HeiQ ผู้นำนวัตกรรมสิ่งทอและวัสดุระดับโลก ประกาศเปิดตัว HeiQ MetalliQ หน้ากากอนามัยสุดไฮเทคดีไซน์ล้ำสมัยที่ฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่ได้รับการทดสอบแล้วได้สูงสุดถึง 100% เต็ม
HeiQ MetalliQ ไม่ได้มีเพียงแค่สีสันเมทัลลิกเท่านั้น แต่ดีไซน์ของหน้ากากอนามัยสุดล้ำนี้ถูกเคลือบผิวด้วยทองแดงบริสุทธิ์ที่มีความบางพิเศษ จากเทคโนโลยีไฮเทคที่มีชื่อว่า HeiQ MetalliX ซึ่งเปลี่ยนทองแดงให้กลายเป็นไอระเหยขนาดจิ๋ว ส่งผลให้อณูทองแดงเข้าเคลือบใยผ้าอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ HeiQ MetalliX เป็นเทคโนโลยีที่อยู่ในระหว่างการรอจดสิทธิบัตรซึ่งพัฒนาโดยพาร์ทเนอร์ด้านนวัตกรรมของ HeiQ อย่าง Xefco บริษัทเทคโนโลยีวัสดุสัญชาติออสเตรเลีย โดยผลการศึกษาซึ่งจัดทำโดยสถาบัน Peter Doherty Institute for Infection and Immunity ในเมลเบิร์น ออสเตรเลีย (Doherty Institute) ระบุว่า เนื้อผ้าที่เคลือบด้วยเทคโนโลยี HeiQ MetalliX สามารถยับยั้งเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ที่ก่อโรคโควิด-19 ได้ในเวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น
การทดสอบประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัยได้จำลองสถานการณ์จริง เพื่อดูปฏิกิริยาของละอองของเหลวที่ปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้า เช่น หน้ากากอนามัย โดยตัวอย่างแต่ละชิ้นถูกนำไปสัมผัสกับเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ปริมาณสูงที่เวลา 5 นาที, 15 นาที และ 30 นาทีตามลำดับในอุณหภูมิห้อง ก่อนที่จะนำตัวอย่างดังกล่าวไปตรวจหาปริมาณเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ที่ยังคงเหลืออยู่ โดยตัวอย่างผ้าที่เคลือบด้วย HeiQ MetalliX มีจำนวนเชื้อไวรัสลดลงถึง 97.79% ใน 5 นาที และลดลง 99.95% ใน 15 นาที และลดลงถึง 99.99% ใน 30 นาที ในสภาวะที่มีการควบคุมเชื้อ
"ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราเดินหน้าปฏิบัติงานที่สำคัญ เพื่อลดผลกระทบของโคโรนาไวรัสให้ได้มากที่สุด" ดร. จูลี แมคอูลีย์ เจ้าหน้าที่วิจัยอาวุโสแห่ง Doherty Institute กล่าว "การทดสอบประสิทธิภาพของพื้นผิวผ้าที่แตกต่างกันเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ถือเป็นหนทางหนึ่งที่การวิจัยของเราจะสามารถมอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19"
ทองแดงเป็นแร่ธาตุตามธรรมชาติที่พบได้ในชั้นเปลือกโลก ดิน มหาสมุทร ทะเลสาบ และแม่น้ำ อีกทั้งยังเป็นแร่ธาตุที่สามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติในร่างกายของมนุษย์ พืช และสัตว์ โดยมนุษย์รู้จักคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราของทองแดงมานานหลายศตวรรษ อีกทั้งยังได้มีการพิสูจน์ประสิทธิภาพผ่านการทดลองในห้องปฏิบัติการ ทั้งนี้ วัสดุที่เคลือบผิวด้วย HeiQ MetalliX จะปล่อยประจุทองแดงที่ช่วยยับยั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ซึ่งทดสอบแล้วว่าสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียชนิด Staphylococcus และ Klebsiella ได้ถึง 100% และยับยั้งเชื้อไวรัส H1N1 ได้ถึง 99.95% รวมถึงยับยั้งเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ Human Coronavirus 229E ได้ถึง 99.9%
HeiQ MetalliQ ถือกำเนิดขึ้นในสหภาพยุโรป และผลิตขึ้นที่ HeiQ Medica ในประเทศสเปนซึ่งเป็นสถานที่ที่ทาง HeiQ ใช้วิจัยพัฒนาเครื่องมือแพทย์ด้วยเช่นกัน ตลอดกระบวนการพัฒนาเทคโนโลยี HeiQ MetalliX นั้น Xefco ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับพันธมิตรวิจัยที่อยู่เคียงข้างกันมานานอย่างสถาบัน Institute for Frontier Materials (IFM) ณ Deakin University โดยเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์วิจัย ARC Research Hub for Future Fibres ระดับโลกซึ่ง HeiQ เป็นสมาชิกเช่นกัน
"คุณใช้เทคโนโลยี heiq ได้กับทุกอย่าง เพื่อเพิ่มฟังก์ชันให้กับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประจำวัน โดยครั้งนี้เราได้ยกระดับการป้องกันไวรัสขึ้นไปอีกครั้ง ด้วยรูปลักษณ์ที่อัปเกรดและพรีเมียมมากขึ้น ฤดูใบไม้ผลิกำลังมาถึงแล้ว ในขณะที่เราฟื้นตัวจากการล็อกดาวน์ เราต้องการได้รับการปกป้องเป็นพิเศษและปกป้องผู้อื่นด้วย HeiQ MetalliQ ได้รับการออกแบบเพื่อให้รู้สึกมั่นใจมากขึ้นไปอีกระดับโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังมีดีไซน์สุดล้ำ ทำให้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งเพิ่มขึ้นมาจากหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ได้หลายทางด้วยกัน" คาร์โล เซนตงเซ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ HeiQ Group กล่าว
รูปภาพ: หน้ากากอนามัย HeiQ MetalliQ Type IIR ผิวเคลือบทองแดงต้านไวรัส กำจัดไวรัส SARS-CoV-2 ได้ 97.79%% ใน 5 นาที (ภาพจาก HeiQ)
เกี่ยวกับ HeiQ
HeiQ ก่อตั้งขึ้นจากการแยกตัวออกจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธ์สวิสในซูริค (Swiss Federal Institute of Technology Zurich: ETH) เมื่อปี 2548 และจดทะเบียนในกระดานหลักของตลาดหุ้นลอนดอน (LSE: HEIQ) HeiQ เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสิ่งทอที่สร้างสรรค์ผลงานเทคโนโลยีสิ่งทอที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ทนทาน และมีศักยภาพมากสุดในตลาดปัจจุบัน ด้วยเป้าประสงค์ในการยกระดับชีวิตของผู้คนนับพันล้าน ด้วยการบุกเบิกนวัตกรรมสิ่งทอและวัสดุ ผ่านการผสมผสานความเชี่ยวชาญใน 3 ด้าน ได้แก่ การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การผลิตวัสดุพิเศษ และการสร้างแบรนด์สำหรับผู้บริโภค HeiQ ถือเป็นพันธมิตรที่สมบูรณ์แบบด้านนวัตกรรมสำหรับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่มีความแตกต่างและยั่งยืนเพื่อเพิ่มมูลค่า ณ จุดขาย บริษัทมีกำลังผลิตในสหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรเลียรวมกัน 35,000 ตันต่อปี และให้บริการสารเคมีชนิดพิเศษในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก www.heiq.com
เกี่ยวกับ Xefco(TM)
Xefco เป็นบริษัทออสเตรเลียผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีสิ่งทอและสารเคลือบ โดยงัดใช้ประโยชน์จากเครือข่ายพันธมิตรวิจัยทั่วโลก เพื่อพัฒนาโซลูชันการผลิตขั้นสูง และประยุกต์ใช้หลักวัสดุศาสตร์ขั้นสูงเพื่อเน้นยกระดับฟังก์ชันต่าง ๆ ส่งเสริมการผลิตอย่างยั่งยืน และลดการใช้ทรัพยากร Xefco ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2561 ปัจจุบันแบรนด์เครื่องแต่งกายเฉพาะทางและแบรนด์แฟชันชั้นนำทั่วโลกได้เลือกใช้เทคโนโลยีของบริษัท เพื่อมอบคุณประโยชน์ด้านการใช้งาน เพิ่มประสิทธิภาพ ความสบาย และการปกป้อง แต่ก็ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย Xefco ยังคงเดินหน้าขยับขยายกลุ่มเทคโนโลยีของบริษัท โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกาย www.xefco.com
เกี่ยวกับ Doherty Institute
การคิดค้นวิธีการป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อ ตลอดจนทำความเข้าใจกับความซับซ้อนของจุลินทรีย์และระบบภูมิคุ้มกันนั้นต้องอาศัยนวัตกรรมและความพยายามเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านการเรียนการสอนและการวิจัย และโรงพยาบาลรอยัล เมลเบิร์น สถาบันชั้นนำที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติด้านการเรียนรู้ วิจัย และการดูแลสุขภาพอันโดดเด่น จึงร่วมกันก่อตั้งสถาบันปีเตอร์ โดเฮอร์ที เพื่อการวิจัยโรคติดเชื้อและภูมิคุ้มกัน (Doherty Institute) ขึ้นมาให้เป็นศูนย์กลางการรวมตัวของบรรดานักวิทยาศาสตร์และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของโลกเพื่อร่วมกันพัฒนาสุขภาพของมวลมนุษยชาติต่อไป
www.doherty.edu.au
เกี่ยวกับ Deakin University
Institute for Frontier Materials (IFM) เป็นสถาบันวิจัยวัสดุศาสตร์ชั้นนำในสังกัดมหาวิทยาลัย Deakin University ประเทศออสเตรเลีย IFM มีนักวิชาการและนักวิจัย HDR รวมกันราว 300 ราย โดยมีวิสัยทัศน์เพื่อบุกเบิกและสร้างแรงบันดาลใจในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ในแวดวงวัสดุศาสตร์และวิศวกรรมที่เป็นคุณงามความดีแก่สังคม มหาวิทยาลัย Deakin ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2517 เป็นมหาวิทยาลัยที่ก้าวหน้าและคล่องตัวเป็นอันดับต้น ๆ ของออสเตรเลีย โดยเป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการเรียนออนไลน์ และนำขีดความสามารถนี้มาใช้กับทุกวิทยาเขตที่ดูแล ทั้งที่เมลเบิร์น กีลอง และวอร์แนมบูล มหาวิทยาลัย Deakin โดดเด่นด้วยความเป็นเลิศด้านคุณภาพงานวิจัยที่ผสานอย่างลงตัวกับประสบการณ์การศึกษาที่ได้รับการจัดอันดับบ่อยครั้งว่าเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ มหาวิทยาลัย Deakin ติดอันดับ 1% แรกของมหาวิทยาลัยโลก โดยมีความร่วมมือที่มุ่งเน้นการสร้างผลประโยชน์ร่วมกันพร้อมมอบผลลัพธ์จริงในขอบข่ายที่มีความสำคัญในระดับชาติ ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพและสวัสดิภาพ เทคโนโลยีอัจฉริยะ ความยั่งยืน การยกระดับสังคมและวัฒนธรรม และสร้างชุมชนที่เข้มแข็งปลอดภัย www.deakin.edu.au
No comments:
Post a Comment