Thursday, June 19, 2025

กรณีศึกษา Social Listening ท่ามกลางวิกฤตการเมือง


 สำรวจเสียงจากโลกออนไลน์หลังคลิปหลุดจากฟากฝั่งกัมพูชา สั่นสะเทือนรัฐนาวาภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ออกมายืนยันว่าคลิปเสียงสนทนาระหว่างตนเองกับนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ที่เผยแพร่ในวันเดียวกันนั้นเป็นของจริง โดยเปิดเผยว่าได้บันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายกฯ แพทองธาร และส่งต่อคลิปดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกัมพูชาถึง 80 คน เหตุการณ์นี้ได้จุดชนวนให้เกิดกระแสถกเถียงอย่างรุนแรงในโลกออนไลน์ เริ่มแรกมีการเผยแพร่คลิปความยาว 9 นาที ซึ่งเป็นการตัดมาจากคลิปเต็มยาว 17 นาที แต่ไม่นานหลังจากนั้นคลิปเต็มก็ถูกเผยแพร่ออกมา กลายเป็นประเด็นที่สะเทือนวงการเมืองไทยในทันที เนื้อหาในคลิปเสียงได้ก่อให้เกิดข้อสงสัยครั้งใหญ่เกี่ยวกับความสามารถในการเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรี การทำงานด้านการทูต และการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ

ดาต้าเซ็ตได้ทำการติดตามและวิเคราะห์โพสต์บน X ที่ติดแฮชแท็ก #แพทองธารชินวัตร, #ไทยกัมพูชา, #นายกรัฐมนตรี และ #เพื่อไทย ระหว่างวันที่ 18-19 มิถุนายน 2568 โดยใช้เครื่องมือ DXT360 Analytics เพื่อดูปฏิกิริยาของประชาชนชาวโซเชียลในช่วงแรกหลังเหตุการณ์ นอกจากข้อมูลจาก X แล้ว ยังนำข่าวจากสื่อต่าง ๆ  มาประกอบการวิเคราะห์เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

ความคิดเห็นเชิงลบ

การวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินการทางการทูตของนายกฯ แพทองธาร:

โพสต์จำนวนมากแสดงความไม่พอใจต่อเนื้อหาในคลิปเสียงของนายกฯ แพทองธาร โดยเฉพาะการที่นายกฯ แพทองธารกล่าวถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ “ฝั่งตรงข้าม” ผู้ใช้โซเชียลมีเดียมองว่าเป็นความล้มเหลวในการให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของชาติ พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์นายกฯ แพทองธาร ที่ขอความช่วยเหลือจากฮุน เซน ท่ามกลางความตึงเครียดภายในประเทศ และเรียกร้องให้นายกฯ แพทองธารลาออกจากตำแหน่ง

มีการทวีตระบุว่านายกฯ แพทองธารได้ตกหลุมพรางของ “เสือเฒ่า” พร้อมเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งหรือยุบสภา

คลิปเสียงสนทนาดังกล่าวถูกมองว่าสะท้อนถึงการขาดความเป็นมืออาชีพทางการทูต ผู้ใช้แพลตฟอร์ม X และนักวิเคราะห์บางส่วนแสดงความเห็นว่าเหตุการณ์นี้ทำลายอธิปไตยของไทยและความน่าเชื่อถือของนายกฯ แพทองธาร รวมทั้งมีการทวีตว่าเหตุการณ์ครั้งนี้อาจพารัฐบาลพรรคเพื่อไทยไปสู่จุดที่ไม่อาจย้อนกลับได้

การเรียกร้องความรับผิดชอบทางการเมือง:

นายกฯ แพทองธารเผชิญแรงกดดันอย่างหนักให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือยุบสภา นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องให้นายกฯ แพทองธารยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนได้ตัดสินใจกันใหม่ว่าต้องการรัฐบาลแบบใด โดยมองว่าคลิปเสียงสนทนาดังกล่าวเป็นวิกฤตการณ์ครั้งสำคัญสำหรับทั้งพรรคเพื่อไทยและประชาธิปไตยไทย

  • ภูมิใจไทย ออกแถลงการณ์ ประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลเพื่อไทย
  • ไทยสร้างไทย ออกแถลงการณ์ ขอให้นายกฯ แพทองธาร แสดงความรับผิดชอบด้วยการ “ลาออก” จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้ยื่นหนังสือต่อ กกต. ในวันนี้ (19 มิ.ย. 68) เพื่อขอให้ตรวจสอบนายกฯ แพทองธารว่ามีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ ซึ่งอาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) และอาจเป็นเหตุให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามมาตรา 170 (4)

ภาพสะท้อนความไม่ไว้วางใจในความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา:

การที่ฮุน เซน ยอมรับว่าได้บันทึกเสียงและแชร์ต่อให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกัมพูชา 80 คน ถูกมองว่าเป็นการละเมิดพิธีการทางการทูต ไทยพีบีเอสรายงานว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างรอยร้าวทางการทูตระหว่างสองประเทศ ขณะที่การที่นายกฯ แพทองธาร กล่าวหาฮุน เซนว่า “เล่นการเมืองไม่มืออาชีพ” ยิ่งเป็นการเพิ่มเชื้อไฟให้กับวิกฤตความสัมพันธ์นี้

โพสต์บางส่วนแสดงความกังวลว่าการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนาเป็นการเคลื่อนไหวที่คิดคำนวณแล้วของ ฮุน เซนเพื่อทำลายเสถียรภาพของรัฐบาลไทย

ความเห็นเชิงบวก

กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยได้ออกมาปกป้องนายกฯ แพทองธาร โดยให้เหตุผลว่าคำพูดดังกล่าวเป็นความพยายามลดความตึงเครียดและแสวงหาความเข้าใจร่วมกันกับฮุน เซน เพื่อรักษาประโยชน์สูงสุดของประเทศ

ในการแถลงข่าวด่วนเมื่อวาน (18 มิ.ย. 68) นายกฯ แพทองธาร ได้ชี้แจงว่าคำพูดที่พาดพิงถึงแม่ทัพภาคที่ 2 และกองทัพเป็น “เทคนิคการเจรจา” เพื่อทำให้ฮุน เซนสงบลง หลังจากได้รับรายงานว่าฮุน เซน มีความไม่พอใจต่อคำพูดของแม่ทัพภาคที่ 2 แม้ว่าผู้สนับสนุนบางส่วนจะเห็นด้วยว่าเป็นการพูดเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้ง แต่ความเห็นในลักษณะนี้ไม่ได้รับการตอบรับมากนักในโซเชียลมีเดีย

ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่รุนแรง มีเสียงเรียกร้องความยับยั้งชั่งใจปรากฏขึ้นในโซเชียลมีเดียบ้าง แม้จะเป็นเพียงส่วนน้อยของการแสดงความคิดเห็นโดยรวม ผู้ใช้กลุ่มนี้โพสต์ข้อความเสนอว่าสังคมไทยควรหันมาให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เป็นประเด็นหลัก แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การโจมตีทางการเมือง พร้อมกับเรียกร้องให้คนไทยใช้ความยับยั้งชั่งใจและรวมตัวกันเพื่อผลประโยชน์ของชาติ

ความเห็นเป็นกลาง

โพสต์ของไทยพีบีเอสมุ่งเน้นการรายงานข้อเท็จจริง เช่น การแถลงข่าวของแพทองธารและการยืนยันของ ฮุน เซนเรื่องการบันทึกเสียง สะท้อนจุดมุ่งหมายเพื่อให้ข้อมูลมากกว่าการชี้นำความคิด

ประเด็นสำคัญและข้อสังเกต

ความไม่มั่นคงทางการเมือง: คลิปเสียงสนทนาได้ทำให้ความตึงเครียดที่มีอยู่แล้วในภูมิทัศน์การเมืองไทยปัจจุบันรุนแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพันธมิตรในรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย รวมถึงความสัมพันธ์กับกองทัพ 

ผลกระทบทางการทูต: การกระทำของฮุน เซน ในการอัดเสียงและเผยแพร่คลิปเสียงสนทนาถูกประณามอย่างกว้างขวางว่าผิดจรรยาบรรณ แต่ความสนใจยังคงมุ่งไปที่การเดินเกมส์ผิดของนายกฯ แพทองธาร เหตุการณ์นี้ทำให้ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาที่ตึงเครียดอยู่แล้วเนื่องจากข้อพิพาทชายแดนแย่ลง พร้อมความกังวลว่าสถานการณ์อาจบานปลาย

ความเชื่อมั่นของประชาชนที่ถดถอย: กระแสความรู้สึกที่เด่นชัดคือความผิดหวัง โดยผู้คนจำนวนมากมองว่าคลิปเสียงสนทนานี้เป็นหลักฐานของความไร้ประสบการณ์และความอ่อนแอของนายกฯ แพทองธาร แม้แต่ผู้สนับสนุนของพรรคเพื่อไทย ยังตกที่นั่งลำบากในการหักล้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่าเหตุการณ์นี้ได้ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ

การวิพากษ์วิจารณ์ที่เกี่ยวข้องกับเพศสภาพ: แม้จะไม่ชัดเจนในโพสต์ส่วนใหญ่ แต่การวิเคราะห์บางส่วนชี้ว่าสถานะของนายกฯ แพทองธารในฐานะผู้นำหญิงอายุน้อย อาจทำให้เธอถูกจับตามองมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้คำพูดที่ไม่เป็นทางการในการสนทนา เช่น การเรียกฮุน เซนว่า “Uncle” ซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าไม่เป็นมืออาชีพ

บทสรุป

การเผยแพร่คลิปบทสนทนาโดยฮุน เซนได้สร้างกระแสความรู้สึกเชิงลบอย่างท่วมท้นในโลกออนไลน์ เสียงเรียกร้องให้นายกฯ แพทองธาร ลาออกหรือยุบสภาเนื่องจากความผิดพลาดทางการทูตและการเมืองได้แพร่กระจายอย่างกว้างขวาง

การวิพากษ์วิจารณ์ครอบครองพื้นที่ส่วนมากของการสนทนาออนไลน์ โดยมุ่งเป้าไปที่คำพูดของนายกฯ แพทองธารเกี่ยวกับกองทัพไทย และการแสดงความใกล้ชิดกับฮุน เซนที่ถูกมองว่าไม่เหมาะสม ในขณะที่ผู้สนับสนุนซึ่งมีจำนวนน้อยกว่ามาก พยายามเน้นย้ำถึงเจตนารมณ์ที่แท้จริงของนายกฯ ในการรักษาสันติภาพ เหตุการณ์ครั้งนี้ได้สั่นคลอนความมั่นคงทางการเมืองของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยอย่างรุนแรง

เกี่ยวกับ DXT360

DXT360 เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลข่าวสารได้ทั้งจากโซเชียลมีเดีย สื่อออนไลน์ สื่อบรอดคาสท์ และสื่อสิ่งพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นเสียงของผู้บริโภค (Consumer Voices) คอนเทนต์จาก Influencers และ KOLs ไปจนถึงข่าวจากสื่อมวลชน ที่รวบรวมเข้ามาอยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกัน มีการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบ Dashboard ที่สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการของผู้ใช้งานแต่ละราย (Customizable Dashboard) จึงทำให้เข้าใจและเห็น Insight ในประเด็นต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยให้เห็นทิศทางการสื่อสารของแบรนด์ต่าง ๆ สามารถนำมาต่อยอดเพื่อพัฒนากลยุทธ์การสื่อสารขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดใหญ่! เปิดตัวแคมเปญ “Discover the City of Taste” สุดยอดแคมเปญอิ่มอร่อยแห่งปี เส้นทางแห่งรสชาติ…อัตลักษณ์ความอร่อยจาก 55 เมืองน่าเที่ยวทั่วไทย เที่ยวให้คุ้ม กินให้ครบ พร้อมแจก E-Coupon ส่วนลด 50%


สุดยอดแคมเปญอิ่มอร่อยแห่งปี เส้นทางแห่งรสชาติ…อัตลักษณ์ความอร่อยจาก 55 เมืองน่าเที่ยวทั่วไทย เที่ยวให้คุ้ม กินให้ครบ พร้อมแจก E-Coupon ส่วนลด 50%
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวแคมเปญกระตุ้นการเดินทางภายในประเทศด้วย “Discover the City of Taste – เส้นทางแห่งรสชาติ อัตลักษณ์ความอร่อย” โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารที่ยกระดับการกินให้กลายเป็นจุดหมายของการเดินทาง พร้อมขยายการรับรู้ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยมอบสิทธิพิเศษ E-Coupon ส่วนลด 50% ให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยัง 55 เมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศ แคมเปญนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด “Grand Moment” ที่ ททท. มุ่งสร้างประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำ โดยใช้ “อาหาร” เป็นแรงดึงดูดสำคัญ ผ่านการผสานเมนูท้องถิ่น วัตถุดิบชุมชน และกิจกรรมสร้างสรรค์ให้การเดินทางเต็มไปด้วยรสชาติและเรื่องราว ททท. ตั้งเป้าหมายให้แคมเปญนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวที่ช่วยกระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม คาเฟ่ หรือผู้ผลิตวัตถุดิบท้องถิ่น โดยอาศัยความร่วมมือจากเครือข่ายพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อาหาร และเทคโนโลยีการชำระเงิน

ไฮไลต์สำคัญของแคมเปญ “Discover the City of Taste”

  • คัดสรรร้านอาหารและประสบการณ์เชิงอาหารกว่า 55 แห่ง ทั่วประเทศ
  • นักท่องเที่ยวสามารถรับสิทธิ์ E-Coupon ส่วนลด 50% ผ่าน LINE E-Coupon และเว็บไซต์ discoverthecityoftaste.com ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2568 ถึง 30 กันยายน 2568 โดยลูกค้าสามารถ ซื้อ E-Coupon ราคา 50 บาท แต่สามารถใช้เป็นมูลค่าได้ถึง 100 บาท กับร้านอาหาร โรงแรม และกิจกรรมท่องเที่ยวที่ร่วมรายการใน 55 เมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศร้านค้าเข้าร่วมมีทั้งอาหารท้องถิ่น คาเฟ่ โรงแรม และกิจกรรมท่องเที่ยว เช่น เวิร์กช็อปทำอาหาร ฟาร์มอินทรีย์ และเชฟเทเบิล
  • ร้านค้าเข้าร่วมมีทั้งอาหารท้องถิ่น คาเฟ่ โรงแรม และกิจกรรมท่องเที่ยว เช่น เวิร์กช็อปทำอาหาร ฟาร์มอินทรีย์ และเชฟเทเบิล
  • ไม่ต้องจองล่วงหน้า ใช้คูปองได้ทันทีผ่านมือถือ สะดวก ปลอดภัย และใช้งานง่าย

E-Coupon นี้ ไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว แต่ยังช่วยกระตุ้นให้เกิด “การลองของใหม่” โดยเฉพาะร้านเล็กในชุมชนที่ไม่ได้อยู่ในแผนที่ท่องเที่ยวกระแสหลัก ทั้งยังสร้างรายได้ให้ท้องถิ่นโดยตรง สนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นรูปธรรม

เปิดลายแทง เมืองน่าเที่ยวจาก Discover the City of Taste ที่ต้องไปชิมสักครั้งในชีวิต

1. ภาคเหนือ – จังหวัดน่าน | Eat & Ride

เส้นทาง: สัมผัสวิถีศิลป์ รสถิ่น กลิ่นหมอก

ออกเดินทางไปกับ “Chef Rider” เชฟสายบิดกับบิ๊กไบค์คู่ใจพาเราท่องไปตามเส้นทางวัตถุดิบถิ่น เริ่มต้นด้วย “บ่อเกลือโบราณ” เพื่อสัมผัสรสชาติ “เกลือภูเขา” หนึ่งในอัตลักษณ์สำคัญของชุมชน ตามด้วย “หีบอ้อยโบราณ” ที่ยังคงใช้กรรมวิธีแบบดั้งเดิมให้ความหวานจากธรรมชาติ ปิดท้ายทริปด้วยเมนู Local Tasting Set ที่ร้าน Good View พร้อมกาแฟดอกเกลือภูเขา และทอฟฟี่น้ำอ้อยรสเข้ม อบอวลด้วยกลิ่นท้องถิ่นแท้ ๆ นักชิมสายกินตัวจริงจะได้สิทธิพิเศษเมื่อใช้ E-Coupon สำหรับร้านที่ร่วมโครงการ

2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ – จังหวัดอุดรธานี | Chef’s Table Experience

เส้นทาง: กินเป็นยา อาหารคือสมดุลธรรมชาติ

ร่วมเปิดประสบการณ์การกินแบบ “กินเป็นยา” กับเชฟท้องถิ่นที่ร้าน ซาหมวยแอนด์ซันส์ ผู้สร้างสรรค์เมนูอาหารอีสานร่วมสมัยที่นำปรัชญาการกินแบบ “ตามฤดูกาล” มาใช้ร่วมกับวัตถุดิบประจำถิ่นของอุดรธานี เช่น ข้าวเม่าบ้านผือ ธัญพืชพื้นเมืองที่หาทานยาก พร้อมกิจกรรม Cooking Class ในชุมชนบ้านใน อ.บ้านผือ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้ ลงมือทำ และสัมผัสวัตถุดิบธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง

3. ภาคกลาง – จังหวัดสมุทรสงคราม | Local Chef Secret

เส้นทาง: เรื่องเล่าความหวานผ่านรสมือพื้นบ้านอัมพวา

สายหวานต้องไม่พลาดทริปนี้! เริ่มต้นจากการเรียนรู้การทำน้ำตาลมะพร้าวแบบดั้งเดิมในวิสาหกิจชุมชนเพียรหยดตาล ซึ่งยังคงใช้ เตาตาลแบบโบราณ ให้กลิ่นและรสเฉพาะตัวของน้ำตาลออร์แกนิกแท้ ต่อด้วยกิจกรรม เวิร์กช็อปทำน้ำตาลมะพร้าว พร้อมปิดท้ายด้วยมื้อพิเศษที่ร้าน ข้าวใหม่ปลามัน ร้านอาหารพื้นถิ่นชื่อดังของอัมพวา ที่นำวัตถุดิบสดใหม่จากสวนมาปรุงอาหารอย่างใส่ใจ

4. ภาคใต้ – จังหวัดชุมพร | Stay & Dine

เส้นทาง: ช้าลงอย่างมีรสชาติ…ค้นพบสุขภาพดีในแบบชุมพร

พักกายพักใจในรีสอร์ตใจกลางสวนเมืองชุมพร กับกิจกรรม “Slow Food Cooking” ที่รีสอร์ต ชุมพรคาบานา เรียนรู้การปรุง “ซุปใบเหลียง” และเมนูอาหารทะเลสดจากประมงพื้นบ้านสามเสียม พร้อมเสิร์ฟอาหารตามฤดูกาลโดยใช้วัตถุดิบจากสวนและผักพื้นบ้านอินทรีย์ ปิดท้ายด้วยกาแฟโรบัสต้าอินทรีย์คั่วมือแบบดั้งเดิม ที่จะทำให้มื้อนี้ “กินดี อยู่ดี” อย่างแท้จริง พร้อมรับส่วนลดพิเศษค่าอาหารและที่พักจาก E-Coupon

5. ภาคตะวันออก – จังหวัดนครนายก | Gastronomy & Green Journey

เส้นทาง: เที่ยวครบ จบทั้งสายกิน สายกรีน และสายมู

เริ่มต้นด้วยการไหว้ขอพรเสริมสิริมงคลที่ วัดมณีวงศ์ วัดสายมูเตลูชื่อดังแห่งนครนายก จากนั้นเติมพลังด้วยอาหารจานปลาแม่น้ำรสจัดจ้านที่ร้าน ครัวปลาสี่แคว ก่อนเดินทางต่อไปยัง VIP Organic Farm เพื่อเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ผ่านเทคโนโลยี IOT พร้อมชิมเห็ดเป็นยาปลูกจากโรงเรือน และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกส่งตรงจากฟาร์มกลับบ้าน

พร้อมลุยเส้นทางแห่งรสชาติแล้วหรือยัง?

คลิกซื้อ E-Coupon ส่วนลด 50% ได้แล้ววันนี้ – 30 ก.ย. 68 !

LINE: https://lin.ee/GjQPB7o

Website: discoverthecityoftaste.com

รีบใช้ก่อนสิทธิ์เต็ม แล้วคุณจะรู้ว่า…

“ความอร่อยคือจุดหมายที่คุ้มค่าแก่การเดินทาง”

เปิดรายชื่อทั้ง 55 ร้าน ในเมืองน่าเที่ยว ภูมิภาค

ภาคกลาง:

1.แม่ลาปลาเผา จังหวัดสิงห์บุรี

2.เพลินพุง จังหวัดราชบุรี

3.บอกต่อ จังหวัดอ่างทอง

4.ครัวกาญ-บุรี สาขา 2 จังหวัดสุพรรณบุรี

5.ข้าวใหม่ปลามัน จังหวัดสมุทรสงคราม

6.กระเพรา & coffee จังหวัดลพบุรี

7.สำรับกับข้าว จังหวัดชัยนาท

ภาคตะวันออก:

1.ชมชล จังหวัดปราจีนบุรี

2.Burapha Eatery & Resort จังหวัดสระแก้ว

3.Khao Kwan Restaurant จังหวัดตราด

4.ฉุย จังหวัดจันทบุรี

5.ครัวปลาสี่แคว จังหวัดนครนายก

ภาคอีสาน:

1.ทองพูน จังหวัดยโสธร

2.ฮิมคอง คาเฟ่ & เรสเตอร์รอง จังหวัดร้อยเอ็ด

3.ครัวศรีพรรณ จังหวัดเลย

4.บ้านฟ้าโป่ง จังหวัดสกลนคร

5.สวรรค์บ้านนา จังหวัดหนองบัวลำภู

6.นัดพบริมโขง จังหวัดมุกดาหาร

7.ปูเป็น จังหวัดศรีสะเกษ

8.อารยฟาร์ม จังหวัดมหาสารคาม

9.โกนขแมร์ จังหวัดสุรินทร์

10.ครัวเสวย จังหวัดบึงกาฬ

11.เรือนริมน้ำ สาขา 2 จังหวัดนครพนม

12.ดอนละนาม จังหวัดชัยภูมิ

13.Amuse Cafe’ จังหวัดกาฬสินธุ์

14.มุมโอชา จังหวัดอำนาจเจริญ

15.ลาบซอดแจ้ง จังหวัดอุดรราชธานี

16.ชมจันทร์ เฮือฮักมูล จังหวัดอุบลราชธานี

17.บ้านชายน้ำ จังหวัดบุรีรัมย์

18.ครัวเอกปลาเผา จังหวัดหนองคาย

ภาคเหนือ:

1.แสงแก้ว จังหวัดเชียงราย

2.โฮมสเตย์บ้านต้นจั่น จังหวัดสุโขทัย

3.ร้านกู๊ดวิว น่าน จังหวัดน่าน

4.แสงจันทร์ จังหวัดพะเยา

5.สวนไซทอง จังหวัดแพร่

6.ครัวเนื้อหอม จังหวัดลำปาง

7.ครัววันดี จังหวัดลำพูน

8.แลบัว จังหวัดอุตรดิตถ์

9.บ้านถั่ว แม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน

10.ปลาตะเพียน จังหวัดกำแพงเพชร

11.บ้านอีสาน จังหวัดนครสวรรค์

12.ส้มตำปูเสื่อ ครัวบ้านไร่ จังหวัดพิษณุโลก

13.ศาลาโค้ก จังหวัดอุทัยธานี

14.สวนอาหารเพื่อนใหม่ จังหวัดพิจิตร

15.ครัวเกษตร จังหวัดเพชรบูรณ์

16.บ้านเคียงน้ำ จังหวัดตาก

ภาคใต้:

1.คุ้นลิ้น จังหวัดระนอง

2.ชุมพรคาบาน่า จังหวัดชุมพร

3.ริชชี่ จังหวัดตรัง

4.ครัวนายหนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช

5.Summer Thon จังหวัดนราธิวาส

6.ชุมชนท่องเที่ยวบาราโหม จังหวัดปัตตานี

7.บางชาม จังหวัดพัทลุง

8.ธาราซีฟู้ด จังหวัดยะลา

9.ครัวทางเลือก ปากบารา จังหวัดสตูล

Tuesday, June 17, 2025

บริดจสโตน จับมือ TOP SECRET THAILAND และ STREET DOC ปลุกความมันส์ เอาใจแฟนมอเตอร์สปอร์ต ในมหกรรมความเร็วสุดยิ่งใหญ่ของคนรักรถ “IMPACT Speed Fest 2025”


 บริดจสโตนในฐานะผู้สนับสนุนหลักของงานมหกรรมความเร็วสุดยิ่งใหญ่ของคนรักรถ “IMPACT Speed Fest 2025” ร่วมกับคุณเบียร์ ใบหยก ยูทูบเบอร์สายรถยนต์ตัวท็อปเจ้าของสำนักแต่งรถยนต์ TOP SECRET THAILAND และคุณโก้ STREET DOC อินฟลูเอนเซอร์สายรถยนต์ชื่อดัง ปลุกความมันส์ให้กับผู้ชื่นชอบความเร็วและแฟนมอเตอร์สปอร์ตตัวจริงสัมผัสความตื่นเต้นเร้าใจด้วยกิจกรรมสุดยิ่งใหญ่เอ็กซ์คลูซีฟภายในบูธบริดจสโตน ตั้งแต่วันที่ 13 – 15 มิถุนายน 2568 ณ ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี

โดยกิจกรรมไฮไลต์ที่สร้างสีสันและได้รับความสนใจอย่างล้นหลามคือการโชว์ขับรถซิ่งสุดเท่ที่ติดยาง BRIDGESTONE POTENZA อย่างรถ TOP SECRET THAILAND นำโดยคุณเบียร์ ใบหยก มาพร้อมแกงค์ร่างทองรวม 5 คัน รวมถึงการจัดแสดงโชว์รถซิ่งตัวท็อปหาชมยากรุ่นอื่นๆ ได้แก่ รถยนต์ Mitsubishi Evolution 5 คู่ใจของคุณโก้ STREET DOC รถยนต์ Nissan Skyline BNR34 จากคุณเปิ้ล Nagaoka และรถยนต์ Mitsubishi Evolution 8 MR ตำนานรถทดสอบยางรถยนต์ BRIDGESTONE POTENZA รุ่นดังหลากหลายรุ่น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพบปะแฟนคลับของคุณเบียร์ ใบหยก และคุณโก้ STREET DOC พร้อมการจำหน่ายเสื้อยืดจาก TOP SECRET X BRIDGESTONE และ STREET DOC X BRIDGESTONE ที่มีเฉพาะงานนี้เท่านั้นและยังจำหน่ายหมดภายในงาน จัดเต็มด้วยกิจกรรมร่วมสนุกลุ้นรับของรางวัลมากมายรวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท โดยตลอด 3 วันที่ผ่านมามีผู้เข้าร่วมงาน IMPACT Speed Fest 2025 ทั้งสิ้นมากกว่า 10,000 คน และมาร่วมบูธบริดจสโตนทั้งสิ้นมากกว่า 1,000 คน


สำหรับงาน IMPACT Speed Fest 2025 เป็นการจัดมหกรรมสำหรับคนรักรถยนต์และรถจักรยานยนต์สุดยิ่งใหญ่เชื่อมโยงคอมมิวนิตี้คนรักรถเข้าด้วยกัน และสร้าง Destination of Car Culture ของประเทศไทย ที่ชัดเจนผ่านการจัดงานบนพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร ณ ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี การได้เป็นผู้สนับสนุนหลักของการจัดงานในครั้งนี้ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำด้านมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก และผู้นำด้านนวัตกรรมยางสมรรถนะสูงระดับพรีเมียมของบริดจสโตน

บรรยากาศภายในงานเต็มไปความสนุกสนานและความมันส์ผ่านกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตที่บริดจสโตนตั้งใจมอบให้กับผู้ชื่นชอบความเร็วและแฟนมอเตอร์สปอร์ต และอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทุกคนรอคอยคือกิจกรรมร่วมสนุกลุ้นรับของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท ซึ่งของรางวัลใหญ่คือยางรถยนต์ BRIDGESTONE POTENZA Adrenalin RE004 จำนวน 1 รางวัล 4 เส้น มูลค่ารวม 40,000 บาท นอกจากนี้ยังมีส่วนลดยางรถยนต์บริดจสโตนมูลค่า 10,000 บาท จำนวน 3 รางวัล พร้อมของรางวัลและของที่ระลึกสุดลิมิเต็ดอีกมากมาย


“บริดจสโตนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมงาน IMPACT Speed Fest 2025 ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก ในโอกาสนี้เรายังได้ร่วมมือกับพันธมิตรที่มีชื่อเสียงในแวดวงรถยนต์ของประเทศ ได้แก่ คุณเบียร์ ใบหยก คุณโก้ STREET DOC และผู้จัดงานทุกท่าน รวมถึงได้เชิญลูกค้าผู้ใช้ยาง BRIDGESTONE POTENZA มาร่วมสัมผัสประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตในงานนี้อีกด้วย และนอกจากนี้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบยาง BRIDGESTONE POTENZA ยังสามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมดีๆ ได้ทาง Facebook Group: POTENZA CLUB บริดจสโตนมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการมีส่วนร่วมในครั้งนี้จะสร้างความประทับใจให้ผู้ชื่นชอบความเร็วและส่งเสริมวัฒนธรรมมอเตอร์สปอร์ตให้เกิดขึ้นในไทยอย่างต่อเนื่อง ” คุณอะกิฮิโตะ อิชิอิ กรรมการผู้จัดการบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

เกี่ยวกับบริดจสโตน ประเทศไทย:

บริดจสโตน ผู้นำระดับโลกด้านยางรถยนต์และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับยาง พร้อมนำเสนอโซลูชั่นด้านการเดินทางที่ปลอดภัยและยั่งยืน และสำหรับประเทศไทย บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด คือหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการนำเข้า จัดจำหน่าย และทำการตลาดยางรถยนต์ภายใต้แบรนด์บริดจสโตน, ไฟร์สโตน และเดย์ตันแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย บริดจสโตนเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ตัวแทนจำหน่าย และพันธมิตรทางธุรกิจ เรานำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์พรีเมียมที่หลากหลายและโซลูชั่นขั้นสูงซึ่งพัฒนาจากนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาการเดินทางการใช้ชีวิต, การทำงาน และการพักผ่อนของผู้คนทั่วโลก

BRIDGESTONE Joins Hands with TOP SECRET THAILAND and STREET DOC, Igniting the Thrill to Motorsport Fans at “IMPACT Speed Fest 2025”


BRIDGESTONE as the official sponsor of  “IMPACT Speed Fest 2025” joined hands with Beer Baiyoke, a top automotive YouTuber and owner of the iconic TOP SECRET THAILAND car tuning shop, along with Ko STREET DOC, a well-known automotive influencer to ignite the thrill for speed enthusiasts and motorsport fans with exclusive activities at BRIDGESTONE booth from June 13, 2025, to June 15, 2025, at IMPACT Lakeside, Muang Thong Thani.

The event featured a highlight that drew overwhelming attention – a spectacular show of sports cars equipped with BRIDGESTONE POTENZA tires, led by Beer Baiyoke and his signature gold-body gang of five vehicles from TOP SECRET THAILAND. The event also showcased other rare and iconic sports cars, including Ko STREET DOC’s beloved Mitsubishi Evolution 5, the Nissan Skyline BNR34 from Ple Nagaoka, and the legendary Mitsubishi Evolution 8 MR- a former test car for top of multiple BRIDGESTONE POTENZA tire models. Additionally, the highlights included exclusive fan meet-and-greet sessions with Beer Baiyoke and Ko STREET DOC, along with limited-edition T-shirt sales from TOP SECRET X BRIDGESTONE and STREET DOC X BRIDGESTONE, available only at this event – and completely sold. The event featured interactive activities with exciting prizes worth over 100,000 THB. Over the past three days, more than 10,000 visitors attended the IMPACT Speed Fest 2025, with more than 1,000 people visiting the BRIDGESTONE booth.


IMPACT Speed Fest 2025 is the biggest-scale event for car and motorcycle enthusiasts,bringing together the automotive community from across the country. The event aims to establish Thailand as a Destination of Car Culture, with activities spanning over 100,000 square meters at IMPACT Lakeside, Muang Thong Thani. Being the official sponsor of this event reinforces BRIDGESTONE as the company’s global leadership in motorsport and high-performance tire innovation.

The ambience at the event was filled with excitement through motorsport activities specially curated by BRIDGESTONE for speed enthusiasts and motorsport fans. Another highlight was

The lucky draw with total prizes worth over 100,000 baht. The grand prize was a set of four BRIDGESTONE POTENZA Adrenalin RE004 tires worth 40,000 baht. In addition, there were discount on BRIDGESTONE tires worth 10,000 baht total of 3 prizes, along with a wide range of exclusive prizes and souvenirs.



Mr. Akihito Ishii, Managing Director of Bridgestone Sales (Thailand) Co., Ltd., said “We are delighted to be here as an official sponsor of IMPACT Speed Fest 2025. On this occasion, we have also partnered with renowned Thailand’s automotive KOLs, including Beer Baiyoke and Ko STREET DOC, as well as the event organizers. In addition, we invited BRIDGESTONE POTENZA users to join us in experiencing the thrill of motorsport at this event. In addition, BRIDGESTONE POTENZA enthusiasts can stay updated on news and exciting activities through the Facebook Group: POTENZA CLUB. We sincerely hope that our participation will leave a lasting impression on speed enthusiasts and continue to promote motorsport culture in Thailand.

About Bridgestone in Thailand:   

Bridgestone is a global leader in tires and rubber building on its expertise to provide solutions for safe and sustainable mobility. In Thailand, Thai Bridgestone Co., Ltd. (TBSC) is a leading manufacturer in the Thai automotive industry, while Bridgestone Sales (Thailand) Co., Ltd. (BSTL) is the exclusive importer & distributor, and supervises the marketing strategy for Bridgestone, Firestone and Dayton branded tires in Thailand. Bridgestone is a brand trusted by its customers, dealers and business partners. Bridgestone offers a diverse product portfolio of premium tires and advanced solutions backed by innovative technologies, improving the way people around the world move, live, work and play.       

Monday, June 16, 2025

ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ เดินหน้าโชว์นวัตกรรมพลังงานยั่งยืนที่งาน ASEW 2025


บริษัท ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมโชว์นวัตกรรมด้านพลังงานที่ยั่งยืนในงาน ASIA Sustainable Energy Week 2025 (ASEW)งานนิทรรศการเทคโนโลยีพลังงานชั้นนำของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 2-4 กรกฎาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) โดยธีมงานปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Empowering Digital Transformation in Sustainable Energy Towards Net Zero โดยมีเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงานสะอาดของภูมิภาคเอเชีย และขับเคลื่อนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในงานจัดแสดงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้านพลังงานหมุนเวียน การจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเทคโนโลยีของระบบกักเก็บพลังงาน

สำหรับปีนี้บริษัท ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้สนับสนุนและเข้าร่วมการจัดงานในระดับ ELITE สปอนเซอร์ ภายใต้แนวคิดและการดำเนินงาน True One HITACHI with Digital at its core พร้อมเตรียมการออกบูธเพื่อนำเสนอนวัตกรรมด้านพลังงานที่ผสมผสานระหว่างผลิตภัณฑ์และบริการอันจะส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

มาร่วมสัมผัสประสบการณ์จริงกับนวัตกรรมด้านพลังงานที่ยั่งยืนของทางบริษัทได้ที่งาน ASIA Sustainable Energy Week 2025 (ASEW) บูธ L7 ฮอลล์ 2 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ระหว่างวันที่ 2-4 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 – 18.00 น.

Wednesday, June 11, 2025

เมืองฮิราโดะในจังหวัดนางาซากิได้รับการรับรองให้เป็น "Albergo Diffuso Town" แห่งแรกของโลก ด้วยการพัฒนาทั้งเมืองให้เป็นเหมือนโรงแรมเดียวกัน มีที่พัก ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกกระจายอยู่ทั่วเมือง

 สำนักประชาสัมพันธ์เมืองฮิราโดะ Albergo Diffuso Town

เมืองฮิราโดะ ในจังหวัดนางาซากิ คือเทศบาลเมืองแห่งแรกของโลกที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการให้เป็น "Albergo Diffuso Town" (ADT) โดยทั้งเมืองเปรียบเสมือนโรงแรมเดียวกัน ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ที่พัก ร้านอาหาร และอีกมากมายกระจายอยู่ทั่วทั้งเมือง

โลโก้และภาพเมือง: https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M108712/202506029850/_prw_PI12fl_Q71zg63v.png

พิธีรับรอง: https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M108712/202506029850/_prw_PI13fl_4a81a5P2.png

Albergo Diffuso:
คำนี้มาจากการผสมคำภาษาอิตาลีสองคำ ได้แก่ "albergo" (ที่พัก) และ "diffuso" (กระจาย) จึงมีความหมายว่า "ที่พักประเภทกระจายตัว" ทั้งนี้ โรงแรมโดยทั่วไปนั้นรวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไว้ในอาคารเดียว แต่ Albergo Diffuso มีแผนกต้อนรับ ที่พัก ร้านอาหาร ห้องอาบน้ำ สถานที่ผ่อนคลาย และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ กระจายอยู่ทั่วทั้งเมือง ภายใต้แนวคิด "ทั่วทั้งเมืองคือโรงแรมเดียวกัน" ผู้เข้าพักจึงได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ด้วยการเดินไปทั่วเมืองเพื่อใช้บริการต่าง ๆ ทั้งยังได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับชาวเมือง และสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างแท้จริง

ความพยายามของเมืองฮิราโดะ: https://kyodonewsprwire.jp/attach/202506029850-O1-0SxO5E2R.pdf

นัยสำคัญของการรับรองและแนวโน้มในอนาคต
การรับรองครั้งนี้ส่งผลให้เมืองฮิราโดะกลายเป็นเทศบาลเมืองแห่งแรกของโลกที่ได้รับการรับรองในฐานะ "Albergo Diffuso Town" โดยเมืองฮิราโดะเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีต เนื่องจากเป็นเมืองท่าค้าขายระหว่างประเทศ อีกทั้งยังมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ โดยวัฒนธรรมญี่ปุ่นและวัฒนธรรมต่างประเทศได้หลอมรวมกันอย่างกลมกลืน เมืองนี้เต็มไปด้วยแหล่งมรดกทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ เช่น ปราสาทฮิราโดะ ซึ่งเปิดให้เข้าพักในปราสาท หรือ "Castle Stay" เป็นที่แรกในญี่ปุ่นเมื่อเดือนเมษายน 2564 นอกจากนั้นยังมี Hirado Dutch Trading Post ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าของบริษัทดัตช์อีสต์อินเดีย (Dutch East India Company)

เมืองฮิราโดะจะเดินหน้าส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยการสนับสนุนการแลกเปลี่ยนระหว่างชาวเมืองกับนักท่องเที่ยว พร้อมกับพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับความท้าทายในท้องถิ่น เช่น การแก้ไขปัญหาบ้านว่าง และการสร้างงานในชุมชน

สิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง:
- "The Terrace" ซึ่งรีโนเวตมาจากโกดังข้าวอายุ 200 ปี ประกอบด้วยแผนกต้อนรับ ห้องพัก คาเฟ่ และร้านขายของที่ระลึก

ภายนอกและภายใน "The Terrace": https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M108712/202506029850/_prw_PI14fl_EX69nWLj.png

- ร้านอาหาร: "Chobotei Toranotsuki" รีโนเวตมาจากอาคารไม้เก่าภายในพื้นที่ซึ่งเป็นที่พำนักของมัตสึระ ศักดินาเจ้าเมืองฮิราโดะในอดีต นอกจากนั้นยังมีร้าน "Onchan" และ "Isokatsu"

- ที่พัก:
"Sumiya Heritage Hotel" (รีโนเวตมาจากอาคารสำนักงานของนายหน้าขนส่งทางน้ำในช่วงปลายยุคเมจิ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของชาติ)
"Jinbei Residence" (รีโนเวตมาจากที่พำนักของซามูไรชั้นสูงแห่งแคว้นศักดินาฮิราโดะในอดีต)

เพื่อเฉลิมฉลองให้กับเมืองฮิราโดะในฐานะเทศบาลเมืองแห่งแรกของโลกที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการให้เป็น "Albergo Diffuso Town" ทาง "The Terrace" ขอนำเสนอโปรโมชันพิเศษ มอบส่วนลดค่าที่พัก 50% จนถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้

- แคมเปญ: แคมเปญค่าที่พัก ฉลองการรับรองเมือง Albergo Diffuso Town
- ระยะเวลา: ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน ไปจนถึงวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568
- รายละเอียดแคมเปญ: ผู้ที่ทำการจองที่พักภายในเดือนมิถุนายน 2568 จะได้รับส่วนลดค่าที่พัก 50% สำหรับการเข้าพักจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2568 (ยกเว้นบางช่วงเวลา)
- เว็บไซต์จองที่พัก: https://thteteracce.booking.chillnn.com/

QR code: https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M108712/202506029850/_prw_PI1fl_u52VTdgb.png

- ที่พักที่เข้าร่วมแคมเปญ: "The Terrace Umi" และ "The Terrace Yama" ภายใน "The Terrace"
- ตัวอย่างประเภทที่พัก: ที่พักแบบ Maisonette พื้นที่ใช้สอยรวม 75 ตารางเมตร พักได้สูงสุด 4 คน
- ค่าที่พักตามปกติ: 46,540-83,280 เยนต่อคืน สำหรับผู้เข้าพัก 2 คน (ไม่รวมอาหาร)
- ตัวอย่างประเภทห้องพัก: ห้องนอนขนาด 46 ตารางเมตร พร้อมเตียงเดี่ยว 4 เตียง และห้องสุขา รวมถึงห้องนั่งเล่นขนาด 28 ตารางเมตร พร้อมอ่างล้างหน้า ห้องอาบน้ำ และห้องสุขา
- ตัวอย่างสิ่งอำนวยความสะดวก: Wi-Fi ฟรี กาต้มน้ำไฟฟ้า แอลซีดีทีวี (ในห้องนั่งเล่น) ตู้เย็น ลำโพงบลูทูธ รองเท้าใส่ในห้อง

ภาพทั้งหมด: https://kyodonewsprwire.jp/release/202506029850?p=images

ที่มา: สำนักประชาสัมพันธ์เมืองฮิราโดะ Albergo Diffuso Town

Hirado in Nagasaki Pref. Certified as World's First Albergo Diffuso Town, Developing Whole Town as One Hotel by Spreading Accommodation, Dining, Other Functions across City

 Hirado Albergo Diffuso Town PR Office

Hirado City in Nagasaki Prefecture has obtained the official certification as "Albergo Diffuso Town" (ADT) for the first time in the world as a local municipality. With the whole town being regarded as one hotel, such functions as lodgings, restaurants, etc. are dispersed across the city.

Logo and town image: https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M108712/202506029850/_prw_PI12fl_Q71zg63v.png

Ceremony: https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M108712/202506029850/_prw_PI13fl_4a81a5P2.png

Albergo Diffuso:
A term created by combining Italian words "albergo (accommodations)" and "diffuso (dispersed)," meaning a "scattered type lodging." While an ordinary hotel houses all functions within its building, albergo diffuso has a general reception, accommodation, dining, bathing, relaxation and other functions spread across the town under the concept of "the whole town as one hotel." Guests can enjoy a deeper tourism experience by walking through the town to access these services, interact with local residents and encounter the local culture.

Efforts by Hirado City: https://kyodonewsprwire.jp/attach/202506029850-O1-0SxO5E2R.pdf

Significance and future prospect of certification
With the certification, Hirado City became the world's first ADT-certified municipality. Hirado, traditionally prospering as an international trade port, is a town with a unique history and culture where Japanese and foreign cultures blend together. The city has abundant historical resources, including Hirado Castle, which launched Japan's first "Castle Stay" in April 2021, and Hirado Dutch Trading Post, which used to be the trading base of the Dutch East India Company.

Hirado City will continue promoting sustainable tourism development by facilitating exchanges between locals and tourists while striving to resolve local challenges such as dealing with vacant houses and creating jobs.

Related facilities
- General Reception, Guest Rooms, Cafe and Souvenir Shop: "the Terrace," renovated 200-year-old rice storehouse

Exterior and interior of "the Terrace": https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M108712/202506029850/_prw_PI14fl_EX69nWLj.png

- Restaurants: "Chobotei Toranotsuki," renovated wooden building within the premises of the Matsura feudal lord of Hirado City, "Onchan," and "Isokatsu"

- Lodgings:
"Sumiya Heritage Hotel" (renovated facility of a late Meiji era waterborne transport broker -- the nation's registered tangible cultural property)
"Jinbei Residence" (renovated facility on the former residential grounds of a high-ranking samurai of the Hirado feudal domain)

To celebrate Hirado's official certification as the world's first local municipality to be recognized as an "Albergo Diffuso Town," "the Terrace" will offer a 50-percent discount on accommodation fees by June 30 as a promotion.

- Campaign: Lodging Campaign for Commemoration of Albergo Diffuso Town Certification
- Period: From June 1 (Sunday) to June 30 (Monday), 2025
- Campaign details: Those who make reservations in June 2025 are eligible for a 50-percent discount on accommodation fees until December 20, 2025 (excluding select periods)
- Booking site: https://thteteracce.booking.chillnn.com/

QR code: https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M108712/202506029850/_prw_PI1fl_u52VTdgb.png

- Campaign facilities: "the Terrace Umi" and "the Terrace Yama" within "the Terrace"
- Lodging type example: Maisonette with floor space of 75 square meters accommodating up to 4 people
- Regular accommodation fee: JPY46,540 - JPY83,280 per night for 2 people excluding meals
- Room type example: 46-square-meter bedroom with four single beds and restroom, and 28-square-meter living room with washroom, bathroom and restroom
- Amenity example: Free Wi-Fi, electric kettle, LCD TV (in living room), refrigerator, Bluetooth speaker, slippers

All images: https://kyodonewsprwire.jp/release/202506029850?p=images

Source: Hirado Albergo Diffuso Town PR Office

Tuesday, June 10, 2025

นักศึกษาไทยพร้อมลุยเวทีนานาชาติรอบชิง L’ORÉAL BRANDSTORM 2025 ประชันไอเดียโจทย์ธุรกิจ ปฏิวัติวงการความงามสำหรับสุภาพบุรุษ


การแข่งขันนวัตกรรมธุรกิจโดยลอรีอัล กรุ๊ป จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 33 
พร้อมการสนับสนุนจากแผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคและ Adobe

ประกาศรายชื่อนักศึกษาผู้ชนะการแข่งขันประชันไอเดียนวัตกรรมธุรกิจ “ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม 2025” ระดับประเทศ ในหัวข้อ ‘MEN. BEAUTY & CARE. GAME ON!’ เพื่อสำรวจโอกาสและความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในกลุ่มผู้บริโภคชายรุ่นใหม่ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ความงามและแนวทางการทำการตลาดรูปแบบใหม่โดยใช้พลังสร้างสรรค์และนวัตกรรม ไปจนถึงเทคนิคในรูปแบบของเกม (Gamification) ในการขับเคลื่อน

“แบรนด์สตอร์มคือจุดเริ่มต้นเส้นทางอาชีพของเพื่อนพนักงานของเราหลายพันคนทั่วโลก ซึ่งตอกย้ำความสำเร็จของโครงการนี้ในการบ่มเพาะบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ” อเล็กซิส เพราคิส-วาลัท (Alexis Perakis-Valat) ประธานกลุ่มแผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคและประธานคณะกรรมการตัดสินการแข่งขันแบรนด์สตอร์ม 2025 กล่าว “โจทย์การแข่งขันในปีนี้เป็นหัวข้อที่ใหญ่และท้าทายกว่าที่ผ่านมา เพราะความงามและการดูแลตนเองของผู้ชายเปิดโอกาสให้ทุกๆ คนได้ปลดปล่อยพลังของเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือต่างๆ นอกเหนือจากที่กล่าวมานั้นอย่างเต็มที่ ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เป็นคณะกรรมการตัดสิน และพบกับผู้แข่งขันรอบสุดท้ายที่กรุงปารีสเร็วๆ นี้”






การแข่งขันลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม ประเทศไทยรอบสุดท้าย จัดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2025 โดยคณะกรรมการตัดสิน ซึ่งประกอบไปด้วยคุณแพทริค จีโร กรรมการผู้จัดการ ลอรีอัล ประเทศไทย, คุณเจนิส ฮู ผู้จัดการทั่วไป แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค, คุณออน เซย์ดี้ ผู้จัดการทั่วไป แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ, คุณเดเมียน วูด ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน และกรรมการรับเชิญ คุณยูเคอ ฮู ผู้จัดการทั่วไป แผนก Global Business Solutions จากติ๊กต๊อก (TikTok) ได้พิจารณาการนำเสนอผลงานนวัตกรรมธุรกิจโดยทีมที่เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 6 ทีม และคัดเลือก น.ส. ณฐนภัส หนูนคง, น.ส. ชนณิชา เอกพงศ์พิสิฐ และน.ส. ธนัชชา อินทสร้อย จากทีม “Emily in L’Oréal” เป็นผู้ชนะเลิศการแข่งขันลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม ประเทศไทยรอบสุดท้าย และเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศระดับนานาชาติ ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงงานจัดแสดงนวัตกรรมเทคโนโลยีระดับโลก “วีว่า เทคโนโลยี” (Viva Technology) ประจำปี 2025 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 12-13 มิถุนายน 2025 ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับนานาชาตินี้ จะมีทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 43 ทีมจากทั่วโลก โดยผู้ชนะจะมีโอกาสได้ทำโครงการนำร่องระยะเวลา 3 เดือนกับลอรีอัล กรุ๊ป

ที่ลอรีอัล กรุ๊ป คนรุ่นใหม่คือศูนย์กลางระบบนิเวศในการดำเนินธุรกิจ และเราตระหนักดีว่าพวกเขาคือพลังสำคัญในการขับเคลื่อนทั้งการเติบโตธุรกิจและพันธกิจด้านความยั่งยืนของเรา” คุณแพทริค จีโร กรรมการผู้จัดการลอรีอัล ประเทศไทยกล่าวลอรีอัลจึงมุ่งมั่นสร้างโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงศักยภาพของพวกเขา ผ่านโครงการฝึกงาน, โครงการ Management Trainee และการแข่งขันนวัตกรรมไอเดียธุรกิจอย่างโครงการแบรนด์สตอร์มนี้ คุณแพทริค จีโร กรรมการผู้จัดการ ลอรีอัล ประเทศไทย กล่าว นอกจากจะเป็นการสร้างโอกาสและเวทีให้กับคนรุ่นใหม่แล้ว โครงการแบรนด์สตอร์มยังเปิดโอกาสให้เราทุกคนที่ลอรีอัล ได้สัมผัสกับไอเดียที่สดใหม่ และแผนธุรกิจที่เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้กับพวกเราด้วยเช่นกัน

คุณธนัชชา อินทสร้อย จากมหาวัทยาลัยธรรมศาสตร์, คุณกัณฐนภัส หนูนคง และคุณชนณิชา เอกพงศ์พิสิฐ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ผู้ชนะการแข่งขันประชันไอเดียนวัตกรรมธุรกิจ “ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม ประเทศไทย 2025” กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ว่า “เราค่อนข้างแปลกใจที่ชนะการแข่งขันได้ เพราะในตอนแรก เราเข้าร่วมการแข่งขันเพียงเพราะอยากได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ และสนุกกับการได้ลองทำเคส เราขอขอบคุณลอรีอัล ประเทศไทย และเมนเทอร์รวมถึงทุกๆ คนที่คอยให้คำปรึกษาและขัดเกลาโปรเจกต์ของเราให้ดียิ่งขึ้น เราจะพยายามนำทุกข้อชี้แนะไปพัฒนาโปรเจ็กต์นี้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของการตลาดและความเป็นไปได้ในการพัฒนาต่อยอด เพื่อให้เป็นผลงานที่ดีที่สุดในเวทีนานาชาติ”




ข้อมูลโครงการแบรนด์สตอร์มของ ลอรีอัล กรุ๊ป

  • เปิดตัวครั้งแรกที่ปี 1992
  • มีเยาวชนจากนานับประเทศเข้าร่วมโครงการกว่า 800,000 ตั้งแต่เปิดตัว
  • ในปี 2025 มีผู้ลงทะเบียนเพื่อสมัครเข้าแข่งขัน180,000 คน จาก 64 ประเทศ
  • ได้รับการบรรจุเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการศึกษาในมหาวิทยาลัยและโรงเรียนธุรกิจใน 154 ประเทศทั่วโลก
  • นักศึกษาจากประเทศไทยชนะรางวัลอันดับ 1 ในปี 2560

เกี่ยวกับลอรีอัล กรุ๊ป 

ลอรีอัล กรุ๊ป ในฐานะองค์กรด้านความงามชั้นนำของโลก ทุ่มเทในธุรกิจความงามมายาวนานกว่า 110 ปี เพื่อตอบสนองต่อความปรารถนาด้านความงามของผู้คนทั่วโลก ภายใต้เป้าหมายในการสร้างสรรค์ความงามที่ขับเคลื่อนโลกใบนี้ ลอรีอัลกำหนดทิศทางและมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้านความงามที่ครอบคลุม มีจริยธรรม สร้างความยั่งยืนให้กับสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมีพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์อันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งประกอบด้วย 36 แบรนด์ชั้นนำระดับโลก และพันธสัญญาเพื่อความยั่งยืนอย่าง L’Oréal for the Future ลอรีอัลมุ่งมั่นมอบสิ่งที่ดีที่สุดด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย เต็มเปี่ยมไปด้วยความจริงใจ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมความงามอันเป็นเอกลักษณ์ให้กับผู้คน

ลอรีอัล กรุ๊ป มียอดขายผลิตภัณฑ์ 3.826 หมื่นล้านยูโรในปี 2565 มีผลิตภัณฑ์จัดจำหน่ายผ่านทุกช่องทาง ครอบคลุมถึงอีคอมเมิร์ซ ตลาดทั่วไป ห้างสรรพสินค้า เภสัชกรรมและร้านขายยา ซาลอน ร้านค้าปลีก ร้านค้าในสนามบิน และร้านค้าแบบบูติกของแบรนด์ และมีพนักงาน 85,400 คนทั่วโลก ลอรีอัลยึดมั่นในกลยุทธ์ที่สำคัญขององค์กรในการค้นคว้าวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องโดยมีศูนย์วิจัยและพัฒนากว่า 20 แห่งใน 11 ประเทศทั่วโลก พร้อมด้วยทีมงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมมากกว่า 4,000 คน และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีกว่า 5,500 คน คิดค้นและพัฒนาความงามแห่งอนาคต เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำนำด้าน Beauty Tech ต่อไป

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.loreal.com/en/mediaroom    

เกี่ยวกับลอรีอัล ประเทศไทย 

ลอรีอัล ประเทศไทย เป็นสาขาของบริษัทผู้นำความงามของโลก นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์ระดับสากล ใน 4 แผนกผลิตภัณฑ์ 

  • แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค: ลอรีอัล ปารีส, การ์นิเย่ เมย์เบลลีน นิวยอร์ก และ 3CE
  • แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง: ลังโคม, จิออร์จิโอ อาร์มานี, คีลส์, ชู อูเอมูระ, อีฟส์ แซ็งต์ โลร็องต์ โบเต้, เอสอป และ เฮเลนา รูบินสไตน์ 
  • แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ: ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล และเคเรสตาส
  • แผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง: ลา โรช-โพเซย์, วิชี่ และเซราวี

ข้อมูลเพิ่มเติมwww.lorealthailand.com และ www.facebook.com/lorealthailand 

Monday, June 9, 2025

Meishan Emerges as a New Hub for the Satellite Industry: Global Experts Gather at the 3rd Meishan Satellite Application Industry Development Conference





On June 9, the 3 rd Meishan Satellite Application Industry Development Conference officially opened in Meishan City, Sichuan Province, China. Experts in remote sensing technology, aerospace, and related fields, along with representatives from international cooperation organizations, gathered in Meishan for an in-depth discussion on technological innovation, coordinated industrial chain development, and international cooperation models in the satellite industry, contributing insights and suggestions to help advance Meishan's satellite sector to a higher level.

The conference was sponsored by the China Association of Remote Sensing Application and the People's Government of Meishan City, organized by the Meishan Management Committee of Sichuan Tianfu New Area, and co-organized by Meishan Tianfu New Area Xingchan Investment Group Co., Ltd.

At the opening ceremony, the China Association of Remote Sensing Application released the 2025 Blue Book on the Development of China's Remote Sensing Application Sector. Keynote speeches were delivered by Li Deren, photogrammetry and remote sensing scientist and professor at Wuhan University; Zhu Ninghua, microwave photonics expert and director of the Institute of Intelligent Photonics at Nankai University; and Xu Ying, Beidou navigation system scientist and researcher at the Aerospace Information Research Institute of the Chinese Academy of Sciences.

Huantian Wisdom Technology Co., Ltd., the leading enterprise in Meishan's satellite industry, unveiled its platform "StarView Horizon", which integrates over 40 core spatiotemporal algorithms at the opening ceremony. It also signed cooperation agreements with Kazakhstan Temir Zholy, Kazakhstan Kazaerospace, and Malaysian Karuna Group for promoting satellite application projects.

In the past three decades, China's space industry has rapidly advanced. As a result, numerous cities known for their related industries have popped up across the country. In the realm of satellite technology, regions beyond traditional strongholds like Beijing, Shanghai, and Xi'an are now making significant strides in this sector, cities such as Meishan have emerged as new hubs for the satellite industry.

In recent years, Meishan City has seized the opportunity of commercial aerospace development, taking the lead in laying out the satellite application industry in Sichuan Province, and promoting the application of satellite remote sensing data in high-standard farmland, disaster prevention and reduction, resource survey, environmental protection, smart cities, and other fields. At present, Meishan has become the city with the largest number of commercial remote sensing satellites in Southwest China, ranking fourth in the country overall.

Meishan unveiled its satellite industry development plan (2024-2030) last year, outlining a strategic roadmap to build a globally competitive satellite industry cluster by 2030, targeting an industrial scale exceeding 10 billion yuan (about 1.39 billion U.S. dollars).

To achieve this ambitious goal, Meishan is actively advancing the development of key industrial projects. On December 30, 2024, the Western China Satellite Industrial Park, located in Meishan Tianfu New Area, officially began full operations. During this conference, nine new enterprises signed agreements to join the park, and one new science and technology innovation platform was introduced. To date, the park has attracted a total of 26 satellite-related enterprises and five scientific research platforms. By 2028, the scale of Meishan's satellite industry is expected to exceed 5 billion yuan.

On the other side, the Huantian Cloud Smart Computing Center -- the largest data center dedicated to the commercial satellite sector in Southwest China -- is about to be put into operation. It aims to address three major bottlenecks hindering the development of the sector: insufficient computing power, limited storage capacity, and low application efficiency.

"It is expected to complete the last piece of Meishan's aerospace industry layout, making the city one of the few places in China with comprehensive capabilities in satellite research and development, monitoring and control, application, and data transmission," Yang Zhenyu, deputy general manager of the Huantian Wisdom Technology Co., Ltd., owner of the new infrastructure, said.

Source: The Meishan Management Committee of Sichuan Tianfu New Area