- ข้อตกลงดังกล่าวจะมอบเงินรายได้รวมประมาณ 403 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (520 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) แก่ Tritium ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นของ DCRN ไถ่ถอนไม่มากนัก เพื่อนำไปเป็นเงินหนุนการเติบโตในฐานะผู้นำตลาดเทคโนโลยีด้านการชาร์จเร็วผ่านไฟฟ้ากระแสตรงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
- Tritium เป็นบริษัทที่มีประวัตินาน 20 ปี โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีมูลค่าอยู่ที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.55 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) สืบเนื่องจากข้อตกลงนี้
- ข้อตกลงดังกล่าวคาดว่าจะช่วยมอบเงินทุนเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของ Tritium ในศูนย์การผลิตเต็มรูปแบบระดับโลก 3 แห่ง ด้วยเงินลงทุนสร้างศูนย์การผลิตแห่งใหม่ในยุโรป ขยายศูนย์ผลิตที่ลอสแอนเจลิส และยกระดับศูนย์ที่บริสเบน
- Tritium เป็นผู้ผลิตรายเดียวที่เน้นนวัตกรรมชาร์จเร็วผ่านไฟฟ้ากระแสตรงเพียงอย่างเดียว โดยมีเครือข่ายการขายและสนับสนุนครอบคลุมลูกค้าใน 41 ประเทศ 4 ทวีป
Tritium บริษัทจากบริสเบนผู้พัฒนาและผลิตสถานีชาร์จเร็วผ่านไฟฟ้ากระแสตรง ("DC") สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ("EV") และ Decarbonization Plus Acquisition Corporation II ("DCRN") (NASDAQ: DCRN, DCRNW) บริษัทที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อการควบรวมกิจการ ("SPAC") ประกาศบรรลุสัญญาหลักในการรวมธุรกิจ ที่จะส่งผลให้ Tritium กลายเป็นบริษัทมหาชน เมื่อธุรกรรมดังกล่าวเป็นอันแล้วเสร็จ บริษัทที่ควบรวมกันใหม่นี้จะมีชื่อว่า Tritium และคาดว่าจะจดทะเบียนในตลาด NASDAQ และซื้อขายในชื่อย่อใหม่ว่า "DCFC"
Tritium ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2001 โดยผู้บุกเบิกวงการอีโมบิลิตีอย่างดร. David Finn, James Kennedy และดร. Paul Sernia โดย Tritium ออกแบบ พัฒนา และผลิตฮาร์ดแวร์กรรมสิทธิของบริษัทสำหรับระบบชาร์จเร็วแบบ DC ที่ล้ำสมัยและเชื่อถือได้ บริษัทมีความเป็นมายาวนานถึง 2 ทศวรรษในแวดวงอิเล็กทรอนิกส์กำลังและการคมนาคมไฟฟ้าอันล้ำสมัย โดยเริ่มจากการเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีรถแข่งพลังงานแสงอาทิตย์และโครงการอันน่าทึ่งอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ระบบจัดการแบตเตอรีสำหรับเรือดำน้ำ "Deepsea Challenger" ของ James Cameron
Tritium เล็งเห็นโอกาสในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรง โดยได้นำประสบการณ์ที่บริษัทได้สั่งสมมาในด้านอิเล็กทรอนิกส์กำลังสำหรับสภาวะสุดขั้ว มาใช้สร้างเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ DC ที่ได้มีการทดสอบและติดตั้งในสภาวะที่รุนแรงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก Tritium ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดโลก พร้อมคว้าประโยชน์จากการเติบโตระยะยาวของตลาดรถยนต์โดยสารไฟฟ้าของโลกที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและมั่นคง ซึ่งคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตรวมทั้งปี ("CAGR") เกือบ 20% ไปจนถึงปี 2040 ขณะเดียวกันก็คาดว่ายอดขายฮาร์ดแวร์สำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกน่าจะมีอัตรา CAGR เฉลี่ยกว่า 25% ในแต่ละปีตลอดช่วงเวลาที่ว่านี้
Tritium ได้ให้บริการชาร์จแรงสูงไปกว่า 2.7 ล้านเซสชันใน 41 ประเทศ คิดเป็นพลังงานกว่า 55 GWh ทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทประกอบด้วยตัวชาร์จระดับ IP65 ตัวเดียวของโลกที่ใช้ของเหลวทำความเย็นเต็มรูปแบบ เพื่อมอบเทคโนโลยีที่ป้องกันน้ำและฝุ่นและปิดผนึกจากองค์ประกอบภายนอก ทำให้ลดต้นทุนการเป็นเจ้าของโดยรวมได้ในท้ายที่สุด
Jane Hunter ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tritium กล่าวว่า "ระบบไฟฟ้าได้เข้ามามีบทบาทในภาคการขนส่งมากขึ้นทั่วโลก และมีคุณประโยชน์มากมายที่นอกเหนือไปจากผลประโยชน์ที่ผู้บริโภคแต่ละรายจะได้รับ อุตสาหกรรมของเรามีบทบาทสำคัญในการบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซทั่วโลก ทั้งจากการเพิ่มการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า และการใช้ EV เป็นเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานจำนวนมาก EV เปรียบเสมือน 'แบตเตอรีติดล้อ' โดยจะช่วยกรุยทางให้มีการใช้พลังงานหมุนเวียนในสัดส่วนมากขึ้นทั่วประเทศ นอกจากนี้ อีโมบิลิตียังมีบทบาทสำคัญในการยกระดับคุณภาพอากาศ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ที่มีคนมาก"
ข้อตกลงระหว่าง Tritium กับ DCRN แสดงให้เห็นความเชื่อมั่นที่มีต่อวิสัยทัศน์และศักยภาพความอยู่รอดในตลาดของ Tritium เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมอีโมบิลิตีในภาพรวม เรามีแผนที่จะขยับขยายให้ครอบคลุมศูนย์การผลิต 3 แห่งทั่วโลก เร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ขับเคลื่อนทีมขายและบริการของเราให้เติบโตทั่วโลก และอื่น ๆ อีกมากมาย ข้อตกลงครั้งนี้ให้เงินทุนหนุนแผนส่งเสริมการเติบโตที่ว่านี้ เพื่อให้เราขยับขยายการทำธุรกิจ ยกระดับผลิตภัณฑ์ และให้บริการใหม่ ๆ แก่ลูกค้าของเรา
Robert Tichio ประธานบริษัท DCRN ซึ่งจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในคณะกรรมการบริษัทที่ควบรวมใหม่เมื่อข้อตกลงเป็นอันแล้วเสร็จ กล่าวเสริมว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Tritium เพราะเราเชื่อว่า ผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ในเรื่องนวัตกรรมอิเล็กทรอนิกส์กำลัง รวมถึงโครงสร้างการผลิตและดำเนินการที่ยอดเยี่ยมของบริษัทนั้น จะทำให้ Tritium ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดฮาร์ดแวร์สำหรับการชาร์จ บริษัทภายใต้การนำของคุณ Hunter นั้น ได้บ่มเพาะทีมงานมากความสามารถรวมกันกว่า 340 คนใน 4 ทวีป ทั้งยังมีฐานลูกค้าเป็นบริษัทระดับบลูชิปหลากหลายประเภท ขณะเดียวกันยังหนุนให้ Tritium เป็นผู้นำตลาดชาร์จเร็วแบบ DC ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าเป็นที่ใช้งานมากขึ้นต่อเนื่อง ในช่วงเวลาที่ผู้คนต่างลงทุนตามเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ("ESG") กันมากขึ้น เราเชื่อว่า การที่ Tritium เป็นบริษัทมหาชนจะทำหน้าที่เป็นทรัพย์สินอันล้ำค่าสำหรับนักลงทุน ESG เราหวังที่จะทำงานร่วมกับคุณ Jane และทีมงาน Tritium ทุกคน เพื่อเร่งให้แวดวงคมนาคมโลกใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
ภาพรวมของข้อตกลง
ข้อตกลงดังกล่าวคาดว่าจะทำให้มีเงินรายได้รวมสูงสุดประมาณ 403 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (520 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) ในรูปเงินสด ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นของ DCRN ไถ่ถอนไม่มากนัก เงินทุนที่ได้นี้จะนำไปใช้หนุนการดำเนินงานและการเติบโต โดยมูลค่าองค์กรของบริษัทควบรวมใหม่ก่อนการลงทุน (pre-money) นั้นอยู่ที่ 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.8 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) ณ ราคา 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ไม่นับรวมเงินสดที่จะเข้างบดุล
Jane Hunter อดีตผู้บริหารของ Boeing จะยังคงทำหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tritium ต่อไป เคียงข้างผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง James Kennedy (ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี) และดร. David Finn (ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเติบโต) รวมถึงผู้บริหารรายอื่น ๆ อย่าง David Toomey (ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้) และ Michael Hipwood (ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน)
นอกเหนือจาก Robert Tichio แล้ว Jane Hunter, ดร. David Finn, Trevor St. Baker AO (ผู้ก่อตั้งและประธานกองทุน St. Baker Energy Innovation Fund), Brian Flannery (กรรมการผู้จัดการบริษัท White Energy Company Limited) และ Kara Frederick (กรรมการผู้จัดการบริษัท Tiger Financial Group) ยังเตรียมเข้าร่วมคณะกรรมการบริษัทที่ควบรวมใหม่เมื่อข้อตกลงนี้เป็นอันแล้วเสร็จด้วย
"วันนี้ถือเป็นวันที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ก่อตั้งของ Tritium อย่างคุณ David, James และ Paul รวมถึงสำหรับแวดวงเทคโนโลยีและอีโมบิลิตีของออสเตรเลีย" คุณ St. Baker กล่าว "เรามีความภาคภูมิใจที่ได้สนับสนุนเรื่องราวความสำเร็จของ Tritium จากการเป็นสตาร์ทอัพในบริสเบน จนกลายเป็นผู้ส่งออกและผลิตเทคโนโลยีชาร์จสุดล้ำที่คว้าส่วนแบ่งตลาดโลกไปได้มากมาย" โดยคุณ St. Baker เช่นเดียวกับ Jeff Phillips (ซีอีโอบริษัท Varley Group) และคุณ Brian Flannery ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลักดันบริษัทถึงจุดที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
คณะกรรมการทั้งของบริษัท Tritium และ DCRN ได้อนุมัติข้อเสนอดังกล่าวแล้ว โดยอยู่ระหว่างการขอความยินยอมจากผู้ถือหุ้นของ DCRN ตลอดจนการปฏิบัติตามหรือสละสิทธิ์ตามเงื่อนไขอื่น ๆ ที่ระบุไว้ในสัญญาหลัก ซึ่งรวมถึงการสละสิทธิ์หรือการหมดอายุในสิทธิของผู้ถือหุ้น Tritium ในการได้มาซึ่ง Tritium ตามสิทธิของผู้ถือหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Tritium
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าว รวมถึงสำเนาข้อตกลงในการควบรวมกิจการและเอกสารนำเสนอต่อนักลงทุน สามารถอ่านได้ใน Current Report บน Form 8-K ที่ทาง DCRN จะยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) โดยอ่านได้ที่ www.sec.gov
ที่ปรึกษา
Latham & Watkins LLP (สหรัฐ), Corrs Chambers Westgarth (ออสเตรเลีย) และ Australian Partnership of Ernst & Young ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับ Tritium ในข้อตกลงนี้ ขณะที่ Vinson & Elkins L.L.P. (สหรัฐ) และ Clifford Chance LLP (ออสเตรเลีย) เป็นที่ปรึกษาให้กับ DCRN ส่วน Credit Suisse ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแต่เพียงผู้เดียวให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นส่วนใหญ่และมีสิทธิควบคุมทิศทางของ Tritium ขณะที่ JPMorgan และ Citigroup เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ DCRN
ข้อมูลคอนเฟอเรนซ์คอลสำหรับนักลงทุน
Tritium และ DCRN จะร่วมจัดคอนเฟอเรนซ์คอลสำหรับนักลงทุน เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าวในวันพุธที่ 26 พฤษภาคม 2021 เวลา 8.00 น. ตามเวลา ET
ฟังถ้อยแถลงที่เตรียมไว้แล้วได้ โดยโทรไปที่หมายเลข 1-877-407-3982 หากโทรจากสหรัฐ หรือ 1-201-493-6780 หากไม่ได้โทรจากสหรัฐ โดยพนักงานรับสายจะทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้คุณ หากต้องการฟังซ้ำ กรุณาโทรที่หมายเลข 1-844-512-2921 หากโทรจากสหรัฐ หรือหมายเลข 1-412-317-6671 หากไม่ได้โทรจากสหรัฐ และใช้รหัสผ่าน 13720122 โดยจะเปิดให้ฟังซ้ำได้จนถึงวันที่ 9 มิถุนายน 2021 เวลา 23.59 น. ตามเวลา ET
เกี่ยวกับ Tritium
Tritium ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2001 โดยผู้บุกเบิกวงการอีโมบิลิตี บริษัทออกแบบและผลิตฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์กรรมสิทธิ เพื่อสร้างจุดชาร์จเร็วแบบ DC ที่ล้ำสมัยและเชื่อถือได้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เราออกแบบอย่างกะทัดรัดแต่แข็งแกร่ง ทั้งยังดูดีบน Main Street และทนต่อสภาวะรุนแรงที่สุดของโลก เทคโนโลยีของ Tritium นั้นติดตั้งง่าย เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก และใช้งานง่ายด้วย เราไม่หยุดคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อสนับสนุนลูกค้าของเราทั่วโลก
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tritiumcharging.com
เกี่ยวกับ Decarbonization Plus Acquisition Corporation II
Decarbonization Plus Acquisition Corporation II เป็นบริษัทเช็คเปล่าที่ก่อตั้งขึ้นด้วยจุดประสงค์ในการควบรวมกิจการ ซื้อขายหุ้นทุน ซื้อสินทรัพย์ ซื้อหุ้น ปรับองค์กร หรือการรวมธุรกิจในลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาและยกระดับแพลตฟอร์มที่ช่วยกำจัดการใช้คาร์บอนในภาคส่วนที่ใช้คาร์บอนเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นภาคพลังงานและการเกษตร อุตสาหกรรม การขนส่ง การค้า และที่อยู่อาศัย DCRN ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทในเครือของ Riverstone Holdings LLC และสะท้อนให้เห็นการต่อยอดของการลงทุนคาร์บอนต่ำที่ Riverstone ดำเนินการมาถึง 15 ปี โดยได้มีส่วนจัดตั้งบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมที่มีความยืดหยุ่น จากที่ได้ลงทุนในพลังงานหมุนเวียนคิดเป็นทุนรวมกันกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เกี่ยวกับกองทุน St. Baker Energy Innovation Fund
Trevor St. Baker AO เป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลในภาคไฟฟ้าและพลังงานของออสเตรเลียและทั่วโลก โดยเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มีส่วนพลิกวงการไฟฟ้าและการขนส่ง
เขาเป็นเจ้าของกองทุนในชื่อ St. Baker Energy Innovation Fund ซึ่งเป็นนักลงทุนรายแรก ๆ ใน Tritium และปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด โดยถือหุ้นของบริษัทอยู่ประมาณ 26%
ข้อมูลสำคัญและแหล่งข้อมูล
สืบเนื่องจากข้อเสนอในการรวมธุรกิจ DCRN และ Tritium DCFC Limited ("NewCo") ซึ่งจะเป็นบริษัทมหาชนภายหลังจากนี้ มีความตั้งใจที่จะยื่นเอกสารขึ้นทะเบียนบน Form F-4 ("เอกสารขึ้นทะเบียน") ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ("SEC") ซึ่งจะรวมถึงหนังสือมอบฉันทะ/หนังสือชี้ชวน และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ในการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขอความยินยอมในข้อเสนอควบรวมธุรกิจ นักลงทุนและผู้ถือหลักทรัพย์ของ DCRN ควรอ่านหนังสือมอบฉันทะ/หนังสือชี้ชวน รวมถึงข้อแก้ไขและเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องตามที่จะยื่นต่อ SEC ทั้งหมดอย่างรอบคอบเมื่อเอกสารเหล่านี้เผยแพร่ให้อ่านแล้ว เพราะเอกสารเหล่านี้จะประกอบด้วยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ TRITIUM, DCRN, NEWCO และการรวมธุรกิจ ผู้ถือหุ้นของ DCRN จะได้รับหนังสือมอบฉันทะ/หนังสือชี้ชวนทางจดหมาย โดยจะมีการกำหนดวันเพื่อลงมติเกี่ยวกับข้อเสนอในการควบรวมกิจการ นักลงทุนและผู้ถือหลักทรัพย์ยังมีสิทธิได้รับสำเนาเอกสารขึ้นทะเบียนและเอกสารอื่น ๆ ที่ประกอบด้วยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับบริษัทแต่ละแห่งเมื่อยื่นเอกสารเหล่านั้นต่อ SEC แล้วโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย บนเว็บไซต์ของ SEC ที่ www.sec.gov
ผู้มีส่วนร่วมในการชักชวน
DCRN กรรมการบริษัท และเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อาจนับว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมในการชักชวนผู้ถือหุ้นของ DCRN เพื่อให้มอบฉันทะสืบเนื่องจากข้อเสนอควบรวมกิจการนี้ รายชื่อกรรมการและเจ้าหน้าที่บริหารเหล่านี้ รวมถึงคำอธิบายผลประโยชน์ของพวกเขาใน DCRN ปรากฏอยู่ในเอกสารที่ DCRN ได้ยื่นต่อ SEC ซึ่งรวมถึงรายงาน Annual Report ของ DCRN บน Form 10-K สำหรับปีการเงินสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2020 ซึ่งได้ยื่นต่อ SEC ไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2021 และอ่านได้ฟรีบนเว็บไซต์ของ SEC ที่ www.sec.gov สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลประโยชน์ของผู้มีส่วนร่วมแต่ละราย สามารถอ่านได้ในเอกสารขึ้นทะเบียนสำหรับข้อเสนอในการรวมธุรกิจเมื่อยื่นแล้ว NewCo และ Tritium รวมถึงกรรมการและเจ้าหน้าที่บริหารของแต่ละบริษัท อาจนับว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมในการชักชวนผู้ถือหุ้นของ DCRN เพื่อให้มอบฉันทะสืบเนื่องจากข้อเสนอควบรวมกิจการนี้ด้วยเช่นกัน รายชื่อกรรมการและเจ้าหน้าที่บริหารเหล่านี้ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์ของพวกเขาในการควบรวมกิจการ จะอ่านได้ในเอกสารขึ้นทะเบียนสำหรับข้อเสนอในการรวมธุรกิจเมื่อยื่นแล้ว
ไม่มีวัตถุประสงค์ในการชักชวนหรือข้อเสนอ
เอกสารนี้ไม่มีวัตถุประสงค์ในการชักชวนให้มอบฉันทะ ความยินยอม หรือการอนุญาต สืบเนื่องจากหลักทรัพย์หรือข้อเสนอในการทำธุรกรรมใด ๆ เอกสารนี้ยังไม่มีวัตถุประสงค์ในการเสนอให้ขายหรือแลกเปลี่ยน หรือชักชวนให้มีการเสนอให้ซื้อหรือแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ใด ๆ และจะไม่มีการขายหลักทรัพย์ในรัฐหรือเขตอำนาจใด ๆ ที่ซึ่งข้อเสนอ การชักชวน การขาย หรือการแลกเปลี่ยนที่ว่านี้จะไม่ชอบด้วยกฎหมายก่อนขึ้นทะเบียนหรือก่อนที่จะมีคุณสมบัติเหมาะสมตามกฎหมายหลักทรัพย์ของเขตอำนาจนั้น จะไม่มีการเสนอหลักทรัพย์ยกเว้นในรูปของหนังสือชี้ชวนที่เป็นไปตามข้อกำหนดในมาตรา 10 ของกฎหมายหลักทรัพย์ปี 1933 ฉบับแก้ไข หรือได้รับการยกเว้น
ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า
ข้อความบางอย่างในเอกสารฉบับนี้เป็น "ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า" สืบเนื่องจากข้อเสนอในการควบรวมธุรกิจ และรวมถึงข้อความเกี่ยวกับผลประโยชน์ของข้อตกลงดังกล่าว กรอบเวลาข้อตกลงที่คาดการณ์ไว้ บริการต่าง ๆ ของ Tritium ตลาดที่บริษัทดำเนินธุรกิจ รวมถึงผลลัพธ์ในอนาคตของ NewCo ที่คาดการณ์ไว้ ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้มักมีคำว่า "คาดคะเน" "คาดการณ์" "คาดหวัง" "คาด" "ทำนาย" "วางแผน" "ตั้งใจ" "เชื่อ" "มุ่ง" "ตั้งเป้า" "อาจ" "จะ" "ควร" "น่าจะ" "จะเป็น" "จะทำต่อ" "น่าจะมีผล" "อนาคต" "เสนอ" "กลยุทธ์" "โอกาส" และคำหรือสำนวนอื่น ๆ ที่มีความหมายในทำนองเดียวกัน (หรือคู่ตรงข้ามของคำหรือสำนวนเหล่านี้) ที่คาดเดาหรือบ่งชี้เหตุการณ์หรือแนวโน้มในอนาคต และไม่ได้เป็นข้อเท็จจริงที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่ออธิบายให้เห็นภาพชัดเจนเท่านั้น ไม่ได้เป็นการรับประกัน การรับรอง การคาดการณ์ หรือข้อความข้อเท็จจริงหรือความน่าจะเป็นเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน สภาวะ และผลลัพธ์ในอนาคต นักลงทุนจึงไม่ควรพึ่งพาข้อความเหล่านี้ เพราะมีความเสี่ยง ความไม่แน่นอน สมมติฐาน และปัจจัยสำคัญอื่น ๆ ทั้งที่ทราบและไม่ทราบมากมาย ซึ่งหลายปัจจัยอยู่นอกเหนือการควบคุมของ NewCo, Tritium หรือ DCRN ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์จริงแตกต่างอย่างมากจากที่ระบุไว้ในข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ปัจจัยสำคัญที่อาจกระทบต่อผลการดำเนินงานจริงนั้นรวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง การที่ไม่สามารถรวมธุรกิจเป็นอันแล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนดไว้ หรือล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง (รวมถึงที่มีสาเหตุจากความล้มเหลวในการขอความยินยอมที่จำเป็นจากผู้ถือหุ้น หรือความล้มเหลวในการปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่น ๆ เช่น การปฏิบัติตามจำนวนขั้นต่ำในบัญชีทรัสต์ หลังผู้ถือหุ้นของ DCRN ได้ไถ่ถอนออกไป การสละสิทธิ์หรือการหมดอายุในสิทธิของผู้ถือหุ้น Tritium ในการได้มาซึ่ง Tritium ตามสิทธิของผู้ถือหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Tritium และการได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลหรือฝ่ายกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง) ซึ่งอาจกระทบราคาหลักทรัพย์ของ DCRN; การที่ไม่สามารถรวมธุรกิจได้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลารวมธุรกิจของ DCRN และความล้มเหลวในการยืดกำหนดเวลารวมธุรกิจหาก DCRN ร้องขอ; การเกิดขึ้นของเหตุการณ์ การเปลี่ยนแปลง หรือสถานการณ์อื่นใด ที่อาจทำให้ข้อตกลงดังกล่าวเป็นอันสิ้นสุด; การที่ไม่สามารถคว้าผลประโยชน์จากการรวมธุรกิจอย่างที่คาดการณ์ไว้; ความล้มเหลวในการรับหรือรักษาการขึ้นทะเบียนหุ้นของ NewCo ในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศ ภายหลังจากที่รวมธุรกิจตามข้อเสนอ; ต้นทุนเกี่ยวกับข้อเสนอในการรวมธุรกิจ ความเสี่ยงที่ว่าข้อเสนอในการรวมธุรกิจจะเป็นอุปสรรคต่อแผนและการดำเนินงานปัจจุบัน รวมถึงความสัมพันธ์ทางธุรกิจหรือธุรกิจโดยทั่วไป อันเป็นผลจากการประกาศและบรรลุข้อเสนอในการรวมธุรกิจ; ความสามารถของ NewCo ในการบริหารธุรกิจให้เติบโต; ความสามารถของ NewCo ในการดำเนินแผนธุรกิจและบรรลุเป้าหมายที่วางแผนไว้; อุปสรรคในการรักษาพนักงานของ NewCo อันเป็นผลจากข้อตกลงดังกล่าว; การฟ้องร้อง กระบวนการ การตรวจสอบ หรือการสืบสวนจากหน่วยงานรัฐหรือฝ่ายกำกับดูแลเกี่ยวกับ NewCo, Tritium หรือ DCRN ซึ่งรวมถึงที่เกี่ยวเนื่องกับข้อตกลงดังกล่าวด้วย; การเปลี่ยนแปลงในกฎหมายหรือระเบียบกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาวะเศรษฐกิจและตลาดโดยทั่วไปที่กระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการของ NewCo; ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่น ๆ ที่ระบุไว้เป็นครั้งคราวในหนังสือมอบฉันทะ/หนังสือชี้ชวนเกี่ยวกับข้อเสนอในการรวมธุรกิจ ซึ่งรวมถึงที่ระบุไว้ในส่วน "Risk Factors" รวมถึงเอกสารอื่น ๆ ที่ DCRN ได้ยื่นต่อ SEC ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าให้ข้อมูล ณ วันที่จัดทำเท่านั้น ผู้อ่านไม่ควรพึ่งพาข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้มากเกินไป โดย NewCo และ DCRN ไม่มีข้อผูกมัดในการปรับปรุงแก้ไขข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าแต่อย่างใด แม้จะมีข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออื่น ๆ ยกเว้นในกรณีที่กฎหมายกำหนดไว้ NewCo และ DCRN ไม่รับประกันว่า NewCo หรือ DCRN จะทำผลงานได้อย่างที่คาดหวังไว้
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1518777/Tritium.jpg
No comments:
Post a Comment