Thursday, February 27, 2025

SBITO ฉลองครบรอบ 10 ปี ด้วยกิจกรรม “SBITO Ranger เกมล่าพิชิตหุ้น” เพื่อตอบแทนนักลงทุน พร้อมมุ่งสร้างประสบการณ์การลงทุนรูปแบบใหม่ เน้นการแข่งขันเพื่อพัฒนาทักษะการลงทุน ผ่านภารกิจที่เลือกพิชิตด้วยตนเอง

 

บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด (SBITO) เดินหน้าฉลองครบรอบ 10 ปีแห่งความสำเร็จในธุรกิจโบรกเกอร์ในประเทศไทย ด้วยกิจกรรมสุดพิเศษ “SBITO Ranger เกมล่าพิชิตหุ้น” มุ่งสร้างประสบการณ์การลงทุนในรูปแบบใหม่ ที่ผสานความสนุกและความรู้เข้าด้วยกัน เพื่อสนับสนุนให้นักลงทุนทุกระดับสามารถพัฒนาทักษะการลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง

ฉลองครบ 10 ปี อย่างยิ่งใหญ่

ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา SBITO มุ่งมั่นนำเสนอบริการทางการเงินและการลงทุนที่สะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส โดยเน้นการพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์นักลงทุนยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มเทรดออนไลน์ โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลการลงทุน ไปจนถึงการให้ความรู้ผ่านหลักสูตรสัมมนาและเวิร์กช็อปอย่างสม่ำเสมอ การเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลอดทศวรรษที่ผ่านมาสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนไทยมอบให้ SBITO มาโดยตลอด

เปิดตัว “SBITO Ranger เกมล่าพิชิตหุ้น”

เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญและสร้างการมีส่วนร่วมของนักลงทุน SBITO เปิดตัวกิจกรรม “SBITO Ranger เกมล่าพิชิตหุ้น” โดยได้ผสมผสานแนวคิด “Gamification” มาใช้ในการเพิ่มความน่าสนใจและสร้างแรงจูงใจให้กับผู้เข้าร่วม กิจกรรมดังกล่าวถูกออกแบบมาให้ผู้เล่นได้ทดลองค้นหาหุ้นที่มีศักยภาพผ่านภารกิจต่าง ๆ ฝึกฝนทักษะการวิเคราะห์ และแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนนักลงทุนในบรรยากาศที่สนุกสนาน

จุดเด่นของกิจกรรม

  1. ภารกิจท้าทายหลากหลายรูปแบบ: ผู้เข้าร่วมจะได้ทำภารกิจตามช่วงเวลา เพื่อสะสมคะแนนและปลดล็อก “สกิล” การเป็นนักลงทุน
  2. สร้างเครือข่ายนักลงทุน: กิจกรรมจะสนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุน รวมถึงค้นพบหุ้นตัวเด่นจากผู้เชี่ยวชาญและผู้ร่วมกิจกรรมคนอื่น ๆ ในกลุ่ม  SBITO HUB ( แหล่งรวมความรู้และการลงทุน)
  3. ระบบสะสมแต้มและรางวัล: การสะสมแต้มจากภารกิจจะนำไปสู่การได้รับของรางวัล อาทิ Company Visit Exclusive Meeting , Special Event , IPO

มุ่งส่งเสริมความรู้และสร้างวินัยการลงทุน

นอกเหนือจากความสนุก SBITO ให้ความสำคัญกับการสร้างความรู้และวินัยในการลงทุนอย่างยั่งยืน จึงได้จัดเตรียมเนื้อหาการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นบทความ สื่อวิดีโอ รวมถึงการสัมมนาออนไลน์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม “SBITO Ranger เกมล่าพิชิตหุ้น” นำไปประยุกต์ใช้จริงในชีวิตการลงทุนจริง

ความพร้อมรับมืออนาคต

ในวาระครบรอบ 10 ปี SBITO ยังคงตั้งเป้าสู่การเติบโตเป็นโบรกเกอร์ชั้นนำด้านการลงทุนออนไลน์ที่ครบวงจร ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีและบริการด้านการลงทุนอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้ความสำคัญกับการพัฒนานักลงทุนทุกระดับ ส่งเสริมการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับนักลงทุนให้เติบโตและก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน

ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรม “SBITO Ranger เกมล่าพิชิตหุ้นของ SBITO ได้ทางเว็บไซต์และช่องทางโซเชียลมีเดียของบริษัท เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเดินหน้าสู่อนาคตของการลงทุนไทยและลงทุนในตลาดต่างประเทศไปพร้อมกัน! https://pr.sbito.co.th/sbitoranger

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : 02-022-1499

เอ็นเอ็กซ์ กรุ๊ป เผยภาพโฆษณาระดับโลก พร้อมภาพยนตร์

นิปปอน เอ็กซ์เพรส โฮลดิงส์ อิงค์

          - "Anything to Anywhere" สะท้อนจุดแข็งของเอ็นเอ็กซ์ กรุ๊ป ในการขนส่งสิ่งของทุกอย่างไปทั่วโลก ตั้งแต่เซมิคอนดักเตอร์ไปจนถึงวัตถุจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ -
          บริษัท นิปปอน เอ็กซ์เพรส โฮลดิงส์ อิงค์ (NIPPON EXPRESS HOLDINGS, INC.) ได้สร้างสรรค์ภาพ Key Visual ใหม่ (*) ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Anything to Anywhere" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจุดแข็งของเอ็นเอ็กซ์ กรุ๊ป (NX Group) พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์สั้นเพื่อนำเสนอคอนเซ็ปต์ดังกล่าว โดยมีจุดมุ่งหมายในการเร่งผลักดันการขยายธุรกิจไปทั่วโลก ภาพดังกล่าวจะถูกนำไปใช้โดยบริษัทในเครือเอ็นเอ็กซ์ กรุ๊ป ทั่วโลก เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มบริษัทแห่งนี้เป็นที่รู้จักในระดับสากล  
(*): สื่อหรือองค์ประกอบที่ใช้ในการผลิตโฆษณาต่าง ๆ เพื่อให้แบรนด์สามารถเจาะตลาดได้
          โลโก้ของเอ็นเอ็กซ์: https://kyodonewsprwire.jp/img/202502204514-O1-QzI940f0
          Key Visual ใหม่: "Anything to Anywhere"
https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M103866/202502204514/_prw_PI2fl_3o1iErin.jpg
          การนำเสนอภาพใหม่ของแบรนด์เอ็นเอ็กซ์ กรุ๊ป
วิสัยทัศน์ระยะยาวของเอ็นเอ็กซ์ กรุ๊ป คือการก้าวขึ้นเป็น "บริษัทโลจิสติกส์ที่มีสถานะแข็งแกร่งในตลาดระดับโลก" ดังนั้น เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ระยะยาวดังกล่าว ทางกลุ่มบริษัทจึงเปิดตัว Key Visual ใหม่ "Anything to Anywhere" เพื่อนำเสนอแบรนด์เอ็นเอ็กซ์ กรุ๊ป สู่สายตาทั่วโลก
          นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2480 เอ็นเอ็กซ์ กรุ๊ป ก็เติบโตอย่างต่อเนื่องและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าให้ช่วยดูแลสิ่งของหลากหลายประเภท ตั้งแต่เซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ไปจนถึงวัตถุสำหรับจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ ตลอดจนจัดการและจัดส่งสิ่งของอย่างเหมาะสมไปยังจุดหมายปลายทางที่ลูกค้าต้องการ สำหรับ Key Visual ใหม่นั้นจะแสดงให้เห็นถึงจุดแข็งของกลุ่มบริษัท อีกทั้งยังสะท้อนถึงความภาคภูมิใจและความมุ่งมั่นตั้งใจในการจัดส่งสิ่งของทุกประเภทในทุกอุตสาหกรรมหรือภาคส่วนไปยังทุกสถานที่ทั่วโลกด้วยบริการขนส่งที่มีคุณภาพสูง นอกจากนั้นยังเน้นย้ำสารขององค์กรเอ็นเอ็กซ์ กรุ๊ป นั่นคือ "We Find the Way" ด้วยการแสดงให้เห็นถึงความสามารถของกลุ่มบริษัทในการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่ยากลำบากร่วมกับลูกค้าของบริษัท
          เครือข่ายการขนส่งและเทคนิคระดับมืออาชีพ สะท้อนผ่านองค์ประกอบต่าง ๆ ของภาพ
Key Visual ใหม่ประกอบด้วยภาพต่าง ๆ เช่น "ไดโนเสาร์" "ยาเม็ด" และ "แขนหุ่นยนต์" ซึ่งถูกห่อหุ้มอย่างสวยงามและพิถีพิถันราวกับ "โอริกามิ" อันเป็นศิลปะการพับกระดาษแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น สะท้อนให้เห็นถึงฝีมือและเทคนิคการบรรจุหีบห่อที่ละเอียดลออแบบฉบับญี่ปุ่น ซึ่งเอ็นเอ็กซ์ กรุ๊ป ได้สั่งสมมาเป็นเวลานานหลายปี อีกทั้งยังแสดงถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มบริษัทในการให้บริการระดับมืออาชีพโดยอาศัยประสบการณ์อันยาวนานและความสามารถที่เชื่อถือได้
          ส่วนฉลากที่แปะอยู่บนสิ่งของเหล่านี้แสดงถึงจุดหมายปลายทางอันหลากหลาย เช่น ฌ็องเซลิเซในปารีส และซิลิคอนแวลลีย์ในสหรัฐอเมริกา ไปจนถึงทวีปแอนตาร์กติกาและทางช้างเผือก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเครือข่ายการขนส่งทั่วโลกของเอ็นเอ็กซ์ กรุ๊ป และการแสวงหาความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัด
          สำหรับในอนาคตนั้น Key Visual ใหม่ "Anything to Anywhere" จะถูกนำมาใช้เป็นองค์ประกอบอันสร้างสรรค์เพื่อสะท้อนถึงแบรนด์เอ็นเอ็กซ์ กรุ๊ป ในงานแสดงต่าง ๆ ที่จัดขึ้นทั่วโลก
          รูปภาพ 1: https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M103866/202502204514/_prw_PI3fl_w2ynzyHv.png
          รับชมภาพยนตร์สั้นที่ใช้ภาพ Key Visual ใหม่ "Anything to Anywhere" ได้ทางเว็บไซต์ ช่องยูทูบ (YouTube) และบัญชีลิงด์อิน (LinkedIn) อย่างเป็นทางการของเอ็นเอ็กซ์ กรุ๊ป ดังนี้
          URL ของเว็บต่าง ๆ
เว็บไซต์ของนิปปอน เอ็กซ์เพรส โฮลดิงส์: https://www.nipponexpress-holdings.com/en/about/video/
ยูทูบ: https://www.youtube.com/@nittsu
ลิงด์อิน: https://www.linkedin.com/company/nippon-express-group/
          เอ็นเอ็กซ์ กรุ๊ป จะเดินหน้าจัดการกับความท้าทายในการสร้างมูลค่าใหม่จากโลจิสติกส์ พร้อมทั้งมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นองค์กรที่ได้รับความไว้วางใจในระดับโลกซึ่งเป็นที่ต้องการของลูกค้าและสังคม
          รูปภาพ 2: https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M103866/202502204514/_prw_PI4fl_muHvIPLt.png
          เกี่ยวกับเอ็นเอ็กซ์ กรุ๊ป: https://kyodonewsprwire.jp/attach/202502204514-O1-XJCtR2XW.pdf
          เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเอ็นเอ็กซ์ กรุ๊ป: https://www.nipponexpress.com/
บัญชีลิงด์อินอย่างเป็นทางการของเอ็นเอ็กซ์ กรุ๊ป: https://www.linkedin.com/company/nippon-express-group/

Wednesday, February 26, 2025

TCC Technology Group: Town Hall 2025, Reinforcing Customer's Growth as our Commitment

 


          TCC Technology Group has recently organized a town hall under the theme of "Customer's growth, our commitment." This reflects the vision of TCC Technology Group in the dedication to develop the skills and capabilities of employees, ensuring they are well-prepared to support and drive sustainable growth and the success of customers' businesses.

          About TCC Technology Group
          TCC Technology Group is a Trusted Technology Solutions Partner. The group aims to deliver the best-value solutions to support customers to accelerate their business operation and achieve their full potential. The group's services range from highly reliable and secure infrastructure (including world class data centers, multi-cloud platform, and Carrier-Neutral Internet Exchange hub), to digital services (including Security Solutions, ERP, Data Platform, Application Development, and Smart Solutions). These contribute to the strong base of customers from both local and international arenas. The group companies gain recognition for high-quality standards and data security. The Synergies with Global Strategic Partners also enhance the commitment to customers and society. TCC Technology Group consists of T.C.C. Technology Co., Ltd. (TCCtech), LEAP Solutions Asia Co., Ltd. (LSA), and Shinasub Co., Ltd. (SNS).
          For more details, please visit https://www.tcc-technology.com


NX Group Unveils Global Campaign Visual and Concept Movie

 NIPPON EXPRESS HOLDINGS, INC.

- "Anything to Anywhere" Expresses NX Group's Strengths in Global Transport of Everything from Semiconductors to Museum Exhibits -

NIPPON EXPRESS HOLDINGS, INC., has created a new key visual (*) -- "Anything to Anywhere" -- to showcase the strengths of the NX Group and released a short movie to introduce the concept in order to accelerate the expansion of its worldwide business. This visual will be used by NX Group companies around the world to raise Group awareness globally.
(*): An advertising material/element used in various productions for brand penetration

NX Logo: https://kyodonewsprwire.jp/img/202502204514-O1-QzI940f0

New key visual: "Anything to Anywhere"
https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M103866/202502204514/_prw_PI2fl_3o1iErin.jpg

New visual representation of NX Group brand
The NX Group's long-term vision is to become a "logistics company with a strong presence in the global market." To realize the long-term vision, the Group has unveiled a new key visual, "Anything to Anywhere," to express the NX Group brand globally.

Since its founding in 1937, the NX Group has continued to grow and win the trust of its customers by taking care of a wide variety of cargo -- from semiconductors utilizing state-of-the-art technology to museum pieces -- and properly managing and delivering them to their desired destinations. The key visual graphically illustrates the Group's strengths and expresses its pride and determination to deliver any item anywhere in the world in any industry or sector with high-quality transport services. It also exemplifies the NX Group's corporate message "We Find the Way" by showing the Group's ability to examine and resolve difficult problems together with its customers.

Professional techniques and networks expressed in diverse motifs
Various motifs such as "dinosaur," "pills" and "robot arm" were used for the key visual. They are beautifully and carefully wrapped like "origami," the traditional Japanese craft of paper folding, evoking the craftsmanship and meticulous packaging techniques originated in Japan that the NX Group has cultivated over many years, and expressing the Group's commitment to providing professional services that leverage its extensive experience and reliable capabilities.

The labels on the objects depict various destinations such as the Champs-Elysees in Paris and Silicon Valley in the U.S. as well as Antarctica and the Milky Way, symbolizing the NX Group's global distribution network and its pursuit of unlimited possibilities.

Going forward, the new key visual "Anything to Anywhere" will be used as a creative element embodying the NX Group brand at exhibitions held around the world.

Image1: https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M103866/202502204514/_prw_PI3fl_w2ynzyHv.png

A short movie using "Anything to Anywhere" is available on the Group's website, YouTube channel, and official LinkedIn account. Please take a look.

Posted location URLs
NIPPON EXPRESS HOLDINGS website: https://www.nipponexpress-holdings.com/en/about/video/
YouTube: https://www.youtube.com/@nittsu
LinkedIn: https://www.linkedin.com/company/nippon-express-group/

The NX Group will continue to take on the challenge of creating new value from logistics while aiming to be a globally trusted presence sought after by customers and society.

Image2: https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M103866/202502204514/_prw_PI4fl_muHvIPLt.png

About the NX Group: https://kyodonewsprwire.jp/attach/202502204514-O1-XJCtR2XW.pdf

NX Group official website: https://www.nipponexpress.com/
NX Group's official LinkedIn account: https://www.linkedin.com/company/nippon-express-group/

Source: NIPPON EXPRESS HOLDINGS, INC.

กลุ่ม ทีซีซี เทคโนโลยี Town Hall 2025 ตอกย้ำคำมั่นสัญญาเพื่อการเติบโตของลูกค้าอย่างมั่นคง

 


เมื่อเร็วๆนี้ กลุ่มบริษัท ทีซีซี เทคโนโลยี ได้จัดการประชุม town hall ขึ้นภายใต้แนวคิด “Customer’s growth, our commitment” ซึ่งแสดงถึงวิสัยทัศน์ของกลุ่มบริษัท ทีซีซี เทคโนโลยี ที่มุ่งมั่นในการพัฒนาทักษะและความสามารถของบุคลากร เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับและสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจลูกค้าให้แข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน  


กลุ่มบริษัท ทีซีซี เทคโนโลยี  

กลุ่มบริษัท ทีซีซี เทคโนโลยี คือพันธมิตรผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีโซลูชั่นที่ไว้วางใจได้ พร้อมตอบโจทย์ ธุรกิจลูกค้าด้วยบริการที่คุ้มค่าที่ครอบคลุมจากบริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน ที่มีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัยสูง (ได้แก่ ศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์มาตรฐานสูง คลาวด์แพลตฟอร์ม การเชื่อมต่อโครงข่ายที่หลากหลาย มีศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลอินเตอร์เน็ตที่มีความเป็นกลางให้ความเท่าเทียมกัน) จนถึงบริการด้านดิจิทัลโซลูชั่น (ได้แก่ Security Solutions, ERP, Data Platform, Application Development and Smart Solutions) ซึ่งนับเป็นปัจจัยให้เกิดฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง ทั้งในและต่างประเทศ เน้นความสำคัญ ในการประสานพลังร่วมกับพันธมิตรทั่วโลก เพื่อช่วยตอบโจทย์ลูกค้าและสังคมให้เติบโตอย่างยั่งยืน  กลุ่มบริษัท ทีซีซี เทคโนโลยี ประกอบด้วย บริษัท ที.ซี.ซี. เทคโนโลยี จำกัด (TCCtech) บริษัท ลีพ โซลูชั่น เอเชีย จำกัด  (LSA)  บริษัท ชินาทรัพย์ จำกัด (SNS) 

รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม www.tcc-technology.com

“มัทฉะ” ฟีเวอร์! แบรนด์ไหน โซเชียลเลิฟ

 

"มัทฉะ" กลายเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโซเชียลมีเดียด้วยยอดเอ็นเกจเมนต์ (Engagement) สูงถึง 5,219,570 ครั้ง ในเวลาไม่ถึง 2 เดือนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ร้านค้าหลายแห่งประสบปัญหาสินค้าขาดตลาด จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เทรนด์คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพผลักดันให้ "มัทฉะ" กลายเป็นทั้งเครื่องดื่มทางเลือกและสัญลักษณ์ของไลฟ์สไตล์คนทันสมัย

บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ได้ทำการรวบรวมข้อมูลผ่านเครื่องมือ DXT360  เพื่อฟังเสียงผู้บริโภคในสังคมออนไลน์ (Social Listening) ในช่วงวันที่ 1 มกราคม - 15 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อนำมาวิเคราะห์หา Insight ของเครื่องดื่มสีเขียวนี้

“มัทฉะลาเต้” เมนูสุดคลาสสิกอันดับ 1 ที่ครองใจชาวโซเชียล

ผงมัทฉะสามารถนำมารังสรรค์ได้หลายเมนู ตามความชื่นชอบรสสัมผัสของแต่ละคนเพราะด้วยเอกลักษณ์ที่หาได้ยากจากเครื่องดื่มทั่วไป เราจึงสำรวจเมนูไหนที่ครองใจมือใหม่และมือเก่า 

เมนูอันดับ 1 อย่าง “Matcha Latte” ที่ได้รับ Engagement สูงที่สุดบนโลกโซเชียลมีเดียอยู่ที่ 41% ถือเป็นเมนูที่เปิดโลกการดื่มมัทฉะของหน้าใหม่และครองใจใครหลาย ๆ คนเนื่องจากได้ทั้งประโยชน์และความอร่อยทานง่ายจึงขึ้นแท่นเป็นอันดับหนึ่ง

เมนูอันดับ 2 อย่าง “Pure Matcha” ที่ได้รับ Engagement รองจาก Matcha Latte อยู่ที่ 35% ถือว่าเป็นเมนูสายสุขภาพที่ทำให้ได้รับสารประโยชน์จากมัทฉะเต็มที่อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ดื่มได้สัมผัสถึงเอกลักษณ์และคุณภาพของมัทฉะแต่ละร้านได้ดีที่สุด

นอกจากนี้ ยังมีเมนูสร้างสรรค์อื่น ๆ ที่ได้รับความนิยม โดย Matcha Coconut ครองอันดับ 3 ด้วยยอด Engagement 10% ตามมาด้วย Matcha Honey และ Matcha Lemon ที่ได้รับความนิยมเท่ากันที่ 4% Matcha Yuzu 2% และเมนูอื่น ๆ 4%

Taste Note ไหน? ถูกใจมัทฉะเลิฟเวอร์

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “มัทฉะ” เป็นที่นิยมและไม่เอ่ยถึงไม่ได้ นั่นคือ “Taste Note ของมัทฉะ” หรือ เอกลักษณ์ของรสชาติและกลิ่นที่หลากหลาย ซึ่งมาจากความแตกต่างของสายพันธุ์ใบชา แหล่งเพาะปลูก และกระบวนการผลิต ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกมัทฉะที่ตรงกับรสนิยมของตนเองได้

เมื่อพิจารณาจากข้อมูลใน Social Media พบว่า Taste Note ของมัทฉะที่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียให้ความสนใจและมี Engagement มากที่สุด คือ ครีมมี่ (Creamy) 38% จุดเด่น คือ ช่วยลดความเข้มของรสขมจากใบชา มีความหอมเนย กลมกล่อม นุ่มละมุน รองลงมา คือ ถั่ว (Nutty) 35% มีความมัน นัว คล้ายถั่วอัลมอนด์อบ บางครั้งอาจได้รสถั่วคั่ว สาหร่าย (Seaweed) 10% ให้ความรู้สึกที่สดชื่นแบบน้ำทะเล มีความเค็มเล็กน้อย โดยแสดงถึงรสและกลิ่นของสาหร่ายอย่างชัดเจน ช็อกโกแลต (Chocolate) 9% สัมผัสได้ถึงดาร์คช็อคโกแลตมีการผสมกับความขมเล็กน้อย ดอกไม้ (Floral) 5% แสดงถึงกลิ่นหอมดอกไม้อ่อน ๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น และบางเบา รวมถึง อื่น ๆ 3%

มัทฉะแบรนด์ไหน โซเชียลเลิฟ!

จากกระแสมัทฉะที่กำลังมาแรงบนโซเชียล ตลาดเครื่องดื่มมัทฉะแบ่งออกกว้าง ๆ เป็น 2 กลุ่ม คือ ร้านเครื่องดื่มแบรนด์ดัง (Popular Coffee Chains) ที่เพิ่มเมนูมัทฉะเป็นทางเลือกใหม่ให้ลูกค้า และ ร้านมัทฉะพรีเมียม (Specialty Matcha Cafés) ที่เน้นเสิร์ฟเครื่องดื่มมัทฉะและชาเขียวโดยเฉพาะ


โดยในแต่ละแบรนด์จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน อย่างร้านเครื่องดื่มแบรนด์ดัง มักหาร้านดื่มได้ง่าย ติดตลาด และมีชื่อเสียง เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นดื่มมัทฉะ โดยพบว่า แบรนด์ที่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียให้ความสนใจมากที่สุด คือ คาเฟ่ อเมซอน (Cafe Amazon) ด้วยยอด Engagement 29% รองลงมา ฟุกุ มัทชะ (Fuku Matcha) 21% อินทนิล (Inthanin) 17% พันธุ์ไทย (Punthai) 15% สตาร์บัคส์ (Starbucks) 13% และอื่น ๆ 5% ตามลำดับ 

และส่วนของร้านแนว Specialty Matcha เหมาะสำหรับชาวมัทฉะเลิฟเวอร์ ให้ความสำคัญกับคุณภาพใบชาและประสบการณ์การดื่มที่ลึกซึ้ง ซึ่งพบว่า แบรนด์ MTCH ได้รับความสนใจจากผู้ใช้โซเชียลมีเดียมากที่สุดโดยมี Engagement อยู่ที่ 30% รองลงมา Peace Oriental 23% Ksana 18% และ mini oriental 15% Homu 10% และอื่น ๆ 4% ตามลำดับ

มัทฉะกับโอกาสทางการตลาดจากกระแสสุขภาพสู่วัฒนธรรมการดื่ม 

มัทฉะมีศักยภาพทางการตลาดสูงด้วยความนิยมที่ยืนยันจากยอด Engagement กว่า 5 ล้านครั้งในโซเชียลมีเดียตามที่กล่าวไปข้างต้น ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ผู้บริโภคหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มรักสุขภาพและกลุ่มชอบทดลองสิ่งใหม่ แบรนด์สามารถสร้างการเติบโตได้ด้วยการพัฒนาเมนูหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ Matcha Latte สำหรับมือใหม่ไปจนถึง Pure Matcha สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติดั้งเดิม โดยใช้คุณค่าทางวัฒนธรรมและประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นจุดขายหลัก

เกี่ยวกับ DXT360

DXT360 เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลข่าวสารได้ทั้งจากโซเชียลมีเดีย สื่อออนไลน์ สื่อบรอดคาสท์ และสื่อสิ่งพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นเสียงของผู้บริโภค (Consumer Voices) คอนเทนต์จาก Influencers และ KOLs ไปจนถึงข่าวจากสื่อมวลชน ที่รวบรวมเข้ามาอยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกัน มีการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบ Dashboard ที่สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการของผู้ใช้งานแต่ละราย (Customizable Dashboard) จึงทำให้เข้าใจและเห็น Insight ในประเด็นต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยให้เห็นทิศทางการสื่อสารของแบรนด์ต่าง ๆ สามารถนำมาต่อยอดเพื่อพัฒนากลยุทธ์การสื่อสารขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ



Chulalongkorn University Launches “Exoskeleton Wheelchair”- A Robotic Suit that helps people with Disabilities Sit, Stand and Walk

 

Associate Professor Dr. Ronnapee Chaichaowarat, Faculty of Engineering, Chula, opened the door to his robotics lab, showing the Exoskeleton Wheelchair prototype for the elderly and people with mobility problems so they can leave their wheelchair behind to stand and walk with one robot.

Assoc. Prof. Dr. Ronnapee Chaichawarat, a professor from the International School of Engineering (ISE), Chulalongkorn University, elaborated on the idea of creating a “robotics lab”: “This is an alternative solution to education. I created a lab and an environment with tools for students to assemble robots in their spare time from studying. We insist on a “Proof of Concept,” which students have to present to a meeting before conducting their experiment prior to testing the innovation with actual users.”


Assoc. Prof. Dr. Ronnapee Chaichaowarat 
Trying on the Exoskeleton wheelchair
 

“I wanted to create a wheelchair that could walk. An ordinary wheelchair can only move on a regular path, but it cannot get on the bus or go up and down the stairs. So my view is that if a wheelchair could be folded up and help the person sitting in it to get up and walk, it would make it easier for people with reduced mobility to walk,” Assoc. Prof. Dr. Ronaphee said of the inspiration for the innovation, which can be considered the world’s first exoskeleton wheelchair robot built by Thai people. 

This robot was funded by the National Research Council of Thailand (NRCT) in 2021–2022 and most recently was among the finalists in the 2024 Young Technologists Award program organized by the Foundation for the Promotion of Science and Technology Under the Royal Patronage of His Majesty the King

 

What is the Exoskeleton Wheelchair Robot? 

Assoc. Prof. Dr. Ronnapee said that Exoskeleton Wheelchair is a robot worn on the body to help human movement. It can serve as both a wheelchair and be converted into a robot. 

“The name Exoskeleton comes from two words: Exo, meaning outside, and Skeleton. ”In a way, the idea is similar to Iron Man, which, when worn, gives the wearer more strength. Technically, it is a mechanical assembly of robots that allows the wearer to exert more strength.” 

From the aforementioned concept, Assoc. Prof. Dr. Ronnapee designed every part of the robot in detail using 3D CAD software, purchased material, and built parts with his in-house machine facilities. Carbon fiber is his material of choice because of its light weight and can be fabricated by 3D printers.  Some parts are cut by a CNC (Computer Numerical Control) router machine. 

After all the parts have been produced, they are assembled into a robot. Next, it is a matter of motion control, which is divided into 2 parts. The first part is the wheels, which have a group of students programming the front wheel speeds to make the robot traveling straight or turning. The second part is the hip and knee joint motors’ control, which is programmed by Assoc. Prof. Ronnapee himself. 

“This is a new type of hybrid robot that combines a wheelchair and an exoskeleton. The lower leg can change mode between sitting and walking using a motor to help with the movement of the hip and knee joints. The ankle joint is a free joint with no drive. The left and right wheels can be retracted to the lower leg area to transform into a walking posture or get over obstacles.” Assoc. Prof. Dr. Ronnapee explains. 

 

 

Integration of Mechanics and Human Anatomy 

Assoc. Prof. Dr. Ronnapee combines his knowledge in engineering, robotics, and human anatomy into the prototype Exoskeleton Wheelchair. 

“The design of exoskeleton robots must take into account the ergonomics of the wearer’s body and the robot so that it should not overstretch or shrink too much, nor should it cause skin irritation. Every time the legs swing, so should the exoskeleton. When the knees are bent, the knees of the robot must be bent at the same time,” Assoc. Prof. Ronnapee explained the challenge.



Exoskeleton Wheelchair Concept Design


“We use Kinematics Compatibility in the design with linkage knee joints so that the motion of the rotational center can mimic the actual bone. For the joints supporting lots of leg bending and flexion, we use a four-bar linkage to allow the pivot point to change with the joint.” 

In addition, Assoc. Prof. Dr. Ronnapee applies his knowledge of Biomechanics to calculate the torque generated from around the ankles, knees, and hips to create robots that fit a person’s physiology.

In terms of aesthetics, architectural knowledge is needed to help design the robot, and when the robot is put into practice, the Allied Science Department will need to help guide the elderly and patients.

Assoc. Prof. Dr. Ronnapee is currently developing the second prototype of the Exoskeleton Wheelchair robot, which improves the stability in sitting, getting up, and walking. The application for an intellectual property patent is in progress. The next step will be an actual test with patients and the elderly.

 

Read the full article at https://www.chula.ac.th/en/highlight/218151/

 

***********************

Chulalongkorn University sets the standard as a university of

innovations for society and is listed in the Worlds Top 100 Universities for Academic Reputation, in the Quacquarelli Symonds (QS) World University Rankings 2021-2022.”

 



จุฬาฯ เปิดตัว “วีลแชร์เดินได้” Wheelchair Exoskeleton หุ่นยนต์สวมใส่บนร่างกายมนุษย์ นั่ง ลุกยืน และเดินได้ในตัวเดียว


รศ.ดร.รณพีร์ ชัยเชาวรัตน์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬา เปิดห้องแล็บ โชว์หุ่นยนต์ต้นแบบ Wheelchair Exoskeleton สำหรับผู้สูงอายุและผู้มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว ให้สามารถขยับลุกจากการนั่งวีลแชร์ มายืนและเดินได้ในหุ่นยนต์ตัวเดียว

 

รองศาสตราจารย์ ดร.รณพีร์ ชัยเชาวรัตน์ อาจารย์จากสำนักบริหารหลักสูตรวิศวกรรมนานาชาติ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงแนวคิดในการสร้าง “ห้องปฏิบัติการหุ่นยนต์” ว่า  “นี่เป็น Alternative Solution ของการศึกษา ผมสร้างห้องแล็บและสิ่งแวดล้อมที่มีเครื่องมือให้นิสิตได้ประกอบหุ่นยนต์ในเวลาว่างจากการเรียน เราเน้น “Proof of Concept” คือนิสิตต้องนำเสนอแนวคิดที่อยากทำในที่ประชุม แล้วค่อยทดลองทำ ก่อนที่จะนำนวัตกรรมไปทดสอบกับผู้ใช้งานจริง”


รศ.ดร.รณพีร์ ชัยเชาวรัตน์
ทดลองสวมใส่ Wheelchair Exoskeleton

 

“ผมอยากประดิษฐ์วีลแชร์ที่เดินได้ วีลแชร์ปกติเคลื่อนที่ได้ตามทางปกติเท่านั้น แต่ขึ้นรถเมล์ไม่ได้ ขึ้นลงบันไดไม่ได้ ผมเลยมองว่าถ้าวีลแชร์สามารถพับขึ้นมาแล้วช่วยให้ผู้นั่ง ลุกขึ้นมาเดินได้ ก็จะทำให้ผู้ที่มีปัญหาทางการเคลื่อนไหวเดินได้สะดวกขึ้น” รศ.ดร.รณพีร์กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการประดิษฐ์นวัตกรรม ซึ่งถือได้ว่าเป็นหุ่นยนต์ Wheelchair Exoskeleton ตัวแรกของโลกที่สร้างโดยฝีมือคนไทย

หุ่นยนต์ตัวนี้ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักการวิจัยแห่งชาติในปี พ.ศ. 2564 – 2565 และล่าสุด ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในโครงการรางวัลนักเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ประจำปี 2567 จัดโดยมูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์

 

หุ่นยนต์ Wheelchair Exoskeleton คืออะไร?

รศ.ดร.รณพีร์กล่าวว่า Wheelchair Exoskeleton เป็นหุ่นยนต์สวมใส่บนร่างกายเพื่อช่วยการเคลื่อนไหวของมนุษย์ มีลักษณะเป็นได้ทั้งวีลแชร์และแปลงเป็นหุ่นยนต์

ชื่อ Exoskeleton มาจาก 2 คำ คือ Exo แปลว่าข้างนอก และ Skeleton แปลว่าโครงกระดูก เมื่อรวม 2 คำนี้ด้วยกัน แปลได้ตรงตัวว่า “โครงกระดูกภายนอก” จะว่าไปแล้วไอเดียก็คล้ายกับไอรอนแมน ที่เมื่อสวมใส่แล้วจะช่วยให้ผู้สวมใส่มีพละกำลังมากกว่าเดิม ในทางเทคนิคคือการใช้เครื่องจักรกลประกอบหุ่นยนต์ให้ผู้สวมใส่สามารถออกแรงได้มากขึ้น”

จาก concept design ดังกล่าว รศ.ดร.รณพีร์ออกแบบชิ้นส่วนทุกชิ้นของหุ่นยนต์อย่างละเอียด โดยใช้โปรแกรมสามมิติจากคอมพิวเตอร์ และหาซื้อวัสดุเอง ซึ่งอาจารย์รณพีร์เลือกใช้คาร์บอนไฟเบอร์ ที่มีน้ำหนักเบาและผลิตโดยเครื่องพิมพ์สามมิติ บางชิ้นส่วนตัดโดยเครื่องกลึง CNC (Computer Numerical Control)

เมื่อผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ของหุ่นยนต์ครบแล้ว ก็นำมาประกอบเป็นตัวหุ่น ต่อไปก็เป็นเรื่องของการควบคุมการเคลื่อนไหว ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ ล้อ ซึ่งได้กลุ่มนิสิตมาเขียนโปรแกรมล้อหน้าให้สามารถวิ่งตรงและเลี้ยวโค้งได้ ส่วนที่สองเป็นมอเตอร์ควบคุมข้อต่อสะโพกกับหัวเข่า ที่อาจารย์รณพีร์เขียนโปรแกมควบคุมเอง

หุ่นยนต์มีลักษณะเป็นหุ่นยนต์ไฮบริดแบบใหม่ ผสมผสานรถเข็นและ Exoskeleton เข้าด้วยกัน ขาช่วงล่าง สามารถเปลี่ยนโหมดการใช้งานได้ระหว่างนั่งและเดิน โดยใช้มอเตอร์ช่วยในการเคลื่อนไหวของข้อต่อสะโพกและหัวเข่า ส่วนข้อต่อข้อเท้าเป็นข้อต่ออิสระ ไม่มีการขับเคลื่อน ล้อซ้ายและขวาสามารถเก็บเข้าไปในส่วนขาส่วนล่าง เพื่อเปลี่ยนเป็นท่าเดินหรือข้ามสิ่งกีดขวาง” รศ.ดร.รณพีร์อธิบายการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ 

 

ผสานกลไกเข้ากับกายวิภาคมนุษย์

กว่าจะเป็นหุ่นยนต์ต้นแบบ Wheelchair Exoskeleton รศ.ดร.รณพีร์ผสานความรู้ทั้งด้านวิศวกรรมศาสตร์การประดิษฐ์หุ่นยนต์และสรีรศาสตร์ของมนุษย์เข้าด้วยกัน

การออกแบบหุ่นยนต์ประเภท Exoskeleton ต้องคำนึงถึงอวัยวะของผู้สวมใส่และหุ่นให้ไปด้วยกันได้ สวมแล้วไม่ยืดหรือไม่หด ไม่ระคายผิวหนัง ทุกครั้งที่เหวี่ยงขาจริง Exoskeleton ก็ต้องเหวี่ยงไปด้วย เวลางอหัวเข่า หัวเข่าของหุ่นยนต์ก็ต้องงอไปพร้อมกัน” รศ.ดร.รณพีร์อธิบายข้อท้าทาย


โครงร่างการออกแบบหุ่นยนต์ Wheelchair Exoskeleton

 

เราใช้หลักการ Kinematics Compatibility หรือความเข้ากันได้เชิงจลศาสตร์ในการออกแบบหุ่นสวมใส่บนร่างกาย กระดูกคนเป็นกระดูกถ้วยกับกระดูกก้อนที่มาสไลด์กัน แต่กลไกมอเตอร์ หมุนรอบแกนหมุนแกนเดียว เมื่อเอามอเตอร์มาติด จะไม่สอดคล้องกับสรีระคนโดยตรง เราจึงออกแบบข้อต่อหัวเข่าให้เป็น Linkage เพื่อให้เส้นทางการเคลื่อนที่ของจุดศูนย์กลางการหมุน สามารถเลียนแบบกระดูกจริง ข้อต่อที่มีการงอขาเยอะ ๆ ก็ใช้ Four-bar Linkage เพื่อให้จุดหมุนเปลี่ยนไปตามข้อต่อได้”

นอกจากนี้ รศ.ดร.รณพีร์ ใช้ความรู้เรื่อง Biomechanic หรือชีวกลศาสตร์ ซึ่งสามารถคำนวณแรงบิดที่เกิดขึ้นจากรอบข้อเท้า หัวเข่า และสะโพกได้ เพื่อนำข้อมูลไปสร้างหุ่นยนต์ที่เหมาะสมกับสรีระของคน

ในแง่ความสวยงาม คงต้องการความรู้ฝั่งสถาปัตยกรรมศาสตร์มาช่วยออกแบบหุ่นยนต์ และเมื่อจะนำหุ่นยนต์ไปใช้งานจริง ฝ่ายสหเวชศาสตร์คงต้องเข้ามาช่วยแนะนำผู้สูงอายุและผู้ป่วยต่อไป

ขณะนี้ รศ.ดร.รณพีร์ กำลังพัฒนาหุ่นยนต์ Wheelchair Exoskeleton ต้นแบบตัวที่สอง โดยแก้ไขเรื่องการนั่ง การลุกให้มั่นคงและเดินได้สะดวกกว่าเดิม และกำลังอยู่ระหว่างการยื่นขอจดทรัพย์สินทางปัญญา ขั้นตอนต่อจากนี้จะเป็นการทดสอบการใช้งานจริงกับผู้ป่วยและผู้สูงอายุ

 

อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://www.chula.ac.th/highlight/210855/

 

***********************

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยที่สร้างนวัตกรรมเพื่อสังคม และได้รับการจัดอันดับว่าเป็นมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงติด 100 อันดับแรกของโลกด้านชื่อเสียงทางวิชาการ โดย (QS) World University Rankings 2021-2022