selling. After concluding commercial arrangements with several Maisons of LVMH and brands of L'Oreal, it is tremendously satisfying to see that the investment arms of two of the world's most forward-thinking companies have decided to invest in our vision. We're thrilled to have their support as we enter this phase of growth and lead the industry towards humanizing online shopping."

Replika's relationship with LVMH started in 2019 when the group discovered and selected the solution to be highlighted at the Vivatech Innovation Awards.  The company was then invited to participate in LVMH's accelerator, "La Maison des Startups", at Station F and their business relationship has continued to expand ever since, with deployments in both Europe and the US. The journey with L'Oreal began when their Chief Digital Officer, Lubomira Rochet, a true advocate of Social Commerce, identified Replika out of over 1,000 startups exhibiting at Vivatech and she has continued to pave the way within the organization for brand deployments across all divisions, in countries around the world.

"The Series A financing builds on an exceptional year for Replika. We were able to rapidly grow a roster of clients across several verticals, introduced important programming and feature upgrades, while solidifying our management team with key executive appointments.  We believe this funding will help us shift the current online selling paradigm, not only in the fashion and beauty industries, but in the broader healthcare, entertainment, travel and electronics industries as well," -said Corey Gottlieb, Co-founder.

About Replika Software

Replika Software is an award-winning turnkey social selling software that enables brands to activate their network of social sellers to sell online, inspire on social media and connect with consumers anytime, anywhere. The company is based in New York and Paris, at Station F. with La Maison Des Startups/LVMH. Former Fashion Director from Neiman Marcus & Bergdorf Goodman, Kareen Mallet, along with Advertising Executive & Serial Entrepreneur, Corey Gottlieb, founded the company in 2016.   

CONTACT: media@replikasoftware.com

Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1426842/Replika_PR_210123_v2.jpg


CyberAgent Capital จัดงาน "Monthly Pitch Asia" กิจกรรมระดมทุนสำหรับสตาร์ทอัพในญี่ปุ่นสุดยิ่งใหญ่ในเวอร์ชันสากล ครั้งนี้จัดในรูปแบบออนไลน์

 - งานจับคู่ทางธุรกิจสำหรับนักธุรกิจร่วมลงทุนและบริษัทสตาร์ทอัพจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อส่งเสริมการลงทุนทั่วโลก -


CyberAgent Capital, Inc. ประกาศในวันที่ 21 มกราคมว่า งาน "Monthly Pitch Asia" (https://monthly-pitch.com/asia/en.html) ซึ่งเป็นกิจกรรมระดมทุนรายเดือนสุดยิ่งใหญ่สำหรับสตาร์ทอัพในญี่ปุ่นในเวอร์ชันสากลครอบคลุมสตาร์ทอัพจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้จัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์


รูปภาพ 1: https://kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M106456/202101189883/_prw_PI1fl_f2FbF26C.jpg


เนื่องจากเวลาเป็นสิ่งสำคัญและมีจำกัด บริษัทจึงเริ่มจัดงาน "Monthly Pitch" (https://monthly-pitch.com/) เพื่อให้ผู้ประกอบการในระยะเริ่มต้นสามารถพบกับนักลงทุนที่ทำธุรกิจในเอเชียได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ใช้เวลาน้อยที่สุดในการระดมทุนและสามารถทุ่มเทให้กับธุรกิจมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


CyberAgent Capital จัดงานรายเดือนมาตั้งแต่ปี 2016 และในเดือนมกราคม 2021 ก็เป็นการจัดงานครั้งที่ 44 แล้ว โดยมีบริษัทเข้าร่วมงาน 330 แห่ง นับเป็นงานระดมทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น


ในสถานการณ์ปกติงานนี้จัดในรูปแบบออฟไลน์ แต่งานครั้งล่าสุดจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2021 โดยบริษัทสตาร์ทอัพ 6 แห่งจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มาร่วมนำเสนอโครงการ และมีการพบปะกันระหว่างสตาร์ทอัพกับนักลงทุนจากทั่วโลก ทั้งนี้ ในอดีตงาน "Monthly Pitch" เคยจัดขึ้นในต่างประเทศที่กรุงจาการ์ตาเมื่อปี 2019


สตาร์ทอัพที่เข้าร่วมงาน


- Kyna (เวียดนาม): แหล่งการศึกษาออนไลน์ ผู้ให้บริการการศึกษาออนไลน์ชั้นนำในเวียดนาม โดยจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ให้แก่เด็ก ๆ

https://kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M106456/202101189883/_prw_PI2fl_B5F91wp6.jpg


- Edoctor (เวียดนาม): บริการแพลตฟอร์มสุขภาพออนไลน์ในเวียดนาม

https://kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M106456/202101189883/_prw_PI3fl_0Ak7i1PH.jpg


- TheBank (เวียดนาม): บริการเปรียบเทียบราคาผลิตภัณฑ์ทางการเงินในเวียดนาม

https://kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M106456/202101189883/_prw_PI4fl_jXY8hrke.jpg


- GetLinks (ประเทศไทย): แพลตฟอร์มจัดหางานออนไลน์สำหรับบุคลากรด้านไอทีในประเทศไทย

https://kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M106456/202101189883/_prw_PI5fl_AAyBv2Xu.jpg


- Viddsee (อินโดนีเซีย, สิงคโปร์): แพลตฟอร์มสร้างหนังสั้นสำหรับมืออาชีพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

https://kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M106456/202101189883/_prw_PI6fl_OVuBClwg.jpg


- Moladin (อินโดนีเซีย): บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับซื้อขายรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์

https://kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M106456/202101189883/_prw_PI7fl_m363n3x0.jpg


ความคิดเห็นจากสตาร์ทอัพ


"CyberAgent Capital รวบรวมกลุ่มนักลงทุนและผู้นำอุตสาหกรรมที่น่าประทับใจและมีความสนใจเหมือนกัน โดยทั้งหมดล้วนเป็นผู้นำในสาขาต่าง ๆ ในญี่ปุ่น และมีความสนใจอย่างจริงจังในการยกระดับการลงทุนและขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทีมงานของ CAC เป็นผู้บุกเบิกเข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงมีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและสามารถเข้าถึงบรรดาผู้ก่อตั้งบริษัทผ่านบริษัทในเครือ รวมถึงเครือข่ายของผู้ก่อตั้งบริษัท เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ยกระดับความพยายามร่วมกันเพื่อดึงดูดพันธมิตรจากญี่ปุ่นให้มากขึ้น เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นสมาชิกหลักของความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสมาชิก RCEP" (Keenan Kwok ซีอีโอของ GetLinks)


เกี่ยวกับ CyberAgent Capital, Inc.

องค์กรด้านการลงทุนที่เป็นผู้นำในการพัฒนานวัตกรรมทั่วโลกร่วมกับบริษัทสตาร์ทอัพยูนิคอร์น

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://www.cyberagentcapital.com/en/


ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ Monthly Pitch

- โฮมเพจของ Monthly Pitch Asia

https://monthly-pitch.com/asia/en.html


รูปภาพ 2: https://kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M106456/202101189883/_prw_PI8fl_zOM5x0UL.jpg


ที่มา: CyberAgent Capital, Inc.

Sai Life Sciences ประกาศแผนเพิ่มกำลังคนและขยายการดำเนินงานในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ

Sai Life Sciences องค์กรรับจ้างวิจัย พัฒนา และผลิตยา (CRDMO) ที่เติบโตเร็วเป็นอันดับต้น ๆ ของอินเดีย ประกาศแผนเพิ่มจำนวนพนักงานเป็นสองเท่า และขยายขีดความสามารถทางเทคนิค ณ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านกระบวนการ API และการพัฒนาระบบวิเคราะห์ ในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าทั่วโลกที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


Krishna Kanumuri ซีอีโอและกรรมการผู้จัดการ บริษัท Sai Life Sciences กล่าวว่า "เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ศูนย์ความเป็นเลิศเมืองแมนเชสเตอร์ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ศูนย์แห่งนี้เป็นตัวเชื่อมสำคัญกับโครงการนำร่องและโรงงานผลิตในอินเดีย ซึ่งช่วยให้การนำเสนอบริการทั้งในสหรัฐอเมริกาและอินเดียมีความราบรื่น ตลอดจนสร้างความต่อเนื่องในการค้นคว้า พัฒนา และนำตัวยาใหม่ ๆ ออกจำหน่าย การขยายการดำเนินงานครั้งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของเราในการสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อสนับสนุนการพัฒนาตัวยาใหม่ของลูกค้าของเรา"


ศูนย์ความเป็นเลิศเมืองแมนเชสเตอร์ของ Sai Life Sciences เปิดดำเนินการเต็มรูปแบบเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 โดยมีพนักงาน 24 คน และได้ทำโครงการวิจัยหลายโครงการเกี่ยวกับสารประกอบเชิงซ้อน ทั้งนี้ เนื่องจากมีลูกค้าในสหราชอาณาจักร ยุโรป และสหรัฐอเมริกาให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้น บริษัทจึงได้ขยายการดำเนินงานด้วยการติดตั้งตู้ดูดไอสารเคมีเพิ่มจาก 20 เป็น 75 ตู้ และเพิ่มจำนวนนักวิทยาศาสตร์จาก 24 เป็นกว่า 50 คน นอกจากนั้นจะมีการติดตั้ง Kilo Lab มาตรฐาน GMP ภายในปี 2564 และเมื่อไม่นานมานี้ บริษัทได้เริ่มกระบวนการสรรหาบุคลากรหลายตำแหน่ง ครอบคลุมงานด้าน API รวมถึงการวิจัยและพัฒนาระบบวิเคราะห์ วิทยาศาสตร์อนุภาค และวิศวกรรม


ศูนย์ความเป็นเลิศเมืองแมนเชสเตอร์ตั้งอยู่ใจกลางระบบนิเวศชีววิทยาศาสตร์ Alderley Park โดยศูนย์แห่งนี้เปิดโอกาสให้บริษัทยาและเทคโนโลยีชีวภาพทั้งในสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปได้ร่วมงานกับนักวิทยาศาสตร์ของ Sai Life Sciences โดยตรงและสะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยให้ทำงานร่วมกับลูกค้าในสหรัฐอเมริกาได้ง่ายขึ้นด้วยการลดความเหลื่อมของเวลาตามเขตเวลา ศูนย์แห่งนี้จึงมีความพร้อมในการส่งเสริมการพัฒนาระดับโลก เพิ่มกำลังการผลิต และถ่ายทอดเทคโนโลยีไปสู่โรงงานในอินเดีย นอกจากนี้ การขยายการดำเนินงานยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในหลาย ๆ ด้าน ทั้งเทคโนโลยีการวิเคราะห์กระบวนการ (PAT) การพัฒนาการตกผลึก และการวิเคราะห์คุณสมบัติทางกายภาพ


Sai Life Sciences กำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงองค์กรในหลาย ๆ ด้าน โดยบริษัทลงทุนมูลค่ารวม 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงปี 2562-2566 ตามโครงการ Sai Nxt ในสามส่วนหลัก ได้แก่ บุคลากรและวัฒนธรรมองค์กร กระบวนการและระบบอัตโนมัติ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานและขีดความสามารถด้านวิทยาศาสตร์


เกี่ยวกับ Sai Life Sciences


Sai Life Sciences เป็นองค์กร CRO/CDMO ที่ให้บริการครบวงจร และขับเคลื่อนด้วยวิสัยทัศน์ในการสนับสนุนการเปิดตัวยาชนิดใหม่ให้ได้ 25 รายการภายในปี 2568 โดย Sai Life Sciences ทำงานร่วมกับบริษัทยาและเทคโนโลยีชีวภาพทั่วโลกเพื่อเร่งคิดค้น พัฒนา และผลิตโมเลกุลขนาดเล็กที่มีความซับซ้อน Sai Life Sciences เป็นองค์กร CDMO เต็มตัว โดยสนับสนุนโครงการพัฒนาตัวยาใหม่หลากหลายโครงการ และส่งมอบคุณค่าอันเป็นผลมาจากคุณภาพและการตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพของบริษัท ปัจจุบัน Sai Life Sciences ทำงานร่วมกับบริษัทยายักษ์ใหญ่ระดับท็อป 10 มากถึง 7 แห่ง รวมถึงบริษัทยาและเทคโนโลยีชีวภาพขนาดกลางและขนาดย่อมอีกหลายแห่ง Sai Life Sciences เป็นบริษัทเอกชนที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนระดับโลกอย่าง TPG Capital และ HBM Healthcare Investment สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sailife.com


รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1428651/Sai_Life_Sciences_UK_Expansion.jpg

โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/1044186/Sai_Life_Sciences_Logo.jpg

Sai Life Sciences announces plans to double headcount and expand capabilities in Manchester, UK

Sai Life Sciences, one of India's fastest growing Contract Research, Development & Manufacturing Organizations (CRDMOs), today announced plans to double its headcount and expand its suite of technical capabilities at its Manchester site, a centre of excellence for API process and analytical development serving an expanding list of global clients.


Making the announcement, Krishna Kanumuri, CEO & Managing Director, Sai Life Sciences, said, "We are truly heartened by our customers' response to our Manchester site. The site serves as a vital bridge to our pilot and manufacturing facilities in India, enabling seamless integration with the rest of our service offerings across the USA and India, spanning the drug discovery, development, and commercialisation continuum. This expansion will further enhance our ability to add value to the NCE pipelines of our customers."


The Sai Life Sciences' Manchester site became fully operational in August 2020, onboarded 24 members of staff and has since delivered multiple projects involving complex chemistry. With a growing interest from customers across the UK, Europe and US, the present expansion involves an increase in capacity from 20 to 75 fume cupboards and an increase in headcount from 24 to 50+ scientists. A further expansion will see the addition of a GMP Kilo Lab later in 2021. The company has recently commenced recruitment for multiple positions across API process and analytical research & development, particle sciences and engineering.


Located in the heart of the Alderley Park life-sciences ecosystem, Sai Life Sciences' Manchester site creates opportunities for UK and EU based pharma companies and biotechs to have easier face-to-face collaboration with its scientists, and to provide easier collaboration with US based clients due to reduced time zone differences. The centre of excellence is well-positioned to provide world-class development, scale-up and technology transfer to the Indian sites as and when required. This new expansion will also add capability in several key areas including process analytical technology (PAT), crystallisation development and physical properties analysis.


Sai Life Sciences is currently amid an organization-wide transformation. It is investing US$150 million during 2019-23, as part of the Sai Nxt initiative, across three core areas - people & culture, processes & automation, infrastructure & scientific capabilities.


About Sai Life Sciences


Sai Life Sciences is a full-service CRO/ CDMO driven by a vision to support the launch of 25 new medicines by 2025.  It works with innovator pharma and biotech companies globally, accelerating the discovery, development, and manufacture of complex small molecules. As a pure-play CRO-CDMO, Sai Life Sciences has served diverse NCE development programs, consistently delivering value based on its quality and responsiveness. Today, it works with 7 of the top 10 large pharma companies, as well as several small and mid-sized pharma & biotech companies. Sai Life Sciences is privately held and backed by global investors, TPG Capital and HBM Healthcare Investments. www.sailife.com


Photo: https://mma.prnewswire.com/media/1428651/Sai_Life_Sciences_UK_Expansion.jpg

Logo: https://mma.prnewswire.com/media/1044186/Sai_Life_Sciences_Logo.jpg

2021 Japan Prize Laureates Announced

The winners of the 2021 Japan Prize were announced on January 29 by the Japan Prize Foundation and its president, Hiroshi Komiyama. The newest laureates are Australian researcher Prof. Martin Andrew Green, honored for his work in the field of "Resources, Energy, the Environment, and Social Infrastructure," and U.S. researchers Prof. Bert Vogelstein and Dr. Robert A. Weinberg, joint winners for their work in the field of "Medical Science and Medicinal Science."


- In the field of Resources, Energy, the Environment, and Social Infrastructure


Prof. Martin Andrew Green:

https://kyodonewsprwire.jp/img/202101139691-O1-aQv3J84r


- In the field of Medical Science and Medicinal Science


Prof. Bert Vogelstein:

https://kyodonewsprwire.jp/img/202101139691-O2-mi5iCHaU


Dr. Robert A. Weinberg:

https://kyodonewsprwire.jp/img/202101139691-O3-nF44s3aw


Prof. Green is being honored for his work in developing high-efficiency silicon photovoltaic devices, while Prof. Vogelstein and Dr. Weinberg are being honored for their pioneering contributions to the development of a multi-step carcinogenesis model, and to the model's application and its impact on improving cancer treatment.


Approximately 14,000 prominent scientists and engineers from Japan and other countries were approached for nominations for this year's Japan Prize, and they nominated 142 individuals in the field of Resources, Energy, the Environment, and Social Infrastructure, and 243 individuals in the field of Medical Science and Medicinal Science. This year's Japan Prize laureates were selected from among those 385 nominations.


Please visit:

https://www.japanprize.jp/en/index.html


Source: Japan Prize Foundation


AsiaNet 87819

ข้อมูลจากการวิจัย Below-the-Knee ระยะเวลา 12 เดือนจากการศึกษาบอลลูนเคลือบยา SELUTION SLR(TM) ของ MedAlliance ได้รับการเผยแพร่เป็น Late Breaking Trial ในการประชุม LINC

ผลลัพธ์จากการวิจัย PRESTIGE* Below-the-Knee (BTK) ในระยะเวลา 12 เดือน ได้รับการเผยแพร่ในรูปแบบ Late Breaking Trial ในการประชุม LINC 2021 โครงการวิจัยทางคลินิกดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อประเมินความปลอดภัยและผลการทำงานของ SELUTION SLR(TM) ซึ่งเป็นบอลลูนเคลือบยา sirolimus ตัวใหม่ของ MedAlliance สำหรับการรักษาภาวะขาดเลือดบริเวณแข้ง (TASC C & D) ในผู้ป่วยที่ขาขาดเลือดอย่างรุนแรง (CLI)


ผลการวิจัยพบว่า อัตรา Primary Patency Rate อยู่ที่ 78% ขณะที่อัตราการหายของบาดแผลอยู่ที่ 81% โดยผู้ป่วย 93% ไม่ต้องทำหัตถการที่รอยโรคซ้ำ (Freedom from Target Lesion Revascularization หรือ TLR) ส่วนผู้ป่วย 84% ไม่ต้องตัดอวัยวะ (Amputation Free Survival หรือ AFS) ซึ่งตัวเลขทั้งหมดเหล่านี้ยังคงต่อเนื่องมาจากข้อมูลวิจัยระยะเวลา 6 เดือน


PRESTIGE เป็นโครงการวิจัยแบบไปข้างหน้า ดำเนินการในศูนย์เดียว และไม่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทยา โครงการดังกล่าวมีขึ้นที่โรงพยาบาล Singapore General Hospital (SGH) ดำเนินการโดยรองศาสตราจารย์ Tze Tec Chong และดร. Tjun Yip Tang ซึ่งทั้งสองเป็นที่ปรึกษาอาวุโสประจำแผนกศัลยกรรมหลอดเลือดของโรงพยาบาลแห่งนี้ โครงการวิจัยนี้มีผู้ป่วยเข้าร่วม 25 คน อายุเฉลี่ย 64 ปี ในกลุ่มนี้ผู้ป่วย 88% เป็นโรคเบาหวาน ขณะที่ 44% เป็นไตวายระยะสุดท้าย ไม่มีผู้ป่วยคนใดจำเป็นต้องใส่ขดลวดช่วยชีวิต โดยมีการติดตามผลทางคลินิกในระยะเวลา 1, 3, 6 และ 12 เดือน


รองศาสตราจารย์ Chong กล่าวว่า "เราสังเกตเห็นปรากฏการณ์การไหลอย่างช้า ๆ ของสารทึบ และพบบางเคสที่บาดแผลหายเร็วจากการใช้บอลลูนนี้ ทั้งยังตรวจสอบติดตามและใช้งานได้ง่ายด้วย เราจึงมุ่งมั่นในการต่อยอดประสบการณ์การทดลองกับอุปกรณ์ตัวนี้ต่อไป"


ภาวะขาดเลือดขั้นวิกฤติ (CLI) คือการอุดตันอย่างรุนแรงของหลอดเลือดแดง ซึ่งทำให้เลือดไหลเวียนไปยังแขนขาได้น้อยลงมาก โดยอาจลุกลามจนทำให้เกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง เกิดแผลเปื่อยหรือแผลกดทับบริเวณผิวหนัง ทั้งนี้ CLI มักทำให้ผู้ป่วยต้องตัดอวัยวะออก


สิงคโปร์มีผู้ป่วยโรคเบาหวานเยอะมาก ทำให้ภาวะ CLI เป็นปัญหาท้าทายสำคัญสำหรับผู้ป่วยโรคเส้นเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน (PAD) โดยโรงพยาบาล SGH ทำการรักษาผู้ป่วยภาวะ CLI กว่าปีละพันครั้ง


"เรามีความยินดีอย่างยิ่งกับผลการวิจัย BTK ระยะเวลา 1 ปีในกลุ่มผู้ป่วยที่รักษายากเช่นนี้" Jeffrey B. Jump ประธานและซีอีโอของ MedAlliance กล่าว "สิ่งนี้ช่วยเติมเต็มผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมที่เราได้เห็นในผู้ป่วยโรค SFA และโรคหลอดเลือดหัวใจมาแล้ว"


เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา MedAlliance ได้รับการรับรองมาตรฐาน CE Mark สำหรับ SELUTION SLR ในการรักษาโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย โดยโครงการวิจัย STEP Pedal Arch และ SUCCESS PTA ซึ่งเป็นโครงการวิจัยขนาดใหญ่หลังออกสู่ท้องตลาดกับผู้ป่วยโรค PAD จะเปิดรับอาสาสมัครเร็ว ๆ นี้ ส่วนในสหรัฐ SELUTION SLR ได้รับสถานะ Breakthrough Device Designation Status จากองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) สำหรับบอลลูนเคลือบยารักษารอยโรคใต้เข่าส่วนขอบ


เทคโนโลยีของ SELUTION SLR ประกอบด้วย MicroReservoirs อันเป็นเอกลักษณ์ ผลิตขึ้นจากพอลิเมอร์แบบสลายได้ทางชีวภาพผสมเข้ากับยาไซโรลิมัสลดการตีบตันซ้า MicroReservoirs ที่ว่านี้ทำหน้าที่ควบคุมและรักษาการปล่อยยา โดยการปล่อยยาไซโรลิมัสจากขดลวดในลักษณะนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลดีทั้งในระบบหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจและหลอดเลือดส่วนปลาย ขณะที่เทคโนโลยี CAT(TM) (Cell Adherent Technology) กรรมสิทธิ์ของ MedAlliance ช่วยให้ MicroReservoirs สามารถเคลือบบนบอลลูนและติดเข้ากับช่องภายในหลอดเลือดขณะให้ยาผ่านบอลลูนขยายหลอดเลือด


โครงการวิจัย PRESTIGE ย่อมาจากPhysician initiated, prospective, non-Randomized single-center trial, investigating the safety andEfficacy of the Treatment with theSelution Sirolimus Coated Balloon inTASC C and D Tibial occlusive diseaseIn patients with critical limb Ischemia from SinGaporE


สื่อมวลชนติดต่อ :


Richard Kenyon

อีเมล: rkenyon@medalliance.com

โทร: +44 7831 569940


MedAlliance ก่อตั้งขึ้นในปี 2551 โดยเป็นบริษัทเทคโนโลยีการแพทย์เอกชนที่มีสำนักงานใหญ่ในสวิตเซอร์แลนด์ และมีสาขาในเมืองเออร์ไวน์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร และสิงคโปร์ MedAlliance เชี่ยวชาญในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ และการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์บูรณาการยาและเครื่องมือแพทย์ขั้นสูง สำหรับการรักษาโรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจและหลอดเลือดส่วนปลาย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.medalliance.com


รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1428937/MedAlliance_SELUTION_SLR.jpg

โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1196864/MedAlliance_Logo.jpg

12-Month Below-the-Knee Data with MedAlliance's SELUTION SLR(TM) Presented as Late Breaking Trial at LINC

12-month results from the PRESTIGE* Below-the-Knee (BTK) study have been presented as a Late Breaking Trial at LINC 2021. The objective of this clinical investigation has been to evaluate safety and performance outcomes of SELUTION SLR(TM), MedAlliance's novel sirolimus-eluting balloon, for the treatment of long tibial occlusive lesions (TASC C & D) in patients with Critical Limb Ischemia (CLI).


The Primary Patency Rate was 78% and the rate of wound healing was 81%. Freedom from Target Lesion Revascularization (TLR) was exhibited by 93% of patients and 84% demonstrated Amputation Free Survival (AFS). All these figures have been sustained from the six-month data.


PRESTIGE is a prospective, single-center, physician-initiated clinical study, run at the Singapore General Hospital (SGH) by Associate Professor Tze Tec Chong and Dr. Tjun Yip Tang, who are both Senior Consultants at the Hospital's Department of Vascular Surgery. Twenty-five patients were enrolled with an average age of 64. 88% had diabetes mellitus and 44% had end stage renal failure. No patients required bailout stenting. Clinical follow-up was at one, three, six and 12 months.


"We have observed minimal slow-flow phenomena and some cases of fast wound healing with this balloon. It is also easy to track and deliver. We are looking forward to gaining further clinical experience with this device," commented Prof. Chong.


CLI is a severe obstruction of the arteries which markedly reduces blood flow to the extremities. It can progress to the point of severe pain and skin ulcers or sores: CLI often leads to amputation.


Singapore has a high percentage of diabetics in its population and CLI therefore constitutes a major challenge among patients seen with Peripheral Artery Disease (PAD). SGH performs over 1,000 interventional procedures a year on patients suffering from CLI.


"We are very pleased with the one-year BTK results in this very difficult patient population", added MedAlliance Chairman and CEO Jeffrey B. Jump. "This complements the excellent results we have seen in SFA and coronary patients".


In February 2020 MedAlliance received CE Mark approval for SELUTION SLR in the treatment of peripheral artery disease. Both the STEP Pedal Arch study and SUCCESS PTA, a large post marketing clinical study in PAD, will commence enrolment soon. In the US, SELUTION SLR has received US Food and Drug Administration (FDA) Breakthrough Device Designation Status for a DEB in the treatment of peripheral below-the-knee lesions.


SELUTION SLR's technology involves unique MicroReservoirs made from biodegradable polymer intermixed with the anti-restenotic drug sirolimus. These MicroReservoirs provide controlled and sustained release of the drug. Extended release of sirolimus from stents has been proven highly efficacious in both coronary and peripheral vasculatures. MedAlliance's proprietary CAT(TM) (Cell Adherent Technology) enables the MicroReservoirs to be coated onto balloons and adhere to the vessel lumen when delivered via an angioplasty balloon.


*Physician initiated, prospective, non-Randomized single-center trial, investigating the safety andEfficacy of the Treatment with theSelution Sirolimus Coated Balloon inTASC C and D Tibial occlusive diseaseIn patients with critical limb Ischemia from SinGaporE.


Media Contact:


Richard Kenyon

rkenyon@medalliance.com

+44 7831 569940


Founded in 2008, MedAlliance is a privately-owned medical technology company. It is headquartered in Switzerland, with facilities in Irvine, California; Glasgow, UK; and Singapore. MedAlliance specializes in the development of ground-breaking technology and commercialization of advanced drug device combination products for the treatment of coronary and peripheral artery disease. For further information visit: www.medalliance.com


Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1428937/MedAlliance_SELUTION_SLR.jpg

Logo - https://mma.prnewswire.com/media/1196864/MedAlliance_Logo.jpg

FP Markets เปิดตัวแอปพลิเคชันเทรดบนมือถือ ใช้งานง่าย-ฟีเจอร์ครบครัน

แอปพลิเคชัน FP Markets Mobile App ช่วยให้เทรดเดอร์เข้าถึงข้อมูลข่าวสารมากมายเพียงแค่ปลายนิ้วทุกที่ทุกเวลา


ในโลกของการเทรดออนไลน์ที่มีความเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลานั้น FP Markets หนึ่งในบริษัทฟินเทคชั้นนำจากออสเตรเลีย ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ชั้นนำ ยังคงเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด บริษัทได้ประกาศเปิดตัวแอปพลิเคชัน FP Markets Mobile App ที่ใช้งานง่ายและมีฟีเจอร์ครบครัน ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถพกพาบัญชีเทรดติดตัวไปได้ทุกที่


แอปพลิเคชัน FP Markets Mobile Trading App สามารถใช้ได้บนอุปกรณ์ Android และ iOS ทุกรุ่น โดยสามารถซื้อขายฟอเร็กซ์ และ CFD ได้ทั้งหุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงินดิจิทัล


ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง Android  (Google Play) และ iOS  (App Store)


แอปพลิเคชันใหม่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงการจับคู่สกุลเงินกว่า 60 คู่ อีกทั้งยังสามารถเทรดหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกกว่า 50 ตัว เช่น Facebook, Google, Apple และ Amazon นอกจากนี้  FP Markets ยังให้บริการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และดัชนีอีกหลายสิบตัวจากตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดทั่วโลก ส่วนผู้ที่สนใจในการซื้อขายสินทรัพย์เกิดใหม่อย่างสกุลเงินดิจิทัล ก็มีทั้ง Bitcoin, Ethereum, Litecoin และ Ripple ให้เลือกซื้อขายได้


แมตต์ เมอร์ฟี กรรมการผู้จัดการ กล่าวถึงความสำคัญของการเปิดตัวแอปพลิเคชันมือถือนี้ว่า "การเปิดตัวแอปพลิเคชัน FP Markets Mobile Trading App คือการดำเนินการครั้งสำคัญของบริษัท เพื่อตอบสนองเทรดเดอร์ยุคใหม่ที่ต้องการเทรดได้ทุกที่ทุกเวลา"


การทำงานอย่างหนักของบริษัทในปี 2563 ได้รับการยอมรับด้วยรางวัลมากมายที่ได้รับในปีนี้ เช่น 'Best FX Broker Australia' และ 'Global Forex Value Broker' ซึ่งคุณแมตต์ได้อธิบายว่า ความสำเร็จของบริษัทไม่ได้เกิดจากการทำงานหนักและความทุ่มเทเพียงอย่างเดียว


"ผมไม่สามารถมองข้ามประโยชน์ของการสั่งสมประสบการณ์ยาวนานกว่า 15 ปีในอุตสาหกรรมนี้ เรามีเทรดเดอร์ที่อยู่กับเรามาตั้งแต่วันแรก และเราร่วมมือกับพวกเขาเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยฟีดแบคจากพวกเขาเป็นส่วนสำคัญในการออกแบบฟังก์ชันการทำงานและฟีเจอร์ของแอปพลิเคชันใหม่นี้"


ฟีเจอร์หลักของแอปนี้มาจากเสียงตอบรับของลูกค้า โดยเทรดเดอร์สามารถใช้งานได้ดังนี้


- ฝากและถอนผ่านแอปมือถือ

- ใช้เมนู "รายการโปรด" เพื่อการเทรดที่รวดเร็วและราบรื่น

- เข้าถึงบัญชีของตัวเองและเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าผ่านทาง Client Portal

- เข้าถึงสภาพคล่องระดับสูงด้วยการกำหนดราคาแบบเรียลไทม์

- ทำการวิจัยและวิเคราะห์โดยใช้เครื่องมือเทรดที่หลากหลาย

- เข้าสู่บัญชี MetaTrader 4 ได้โดยใช้ข้อมูลเดียวกัน


ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน FP Markets Mobile Trading App และเริ่มเทรดได้แล้ววันนี้


ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง Android  (Google Play) และ iOS (App Store)


หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ


เกี่ยวกับ FP Markets


- FP Markets คือผู้ให้บริการ CFD และฟอเร็กซ์ ภายใต้การกำกับดูแลของทางการออสเตรเลีย โดยมีประสบการณ์กว่า 15 ปีในอุตสาหกรรม

- วิสัยทัศน์ของบริษัทคือ การเป็นจุดหมายปลายทางการเทรดสำหรับลูกค้า ด้วยการเชื่อมโยงเงื่อนไขการเทรด เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ การกำหนดราคา และบริการลูกค้าที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการเทรดในตลาด

- FP Markets นำเสนอค่าสเปรดฟอเร็กซ์ระหว่างธนาคารที่เหนือคู่แข่ง ตั้งแต่ระดับ 0.0 pips และเลเวอเรจสูงถึง 500:1 ในบัญชีประเภท FP Markets Pro Account

- มีบริการหลายภาษาตลอด 24 ชั่วโมงใน 5 วันทำการ ซึ่งได้รับการยอมรับจาก Investment Trends ให้เป็นบ้านของลูกค้าคอนเทนต์ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม ด้วยรางวัล 'The Highest Overall Client Satisfaction Award' 5 ปี จาก Investment Trends

- FP Markets ได้รับรางวัล 'Global Forex Value Broker' สองปีซ้อน (2562 และ 2563) จากเวที Global Forex Awards


อ่านรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของเราได้ที่ https://www.fpmarkets.com




FP Markets launches intuitive and feature-packed Mobile Trading App

The innovative FP Markets Mobile App puts a wealth of information at the fingertips of traders on-the-go.


In the fast-paced world of online trading there is an award-winning Forex and CFD broker that has been consistently able to stay ahead of the curve. One of Australia's leading fintech companies, FP Markets has announced the launch of The FP Markets Mobile App which is intuitive and feature-packed, allowing traders to carry their trading accounts with them in their pocket.


Available on all Android and iOS devices, the FP Markets Mobile Trading App offers trading on Forex and CFDs across shares, indices, commodities and cryptocurrencies.


Download Now: Android(Google Play) | iOS (The App Store)


Not only can traders access 60+ Currency Pairs, they can also trade in more than 50 of the world's biggest Stocks including Facebook, Google, Apple and Amazon. FP Markets also offers leveraged trading on Commodities and more than a dozen Indices from the largest global exchanges. For people who are interested in trading the emerging asset class that is Cryptocurrency with Bitcoin, Ethereum, Litecoin and Ripple all part of the product range.


When asked about the release of the Mobile App, Managing Director Matt Murphie was clear about its importance. "Launching the FP Markets Mobile Trading App was a key company deliverable given modern traders need to be able to trade on-the-go ."


The company's hard work in 2020 has not gone unnoticed with multiple awards already heading their way this year including, 'Best FX Broker Australia' and 'Global Forex Value Broker'. Matt explained that there is more to it than just hard work and dedication.


"I cannot understate the benefit of having 15+ years experience in the industry. We have traders that have been with us since day one, and we are constantly striving to engage with them to improve our product offering. Their feedback played a pivotal role in the design, functionality and features of the new Mobile App."


Customer feedback resulted in some of the key features of the Mobile App with traders able to:


- Deposit and withdraw from within the Mobile App

- Use the 'Favourites' menu to create a faster and seamless trading experience

- Access their account and change settings via the Client Portal

- Access top-tier liquidity with real-time pricing

- Conduct research and analysis using a range of trading tools

- Log in to their MetaTrader 4 account using the same credentials


Download the FP Markets Mobile Trading App today and start trading. 


Download Now: Android(Google Play) | iOS (The App Store)


Notes to Editors


About FP Markets:


- FP Markets is an Australian Regulated global CFD and Forex provider with more than 15 years of industry experience.

- The company's vision has always been to deliver the ultimate trading destination for clients by combining the best trading conditions, technology, product range, pricing and client services available to those wanting to trade the markets.

- FP Markets offers highly competitive interbank Forex spreads available from 0.0 pips and leverage up to 500:1 on FP Markets Pro Account.

- The company's outstanding 24/5 multilingual service has been recognised by Investment Trends as home to some of the most content clients in the industry, having been awarded 'The Highest Overall Client Satisfaction Award,' five years running from Investment Trends.

- FP Markets has been awarded as the 'Global Forex Value Broker' in consecutive years (2019, 2020) at the Global Forex Awards


For full details of our wide-ranging offering,  please visit  https://www.fpmarkets.com




iClick Interactive จับมือ Tencent International Business Group ร่วมกันพัฒนาโซลูชันอัจฉริยะสำหรับตลาดเอเชียแปซิฟิก

สองบริษัทร่วมกันพัฒนาโซลูชัน SaaS "Smart Retail" และ "Smart Travel" พร้อมโปรโมท "Smart Conference" ผ่านโซลูชัน Tencent Cloud Conference


iClick Interactive Asia Group Limited (NASDAQ: ICLK) ผู้ให้บริการโซลูชันการตลาดออนไลน์และข้อมูลองค์กรในจีน ประกาศว่า บริษัทจะพัฒนาโซลูชัน SaaS "Smart Retail" และ "Smart Travel" ร่วมกับ Tencent International Business Group (Tencent IBG) โดยโซลูชันใหม่นี้จะให้บริการในฮ่องกง เกาหลีใต้ และไทยเป็นอันดับแรก ก่อนจะขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ในเอเชียแปซิฟิกในอนาคต นอกจากนี้ iClick จะใช้ฐานลูกค้าในหลายประเทศทั่วโลกเพื่อโปรโมท "Smart Conference" ที่ได้รับขุมพลังจากโซลูชัน Tencent Cloud Conference (TCC)


โซลูชัน SaaS สุดล้ำนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Enterprise Solutions ที่ iClick เพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่ โดยมีการผนวกรวมเทคโนโลยี AI แชทบอท และการจดจำใบหน้าของ Tencent Cloud เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้แก่ WeChat Mini Programs ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว โซลูชันใหม่นี้อาศัยศักยภาพด้านข้อมูลที่ไม่มีใครเทียบได้ของ iClick ประกอบกับความครอบคลุมผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 98% ในจีน และประสบการณ์ในฐานะผู้บุกเบิกโซลูชัน SaaS สำหรับอุตสาหกรรมการค้าปลีกและการท่องเที่ยว รวมทั้งระบบนิเวศขนาดมหึมาและเทคโนโลยีขั้นสูงของ Tencent เพื่อช่วยให้แบรนด์ต่างประเทศสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจในจีนด้วยการดำเนินงานข้ามพรมแดนที่ง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องมีองค์กรจีนเพื่อจดทะเบียนในแพลตฟอร์มบุคคลที่ 3 โซลูชัน SaaS ของ iClick ที่ปรับตามความต้องการได้จะช่วยให้บรรลุศักยภาพของตลาดการค้าปลีกและการท่องเที่ยวทั่วโลก สำหรับอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูงเช่นนี้ โซลูชัน SaaS เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้นักการตลาดต่างประเทศเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคจากจีนที่มีจำนวนมหาศาล และช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถสร้างความจงรักภักดีของลูกค้า ทำให้คว้าโอกาสข้ามพรมแดนได้


ภายใต้ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ iClick จะใช้ฐานลูกค้าที่กว้างขวางของบริษัทเพื่อให้บริการลูกค้าปลายทางด้วยโซลูชันการประชุมอัจฉริยะผ่าน Tencent Cloud Conference ที่ปลอดภัยและไร้รอยต่อ โดย Tencent Cloud Conference อาศัยเทคโนโลยีสุดล้ำของ Tencent Cloud และประสบการณ์ในการให้บริการลูกค้ามากมายตลอดมา จึงสามารถนำไปใช้ได้อย่างกว้างขวางในการประชุมทางธุรกิจ การประชุมประจำปี งานโรดโชว์ การบรรยาย การประชุมอุตสาหกรรม และอีกมากมาย โซลูชันนี้ช่วยให้ลูกค้าจัดการการประชุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสร้างประสบการณ์แบบออนไลน์ ดิจิทัล และไร้กระดาษ โดยอาศัยเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า นามบัตรอิเล็กทรอนิกส์ การแปลภาษาทันที วิดีโอไลฟ์สด และเทคโนโลยีอื่น ๆ อีกมากมาย 


หลังการเปิดตัวธุรกิจร่วมทุนระหว่าง iClick กับ VGI เมื่อเดือนเมษายน 2562 ทั้งสองบริษัทได้ช่วยให้แบรนด์ในต่างประเทศสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าในจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งรวมถึงนักท่องเที่ยวจีนผู้มั่งคั่งที่เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ทั้งสองบริษัทจะทำงานร่วมกันต่อไปเพื่อช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าถึงโอกาสมากมายในจีนอย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน


"โซลูชัน SaaS อัจฉริยะรุ่นใหม่นี้เป็นตัวพลิกเกมสำหรับอุตสาหกรรมการค้าปลีกและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศในไทย" เนลสัน เหลียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท VGI กล่าว "จุดแข็งด้านระบบดิจิทัลของ iClick และการเป็น Platinum Partner ในต่างประเทศของ Tencent IBG จะช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ในไทยสามารถเข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคจากจีน ด้วยกลยุทธ์แบบเล็งเป้าหมายและเฉพาะเจาะจง รวมถึงโซลูชันชั้นนำของตลาดที่จะช่วยปลดล็อกโอกาสการค้าปลีกข้ามพรมแดนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน"


"โซลูชันนี้ให้บริการในฮ่องกง เกาหลีใต้ และไทยก่อน ซึ่งเรามั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากตลาด จากนั้นเราจะขยายการให้บริการไปยังประเทศอื่น ๆ ในเอเชียแปซิฟิกต่อไป และนี่คือเครื่องยืนยันความเชื่อมั่นในศักยภาพของ Enterprise Solutions ของเรา ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของความยืดหยุ่นและความสามารถในการข้ามพรมแดนของธุรกิจเรา ในช่วงที่โรคโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก เรายังคงได้รับการยอมรับจากลูกค้า โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เผชิญกับความท้าทายอย่างการค้าปลีกและการท่องเที่ยว เพราะเราช่วยให้ลูกค้าข้ามผ่านความผันผวนของเศรษฐกิจมหภาคและเตรียมรับช่วงเวลาแห่งการฟื้นตัว"


นี่เป็นความร่วมมือครั้งแรกระหว่าง iClick กับ Tencent หลังจากที่ iClick ได้รับการแต่งตั้งเป็น Platinum Partner ในต่างประเทศของ Tencent IBG และจะมีการร่วมมือกันอีกในอนาคต ในโอกาสนี้ iClick ได้เร่งโปรโมท Marketing Solutions ในเอเชียด้วย ในขณะที่บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาตนเองสู่การเป็นแพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับองค์กรและแพลตฟอร์มการตลาดครบวงจร


เกี่ยวกับ  iClick Interactive Asia Group Limited


iClick Interactive Asia Group Limited (NASDAQ: ICLK) คือผู้ให้บริการโซลูชันการตลาดออนไลน์และข้อมูลองค์กรที่เชื่อมโยงนักการตลาดทั่วโลกกับลูกค้าในจีน แพลตฟอร์มที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทใช้เทคโนโลยีอันทันสมัย จึงมีความสามารถในการทำการตลาดผ่านหลายช่องทาง ตลอดจนบรรลุเป้าหมายทางการตลาดที่หลากหลายโดยขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและระบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้นักการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในจีน ทั้งนี้ บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2552 โดยมีสำนักงานใหญ่ในฮ่องกง และดำเนินงานใน 10 ประเทศทั่วโลกทั้งในเอเชียและยุโรป


สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ir.i-click.com


คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบ


ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยข้อความคาดการณ์อนาคต ซึ่งรวมถึงข้อความที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจ ผลการดำเนินงาน และผลประกอบการทางการเงินของบริษัท ข้อความเหล่านี้มีลักษณะเป็น "การคาดการณ์อนาคต" ตามความหมายของมาตรา 21E แห่งกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ปี 2477 และกฎหมายปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 2538 ของสหรัฐอเมริกา ข้อความคาดการณ์อนาคตสามารถบ่งชี้ได้ด้วยคำว่า "จะ" "คาดว่า" "คาดการณ์" "อนาคต" "ตั้งเป้า" "วางแผน" "เชื่อว่า" "ประมาณการ" "เชื่อมั่น" และคำที่มีความหมายในทำนองเดียวกัน ข้อความคาดการณ์อนาคตอ้างอิงจากการคาดการณ์ของผู้บริหาร ณ ปัจจุบัน รวมถึงสภาพตลาดและการดำเนินงาน ณ ปัจจุบัน และมีความสัมพันธ์กับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่มีความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่น ๆ ทั้งที่ทราบและไม่ทราบ ซึ่งทั้งหมดยากที่จะคาดเดาและอาจอยู่เหนือการควบคุมของบริษัท ข้อความคาดการณ์อนาคตมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนมากมายที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงออกมาแตกต่างอย่างมากจากที่คาดการณ์ เช่น ความผันผวนของอัตราการเติบโตของบริษัท, ความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์การค้าปลีกรูปแบบใหม่ รวมถึงการขยายโซลูชันนอกเหนือจากธุรกิจการตลาดออนไลน์, ความสำเร็จในการสร้างแพลตฟอร์ม CRM & Marketing Cloud, ความสามารถในการรักษาลูกค้าเดิมหรือดึงดูดลูกค้าใหม่, ความสามารถในการรักษาช่องทางการเผยแพร่คอนเทนต์และการเจรจาเงื่อนไขสัญญาที่เอื้อต่อบริษัท, การแข่งขันในตลาด ซึ่งรวมถึงการแข่งขันกับแพลตฟอร์มเทคโนโลยีการตลาดออนไลน์อิสระและกับบริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่, การยอมรับโซลูชันเทคโนโลยีการตลาดออนไลน์และโซลูชันองค์กร, ประสิทธิภาพของอัลกอริทึมและดาต้าเอ็นจินของบริษัท, ความสามารถในการรวบรวมและใช้ข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ, ความสามารถและการบรรลุผลสำเร็จจากการควบรวมกิจการ การลงทุน หรือการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ, สภาพเศรษฐกิจโดยทั่วไปในจีนและดินแดนอื่นที่บริษัทดำเนินงาน รวมถึงกฎข้อบังคับในจีนและดินแดนอื่นที่บริษัทดำเนินงาน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ได้ถูกรวบรวมไว้ในรายงานประจำปี Form 20-F ของบริษัท รวมถึงเอกสารอื่น ๆ ที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ ข้อมูลทั้งหมดในข่าวประชาสัมพันธ์นี้และในเอกสารแนบเป็นข้อมูล ณ วันที่ระบุในข่าวประชาสัมพันธ์ และบริษัทไม่มีพันธะผูกพันในการปรับปรุงข้อความคาดการณ์อนาคต เว้นแต่เป็นไปตามบังคับของกฎหมาย




Dr. Reddy's and GRA Announce Clinically Meaningful Data from Avigan Pivotal Studies

Sub-group analysis shows three-day earlier discharge from hospital in low-risk patients hospitalized with COVID-19


Dr. Reddy's Laboratories Ltd. (BSE: 500124) (NSE: DRREDDY) (NYSE: RDY) (NSEIFSC: DRREDDY along with its subsidiaries together referred to as "Dr. Reddy's") and Global Response Aid FZCO (GRA) today announced results from an Avigan study on moderate-severe hospitalized COVID-19 patients in Kuwait.


A sub-group analysis of the low-risk (low NEWS Score at admission) study cohort (n=181) demonstrated a 3 day earlier discharge in Avigan group compared to placebo group (8 days vs 11 days; p=0.0063) for time to hospital discharge secondary endpoint. This endpoint was predefined and showed statistical significance in a large portion of subjects in this study. Time to hospital discharge is the best endpoint to determine if Avigan has a pragmatic effect on patients' duration of hospitalization, a factor that is relevant to global shortages in clinical resources and hospital beds induced by the global COVID-19 pandemic.


The findings point favorably towards the hypothesis that an antiviral drug like Avigan (or similar oral or injectable RNA polymerases inhibitor) may be effective as part of early treatment initiation in COVID-19 patients.


As a result of the favorable sub-group data, which are supported by similar results in Japan-based clinical trials and real-world studies, Dr.Reddy's and Global Response Aid have agreed to expedite ongoing Phase 3 pivotal studies aimed at determining the efficacy of Avigan as an early treatment for COVID-19 patients with mild-to-moderate symptoms. Additional studies to evaluate the efficacy of Avigan as part of early treatment in COVID-19 patients have also been initiated, with the goal of alleviating symptoms and preventing disease progression before the infection requires hospitalization or other intensive interventions.


Other findings from the study of hospitalized patients with moderate-severe COVID 19 patients showed a one-day reduction in time to sustained hypoxia resolution for Avigan vs. placebo. Resolution occurred in seven days vs. eight days. However, the study did not achieve statistical significance thresholds, and was terminated. The full final data analysis of the 353 subjects who were part of the study of hospitalized patients will be available by end of February 2021.


The study of hospitalized patients was part of an overall clinical program for Avigan in Kuwait, which covered a spectrum of COVID-19 cases ranging from asymptomatic to severe, in both outpatient and in-patient settings.


About Global Response Aid (GRA)


Agility (KSE/DFM: AGLTY), one of the world's leading logistics companies, established Global Response Aid (GRA) to address the market challenges created by the COVID-19 pandemic and other threats to public health. GRA delivers innovative, effective healthcare solutions through a range of pharmaceutical products and technology platforms. It works closely with governments, regulatory authorities, hospitals, clinics, healthcare providers, life sciences companies, NGOs and public institutions to develop strategies that allow them to tackle public health challenges.


For more information: www.globalresponseaid.com


About Dr. Reddy's


About Dr. Reddy's: Dr. Reddy's Laboratories Ltd. (BSE: 500124, NSE: DRREDDY, NYSE: RDY) is an integrated pharmaceutical company, committed to providing affordable and innovative medicines for healthier lives. Through its three businesses - Pharmaceutical Services & Active Ingredients, Global Generics and Proprietary Products - Dr. Reddy's offers a portfolio of products and services including APIs, custom pharmaceutical services, generics, biosimilars and differentiated formulations. Our major therapeutic areas of focus are gastrointestinal, cardiovascular, diabetology, oncology, pain management and dermatology. Dr. Reddy's operates in markets across the globe. Our major markets include - USA, India, Russia & CIS countries, and Europe.


For more information: www.drreddys.com




Dr. Reddy's และ GRA ประกาศข้อมูลที่มีนัยสำคัญทางคลินิกจากการวิจัยยา Avigan

ผลการวิเคราะห์กลุ่มย่อยเผยให้เห็นว่า ผู้ป่วยกลุ่มความเสี่ยงต่ำที่เข้ารับการรักษาโรคโควิด-19 ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลเร็วกว่าอีกกลุ่มถึง 3 วัน


Dr. Reddy's Laboratories Ltd. (BSE: 500124) (NSE: DRREDDY) (NYSE: RDY) (NSEIFSC: DRREDDY เรียกรวมกับบริษัทในเครือว่า "Dr. Reddy's") และ Global Response Aid FZCO (GRA) ได้ประกาศผลการวิจัยยา Avigan ที่ทำกับกลุ่มผู้ป่วยโรคโควิด-19 อาการปานกลางถึงรุนแรงที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ประเทศคูเวต


ผลการวิเคราะห์กลุ่มย่อยซึ่งได้ดำเนินการกับกลุ่มความเสี่ยงต่ำ (คะแนน NEWS Score ต่ำ ณ วันที่รับเข้า) (n=181) ปรากฏให้เห็นว่า กลุ่มที่ใช้ยา Avigan ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลเร็วกว่ากลุ่มยาหลอกถึง 3 วัน (8 วัน เทียบกับ 11 วัน; p=0.0063) เมื่อประเมินจากผลลัพธ์รองในแง่เวลาอยู่โรงพยาบาล ผลลัพธ์ดังกล่าวได้กำหนดไว้ก่อนหน้าแล้ว และแสดงให้เห็นนัยสำคัญทางคลินิกในกลุ่มอาสาสมัครจำนวนมากในการวิจัยนี้ ระยะเวลารักษาที่โรงพยาบาลนั้นเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการประเมินว่า ยา Avigan ให้ผลในทางปฏิบัติต่อระยะเวลาการอยู่โรงพยาบาลของผู้ป่วยหรือไม่ ซึ่งนับเป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับปัญหาขาดแคลนทรัพยากรทางการแพทย์และเตียงในโรงพยาบาลอันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก


ผลการค้นพบดังกล่าวสนับสนุนข้อสันนิษฐานที่ว่า ยาต้านไวรัสอย่าง Avigan (หรือยายับยั้งอาร์เอ็นเอโพลีเมอเรสอื่น ๆ ชนิดรับประทานหรือฉีด) อาจให้ผลลัพธ์ดีในการใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในระยะเบื้องต้น


สืบเนื่องจากผลการวิเคราะห์กลุ่มย่อยดังกล่าว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผลการทดลองทางคลินิกที่คล้ายคลึงกันในญี่ปุ่นและการวิจัยความเป็นจริงอื่น ๆ Dr.Reddy's และ Global Response Aid จึงได้ตกลงที่จะเร่งการวิจัยหลักในเฟส 3 เพื่อประเมินประสิทธิภาพของยา Avigan จากการใช้เป็นยารักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรงถึงปานกลางในระยะเบื้องต้น นอกจากนี้ ยังได้มีการริเริ่มโครงการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อประเมินประสิทธิภาพของยา Avigan เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในระยะเบื้องต้นด้วย โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาอาการและป้องกันการลุกลามของโรค ก่อนที่ผู้ติดเชื้อจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือมาตรการรักษาอื่น ๆ


ผลการค้นพบอื่น ๆ จากการศึกษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 อาการปานกลางถึงรุนแรงที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ปรากฏให้เห็นด้วยว่า กลุ่มที่ใช้ยา Avigan มีภาวะพร่องออกซิเจนทุเลาลงเร็วกว่ากลุ่มที่ใช้ยาหลอก 1 วัน โดยอาการได้ทุเลาลงใน 7 วันเทียบกับ 8 วัน อย่างไรก็ดี ผลลัพธ์ดังกล่าวยังไม่บรรลุเกณฑ์นัยสำคัญทางสถิติ การวิจัยจึงได้สิ้นสุดลง สำหรับผลวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสุดท้ายทั้งหมดในกลุ่มอาสาสมัคร 353 คนที่มีส่วนร่วมในการวิจัยผู้ป่วยในโรงพยาบาลนั้น จะเผยแพร่ให้ทราบภายในปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2021


โครงการวิจัยผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยยา Avigan ทางคลินิกในคูเวต ซึ่งครอบคลุมผู้ป่วยโรคโควิด-19 ตั้งแต่เคสที่ไม่แสดงอาการถึงเคสรุนแรง ทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน


เกี่ยวกับ Global Response Aid (GRA)


Agility (KSE/DFM: AGLTY) บริษัทโลจิสติกส์ชั้นนำของโลก ได้ก่อตั้ง Global Response Aid (GRA) ขึ้นเพื่อจัดการกับปัญหาท้าทายต่าง ๆ ในตลาดอันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และภัยคุกคามอื่น ๆ ในแง่สาธารณสุข GRA มอบโซลูชันดูแลสุขภาพที่ทันสมัยและได้ผล ผ่านผลิตภัณฑ์ยาและแพลตฟอร์มเทคโนโลยีหลากหลายประเภท โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานรัฐ หน่วยงานกำกับดูแล โรงพยาบาล คลินิก ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพ บริษัทชีววิทยาศาสตร์ เอ็นจีโอ และสถาบันสาธารณะ เพื่อร่วมคิดค้นกลยุทธ์ในการรับมือความท้าทายในวงการสาธารณสุข


ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: www.globalresponseaid.com


เกี่ยวกับ Dr. Reddy's


Dr. Reddy's Laboratories Ltd. (BSE: 500124, NSE: DRREDDY, NYSE: RDY) คือบริษัทเภสัชภัณฑ์แบบบูรณาการ ซึ่งมุ่งพัฒนายาที่เป็นนวัตกรรมในราคาเอื้อมถึงได้ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นของผู้คน Dr. Reddy's ให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง API, บริการเภสัชภัณฑ์ตามความต้องการเฉพาะ, ยาสามัญ, ผลิตภัณฑ์ยาชีววัตถุคล้ายคลึง และสูตรยาที่แตกต่าง ผ่านสามธุรกิจของบริษัท ได้แก่ บริการเภสัชภัณฑ์และสารออกฤทธิ์ ยาสามัญทั่วโลก และผลิตภัณฑ์กรรมสิทธิ์ เรามุ่งเน้นการรักษาในด้านระบบทางเดินอาหาร ระบบหลอดเลือดและหัวใจ โรคเบาหวาน มะเร็งวิทยา การจัดการกับความเจ็บปวด และผิวหนัง Dr. Reddy's ดำเนินธุรกิจในตลาดทั่วโลก โดยตลาดหลักของเรา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อินเดีย รัสเซียและประเทศในเครือรัฐเอกราช และยุโรป


ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: www.drreddys.com




โรงกษาปณ์แคนาดาเปิดตัวเหรียญทองคำใหม่ 2 รุ่น บันทึกประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของแคนาดา

ระลึกถึงการค้นพบทองคำที่คลอนไดค์ในผลงานเหรียญทองคำแท้ 99.999% ขณะที่ไข่อีสเตอร์แบบฉบับยูเครนส่องแสงบนเหรียญทรงไข่


โรงกษาปณ์แคนาดา (Royal Canadian Mint) ออกเหรียญทองใหม่ 2 รุ่น ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์บทสำคัญของแคนาดาและฉายแสงให้กับนวัตกรรมพื้นบ้าน โดยผลงานล่าสุดในตระกูลเหรียญทองคำบริสุทธิ์ 99.999% หนัก 1 ออนซ์ของทางโรงกษาปณ์นั้น เป็นผลงานเพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 125 ปีของยุคตื่นทองคลอนไดค์ที่โด่งดัง ขณะที่เหรียญสะสมที่ได้แรงบันดาลใจจากไข่อีสเตอร์ของยูเครนนั้นมีการออกแบบการแกะสลักอย่างพิถีพิถัน เพื่อเฉลิมฉลองการเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิอันเป็นนิรันดร์


เหรียญทองคำบริสุทธิ์ 99.999% หนัก 1 ออนซ์ ราคาหน้าเหรียญ 200 ดอลลาร์ประจำปี 2021 รุ่น Klondike Gold Rush: Panning for Gold


เมื่อเดือนสิงหาคม 1896 Keish (Skookum Jim Mason) และหลานชาย K?a Goox (Dawson Charlie) รวมถึง Shaaw Tl?a (Kate Carmack) และ George Carmack สามีของเธอ ได้ค้นพบก้อนทองคำในคลอง Rabbit (Bonanza) Creek ในเขตยูคอนของแคนาดา การค้นพบที่น่าทึ่งนี้ก่อให้เกิดความแตกตื่นแก่ผู้ที่แสวงหาความร่ำรวยในถิ่นทุรกันดารทางตอนเหนือห่างไกลเป็นเวลาถึง 3 ปี การแห่ขุดทองทำให้แคนาดากลายเป็นผู้ผลิตทองคำชั้นนำของโลกและกระตุ้นให้ยูคอนเข้าสู่สมาพันธ์ นอกจากนั้นยังเร่งการสร้างโรงงานของทางโรงกษาปณ์แคนาดาที่ออตตาวาและโรงกลั่นทองคำระดับโลกอีกด้วย


ขณะเดียวกัน การตื่นทองได้ส่งผลร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นและต่อชุมชนชาวพื้นเมืองดั้งเดิมในภูมิภาคคลอนไดค์ พวกเขาต้องพลัดถิ่นฐานและถูกทำลายวิถีชีวิตดั้งเดิมอันเป็นมรดกที่แคนาดายังคงยึดมั่นอยู่ในปัจจุบัน


ด้านหลังของเหรียญนี้มีผลงานศิลปะของนักออกแบบเหรียญที่ประสบความสำเร็จอย่าง Steve Hepburn ซึ่งภาพวาดมือคนเหมืองที่ถือจานร่อนทองของเขาเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่ยั่งยืนที่สุดของยุคตื่นทอง ภาพกรวดภายในจานร่อนทองและน้ำที่ส่องประกายขณะเอาน้ำล้างกรวดอันเผยให้เห็นเศษทองอันล้ำค่านั้นถูกสลักไว้อย่างละเอียดประณีต และภาพน้ำที่ไหลออกจากจานร่อนทองเหนือเครื่องหมายความปลอดภัยบนเหรียญยังทำให้เหรียญมีชีวิตชีวา เหรียญนี้มีเส้นรัศมีที่เป็นเอกลักษณ์ของเหรียญทองทั้งหมดจากทางโรงกษาปณ์ เช่นเดียวกับเครื่องหมายรูปใบเมเปิ้ลที่สลักไว้แบบไมโครซึ่งแสดงเลข 21 เพื่อให้สอดคล้องกับปีที่ออก เหรียญรุ่นนี้นำเสนอในบรรจุภัณฑ์รูปแบบบัตรเครดิตที่ประกอบด้วยใบรับรองความบริสุทธิ์ของทอง ลงนามโดยหัวหน้าผู้ตรวจการโรงกษาปณ์


เหรียญ Pysanka ทองคำแท้ปี 2021 ราคาหน้าเหรียญ 250 ดอลลาร์


มีชาวแคนาดามากกว่า 3 ล้านคนที่มีบรรพบุรุษเป็นชาวยูเครน โดยประเพณีพื้นบ้านอย่าง pysanka ที่มีคุณค่าตามกาลเวลาซึ่งมาจากคำกริยา pysaty (เขียน) นั้นยังคงเจริญรุ่งเรืองในแคนาดาตะวันตก รวมถึงบางส่วนในออนแทริโอ ควิเบก และแมริไทม์ส pysanka เป็นประเพณีในฤดูใบไม้ผลิที่มีการตกแต่งเปลือกไข่ด้วยการออกแบบและลวดลายที่ซับซ้อน โดยจะใช้วิธีการเขียนด้วยขี้ผึ้งแบบบาติก ซึ่งแม้ว่าจะมีลวดลายต่าง ๆ หลายพันแบบ แต่การออกแบบส่วนใหญ่มักจะอยู่ในรูปแบบเรขาคณิตและพืชพันธุ์


เหรียญทรงไข่ที่สร้างจากทองคำบริสุทธิ์ 99.99% เกือบ 2 ทรอยออนซ์มีการออกแบบในลักษณะ pysanka โดย Dave Melnychuk ศิลปินชาวแคนาดา ตรงกลางเหรียญเป็นลวดลายไก่ตัวผู้ที่เป็นที่รู้กันดีในฐานะสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และการฟื้นคืนชีพ ขนส่วนหางของมันประดับด้วยดอกทานตะวันที่สวยงามและแต่ละดอกมีแปดกลีบซึ่งเป็นตัวเลขอันเป็นสัญลักษณ์ของความความอมตะและความสมดุล ขณะเดียวกัน ไก่จะล้อมรอบด้วย Eternal Band ("bezkonechnyk") พร้อมกับลำแสงที่แผ่รัศมีอันแสดงถึงความโชคดีและการเติบโต แต่ละองค์ประกอบที่สลับซับซ้อนของเหรียญ pysanka นี้ถูกสลักไว้ละเอียดยิบ และด้านนอกของแต่ละเหรียญจะมีรูปจำลองของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 โดย Susanna Blunt


ดาวน์โหลดรูปภาพของเหรียญกษาปณ์รุ่นนี้ได้ที่ https://www.dropbox.com/sh/zscnq9d5vbeh27k/AAChPlmRY_dnDcCQQcLYAkfja?dl=0


เกี่ยวกับโรงกษาปณ์แคนาดา ( Royal Canadian Mint)


โรงกษาปณ์แคนาดาเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ (Crown Corporation) ที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องการผลิตเหรียญกษาปณ์และการจำหน่ายเหรียญหมุนเวียนของแคนาดา และให้บริการโลหะล้ำค่าครบวงจร โรงกษาปณ์ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในโรงกษาปณ์ขนาดใหญ่และมีความหลากหลายมากที่สุดในโลก โดยให้บริการผลิตภัณฑ์เหรียญหลายประเภทที่มีความเฉพาะเจาะจงและมีคุณภาพสูง รวมถึงบริการที่เกี่ยวข้องในระดับนานาชาติ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของโรงกษาปณ์แคนาดา กรุณาเข้าชม www.mint.ca ติดตามข่าวสารของโรงกษาปณ์แคนาดาได้ทาง Twitter, Facebook และ Instagram




ZIM Announces Pricing Of Initial Public Offering

ZIM Integrated Shipping Services Ltd. (the "Company"), a global container liner shipping company with over 75 years of experience, announced today the pricing of its initial public offering ("IPO") of 14,500,000 ordinary shares at a price of $15.00 per ordinary share.


ZIM has granted the underwriters a 30-day option to purchase up to additional 2,175,000 ordinary shares at the initial public offering price. The ordinary shares are expected to begin trading on the New York Stock Exchange on January 28, 2021, under the ticker symbol "ZIM", and the offering is expected to close on February 1, 2021, subject to customary closing conditions.


Citigroup, Goldman Sachs & Co., LLC., and Barclays are acting as global coordinators and Jefferies and Clarksons Platou Securities are acting as joint bookrunners for the proposed initial public offering.


A registration statement on Form F-1 relating to these securities was previously filed with the Securities and Exchange Commission ("SEC") (File Number: 333-251822) and declared effective by the SEC on January 27, 2021. Copies of the registration statement can be accessed by visiting the SEC website at www.sec.gov. This offering is being made only by means of a prospectus. A copy of the prospectus may be obtained from: Citigroup Global Markets Inc., c/o Broadridge Financial Solutions, 1155 Long Island Avenue, Edgewood, New York 11717, by telephone at 1-800-831-9146; Goldman Sachs & Co. LLC, Attention: Prospectus Department, 200 West Street, New York, NY 10282, by telephone at 1-866-471-2526 or by email at prospectus-ny@ny.email.gs.com; and Barclays Capital Inc., c/o Broadridge Financial Solutions, 1155 Long Island Avenue, Edgewood, NY 11717, by telephone at 1-888-603-5847 or by email at barclaysprospectus@broadridge.com.


This press release does not constitute an offer to sell or the solicitation of an offer to buy any securities, nor shall there be any sale of these securities in any state or jurisdiction in which such offer, solicitation or sale would be unlawful prior to registration or qualification under the securities laws of any such state or jurisdiction.


About ZIM


ZIM is a global, asset-light container liner shipping company with leadership positions in the markets where it operates. Founded in Israel in 1945, ZIM is one of the oldest shipping liners, with over 75 years of experience, providing customers with innovative seaborne transportation and logistics services with a reputation for industry leading transit times, schedule reliability and service excellence.




ฮีโร่ Tantu และ Wu-Ju ฉบับปรับปรุงใหม่มาถึง Shadow Arena แล้ว

      บริษัท Pearl Abyss แถลงข่าวเกี่ยวกับฮีโร่ Tantu และ Wu-Ju ที่กลับมาใน Shadow Arena พร้อมกับความสามารถที่ถูกพัฒนาขึ้นสูงกว่าเดิม ผู้เล่นสามารถได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ จากฮีโร่ทั้งสอง โดยการควบคุมการต่อสู้ที่ง่ายขึ้นและฟังก์ชันอื่นๆ 

Tantu เป็น Dealer ที่ใช้อาวุธ Iron Buster ในการรวบรวมพลังอันยิ่งใหญ่และยิงไปด้านหน้า ทักษะอันเก่า 2 อย่างของเขาถูกปรับเปลี่ยนเป็นทักษะใหม่ชื่อ Overload ซึ่งเมื่อใช้ทักษะ Overload กระสุนของ Iron Buster จะถูกเติมและจะไม่หมดไป ส่งผลให้สามารถทำการโจมตีได้อย่างต่อเนื่อง 

Wu-Ju ฮีโร่แนว Support ที่สามารถอัญเชิญ Hungry Black Spirit ขึ้นมา เพื่อลดพลังป้องกันของฝ่ายตรงข้ามและเพิ่มพลังต่อสู้ให้กับเพื่อนร่วมทีม นอกจากนี้ยังสามารถตรวจจับศัตรู และหลีกเลี่ยงสถานการณ์ต่างๆ ที่อันตราย เพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม ในสนามรบที่ต่อสู้กันอย่างดุเดือด เนื่องจาก Wu-Ju มี HP และทักษะการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างต่ำ จึงแนะนำให้ผู้เล่นเข้าร่วมสนามรบกับเพื่อนร่วมทีม 

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา Shadow Arena ได้ปรับปรุงตัวฮีโร่ใหม่เพื่อเพิ่มกลยุทธ์ให้แก่ผู้เล่น ฮีโร่ที่ได้รับการปรับปรุงไปแล้วคือ Venslar, Tantu และ Wu-Ju และจะมีฮีโร่อีกมากมายที่จะปรับปรุงใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ในอนาคต 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการ, Discord, Facebook, YouTube และ Twitter

เกี่ยวกับ Shadow Arena

Shadow Arena เกมแอคชั่น PvP แบบทีมโดยบริษัท Pearl Abyss ที่เปิดให้ผู้เล่นได้เล่นล่วงหน้าผ่าน Steam เกมที่มีโครงเรื่องพื้นฐานจากโลกของ Black Desert ใน Shadow Arena ผู้เล่น 3 คนจากทั้ง 4 ทีมจะต้องทำการต่อสู้อย่างดุเดือดเพื่อชิงความเป็นหนึ่ง โดยทำการเลือก 1 ในฮีโร่จากเหล่าฮีโร่ทั้งหลายที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแตกต่างกันไป และเพื่อก้าวไปสู่จุดสูงสุด ผู้เล่นจะต้องล่ามอนสเตอร์เพื่อรวบรวม tokens ที่ใช้ในการซื้ออุปกรณ์ การจัดการคู่ต่อสู้อย่างสมบูรณ์แบบ และการหลบหนีในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะมีส่วนช่วยในการนำมาซึ่งชัยชนะ

กองทุนโอเปกฉลองครบรอบ 45 ปีแห่งการขับเคลื่อนการพัฒนา ขณะที่ประเทศสมาชิกเดินหน้าสร้างคุณูปการอย่างต่อเนื่อง

      กองทุนโอเปกเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (OPEC Fund for International Development) ฉลองครบรอบ 45 ปีในวันนี้ โดยนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นมา สถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาหลายด้านแห่งนี้ได้มอบเงินสนับสนุนที่จำเป็นกว่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่ประเทศพันธมิตร 135 ประเทศ

กองทุนโอเปกก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2519 โดยมีพันธกิจที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนการพัฒนา สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน และมอบพลังให้กับผู้คน โดยประเทศสมาชิกของกองทุนโอเปกประกอบด้วย แอลจีเรีย เอกวาดอร์ กาบอง อินโดนีเซีย อิหร่าน อิรัก คูเวต ลิเบีย ไนจีเรีย ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเวเนซูเอลา ทั้งนี้ กองทุนโอเปกประสานงานกับประเทศพันธมิตรโดยตรง อีกทั้งยังร่วมมือกับสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาแห่งอื่น ๆ รวมถึงธนาคารเพื่อการพัฒนาระดับภูมิภาค และหน่วยงานพิเศษขององค์การสหประชาชาติ เพื่อผลักดันการพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุด 

ในวาระครบรอบ 45 ปี กองทุนโอเปกยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างมั่นคงจากประเทศสมาชิก โดยเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมการบริหารกองทุนโอเปกเพิ่งอนุมัติเงินสนับสนุนงวดที่สองมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะได้รับจากประเทศสมาชิกตลอด 4 ปีข้างหน้า โดยเงินก้อนนี้เป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณสนับสนุนรอบที่ 4 มูลค่ารวม 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสภารัฐมนตรีของกองทุนโอเปกได้อนุมัติไปเมื่อปี 2544 ส่วนเงินสนับสนุนงวดแรกมูลค่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้มีการมอบตลอด 8 ปีที่ผ่านมา

อับดุลวาฮับ เอ อัล-บาเดอร์ ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนโอเปก กล่าวว่า "เราสามารถดำเนินโครงการพัฒนาด้วยเงินทุนสนับสนุนภายในองค์กร เนื่องจากมีการบริหารจัดการอย่างรอบคอบและมีรายได้จากการดำเนินงานอันแข็งแกร่งมาอย่างยาวนาน โดยเงินสนับสนุนงวดที่สองนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของประเทศสมาชิกในการเสริมสร้างศักยภาพของกองทุนโอเปก เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านการพัฒนาที่เป็นเรื่องเร่งด่วนมากยิ่งขึ้นเพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19"

โมฮัมเหม็ด อัล-จาดาน สมาชิกสภารัฐมนตรีของกองทุนโอเปกและรัฐมนตรีคลังของซาอุดีอาระเบีย กล่าวถึงบทบาทอันโดดเด่นของกองทุนโอเปกที่มีต่อการพัฒนาระหว่างประเทศว่า "กองทุนโอเปกมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นสถาบันด้านการพัฒนาระดับโลกเพียงหนึ่งเดียวที่นำเงินสนับสนุนจากประเทศสมาชิกไปมอบให้แก่ประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิก โดยประเทศกำลังพัฒนาทุกประเทศที่ไม่ใช่สมาชิกสามารถขอรับความช่วยเหลือได้"

ศรี มุลยานี อินทราวาตี สมาชิกสภารัฐมนตรีของกองทุนโอเปกและรัฐมนตรีคลังของอินโดนีเซีย กล่าวว่า "กลยุทธ์ใหม่ที่ประกาศไปเมื่อปี 2562 และได้รับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิก ส่งผลให้ทางองค์กรมีความคล่องตัวมากขึ้น และสามารถตอบสนองความต้องการของประเทศพันธมิตรได้ทันที ตอนนี้เราสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเงินช่วยเหลือจะไปถึงผู้ที่ต้องการมากที่สุด ในขณะที่ชุมชนรายได้น้อยทั่วโลกกำลังพยายามฟื้นตัวจากสถานการณ์โรคระบาด"

ดร.อับดุลฮามิด อัลคาห์ลิฟา ผู้อำนวยการใหญ่กองทุนโอเปก กล่าวว่า "เราขอขอบคุณวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและความมุ่งมั่นทุ่มเทของประเทศสมาชิกของเรา กองทุนโอเปกยังคงแสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และยังคงมีบทบาทสำคัญในการลดความไม่เท่าเทียมทั่วโลก สำหรับตลอดปีนี้ เราจะให้ความสำคัญกับการดำเนินงานตามกรอบการทำงานเชิงกลยุทธ์ที่ชัดเจนของเรา เพื่อเดินหน้ายกระดับผลพวงของการพัฒนาและสร้างสรรค์อนาคตในอีกหลายปีต่อจากนี้"

จนถึงปัจจุบัน การดำเนินงานในภาคสาธารณะของกองทุนโอเปกได้ช่วยส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพการผลิตไฟฟ้า 15 กิกะวัตต์ รวมถึงสนับสนุนการก่อสร้างและพัฒนาถนนและทางรถไฟความยาวรวม 11,360 กิโลเมตร และช่วยให้ 11.5 ล้านครัวเรือนเข้าถึงน้ำสะอาดและมีสุขอนามัยที่ดี ส่วนการดำเนินงานในภาคเอกชนและการดำเนินงานด้านการเงินซึ่งเริ่มขึ้นในปี 2541 และ 2549 นั้น ได้มีส่วนสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจ MSME กว่า 350,000 รายโดยตรง ทั้งยังช่วยเสริมสร้างความสามารถในการรองรับสินค้าของท่าเรือรวม 15 ล้านตันต่อปี และมีส่วนช่วยพัฒนาศักยภาพการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 750 เมกะวัตต์

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสำเร็จของกองทุนโอเปกตั้งแต่ปี 2519 ได้จากรายงานประจำไตรมาสของกองทุนโอเปกฉบับพิเศษที่ https://bit.ly/2NAJ5Xl 

เกี่ยวกับกองทุนโอเปก
กองทุนโอเปกเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (กองทุนโอเปก) ทำงานร่วมกับประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นพันธมิตรขององค์กรและชุมชนการพัฒนาระหว่างประเทศ เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางสังคมในประเทศที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางทั่วโลก กองทุนโอเปกก่อตั้งขึ้นโดยประเทศสมาชิกของกลุ่มโอเปกในปี 2519 โดยมีพันธกิจที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนการพัฒนา สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน และมอบพลังให้กับผู้คน การทำงานของกองทุนโอเปกมีคนเป็นศูนย์กลาง และเน้นให้เงินทุนสนับสนุนโครงการที่ตอบสนองความต้องการที่จำเป็น เช่น อาหาร พลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน การจ้างงาน (โดยเฉพาะในธุรกิจ MSME) น้ำสะอาดและสุขอนามัยที่ดี สุขภาพ และการศึกษา ทั้งนี้ วิสัยทัศน์ของเราคือการสร้างโลกที่การพัฒนาอย่างยั่งยืนกลายเป็นความจริงสำหรับทุกคน

AORUS จับมือซูเปอร์สตาร์ลูกหนัง "เซร์คิโอ อเกวโร" เซอร์ไพรส์วงการอีสปอร์ต

      ความนิยมชมชอบการเล่นเกมได้เริ่มแผ่อิทธิพลเข้าสู่วงการฟุตบอลเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งเซร์คิโอ อเกวโร (Sergio Agueero) สุดยอดกองหน้าจากทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ ก็เป็นหนึ่งในนักกีฬาแถวหน้าที่ให้ความสำคัญกับเกมทั้งในและนอกสนามของเขา ในฐานะที่เป็นเกมเมอร์ตัวยง อเกวโรมักมาปรากฏตัวในโลกของเกมออนไลน์ในช่วงที่โลกภายนอกถูกปิดกั้นจากโรคระบาดใหญ่ผ่านการสตรีมสดเกมยอดนิยมมากมาย เช่น FIFA และการสตรีมของเขาก็ได้รับความนิยมจากบรรดาแฟนคลับ ผู้ติดตาม และเหล่าเกมเมอร์ทั่วโลกหลายหมื่นคน

ความชื่นชอบการเล่นเกมของอเกวโรไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น เพราะเขากำลังเดินหน้าไปอีกขึ้นด้วยความมุ่งมั่นที่จะก้าวเข้าสู่โลกของกีฟาอีสปอร์ตระดับมืออาชีพ และด้วยความทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจและเวลาให้กับอุตสาหกรรมอีสปอร์ตนี้เอง ก็ได้ทำให้อเกวโรตัดสินใจก่อตั้งทีมอีสปอร์ตของตัวเขาเองขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า KRU Esports และกำลังวางแผนที่จะเข้าร่วมรายการแข่งขันและลีกเด่น ๆ ทั้งในเกม FIFA 21, Valorant, Rocket League และ CS:GO เร็ว ๆ นี้

ระหว่างการให้สัมภาษณ์ อเกวโรเปิดเผยว่า เขาได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตไปกับการเล่นฟุตบอล ซึ่งเป็นกีฬาที่เขาชื่นชอบด้วยใจจริง และเขาก็หวังว่าแฟน ๆ จะอุทิศตัวเองให้กับสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบและรักมันเหมือนกันกับเขา และนี่เองก็เป็นเหตุสำคัญที่อเกวโรตั้งทีม KRU Esports ขึ้นมา เพื่อให้ผู้ที่หลงใหลในกีฬาอีสปอร์ตเหมือนกับเขาได้มีโอกาสทำความฝันให้เป็นจริง

ในการแข่งขันเกมออนไลน์ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีระดับสูงสุด ทีม KRU Esports มีความต้องการทั้งฮาร์ดแวร์และเทคโนโลยีที่จะมาเป็นขุมพลังให้กับนักแข่ง และอเกวโรก็ได้รู้จักกับแบรนด์เกมมิ่งระดับ top-tier ของ GIGABYTE อย่าง AORUS ซึ่งนำเสนอฮาร์ดแวร์พีซีที่พรีเมียมที่สุดพร้อมประสิทธิภาพอันไร้ที่ติ จนในที่สุดความดึงดูดสนใจซึ่งกันและกันนี้ก็ได้ทำให้ทั้งสองมาร่วมมือและเข้ากันได้ดีตั้งแต่แรกเริ่ม

ทั้ง AORUS และอเกวโร ต่างก็มีค่านิยมและความหลงใหลในกีฬาเหมือน ๆ กัน ทำให้ทั้งสองกลายมาเป็นคู่หูคู่ใหม่สุดทรงพลัง ด้วยความร่วมมือกับ AORUS ในครั้งนี้ KRU Esports และอเกวโรกำลังเฝ้ารอที่จะสร้างทีมอีสปอร์ตที่ทรงอิทธิพลซึ่งจะมาครองภูมิภาคลาตินอเมริกาและยุโรป

ในฐานะที่เป็นเจ้าของทีม KRU Esports อเกวโรกำลังร่วมมืออย่างเต็มที่กับ AORUS ในทุกวิถีทาง โดยไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้เล่นเกมภายในบ้าน หรือแล็บท็อปที่เขาพกพาติดตัวไปด้วยตลอดในขณะที่ต้องออกเดินทาง ทั้งหมดต่างก็ถูกขับเคลื่อนด้วยฮาร์ดแวร์สุดล้ำสมัยจาก AORUS

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sergio และ KRU Esports ได้ที่ https://www.instagram.com/p/CJcFE0MrYfJ/?igshid=13nr3fcpo3cd1

Renewed Tantu and Wu-Ju Heroes Arrive in Shadow Arena

      Pearl Abyss announced today that the Heroes Tantu and Wu-Ju have returned to Shadow Arena with enhanced abilities. Players can now experience the renewed array of characteristics of these Heroes and fight against enemies with more control.  

Tantu is a Dealer with powerful and wide-ranged firing power who uses an Iron Buster as his weapon. Through renewal, two of his previous skills were removed, and the new skill called Overload was added. When using Overload, all bullets of the Iron Buster will be loaded and will not be consumed, allowing players to attack the opponents continuously. 

A Support Hero, Wu-ju summons a Hungry Black Spirit to drastically reduce the opponent's defense and increase the attack power of the allies. He can also detect enemies and avoid dangerous situations, helping his allies when it comes to fighting as a team. Due to his lack of HP and movement skills, players are highly encouraged to engage in battles with allies.  

Shadow Arena has been recently renewing Heroes to enhance their team strategy aspect. Renewed Heroes currently available are Venslar, Tantu, and Wu-Ju. More Hero renewals will take place and will be released one by one. 

Visit the official website, Discord, Facebook, YouTube, and Twitter for more information.     

About Shadow Arena  

Shadow Arena is Pearl Abyss' action-packed PvP game that is currently available in Early Access on Steam. Based on the world of Black Desert, Shadow Arena features fierce battles in which 4 teams of 3 players each compete to become the ultimate victor on the battlefield. Players can choose from a variety of Heroes, each with their own unique fighting style. To climb to the top of the pack, players must slay monsters to gain buffs and collect tokens, which they can use to buy their gear. Impeccable skill execution and well-timed evasive maneuvers are also critical in securing victory. 

Surprising Duo - AORUS Teams Up with Football Star Sergio Agueero in Esports

 

The gaming fever has been sweeping the football world as of late. Manchester City's star striker Sergio Agueero is one of the top athletes who takes his games very seriously, both on and off the field. As a huge gamer himself, Agueero has been actively participating in competitive gaming during the pandemic through livestreaming games such as FIFA. His livestream was an instant hit, attracting tens of thousands of fans, followers and gamers to watch online.

Agueero's love for gaming does not end there as he takes another step forward and extends his passion to the field of pro esports. Devoting a significant amount of time and effort to the esports industry, the global football superstar recently founded a wholly-owned franchise named KRU Esports. The team is planning to enter prominent tournaments and leagues in FIFA 21, Valorant, Rocket League, and CS:GO in the near future.

During an interview, Agueero mentioned that for most of his life he played football, a sport which he enjoyed wholeheartedly. He hopes his fans could also devote themselves to what they love and enjoy. That is the main reason why he founded KRU Esports to help those who are as passionate about esports as he is to make their esports dreams come true.

To compete at the highest level of technologically demanding games, the team needs the best technology and hardware to power the players. Agueero learned about AORUS, a top-tier gaming brand powered by GIGABYTE that offers some of the most premium PC hardware with impeccable performance. Through common interests, two parties got in touch and hit it off from the start.

With both sides sharing the same values and passion for esports, a new dynamic duo was quickly formed. By teaming up with AORUS, KRU Esports and Agueero are looking forward to building an esports powerhouse that will dominate regions spanning across Latin America and Europe.

As the team owner, Agueero also joins forces with AORUS in every way now. Whether the PC battlestation at home, or the gaming laptop he carries around when travelling, they are all powered by the state-of-the-art hardware from AORUS.

      See more stories about Sergio and KRU Esports:
https://www.instagram.com/p/CJcFE0MrYfJ/?igshid=13nr3fcpo3cd1

OPEC Fund marks 45 years of driving development, as member countries commit to further contribution

      The OPEC Fund for International Development (the OPEC Fund) marks its 45th anniversary today. Since inception, the multilateral development finance institution has approved more than US$25 billion in essential financing for 135 partner countries.  

Established in 1976 with a distinct mandate to drive development, strengthen communities and empower people, the OPEC Fund's member countries are:  Algeria, Ecuador, Gabon, Indonesia, Iran, Iraq, Kuwait, Libya, Nigeria, Saudi Arabia, the United Arab Emirates and Venezuela. While the organization works directly with partner countries, it also collaborates with other development finance institutions, regional development banks and the specialized agencies of the United Nations to maximize its development impact.

The 45th anniversary coincides with a demonstration of steadfast support from the organization's member countries. The OPEC Fund's Governing Board recently endorsed a second tranche of US$400 million to be contributed by member countries over the next four years. The Ministerial Council approved a US$1 billion Fourth Replenishment of the OPEC Fund's resources in 2001, of which this second tranche is a part. The first tranche of US$600 million was contributed over the past eight years.

Abdulwahab A Al-Bader, Chairman of the OPEC Fund's Governing Board, said: "The organization's development operations are self-sustaining, due to prudent management and a long history of positive operational income. This second tranche of contributions signifies member country determination to strengthen the OPEC Fund's ability to meet development challenges that have become even more urgent as a result of COVID-19."

OPEC Fund Ministerial Council Member and Saudi Arabia's Minister of Finance Mohammed Al-Jadaan outlined the unique role the organization plays in international development: "The OPEC Fund has been playing a distinguished role in promoting global development, and it is the only globally mandated development institution that provides financing from member countries to non-member countries only. All developing countries, with the exception of its own members, are eligible for assistance."

The OPEC Fund's Ministerial Council member and Indonesia's Minister of Finance Sri Mulyani Indrawati said: "A new strategy introduced in 2019 and backed by member countries means that the organization has become more agile and can respond without delay to the changing needs of partner countries. We can now move quickly and effectively to ensure finance reaches those who need it most, as low-income communities around the world attempt to recover from the pandemic." 

OPEC Fund Director-General Dr Abdulhamid Alkhalifa said: "Thanks to the foresight and dedication of our member countries, the OPEC Fund continues to demonstrate solidarity and play its part in reducing global inequality. During the year ahead, we will focus on delivering in line with our clear and ambitious Strategic Framework to further expand our development impact and secure our future for many years to come." 

To date, the OPEC Fund's public sector operations have supported the development of 15 GW of electricity generation capacity; contributed to the construction and development of 11,360 km of roads and railways; and provided 11.5 million households with access to water and sanitation. Since launching in 1998 and 2006, the organization's private sector and trade finance operations have directly supported over 350,000 MSMEs; helped generate 15 million tonnes of annual handling capacity in ports; and contributed to the development of 750 MW of renewable capacity generation.

For further information on the OPEC Fund's achievements since 1976, please see the special edition of the OPEC Fund Quarterly (https://bit.ly/2NAJ5Xl).

About the OPEC Fund
The OPEC Fund for International Development (the OPEC Fund) works in cooperation with developing country partners and the international development community to stimulate economic growth and social progress in low- and middle-income countries around the world. The organization was established by the member countries of OPEC in 1976 with a distinct mandate: to drive development, strengthen communities and empower people. The OPEC Fund's work is people-centered, focusing on financing projects that meet essential needs, such as food, energy, infrastructure, employment (particularly relating to MSMEs), clean water and sanitation, healthcare and education. Our vision is a world where sustainable development is a reality for all.