Monday, June 30, 2025

งานเสวนา อีโค ฟอรัม โกลบอล กุ้ยหยาง 2568 เปิดฉาก ก.ค. ชูการเปลี่ยนผ่านสีเขียวระดับโลก

 

สำนักงานสารสนเทศแห่งรัฐบาลมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน ประกาศเมื่อไม่นานนี้ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดงาน อีโค ฟอรัม โกลบอล กุ้ยหยาง ประจำปี 2568 (Eco Forum Global Guiyang 2025) ที่เมืองกุ้ยหยาง ในวันที่ 5-6 กรกฎาคม โดยรัฐบาลมณฑลกุ้ยโจวจะเป็นเจ้าภาพจัดงานเสวนาสองวันภายใต้ธีม "การอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ: อภิปรายการพัฒนาระดับโลกและการเปลี่ยนผ่านสีเขียว" ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 800 คน และขณะนี้งานเตรียมการต่าง ๆ กำลังคืบหน้าตามลำดับ

อีโค ฟอรัม โกลบอล กุ้ยหยาง เป็นงานเสวนาระดับชาติและนานาชาติงานเดียวในจีนที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิดเกี่ยวกับอารยธรรมนิเวศวิทยา โดยจัดขึ้นมาแล้ว 12 ครั้งนับตั้งแต่ก่อตั้ง และได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากชุมชนนานาชาติ สำหรับจุดมุ่งหมายของงานในปีนี้คือเพื่อสร้างเวทีเสวนาระดับนานาชาติที่ผสมผสานการแลกเปลี่ยนแนวคิด การแบ่งปันแนวปฏิบัติ และความร่วมมือเชิงปฏิบัติจริงผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น พิธีเปิด การเสวนาในหัวข้อต่าง ๆ การเยี่ยมชมนอกสถานที่ การจัดแสดงส่งเสริมการขาย การส่งเสริมการลงทุนสีเขียว และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีปกป้องสิ่งแวดล้อม

งานนี้จะยังคงเดินหน้ากระชับความร่วมมือกับชุมชนระหว่างประเทศในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และสาขาอื่น ๆ ตลอดจนตอบสนองต่อข้อกังวลของการประชุมนานาชาติที่สำคัญ เช่น การประชุม COP16 และ COP29 ยิ่งไปกว่านั้น งานนี้จะมุ่งแบ่งปันประสบการณ์จริงในการสร้างประเทศจีนที่สวยงามร่วมกับชุมชนระหว่างประเทศ ผลักดันการเปลี่ยนผ่านสีเขียวในการพัฒนาระดับโลก และร่วมกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมหลักสามประการของโลก เพื่อสร้างโลกที่สะอาดและสวยงาม นอกจากนี้ งานนี้ยังสนับสนุนการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางของแวดวงการเมือง ธุรกิจ และวิชาการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนช่วยปรับปรุงระบบการกำกับดูแลสิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศวิทยาของโลก อีกทั้งงานนี้จะส่งเสริมการดำเนินการริเริ่มระดับโลกที่สำคัญสามประการ และช่วยเหลือกลุ่มประเทศ "โลกใต้" (Global South) ในการแบ่งปันผลของการพัฒนาสีเขียว และทำให้กุ้ยโจวสามารถรวบรวมทรัพยากรระดับโลกเพื่อ "ระดมภูมิปัญญา" และ "ดึงดูดการลงทุน" เสริมสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพใหม่และการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง

ขณะเดียวกัน งานในปีนี้ยังได้เชิญองค์กรระหว่างประเทศมาร่วมเป็นเจ้าภาพเวทีเสวนาหัวข้อต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2561 ที่องค์กรระหว่างประเทศได้เข้ามาทีส่วนร่วมกับงานในเชิงลึก โดยขณะนี้ มีองค์กรระหว่างประเทศตอบรับเข้าร่วมเวทีเสวนาเฉพาะหัวข้อจำนวน 11 ฟอรัม จากทั้งหมด 20 ฟอรัม ซึ่ง 4 ฟอรัมในจำนวนนี้ได้องค์กรระหว่างประเทศมารับเป็นเจ้าภาพเดี่ยว

2025 Eco Forum Global Guiyang to Kick off in July Spotlighting Global Green Transformation

 

Recently, the Information Office of Guizhou Provincial Government in China announced that, with the approval of the State Council, Eco Forum Global Guiyang 2025 will be held in Guiyang from July 5 th  to 6 th . This 2-day-forumn will be hosted by the People's Government of Guizhou Province. The theme of this year's forum is "Harmonious Coexistence between Humans and Nature -- Discussing Global Development and Green Transformation". The expected number of attendees is around 800, and various preparatory work is currently progressing orderly.

As the only national and international forum in China themed eco-civilization, Eco Forum Global Guiyang has been successfully held for 12 sessions since its inception, attracting widespread attention from the international community. This year's forum aims to create an international event that integrates concept exchanges, practice sharing, and pragmatic cooperation through activities such as opening ceremony, thematic forums, off-site visits, promotional displays, green investment promotion, and the release of new environmental protection products and technologies.

This forum continues to deepen cooperation with the international community in addressing climate change, biodiversity conservation, and other fields, as well as actively responds to the concerns of important international conferences such as COP16 and COP29. In addition, the forum will strive to help share practical experiences in building a beautiful China with the international community, push green transformation in global development and jointly solve the three major global environmental problems in order to build a clean and beautiful world. Besides, the forum will also encourage the extensive participation of political, business, and academic circles at home and abroad and help improve the global ecological environment governance system. Furthermore, it will promote the implementation of the three major global initiatives and assist the "Global South" in sharing the fruits of green development and enable Guizhou to gather global resources to "pool wisdom" and "attract investment", empowering new quality productivity and high-quality development.

It is worth mentioning that this year's forum actively invites international organizations to host thematic forums, which is the first time since 2018 that international organizations have deeply participated. Currently, 11 out of 20 thematic forums will be participated by international organizations, and 4 of these forums will be independently hosted by international organizations.

Friday, June 27, 2025

“ค็อกพิท เอ.บี.สันต์การยาง กรุ๊ป” ฉลองเปิดสาขาใหม่ อัดโปรเด็ด เอาใจลูกค้าชาวมหาสารคาม

ค็อกพิท (COCKPIT) ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรฟาสต์ฟิต (Fast Fit) ภายใต้การบริหารงานโดยบริษัท บริดจสโตน เอ.ซี.ที (ประเทศไทย) จำกัด ฉลองเปิดสาขาใหม่ “ค็อกพิท เอ.บี.สันต์การยาง กรุ๊ป” ตั้งอยู่ตรงข้ามศูนย์อีซูซุ สาขาพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม สร้างจุดหมายใหม่ของการให้บริการด้านรถยนต์ที่ครบครันในที่เดียวภายใต้สโลแกน “คุ้มครบไว อุ่นใจ ที่ค็อกพิท” รองรับการให้บริการลูกค้าในจังหวัดและพื้นที่บริเวณใกล้เคียง จัดโปรโมชันสุดพิเศษตั้งแต่วันที่ 26 - 30 มิถุนายน 2568 (จนกว่าสินค้าจะหมด) ชวนลูกค้ามาใช้บริการแบบจัดเต็ม เมื่อซื้อยาง DAYTON เฉพาะรุ่นและขนาดที่ร่วมรายการครบ 2 เส้น แถมฟรีอีก 2 เส้น สุดคุ้มกับยางแบรนด์ชั้นนำทั้งBRIDGESTONE, FIRESTONE หรือ DAYTON เฉพาะรุ่นและขนาดที่ร่วมรายการ ลดสูงสุดถึง 5,000 บาท พร้อมโปรน้ำมันเครื่องรุ่นที่ร่วมรายการ เริ่มต้นที่ 750 บาท และอื่นๆ อีกมากมาย

A group of people standing in front of a yellow sign

AI-generated content may be incorrect.

คุณสมิทธ์ แสงไฟ ผู้จัดการส่วนการตลาดค้าปลีก สายงานเครือข่ายโซลูชั่นการค้าปลีก
บริษัท บริดจสโตน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 3 จากขวา)

 คุณสมิทธ์ แสงไฟ ผู้จัดการส่วนการตลาดค้าปลีก สายงานเครือข่ายโซลูชั่นการค้าปลีก บริษัท บริดจสโตน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ค็อกพิทมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในฐานะศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศไทย โดยค็อกพิท เอ.บี.สันต์การยาง กรุ๊ป เป็นค็อกพิทสาขาที่ 2 ที่เปิดให้บริการในจังหวัดมหาสารคาม ด้วยประสบการณ์

อันยาวนานของเจ้าของร้านในธุรกิจยางรถยนต์ คุณภาพด้านการให้บริการ และราคาที่สมเหตุสมผล
เรามุ่งหวังว่าค็อกพิท เอ.บี.สันต์การยาง กรุ๊ป จะสามารถรองรับความต้องการของผู้ใช้รถยนต์และตอบโจทย์การใช้บริการของคนในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียงได้อย่างดี”

โปรโมชันสุดคุ้มฉลองเปิดสาขาใหม่ ตั้งแต่วันที่ 26-30 มิถุนายน 2568 (จนกว่าสินค้าจะหมด) 

ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์

  • เมื่อซื้อยางรถยนต์ DAYTON เฉพาะรุ่นและขนาดที่ร่วมรายการครบ 2 เส้น แถมฟรีอีก 2 เส้น

  • เมื่อซื้อยางรถยนต์ DAYTON รุ่น DT30 และขนาดที่ร่วมรายการครบ 3 เส้น แถมฟรีอีก 1 เส้น

  • เมื่อซื้อยาง BRIDGESTONE, FIRESTONE หรือ DAYTON เฉพาะรุ่นและขนาดที่ร่วมรายการ
    รับส่วนลดสูงสุด 5,000 บาท

  • ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อซื้อยาง BRIDGESTONE หรือ FIRESTONE เฉพาะรุ่นและขนาดที่ร่วมรายการ

  • ต่อที่ 1: ฟรี! โปรแกรมดูแลยาง B-care One เมื่อยางเสียหายเปลี่ยนให้ฟรี 1 เส้น คุ้มครองนาน 1 ปี 

  • ต่อที่ 2: ฟรี! โปรแกรมช่วยเหลือฉุกเฉิน B-24 hrs บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง

ผลิตภัณฑ์อื่นๆ 

  • สุดคุ้มกับชุดน้ำมันเครื่องรุ่นที่ร่วมรายการ เริ่มต้นที่ราคา 750 บาท



หมายเหตุ: เงื่อนไขของโปรโมชันเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cockpit.co.th. หรือ www.facebook.com/CockpitTH
แผนกลูกค้าสัมพันธ์ โทร.1369


 

ข้อมูลค็อกพิท เอ.บี.สันต์การยาง กรุ๊ป
ที่ตั้ง: 289 หมู่ 12 ตำบลลานสะแก อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ตั้งอยู่ตรงข้ามศูนย์อีซูซุ สาขาพยัคฆภูมิพิสัย
เวลาเปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 08.00 - 17.00 น.
แผนที่: https://maps.app.goo.gl/WKsLUrqRTQhHuqp66
โทรศัพท์: 098-308-9888
เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/profile.php?id=61571843030424

เกี่ยวกับบริดจสโตน ประเทศไทย:

บริดจสโตน ผู้นำระดับโลกด้านยางรถยนต์และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับยาง พร้อมนำเสนอโซลูชั่นด้านการเดินทางที่ปลอดภัยและยั่งยืน และสำหรับประเทศไทย

บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด คือหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการนำเข้า จัดจำหน่าย และ

ทำการตลาดยางรถยนต์ภายใต้แบรนด์บริดจสโตน, ไฟร์สโตน และเดย์ตันแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย บริดจสโตนเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ตัวแทน

จำหน่าย และพันธมิตรทางธุรกิจ เรานำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์พรีเมียมที่หลากหลายและโซลูชั่นขั้นสูงซึ่งพัฒนาจากนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาการเดิน

ทาง, การใช้ชีวิต, การทำงาน และการพักผ่อนของผู้คนทั่วโลก


เกี่ยวกับ ค็อกพิท 

ค็อกพิท (Cockpit) ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรที่พร้อมให้บริการที่หลากหลาย อาทิ บริการเปลี่ยนยางรถยนต์ น้ำมันเครื่อง เบรก โช้คอัพ แบตเตอรี่ และการบำรุงรักษา

รถยนต์ตามระยะทาง ด้วยสินค้าคุณภาพสูงที่คัดสรรจากผู้ผลิตชั้นนำ เเละบริการมาตรฐานจากทีมช่างผู้ชำนาญ พร้อมเครื่องมือที่ทันสมัยด้วยการให้บริการด้วยความ

มุ่งมั่น คำนึงถึงความปลอดภัย ใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า ที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 260 สาขาทั่วประเทศ*

(ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2568)





Tohoku Kizuna Festival Parade Brings Together Six Tohoku Festivals to Captivate Audience: "Tohoku Four Seasons & Tohoku Kizuna Festival" at EXPO 2025 Osaka, Kansai, Japan

Tohoku Kizuna Festival Executive Committee, Tohoku Tourism Promotion Organization

The six Tohoku prefectures, Tohoku Tourism Promotion Organization, and Tohoku Kizuna Festival Executive Committee held the "Tohoku Four Seasons & Tohoku Kizuna Festival" at 2025 Osaka, Kansai, Expo from Friday, June 13, to Sunday, June 15, 2025. The festival united the Tohoku region to show its gratitude for the support it received from around the world in the aftermath of the 2011 Great East Japan Earthquake and show the state of recovery. The festivities also communicated information about Tohoku's world-class tourist attractions, such as its nature, culture, cuisine, advanced technology, and people, both domestically and internationally, and to attract more visitors.

Images: https://kyodonewsprwire.jp/release/202506180788?p=images

At an opening ceremony on Friday, June 13, the governors of the six Tohoku prefectures, other Tohoku officials, the region's local mascots, and MYAKU-MYAKU, the official mascot for 2025 Osaka, Kansai Expo, took to the stage to greet guests and hold a ribbon-cutting ceremony. Afterwards, a special event was held showcasing the festivals from the six Tohoku prefectural capitals. The Tohoku Kizuna Festival, featuring the summer festivals from six Tohoku cities, was originally slated for Saturday, June 14, and Sunday, June 15. Due to inclement weather on June 14, the two performances were held indoors. After the weather recovered on June 15, the parade was held twice.

The Tohoku Kizuna Festival is the successor to the Tohoku Rokkon Festival, which was started to pray for the souls affected by the 2011 Great East Japan Earthquake and for recovery. It is usually held in one of the six Tohoku prefectural capitals, but this year it was specially held at the Osaka Kansai Expo. The six Tohoku summer festivals (Aomori Nebuta Festival, Morioka Sansa Odori Festival, Akita Kanto Festival, Sendai Tanabata Festival, Yamagata Hanagasa Festival, and Fukushima Waraji Festival) convened, and the venue also featured displays of large Nebuta and Tanabata decorations. A total of about 550 dancers paraded through the venue, captivating the audience with their magnificent performances.

The "Tohoku Four Seasons," held over three days, featured promotional booths from the six Tohoku prefectures, stage events, hands-on experiences in traditional handmade crafts, and tastings and sales of local foods, all of which helped promote the charms of Tohoku.

Event report: https://kyodonewsprwire.jp/attach/202506180788-O1-1qZDw8o8.pdf

Tohoku Four Seasons & Tohoku Kizuna Festival dates
Dates: Friday, June 13, to Sunday, June 15, 2025
Venue: EXPO Arena "Matsuri" at EXPO 2025 Osaka, Kansai, Japan

- Tohoku Four Seasons
Friday, June 13, 2025, from 2 to 8 pm
Saturday, June 14, 2025, from 10 am to 8 pm
Sunday, June 15, 2025, from 10 am to 8 pm

- Tohoku Kizuna Festival Parade
Saturday, June 14, 2025 *On stage due to rain
Departure ceremony: 1:50 to 2 pm; first time: 2 to 2:50 pm
Festival and tourism PR: 4:50 to 5:00 pm; second time: 5 to 5:50 pm
Sunday, June 15, 2025
Departure ceremony: 10:20 to 10:30 am; first time: 10:30 to 11:20 am
Festival and tourism PR: 12:50 to 1:00 pm; second time: 1 to 1:50 pm


ขบวนพาเหรดเทศกาลโทโฮคุคิซึนะ ดึง 6 เทศกาลดังแห่งโทโฮคุมารวมพลังสร้างความประทับใจในงาน "Tohoku Four Seasons & Tohoku Kizuna Festival" ที่งานเอ็กซ์โป 2025 โอซาก้า คันไซ ประเทศญี่ปุ่น

6 จังหวัดในภูมิภาคโทโฮคุ องค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวโทโฮคุ และคณะกรรมการบริหารเทศกาลโทโฮคุคิซึนะ ได้ร่วมกันจัดงาน "Tohoku Four Seasons & Tohoku Kizuna Festival" ขึ้นที่งานเอ็กซ์โป 2025 โอซาก้า (Expo 2025 Osaka) คันไซ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน ถึงวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา เทศกาลนี้มีจุดประสงค์ในการรวมพลังภูมิภาคโทโฮคุ เพื่อแสดงความขอบคุณที่นานาประเทศได้ให้การสนับสนุนภูมิภาคนี้ หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางตะวันออกของญี่ปุ่นในปี 2554 และยังเป็นโอกาสอันดีในการแสดงให้เห็นความก้าวหน้าในการฟื้นฟูของภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ งานนี้ยังเป็นช่องทางเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกของโทโฮคุ ทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม อาหาร เทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึงผู้คนที่เป็นมิตร ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนโทโฮคุมากยิ่งขึ้น

รูปภาพ: https://kyodonewsprwire.jp/release/202506180788?p=images

ในพิธีเปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 6 ของภูมิภาคโทโฮคุ รวมถึงเจ้าหน้าที่รายอื่น ๆ ในภูมิภาคโทโฮคุ มาสคอตท้องถิ่น และ เมียะคุ-เมียะคุ (MYAKU-MYAKU) มาสคอตอย่างเป็นทางการประจำงานเอ็กซ์โป 2025 โอซาก้า คันไซ ได้พร้อมใจกันขึ้นเวทีเพื่อต้อนรับแขกผู้มีเกียรติและร่วมพิธีตัดริบบิ้น หลังจากนั้น ก็มีการจัดกิจกรรมพิเศษที่นำเสนอเทศกาลเด่น ๆ จากเมืองเอกประจำจังหวัดทั้ง 6 ของโทโฮคุมาให้ชมกัน เดิมที เทศกาลโทโฮคุคิซึนะ ซึ่งเป็นการรวมตัวของเทศกาลฤดูร้อนจาก 6 เมืองใหญ่ในโทโฮคุ ถูกกำหนดให้จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน และวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน แต่เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจในวันที่ 14 มิถุนายน การแสดงสองรอบแรกจึงต้องย้ายไปจัดภายในอาคารแทน พอถึงวันที่ 15 มิถุนายน อากาศดีขึ้น ขบวนพาเหรดก็ได้จัดขึ้นสองรอบ

เทศกาลโทโฮคุคิซึนะนั้นสืบทอดมาจากเทศกาลโทโฮคุรกกง (Tohoku Rokkon) ที่ริเริ่มขึ้นเพื่ออธิษฐานขอพรให้ดวงวิญญาณของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางตะวันออกของญี่ปุ่นในปี 2554 และเพื่อการฟื้นฟู ปกติแล้ว เทศกาลนี้จะจัดขึ้นสลับหมุนเวียนในเมืองเอกของจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งใน 6 จังหวัดของโทโฮคุ แต่ปีนี้มีความพิเศษที่ได้มาจัดในงานเอ็กซ์โป โอซาก้า คันไซ เทศกาลฤดูร้อนชื่อดังทั้ง 6 ของโทโฮคุ (เทศกาลอะโอโมริเนบุตะ เทศกาลโมริโอกะซันสะโอโดริ เทศกาลอะคิตะคันโต เทศกาลเซ็นไดทานาบาตะ เทศกาลยามากาตะฮานากาสะ และเทศกาลฟุกุชิมะวาราจิ) ได้มารวมตัวกันอย่างยิ่งใหญ่ ภายในงานยังมีการจัดแสดงของตกแต่งขนาดใหญ่จากเทศกาลเนบุตะและทานาบาตะให้ได้ชมอีกด้วย โดยมีนักเต้นประมาณ 550 คน ร่วมเดินขบวนพาเหรดและทำการแสดงอย่างยิ่งใหญ่ สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างมาก

ตลอดระยะเวลา 3 วันที่จัดงาน "Tohoku Four Seasons" ได้มีการนำเสนอเสน่ห์อันน่าหลงใหลของภูมิภาคโทโฮคุอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นบูธประชาสัมพันธ์จากทั้ง 6 จังหวัดในโทโฮคุ กิจกรรมบนเวที กิจกรรมงานฝีมือแบบดั้งเดิมให้ได้ลองลงมือทำกันเอง รวมถึงการชิมและจำหน่ายอาหารพื้นเมือง

รายงานกิจกรรม: https://kyodonewsprwire.jp/attach/202506180788-O1-1qZDw8o8.pdf

กำหนดการจัดงาน Tohoku Four Seasons & Tohoku Kizuna Festival
วันที่: ศุกร์ที่ 13 มิถุนายน ถึง อาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน 2568
สถานที่: EXPO Arena "Matsuri" ที่งานเอ็กซ์โป 2025 โอซาก้า คันไซ ประเทศญี่ปุ่น

- Tohoku Four Seasons
วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 14:00 น. ถึง 20:00 น.
วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2568 เวลา 10:00 น. ถึง 20:00 น.
วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน 2568 เวลา 10:00 น. ถึง 20:00 น.

- ขบวนพาเหรดเทศกาลโทโฮคุคิซึนะ
วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2568 *ย้ายไปแสดงบนเวทีเพราะฝนตก
พิธีการส่ง: 13:50 น. ถึง 14:00 น. รอบแรก: 14:00 น. ถึง 14:50 น.
ประชาสัมพันธ์เทศกาลและการท่องเที่ยว: 16:50 น. ถึง 17:00 น. รอบสอง: 17:00 น. ถึง 17:50 น.
วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน 2568
พิธีการส่ง: 10:20 น. ถึง 10:30 น. รอบแรก: 10:30 น. ถึง 11:20 น.
ประชาสัมพันธ์เทศกาลและการท่องเที่ยว: 12:50 น. ถึง 13:00 น. รอบสอง: 13:00 น. ถึง 13:50 น.

ที่มา: คณะกรรมการบริหารเทศกาลโทโฮคุคิซึนะ องค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวโทโฮคุ

ก้าวสู่ยุค Cyber Resilience อย่างมั่นคง


เมื่อพูดถึง "ภัยไซเบอร์" หลายคนอาจนึกถึงไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือการเจาะระบบเพื่อขโมยข้อมูล อย่างไรก็ตาม โลกไซเบอร์ในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก กลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ได้พัฒนาเทคนิคการโจมตีให้ซับซ้อนยิ่งขึ้น โดยมุ่งเป้าไปยังองค์กรที่ถือข้อมูลสำคัญ หรือมีศักยภาพในการเรียกค่าไถ่ ผ่านเครื่องมือที่ล้ำสมัยอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning เพื่อเพิ่มโอกาสในการเจาะระบบและลดโอกาสในการถูกตรวจจับ เมื่อภัยไซเบอร์เกิดขึ้น ย่อมนำมาซึ่งผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า ความต่อเนื่องทางธุรกิจ และชื่อเสียงขององค์กรโดยรวม วันนี้ OPEN-TEC (Tech Knowledge Sharing Platform) ภายใต้การดูแลของ TCC TECHNOLOGY GROUP จะพาทุกท่านสำรวจมุมมองใหม่ในการรับมือกับภัยไซเบอร์ ไม่ใช่แค่เพื่อป้องกัน แต่เพื่อให้องค์กรสามารถฟื้นตัวจากภัยไซเบอร์ได้อย่างรวดเร็ว และพร้อมก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคงไม่มีสะดุด

ความซับซ้อนของเทคโนโลยี คือจุดเปราะบางของธุรกิจ

ในยุคที่องค์กรเร่งเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ระบบไอทีของหลายองค์กรเริ่มมีความกระจายตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแบบ Multi-cloud, SaaS, การเชื่อมต่อผ่าน API หรือรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดที่พนักงานสามารถเข้าถึงระบบได้จากหลากหลายอุปกรณ์และสถานที่ แม้ความยืดหยุ่นนี้จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับธุรกิจ แต่ในอีกด้านก็ทำให้พื้นที่เสี่ยงสำหรับการโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ช่องโหว่จากการเชื่อมต่อกับระบบของบุคคลที่สาม (Third-party Integration) การละเลยการดูแลระบบอย่างต่อเนื่องหรือการตั้งค่าที่ผิดพลาด ล้วนเป็นประตูที่อาจถูกเปิดทิ้งไว้โดยไม่รู้ตัว และหลายครั้งก็เป็นจุดที่องค์กรเองมองข้าม ซึ่งจุดเหล่านี้เอง กลับกลายเป็นช่องทางสำคัญที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ในการเข้าถึงข้อมูลหรือโจมตีระบบ และหากองค์กรไม่มีมาตรการรับมือที่เพียงพออาจหมายถึงการพลาดโอกาสในการควบคุมสถานการณ์ตั้งแต่เริ่มต้นได้นั่นเอง

การป้องกันเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป

ตลอดเวลาที่ผ่านมา หลายองค์กรให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นระบบรักษาความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลเครือข่าย (Firewall) ระบบรักษาความปลอดภัยของเครื่องผู้ใช้งาน (Endpoint Protection) ไปจนถึงระบบตรวจจับภัยคุกคามที่อ้างอิงจากรูปแบบที่เคยเกิดขึ้น (Signature-based Detection) ซึ่งล้วนเป็นรากฐานสำคัญในการดูแลความมั่นคงของระบบ อย่างไรก็ตาม จากรายงาน Cost of a Data Breach Report 2024 ของ IBM ระบุว่า องค์กรที่ถูกเจาะระบบโดยเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 178 วัน กว่าจะตรวจพบการเจาะและต้องใช้เวลาอีก 50 วัน กว่าจะควบคุมเหตุการณ์ได้ แม้จะมีความช่วยเหลือจากทีมรักษาความปลอดภัยและเครื่องมือด้านความปลอดภัยก็ตาม1 ซึ่งความล่าช้านี้เปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดีมีเวลามากพอในการขโมยข้อมูล ลบหลักฐาน หรือซ่อนช่องทางเพื่อกลับเข้ามาโจมตีซ้ำได้อีกครั้ง โดยทั้งหมดนี้อาจเกิดขึ้นโดยที่องค์กรยังไม่ทันรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้น สิ่งสำคัญที่องค์กรควรตระหนักถึงคือความสามารถในการตอบสนองและฟื้นฟูระบบได้อย่างรวดเร็วเมื่อเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น เพราะในความเป็นจริง ไม่มีระบบใดที่ปลอดภัยได้อย่างสมบูรณ์

Cyber Resilience: ปรับแนวคิดใหม่ในโลกที่ความเสี่ยงคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

Cyber Resilience หรือ ความสามารถในการฟื้นตัวจากภัยไซเบอร์ กำลังเป็นแนวคิดที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในองค์กรชั้นนำทั่วโลก ไม่ใช่เพราะองค์กรเหล่านี้ยอมแพ้ต่อการถูกโจมตี แต่เพราะพวกเขาตระหนักดีว่าความเสี่ยงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือการเตรียมพร้อมเพื่อรับมืออย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่ง Cyber Resilience ไม่ได้หมายความว่าองค์กรจะต้องปลอดภัยจากทุกการโจมตี แต่หมายถึงองค์กรสามารถรับรู้การโจมตีได้อย่างรวดเร็ว ตอบสนองได้อย่างแม่นยำ และกลับมาดำเนินธุรกิจต่อไปได้โดยไม่เกิดความเสียหายรุนแรง ผ่านการวางแผนรับมือเหตุการณ์อย่างรอบด้าน การฝึกซ้อมสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างสม่ำเสมอ จากรายงาน Global Cybersecurity Outlook 2025 ของ World Economic Forum ระบุว่า องค์กรที่มีความสามารถในการฟื้นตัวจากภัยไซเบอร์อย่างแท้จริง มักมีองค์ประกอบหลัก เช่น คู่มือปฏิบัติสำหรับการตอบสนองต่อภัยคุกคาม, การฝึกซ้อมสถานการณ์วิกฤตเป็นประจำ และ ขีดความสามารถในการตอบสนองภายในองค์กร เพื่อจัดการเหตุการณ์อย่างมีแบบแผนตามประเภทของภัยคุกคาม และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น2 โดยองค์กรที่มีความแข็งแกร่งทางการฟื้นตัวจากภัยไซเบอร์ ไม่เพียงแต่ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังสามารถรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้าได้อย่างมั่นคงแม้ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตและความท้าทายต่างๆ

สุดท้ายนี้ ภัยไซเบอร์ไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่ใช่เพียงเรื่องของเทคโนโลยีเท่านั้น หากแต่เกี่ยวข้องกับคน กระบวนการ และการวางแผนในระดับกลยุทธ์ องค์กรที่มีการเตรียมพร้อมอย่างรอบด้าน ทั้งด้านการป้องกัน การตอบสนอง และการฟื้นตัว จะสามารถรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดได้อย่างมั่นคงนั่นเอง

อ้างอิง

1. IBM Security. (2024). Cost of a data breach report 2024. IBM. Retrieved from: https://www.ibm.com/reports/data-breach

2. World Economic Forum. (2025). Global Cybersecurity Outlook 2025. Retrieved from: https://www.weforum.org/publications/global-cybersecurity-outlook-2025 

กุ้ยโจวกับความสำเร็จในการพัฒนาเชิงนิเวศ: จาก 'เขตทดลอง' สู่ 'เขตนำร่อง'


สมาคมอุตสาหกรรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อมมณฑลกุ้ยโจว

มณฑลกุ้ยโจวทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน กำลังใช้แนวคิดเชิงนิเวศมาสร้างสรรค์ภาพความเขียวขจีอันงดงามตามแนวภูเขาและแม่น้ำ จากการเป็น 'เขตทดลอง' สู่ 'เขตนำร่อง' กุ้ยโจวได้บุกเบิกเส้นทางการพัฒนาสีเขียวสายใหม่ ที่มุ่งเน้นความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ ความมั่งมีของผู้คน และคงไว้ซึ่งความงดงามทางธรรมชาติ

สิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

กุ้ยโจวยังคงมุ่งมั่นในการเอาชนะ 'ศึกใหญ่ 5 ด้าน' เพื่อป้องกันและควบคุมมลพิษ พร้อมทั้งบูรณาการการฟื้นฟูระบบนิเวศทั้งภูเขา แม่น้ำ ทะเลสาบ พื้นที่เพาะปลูก ป่าไม้ ทุ่งหญ้า และทะเลทราย โดยในปี 2567 นั้น คุณภาพอากาศใน 9 เมืองสำคัญและ 88 อำเภอของกุ้ยโจว ได้มาตรฐานเกรด II และคุณภาพน้ำผิวดินโดยรวมก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก 222 จุด ที่ได้รับการตรวจสอบ พบว่ามีอัตราคุณภาพน้ำดีเยี่ยมสูงถึง 99.1% และใน 23 จุดที่เป็นทางออกของแม่น้ำ ก็สูงถึง 100% ส่วนอัตราความสอดคล้องตามมาตรฐานคุณภาพน้ำจากแหล่งน้ำประปาส่วนกลางในระดับอำเภอขึ้นไปก็ยังคงได้มาตรฐาน 100% มาตลอด

แม่น้ำอู๋สุ่ย (แม่น้ำอู๋หยาง) ในเขตปกครองตนเองเฉียนตงหนาน กลุ่มชาติพันธุ์เหมียวและต้ง ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในแม่น้ำและทะเลสาบสวยงามดีเด่นของจีน และนับตั้งแต่ปี 2562 คุณภาพน้ำในเขตปกครองตนเองเฉียนตงหนาน ก็ติด 10 อันดับแรกของจีนต่อเนื่องกันถึง 6 ปี คุณอู๋ โหวกุ่ย (Wu Hougui) สมาชิกทีมเรือมังกรจากชุมชนซีเหมิน อำเภอเจิ้นหยวน กล่าวว่า 'ประเพณีการแข่งเรือมังกรของเราไม่มีทางสืบทอดมาได้เป็นพัน ๆ ปี หากไม่มีน้ำใสและภูเขาเขียวขจีเช่นนี้'

อุตสาหกรรมสีเขียวเติบโตอย่างก้าวกระโดด

กุ้ยโจวกำลังเร่งปรับปรุงและพัฒนาอุตสาหกรรมเดิม ๆ โดยนำแนวคิดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดคาร์บอนมาใช้ตลอดกระบวนการพัฒนาคุณภาพสูง กุ้ยโจวได้สร้างโรงงานสีเขียวระดับประเทศได้ถึง 85 แห่ง และมีนิคมอุตสาหกรรมสีเขียว 22 แห่ง ทำให้สัดส่วนของเศรษฐกิจสีเขียวในพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 48%

นอกจากนี้ หัวรถจักรไฮโดรเจนเชิงพาณิชย์คันแรกของจีน ก็เริ่มทดลองวิ่งบนเส้นทางรถไฟสายพิเศษ กุ้ยโจว เหม่ยจิน (Guizhou Meijin) ในเขตจงซาน เมืองลิ่วผานสุ่ยแล้ว ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูสู่การขนส่งถ่านหินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น ขณะที่โครงการ 'Electric Guizhou' ก็ประสบผลสำเร็จอย่างมากเช่นกัน โดยตั้งแต่ต้นปี 2568 มีการนำรถบรรทุกไฟฟ้างานหนักไปส่งเสริมและใช้ในภาคพลังงานรวมแล้วถึง 3,054 คัน ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 332,000 ตัน

ในส่วนของภาคป่าไม้ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นไม่แพ้กัน ในปี 2557 มูลค่าผลผลิตรวมของป่าไม้ในกุ้ยโจวอยู่ที่เพียง 6.01 หมื่นล้านหยวน แต่ในปี 2567 ตัวเลขนี้พุ่งขึ้นไปถึง 4.654 แสนล้านหยวน ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา อัตราการครอบคลุมของพื้นที่ป่าก็เพิ่มขึ้นจาก 49% เป็น 63.3% โดยมีพื้นที่ป่ารวม 166 ล้านหมู่

ระบบคุ้มครองเชิงนิเวศที่ล้ำหน้า

ในปี 2567 กุ้ยโจวเป็นผู้บุกเบิกในการสร้างกลไกออกตั๋วคาร์บอนป่าไม้ที่เป็นมาตรฐานเดียวกันในระดับมณฑลของจีน โดยมีการออกตั๋วคาร์บอนป่าไม้ชุดแรกไป 10 ใบ และทำธุรกรรมไปได้รวม 11 ล้านหยวน นอกจากนี้ ยังมีการซื้อขายสิทธิการใช้น้ำรวม 120 ครั้ง คิดเป็นปริมาณน้ำที่ซื้อขายได้ถึง 86.0287 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีมูลค่ารวม 31.5387 ล้านหยวน

ประชาชนมีส่วนร่วมสร้างสิ่งแวดล้อม

ธรรมเนียมในการ 'ปลูกต้นไม้ฉลองปีใหม่' ของกุ้ยโจวสืบทอดกันมายาวนาน 11 ปีแล้ว โดยมีการปลูกต้นกล้าไปแล้วกว่า 605 ล้านต้น ตั้งแต่ช่วงแผนพัฒนาระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 เป็นต้นมา กุ้ยโจวได้เปลี่ยนแนวคิดในการเพิ่มพื้นที่สีเขียว จากแค่ 'ปลูกเพิ่ม' เป็น 'เน้นคุณภาพ' แทน โดยผ่านโครงการฟื้นฟูป่าที่เสื่อมโทรมและบำรุงป่า ทำให้ป่าไม้ของที่นี่ไม่เพียงแค่ 'เขียวชอุ่ม' แต่ยัง 'มีคุณค่ามากขึ้น' ด้วย

ขณะเดียวกัน กุ้ยโจวก็ได้ใช้ทั้ง 'คน' และ 'ความเชี่ยวชาญ' มาช่วยปกป้องรากฐานระบบนิเวศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ในเมืองกุ้ยหยางมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดถึง 87 จุด เพื่อป้องกันไฟป่า ส่วนที่ภูเขาฟ่านจิ้งก็มีกล้องอินฟราเรด 400 ตัวไว้คอยติดตามสัตว์ป่าหายาก และยังมีหัวหน้าป่าไม้กว่า 40,000 คนที่พร้อมดูแลทรัพยากรป่าไม้ นอกจากนี้ ยังมีกลไกความร่วมมืออย่าง 'หัวหน้าป่าไม้ + ผู้แทน' และ 'หัวหน้าป่าไม้ + นายอำเภอ' ที่ช่วยกันสร้างระบบคุ้มครองสิ่งแวดล้อมที่ครอบคลุมแข็งแกร่ง

ประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรและเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

กุ้ยโจวได้นำกลยุทธ์ 'พัฒนาแร่ธาตุอย่างเต็มประสิทธิภาพ' มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร อย่างในอุตสาหกรรมเคมีฟอสฟอรัส เขตปกครองเฉียนหนานก็ได้วางรากฐานอุตสาหกรรมเคมีสมัยใหม่และวัสดุแบตเตอรี่พลังงานใหม่ ทำให้ฟอสฟอรัสเปลี่ยนบทบาทจาก 'ปุ๋ย' มาเป็น 'วัสดุ' ส่งผลให้เคมีสมัยใหม่และวัสดุแบตเตอรี่พลังงานใหม่จากฟอสฟอรัสมีมูลค่าผลผลิตรวมกว่า 5 หมื่นล้านหยวน นอกจากนี้ ในอุตสาหกรรมอะลูมิเนียม เขตพัฒนาเศรษฐกิจสุ่ยเฉิงก็สามารถแปรรูปอะลูมิเนียมเหลวได้เอง 100% โดยจำนวนบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอะลูมิเนียมก็เพิ่มขึ้นจาก 1 แห่งในปี 2559 เป็น 54 แห่ง

กุ้ยโจวยังคงเดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเทศกาลวัฒนธรรมการแข่งขันเรือมังกรเจิ้นหยวน ได้ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างมหาศาล ในช่วงเทศกาลเรือมังกรปีนี้ อำเภอเจิ้นหยวนได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวถึง 253,900 คน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 234 ล้านหยวน ยิ่งไปกว่านั้น อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในกุ้ยโจวยังคงติดอันดับต้น ๆ ของประเทศต่อเนื่องกันมา 9 ปีแล้ว โดยมีศูนย์ข้อมูลสำคัญระดับชาติ 48 แห่งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและเปิดใช้งาน ทำให้กุ้ยโจวกลายเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีทรัพยากรประมวลผลอัจฉริยะมากที่สุด และมีศักยภาพแข็งแกร่งเป็นอันดับต้น ๆ ในประเทศจีน

ที่มา: สมาคมอุตสาหกรรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อมมณฑลกุ้ยโจว

Guizhou's Fruitful Eco-Construction: from 'Experimental Zone' to 'Pilot Zone'


Guizhou Environmental Protection Industry Association

Guizhou, located in the southwest of China, is using an ecological pen to paint a gorgeous green picture along her mountains and rivers. From an 'Experimental Zone' to a 'Pilot Zone', Guizhou has embarked on a new path of green development characterized with prosperous economy, wealthy people and ecological beauty.

Significant Improvement in Eco-environment

Guizhou persists in winning the 'Five Major Battles' of pollution prevention and control and coordinates the integrated eco-restoration of mountains, rivers, lakes, farmland, forests, grasslands and deserts. By 2024, the ambient air quality in 9 key cities and 88 counties in Guizhou has met Grade II, and the overall surface water quality has been remarkable. The excellent water quality rate of 222 monitoring sections of major rivers is 99.1%, and that of 23 exit sections reaches 100%. The water quality compliance rate of centralized drinking water sources at or above the county level remains 100%.

The Wushui River (Wuyang River) in Qiandongnan Miao and Dong Autonomous Prefecture has been successfully selected as one of the Outstanding Cases of Beautiful Rivers and Lakes in China. Since 2019, the water quality in Qiandongnan Prefecture has been among the top 10 in China for six consecutive years. Mr. Wu Hougui, a member of the Loong Boat Team in Ximen Community, Zhenyuan County, said, 'The Loong Boat Competition tradition can not be inherited for thousands of years without lucid waters and lush mountains.'

Flourishing Green Industries

Guizhou is accelerating the transformation and upgrading of traditional industries, integrating green and low-carbon concept throughout the entire process of high-quality development. Guizhou has successfully established 85 national level green factories and 22 green industrial parks. The green economy accounts for about 48%.

The first commercial hydrogen locomotive in China has started trial operation on Guizhou Meijin Railway Special Line in Zhongshan District, Liupanshui City, opening up a new path for clean coal transportation. The construction of 'Electric Guizhou' has achieved fruitful results. Since the beginning of 2025, a total of 3,054 electric heavy-duty trucks have been promoted and applied in the energy sector, reducing carbon dioxide emissions by about 332,000 tons.

The forestry has also achieved a huge leap forward. In 2014, the total output value of Guizhou's forestry was only 60.1 billion yuan, and it exceeded 465.4 billion yuan in 2024. Over the past decade, the forest coverage rate has increased from 49% to 63.3%, with a forest area of 166 million mu.

Innovative Eco-protection System

In 2024, Guizhou took the lead in establishing a unified and standardized mechanism for issuing forestry carbon tickets at the provincial level in China, granting the first batch of 10 provincial forestry carbon tickets and achieving a total of 11 million yuan in transactions. In addition, a total of 120 water rights transactions have been completed, with a transaction volume of 86.0287 million cubic meters, amounting to 31.5387 million yuan.

Public Participation in Eco-construction

Guizhou's tradition of 'Tree Planting for New Year Celebrations' has continued for 11 years, with 605 million more seedlings newly planted here. Since the 14 th  Five-Year-Plan, Guizhou has shifted its greening focus from 'coverage expansion' to 'quality improvement'. Through projects such as degraded forest restoration and forest nurturing, the forest has been both 'greened' and 'increased in value'.

Meanwhile, with both 'civil defense and technical defense', Guizhou has successfully protected the ecological foundation. For instance, there are 87 remote video surveillance points established in Guiyang to prevent forest fire. There are 400 infrared cameras installed to track the rare species in Mount Fanjing and more than 40,000 forest chiefs ready to guard forest resources. Collaborative mechanisms such as 'forest chief+procurator' and 'forest chief+sheriff' have formed a comprehensive matrix for ecological protection.

Efficient Resource Utilization and Green Transformation

Guizhou has implemented the strategy of 'Refined Development of Rich Minerals' to promote efficient utilization of resources. In the field of phosphorus chemical industry, Qiannan Prefecture has laid out modern chemical and new energy battery material industries, realizing the transformation of phosphorus from 'fertilizer' to 'material'. The total output value of phosphorus based modern chemical and new energy battery materials has exceeded 50 billion yuan. Furthermore, in the field of aluminum industry, Shuicheng Economic Development Zone has achieved 100% in-situ conversion of aluminum liquid, and the number of aluminum related enterprises has increased from 1 in 2016 to 54.

Guizhou is also actively developing the cultural tourism industry and digital economy. The Zhenyuan Loong Boat Race Cultural Festival has unleashed the consumption potential of cultural tourism. During the Loong Boat Festival this year, Zhenyuan County received 253,900 tourists, realizing a total tourism revenue of 234 million yuan. Additionally, Guizhou's digital economy growth rate has been among the top in the country for 9 consecutive years. There are 48 national key data centers under construction and in operation, making Guizhou one of the regions with the most intelligent computing resources and the strongest capabilities in China.

Source: Guizhou Environmental Protection Industry Association

Guizhou's Experience in Making "Ecological Value" from "Green Appearance"



Guiyang, known as the "City of Forests", is steadfastly putting the concept of building eco-civilization into practice. It has achieved remarkable achievements in eco-environment treatment, green industry development, and public participation in environmental protection, painting a beautiful picture of harmonious coexistence between humans and nature.

Significant Improvement in Eco-Environment

In 2024, the excellent rate of ambient air quality in Guiyang was 99.5%, ranking 4 th  among 168 key cities in China. The water quality compliance rate and excellent rate of national and provincial control sections for surface water remained at 100%. For the first time, all 107 rivers has eliminated inferior V-Class water bodies. This series of data demonstrates the outstanding achievements of Guiyang in atmospheric and water environment treatment.

The environmental improvement in Guanshanhu District is exemplary. By constructing a grid-based precise monitoring platform for eco-environment quality and utilizing technologies such as the Internet of Things, sensors, drones, and artificial intelligence, smart analysis and monitoring of eco-environment have been achieved. The Pilot Project of A7 Group Catering Oil and Fume in Convention and Exhibition City has achieved significant results. No complaints have been received since 2025. After comprehensive environmental treatment, the water quality of Xiaowan River at the exit section has been upgraded from inferior V-Class to IV-Class or above for surface water and has stabilized and met the standards. The rural sewage treatment rate has reached 97.96%, and the black and odorous water bodies have been dynamically cleared.

Flourishing Green Industries, Prevailing Public Participation

For a long time, Guiyang has adhered to the principle of "Lucid waters and lush mountains are invaluable assets", and has promoted the complementary relationship between ecological and economic development. Jiu'an in Guiyang was once a coal producing township with serious ecological and environmental issues. Nowadays, relying on abundant resource of ancient tea trees, the road to tea cultivation has been opened, realizing the transformation of "coal mountains becoming tea mountains, miners becoming tea farmers, and tea gardens becoming scenic spots". Its tea products are exported to all over the world.

In Chayuan Village located in Chayuan Road Community, Yunyan District, a newly renovated 800-meter drainage ditch stands out on the main rural road. This renovated ditch adopts a combination of lower drainage pipes and upper drainage ditches, effectively achieving the separation of rainwater and sewage. Sewage is discharged through "hidden pipes", while rainwater flows smoothly out through "open ditches", greatly improving the living environment of villagers.

Deeply Rooted Ecological Culture

The Guanshanhu District Eco-Civilization Exhibition Hall in Guiyang City is the first county-level eco-civilization exhibition hall in Guizhou Province. It is rated as a base of green and low-carbon typical case for 2023. In addition, it is a demonstration site for Guiyang International Forum on Eco-Civilization, showcasing the achievements of eco-civilization construction and biodiversity. Besides, activities are held in "Ecological Season Campaign" in Guanshanhu District such as public eco-civilization educational courses and mass eco-art competitions to enhance eco-cultural dissemination.

Furthermore, Guizhou Qianling Mountain Park is open for free and receives over 10 million visitors annually. The rich natural landscapes and wildlife resources in the park deeply instill the concept of harmonious coexistence between humans and nature.

The spokesperson of Guiyang Eco-Environment Bureau says that Guiyang will continue to unswervingly implement the strategy of "Eco-city" and contribute "Guiyang Experience" to the construction of eco-civilization in China.

กุ้ยโจวเผยประสบการณ์ในการสร้างอารยธรรมนิเวศวิทยาอย่างเป็นรูปธรรม



นครกุ้ยหยาง เมืองเอกของมณฑลกุ้ยโจว ซึ่งได้รับการขนานนามว่า "เมืองแห่งป่าไม้" กำลังเดินหน้าขับเคลื่อนแนวคิดการสร้างอารยธรรมนิเวศวิทยาอย่างเป็นรูปธรรม โดยประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในการจัดการสิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศ การพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม นับเป็นการสะท้อนภาพที่สวยงามของการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ

สิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศได้รับการฟื้นฟูครั้งใหญ่

ในปี 2567 คุณภาพอากาศโดยทั่วไปของกุ้ยหยางอยู่ในระดับดีเยี่ยมที่ 99.5% ครองอันดับที่ 4 จาก 168 เมืองสำคัญทั่วประเทศจีน ขณะเดียวกัน อัตราความสอดคล้องตามมาตรฐานคุณภาพน้ำ และอัตราคุณภาพน้ำผิวดินในพื้นที่ควบคุมระดับชาติและระดับมณฑลยังคงอยู่ที่ 100% อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่แม่น้ำทั้ง 107 สายสามารถขจัดแหล่งน้ำคุณภาพต่ำระดับ Class V ได้ทั้งหมด ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนถึงความสำเร็จอันโดดเด่นของกุ้ยหยางในการจัดการคุณภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ

สำหรับตัวอย่างที่โดดเด่นคือการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในเขตกวนซานหู ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศที่แม่นยำแบบเป็นโครงข่าย พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น IoT เซนเซอร์ โดรน และ AI มาใช้ในการวิเคราะห์และติดตามสิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศอย่างชาญฉลาด ขณะเดียวกัน โครงการนำร่องของ A7 Group ในการจัดการน้ำมันและควันจากการประกอบอาหารในศูนย์การประชุมและแสดงสินค้าก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก ส่งผลให้ไม่ได้รับการร้องเรียนใด ๆ มาตั้งแต่ต้นปี 2568 นอกจากนี้ หลังจากดำเนินมาตรการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างครอบคลุม คุณภาพน้ำของแม่น้ำเสี่ยวหว่านช่วงปลายน้ำก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น จากคุณภาพน้ำผิวดินระดับต่ำ Class V ไต่ขึ้นสู่ระดับ Class IV หรือสูงกว่า และคงความเสถียรตามเกณฑ์มาตรฐาน ขณะที่อัตราการบำบัดน้ำเสียในชนบทยังสูงถึง 97.96% ส่วนแหล่งน้ำครำที่มีกลิ่นเหม็นก็ถูกขจัดอย่างต่อเนื่อง

อุตสาหกรรมสีเขียวเฟื่องฟู ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน

กุ้ยหยางยึดมั่นในหลักการ "น้ำใสสะอาดและภูเขาเขียวขจีคือทรัพย์สินอันล้ำค่า" มาโดยตลอด และได้ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่เกื้อกูลกันระหว่างการพัฒนาทางนิเวศวิทยากับการพัฒนาเศรษฐกิจ ยกตัวอย่างตำบลจิ่วอันในกุ้ยหยาง ซึ่งเคยเป็นแหล่งผลิตถ่านหินที่มีปัญหาทางนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง แต่ปัจจุบันได้หันมาพึ่งพาต้นชาโบราณอันอุดมสมบูรณ์ เปิดทางไปสู่การปลูกชาและการพลิกโฉม "ภูเขาถ่านหินกลายเป็นภูเขาชา ชาวเหมืองผันตัวเป็นชาวไร่ชา และสวนชาเปลี่ยนเป็นแหล่งท่องเที่ยว" โดยผลิตภัณฑ์ชาของตำบลจิ่วอันมีการส่งออกไปทั่วโลก

ขณะเดียวกัน ในหมู่บ้านฉาหยวน ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนถนนฉาหยวน เขตอวิ๋นเหยียน ได้มีการปรับปรุงคูระบายน้ำยาว 800 เมตรบนถนนสายหลักประจำหมู่บ้านใหม่ทั้งหมด โดยออกแบบให้มีสองระบบคู่กัน ได้แก่ ท่อระบายน้ำใต้ดิน และคูระบายน้ำแบบเปิดด้านบน ซึ่งช่วยให้สามารถแยกน้ำฝนและน้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยน้ำเสียจะถูกระบายผ่าน "ท่อที่ซ่อนอยู่" ส่วนน้ำฝนจะถูกระบายอย่างรวดเร็วผ่าน "คูน้ำแบบเปิด" ซึ่งการปรับปรุงนี้ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวบ้านในหมู่บ้านเป็นอย่างมาก

วัฒนธรรมนิเวศวิทยาหยั่งรากลึก

ศูนย์นิทรรศการอารยธรรมนิเวศวิทยาเขตกวนซานหู นครกุ้ยหยาง เป็นศูนย์นิทรรศการอารยธรรมนิเวศวิทยาระดับชาติแห่งแรกในมณฑลกุ้ยโจว โดยถูกจัดให้เป็นฐานกรณีศึกษาสีเขียวและคาร์บอนต่ำในปี 2566 นอกจากนั้นยังเป็นสถานที่สาธิตสำหรับการประชุมนานาชาติว่าด้วยอารยธรรมนิเวศวิทยานครกุ้ยหยาง โดยนำเสนอความสำเร็จในการสร้างอารยธรรมนิเวศวิทยาและการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ ขณะเดียวกัน ยังมีการจัด "แคมเปญฤดูกาลนิเวศวิทยา" ในเขตกวนซานหู ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ เช่น หลักสูตรการศึกษาอารยธรรมนิเวศวิทยาสำหรับประชาชน และการแข่งขันศิลปะนิเวศวิทยา เพื่อส่งเสริมการเผยแพร่วัฒนธรรมนิเวศวิทยาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ วนอุทยานภูเขาเฉียนหลิงในมณฑลกุ้ยโจวยังเปิดให้เข้าชมฟรี โดยมีผู้มาเยือนมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี ภูมิทัศน์ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และสัตว์ป่ามากมายช่วยปลูกฝังแนวคิดเรื่องการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติได้เป็นอย่างดี

โฆษกสำนักงานสิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศนครกุ้ยหยาง กล่าวว่า กุ้ยหยางจะดำเนินกลยุทธ์ "เมืองนิเวศ" อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนนำ "ประสบการณ์กุ้ยหยาง" มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างอารยธรรมนิเวศวิทยาในประเทศจีน