Tuesday, January 31, 2023

ซูริค อินชัวรันซ์นำการระดมทุนรอบซีรีส์บีสำหรับบ็อกซ์ อินชัวรันซ์ บริษัทเทคโนโลยีประกันภัยไซเบอร์ระดับโลก

 บ็อกซ์ อินชัวรันซ์ (BOXX Insurance) บริษัทเทคโนโลยีประกันภัยไซเบอร์ที่มีสำนักงานใหญ่ในโทรอนโตซึ่งรวมการประกันภัยและความปลอดภัยทางไซเบอร์เข้าด้วยกัน ได้ประกาศการระดมทุนรอบซีรีส์บีมูลค่า 14.4 ล้านดอลลาร์ ทำให้ยอดรวมจากนักลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 24.5 ล้านดอลลาร์ในช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา การลงทุนครั้งล่าสุดนำโดยซูริค อินชัวรันซ์ คอมปะนี (Zurich Insurance Company Ltd) (ซูริค) ยักษ์ใหญ่ระดับโลก

นอกจากนี้ บ็อกซ์ยังได้ประกาศว่าธุรกิจของบริษัทบรรลุเป้าหมายรวมที่จะเติบโต 10 เท่าในช่วง 24 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ยังคงทำผลงานได้ดีกว่าเป้าหมายการพิจารณารับประกันภัย โดยบ็อกซ์ให้ความคุ้มครองบุคคลมากกว่า 250,000 รายและธุรกิจกว่า 10,000 ราย

"เป้าหมายของเราคือการช่วยให้ลูกค้าของเรานำหน้าภัยคุกคามทางไซเบอร์อยู่เสมอ นอกเหนือไปจากการช่วยเหลือพวกเขาในการตอบสนองและกู้คืนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" คุณวิชาล คุนดี (Vishal Kundi) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของบ็อกซ์กล่าว "เราก้าวหน้าไปมากกับเรื่องนี้และการขยายหมวดหมู่เพิ่มเติม"

ในเดือนตุลาคม บ็อกซ์เข้าซื้อกิจการแพลตฟอร์มความปลอดภัยทางไซเบอร์เทมพลาร์บิท (Templarbit) และได้เริ่มรวมซอฟต์แวร์ข่าวกรองภัยคุกคามเข้ากับชุดผลิตภัณฑ์และกรอบการพิจารณารับประกันภัย

ในช่วงปี 2565 บริษัทได้เปิดตัวแฮกบัสเตอร์ส อินซิเดนท์ เรสปอนส์ (Hackbusters Incident Response) บริการ CISO เสมือนสำหรับธุรกิจ ซึ่งเป็นโซลูชันแอปมือถือใหม่สำหรับผู้บริโภค นอกเหนือจากการทดสอบการริเริ่มด้านความปลอดภัยใหม่ ๆ

"เราไม่เพียงเห็นลูกค้าประกันภัยไซเบอร์เดิมเพิ่มผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยของเราเท่านั้น แต่ยังเห็นลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาสนใจผลิตภัณฑ์และบริการด้านความปลอดภัยล่าสุดของเราด้วย" คุณคุนดีกล่าว

พันธกิจของบ็อกซ์ในการทำให้โลกเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยทางดิจิทัลยิ่งขึ้น ได้นำไปสู่การขยายกิจการไปทั่วอเมริกาเหนือและตลาดอื่น ๆ ที่ได้รับการคัดสรรซึ่งพร้อมสำหรับการเติบโต บ็อกซ์เพิ่มพนักงานจาก 5 เป็น 36 คนในปีที่แล้ว

นอกเหนือจากการขยายทีมงานผลักดันผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดและเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว บ็อกซ์ยังได้ดำเนินการอัปเกรดแพลตฟอร์มและเครื่องมือการพิจารณารับประกันภัย รวมถึงการผสานรวมกับหน่วยงานภายนอกด้วย

"เราได้เห็นแล้วว่าการสร้างโซลูชันการประกันภัยทางไซเบอร์สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและกลุ่มผู้บริโภคนั้นยากเพียงใด มันมีค่าใช้จ่ายสูงและต้องใช้ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเชิงลึกเพื่อนำหน้าภัยคุกคามอยู่เสมอ บ็อกซ์จัดการกับความท้าทายเหล่านี้อย่างชัดเจน ราคาไม่แพง และด้วยความเข้าใจอย่างแท้จริงในสิ่งที่ลูกค้าและที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงของพวกเขาต้องการ" คุณแจ็ค ฮาวเวลล์ (Jack Howell) ซีอีโอของซูริค โกลบอล เวนเจอร์ส (Zurich Global Ventures) กล่าว "การช่วยเหลือลูกค้าด้วยโซลูชันดิจิทัลที่เป็นนวัตกรรมใหม่และฝังไว้ในเส้นทางของลูกค้าถือเป็นสิ่งสำคัญ เป็นเรื่องที่น่าประทับใจที่ได้เห็นความเรียบง่ายของวิธีการที่บ็อกซ์จัดการกับความท้าทายระดับโลกที่ซับซ้อนเช่นนี้"

เกี่ยวกับบ็อกซ์ อินชัวรันซ์

บ็อกซ์ อินชัวรันซ์ อิงค์ (BOXX Insurance Inc.) ช่วยให้ธุรกิจ บุคคล และครอบครัวได้รับการประกันและการปกป้องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยบ็อกซ์ อินชัวรันซ์ อิงค์ เป็นบริษัทเอกชนที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา และมีวิสัยทัศน์ในการช่วยให้ธุรกิจ บุคคล และครอบครัว สามารถก้าวนำ รับมือ และฟื้นตัวจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้ โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางดิจิทัลเป็นอันดับแรก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.boxxinsurance.com

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1992374/BOXX_Insurance_Zurich_Insurance_leads_SERIES_B_fundraise_for_glo.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1992372/BOXX_Insurance_Zurich_Insurance_leads_SERIES_B_fundraise_for_glo.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1992371/BOXX_Insurance_Zurich_Insurance_leads_SERIES_B_fundraise_for_glo.jpg

Zurich Insurance leads SERIES B fundraise for global cyber insurtech BOXX Insurance

 BOXX Insurance, the Toronto headquartered insurtech that combines cyber insurance and security, announced a US$14.4 million Series B funding round, bringing the total amount raised from investors to US$24.5 million in the last 16 months. The latest investment was led by global giant, Zurich Insurance Company Ltd (Zurich).

BOXX also today announced that its business met its combined goal to grow 10x in the last 24 months whilst continuing to outperform its underwriting targets. Over 250,000 individuals and 10,000 businesses are protected by BOXX.

"Our goal was always to help our customers stay ahead of cyber threats in addition to being there to help them respond and recover from an incident," said BOXX Co-founder and CEO Vishal Kundi. "We've been making a lot of headway with this and additional category expansion."

In October, BOXX acquired Cyber security platform Templarbit and has begun the integration of its threat intelligence software into its product suite and underwriting framework.

Over the course of 2022, the company launched its Hackbusters Incident Response, virtual CISO service for businesses, a new mobile app solution for consumers, in addition to testing a number of new security-based initiatives.

"We're not only seeing more of our existing cyber insurance customers adding our security products, but also seeing new customers coming in attracted by our latest security products and services," Kundi said.

BOXX's mission to make the world a digitally safer place has led to its presence expanding across North America and other selected markets poised for growth. BOXX increased its staff from 5 to 36 in the last year.

In addition to expanding its go-to-market team and adding new products, BOXX has also implemented upgrades to its underwriting platform and tools including third party integrations.

"We've seen how difficult it is to build cyber insurance solutions for the small business and consumer segments - it is costly and requires deep technical expertise to stay ahead. BOXX addresses these challenges unambiguously, affordably, and with a genuine understanding of what customers and their risk advisors need," said Jack Howell, CEO of Zurich Global Ventures. "Helping customers with innovative digital solutions and embedding them into the customer journey, is critical. It's impressive to see the simplicity in how BOXX is tackling such a complex global challenge."

About BOXX Insurance

BOXX Insurance Inc. helps businesses, individuals and families insure and defend against cyber threats. BOXX Insurance Inc. is privately-held with headquarters in Toronto, Canada. BOXX's vision is to help businesses, individuals and families stay ahead of, respond to and recover from cyber threats, putting their digital safety first. For further information, please visit www.boxxinsurance.com

Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1992374/BOXX_Insurance_Zurich_Insurance_leads_SERIES_B_fundraise_for_glo.jpg
Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1992372/BOXX_Insurance_Zurich_Insurance_leads_SERIES_B_fundraise_for_glo.jpg
Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1992371/BOXX_Insurance_Zurich_Insurance_leads_SERIES_B_fundraise_for_glo.jpg

Media Contact: alex.tomaszewski@boxxinsurance.com

สภาส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์แห่งญี่ปุ่น ออกอากาศรายการ "The Masterfully Marbled World of Japanese Wagyu Beef" ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค

สภาส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์แห่งญี่ปุ่น (J-LEC) รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ประกาศผลิตและออกอากาศรายการ "The Masterfully Marbled World of Japanese Wagyu Beef" ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค เวิลด์-เจแปน (NHK WORLD-JAPAN) ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยรายการนี้จะพาทุกท่านไปสัมผัสกับความล้ำลึกของโลกแห่งเนื้อวากิวและเสน่ห์ระดับโลกของเนื้อวากิวจากเวทีประกวด "วากิวโอลิมปิก" (Wagyu Olympics) ซึ่งเป็นมหกรรมอาหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของญี่ปุ่น

โลโก้: https://kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M107543/202301272460/_prw_PI1fl_kWUjZn21.png

รูปภาพ: https://kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M107543/202301272460/_prw_PI2fl_853Fpwq3.jpg

เนื้อวากิวมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกจากไขมันที่ละลายในปาก เนื้อลายหินอ่อนสวยงาม สัมผัสนุ่มละมุนลิ้น กลิ่นหอมไม่เหมือนใคร และรสชาติกลมกล่อมล้ำลึกอันเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากโคเนื้อสายพันธุ์อื่น ๆ โดยเนื้อวากิวได้รับการพัฒนาจากสายพันธุ์ที่เฉพาะเจาะจงและใช้กรรมวิธีดั้งเดิมของญี่ปุ่น จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเนื้อวัวที่ดีที่สุดในโลก

ในปี 2565 จังหวัดคาโกชิมะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันประกวดเนื้อวากิวระดับชาติ ครั้งที่ 12 (12th National Competitive Exhibition of Wagyu) หรือที่รู้จักกันในชื่อวากิวโอลิมปิก ซึ่งเป็นการประกวดเนื้อวากิวงานใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยโคเนื้อ 438 ตัว จาก 41 จังหวัดของญี่ปุ่นที่ผ่านการคัดเลือกได้มารวมตัวกันในการประกวดสายพันธุ์โคเนื้อ การแข่งขันนี้จัดขึ้นทุก ๆ 5 ปี โดยเปลี่ยนสถานที่ไปตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น เพื่อเฟ้นหาสุดยอดฟาร์มโคเนื้อวากิวที่จะเป็นผู้นำในการแสวงหาเนื้อวัวคุณภาพสูงสุดในโลกต่อไป

เมื่อมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันวากิวโอลิมปิกตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงวิธีการเลี้ยงโคในชนบทด้วยการคัดเลือกและปรับปรุงสายพันธุ์จนกลายเป็นเนื้อคุณภาพสูงสุด ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกที่สำคัญของญี่ปุ่น ในปี 2564 มูลค่าการส่งออกเนื้อวัวของญี่ปุ่นพุ่งทะลุ 5 หมื่นล้านเยน (ราว 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐตามอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้น) และรัฐบาลญี่ปุ่นตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการส่งออกเนื้อวัวสามเท่าภายในปี 2568 ทั้งนี้ คาดว่าเนื้อวากิวจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการเพิ่มยอดส่งออกของผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในด้านการเกษตร ป่าไม้ และการประมง ตลอดจนการส่งออกอาหารญี่ปุ่นและสินค้าเกี่ยวกับการปรุงอาหาร นอกจากนี้ ด้วยแนวคิดสมัยใหม่ที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้นทั่วโลก ปริมาณไขมันของเนื้อวากิวได้กลายเป็นตัวบ่งชี้เชิงบวกของแนวคิดที่ว่า "คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ"

ในประเทศญี่ปุ่น โคเนื้อวากิวแต่ละตัวสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ภายใต้ระบบการรับรอง ขณะที่การจัดเกรดคุณภาพเนื้อและสายพันธุ์โคเนื้อก็ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดโดยองค์กรรับรองคุณภาพ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ดบนผลิตภัณฑ์เนื้อวากิวจากสภาส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์แห่งญี่ปุ่น

ลายหินอ่อนอันโดดเด่นทำให้เนื้อวากิวของญี่ปุ่นกลายเป็นมาตรฐานของเนื้อคุณภาพสูงสุดในหมู่ผู้บริโภคระดับไฮเอนด์ในเอเชีย และกำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้นทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา

รายละเอียดการออกอากาศ
- วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2566
- เวลา: 2.30-3.00 น., 7.30-8.00 น., 13.30-14.00 น., 19.30-20.00 น. (ตามเวลา UTC)
- URL: https://biz.jibtv.com/programs/the_masterfully_marbled_world_of_japanese_wagyu_beef/

เกี่ยวกับสภาส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์แห่งญี่ปุ่น (J-LEC)
สภาส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์แห่งญี่ปุ่น คือองค์กรของญี่ปุ่นซึ่งประกอบด้วยบรรดาตัวแทนระดับเทศบาลท้องถิ่นที่มาร่วมกันแบ่งปันข้อมูลกับทั่วโลกเกี่ยวกับการทำฟาร์มปศุสัตว์และอุตสาหกรรมการผลิตเนื้อสัตว์และไข่ของญี่ปุ่น

เว็บไซต์: http://jlec-pr.jp/en/
อินสตาแกรม: https://www.instagram.com/beef_japan_official/
เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/Beef-Japan-101603855192050/

ที่มา: สภาส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์แห่งญี่ปุ่น 

"เจพีเอ็มดี" และ "เอฟไอเอ็มโอ เจเอสซี" ยกระดับ "พีไอวีเอเชีย" แพลตฟอร์มข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมของเวียดนาม พร้อมเปิดบริการสมาชิกแบบชำระเงิน

บริษัท เจพี มีเดีย ไดเร็กต์ จำกัด (JP Media Direct Co., Ltd.) (ในที่นี้จะเรียกว่า "เจพีเอ็มดี") ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเจแปน โพสต์ กรุ๊ป (Japan Post Group) ที่ตั้งอยู่ในโตเกียว และบริษัท เดอะ เฟิสต์ อินโนเวชัน แอนด์ แมเนจเมนต์ ออร์แกไนเซชัน จอยต์ สต็อก คอมปานี (THE FIRST INNOVATION AND MANAGEMENT ORGANIZATION JOINT STOCK COMPANY) (ในที่นี้จะเรียกว่า "เอฟไอเอ็มโอ เจเอสซี") ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติเวียดนาม ที่ตั้งอยู่ในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ได้อัปเกรดแพลตฟอร์มข้อมูลสำหรับอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมและอื่น ๆ ที่ทั้งสองฝ่ายได้พัฒนาร่วมกันในเวอร์ชันเบตาอย่างฮานอย พีไอวีเอเชีย (PIVASIA) เป็น "พีไอวีเอเชีย 1.0" (PIVASIA 1.0) และเปิดตัวบริการสมาชิกแบบชำระเงินตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2566

ลิงก์เว็บไซต์พีไอวีเอเชีย: https://ip.piv.asia/en/

รูปภาพ 1: https://kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M105616/202301182233/_prw_PI1fl_A3CUNM8Y.jpg

ภาพรวมบริการสมาชิกแบบชำระเงิน

บริการดังกล่าวให้ข้อมูลและฟังก์ชันการค้นหาที่ละเอียดยิ่งขึ้นเกี่ยวกับพื้นที่และนิคมอุตสาหกรรม ฟังก์ชันค้นหาแบบใหม่มาพร้อมความสามารถในการค้นหาพื้นที่และนิคมอุตสาหกรรมตามเกณฑ์เฉพาะเจาะจง บันทึกผลการค้นหาลงในรายการโปรด และเปรียบเทียบข้อมูลต่าง ๆ นอกจากนี้ ฟังก์ชันการค้นหาแบบใหม่ยังช่วยให้ผู้ใช้งานค้นหาพื้นที่และนิคมอุตสาหกรรมที่ตรงตามเกณฑ์ของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถเปรียบเทียบข้อมูลได้ นอกเหนือจากคุณสมบัติเพิ่มเติมเหล่านี้แล้ว เจพีเอ็มดีและเอฟไอเอ็มโอ เจเอสซี ยังอัปเดตข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนิคมอุตสาหกรรม 359 แห่งทั่วประเทศเวียดนาม สามารถสอบถามความพร้อมใช้งานล่าสุดและราคาสำหรับนิคมอุตสาหกรรมได้ทางเว็บไซต์พีไอวีเอเชีย

ฟีเจอร์ใหม่ ๆ

- ค้นหา กรอง และจัดเรียงฟังก์ชันตามนิคมอุตสาหกรรม และตามเมือง/จังหวัด

- สามารถเพิ่มรายการโปรดตามนิคมอุตสาหกรรม และตามเมือง/จังหวัด

- ฟังก์ชันเปรียบเทียบตามนิคมอุตสาหกรรม และตามเมือง/จังหวัด

- คำแนะนำเส้นทางไปยังสถานที่สำคัญจากนิคมอุตสาหกรรม

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ได้ที่ https://ip.piv.asia/#/quick-overview

ตารางค่าธรรมเนียมสมาชิกพีไอวีเอเชีย (ไม่รวมภาษี)

ค่าลงทะเบียนเริ่มต้น: 100,000 เยน

แผน 6 เดือน: 1,000,000 เยน

แผน 12 เดือน: 1,500,000 เยน

*โปรดติดต่อเจพีเอ็มดี และเอฟไอเอ็มโอ เจเอสซี เพื่อขอแผนแบบกำหนดเองที่เหมาะสมที่สุดตามประเภทการใช้งาน

ลิงก์เว็บไซต์พีไอวีเอเชีย: https://ip.piv.asia/en/

นอกจากนี้ อินเตอร์เฟซโฉมใหม่และความเร็วในการแสดงผลของระบบได้รับการปรับปรุงขึ้นอย่างมาก ซึ่งทั้งสองจะช่วยพัฒนาความพึงพอใจของผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการให้ข้อมูลและฟังก์ชันที่เป็นที่ต้องการอย่างมากต่อไป

รูปภาพ 2: https://kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M105616/202301182233/_prw_PI2fl_30Q5E2JH.jpg

ที่มา: บริษัท เจพี มีเดีย ไดเร็กต์ จำกัด และบริษัท เดอะ เฟิสต์ อินโนเวชัน แอนด์ แมเนจเมนต์ ออร์แกไนเซชัน จอยต์ สต็อก คอมปานี

คณะผู้แทนเซินเจิ้นเยือนสิงคโปร์เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้า คว้าโอกาสการพัฒนาและความร่วมมือ

 


เมื่อวันที่ 28 มกราคม ซึ่งเป็นวันแรกของงานประชุมในช่วงเทศกาลตรุษจีน คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลกวางตุ้งและรัฐบาลประชาชนมณฑลกวางตุ้งได้จัดงานประชุมการพัฒนาคุณภาพสูง (High-quality Development Conference) ระดับมณฑลเพื่อระดมพลและกระจายงานหลักตลอดทั้งปี รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูงทั่วทั้งมณฑล ในวันประชุมดังกล่าว สำนักการพาณิชย์แห่งเทศบาลนครเซินเจิ้นและรัฐบาลเขตหนานชานจัดให้องค์กรต่าง ๆ เดินทางไปยังสิงคโปร์ตามคำเชิญของสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศสิงคโปร์ เพื่อโปรโมตเมือง โปรโมตผลิตภัณฑ์ เยี่ยมชมองค์กรต่าง ๆ ตลอดจนเข้าร่วมแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้า

สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศสิงคโปร์ได้จัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลวัฒนธรรมฤดูใบไม้ผลิในสิงคโปร์ปี 2566 ในชื่อ "Prosperity and New Vision" (ความเจริญรุ่งเรืองและวิสัยทัศน์ใหม่) โดยจัดแสดงผลงานสร้างสรรค์ชั้นเลิศและพัฒนาการแห่งนวัตกรรมของวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีนผ่านการผลิตในสถานที่จริงและการจัดแสดงมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ อันเป็นการตีความเนื้อหาทางวัฒนธรรมดั้งเดิมด้วยสุนทรียศาสตร์แบบสมัยใหม่ตลอดจนการมีปฏิสัมพันธ์รูปแบบไฮเทค เผยให้เห็นถึงมนตร์เสน่ห์ของวัฒนธรรมจีนร่วมสมัย ในโอกาสนี้ คณะผู้แทนจากเซินเจิ้นได้จัดเตรียมโถงนิทรรศการเซินเจิ้นในธีม "Carry Forward Shenzhen's Stories" (เผยแพร่เรื่องราวของเซินเจิ้น) เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของเซินเจิ้นได้เป็นอย่างดี ขับเน้นคุณลักษณะของเซินเจิ้น และจัดแสดงแบรนด์ต่าง ๆ ของเซินเจิ้น



ต่อมาในวันที่ 29 มกราคม โถงนิทรรศการเซินเจิ้นเปิดตัวในสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ โดยจัดแสดงความสำเร็จของเซินเจิ้นนับตั้งแต่การปฏิรูปและการเปิดประเทศตลอด 43 ปีที่ผ่านมา รวมถึงการพรรณนาภาพใหม่ของเซินเจิ้นในการผสมผสานวัฒนธรรมกับเทคโนโลยี ในงานนี้ได้รับเกียรติจากคุณเฮง สวี เกียต (หวัง รุ่ยเจี๋ย) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประสานงานด้านนโยบายเศรษฐกิจของสิงคโปร์ และคุณซุน ไห่ยั่น เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศสิงคโปร์

โถงนิทรรศการเซินเจิ้นแห่งนี้จัดแสดงโดยแบ่งพื้นที่นิทรรศการออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ "New Story - Theme Area" (เรื่องเล่าใหม่ - พื้นที่ธีม), "New Technology - Exhibition Area" (เทคโนโลยีใหม่ - พื้นที่นิทรรศการ) และ "New Experience - Interaction Area" (ประสบการณ์ใหม่ - พื้นที่ปฏิสัมพันธ์)

นอกจากนี้ คณะผู้แทนจากเซินเจิ้นจะเยี่ยมชมองค์กรและสถาบันชื่อดังต่าง ๆ อาทิ สำนักพัฒนาสารสนเทศและสื่อของสิงคโปร์, องค์กรเคปเปลของสิงคโปร์ (Keppel Enterprise) และเครือยันลอร์ดของสิงคโปร์ (Yanlord Group) เพื่อหารือแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับความร่วมมือด้านสมาร์ตซิตีระหว่างเซินเจิ้น-สิงคโปร์ รวมถึงการก่อสร้างอุทยานไฮเทคเซินเจิ้น-สิงคโปร์ เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อดีของทั้งเซินเจิ้นและสิงคโปร์อย่างเต็มที่ เพิ่มการเทียบท่าและกระชับความร่วมมือ ตลอดจนบรรลุผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1991961/1.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1991962/2.jpg

ORFALI BROS BISTRO คว้าตำแหน่ง NO.1 ในการจัดอันดับร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ MIDDLE EAST & NORTH AFRICA'S 50 BEST RESTAURANTS 2023

 

  • Orfali Bros Bistro ในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คว้าตำแหน่ง The Best Restaurant in Middle East & North Africa 2023
  • ร้านอาหารที่ติดอันดับมาจาก 14 เมืองทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ตั้งแต่เมืองมาร์ราเกช ตูนิส ริยาด ไปจนถึงคูเวตซิตี
  • OCD Restaurant ในเมืองเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ได้รับรางวัล Sustainable Restaurant Award ซึ่งสนับสนุนโดย Arla Pro
  • Em Sherif ในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน ได้รับรางวัล Art of Hospitality Award
  • Moustafa Elrefaey คว้ารางวัล Estrella Damm N.A. Chefs' Choice Award
  • Karim Bourgi คว้ารางวัล Best Pastry Chef Award ซึ่งสนับสนุนโดย Valrhona
  • Fusions by Tala ในกรุงมานามา ประเทศบาห์เรน ได้รับรางวัล Highest Climber Award โดยกระโดดขึ้นมาถึง 36 ขั้น รั้งอันดับ No.3 
  • Ossiano ในดูไบ ได้รับรางวัล Highest New Entry Award ซึ่งสนับสนุนโดย Aspire Lifestyles หลังจากเข้ามาติดอันดับ No.4

ดาวเด่นแห่งวงการร้านอาหารต่างมารวมตัวกันที่กรุงอาบูดาบี เมืองหลวงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในเย็นวันนี้ (30 ม.ค.) เพื่อรับรางวัล Middle East & North Africa's 50 Best Restaurants หรือ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ครั้งที่ 2 ซึ่งสนับสนุนโดย S.Pellegrino & Acqua Panna โดยร้านอาหารจาก 14 เมืองได้รับการโหวตให้เป็น 50 จุดหมายปลายทางการรับประทานอาหารที่ดีที่สุดในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ในงานมอบรางวัลซึ่งจัดขึ้นด้วยความร่วมมือกับสำนักวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งอาบูดาบี ปิดท้ายด้วยการประกาศชื่อผู้คว้าตำแหน่งร้านอาหาร No.1 ในภูมิภาค นั่นคือ Orfali Bros Bistro 

Orfali Bros Bistro เป็นร้านอาหารขนาดเล็กและสถานที่คิดค้นสูตรอาหารใหม่ ๆ ซึ่งตั้งอยู่ในย่าน Wasl 51 แนวร่วมสมัยของดูไบ ร้านนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยสามพี่น้องจากซีเรีย ได้แก่ Mohammad, Wassim และ Omar Orfali เมนูของร้านประกอบด้วยอาหารตะวันออกกลางที่เคารพต่อรากเหง้าของสามพี่น้องชาวเมืองอเลปโป ผสมผสานกับวัฒนธรรมที่หลากหลายและจิตวิญญาณที่ล้ำสมัยของดูไบ

ร้านอาหารอินเดียชั้นเลิศ Tresind Studio ในหมู่เกาะต้นปาล์ม (The Palm Jumeirah) ของดูไบ ครองตำแหน่ง No.2 ขณะที่ร้าน Fusions by Tala ในกรุงมานามา ได้รับตำแหน่ง No.3 ไปครอง สามารถดูรายชื่อร้านอาหารทั้งหมดที่ติดอันดับได้ที่ https://www.theworlds50best.com/mena/en/lists/1-50  

William Drew ผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนต์ของ Middle East & North Africa's 50 Best Restaurants กล่าวว่า "นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ประกาศว่า Orfali Bros Bistro คือผู้คว้าตำแหน่ง No.1 ร้านนี้สร้างมาตรฐานใหม่ในด้านความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และการนำเสนออาหารอย่างไร้ข้อกังขา ควบคู่กับบริการที่เป็นกันเอง เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เฉลิมฉลองความยอดเยี่ยมนี้ไปพร้อมกับคนอื่น ๆ ในภูมิภาค"

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1992192/50_Best.jpg  
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1983205/50Best_Mena_2023_Logo.jpg
พีดีเอฟ - https://mma.prnewswire.com/media/1991092/MENA_50_BEST.pdf

เข้าใช้งานศูนย์ข้อมูลสื่อมวลชนได้ที่
https://mediacentre.theworlds50best.com

โรงกษาปณ์แคนาดาออกเหรียญยกย่องกองพันก่อสร้างที่ 2 รำลึกอาสาสมัครทหารผิวดำแห่งแคนาดายุคสงครามโลก

      โรงกษาปณ์แคนาดา (Royal Canadian Mint) ออกเหรียญยกย่องกองพันก่อสร้างที่ 2 ซึ่งเป็นกองพันทหารผิวดำหน่วยแรกและหน่วยเดียวในประวัติศาสตร์การทหารของแคนาดา โดยเป็นส่วนหนึ่งของชุดเหรียญประจำปี 2566 ของโรงกษาปณ์แคนาดา เพื่อยกย่องประวัติศาสตร์คนผิวดำ ซึ่งในช่วงปีแรก ๆ ของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งนั้น ชาวแคนาดาผิวดำหลายร้อยคนต่างพยายามสมัครเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพเพื่อร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่เพื่อนร่วมชาติผิวขาวในสนามรบต่างแดน แต่กลับจำต้องถูกกีดกันจากการเหยียดสีผิว อย่างไรก็ตาม การหาเสียงสนับสนุนอย่างต่อเนื่องและการร้องขอกำลังพลเพิ่มเติมจากกองพันแรงงานของอังกฤษในปี 2459 ได้เปิดโอกาสให้มีการจัดตั้งกำลังพลผิวสีขึ้น นำไปสู่กองพันก่อสร้างที่ 2 ที่คอยให้การสนับสนุนกองพันป่าไม้แคนาดาในป่าของฝรั่งเศส พวกเขามอบความช่วยเหลือด้านงานไม้และงานกัด รวมถึงการขนถ่ายและขนส่งไม้สำเร็จรูปทางรถไฟ ไม้เหล่านี้มีความสำคัญทางการรบของฝ่ายสัมพันธมิตร นำไปใช้เพื่อปูร่องลึก สนับสนุนเสาสังเกตการณ์ และใช้สำหรับสร้างอากาศยานในฝรั่งเศส สมาชิกกองพันบางส่วนยังได้ร่วมต่อสู้และได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยกองกำลังรบนอกประเทศของแคนาดา กองพันก่อสร้างที่ 2 ได้เดินทางกลับไปยังแคนาดาในต้นปี 2462 และถูกยกเลิกต่อมาในปี 2463

หลังจากที่ได้สืบค้น เขียน เล่าเรื่อง และให้การสนับสนุน เหล่าลูกหลานของกองพันก่อสร้างที่ 2 และพันธมิตรของพวกเขาประสบความสำเร็จ ในการรณรงค์ให้ออกคำขอโทษอย่างเป็นทางการต่อการเหยียดเชื้อชาติและการเลือกปฏิบัติที่สมาชิกของกองพันต้องเผชิญในอดีต โดยนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา และนางอนิตา อนันด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแคนาดา ได้ร่วมส่งมอบคำขอโทษฉบับทางการต่อเหล่าลูกหลานของสมาชิกกองพันในเมืองทรูโร รัฐโนวาสโกเชีย เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2565

เนื่องในโอกาสเดือนแห่งการรำลึกประวัติศาสตร์คนผิวดำประจำปี 2566 โรงกษาปณ์แคนาดาจึงได้ออกเหรียญเงินเกรดดี ราคาหน้าเหรียญ 20 ดอลลาร์ ชุดเชิดชูประวัติศาสตร์คนผิวดำ (Commemorating Black History) เพื่อยกย่องการรับใช้ชาติและการเสียสละของสมาชิกกองพันก่อสร้างที่ 2 อันทรงเกียรติ โดยเปิดให้ผู้ที่สนใจร่วมเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้

"ในช่วงเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ชายผิวดำหลายคนต่างต้องการร่วมรับใช้ชาติ แต่หลายคนกลับถูกปฏิเสธเนื่องจากการเหยียดสีผิว อย่างไรก็ตาม การหาเสียงสนับสนุนเป็นเวลาหลายปีทำให้กองพันก่อสร้างที่ 2 ได้รับการอนุมัติในปี 2459" รัสเซลล์ กรอสส์ (Russell Grosse) ผู้อำนวยการบริหารของศูนย์วัฒนธรรมผิวดำแห่งรัฐโนวาสโกเชีย กล่าว "ผู้กล้าเหล่านี้ต้องต่อสู้เพื่อสิทธิในการรับใช้ชาติ พวกเขาให้การสนับสนุนด้านการขนส่งอันมีค่าแก่ทหารแนวหน้า เหรียญนี้จึงเป็นการระลึกถึงประวัติศาสตร์ที่สำคัญของกองพันก่อสร้างที่ 2 และสานต่อคำขอโทษอย่างเป็นทางการที่มอบให้โดยรัฐบาลแคนาดาเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา เพื่อให้แน่ใจว่าประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญนี้จะเป็นที่จดจำ"

"ผู้ที่ยอมก้าวออกมาเพื่อรับใช้ประเทศของเราสมควรได้รับการยกย่อง อย่างไรก็ตาม สมาชิกกองพันก่อสร้างที่ 2 กลับไม่ได้รับการยอมรับที่พวกเขาสมควรได้รับมาเป็นเวลานานเกินไป ด้วยเหตุผลเพียงสีผิวของพวกเขา" คริสเตีย ฟรีแลนด์ (Chrystia Freeland) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแคนาดา กล่าว "เรามีหน้าที่ที่จะต้องระลึกถึงการเสียสละของพวกเขา และเหรียญนี้จะช่วยให้แน่ใจว่า ชาวแคนาดาจำนวนมากขึ้นจะได้เรียนรู้และยกย่องผู้ที่ต่อสู้เพื่อสิทธิในการปฏิบัติหน้าที่ในเครื่องแบบอย่างกล้าหาญ"

"แม้จะต้องเผชิญกับการเลือกปฏิบัติทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการปฏิบัติหน้าที่ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เหล่าสมาชิกกองพันก่อสร้างที่ 2 ต่างได้ทำหน้าที่รับใช้ชาติอย่างกล้าหาญ และพวกเราต่างเป็นหนี้บุญคุณพวกเขาตลอดไป" อนิตา อนันด์ (Anita Anand) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแคนาดา กล่าว "เมื่อรวมกับคำขอโทษอย่างเป็นทางการโดยรัฐบาลแคนาดาต่อสมาชิกและลูกหลานของกองพันเมื่อฤดูร้อนที่แล้ว เหรียญนี้จะเป็นเครื่องรำลึกถึงคุณูปการอันยิ่งใหญ่ของพวกเขา และทำให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของกองพันมากขึ้น วันนี้ เราขอยืนยันอีกครั้งถึงความรู้สึกขอบคุณต่อผู้กล้าเหล่านี้ และให้คำมั่นว่าจะไม่มีวันลืมบทบาทของพวกเขาในการรับใช้แคนาดาตลอดไป"

สำหรับด้านหลังของเหรียญเงินบริสุทธิ์ 99.99% นี้ ได้รับการออกแบบโดยศิลปินควาเม เดลฟิช (Kwame Delfish) ประกอบด้วยรูปทหารกองพันก่อสร้างที่ 2 กำลังยืนตรงอยู่ระหว่างรางรถไฟสองราง โดยมีตราประจำกองพันปรากฏเด่นชัดอยู่ทางด้านขวา ติดกับภูมิประเทศของแคว้นจูราในฝรั่งเศส ที่ซึ่งกองพันได้ให้การช่วยเหลือในการตัดไม้และสร้างทางรถไฟ ขณะที่ทางด้านซ้ายประกอบด้วยรูปสมาชิกกองพันเดินสวนสนามก่อนการส่งกำลังพลไปประจำการในยุโรปเมื่อเดือนมีนาคม 2460

"การมีอยู่และความสำเร็จของทหารกองพันก่อสร้างที่ 2 เป็นอีกส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์แคนาดาที่ต้องได้รับการยอมรับ เฉลิมฉลอง และยกย่องตลอดไป" ควาเม เดลฟิช ศิลปินผู้วาดภาพประกอบ กล่าว "ผมหวังว่าจะสามารถถ่ายทอดความแข็งแกร่งและความกล้าหาญของพวกเขาลงบนเหรียญนี้ได้ และสร้างความตระหนักเกี่ยวกับบทบาทที่สำคัญของกองพันก่อสร้างที่ 2 ในกองทัพแคนาดา"

ด้านหน้าของเหรียญมาพร้อมการออกแบบลวดลายใหม่ ซึ่งจะปรากฏบนเหรียญนักสะสมและเหรียญโลหะมีค่าประจำปี 2566 จนกว่าเหรียญแคนาดาจะมีหน้าเหรียญใหม่แบบถาวร โดยเป็นภาพจำลองของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่ออกแบบโดยซูซานนา บลันท์ (Susanna Blunt) ตั้งอยู่บนพื้นหลังลายใบเมเปิล มาพร้อมกับเครื่องหมายพิเศษที่ประกอบด้วยปีค.ศ. 1952 และ 2022 คั่นด้วยไข่มุกสี่เม็ดที่เป็นสัญลักษณ์ของภาพจำลองทั้งสี่บนเหรียญแคนาดาตลอดรัชสมัยการปกครอง

"โรงกษาปณ์แคนาดาภูมิใจที่ได้สนับสนุนการเฉลิมฉลองเดือนแห่งประวัติศาสตร์คนผิวดำในระดับชาติด้วยการออกเหรียญเงินที่สวยงาม ซึ่งสร้างการตระหนักรู้ที่จำเป็นอย่างมากสำหรับเรื่องราวของกองพันก่อสร้างที่ 2" มารี เลอเมย์ (Marie Lemay) ประธานและซีอีโอของโรงกษาปณ์ของแคนาดา กล่าว "เหรียญที่ออกใหม่แต่ละครั้งได้เล่าเรื่องราวที่น่าทึ่งในประวัติศาสตร์ของแคนาดา และเรายินดีที่ได้บันทึกความสำเร็จอันทรงเกียรติของทหารกองพันก่อสร้างที่ 2 อย่างถาวรไว้บนเหรียญเงินที่สวยงามที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้"

เหรียญเงินเกรดดี ราคาหน้าเหรียญ 20 ดอลลาร์ ประจำปี 2566 ชุดเชิดชูประวัติศาสตร์คนผิวดำ กองพันก่อสร้างที่ 2 นี้ จำกัดการผลิตที่ 5,500 เหรียญ และจำหน่ายในราคา 99.95 ดอลลาร์ ผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ โดยติดต่อโรงกษาปณ์แคนาดาที่หมายเลข 1-800-267-1871 ในแคนาดา หรือ 1-800-268-6468 ในสหรัฐอเมริกา หรือที่ www.mint.ca นอกจากนี้ ยังมีจำหน่ายที่ร้านบูติกของโรงกษาปณ์แคนาดาในออตตาวาและวินนิเพก ที่ทำการไปรษณีย์แคนาดาที่ร่วมรายการ และผ่านเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายและผู้จัดจำหน่ายทั่วโลกของโรงกษาปณ์แคนาดา

ดูรูปเหรียญได้ที่นี่

เกี่ยวกับโรงกษาปณ์แคนาดา

โรงกษาปณ์แคนาดา (Royal Canadian Mint) เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ (Crown Corporation) ที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องการผลิตเหรียญกษาปณ์และการจำหน่ายเหรียญหมุนเวียนของแคนาดา โรงกษาปณ์ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในโรงกษาปณ์ขนาดใหญ่และมีความหลากหลายมากที่สุดในโลก โดยให้บริการผลิตภัณฑ์เหรียญหลายประเภทที่มีความเฉพาะเจาะจงและมีคุณภาพสูง รวมถึงบริการที่เกี่ยวข้องในระดับนานาชาติ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของโรงกษาปณ์แคนาดา กรุณาเข้าชม www.mint.ca ติดตามข่าวสารของโรงกษาปณ์แคนาดาได้ทาง ทวิตเตอร์เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม

สื่อมวลชนติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่: อเล็กซ์ รีฟส์ (Alex Reeves) ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์ โรงกษาปณ์แคนาดา โทร: 613-884-6370 อีเมล: reeves@mint.ca

โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1991497/Royal_Canadian_Mint_ROYAL_CANADIAN_MINT_HONOURS_BLACK_HISTORY_WI.jpg

Shenzhen Delegation Went to Singapore to Conduct Economic and Trade Exchanges, Seizing Opportunities for Development and Cooperation


      On January 28, the first day of work in the Lunar New Year, the Guangdong Provincial Committee of the CPC and the People's Government of Guangdong Province held a provincial High-quality Development Conference to mobilize and deploy the key work throughout the year, so as to promote the whole province to form an enterprising trend of catching up with each other on the road of high-quality development. On the day of the Conference, at the invitation of the Embassy of China in Singapore, Commerce Bureau of Shenzhen Municipality and Nanshan District Government organized enterprises to go to Singapore for city promotion, product promotion, enterprise visits and economic and trade exchanges.

The Embassy of China in Singapore held the 2023 "Prosperity and New Vision" Spring Festival Cultural Celebration in Singapore. Through the on-site production and display of intangible cultural heritage, the modern aesthetic interpretation of traditional cultural content and the interaction of high-tech forms, the brilliant achievements of creative transformation and innovative development of Chinese traditional culture are displayed, which shows the charm of contemporary Chinese culture. Taking advantage of the opportunity of the event, the Shenzhen delegation set up a Shenzhen exhibition hall with the theme of "Carry Forward Shenzhen's Stories" to tell the Shenzhen stories well, highlight the characteristics of Shenzhen and show the Shenzhen brands.

On January 29, the Shenzhen Exhibition Hall was officially unveiled, showing Singapore the achievements of Shenzhen's 43 years of reform and opening up, and vividly depicting a new picture of Shenzhen's integration of culture and technology. Wang Ruijie (Heng Swee Keat), Deputy Prime Minister and Minister of Economic Policy Coordination of Singapore, and Sun Haiyan, the Ambassador of China to Singapore attended the event.

This Shenzhen Exhibition Hall is sponsored by divided into three exhibition areas:"New Story - Theme Area", "New Technology - Exhibition Area" and "New Experience - Interaction Area".

Next, the Shenzhen delegation will also visit well-known institutions and enterprises such as Singapore Information and Media Development Bureau, Singapore Keppel Enterprise, and Singapore Yanlord Group to discuss and exchange on Shenzhen-Singapore smart city cooperation and the construction of Shenzhen-Singapore high-tech park, give full play to the advantages of Shenzhen and Singapore, deepen the docking and cooperation between the two sides, and achieve mutual benefit and win-win results.

Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1991961/1.jpg
Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1991962/2.jpg

ORFALI BROS BISTRO TAKES NO.1 SPOT AS THE MIDDLE EAST & NORTH AFRICA'S 50 BEST RESTAURANTS LIST IS REVEALED FOR 2023

 

  • Orfali Bros Bistro in Dubai, UAE, is named The Best Restaurant in Middle East & North Africa 2023
  • The list includes winners from 14 different cities across the MENA region, from Marrakech and Tunis to Riyadh and Kuwait City
  • OCD Restaurant in Tel Aviv, Israel, is awarded the Sustainable Restaurant Award, sponsored by Arla Pro
  • Em Sherif in Beirut, Lebanon, wins the Art of Hospitality Award
  • Moustafa Elrefaey, is the winner of the Estrella Damm N.A. Chefs' Choice Award
  • Karim Bourgi takes home the MENA's Best Pastry Chef Award, sponsored by Valrhona
  • Fusions by Tala in Manama, Bahrain wins the Highest Climber Award, rising 36 spots to No.3
  • Ossiano in Dubai is the recipient of the Highest New Entry Award, sponsored by Aspire Lifestyles, after landing at No.4

The culinary stars of the restaurant world converged in the UAE capital of Abu Dhabi this evening for the second edition of the Middle East & North Africa's 50 Best Restaurants awards, sponsored by S.Pellegrino & Acqua Panna. Restaurants from across 14 cities have been voted as the 50 best dining destinations in MENA at an event hosted in partnership with Department of Culture and Tourism - Abu Dhabi, culminating in the announcement of the region's No.1 restaurant, Orfali Bros Bistro.

Orfali Bros Bistro, an unlicensed gastronomic bistro and test kitchen located in Dubai's contemporary Wasl 51 neighbourhood, was founded in 2021 by three brothers originally from Syria: Mohammad, Wassim and Omar Orfali. The menu features dishes with a core Middle Eastern theme paying homage to the brothers' Aleppian roots, while capturing the multiculturalism and avant-garde spirit of Dubai.

The fine dining Indian restaurant Tresind Studio in The Palm Jumeirah, Dubai, claims the No.2 spot, followed by Fusions by Tala in Manama (No.3). View the full list here: https://www.theworlds50best.com/mena/en/lists/1-50

William Drew, Director of Content for Middle East & North Africa's 50 Best Restaurants, says: "It's a great honour to announce that Orfali Bros Bistro has made it to the No.1 spot. There is no doubt that it sets a new standard in creativity, innovation and food presentation, coupled with an intimate service style, and we are thrilled to celebrate its brilliance alongside so many others in the region."

Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1992192/50_Best.jpg
Logo - https://mma.prnewswire.com/media/1983205/50Best_Mena_2023_Logo.jpg
PDF - https://mma.prnewswire.com/media/1991092/MENA_50_BEST.pdf

Media centre access:
https://mediacentre.theworlds50best.com

ROYAL CANADIAN MINT HONOURS BLACK HISTORY WITH COIN PAYING TRIBUTE TO THE BLACK CANADIAN VOLUNTEERS OF NO. 2 CONSTRUCTION BATTALION

      No. 2 Construction Battalion, the first and only all-Black battalion-sized unit in Canadian military history, is being remembered on the 2023 issue of the Royal Canadian Mint's ongoing Commemorating Black History series. In the opening years of the First World War, hundreds of Black Canadians eagerly tried to enlist for Canada, but racism prevented many from joining their white compatriots on the battlefields overseas. In 1916, persistent lobbying and a request from the British for labour battalions provided the opportunity for a Black unit to be created. No. 2 Construction battalion would serve alongside the Canadian Forestry Corps in the forests of France. They helped with lumber and milling operations, including the loading and transportation of finished timber by rail. This timber was vital to the Allied war effort, lining trenches, supporting observation posts and for the construction of aircraft in France. A few battalion members even fought and suffered casualties while serving with other Canadian Expeditionary Force units. The battalion returned to Canada in early 1919 and was disbanded in 1920.

After much research, writing, story telling and advocacy, descendants of No. 2 Construction Battalion and their allies successfully campaigned for a formal apology for the racism and discrimination endured by battalion members, which the Right Honourable Justin Trudeau, Prime Minister of Canada and the Honourable Anita Anand, Minister of National Defence, delivered before descendants assembled in Truro, Nova Scotia on July 9, 2022.

Released in conjunction with the annual observance of Black History Month, the 2023 $20 Fine Silver Coin - Commemorating Black History honours the service and sacrifice of the proud members of No. 2 Construction Battalion. It is available as of today.

"At the outbreak of the First World War, many Black men felt the call to serve their country. Many were rejected due to anti-Black racism. After years of lobbying, No. 2 Construction Battalion was authorized in 1916," said Russell Grosse, Executive Director of the Black Cultural Centre for Nova Scotia. "These brave men had to fight for the right to serve, they provided valuable logistical support to the frontlines. This coin commemorates the remarkable legacy of No. 2 and builds on the formal Apology that was given by the Government of Canada this past summer to ensure that this important history is remembered."

"Those who step forward to serve our country deserve to be honoured. But for far too long—and for no reason but the colour of their skin—the men of the No. 2 Construction Battalion did not receive the recognition that their service to Canada deserved," said the Honourable Chrystia Freeland, Deputy Prime Minister and Minister of Finance. "We have a responsibility to remember their sacrifice, and this coin will help ensure that more Canadians learn about and pay tribute to those who fought for the right to so bravely serve in uniform."

"Despite facing discrimination before, during, and after their service in the Great War, the men of No. 2 Construction Battalion bravely served our country. We are forever in their debt," said the Honourable Anita Anand, Minister of National Defence. "Together with Canada's official apology to the Battalion's members and descendants last summer, this coin will commemorate their remarkable contributions and help raise awareness of the Battalion. Today, we reaffirm our gratitude to these courageous men, and vow to never forget their service to Canada."

The reverse design of this 99.99% pure silver coin, by artist Kwame Delfish, features a soldier of No. 2 Construction Battalion, standing at attention between two railroad tracks. His battalion's cap badge is prominently displayed on his right, adjacent to a landscape of France's Jura region, where the battalion assisted with logging and building a railroad. To his left, battalion comrades marching in a parade prior to their March 1917 deployment to Europe.

"The existence and accomplishments of the men of No. 2 Construction Battalion is another part of Canadian history that is to be acknowledged, celebrated and honoured -forever," said artist Kwame Delfish. "I hope I was able to capture these honourable men in a way that represents their strength and resilience, while also raising awareness about the important role that No. 2 Construction Battalion had in the Canadian armed forces."

The obverse of the coin features an updated obverse design that will appear on 2023 collector and bullion coins until a new permanent obverse is adopted on Canadian coins.  The Susanna Blunt-designed effigy of Queen Elizabeth II, set against a repeating maple leaf-patterned background, is accompanied by a special marking consisting of a vertical inscription of the dates "1952" and "2022", separated by four pearls symbolizing the four effigies that have graced Canadian coins throughout the reign. 

"The Royal Canadian Mint is proud to continue supporting the national celebration of Black History Month with a beautiful silver coin that shines a much-needed spotlight on the story of No. 2 Construction Battalion to life," said Marie Lemay, President and CEO of the Royal Canadian Mint. "Each new coin adds a piece to the incredible mosaic that is Canada's history and we are pleased that we can permanently record the honourable achievements of the men of No. 2 Construction Battalion on a beautiful silver coin that can be passed down from generation to generation." 

Limited to a mintage of 5,500, the 2023 $20 Fine Silver Coin Commemorating Black History - The No. 2 Construction Battalion retails for $99.95. This new collectible may be ordered as of today by contacting the Mint at 1-800-267-1871 in Canada, 1-800-268-6468 in the US, or at www.mint.ca. It will also be available at the Royal Canadian Mint's boutiques in Ottawa and Winnipeg, at participating Canada Post outlets, and through the Mint's global network of dealers and distributors.

Images of this coin are available here.

About the Royal Canadian Mint

The Royal Canadian Mint is the Crown corporation responsible for the minting and distribution of Canada's circulation coins. The Mint is one of the largest and most versatile mints in the world, offering a wide range of specialized, high quality coinage products and related services on an international scale. For more information on the Mint, its products and services, visit www.mint.ca.  Follow the Mint on Twitter, Facebook and Instagram.

Media are asked to contact: Alex Reeves, Senior Manager, Public Affairs, Telephone: 613-884-6370, reeves@mint.ca

Logo - https://mma.prnewswire.com/media/1991497/Royal_Canadian_Mint_ROYAL_CANADIAN_MINT_HONOURS_BLACK_HISTORY_WI.jpg

พาน็อปติกเอไอประกาศปิดการระดมทุนรอบใหม่ นำโดยกองทุนผู้ประกอบการอาลีบาบาฮ่องกง และโกบี พาร์ทเนอร์ส จีบีเอ มุ่งใช้นวัตกรรมดิจิทัลพัฒนาการดูแลสุขภาพทางไกล

พาน็อปติกเอไอ (PanopticAI) สตาร์ตอัปผู้ให้บริการติดตามสุขภาพและสุขภาวะชั้นนำของฮ่องกง ประกาศปิดการระดมทุนรอบซีด (seed) นำโดยกองทุนผู้ประกอบการอาลีบาบาฮ่องกง (Alibaba Hong Kong Entrepreneurs Fund หรือ AEF) และโกบี พาร์ทเนอร์ส จีบีเอ (Gobi Partners GBA) หรือโกบี จีบีเอ ร่วมกับกองทุนผู้ประกอบการ (E-Fund) ของมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกง (HKUST) และนักลงทุนชั้นนำรายอื่น ๆ นับเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาในแวดวงบริการสุขภาพดิจิทัล

พาน็อปติกเอไอก่อตั้งโดยนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกง ซึ่งกำลังคิดค้นนวัตกรรมสุขภาพดิจิทัลแบบใหม่ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานได้รับข้อมูลวิเคราะห์สุขภาพของตนในองค์รวม บริษัทฯ ได้คิดค้นโซลูชันติดตามสุขภาพและสุขภาวะผ่านกล้องขึ้นมาในชื่อไวทัลส์ (Vitals) เพื่อให้ทุกคนดูแลสุขภาพได้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มรายได้ต่ำและกลุ่มเปราะบางทั่วโลก ด้วยบริการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพและราคาเอื้อมถึง ทั้งยังเข้าถึงได้ง่ายผ่านอุปกรณ์ที่ใช้กันทุกวัน

เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้เร่งกลยุทธ์การกำกับดูแลของบริษัท และเสริมแกร่งบทบาททางกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในฮ่องกง เขตเศรษฐกิจพิเศษอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (Greater Bay Area) และตลาดเกิดใหม่อื่น ๆ โดยพาน็อปติกเอไอยังคงทำงานร่วมกับลูกค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การแพทย์ทางไกล สุขภาวะองค์กร การก่อสร้าง ประกันภัย สมรรถภาพทางกาย สุขภาพจิต และอื่น ๆ ทีมงานของพาน็อปติกเอไอได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลเกลนอีเกิลส์ฮ่องกง (Gleneagles Hospital Hong Kong) เพื่อผนวกรวมเทคโนโลยีของพาน็อปติกเอไอลงในแอปมือถือของผู้ป่วยที่ใช้บริการโรงพยาบาล เปิดโอกาสให้ผู้ใช้วัดสัญญาณชีพของตนเองได้เพียงแค่ใช้กล้องสมาร์ทโฟนสแกนใบหน้า นอกจากนี้ ผู้ค้าปลีกสินค้าความงามรายใหญ่ที่สุดในฮ่องกงอย่างแมนนิงส์ (Mannings) ยังใช้เทคโนโลยีของพาน็อปติกเอไอในการให้บริการคำปรึกษาทางสุขภาพ เพื่อสร้างสถานที่ทำงานที่ชาญฉลาดและสุขภาพดีขึ้น นอกจากนี้ พาน็อปติกเอไอยังสำรวจความร่วมมือกับบริษัทประกันภัยทั่วโลกในการให้บริการโซลูชันใหม่ ๆ เพื่อให้ประมวลผลได้โดยตรง รับประกันภัยได้แบบไดนามิก และยกระดับประสบการณ์ลูกค้า

"พันธกิจของพาน็อปติกเอไอคือการทำให้การวินิจฉัยทางการแพทย์ทางไกลมีความแม่นยำ เข้าถึงได้ และยืดหยุ่นด้วยไวทัลส์ ซึ่งเป็นชุดซอฟต์แวร์ตรวจสุขภาพด้วย AI ที่ไม่ขึ้นกับฮาร์ดแวร์ (hardware-agnostic) ไวทัลส์ได้รับการออกแบบให้เป็นโซลูชันต้นทุนต่ำ อุปสรรคต่ำ และพร้อมรองรับอนาคตเพื่อธุรกิจและผู้บริโภค ไวทัลส์ปฏิวัติวิธีการตรวจ แปลผล และจัดการสุขภาพของเรา ทั้งนี้ ด้วยการสนับสนุนที่เราได้รับจาก AEF, Gobi GBA, E-Fund และกลุ่มนักลงทุนรายใหม่ เป้าหมายของเราคือการได้รับความไว้วางใจในระดับสากลว่าเป็นตัวเลือกของธุรกิจและผู้บริโภคที่ต้องการปลดปล่อยศักยภาพด้านสุขภาพอย่างเต็มที่" ไคล์ หว่อง (Kyle Wong) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งพาน็อปติกเอไอ กล่าว

ซินดี โจว (Cindy Chow) กรรมการบริหารของกองทุนผู้ประกอบการอาลีบาบาฮ่องกง กล่าวว่า "เทคโนโลยี AI กำลังถูกนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายในโลกแห่งความเป็นจริง และอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เราเชื่อว่าพาน็อปติกเอไอจะสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการตรวจสุขภาพแบบไร้สัมผัสเพื่อส่งมอบการดูแลที่มีคุณภาพและยืดหยุ่นให้กับสาธารณชน"

ชือป๋อ ถัง (Chibo Tang) หุ้นส่วนผู้จัดการของโกบี พาร์ทเนอร์ส จีบีเอ กล่าวว่า "อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพดิจิทัลต้องการนวัตกรรมที่พลิกโฉมวงการ เราเชื่อว่าความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของพาน็อปติกเอไอมีศักยภาพที่จะสร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออนาคตของการดูแลสุขภาพทางไกล ตลอดจนยกระดับการจัดการความเสี่ยงด้านสุขภาพทั่วโลก"

เกี่ยวกับพาน็อปติกเอไอ

พาน็อปติกเอไอ (PanopticAI) คือผู้พัฒนาไวทัลส์ (Vitals) โซลูชันตรวจสุขภาพโดยใช้กล้องที่ได้รับรางวัล ซึ่งสามารถตรวจ แปลผล และจัดการสุขภาพส่วนบุคคลแบบไม่ต้องสัมผัส มีราคาไม่แพง และใช้ง่ายเหมือนยิ้มให้กล้อง ไวทัลส์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และการประมวลผลสัญญาณที่ทันสมัย ให้ข้อมูลตัวบ่งชี้ทางชีวภาพดิจิทัลที่ครอบคลุมด้วยความแม่นยำระดับทางการแพทย์ภายในเวลาไม่ถึง 30 วินาที พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาท และอีกมากมาย ทั้งนี้ พาน็อปติกเอไอมีรากฐานที่มั่นคงในแวดวงวิชาการและวิทยาศาสตร์ บริษัทขับเคลื่อนยุคใหม่ของโซลูชันประสิทธิภาพสูงด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากการวิจัยทางวิชาการและทางคลินิก เพื่อจัดการกับความท้าทายในปัจจุบันและตอบสนองความต้องการในอนาคต

ข้อมูลเพิ่มเติม
เว็บไซต์: www.panoptic.ai 
อีเมล: kylewong@panoptic.ai 
โทร: +852 92313712


"ปุกกา พัซเซิล แอดเวนเจอร์" พัซเซิลเกมมือถือใหม่สุดน่ารัก เปิดให้เล่นได้ทั่วโลก 26 มกราคมนี้


เทควัน คอมปะนี (TAKEONE COMPANY) ซึ่งมีมิน-แจ จอง (Min-Chae Jung) เป็นซีอีโอ ผู้พัฒนาเกมมือถือบีทีเอส เวิลด์ (BTS World) ประกาศว่า ปุกกา พัซเซิล แอดเวนเจอร์ (Pucca Puzzle Adventure) ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้พัฒนาและจัดจำหน่าย ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการทั่วโลกบนกูเกิล เพลย์ และแอปเปิ้ล แอป สโตร์ ในวันที่ 26 มกราคม

ปุกกา พัซเซิล แอดเวนเจอร์ เป็นเกมที่มีกราฟิกสุดน่ารัก พร้อมตัวละครยอดนิยมของเกาหลีอย่างปุกกา (Pucca) บอกเล่าเรื่องราวของปุกกา ตัวละครหลักที่ออกผจญภัยเพื่อเอาชนะบอสตัวร้ายอย่างดอง คิง (Dong King) ปุกกาเป็นตัวการ์ตูนที่เป็นที่รู้จักจากผม 'ทรงปุกกา' อันเป็นเอกลักษณ์ และเป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ขึ้นแท่นอันดับหนึ่ง 'ตัวละครเกาหลีที่ได้รับความนิยมในระดับโลก' รวม 6 ปีติดต่อกันไปจนถึงปี 2564

ปุกกา พัซเซิล แอดเวนเจอร์ เป็นเกมพัซเซิล RPG แต่ละด่านจะต้องจับคู่พัซเซิลสามตัวเพื่อเคลียร์ไปให้ได้ ผู้เล่นจะต้องอัพเกรดตัวละครและใช้ทักษะและลักษณะเฉพาะของตนในการเล่นเกมนี้ เกมนี้มีตัวละครสุดน่ารักและมีเอกลักษณ์กว่า 100 ประเภท แต่ละตัวมีทักษะเฉพาะตัวที่น่าทึ่ง มาพร้อมภารกิจไขปริศนาที่ทำให้ผู้เล่นเพลิดเพลินไปกับการไขปริศนาอย่างแท้จริง ตัวเกมยังมาพร้อมกับโหมดท้าทายที่ผู้เล่นสามารถต่อสู้และเอาชนะบอสที่ทรงพลังในเกมเพื่อแข่งขันกันเอง และยังมีอีกหลายโหมด เช่น สะสม พัฒนา และตกแต่งหมู่บ้านของตนเองด้วยการรวบรวมไอเท็มต่าง ๆ ของหมู่บ้าน

ปุกกา พัซเซิล แอดเวนเจอร์ จะเปิดอีเวนต์ล็อกอิน 7 วันเป็นเวลาจำกัด เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวเกมนี้ให้เล่นได้ทั่วโลก โดยผู้เล่นจะได้รับอัญมณี โทเคนสุ่มกาชาตัวละคร และไอเท็มอื่น ๆ ในเกม นอกจากนี้ ตัวเกมยังมาพร้อมด่านพิเศษจากความร่วมมือกับบอยแบนด์วงเทรเชอร์ (TREASURE) ของค่ายวายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ (YG Entertainment) ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการของเกม

เว็บไซต์และบัญชีโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของเกมปุกกา พัซเซิล แอดเวนเจอร์

-  เว็บไซต์หลัก: https://url.kr/g3cizk 

-  ทวิตเตอร์: https://url.kr/vzwmny 

-  เฟซบุ๊ก: https://url.kr/sh72nt 

-  วิดีโอโปรโมทเกม: https://url.kr/vlt7ms 

เกี่ยวกับเทควัน คอมปะนี

เทควัน คอมปะนี (TAKEONE COMPANY) ได้สร้างเกมมือถือบีทีเอส เวิลด์ (BTS World) เมื่อปี 2562 โดยมียอดดาวน์โหลดถึง 13 ล้านครั้งทั่วโลก และทำยอดขายมากที่สุดในประวัติศาสตร์เกมไอดอลเคป็อป โดยในเดือนมิถุนายน 2565 เทควัน คอมปะนี ได้ตกลงร่วมมือในโปรเจกต์เอ็นเอฟทีคอนเทนต์ระดับโลกอย่างซอมบี คัลเจอร์ คลับ (Zombie Culture Club) ร่วมกับวายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ และในปี 2566 เทควัน คอมปะนี เตรียมเปิดตัวพัซเซิลเกมระดับโลกจากตัวละครเกาหลีอย่างปุกกา (Pucca) และอีกหนึ่งเกมที่มาพร้อมไอดอลเคป็อปชื่อดัง

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1987255/Official_Key_Art_Pucca_Puzzle_Adventure.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1987256/Intro_Screenshots_Pucca_Puzzle_Adventure.jpg


Official Global Release of the New Mobile Puzzle Game 'Pucca Puzzle Adventure' on January 26


On January 26, TAKEONE COMPANY (CEO: Min-Chae Jung), the developer of the mobile game 'BTS World', announced that 'Pucca Puzzle Adventure' developed and published by the company was officially released globally on Google Play and Apple App Store.

Pucca Puzzle Adventure is a game featuring adorable graphics along with the famous Korean character 'Pucca', and tells the story of the main character Pucca embarking on an adventure to defeat the evil boss 'Dong King'. 'Pucca' is a cartoon character well known for her iconic 'Pucca hair' and it is a globally popular character that was ranked number 1 on the list of 'Globally Popular Korean Characters' for six consecutive years until 2021.

This is a puzzle RPG game with each level being cleared by a match of three puzzles and requires the players to upgrade their characters and use their skills and characteristics. The game features over 100 types of cute and unique characters each with their own dazzling unique skills, and puzzle quests that allow players to purely enjoy solving puzzles. The game also comes with a challenge mode where players can combat and defeat powerful in-game bosses to compete against each other, and other modes such as collecting, developing, and decorating their own unique villages by collecting various village items.

Pucca Puzzle Adventure will launch a limited-time login event for seven days in celebration of its global release where players are rewarded gems, character gacha draw tokens, and other in-game items. Also, the game will feature an exclusive level created from collaboration with the boy band 'TREASURE' formed by YG Entertainment. More information is available on the official game website.

Pucca Puzzle Adventure Official websites and social media accounts

  • Official website: https://url.kr/g3cizk
  • Twitter: https://url.kr/vzwmny
  • Facebook: https://url.kr/sh72nt
  • Official trailer video: https://url.kr/vlt7ms

About TAKEONE COMPANY

In 2019, TAKEONE COMPANY produced the mobile game 'BTS World', which recorded 13 million downloads worldwide and the largest sales in the history of K-POP idol games. And in June 2022, TAKEONE COMPANY agreed on a partnership with the global content NFT project 'Zombie Culture Club' along with YG Entertainment. In 2023, TAKEONE COMPANY is planning to launch a global puzzle game featuring the Korean character 'Pucca' along with a game featuring famous K-POP idols.

Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1987255/Official_Key_Art_Pucca_Puzzle_Adventure.jpg
Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1987256/Intro_Screenshots_Pucca_Puzzle_Adventure.jpg


Monday, January 30, 2023

เอนแนปเตอร์ เอจี คว้าออเดอร์รายใหญ่จากเกาหลีใต้

  • จำหน่าย AEM Multicore 2 เครื่อง พร้อมกำลังการผลิตด้วยอิเล็กโตรไลซิส 2 เมกะวัตต์
  • เป็นบริษัทจากยุโรปเพียงแห่งเดียวในโครงการนำร่องด้านไฮโดรเจนของเกาหลีใต้
  • เยสตีที่เป็นพันธมิตรการบูรณาการมายาวนานจะเป็นผู้ดำเนินการติดตั้ง

บริษัทเอนแนปเตอร์ เอจี หรือ Enapter AG (ISIN:DE000A255G02) ร่วมกับบริษัทพันธมิตรเยสตี (YEST) ได้รับคำสั่งซื้อจากเกาหลีใต้ให้ทำการส่งมอบเครื่องอิเล็กโทรไลเซอร์ AEM 2 เครื่อง กำลังการผลิตรวมระดับ 2 เมกะวัตต์ (MW) โดยระบบดังกล่าวจะนำไปใช้ในโครงการนำร่องไฮโดรเจน 12.5 MW บนเกาะเชจู อันเป็นโครงการที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกระทรวงพาณิชย์ อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้ (Motie) เป็นมูลค่า 6.2 หมื่นล้านวอน (43.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยมีเป้าหมายเพื่อตรวจสอบและเปรียบเทียบการผลิตไฮโดรเจนด้วยเทคโนโลยีอิเล็กโตรไลซิสต่าง ๆ ทั้งนี้ เอนแนปเตอร์ เอจี เป็นซัพพลายเออร์เทคโนโลยีเพียงเจ้าเดียวที่มาจากเยอรมนีหรือยุโรปในบรรดาห้าบริษัทที่ได้รับเลือกให้มีส่วนร่วมในโครงการนี้ โดยระบบดังกล่าวคาดว่าจะผลิตไฮโดรเจนสีเขียวได้มากกว่า 1,000 ตันต่อปี และบริษัทเยสตี ซึ่งคอยสนับสนุนเอนแนปเตอร์มาตั้งแต่ปี 2564 ในฐานะพันธมิตรการบูรณาการนั้น จะเป็นผู้ดำเนินการติดตั้งอิเล็กโทรไลเซอร์ AEM Multicore 2 เครื่อง ในโครงการนำร่องสำหรับเกาหลีใต้ครั้งนี้

เครื่อง AEM Multicore ช่วยให้เอนแนปเตอร์ได้พัฒนาระบบที่คุ้มค่ากว่าแบบเดิม โดยอิเล็กโทรไลเซอร์เครื่องนี้สามารถผลิตไฮโดรเจนสีเขียวได้ราว 450 กก.ต่อวัน และเมื่อใช้หลายเครื่องควบคู่กันไปจะทำให้สามารถขยายสเกลการผลิตไปได้ถึงระดับอุตสาหกรรม

คุณเซบัสเตียน-ยูสตูส ชมิดท์ (Sebastian-Justus Schmidt) ซีอีโอของเอนแนปเตอร์กล่าวว่า "เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำระดับโลกในด้านไฮโดรเจนสีเขียว เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายความเป็นพันธมิตรและกระชับความร่วมมือกับเยสตี โครงการร่วมครั้งนี้จะเป็นรากฐานของเส้นทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในระดับโลก"

คุณชาง ดงบก (Jang Dong-bok) ซีอีโอของเยสตีกล่าวว่า "เรามีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างเอนแนปเตอร์อยู่ข้างเรา เราต้องการเดินหน้ายกระดับความสามารถในการแข่งขันของไฮโดรเจนสีเขียวและใช้ประโยชน์จากการผนึกกำลังครั้งนี้ ซึ่งโครงการริเริ่มของรัฐบาลเกาหลีใต้เป็นรากฐานที่ดีเยี่ยมให้กับเราในด้านดังกล่าว"

เกี่ยวกับเอนแนปเตอร์

เอนแนปเตอร์ (Enapter) คือบริษัทเทคโนโลยีพลังงานแห่งนวัตกรรมผู้ผลิตเครื่องกำเนิดไฮโดรเจนประสิทธิภาพสูง หรือที่รู้จักกันว่าเครื่องอิเล็กโทรไลเซอร์ เพื่อแทนที่เชื้อเพลิงฟอสซิลและผลักดันการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลก โดยเทคโนโลยี Anion Exchange Membrane (AEM) ที่จดสิทธิบัตรและผ่านการพิสูจน์แล้วคือรากฐานของการผลิตเครื่องอิเล็กโทรไลเซอร์ราคาประหยัดที่สามารถผลิตได้เป็นจำนวนมากและพร้อมใช้งานทันที เพื่อรองรับการผลิตไฮโดรเจนสีเขียวทุกที่ ทุกระดับ ระบบแบบโมดูลาร์ดังกล่าวมีการนำไปใช้ทั่วโลกในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น พลังงาน, ยานยนต์, อุตสาหกรรม, ความร้อน และโทรคมนาคม ทั้งนี้ เอนแนปเตอร์มีสำนักงานหลักในเยอรมนีและมีสถานที่ผลิตหลักในอิตาลี

เกี่ยวกับบริษัทเยสตี จำกัด (มหาชน)

เยสตี (YEST) เป็นบริษัทเกาหลีใต้ที่มีองค์ความรู้และประสบการณ์มานานหลายปีในด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และจอแสดงผลโดยใช้เทคโนโลยีล่าสุดในด้านความแม่นยำสูง บริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในเอเชียและจัดหาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แก่ลูกค้าทั่วโลก

บริษัทเยสตี จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ KOSDAQ: A122640

ข้อมูลเพิ่มเติม :

เว็บไซต์: https://www.enapter.com
ทวิตเตอร์: https://twitter.com/Enapter
ลิงด์อิน: https://www.linkedin.com/company/enapter
เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/enapterenergystorage

สื่อมวลชนทั่วไปติดต่อ :

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเอนแนปเตอร์
ไวเทีย คาววัน (Vaitea Cowan)
โทร.: +49 (0) 30 921 008 130
อีเมล: pr@enapter.com 

สื่อการเงินติดต่อ :

ราล์ฟ โดรซ / โดรอน คอฟมันน์ (Ralf Droz / Doron Kaufmann)
บริษัทเอดิคโต จำกัด (edicto GmbH)
โทร.: +49 (0) 69 90 55 05-54
อีเมล: enapter@edicto.de

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1991649/Enapter_MW_AEM_electrolysers.jpg

โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1755651/Enapter_logo.jpg 

Enapter AG wins major order from South Korea

  • Sale of two AEM Multicore, with 2 megawatts electrolysis capacity
  • Only European company in Korean hydrogen pilot project
  • Long-standing integration partner YEST takes over installation

Enapter AG (ISIN:DE000A255G02), together with its partner YEST, has received an order from South Korea for the delivery of two AEM electrolysers with a total capacity of 2 megawatts. The systems will be used in a 12.5 MW hydrogen pilot project on Jeju Island. The demonstration project is supported by the South Korean Ministry of Industry and Trade (Motie) with 62 billion South Korean won (43.3 million US dollars) and aims to investigate and compare hydrogen production with different electrolysis technologies. Among the five companies selected for the project, Enapter AG is the only technology supplier from Germany or Europe. The systems supplied are expected to produce more than 1,000 tonnes of green hydrogen per year. The installation of the two AEM Multicore electrolysers in this pioneering project for South Korea will be carried out by the company YEST, which has already been supporting Enapter as an integration partner since 2021.

With the AEM Multicore, Enapter has developed a cost-efficient alternative to traditional systems. This electrolyser can supply around 450 kg of green hydrogen per day. By using several units in parallel, production can be expanded on an industrial scale.

Sebastian-Justus Schmidt, CEO of Enapter: "Korea is one of the world's leading countries in the field of green hydrogen. We are all the more pleased to expand our partnership with YEST and intensify our cooperation. This joint project is a building block on the global path to carbon neutrality."

Jang Dong-bok, CEO of YEST: "With Enapter, we have a strong partner at our side. We want to further improve the competitiveness of green hydrogen and leverage synergies. The Korean government's initiatives provide us with a very good foundation for this."

About Enapter

Enapter is an innovative energy technology company that manufactures highly efficient hydrogen generators - known as electrolysers - to replace fossil fuels and thus drive the global energy transition. Their patented and proven Anion Exchange Membrane (AEM) technology enables the mass production of cost-effective plug-&-play electrolysers for green hydrogen production at any scale and any place. Their modular systems are already used worldwide in the energy, mobility, industrial, heating and telecommunications sectors. Enapter has its main office in Germany and production site in Italy.

About YEST Co. Ltd.

YEST is a Korea-based company with many years of experience and know-how in the manufacture of semiconductors and displays based on the latest high-precision technology. The company is one of the pioneers in the semiconductor industry in Asia and supplies products to customers worldwide.

YEST Co., Ltd. is listed on the regulated market of the Korean Stock Exchange, KOSAQ: A122640.

Further Information:

Website: https://www.enapter.com
Twitter: https://twitter.com/Enapter
Linkedin: https://www.linkedin.com/company/enapter
Facebook: https://www.facebook.com/enapterenergystorage

General press contact:

Enapter Public Relations
Vaitea Cowan
Tel.: +49 (0) 30 921 008 130
E-Mail: pr@enapter.com 

Financial press contact:

Ralf Droz / Doron Kaufmann 
edicto GmbH
Tel.: +49 (0) 69 90 55 05-54
E-Mail: enapter@edicto.de

Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1991649/Enapter_MW_AEM_electrolysers.jpg

Logo - https://mma.prnewswire.com/media/1991650/Enapter_Logo.jpg 

WEMIX Invests in Intella X

 

  • Intella X, a multichain gaming platform by NEOWIZ, will support WEMIX
  • To expand WEMIX3.0 ecosystem and blockchain gaming

Wemade invested in Intella X, a Web3 gaming platform by NEOWIZ.

Intella X, is a Web3 gaming platform that will make its debut on the Polygon Network, and later expand to WEMIX as part of its future multi-chain expansion. It aims to become a user-friendly platform, and will develop and operate games as well. It will also provide various services such as DEX, NFT launchpad, NFT marketplace, and its proprietary Web3 wallet, Intella X Wallet.

Through this investment, WEMIX3.0 and Intella X will work together to expand the blockchain gaming business in the global market.

This round of investment included many Korean gaming companies, and blockchain companies that go further than conventional gaming sectors in web3, infra, NFT, and funds.

Wemade operates its own mainnet WEMIX3.0 and WEMIX PLAY, a global open blockchain gaming platform. It plans to service 100 games on the platform by the end of Q1 and currently services NFT-based DAO platform NILE and a DeFi service WEMIX.Fi.

About WEMIX

WEMIX is a blockchain gaming platform developed by WEMIX Pte. Ltd, providing services that include a cryptocurrency wallet, decentralised exchange, NFT marketplace, WEMIX token staking programme and the game gateway. WEMIX Pte. Ltd. is a subsidiary of Wemade, the developer and owner of "The Legend of Mir" IP, a highly successful game with over 500 million users. For more information, visit www.wemixnetwork.com 

Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1991732/Intella_X.jpg
Caption - Intella X

"วีมิกซ์" ลงทุนใน "อินเทลลา เอ็กซ์"

 

  • อินเทลลา เอ็กซ์ แพลตฟอร์มเกมแบบมัลติเชนจากนีโอวิซ เตรียมให้การสนับสนุนวีมิกซ์
  • มุ่งขยายอีโคซิสเต็มวีมิกซ์3.0 และเกมบล็อกเชน

วีเมด (Wemade) ประกาศลงทุนในอินเทลลา เอ็กซ์ (Intella X) แพลตฟอร์มเกมเว็บ3 (Web3) ของนีโอวิซ (NEOWIZ)


อินเทลลา เอ็กซ์ เป็นแพลตฟอร์มเกมเว็บ3 ที่เตรียมเปิดตัวครั้งแรกบนเครือข่ายโพลีกอน (Polygon) และจากนั้นจะขยับขยายไปวีมิกซ์ (WEMIX) ตามแผนขยายธุรกิจข้ามเชนในอนาคต โดยมีเป้าหมายเพื่อกลายเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย และจะพัฒนาและให้บริการเกมด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ยังจะให้บริการต่าง ๆ เช่น ตลาดแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ (DEX) เอ็นเอฟที ลอนช์แพด (NFT launchpad) ตลาดซื้อขายเอ็นเอฟที และวอลเล็ตเว็บ3 ที่พัฒนาขึ้นเองอย่างอินเทลลา เอ็กซ์ วอลเล็ต (Intella X Wallet)

สำหรับการลงทุนครั้งนี้ วีมิกซ์3.0 และอินเทลลา เอ็กซ์ จะทำงานร่วมกันเพื่อขยายธุรกิจเกมบล็อกเชนในตลาดโลก

การลงทุนรอบนี้มีบริษัทเกมเกาหลีร่วมด้วยหลายราย รวมถึงบริษัทบล็อกเชนที่ไปไกลกว่าวงการเกมแบบดั้งเดิมในเว็บ3 อินฟรา เอ็นเอฟที ไปจนถึงกลุ่มกองทุนต่าง ๆ

วีเมดเป็นผู้ดูแลเมนเน็ตของตนเองอย่างวีมิกซ์3.0 และวีมิกซ์ เพลย์ (WEMIX PLAY) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเกมบล็อกเชนแบบเปิดระดับโลก โดยมีแผนให้บริการ 100 เกมบนแพลตฟอร์มดังกล่าวภายในปลายไตรมาสแรก ปัจจุบันกำลังให้บริการแพลตฟอร์ม DAO ที่เน้นเอ็นเอฟทีอย่างไนล์ (NILE) และบริการการเงินแบบกระจายศูนย์อย่างวีมิกซ์.ไฟ (WEMIX.Fi)

เกี่ยวกับวีมิกซ์

วีมิกซ์ (WEMIX) เป็นแพลตฟอร์มเกมบล็อกเชนที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท วีมิกซ์ จำกัด (WEMIX Pte. Ltd) โดยให้บริการหลากหลายรูปแบบ ทั้งคริปโทเคอร์เรนซีวอลเล็ต, ตลาดซื้อขายโทเคนไร้คนกลาง, ตลาดซื้อขายเอ็นเอฟที, โปรแกรมทำสเตกกิ้งโทเคนวีมิกซ์ และเกมเกตเวย์ บริษัท วีมิกซ์ จำกัด เป็นบริษัทในเครือวีเมด (Wemade) ผู้พัฒนาและเจ้าของเกมที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีด้วยยอดผู้ใช้งานกว่า 500 ล้านรายอย่าง "เดอะ เลเจนด์ ออฟ เมีย" (The Legend of Mir) ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.wemixnetwork.com

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1991732/Intella_X.jpg

คำบรรยายภาพ - อินเทลลา เอ็กซ์