Monday, October 31, 2016

ผู้บริหาร XCMG เข้าพบประธานาธิบดีบราซิล ย้ำเดินหน้าลงทุนต่อแม้เศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง


         ประธานาธิบดีมิเชล เทเมอร์ ของบราซิล ได้พบปะพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับคุณหวัง หมิน ประธานบริษัท XCMG ร่วมด้วยคุณหวัง หยานซง รองประธาน XCMG Machinery และประธาน XCMG Brazil รวมถึงคณะผู้แทนของ XCMG เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงบราซีเลีย ประเทศบราซิล
          การพูดคุยเป็นไปในเชิงบวก โดยมีการกล่าวถึงบริษัทจีนที่เข้ามาทำธุรกิจในบราซิลและช่วยปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีเทเมอร์ได้ชื่นชมการลงทุนของ XCMG ที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ และยกย่องว่าความสำเร็จของ XCMG เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับบริษัทจีนรายอื่นๆ ที่สนใจเข้ามาลงทุนในบราซิล
          ประธานาธิบดีเทเมอร์กล่าวว่า "ครั้งนี้เป็นการพบกับคุณหวังเป็นครั้งที่ 2 หลังการประชุมสุดยอด G20 ที่หางโจว จีนเป็นประเทศที่สามารถรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจให้อยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดียิ่งสำหรับทุกประเทศทั่วโลก การประชุมครั้งนั้นถือเป็นการเผยแพร่ "วิถีแบบจีน" ไปสู่หลายประเทศ และประสบการณ์ของจีนมีความจำเป็นมากในช่วงที่เรากำลังทำการกอบกู้เศรษฐกิจประเทศ"
          ฐานการผลิตในบราซิลไม่ใช่แค่ฐานการผลิตในต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของ XCMG เท่านั้น แต่ยังเป็นนิคมอุตสาหกรรมเครื่องจักรก่อสร้างแห่งแรกและแห่งใหญ่ที่สุดในบราซิลที่สร้างโดยอุตสาหกรรมเครื่องจักรก่อสร้างจีน ฐานการผลิตนี้ได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าของ XCMG ในบราซิล และช่วยผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศด้วย
          คุณหวังอธิบายว่า XCMG ยังคงยึดมั่นในกลยุทธ์การวางรากฐานทางธุรกิจในบราซิลและการขยายธุรกิจในอเมริกาใต้ แม้ว่าเศรษฐกิจบราซิลกำลังอยู่ในช่วงขาลง เพราะบริษัทยังคงมีความเชื่อมั่นในการลงทุนในบราซิล
          ภายหลังการหารือร่วมกัน คุณหวังได้มอบโมเดลรถเครนของ XCMG และเชิญประธานาธิบดีเทเมอร์ไปเยี่ยมชมโรงงานในเมืองโปซูอาแลกรี โดยประธานาธิบดีเทเมอร์ได้ตอบรับคำเชิญอย่างเต็มใจ
          คุณหวังได้ไปเยือนฐานการผลิตของ XCMG ในบราซิล ตั้งแต่เขาและคณะผู้แทนของบริษัทเดินทางมาถึงบราซิลเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม และยังได้พบปะกับพนักงานของ XCMG ในบราซิล รวมทั้งเยี่ยมชมแผนกผลิตและประกอบชิ้นส่วน ตลอดจนประกาศว่า XCMG ต้องยึดมั่นในกลยุทธ์และเป้าหมายของบริษัทเพื่อก้าวสู่ความเป็นแบรนด์ระดับโลก
          เกี่ยวกับ XCMG
          XCMG เป็นบริษัทข้ามชาติผู้ผลิตเครื่องจักรหนักที่มีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 73 ปี และปัจจุบันติดอันดับ 9 ในอุตสาหกรรมเครื่องจักรก่อสร้างของโลก บริษัทส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังกว่า 176 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก


          รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.xcmg.com หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง Facebook, Twitter, YouTube, LinkedIn และ Instagram

DMCC ลงนามข้อตกลงกับ 3 องค์กรใหญ่ของจีน ในงาน Dubai Week in China


          - DMCC ประกาศความร่วมมือกับ Shanghai Gold Exchange, Agricultural Bank of China และ Mega Capital & Yunnan State Farms Province
          DMCC ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการค้า วิสาหกิจ และสินค้าโภคภัณฑ์ของรัฐบาลดูไบ รวมถึงเป็นเขตการค้าเสรีอันดับ 1 ของโลก ได้ปิดฉากการจัดงาน  Dubai Week in China ณ นครเซี่ยงไฮ้ ลงอย่างสวยงามด้วยการลงนามในข้อตกลงด้านการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญ 3 ฉบับ และความสำเร็จของการประชุม "Made for Trade. Together" ใน Shanghai Forum






          งานนี้ได้รับเกียรติจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล ตลอดจนผู้นำธุรกิจและสถาบันการเงิน รวมกว่า 130 รายเข้าร่วมงาน อาทิ ฯพณฯ อับดุลลา อัล ซาเลห์ ปลัดกระทรวงเศรษฐกิจเพื่อการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมของยูเออี , ฯพณฯ อิบราฮิม อัล มานซูรี กงสุลใหญ่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประจำนครเซี่ยงไฮ้, นายเจียว จินปู้ ประธาน Shanghai Gold Exchange, นายกอตัม ซาชิตตาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DMCC, นายแมทธิว แปง กรรมการผู้จัดการ Mega Capital และนายจงหัว ฉือ ผู้จัดการทั่วไป Yunnan State Farms Group เป็นต้น
          นายกอตัม ซาชิตตาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DMCC กล่าวว่า
          "การลงนามความร่วมมือที่งาน  Dubai Week in China ในนครเซี่ยงไฮ้ วันนี้ ถือเป็นประจักษ์พยานแห่งสายสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างจีนและดูไบ ซึ่งบทบาทด้านการค้าของดูไบที่พัฒนาขึ้นนั้นช่วยให้โลกของเราแคบลง ประเทศจีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของดูไบ การกระชับความสัมพันธ์ร่วมกับ Shanghai Gold Exchange, Agricultural Bank of China, Mega Capital และ Yunnan State Farms Group จึงจะยิ่งเป็นการสนับสนุนบทบาทด้านการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ของ DMCC ตามแนวพื้นที่เศรษฐกิจตะวันตกถึงตะวันออกให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น จากการเชื่อมต่อโดยตรงผ่านโครงการ Belt and Road Initiative ของจีน"
          ทั้งนี้ ระหว่างการจัดงาน  Dubai Week in China ทาง DMCC ได้ลงนามความร่วมมือด้านสินค้าโภคภัณฑ์ 3 ฉบับ ดังนี้:
          -Dubai Gold and Commodities Exchange (DGCX) ประกาศเปิดให้บริการซื้อขายสัญญาทองคำล่วงหน้าสกุลเงินหยวนนอกประเทศจีนเป็นรายแรก หลังจากที่ได้รับใบอนุญาตจาก Shanghai Gold Exchange (SGE) ในการจดทะเบียนซื้อขายสัญญาทองคำล่วงหน้าเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Gold Futures) ในดูไบ โดยใช้ราคาทองคำเซี่ยงไฮ้เป็นราคาอ้างอิง (Shanghai Gold Benchmark Price)
          - Dubai Gold and Commodities Exchange (DGCX) ประกาศว่า Agricultural Bank of China (ABC) เป็นผู้ดำเนินการซื้อขายสัญญาทองคำล่วงหน้าเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Gold Futures) ในตลาดดูไบเป็นรายแรก
          - DMCC ลงนามข้อตกลงกับ Mega Capital Halal (MCH) บริษัทโฮลดิ้งในฮ่องกง เพื่อนำเข้ากาแฟรายปีจาก Yunnan State Farms Group มายังดูไบเพื่อจัดจำหน่ายไปทั่วโลก โดย MCH จะส่งออกเมล็ดกาแฟอาราบิก้าจาก Yunnan State Farms Group ไปยังดูไบ ขณะที่ DMCC จะพัฒนา Coffee Centre ขึ้น โดยอิงตาม DMCC Tea Centre ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงและช่วยผลักดันให้ยูเออีก้าวขึ้นเป็นผู้ส่งออก (re-exporter) ชารายใหญ่ที่สุดในโลกมาแล้ว
          นอกจากนี้ DMCC ยังได้เปิดตัวรายงาน 'The Future of Trade' ลำดับล่าสุด ซึ่งรวบรวมความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับแนวทางที่การค้ากำลังเปลี่ยนแปลงโลก โดยมุ่งเน้นไปที่ศักยภาพของดิจิทัลที่จะส่งผลต่อการค้าเป็นสำคัญ พร้อมอ้างถึงข้อมูลที่ว่าธุรกิจมากถึง 350 ล้านรายอาจจะเริ่มส่งออกสินค้าได้เป็นครั้งแรก หากธุรกิจเหล่านั้นนำกลยุทธ์ดิจิทัลแบบครบวงจรมาปรับใช้
          ขณะเดียวกัน DMCC ยังได้รับความสนใจในแง่ของการเป็นเขตการค้าเสรี การันตีด้วยรางวัลเขตการค้าเสรีโลกแห่งปีโดยนิตยสาร Financial Times fDi เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันในปี 2559 ขณะที่การหารือของคณะกรรมการที่ปรึกษาธุรกิจของ DMCC ในหัวข้อ 'Making Business Happen in Dubai. Together' ก็ดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างมากเช่นกัน
          ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมอภิปรายเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวมาจากบริษัทชั้นนำในเขตการค้าเสรี DMCC อาทิ ซู เจียนเชา รองประธานและประธานฝ่ายวิศวกรรมบริษัท China State Construction Engineering Corporation, อู๋ ชิง ผู้จัดการฝ่ายบริหารของ PowerChina, โรเบิร์ต หวัง ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ Hikvision และ ทิโมธี ฉง กรรมการบริษัท Mega Capital ซึ่งได้ร่วมแบ่งปันมุมมองที่ว่าเหตุใด DMCC จึงเป็นศูนย์กลางสนับสนุนธุรกิจ ไปจนถึงวิธีการที่โครงสร้างพื้นฐานระดับโลก การเชื่อมต่อ และการเข้าถึงพันธมิตรของดูไบสามารถรังสรรค์สภาพแวดล้อมเฉพาะตัวให้กับบริษัทสัญชาติจีนได้ขับเคลื่อนการเติบโตในตะวันออกกลาง แอฟริกา และภูมิภาคอื่น ๆ ตลอดจนหารือเกี่ยวกับโอกาสในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างมหานครดูไบและมหานครเซี่ยงไฮ้ด้วย


          DMCC. Made for Trade
           http://www.dmcc.ae
          ที่มา: DMCC

งานแสดงสินค้านานาชาติเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 มณฑลกวางตุ้ง ปิดฉากด้วยยอดความร่วมมือสูงสุดเป็นประวัติการณ์


          เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา งานแสดงสินค้านานาชาติเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 มณฑลกวางตุ้ง (Guangdong 21st Century Maritime Silk Road International Expo) ปิดฉากลงอย่างงดงามด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างมณฑลกวางตุ้งและประเทศต่าง ๆ บนเส้นทางสายไหม ที่ทำสถิติสูงสุด ข้อมูลจากคณะกรรมการจัดงานระบุว่า มีการทำสัญญาในงานครั้งนี้รวม 700 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 2.068 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
          รายงานระบุว่า เมื่อเทียบจากความสำเร็จในการจัดงานมาแล้ว 2 ครั้งเมื่อช่วงปีก่อน ๆ ทำให้งานแสดงสินค้านานาชาติเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 มณฑลกวางตุ้ง มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มอิทธิพลของตราสินค้าด้วย โดยงานในปีนี้ดึงดูดผู้เข้าชมงานจาก 73 ประเทศ (ภูมิภาค) และดึงดูดผู้จัดแสดงสินค้าจากกว่า 52 ประเทศ (ภูมิภาค) โดยประเทศ (ภูมิภาค) ต่าง ๆ กว่า 39 แห่งตั้งซุ้มจัดแสดงเป็นของตน ซึ่งจำนวนซุ้มต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา
          ทั้งนี้ มณฑลกวางตุ้งเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมโบราณของจีน อีกทั้งยังเป็นแหล่งบุกเบิกการปฏิรูปประเทศและการเปิดกว้างเศรษฐกิจ โดยในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มณฑลกวางตุ้งตั้งเป้าพัฒนาท้องถิ่นให้เป็นศูนย์กลางด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าตามโครงการเส้นทางสายไหมตามที่รัฐบาลกลางมอบหมาย โดยจะบุกเบิกการสร้างความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ตลอดเส้นทางของโครงการในหลาย ๆ ด้าน อาทิ การเชื่อมต่อ การลงทุนด้านเศรษฐกิจและการค้า ความร่วมมือเพื่อพัฒนาด้านกำลังการผลิต นวัตกรรมเทคโนโลยี และการแลกเปลี่ยนด้านต่าง ๆ อย่างเป็นมิตร
          ในส่วนของความร่วมมือด้านกำลังการผลิตและการพัฒนานวัตกรรมนั้นถือเป็นเป้าหมายหลักของโครงการริเริ่มเส้นทางสายไหมดังกล่าว จากการประชุมภายในงานพบว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามณฑลกวางตุ้งมีความพยายามที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านสมรรถนะการผลิตระดับนานาชาติ โดยกองทุนเส้นทางสายไหมแห่งมณฑลกวางตุ้งก่อตั้งด้วยเงินทุนก้อนแรกมูลค่า 2 หมื่นล้านหยวน โดยร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการสร้างอุทยานอุตสาหกรรมหัวเจี๋ยนในประเทศเคนยา, เขตปลอดภาษี Qeshm ในประเทศอิหร่าน, เกตเวย์มะละกาในประเทศมาเลเซีย, อุทยานอุตสาหกรรมจีน - กิซาน ในประเทศซาอุดิอาระเบีย, อุทยานอุตสาหกรรมจีน - เบลารุส และอื่น ๆ ซึ่งวิสาหกิจจากมณฑลกวางตุ้งที่มีชื่อเสียง อาทิ Huawei, ZTE, Midea และ TCL ล้วนลงทุนและพัฒนาสินค้าของตนเองในประเทศต่าง ๆ ตามเส้นทางสายไหมอย่างต่อเนื่อง  
          อนึ่ง เมื่อปี 2558 รายงานระบุว่า วิสาหกิจจากมณฑลกวางตุ้งลงทุนในประเทศหลัก 14 แห่งตามเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 คิดเป็นมูลค่า 480 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งพิ่มขึ้น 56% โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2559 งบประมาณที่แท้จริงซึ่งบริษัทในเมืองกวางตุ้งลงทุนใน 14 ประเทศหลักเหล่านี้อยู่ที่ระดับ 490 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 103.6% เทียบรายปี ซึ่งเป็นการสร้างรากฐานอันมั่นคง รวมถึงประสิทธิภาพของความร่วมมือด้านการผลิตระหว่างมณฑลกวางตุ้งและประเทศต่าง ๆ ตามเส้นทางสายไหมอย่างเต็มศักยภาพ
          ที่มา: คณะกรรมการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 มณฑลกวางตุ้ง
          AsiaNet 66353

2016 Guangdong 21st Century Maritime Silk Road International Expo Closed with Record High Cooperation between Guangdong and Countries along the Belt and Road


          On October 30th, 2016 Guangdong 21st Century Maritime Silk Road International Expo closed successfully with economic and trade cooperation between Guangdong and countries along the Belt and Road reaching record high. According to the Organizing Committee, 700 projects were contracted at the Expo with a total volume of about 206.8 billion yuan, increasing 2.5% compared to last year.
          It is reported that on the basis of the two successful Expos in past years, Guangdong 21st Century Maritime Silk Road International Expo has won rising reputation around the globe and enhanced brand effect. This year the Expo attracted 73 countries (regions) in the event and 52 countries (regions) for exhibition, among which 39 countries (regions) built independent pavilions, the numbers all increasing compared to last year.
          Guangdong is one of the starting points of China's ancient Maritime Silk Road and also a pioneer in the country's reform and opening up. These years, Guangdong focuses on the goal of building the province into an important pivotal and center of economic and trade cooperation along the Belt and Road as bestowed by the state, exploring cooperation comprehensively with countries along the Belt and Road in fields including connectivity, economic and trade investment, production capacity cooperation, technological innovation and friendly exchanges.
          Production capacity cooperation and innovative development are positioned as major areas in the Belt and Road Initiative. According to the forum of the Expo, in recent years, Guangdong has been strengthening its efforts in promoting international production capacity cooperation. Guangdong Silk Road Fund has been established with a first phase scale of 20 billion yuan to work with related countries in construction of Huajian Industrial Park in Kenya, Qeshm Free Zone of Iran, Melaka Gateway in Malaysia, China-Gizan Industrial Park in Saudi Arabia, China-Belarus Industrial Park, etc.. Famed Guangdong enterprises such as Huawei, ZTE, Midea and TCL keep going abroad to countries along the Belt and Road to invest and develop.
          It is reported that in 2015 enterprises of Guangdong invested 480 million dollars in real term to 14 key countries along the 21st Century Maritime Silk Road with an increase of 56%. In the first 9 months of 2016, Guangdong's actual investment to these 14 countries reached 490 million dollars, rising 103.6% year on year, which fully embodies the sound basis and huge potential of production capacity cooperation between Guangdong and countries along the Belt and Road.
          Source: The Organizing Committee of Guangdong 21st Century Maritime Silk Road International Expo

          AsiaNet 66353

DMCC Signs Three Major Trade Agreements in Shanghai at Dubai Week in China


          - DMCC announce partnerships with the Shanghai Gold Exchange; Agricultural Bank of China; Mega Capital & Yunnan State Farms Province
          DMCC, Dubai's Government authority on trade, enterprise and commodities and the world's number one Free Zone, concluded  Dubai Week in China , Shanghai, with three significant commodity trade agreements and its "Made for Trade. Together" in Shanghai Forum.
          (Logo: http://photos.prnewswire.com/prnh/20161029/434047LOGO )
          (Photo: http://photos.prnewswire.com/prnh/20161029/434042 )
          (Photo: http://photos.prnewswire.com/prnh/20161029/434043 )
          (Photo: http://photos.prnewswire.com/prnh/20161029/434044 )
          (Photo: http://photos.prnewswire.com/prnh/20161029/434045 )
          (Photo: http://photos.prnewswire.com/prnh/20161029/434046 )
          DMCC's event attracted over 130 senior government officials, business leaders and financial institutions including His Excellency Abdulla Al Saleh, Under Secretary of the UAE Ministry of Economy for Foreign Trade and Industry Affairs; Consul General His Excellency Ibrahim Al Mansouri, Consulate General of The United Arab Emirates of Shanghai; Jiao Jinpu, Chairman, Shanghai Gold Exchange; Gautam Sashittal, Chief Executive Officer, DMCC; Matthew Pang, Managing Director of Mega Capital; and Zhonghua Chi, General Manager of Yunnan State Farms Group.
          Gautam Sashittal, Chief Executive Officer at DMCC, said:
          "The DMCC partnership agreements we announced at  Dubai Week in China , Shanghai, today, is evidence of the deep links between China and Dubai, and the growing role the Dubai trade has in bringing our world's closer. China is Dubai's number one trading partner. The relationships that we have cemented here with the Shanghai Gold Exchange, Agricultural Bank of China, Mega Capital and Yunnan State Farms Group will further underpin the role that DMCC is playing in boosting the commodities trade along the West to East corridor - connecting directly into China's Belt and Road Initiative."
          During the  Dubai Week in China event, DMCC signed three significant commodity partnerships:
          - The Dubai Gold and Commodities Exchange (DGCX) announced the first yuan-denominated gold future product to be offered outside of China, obtaining a license from the Shanghai Gold Exchange (SGE) to list Shanghai Gold Futures in Dubai using the Shanghai Gold Benchmark Price.
          - The Dubai Gold and Commodities Exchange (DGCX) also announced that Agricultural Bank of China (ABC) has become the first market maker for the Shanghai Gold Futures contract to be  listed on its exchange.
          - DMCC signed an agreement with Mega Capital Halal (MCH), a Hong Kong-based holding company, to import coffee annually from China's Yunnan State Farms Group to Dubai for world distribution. The agreement will see MCH export Chinese Arabica beans from the Yunnan State Farms Group to Dubai. DMCC will also develop a Coffee Centre. Based on the highly successful DMCC Tea Centre, which has enabled the UAE to become the largest re-exporter of tea in the world.
          DMCC also launched the latest in a series of reports on 'The Future of Trade' , hosting a roundtable of experts to discuss the ways that trade is changing the world. The report focus heavily on the potential for digitalisation to impact trade, stating that as many as 350 million businesses would begin exporting goods for the first time if they were to adopt an end-to-end digital strategy.
          There was also considerable interest in DMCC's Free Zone, named the Global Free Zone of the Year 2016 by The Financial Times fDi Magazine for the second year running, and its Business Panel debate 'Making Business Happen in Dubai. Together'.
          Panel Speakers representing leading Chinese companies based in the DMCC Free Zone in Dubai, Zhu Jianchao, Vice president/Chief Engineer; China State Construction Engineering Corporation; Wu Qing, Administration Manager, PowerChina; Robert Wang, Technical Director, Hikvision; and Timothy Chong, Director, Mega Capital; shared their views on why DMCC is such a pro-business place, and how Dubai's world-class infrastructure, connectivity and partnership approach create a unique environment for Chinese companies to drive growth in the Middle East, Africa and beyond, and opportunities to forge closer ties between the twin cities of Dubai and Shanghai.    
          DMCC. Made for Trade.
           http://www.dmcc.ae
          Source: DMCC

Kuang-Chi GCI Fund to Invest $250m in Global Startups

          Following Successful GCI Fund I, GCI Fund II Opened to Selected Investment Partners
          Kuang-Chi Group has launched its second Global Community of Innovation (GCI) fund, which will invest up to $250 million in companies developing technology in industries including robotics, IoT, telecommunications, and digital health. The fund has a focus on global startups and follows a previous investment of $50 million in similar fields, the company announced today.
          Through investments of the first GCI fund, Kuang-Chi has taken stakes in companies with a focus on innovative and disruptive technologies, including video intelligence provider Agent Video Intelligence (Agent Vi).
          Itsik Kattan, CEO of AgentVi, remarked, "After Kuang-Chi became a strategic investor in Agent Vi, our cooperation has made rapid headway. Among other initiatives, we will open an Innovation Center in early 2017 in Tel Aviv, Israel, which will look to identify and integrate Smart City technologies being developed in Israel with our and Kuang-Chi's offering."
          In addition to Agent Vi, the GCI fund has invested in global innovators including: gesture control leader eyeSight; emotions analytics pioneer Beyond Verbal; biometric authentication provider, Zwipe; and UAV surveillance company SkyX. Kuang-Chi has also established a number of JVs to strengthen its portfolio companies' market positions, including one JV recently announced with Zwipe in Shenzhen.
          Dr. Ruopeng Liu , chairman of Kuang-Chi, stated, "The first $50 million tranche of the $300 million GCI fund has been invested successfully. We look to build on our momentum by expanding our investment focus and, for the first time, offering our partners the opportunity to participate in our investments."
          The first Chinese technology company to have created an Israel-focused strategic VC fund, Kuang-Chi has experience leveraging its technological expertise and personnel to identify potential in startups and new technologies. Dr. Liu added, "The GCI portfolio companies will share access to Kuang-Chi's technology, sales and distribution capabilities, and the wide network of partners with whom we work in China and beyond. Our investments come with an opportunity to expand business in the Chinese market and to establish relationships with leaders across multiple industries."
          Dorian Barak, Kuang-Chi's global investment director, stated, "Chinese companies are becoming important investors in Israel, with market leaders such as Alibaba, Baidu, Kuang-Chi, and Tencent joining Intel, Google, Apple and others as strategic investors and acquirers. At the same time, more and more Israeli start-ups are focusing on bringing their products and capabilities into Chinese market."
          "I am delighted by the progress Kuang-Chi has made in Israel and look forward to seeing GCI expand its activity with additional investment partners. Kuang-Chi's technological strength, geographic reach and market position offer significant benefits to portfolio companies seeking to operate in Asia," Dorian Barak commented.
          About Kuang -Chi Group
          Kuang-Chi is a high-tech company that is dedicated to disruptive innovation. Headquartered in Shenzhen, China, Kuang-Chi comprises a group of public and private companies, research institutes,and principal investment in cutting-edge technology sectors including communications, metamaterials, and space technology, which have applications in diversified business areas including aerospace, intelligent equipment, internet of things, and smart cities. To learn more about Kuang-Chi, please visit http://www.kuang-chi.com/en
          CONTACT: Kuang-Chi, Maggie Shek, +86-186-0201-9560, qiuju.shi@kuang-chi.com

Open Innovations 2016 ปิดฉากประทับใจ สุดยอดวิทยากรร่วมแลกเปลี่ยนไอเดียเด็ด สร้างประโยชน์ให้สังคม





          Skolkovo Technopark เป็นเจ้าภาพจัดงาน Open Innovations Forum ประจำปีครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 26-28 ตุลาคมที่ผ่านมา งานนี้มีความสำคัญต่อการพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมของรัสเซีย โดยมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 13,500 คน จากกว่า 100 ประเทศ และได้รับเกียรติจากวิทยากร 600 รายมาร่วมให้ความรู้ในการประชุมย่อยกว่า 100 รายการ ทั้งยังได้ให้การต้อนรับนักลงทุนและกองทุนร่วมลงทุนกว่า 300 ราย ผู้แทนจากภาคนวัตกรรมราว 1,200 ราย ผู้แทนองค์กรธุรกิจมากกว่า 2,000 ราย และสตาร์ทอัพ 3,000 รายเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย

          รับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่

           http://www.multivu.com/players/uk/7964951-open-innovations-forum-2016/

          ตลอด 3 วันของการจัดงาน Skolkovo Technopark ได้กลายเป็นพื้นที่สำหรับการอภิปรายแบบเปิด การประชุมร่วม ตลอดจนการค้นหาคู่ค้าและนักลงทุน ความสำเร็จของการประชุมในครั้งนี้เห็นได้ชัดเจนจากจำนวนการพบปะหารือและการบรรลุข้อตกลง โดยมีการเจรจาทางธุรกิจมากกว่า 700 ครั้ง และการลงนามข้อตกลงการเป็นหุ้นส่วนกว่า 50 รายการเกิดขึ้นภายในงานนี้

          ดมีตรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีของรัสเซีย  กล่าวว่า " งาน Open Innovations Forum ในปีนี้ จัดขึ้นที่อุทยานเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปอย่าง Skolkovo Technopark ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จ โดยจะเปิดทางให้มีการดำเนินโครงการน่าสนใจต่างๆ และสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ ผมมั่นใจว่าผู้เข้าร่วมการประชุม Open Innovations Forum จะรู้สึกถึงบรรยากาศพิเศษของการมีส่วนร่วมเพื่อเปิดรับความรู้ใหม่ๆที่งานนี้"

          อาร์คาดี ดวอร์โควิช รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย โอเฟอร์ อาคูนิส รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและอวกาศของอิสราเอล ดร.โก๊ะ โป๊ะ กูน รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ วิกตอร์ เวคเซลเบิร์ก หัวหน้ากองทุนสโคลโกโว (Skolkovo Fund) และ โอเลก โบชารอฟ หัวหน้ากรมวิทยาศาสตร์ นโยบายอุตสาหกรรม และการประกอบกิจการแห่งมอสโก เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย

          ประเทศพันธมิตรของการประชุมประจำปีนี้คืออิสราเอล โดยอิสราเอลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาในแวดวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากที่สุด จนก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 4 ของโลกในด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และเรื่องนี้ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหัวข้อการอภิปรายในช่วง "Startup Nation": doing business Israel's way - transfer of best practices" โดยยอสซี มาเทียส กรรมการผู้จัดการศูนย์วิจัยและพัฒนาของ Google ในประเทศอิสราเอล และผู้เขียนหนังสือ Trends, Insights for Search, Google Suggest ได้พูดคุยเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์และเครื่องจักรกลอัจฉริยะ ขณะที่ยอสซี วาร์ดี เจ้าพ่อแห่งวงการไฮเทคของอิสราเอล เป็นผู้ดำเนินการประชุมร่วมกับบรรดาผู้นำธุรกิจสตาร์ทอัพระดับโลก

          สำหรับบุคคลผู้มีชื่อเสียงท่านอื่นๆ ในแวดวงนวัตกรรมระดับโลกที่ให้เกียรติมาเป็นผู้นำกิจกรรมต่างๆ ในงานนี้ ประกอบด้วย พอล ไมส์เนอร์ (สหรัฐอเมริกา) รองประธาน Amazon ซึ่งมาแบ่งปันเคล็ดลับความความสำเร็จของบริษัท เดิร์ก อัลบอร์น (สหรัฐอเมริกา) ซีอีโอของ JumpStarter Inc และ Hyperloop Transportation ซึ่งนำเสนอมุมมองเกี่ยวกับเมกะโปรเจกต์ บาส แลนส์ดอร์ป (เนเธอร์แลนด์) ผู้ร่วมก่อก่อตั้งโครงการ Mars One ที่อภิปรายถึงความเป็นไปได้ในการย้ายไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร

          Open Innovations Forum จัดขึ้นที่กรุงมอสโกเป็นประจำทุกปีมาตั้งแต่ปี 2555 โดยมูลนิธิสโคลโกโว (Skolkovo Foundation) ร่วมกับกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจของรัสเซีย, รัฐบาลกรุงมอสโก, กองทุน RUSNANO เพื่อโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการศึกษา, รัสเซียน เวนเจอร์ คัมพานี (Russian Venture Company), ธนาคารเวเนชอีโคโนมแบงก์ (Vnesheconombank) และมูลนิธิเพื่อการช่วยเหลือวิสาหกิจนวัตกรรมขนาดเล็ก

          เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของการประชุม:  https://forinnovations.ru/en/

          แหล่งข้อมูลอย่างเป็นทางการสำหรับสื่อ: http://forinnovations2016.tassphoto.com/

          #CreatingFuture

          ที่มา: Open Innovations Forum 2016

Open Innovations 2016: Top-notch Speakers, Fantastic Ideas, Benefits for Society



          On 26 - 28 October Skolkovo Technopark hosted the 5th annual Open Innovations Forum. This event was important for developing Russia's innovative ecosystem. This Forum welcomed more than 13 500 guests from more than 100 countries, 600 speakers, hosted more than 100 sessions. More than 300 investors and venture funds, about 1 200 representatives of innovative structures, more than 2 000 corporate representatives, and 3 000 startups took part in the Forum.

          To view the Multimedia News Release, please click:

           http://www.multivu.com/players/uk/7964951-open-innovations-forum-2016

          This year for three days Skolkovo Technopark became a working space for open discussions, associate meetings and a search for partners and investors. The Forum's success was the direct result of the number of meetings held and agreements achieved - above 700 negotiations were conducted on the venue, more 50 partner agreements were signed.

          Dmitry Medvedev, Prime Minister of Russia, said: "This year, the Forum is to take place at Skolkovo Technopark, which is considered to be the largest technopark in Europe. It is a clear example of a successful start-up that helps to implement interesting projects and generate original ideas. I am sure that participants of the Open Innovations Forum felt the unique atmosphere of a joint intention to get new knowledge."

          Arkady Dvorkovich, Deputy Prime Minister of Russia, Ofir Akunis, Israel's Minister of Science, Technology and Space, Dr Koh Poh Koon, Minister of Trade and Industry of Singapore, Viktor Vekselberg, Head of Skolkovo Fund, and Oleg Bocharov, Head of the Moscow Department of Science, Industrial Policy and Entrepreneurship, participated in the Forum.

          This year Israel was the partner-state of the Forum. Science and technology are the most developed spheres in the country, which is 4th in the world in the sphere of scientific research. This topic was discussed during the "Startup Nation": doing business Israel's way - transfer of best practices" session. Yossi Matias, the Managing Director of Google's R&D Center in Israel and the author of Trends, Insights for Search, gave a talk on artificial intelligence and smart machines. Yossi Vardi, the 'godfather' of Israel's hi-tech, led the meeting of global startup communities' leaders.

          Other prominent figures of global innovative process led several events of the Forum. Paul Misener (USA), the vice-president of Amazon, shared the secret to the company's success. Dirk Alborn (USA), CEO in JumpStarter Inc. and Hyperloop Transportation, offered his view on megaprojects. Bas Lansdorp (the Netherlands), co-founder of Mars One, discussed the prospect of colonizing the Red Planet.

          The Open Innovations Forum is held annually in Moscow since 2012. The Forum is organized by the Skolkovo Foundation and coorganized by the Ministry of Economic Development of Russia, Moscow City government, RUSNANO Fund for Infrastructure and Educational programs, Russian Venture Company, Vnesheconombank, and the Foundation for Assistance to Small Innovative Enterprises.

          The official website of the Forum: https://forinnovations.ru/en

          The official media hosting: http://forinnovations2016.tassphoto.com

          #CreatingFuture

          Source: Open Innovations Forum 2016

Kuang-Chi GCI Fund to Invest $250m in Global Startups

          Following Successful GCI Fund I, GCI Fund II Opened to Selected Investment Partners

          Kuang-Chi Group has launched its second Global Community of Innovation (GCI) fund, which will invest up to $250 million in companies developing technology in industries including robotics, IoT, telecommunications, and digital health. The fund has a focus on global startups and follows a previous investment of $50 million in similar fields, the company announced today.

          Through investments of the first GCI fund, Kuang-Chi has taken stakes in companies with a focus on innovative and disruptive technologies, including video intelligence provider Agent Video Intelligence (Agent Vi).

          Itsik Kattan, CEO of AgentVi, remarked, "After Kuang-Chi became a strategic investor in Agent Vi, our cooperation has made rapid headway. Among other initiatives, we will open an Innovation Center in early 2017 in Tel Aviv, Israel, which will look to identify and integrate Smart City technologies being developed in Israel with our and Kuang-Chi's offering."

          In addition to Agent Vi, the GCI fund has invested in global innovators including: gesture control leader eyeSight; emotions analytics pioneer Beyond Verbal; biometric authentication provider, Zwipe; and UAV surveillance company SkyX. Kuang-Chi has also established a number of JVs to strengthen its portfolio companies' market positions, including one JV recently announced with Zwipe in Shenzhen.

          Dr. Ruopeng Liu , chairman of Kuang-Chi, stated, "The first $50 million tranche of the $300 million GCI fund has been invested successfully. We look to build on our momentum by expanding our investment focus and, for the first time, offering our partners the opportunity to participate in our investments."

          The first Chinese technology company to have created an Israel-focused strategic VC fund, Kuang-Chi has experience leveraging its technological expertise and personnel to identify potential in startups and new technologies. Dr. Liu added, "The GCI portfolio companies will share access to Kuang-Chi's technology, sales and distribution capabilities, and the wide network of partners with whom we work in China and beyond. Our investments come with an opportunity to expand business in the Chinese market and to establish relationships with leaders across multiple industries."

          Dorian Barak, Kuang-Chi's global investment director, stated, "Chinese companies are becoming important investors in Israel, with market leaders such as Alibaba, Baidu, Kuang-Chi, and Tencent joining Intel, Google, Apple and others as strategic investors and acquirers. At the same time, more and more Israeli start-ups are focusing on bringing their products and capabilities into Chinese market."

          "I am delighted by the progress Kuang-Chi has made in Israel and look forward to seeing GCI expand its activity with additional investment partners. Kuang-Chi's technological strength, geographic reach and market position offer significant benefits to portfolio companies seeking to operate in Asia," Dorian Barak commented.

2016 Guangdong 21st Century Maritime Silk Road International Expo Closed with Record High Cooperation between Guangdong and Countries along the Belt and Road

          On October 30th, 2016 Guangdong 21st Century Maritime Silk Road International Expo closed successfully with economic and trade cooperation between Guangdong and countries along the Belt and Road reaching record high. According to the Organizing Committee, 700 projects were contracted at the Expo with a total volume of about 206.8 billion yuan, increasing 2.5% compared to last year.

          It is reported that on the basis of the two successful Expos in past years, Guangdong 21st Century Maritime Silk Road International Expo has won rising reputation around the globe and enhanced brand effect. This year the Expo attracted 73 countries (regions) in the event and 52 countries (regions) for exhibition, among which 39 countries (regions) built independent pavilions, the numbers all increasing compared to last year.

          Guangdong is one of the starting points of China's ancient Maritime Silk Road and also a pioneer in the country's reform and opening up. These years, Guangdong focuses on the goal of building the province into an important pivotal and center of economic and trade cooperation along the Belt and Road as bestowed by the state, exploring cooperation comprehensively with countries along the Belt and Road in fields including connectivity, economic and trade investment, production capacity cooperation, technological innovation and friendly exchanges.

          Production capacity cooperation and innovative development are positioned as major areas in the Belt and Road Initiative. According to the forum of the Expo, in recent years, Guangdong has been strengthening its efforts in promoting international production capacity cooperation. Guangdong Silk Road Fund has been established with a first phase scale of 20 billion yuan to work with related countries in construction of Huajian Industrial Park in Kenya, Qeshm Free Zone of Iran, Melaka Gateway in Malaysia, China-Gizan Industrial Park in Saudi Arabia, China-Belarus Industrial Park, etc.. Famed Guangdong enterprises such as Huawei, ZTE, Midea and TCL keep going abroad to countries along the Belt and Road to invest and develop.

          It is reported that in 2015 enterprises of Guangdong invested 480 million dollars in real term to 14 key countries along the 21st Century Maritime Silk Road with an increase of 56%. In the first 9 months of 2016, Guangdong's actual investment to these 14 countries reached 490 million dollars, rising 103.6% year on year, which fully embodies the sound basis and huge potential of production capacity cooperation between Guangdong and countries along the Belt and Road.

UFOMiners เปิดตัว 4 ฮาร์ดแวร์ขุดเงินดิจิทัลทรงพลัง

          UFOMiners นำเสนอฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าสุดที่ทั้งทรงพลังและคุ้มค่า สำหรับการขุดเงินดิจิทัลทั้งบิทคอยน์และไลท์คอยน์

          UFOMiners ( www.UFOMiners.com ) หนึ่งในผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ขุดเงินดิจิทัลชั้นนำ ประกาศเปิดตัวฮาร์ดแวร์ขุดเงินบิทคอยน์และไลท์คอยน์ 4 ตัวใหม่ ได้แก่ MesaMiner, NekrosMiner, OberonMiner และ OberonMiner Prime โดยเปิดให้สั่งซื้อได้แล้วในราคาตั้งแต่ 3,200-4,900 ดอลลาร์

          MesaMiner และ NekrosMiner สามารถทำการแฮชด้วยความเร็ว 60 TH/s และ 85 TH/s ตามลำดับ นับเป็นฮาร์ดแวร์ขุดบิทคอยน์ที่ดีที่สุดในขณะนี้ สำหรับ MesaMiner ซึ่งเป็นฮาร์ดแวร์รุ่นพิเศษของ RinoMiner ที่รู้จักกันดีในวงการ มีราคาอยูที่ 3,600 ดอลลาร์ ส่วน NekrosMiner ที่ทรงประสิทธิภาพมากกว่ามีราคาอยู่ที่ 4,800 ดอลลาร์ ขณะที่ฮาร์ดแวร์ OberonMiner และ OberonMiner Prime สามารถขุดไลท์คอยน์ด้วยความเร็วในการแฮช 1.2 GH/s และ 2.2 GH/s ตามลำดับ โดยมีราคาขาย 3,200 ดอลลาร์ และ 4,900 ดอลลาร์ตามลำดับ

          UFOMiners ทำธุรกิจในวงการนี้มานานเกือบ 2 ปี หลังจากที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2557 โดยการรวมตัวของเหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับท็อปที่มีประสบการณ์โชกโชนด้านการออกแบบและพัฒนาฮาร์ดแวร์ การวางระบบวิศวกรรรม และการบริหารจัดการ ความเชี่ยวชาญของสมาชิกในบริษัทช่วยให้ UFOMiners สามารถพัฒนาองค์ประกอบสำคัญๆของฮาร์ดแวร์ได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาบุคคลที่สาม นอกจากนี้ การผลิตด้วยวิธีใหม่ยังช่วยให้บริษัทสามารถขายสินค้าได้ในราคาต่ำแต่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพสูงสุด

          ท่านที่สนใจสามารถสั่งซื้อฮาร์ดแวร์ของ UFOMiners ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทได้โดยตรง UFOMiners ยินดีรับสกุลเงินบิทคอยน์ ไลท์คอยน์ และการโอนเงินผ่านธนาคารทั่วไป นอกจากนั้นยังจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าโดยไม่คิดค่าส่ง ผ่านบริการของบริษัทชั้นนำอย่าง FedEx, UPS และ DHL ทั้งยังจัดส่งพร้อมกับอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นเพื่อให้สามารถติดตั้งและใช้งานได้ทันที ผลิตภัณฑ์ของ UFOMiners ผ่านการทดสอบ 2 ขั้นตอนทั้งระหว่างและหลังการผลิต เพื่อให้มีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด นอกจากนี้ ฮาร์ดแวร์ทั้ง 4 รุ่นข้างต้นยังรับประกัน 5 ปีสำหรับการชำรุดที่เกิดจากการผลิต เพื่อให้ลูกค้าเกิดความสบายใจมากที่สุด

UFOMiners Launch Four Powerful Cryptocurrency Miners

          UFOMiners offers its latest, powerful and economical cryptocurrency mining hardware for Bitcoin and Litecoin mining operations

          One of the leading cryptocurrency mining hardware manufacturers, UFOMiners ( www.UFOMiners.com ) has introduced four powerful miners for Bitcoin and Litecoin Mining. The hardware - MesaMiner, NekrosMiner, OberonMiner and OberonMiner Prime - are now available for ordering at a price range of $3200 and $4900.

          Both MesaMiner and NekrosMiner offer a hashing speed of 60 TH/s and 85 TH/s respectively and are by far the best mining hardware for Bitcoin mining. MesaMiner is a special edition of well-known RinoMiner and is available for $3600, while its more powerful counterpart, NekrosMiner sells for $4800 a piece. Similarly, OberonMiner and OberonMiner Prime are designed for Litecoin mining with a hashing speed of 1.2 GH/s and 2.2 GH/s. They sell for $3200 and $4900 respectively.

          UFOMiners has been in business for almost two years now. The company started in 2014 and consists of top-level specialists with many years of experience in handling the design and development of equipment, engineering, and management. The expertise of its employees allows UFOMiners to develop all the key components for the hardware in-house without having to rely on third-party solutions. The use of alternative, new methods of manufacturing also helps the company keep its prices low while offering highest performance possible.

          Customers can readily buy any of the UFOMiners products directly from the company's website. UFOMiners accept Bitcoin, Litecoin and wire transfer deposits. The crypto hardware units sold by UFOMiners are shipped for free using reputed courier services like FedEx, UPS or DHL and includes all required accessories for instant deployment. All UFOMiners equipment are put through a 2 stage test procedure during and after the manufacturing process to minimize the chances of defects. In addition, all the four UFOMiners hardware come with a 5-year warranty against manufacturing defects to ensure its customers' peace of mind.

European Medicines Agency Validates the Marketing Authorization Application for Avelumab for the Treatment of Metastatic Merkel Cell Carcinoma



          Not intended for UK-based media




          - If approved, avelumab, an investigational anti-PD-L1 IgG1, could be the first treatment indicated for patients with metastatic Merkel cell carcinoma
          - The Marketing Authorization Application is based on Phase II data from the JAVELIN Merkel 200 study demonstrating meaningful tumor responses in patients with metastatic disease that progressed after prior chemotherapy
          - JAVELIN Merkel 200 is the largest reported anti-PD-L1/PD-1 antibody study in this patient population

          Merck and Pfizer Inc. (NYSE: PFE) today announced that the European Medicines Agency (EMA) has validated for review Merck's Marketing Authorization Application (MAA) for avelumab, for the proposed indication of metastatic Merkel cell carcinoma (MCC), a rare and aggressive skin cancer, which impacts approximately 2,500 Europeans a year.[1],[2]  Validation of the MAA confirms that submission is complete and begins the EMA's centralized review process.* If approved, avelumab, an investigational fully human anti-PD-L1 IgG1 monoclonal antibody, could be the first approved treatment indicated for metastatic MCC in the EU. Patients with metastatic MCC face a very poor prognosis, with less than 20 percent surviving beyond five years.[3]

          "While early-stage Merkel cell carcinoma can be generally managed with surgery, there are significant unmet needs in metastatic disease, where treatment options are severely limited," said Luciano Rossetti, M.D., Executive Vice President, Global Head of Research & Development at the biopharma business of Merck. "We are pleased that the EMA is initiating its review of avelumab, as this means we are one step closer to bringing a much-needed new treatment option to European patients."

          "This is the first of what we hope will be many regulatory milestones for avelumab," said Chris Boshoff, M.D., Ph.D., Senior Vice President and Head of Immuno-oncology, Early Development and Translational Oncology, Pfizer Global Product Development. "We are committed to evaluating avelumab in a number of hard-to-treat cancers, and we believe it may have potential to be an important treatment option for patients with metastatic Merkel cell carcinoma."

          The avelumab metastatic MCC MAA submission is supported by data from JAVELIN Merkel 200, a multicenter, single-arm, open-label, Phase II study of 88 patients with metastatic MCC whose disease had progressed after at least one chemotherapy treatment.[1] The JAVELIN Merkel 200 study represents the largest data set of any anti-PD-L1/PD-1 antibody reported in this patient population. These data were recently published in the Lancet Oncology.[1]

          Avelumab received an Orphan Drug Designation (ODD) from the European Commission for MCC. To qualify for an ODD in the EU, a medicine must be intended for the treatment, prevention or diagnosis of a disease that is life-threatening or chronically debilitating; the prevalence of the condition in the EU must not be more than 5 in 10,000, or it must be unlikely that marketing of the medicine would generate sufficient returns to justify the investment needed for its development; and it must be for a disease where no satisfactory treatment is currently available.[4]

          The clinical development program for avelumab, known as JAVELIN, involves at least 30 clinical programs and over 2,900 patients evaluated across more than 15 different tumor types. In addition to metastatic MCC, these cancers include breast, gastric/gastro-esophageal junction, head and neck, Hodgkin's lymphoma, melanoma, mesothelioma, non-small cell lung, ovarian, renal cell carcinoma and urothelial (primarily bladder).

          *Avelumab is not approved for any indication in any market. This marks the first acceptance of an EU market authorization application to review the safety and efficacy results for the investigational product avelumab.

Wuyuan's Shicheng Village Sets Up New Routes for Visitors as Fall Foliage Reaches Peak Season

          To present visitors a better viewing experience this year, Jiangxi Wuyuan Tourism Co., Ltd. has been renovating the walking trails around Shicheng Village, one of the prime viewing locations of maple leaves in Wuyuan County China as the peak season of this year's fall foliage is expected to arrive in early November.
           

          The route is designed to broaden the existing paths and connect people to more viewing and photo opportunities. New observation decks have been built in open areas and old ones repaired and secured as the bright yet brief fall colors begin to splash on the mountains and valleys of Shicheng Village.

          Shicheng, which translates into "stone city" for its rock walls at the entrance of the village, is best known for its ancient Hui-style architecture, mysterious fog and hundreds of tall maple trees. The elegant black and white houses unevenly dotted over the hills also add to the unique scenery that blends together the peace of country life and the serenity of the landscape.

          A recommended location for appreciating the fall foliage is the 10-kilometer-long old post road on the east side of Shicheng Village, as the bluish grey quartzite-paved road nicely contrasts the radiant maple forests on both sides.

          "In China 'Shuang Jiang', the first frost, symbolizes the colder weather in late autumn," said Bin Zhan, brand manager of Jiangxi Wuyuan Tourism Co. Ltd. "The maple trees in Shicheng start turning red towards the end of October every year, but the visually stunning scenery only lasts a month."

          About Wuyuan

          Wuyuan County, located on the northeastern tip of Jiangxi Province, is known for its one-of-a-kind mountain landscape. It is also home to the most well-preserved ancient Hui-style architecture. Some of the most beautiful countryside in China, Wuyuan attracts photographers from around the world every year to document not only the natural scenery, but also the unique farming culture and folk traditions.

          For more information on visiting Wuyuan to view the fall foliage, please check out the official WeChat of Wuyuan Tourism (ourwuyuan) or visit its official website www.wuyuan.cc .



USG Boral, Maker of Elephant Gypsum Boards, Bags Three Prestigious Awards at the 2016 Global Gypsum Awards

          Awarded "Global Gypsum Company of the Year", "Global Gypsum Plant of the Year" and "Global Gypsum Product of the Year", USG Boral swept three out of six awards

          Leading building materials supplier USG Boral (also known as Siam Gypsum[1] in Thailand) was awarded three prominent industry awards at the 16th Annual Global Gypsum Conference and Exhibition, held in Bangkok, Thailand, from 25-26 October.
         

          The Global Gypsum Conference is the largest and most established event in the gypsum industry. Since 2006, the Global Gypsum association presents several awards annually to recognize outstanding companies and products within the gypsum industry.

          This year, USG Boral was nominated in three different categories, including two nominations within the 'Global Gypsum Plant of the Year' category. Winners in each category are awarded by a judging panel as well as public votes.

          1. Global Gypsum Company of the Year, USG Boral

          Open to plaster and wallboard companies worldwide, USG Boral emerged victorious under the stringent judging criteria including management strategy, employee relations, customer and supplier relations, environmental performance, safety record, manufacturing excellence, productivity, use of technology and market results.

          2. Global Gypsum Plant of the Year, USG Boral - Saraburi, Thailand

          USG Boral's award winning Saraburi plant produces all of the Siam Gypsum and Elephant branded gypsum boards sold in Thailand. Judged based on plant safety, productivity, innovation, quality consistency and environmental performance, the Saraburi plant in Thailand topped the cohort among the hundreds of gypsum-wallboard plants across the globe.

          3. Global Gypsum Product of the Year, USG Boral SHEETROCK(R) Plasterboard

          With an enhanced lightweight core structure that allows for light and easy installation, the USG Boral SHEETROCK(R) Plasterboard (known as Elephant Gypsum Board Plus Sheetrock(R) Brand Technology in Thailand) is recognized as the leading product in innovation, quality and effectiveness of product, as well as the fit to market need.

          Frederic De Rougemont, Chief Executive Officer of USG Boral, said, "We are tremendously delighted to be recognized for our work across Asia, Australia and the Middle East through the prestigious Global Gypsum Awards. This is an accomplishment that is ought to be shared with our stakeholders, employees and partners who unwaveringly stood by our core values of safety, integrity, innovation, excellence and collaboration. It is our commitment to continue developing solutions for walls and ceilings that contribute to safe and healthy buildings."

          "The awards are a great recognition of our efforts over the years to create an elite plasterboard operation. We are proud to have such a professional and dedicated team at Saraburi," said Joe Holmes, Chief Operation Officer of USG Boral.

          About USG Boral

          USG Boral was formed in 2014 through a joint venture between USG Corporation and Boral Limited. With approximately 3,500 employees, USG Boral is a leading manufacturer and supplier of gypsum-based wall and ceiling lining systems, mineral fibre acoustical ceiling systems, metal framing, joint compounds, high-performance panels and accessories throughout Asia, Australia and the Middle East. USG Boral is a leading multi-country plasterboard producer with 24 manufacturing plants and 3 gypsum mines across Australia, China, Thailand, Indonesia, South Korea, Vietnam, India, Malaysia, Philippines, Oman and Saudi Arabia.

          About Siam Gypsum Industry (Saraburi) Co., Ltd

          Siam Gypsum was established in 1982 to manufacture and sell Gypsum boards under the "Elephant" brand. Siam Gypsum is a joint venture between USG Boral and Siam Cement Group, Thailand's number one manufacturer and distributor of construction materials.



From Stroke Survivor to Stroke Thriver - What We All Need to Know

          With good care and rehabilitation, there is life after stroke.

          As you read this, today on World Stroke Day, around the world and in all walks of life, stroke survivors are leaving hospitals feeling like they have little or no support. They feel scared and alone as they face a long road to recovery and don't know where to turn for help and guidance. It is life-changing stuff - not just for the survivor, but for their family and friends as well. Everything changes in that moment and each year millions of us are affected in some way or another. But for the countless survivors who are facing this challenge right now, help is at hand.
         

          Stroke can strike even those you might think are 'too young', just ask the author of Two Strokes Not Out, Sas Freeman, who has experienced not one but two strokes in her forties. Sas Freeman's advice, released freely on audiobook today, reveals crucial first-hand experience on how to not just survive but to potentially thrive following a stroke.

          "Shortly after my stroke I hit rock bottom. Overnight, I lost all my independence, my identity as I'd known it. Stroke left me feeling I had no one to turn to, no one to ask how to come out of this - it really was a daunting, scary experience," said Sas Freeman.

          Today is World Stroke Day and there's few people better placed than Sas to give practical advice to people who've experienced a stroke, as well as their families and carers, on how to cope and recover. Her audiobook, beautifully narrated by Sas herself, includes heartfelt counsel and practical advice from someone who knows. She shares her own experiences as well as much-needed information and guidance with tips like:

          - For the family: Bring photographs of happy occasions and places to the hospital to have at the bedside. Ask staff to take any children aside separately and explain what is happening and encourage them to ask questions. Make sure you have all the questions answered before the survivor comes home
          - For the carer: Your well-being is important, for you as well as for the person you care for, so look after yourself. Try to organise the day so that you have at least a little time to yourself. Ask family or friends for help with specific tasks
          - For the survivor: Make home videos of your recovery so you can witness your own progress. Celebrate any and all achievements - it doesn't matter how big or small, everything that you achieve is a testament to your hard work

          With this audiobook, Sas hopes to reach even more people through her gently spoken words, like those who are in a coma but able to hear or those who are unable to read because they have lost the ability, may not be able to turn the pages or can't see the text.

          Two Strokes Not Out is available to download now free of charge at https://en.signagainststroke.com/life-after-a-stroke/two-strokes-not-out

          Please note that the information included in Two Strokes Not Out is not intended to replace medical advice offered by healthcare professionals.

          Notes to editors:

          About Sas Freeman 

          Sas Freeman is a stroke survivor, author of her personal biography Two Strokes Not Out, artist, mentor and motivational speaker. After experiencing two strokes during her mid-40s, Sas became passionate about increasing stroke awareness and supporting fellow survivors. In her own words "Ifeel very strongly about raising awareness of stroke thus helping survivors and their loved ones. My experience of having two strokes, combined with my positive attitude and practical steps to recovery are, people say, eloquently portrayed in my book, where I write about my own emotions and the passionate belief and promise to help others." For more information about Sas Freeman's experience, please visit her website: http://www.sasfreeman.com .

          About the Sign Against Stroke in Atrial Fibrillation Website  

          The content and tools found on https://en.signagainststroke.com have been developed by the authors of the Global AF Patient Charter - a resource designed to bring a worldwide, unified voice to improve the care and treatment of individuals living with atrial fibrillation (AF) and those at risk for AF-related stroke. The Sign Against Stroke Task Force has been coordinated by a secretariat funded by Bayer. This website is administrated by Fundacja Udaru Mozgu (The Polish Stroke Foundation), on behalf of the Sign Against Stroke Task Force.

          The Two Strokes Not Out audiobook is the sole property of Sas Freeman and is strictly not for adaption or commercial use. The audiobook was made possible with funding from Bayer to support all those who have experienced a stroke, and their families and carers. Please note that the information included in Two Strokes Not Out is not intended to replace medical advice offered by healthcare professionals.

          Bayer is proud to support the Global AF Patient Charter and Sign Against Stroke Campaign.



Brazilian President Michel Temer met with XCMG's chairman Wang Min

          Michel Temer, President of Brazil, cordially met with XCMG chairman Wang Min, vice president of XCMG Machinery and chairman of XCMG Brazil Wang Yansong and the XCMG delegations on October 25 at the Presidential Palace in Brasilia, Brazil.



          At the positive talk on Chinese enterprise taking root in Brazil and helping to improve the infrastructure of Brazil, President Temer expressed his appreciation of XCMG's investments in Brazil and contributions to the local economy in the country, praising the company's achievements in Brazil to have set a good example for more Chinese enterprises that are willing to invest in Brazil.

          "This is the second time to meet with Mr. Wang after G20 Hangzhou Summit, China keeps its economic growth at a higher level, which provides valuable experience for the world," said President Temer. "The Summit can bring 'China Mode' to more countries, and the Brazil economy in the recovery period has more need for China's experience."

          XCMG manufacturing base in Brazil is not only the company's largest overseas manufacturing base, but also the first and largest construction machinery industrial park in Brazil built by Chinese construction machinery industry. The factory has brought more values to XCMG's local clients as well as pushing the economic development in Brazil.

          Wang explained XCMG's strategy of rooting in Brazil and further influencing South America is persistent and will hold fast to the promise during the economic downturn Brazil is going through, and the company is confident in investing in Brazil.

          After the talk, Wang presented President Temer with a XCMG crane model and invited him to visit XCMG's factory in Pouso Alegre at an appropriate time, which President Temer readily accepted.

          Wang has carried out his field survey of XCMG's manufacturing base in Brazil since he and the XCMG delegations arrived on October 22, meeting with XCMG employees in Brazil and overseeing production departments and assembly lines, making an important remark that XCMG needs to adhere to its strategy and goals in becoming a world class brand.

          About XCMG:

          XCMG is a multinational heavy machinery manufacturing company with a history of 73 years. It currently ranks ninth in the world's construction machinery industry. The company exports to more than 176 countries and regions around the world.

          For more information, please visit: www.xcmg.com , or XCMG pages on Facebook, Twitter, YouTube, LinkedIn and Instagram.



เดนิส เคลเลอร์ พิธีกรชื่อดัง และนักผจญภัย เลียม เบตส์ เตรียมพาคุณไปสัมผัสกับแก่นแท้ของเส้นทางสายไหมอันเก่าแก่ ในรายการ EXPEDITION X: SILK ROAD RISING

          - ออกอากาศครั้งแรกต.ค.นี้ ทางช่อง Discovery Channel -

          เป็นเวลาหลายพันปีแล้วที่เส้นทางสายไหมได้กลายเป็นสะพานเชื่อมเศรษฐกิจระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตก เป็นจุดหลอมรวมอาณาจักรทั้งหลาย และแลกเปลี่ยนแนวคิดใหม่ๆ ซึ่งบางครั้งก็ด้วยความรุนแรง คำถามก็คือ เส้นทางการค้าอันเก่าแก่นี้เกี่ยวข้องกับยุคศตวรรษที่ 21 อย่างไร แล้วเราจะยังสามารถค้นพบต้นกำเนิดที่จุดประกายเรื่องราวทางประวัติศาตร์เกี่ยวกับชัยชนะอันยิ่งใหญ่และการค้าที่เต็มไปด้วยภัยเสี่ยงตลอดแนวเส้นทางเปื้อนฝุ่นนี้ได้หรือไม่ ติดตามเดนิส เคลเลอร์ และนักผจญภัยอย่าง เลียม เบตส์ ใน EXPEDITION X: SILK ROAD RISING ซีรีส์ใหม่ล่าสุดจากช่อง Discovery Channel โดยผู้ดำเนินรายการทั้งสองเดินทางจากจีนไปยังตุรกีตลอดเส้นทางสายไหมอันเก่าแก่ พร้อมรับชมการทำงานของคนรุ่นใหม่ ทั้งนักสำรวจ นักธุรกิจ และผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม ที่ล้วนทำให้เส้นทางในตำนานนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ทั้งนี้ EXPEDITION X: SILK ROAD RISING เตรียมออนแอร์วันแรก 29 ตุลาคมนี้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของผังรายการ HOUR CHINA ของทางช่อง ซึ่งนำเสนอแง่มุมความน่าอัศจรรย์ของประเทศจีน

          เดนิส เคลเลอร์ เป็นทั้งวีเจชื่อดังทางช่อง MTV พิธีกรรายการช่อง TLC และยังเป็นนักสำรวจตัวยงด้วย เธอผู้นี้มีคำถามในใจที่ยังไม่ได้รับคำตอบมากมาย จากการที่ตัวเธอนั้นมีเชื้อสายเยอรมัน-จีน และมีภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่แตกต่าง ท่ามกลางโลกยุคปัจจุบันที่เชื่อมต่อถึงกันทั่วโลก ขณะที่เลียม เบตส์ เป็นนักผจญภัยซึ่งแสวงหาหนทางที่จะไขปริศนาของอาณาจักรกลาง (Middle Kingdom) ตลอดจนอิทธิพลที่อาณาจักรแห่งนี้มีต่อทั้งโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการสนทนาแลกเปลี่ยนระหว่างอารยธรรมจีนกับตะวันตกในยุคต่างๆ ซึ่งบางครั้งก็มีการใช้กำลัง รายการนี้นำเสนอการหลอมรวมทางวัฒนธรรมของอารยธรรมชาติต่างๆ ขณะที่ผู้ดำเนินรายการตบเท้าออกสำรวจด้วยตนเอง เพื่อค้นหาสิ่งที่หล่อหลอมให้เส้นทางสายไหมเป็นอยู่อย่างทุกวันนี้

          เดนิส และ เลียม พร้อมกลุ่มนักผจญภัยชาวจีนรุ่นใหม่ไฟแรง เดินทางสำรวจอารยธรรมทั้งที่ซีอาน หนิงเซีย เตอร์ปัน ตันหวง คาซัคสถาน และอิสตันบูล บนเส้นทางที่ยาวถึง 13,000 กม. พวกเขาต่างสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์ของถ้ำโม่เกา ซึ่งยูเนสโกได้ยกให้เป็นมรดกโลก สำรวจความทันสมัยล้ำยุคของเมืองหยินชวนในจีน และกรุงอัสตานา เมืองหลวงของคาซัคสถาน เรียนรู้การทำงานของระบบรางรถไฟอันทันสมัย ซึ่งจะทำให้การเดินทางบนเส้นทางสายไหมนี้แล่นฉิวเหมือนสายลม ร่วมขบวนรถโฟร์วีลไปกับทีมนักผจญภัย ค้นพบว่าคลองคาเรซในจีนที่มีอายุเก่าแก่ถึง 2000 ปีนั้นยังมีการใช้งานในปัจจุบันได้อย่างไร และเรียนรู้ไปด้วยกันว่า นครอิสตันบูลสามารถรักษาการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกกับตะวันตกให้ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร

          รายการ SMART CHINA ผลิตโดย Discovery Channel ด้วยความร่วมมือกับ China Intercontinental Communication Center (CICC)



Rio Tinto และ Chow Tai Fook ผนึกกำลังสนับสนุนการจัดงาน JNA Awards ประจำปี 2560


          Rio Tinto Diamonds และ Chow Tai Fook Jewellery Group จะรับบทบาทเป็นผู้นำการจัดงาน JNA Awards ติดต่อกันเป็นปีที่ 6 ในฐานะพันธมิตรหลัก (Headline Partner) โดยพิธีลงนามการจัดงานประกาศรางวัลชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับประจำปีหน้ามีขึ้นในระหว่างงานกาล่าดินเนอร์ JNA Awards ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ในฮ่องกง โดยมีบุคคลในวงการอุตสาหกรรมอัญมณีกว่า 500 รายร่วมเป็นสักขีพยาน

          รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบมัลติเมียเดียได้ที่: http://www.prnasia.com/mnr/jna_201610.shtml

     



          นอกจากนี้ Shanghai Diamond Exchange (SDE), Guangdong Gems & Jade Exchange และ Guangdong Land Holdings Limited (GDLand) ยังกลับมาร่วมสนับสนุนการจัดงานครั้งต่อไปเช่นกัน ในฐานะพันธมิตรกิตติมศักดิ์ (Honoured Partners) ทั้งนี้ การมอบรางวัล JNA Awards มีจุดประสงค์เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติบริษัทและบุคคลที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นเลิศ ความเป็นผู้นำ และนวัตกรรม ตลอดจนสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อธุรกิจและชุมชนของตนผ่านความคิดและผลงานที่ได้สร้างสรรค์ขึ้น โดยมุ่งเน้นที่ภูมิภาคเอเชียเป็นพิเศษ

          "ผู้นำอุตสาหกรรมเหล่านี้ให้การสนับสนุนเราอย่างดีเยี่ยม ซึ่งความมุ่งมั่นและการสนับสนุนอย่างโดดเด่นนี้เองที่ผลักดันให้เราเดินหน้ายกระดับการค้าเครื่องประดับอัญมณีและงานประกาศรางวัลจนมาถึงจุดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน" นายวูลแฟรม ดีเนอร์ รองประธานอาวุโสของ UBM Asia กล่าว

          เลติเทีย โจว ผู้ก่อตั้ง JNA ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ Jewellery Group ของ UBM Asia และประธานคณะกรรมการตัดสินรางวัล JNA Awards กล่าวว่า "นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับเราที่มีโอกาสได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรผู้มีวิสัยทัศน์และค่านิยมหลักเดียวกัน และช่วยกันทำให้งานนี้ก้าวขึ้นเป็นงานที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงและมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรม การสนับสนุนจากทั้งพันธมิตรหลักและพันธมิตรกิตติมศักดิ์นั้นถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ Rio Tinto Diamonds, Chow Tai Fook Jewellery Group และ Shanghai Diamond Exchange ที่ได้ร่วมเดินทางกับเรามาตั้งแต่แรกเริ่ม"

          ริต้า มัลเตซ ผู้อำนวยการสำนักงานตัวแทนบริษัท Rio Tinto Diamonds ประจำเกรทเทอร์ไชน่า (จีน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน) กล่าวว่า "Rio Tinto มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรหลักมาตั้งแต่ก่อตั้ง และได้ให้การสนับสนุนงานประกาศรางวัลนี้ เรารู้สึกยินดีที่ได้เห็นการเติบโตของงาน JNA Awards ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา จนขณะนี้ได้ผลิบานและกลายเป็นเวทีสำคัญที่สร้างคุณค่าให้แก่อุตสาหกรรมเครื่องประดับอัญมณี เรามุ่งหวังที่จะได้เดินหน้าสานต่อความเป็นพันธมิตรร่วมกับ JNA Awards และจะร่วมลงทุนเพื่อให้อุตสาหกรรมของเราเติบโตต่อไป"

          เคนท์ หว่อง กรรมการผู้จัดการบริษัท Chow Tai Fook Jewellery Group กล่าวว่า "JNA Awards เป็นเวทีส่งเสริมนวัตกรรมและแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ ซึ่งช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้ก้าวไปข้างหน้า ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทางบริษัทรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรหลักของงานประกาศรางวัลอันทรงเกียรติต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และด้วยความร่วมมือจากบรรดาพันธมิตรหลัก เราจะเดินหน้าผลักดันอุตสาหกรรมเครื่องประดับอัญมณีให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป"

          หลิน เชียง ประธานและกรรมการผู้จัดการของ SDE ระบุว่า "SDE รู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรของ JNA Awards มานับตั้งแต่การก่อตั้งในปี 2555 เราเชื่อว่าเวทีแห่งนี้จะเปิดทางให้อุตสาหกรรมอัญมณีสามารถเฟ้นหาผู้ที่ดำเนินธุรกิจตามแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ รวมถึงเป็นผู้ที่มีความสามารถในตลาดที่มีการแข่งขันสูง เพื่อเป็นแบบอย่างอันยอดเยี่ยมให้กับบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมได้เจริญรอยตามต่อไป"

          หลี่ หย่งกัง รองประธานบริหาร GDLAND เปิดเผยว่า "GDLand รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นพันธมิตรกิตติมศักดิ์ของงาน JNA Awards ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 4 เรามีความมุ่งมั่นที่จะได้สานต่อความร่วมมือกับ JNA Awards และพันธมิตรรรายอื่นๆ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเครื่องประดับอัญมณีให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง"

          จิม หลี่ ผู้จัดการทั่วไปของ Guangdong Gems & Jade Exchange กล่าวว่า "เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับพันธมิตรรายอื่นๆ ของ JNA Awards และด้วยความร่วมมือในครั้งนี้ เราจะมุ่งมั่นสร้างอนาคตที่สดใสให้กับวงการเครื่องประดับอัญมณี"

          พิธีประกาศรางวัล JNA Awards ประจำปี 2559 และงานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมาได้จบลงด้วยความประทับใจ โดยมีผู้ชนะรางวัลทั้งสิ้น 15 ราย จาก 11 สาขารางวัลด้วยกัน สามารถดูรายชื่อผู้ได้รับรางวัลทั้งหมดได้ที่ http://www.jnaawards.com/Results/2016/tabid/7177/Default.aspx#.WBL7KOV96mx

          สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม http://www.JNAawards.com

เครื่องประดับและนาฬิกาจาก “THOMAS SABO” ของขวัญแทนใจในช่วงเทศกาล


         

         สำหรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ เครื่องประดับที่สะท้อนอารมณ์ความรู้สึกของผู้ให้ คือของขวัญที่งดงามที่สุดที่จะสร้างความสุขให้กับบุคคลอันเป็นที่รัก THOMAS SABO จึงภาคภูมิใจนำเสนอแหวน สร้อยข้อมือ และสร้อยคอประดับเพชรเจียระไนคอลเลคชั่น Glam & Soul Diamonds และ Triangle Diamonds ที่แทนคำขอบคุณและความรู้สึกดีๆ เครื่องประดับเหล่านี้ใช้สัญลักษณ์แห่งความรักสุดคลาสสิก ผสานเข้ากับรูปทรงสามเหลี่ยมสไตล์โมเดิร์น ประดับด้วยเพชรเม็ดงามที่ส่องประกายชวนหลงใหลและสะท้อนความหรูหราที่แท้จริง

          นอกจากนั้นยังมีคอลเลคชั่นนาฬิกาที่เหมาะจะมอบเป็นของขวัญแทนใจในโอกาสพิเศษเช่นนี้ โดยนาฬิกาสำหรับสุภาพสตรี Glam Spirit ที่มาพร้อมหน้าปัดสีม่วงแดงและสายสีโรสโกลด์ คือตัวแทนของความรักอันสดใส ในขณะที่นาฬิกาสำหรับสุภาพบุรุษ Rebel Spirit และ Rebel Spirit Chronos ก็โดดเด่นด้วยนวัตกรรมและสายสเตนเลสสตีล Milanaise ลายทางสีสันสวยงามสะดุดตา

          ขณะเดียวกัน เครื่องประดับคอลเลคชั่น Charm Club ก็จะมาร่ายมนต์ในช่วงเทศกาลที่กำลังจะมาถึง ด้วยชาร์มที่สะท้อนถึงความสนุกสนานและฤดูหนาว อาทิ ชาร์มนางฟ้าตัวน้อย ชาร์มเกล็ดหิมะอันประณีต และชาร์มหัวใจดวงน้อยสุดน่ารัก เพื่อให้ทุกคนนำไปสร้างสรรค์สร้อยคอและสร้อยข้อมือตามแบบฉบับของตัวเอง

          ดาวน์โหลดภาพความละเอียดสูงได้ที่
          http://images.thomassabo.com/www/2/2016/09/THOMAS-SABO_Press-Release_Christmas_AW161.zip

Friday, October 28, 2016

Swissquote นำเสนอโซลูชั่นการเงินใหม่ล่าสุด สร้างโอกาสการลงทุนจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ


 
        - สร้างโอกาสการลงทุนในตลาดการเงินโดยอิงผลการเลือกตั้ง
          - นำเสนอผลโพลล์แบบเรียลไทม์ผ่านเว็บไซต์ ด้วยโซลูชั่นที่พัฒนาร่วมกับ Ecole polytechnique federale de Lausanne
          - คว้าประโยชน์สูงสุดจากการเลือกตั้ง ด้วยการลงทุนในตระกร้าเงินตราต่างประเทศที่มีความสัมพันธ์กับผลการเลือกตั้ง
          Swissquote Bank AG ธนาคารออนไลน์ชั้นนำของสวิตเซอร์แลนด์ นำเสนอโอกาสในการลงทุนครั้งใหม่ โดยอิงจากผลการเลือกตั้งสหรัฐที่มีต่อตลาดการเงิน
          รับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่
          http://www.multivu.com/players/uk/7963551-swissquote-fintech-us-presidential-election/


          นักลงทุนที่ต้องการตักตวงประโยชน์สูงสุดจากการเลือกตั้งสหรัฐ จะได้รับความสะดวกในการลงทุนด้วยเครื่องมือวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ใหม่ ซึ่ง Swissquote ได้พัฒนาร่วมกับ Ecole polytechnique federale de Lausanne (EPFL) โดยจะมีการเปิดเผยผลโพลล์ต่อสาธารณะผ่านเว็บไซต์ http://www.swissquote.com/us-election ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
          อัตราแลกเปลี่ยนและสกุลเงินต่างๆ เป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่มีความอ่อนไหวมากที่สุดต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และบ่อยครั้งก็มีการเคลื่อนไหวทันทีเพียงแค่ผู้สมัครชิงตำแหน่งพูดอะไรบางอย่างออกมา สำหรับตะกร้าเงินตราต่างประเทศฮิลลารีและโดนัลด์นั้น ประกอบไปด้วยสกุลเงินต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กับผลโพลล์ ได้แก่ นิวเปโซเม็กซิโก ดอลลาร์แคนาดา หยวนของจีน และเยนญี่ปุ่น
          มาร์ก เบอร์คี ซีอีโอของ Swissquote กล่าวว่า "การทำโพลล์ผ่านทางเว็บในแบบเรียลไทม์จะกลายเป็นปัจจัยที่สำคัญในการตัดสินใจลงทุน ไม่ว่าจะเป็นผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีหรือการลงทุนอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากความคิดของสาธารณชนที่เปลี่ยนแปลงไป การเผยแพร่มาตรวัดนี้ต่อสาธารณะแสดงให้เห็นว่า Swissquote ยังคงเป็นผู้นำในการผนวกรวมกลยุทธ์การลงทุนแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีการเงินที่ทันสมัย"
          Swissquote ธนาคารออนไลน์ชั้นนำของสวิตเซอร์แลนด์
          Swissquote คือผู้ให้บริการทางการเงินออนไลน์ชั้นนำ ที่นำเสนอโซลูชั่นและเครื่องมือวิเคราะห์อันทันสมัย เพื่อรองรับอุปสงค์และความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า แพลตฟอร์มนี้มอบบริการซื้อขายออนไลน์ที่หลากหลาย ตลอดจนนำเสนอโซลูชั่นต่างๆ ทั้ง eForex, ePrivate Banking, eMortgage และบัญชีเงินฝากที่ยืดหยุ่น Swissquote ให้บริการในราคาประหยัดสำหรับลูกค้ารายย่อย ทั้งยังนำเสนอบริการพิเศษสำหรับผู้จัดการสินทรัพย์และลูกค้าสถาบันด้วย Swissquote Bank Ltd ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคารจากหน่วยงานกำกับดูแลอย่าง Swiss Federal Financial Market Supervisory Authority (FINMA) และเป็นสมาชิกของ Swiss Bankers Association ทั้งนี้ Swissquote Group Holding Ltd ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของธนาคาร ได้จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ SIX Swiss Exchange (สัญลักษณ์หุ้น: SQN)
          ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
          Nadja Keller
          ผู้จัดการฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ของ Swissquote
          อีเมล: mediarelations@swissquote.ch
          (รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20161025/432182 )
          วิดีโอ: http://www.multivu.com/players/uk/7963551-swissquote-fintech-us-presidential-election/
          ที่มา: Swissquote
-ปม-

Swissquote Fintech Solution to Facilitate Real-Time US Presidential Election Opportunities


          - Investment opportunities for different election outcome scenarios on financial markets
          - New artificial intelligence polling solution, developed with the Ecole polytechnique federale de Lausanne, provides real-time web polling information on each candidate
          - US election forex basket will allow users to benefit from the effect of election outcome on exchange rates
          Swissquote Bank AG, Switzerland's leading online bank, announces newly created investment opportunities based on different scenarios of impacts of the US elections on financial markets.
          To view the Multimedia News Release, please click:
          http://www.multivu.com/players/uk/7963551-swissquote-fintech-us-presidential-election
          Investors wishing to capitalize on the elections will see their investment decisions facilitated by a new predictive analysis tool, which Swissquote has developed in partnership with Ecole polytechnique federale de Lausanne (EPFL). Based on an artificial intelligence algorithm, poll results will be publicly available on a dedicated Swissquote page: http://www.swissquote.com/us-election .
          Currencies and their exchange rates are the financial assets most sensitive to the US election, often reacting in real-time to single statements the candidates make. The Hillary and Donald US Election Foreign Exchange (Forex) Baskets consist of different shares of currencies that are increasingly correlated to the Poll results, which are the Mexican New Peso, the Canadian Dollar, the Chinese Yuan and the Japanese Yen.
          "This real-time web opinion poll has the potential to become an important factor for investments decisions, whether for the outcome of a presidential election or any other investment impacted by shifts in public sentiment", said Swissquote CEO Marc B?rki. "Making this unique metric publicly available, shows that Swissquote continues to lead the effort to merge traditional investment strategy with latest financial technology".
          Swissquote - The Swiss Leader in Online Banking
          As a leading provider of online financial services, Swissquote offers innovative solutions and analysis tools to meet the wide range of demands and needs of its clients. As well as various online trading services, the user-friendly platform also provides solutions for eForex, ePrivate Banking, eMortgage and flexible saving accounts. In addition to a low-cost service for private clients, Swissquote also offers specialized services for independent asset managers and corporate clients. Swissquote Bank Ltd holds a banking license issued by its supervisory authority the Swiss Federal Financial Market Supervisory Authority (FINMA) and is a member of the Swiss Bankers Association. Its mother company, Swissquote Group Holding Ltd, is listed on the SIX Swiss Exchange (symbol: SQN).
          For further information please contact:   
          Nadja Keller
          Swissquote Media Relations Manager
          mediarelations@swissquote.ch
          (Photo: http://photos.prnewswire.com/prnh/20161025/432182 )
          Video: http://www.multivu.com/players/uk/7963551-swissquote-fintech-us-presidential-election

          Source: Swissquote

Telepizza บุกตลาดซาอุดิอาระเบีย เปิด 3 สาขาแรกในกรุงริยาด



          การลงนามในข้อตกลงมาสเตอร์แฟรนไชส์กับบริษัท อัล บายัน โฮลดิ้ง กรุ๊ป (Al Bayan Holding Group) กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ของซาอุดิอาระเบีย ส่งผลให้

          - เทเลพิซซ่า (Telepizza) สามารถเดินหน้าเปิดสาขาเพิ่มขึ้นตามกลยุทธ์การขยายธุรกิจในซาอุดิอาระเบีย โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะเปิดให้ได้ 100 สาขา ใน 10 ปีข้างหน้า

          - เทเลพิซซ่าตั้งเป้าเป็นผู้นำธุรกิจส่งพิซซ่าในซาอุดิอาระเบีย ซึ่ง Euromonitor ได้ประมาณการว่ามีมูลค่าการตลาดอยู่ที่ 1.3 พันล้านยูโรในปี 2559 และคาดว่าจะเติบโต 6% ตลอด 5 ปีข้างหน้า

          เทเลพิซซ่า ประกาศเปิดร้าน 3 สาขาแรกในประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยตั้งอยู่ที่กรุงริยาด เมืองหลวงของประเทศ

          โดยทั้ง 3 สาขาดังกล่าวถือเป็นสาขาแรกๆ จากทั้งหมด 100 สาขาที่เทเลพิซซ่าตั้งเป้าจะเปิดในซาอุดิอาระเบียในช่วง 10 ปีข้างหน้า และถือเป็น 3 ใน 5 สาขาที่จะเปิดให้บริการในกรุงริยาดภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยหลังจากนี้ บริษัทมีแผนจะขยายสาขาไปยังเมืองเจดดาห์ ทางภาคตะวันตกของประเทศ รวมถึงเมืองอื่นๆทางภาคตะวันออกของประเทศด้วยเช่นกัน

          การขยายธุรกิจไปยังซาอุดิอาระเบียเป็นผลพวงมาจากการทำข้อตกลงมาสเตอร์แฟรนไชส์ร่วมกับหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์อย่าง เอมท์ยาซ แคทเทอริง คอมพานี (Emtyaz Catering Company) ซึ่งเป็นเป็นบริษัทในเครือ อัล บายัน โฮลดิ้ง กรุ๊ป และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่สำคัญในซาอุดิอาระเบีย ซึ่งมีการถือครองหุ้นในบริษัทหลายแห่งในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงอุตสาหกรรมการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง

          กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในต่างแดนของเทเลพิซซ่า โฟกัสไปที่การขยายกิจการในประเทศที่มีสาขาอยู่แล้ว รวมถึงการเสาะหาโอกาสใหม่ๆในการดำเนินธุรกิจและเจาะตลาดใหม่ๆ ทั้งผ่านการเข้าซื้อกิจการของบริษัทท้องถิ่นหรือการทำข้อตกลงมาสเตอร์แฟรนไชส์

          ปัจจุบัน บริษัทเทเลพิซซ่าดำเนินกิจการใน 15 ประเทศ และมียอดขายนอกประเทศสเปนเกิน 30% ของยอดขายทั้งหมด

Telepizza Opens its First Three Stores in Saudi Arabia




          The result of the master franchise agreement with the Al Bayan Holding Group, one of the country's largest business groups

          - The openings form part of the company's growth strategy in the country, where it anticipates opening up a hundred stores over the next ten years

          - Telepizza aims to become market leader for pizza delivery business in Saudi Arabia, whose market value in 2016 is estimated by Euromonitor to be 1.3 billion euros and has growth prospects of 6% over the next five years.

          Telepizza announces the opening of its first three stores in Saudi Arabia, located in the country's capital, Riyadh.

          The stores are the first of the hundred the company expects to open up in the country over the next ten years and are three of the five that will serve the public in Riyadh in the coming months. Subsequently, the brand will be present in the west (Jeddah) and the eastern areas of the country.

          Telepizza's expansion into Saudi Arabia is the result of the master franchise agreement with its strategic partner in the region, Emtyaz Catering Company, the subsidiary company of the Al Bayan Holding Group and one of the country's principal business groups. It holds interests in a number of companies in sectors like food and drinks as well as the property development and construction market.

          Telepizza's international strategy is focused on growth in markets where it is currently operating, exploring new business opportunities, and entering new markets, either organically, through acquisitions of local companies or via master franchises.

          Currently, the company is present in 15 countries and its sales outside Spain exceed 30% of the total.

Holiday Season in Asia Pacific: Good for Sales, Good for Theft

          - Study finds 30% of retailers' annual losses due to theft will come during the holiday season, even as they experience higher sales

          With the holiday season fast approaching, a study report reveals that retailers in the Asia Pacific region will experience both their highest sales and shrink distributions during this period.  According to the 2016 Retail Holiday Season Global Forecast, 32% of the losses Asia Pacific retailers incur due to internal and external theft will come during the holiday season, with apparel, children's toys, holiday foods, electronics and cosmetics emerging the favourites among thieves.

          Theft from internal sources (primarily via employee theft and other sales reducing activities) and external factors (primarily via shoplifting/organized retail crime), which is referred to as shrink by retailers, is at its peak during the holiday season, which also sees 28% of annual retail sales.

          The study, underwritten by an independent grant from Checkpoint Systems , Inc., was carried out by Ernie Deyle, a retail loss prevention analyst, and provides an analytical view of business risks that major retailers face during this holiday season. The 13 markets covered in the report include North America, Europe and Asia, and include the U.S., Belgium, France, Germany, Italy, Netherlands, Portugal, Spain, UK, Australia, mainland China, Hong Kong and Japan.

          Mark Gentle, Vice President -- Merchandise Availability Solutions Asia Pacific, Checkpoint Systems, said, "Building holiday inventories earlier and specifically for high-risk items may lead to increased sales reduction pressures, such as markdowns and shrink throughout the fourth-quarter. The report reveals that nearly 30% of sales reducing activities are incurred during this time period. This leads to increased shrink, and puts additional strains on brick-and-mortar retailers already reeling from an ongoing inhospitable retail market."

          According to the study, Australia is expected to record the highest shrink loss for this holiday season among all the Asia Pacific markets surveyed at 35%, followed by Japan (31%), mainland China (30%) and Hong Kong (30%). The rate is more than 30% higher than the first two quarters of the year.

          In the Asia Pacific region, the cost of retail loss to shoppers in 2016, as absorbed or passed on from retailers, is expected to be US$32 per person on average, of which one-third will be incurred during the holiday season. These increases in losses place an enormous burden on retailers and, ultimately, on honest consumers who pay for it in higher prices.

          "For most retailers, wholesalers and distributors, inventory -- including the space to store it -- is the largest single cost of doing business. While reducing inventory means lower costs, insufficient inventory leads to out of stock situations, lost sales and unhappy customers. Therefore balancing these two factors is critical to profitability and growth, particularly in omni-channel environments," said Mr. Gentle.

          "The use of advanced data analytic tools, inventory management strategies, along with technologies such as RFID will provide retailers with enhanced visibility to track merchandise as it moves through the supply chain to distribution centers, retail backrooms and store shelves, helping retailers reduce losses due to shrink and other causes, ultimately increasing the financial contribution of each item."

          The report recommended that retailers take the following actions to address the issues:

          - Update planning and financial performance models to properly account for advance deliveries of seasonal products, since the seasonal build starts earlier now than in the past. Enhance oversight of seasonal/holiday merchandise.
          - Employ point of sale data analytic technology to stabilize inventory loss and ensure on-shelf availability while enhancing product protection counter-measures.
          - Properly train seasonal help to manage the increasing complexities of the season.

          Interested parties can obtain a copy of the full 99-page report here: http://us.checkpointsystems.com/news-events/HolidayReport2016/ .