Friday, August 31, 2018

Uoolu เผยรายงานข้อมูลการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ 10 ประเทศ Belt and Road ประจำปี 2561




แผนที่แสดงราคาที่อยู่อาศัยใน 10 ประเทศ

          Uoolu แพลตฟอร์มชั้นนำด้านการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ระหว่างประเทศของจีน ได้เผยแพร่ "รายงานข้อมูลการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของ 10 ประเทศ Belt and Road ประจำปี 2561" ในวันที่ 31 สิงหาคม

          รัฐบาลจีนได้เสนอนโยบาย "Belt and Road Initiative" เมื่อปี 2556 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเอเชียโดยรอบให้แข็งแกร่งขึ้น และนับแต่นั้นเป็นต้นมา จึงได้มีการจัดกิจกรรมการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ระหว่างจีนและประเทศเอเชียอื่น ๆ อยู่บ่อยครั้ง

          ในรายงานฉบับนี้ Uoolu ได้เลือกประเทศตามแนวเส้นทาง Belt and Road โดยแบ่งเป็นประเทศในตะวันออกเฉียงใต้จำนวน 8 ประเทศ และประเทศตะวันออกกลาง 2 ประเทศ ตามดัชนีการพัฒนาร่วม หรือ Cooperative Development Index เพื่อประเมินความเสี่ยงของการลงทุนในภูมิภาค Belt and Road

          รายงานดังกล่าวจัดอันดับประเทศทั้ง 10 ประเทศโดยใช้เกณฑ์ต่าง ๆ เช่น อัตราการเติบโตของราคาที่อยู่อาศัย และจุดคุ้มทุนในการปล่อยเช่า (price-to-rent ratio) เพื่อนำเสนอข้อมูลตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาค ตลอดจนการวิเคราะห์ทางประชากรศาสตร์ของนักลงทุนจีน

          สิ่งที่น่าแปลกใจคือ นักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศมีอายุระหว่าง 30 - 49 ปี และมาจากอุตสาหกรรมใหม่เป็นส่วนใหญ่ นักลงทุนที่มาจากอุตสาหกรรมไอทีและอินเทอร์เน็ตคิดเป็น 31% ของนักลงทุนที่เปิดรับเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการรูปแบบใหม่ ๆ ขณะที่เศรษฐีรุ่นใหม่ใช้เวลาตัดสินใจเร็วขึ้น โดยนักลงทุนจีนจำนวน 43.56% ใช้เวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ในการตัดสินใจลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ และจำนวน 67% ลงทุนเป็นเงินระหว่าง 70,000 - 150,000 ดอลลาร์สหรัฐสหรัฐ

          นอกจากนี้ รายงานฉบับนี้ยังเผยให้เห็นว่า ประเทศไทย ฟิลลิปปินส์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเวียดนาม เป็นตลาดสำคัญที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนชาวจีนมากที่สุดในปัจจุบัน

          สำหรับผู้ที่สนใจรับรายงานฉบับเต็ม กรุณาติดตามเราทาง Facebook หรือ LinkedIn และส่งข้อความถึงเราว่า "Belt and Road Report"

          Uoolu Website: www.uoolu.com
          Uoolu Facebook: https://www.facebook.com/Uoolu/
          Uoolu LinkedIn: https://www.linkedin.com/company/uoolu.com/


Honor เจาะตลาดเกมมิ่งสมาร์ทโฟน เปิดตัว "Honor Play" สนนราคา 329 ยูโร




          - Honor Play สมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่จะสร้างปรากฏการณ์สุดยอดความเร็วของการเล่นเกมผ่านมือถือ พร้อมมอบประสบการณ์ความบันเทิงที่เกมเมอร์ตั้งตารอ

          Honor ได้ประกาศเปิดตัว Honor Play ผลิตภัณฑ์ซีรีส์ใหม่ที่จะเข้ามาปฏิวัติวงการเกมมือถือ ผ่านการมอบประสบการณ์ความบันเทิงและเกมมิ่งโฉมใหม่ที่ทั้งเร็วและแรงแบบที่คอเกมทั่วโลกต่างรอคอย ทั้งนี้ Honor Play มาพร้อมกับเทคโนโลยีประมวลผลภาพกราฟิกสุดล้ำ GPU Turbo ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านการประมวลภาพกราฟิกอย่างรวดเร็วชนิด "สายฟ้าแลบ" ของบรรดาเกมเมอร์รุ่นใหม่ แถมด้วยแบตเตอรีพันธุ์อึด

          เพื่อเติมเต็มกลยุทธ์ของบริษัท Honor Play จึงนำเสนอสิ่งที่คนรุ่นใหม่ต้องการจากสมาร์ทโฟนของพวกเขา ซึ่งก็คือประสบการณ์ความบันเทิงและการดื่มด่ำไปกับการเล่นเกมแบบไม่มีหยุดพัก อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันสมาร์ทโฟนต่าง ๆ ยังประสบปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ความจุที่ไม่เพียงพอ เครื่องร้อนขณะใช้งาน และแบตเตอรีหมดเร็ว เนื่องจากเกมสุดฮิตประเภทการวางกลยุทธ์เป็นทัวร์นาเมนต์ และเทคโนโลยี AR, VR และ HDR ต้องพึ่งพาการประมวลผลภาพกราฟิกความเร็วสูงซึ่งกินพลังงานมาก แต่ด้วยความร่วมมือกับ PUBG MOBILE ซึ่งเป็นหนึ่งในเกมวางกลยุทธ์แบบทัวร์นาเมนต์ที่ฮอตฮิตที่สุดในขณะนี้ Honor จึงได้ทำทุกวิถีทางไม่เพียงเพื่อแก้ปัญหาเรื่องสมรรถนะของมือถือเท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาสมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาเพื่อเล่นเกมโดยเฉพาะเป็นครั้งแรก โดย Honor Play ถือเป็นช่วงเวลา "Game On" ของอุตสาหกรรม เนื่องจากสมาร์ทโฟนตัวนี้ได้สร้างนิยามบทใหม่ให้กับวงการเกมมือถือ ในราคาที่เอื้อมถึงเพียง 329 ยูโรเท่านั้น

          Honor Play มอบสมรรถนะการเล่นเกมที่ไม่มีใครเสมอเหมือนและประสบการณ์ความบันเทิงแบบ "Always On" ตลอด 24 ชั่วโมง โดยการเปิดตัวครั้งนี้ได้ผสานรวม 2 เทคโนโลยีสุดล้ำของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนมาสู่เกมเมอร์และผู้ใช้งานทั่วไป โดยประการแรกคือเทคโนโลยี GPU Turbo รุ่นใหม่ของ Honor ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณและประมวลผลภาพกราฟิก และสองคือเทคโนโลยี AI ซึ่งจะเข้ามาปฏิวัติฟังก์ชันกล้องถ่ายภาพของสมาร์ทโฟน

          GPU Turbo เป็นโซลูชั่นนวัตกรรมที่เกิดจากการบูรณาการฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เข้าด้วยกันที่มีสมรรถภาพชนิดทิ้งห่างคู่แข่งไปแบบไม่เห็นฝุ่น ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระดับโลกของ PUBG MOBILE สมาร์ทโฟน Honor Play จึงได้เพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลภาพกราฟิกและค่าเฉลี่ย frame rate ขึ้นไปที่ 39.46[1] บน PUBG MOBILE นอกจากนี้ยังได้ลดค่าเฉลี่ย jitter rate ลงเหลือ 0.21%[2] หรือมากกว่าค่าเปอร์เซ็นต์เต็มของคู่แข่งหลัก ๆ ของ Honor เสียอีก ขณะที่อายุการใช้งานแบตเตอรีก็ยาวนานกว่าสมาร์ทโฟนแฟลกชิปของเจ้าอื่น ๆ ถึง 30 นาที ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเล่นเกมได้นานถึง 4.5 ชั่วโมง

          ขณะเดียวกัน ประสบการณ์เกมมิ่งบน Honor Play ยังได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ดื่มด่ำไปกับประสบการณ์การเล่นเกมอย่างเต็มที่ สำหรับเกมประเภท 4D ซึ่งรวมถึงเอฟเฟกซ์เสียง 3D และระบบสั่นด้วย AI นั้นก็ออกแบบมาเพื่อเกมมือถือที่ฮิตที่สุดและเข้ากับสถานการณ์และสิ่งของต่าง ๆ ในเกมอีกด้วย โดยเทคโนโลยี AI 4D Smart Shock สามารถตอบสนองการสั่นได้ถึง 30 รูปแบบ[3] ตามทิศทางของการเข้าถึงศัตรูหรือการยิงปืน พร้อมเติมเต็มด้วยระบบเสียงเซอร์ราวด์แบบ 3D ที่ใช้เทคโนโลยีเสียง 3D จาก Histen และระบบเสียง 3D แบบ ultra-wide ที่ให้ภาพและเสียงเต็มอารมณ์เสมือนดูภาพยนตร์

          Honor Play คือสมาร์ทโฟนระดับกลางประสิทธิภาพสูงที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด มาพร้อมระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวและจดจำใบหน้าเทคโนโลยี AI การถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าที่มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซลจึงเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย ผู้ใช้งานทั่วไปจะได้สัมผัสกับความสนุกจากสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ได้เหมือนกับเหล่าเกมเมอร์ เพราะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 3,750 mAh รองรับการเล่นเกมอย่างต่อเนื่องรวมถึงการรับชมสื่อบันเทิงต่างๆ โดยสามารถรับชมวิดีโอนานต่อเนื่องกว่า 15 ชั่วโมง และฟังเพลงได้นานถึง 95 ชั่วโมง แม้หน้าจอแสดงผลจะเป็นแบบ FullView FHD+ ขนาดใหญ่ถึง 6.3 นิ้วก็ไม่ทำให้แบตหมดไว ฟีเจอร์สุดล้ำมากมายทำงานได้ด้วยหน่วยประมวลผล Kirin 970 NPU ครอบทับด้วยส่วนติดต่อผู้ใช้ EMUI 8.2 ซึ่งจะปลอดปล่อยศักยภาพที่แท้จริงของการประมวลผลด้วย AI

          ตัวเครื่องเพรียวบางทำจากโลหะดีไซน์ unibody มีหลายสีให้เหล่าเกมเมอร์ได้เลือกสรร ทั้ง Midnight Black, Navy Blue, Ultra-Violet, และสีพิเศษ Player Edition ที่มาในสีแดงและสีดำ นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีขนาดเท่ากับสมาร์ทโฟนหน้าจอ 5.5 นิ้วทั่วไปเพื่อให้จับถนัดมือ และจอไร้ขอบมีสัดส่วนการแสดงผล 19.5:9

          Honor Play จะวางขายในราคา 329 ยูโร ที่  HiHonor.com สำหรับตลาดทั่วโลก ทั้งยุโรปตะวันตก (สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และสเปน) ยุโรปกลาง ยุโรปตะวันออก และกลุ่มนอร์ดิก รวมไปถึงตะวันออกกลาง รัสเซีย อินเดีย และเอเชียแปซิฟิก

          "Honor Play เป็นเทรนด์ใหม่ของอุตสาหกรรมเกมระดับโลก และ Honor จะเป็นแบรนด์แรกที่สร้างปรากฏการณ์การเล่นเกมผ่านมือถือและประสบการณ์ความบันเทิงอย่างเต็มอิ่ม" จอร์จ จ้าว ประธานบริษัท Honor กล่าว "แต่เราไม่หยุดแค่การสรรสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดี เรากำลังกรุยทางสู่อนาคตของการเล่นเกมมือถือสำหรับคนรุ่นใหม่ทั่วโลก Honor Play จึงเป็นการตอบสนองของเราต่อความต้องการของผู้ใช้ที่จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ความบันเทิงและการเล่นเกมที่เร็วและราบรื่น ไม่มีสะดุด"

          แฟน ๆ ของ Honor Play จะมีโอกาสได้ทดสอบความสามารถด้วยการร่วมแข่งขันกับเหล่าเกมเมอร์ระดับโลกในงาน Gamescom ปีนี้ โดยเกมที่จะมีการแข่งขันกันก็คือ PUBG MOBILE และ Asphalt 9 ซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อ Honor Play โดยเฉพาะ และอีกไม่นานจะมีเกมอื่นๆตามมาอีกเพียบ

          นอกจากนี้ ด้วยความหลงใหลในความเร็วและสมรรถนะเหมือน ๆ กัน Honor สมาร์ทโฟนอีแบรนด์ จึงจับมือเป็นพันธมิตรกับ Audi เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวของ Honor Play ทั้งนี้ ในฐานะพันธมิตรทางการของ Audi Sports R8 LMS Cup ร่วมกับ Audi สมาร์ทโฟน Honor Play จึงได้ผสานดีไซน์สุดทันสมัยและสมรรถนะอันยอดเยี่ยม เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าทั้งรถ Audi R8 และสมาร์ทโฟน Honor Play ต่างมอบความเร็วทะลุขีดจำกัดเหนือจินตนาการ



          สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ www.hihonor.com หรือติดตามเราทาง:
           https://www.facebook.com/honorglobal/
           https://twitter.com/Honorglobal
           https://www.instagram.com/honorglobal/
           https://www.youtube.com/honorglobal

          [1] อัตราเฟรมเรตสูงสุดคือ 40 จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการของ Honor
          [2] จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการของ Honor
          [3] ปัจจุบันมีในเกม PUBG MOBILE

ฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ ครั้งที่ 26 การกลับมาของโอกาสที่ผู้ประกอบการจะได้พบกับสินค้าและบริการระดับพรีเมี่ยมจากทั่วโลก


- ยิ่งใหญ่ด้วยพื้นที่การจัดงานที่เพิ่มขึ้น 20% ทำให้ฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ เป็นงานแสดงสินค้าอาหารและบริการระดับพรีเมี่ยมที่ยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาค พร้อมเป็นโอกาสทางธุรกิจที่จะทำให้ผู้เข้าร่วมชมงานได้เชื่อมความสัมพันธ์กับผู้นำในอุตสาหกรรม

          งานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ 2018 กลับมาอีกเป็นครั้งที่ 26 โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 กันยายน 2561 พร้อมยังคงความยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาคในฐานะงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมอาหารและโรงแรมพรีเมี่ยมนานาชาติ ในปีนี้พบกับรูปแบบใหม่ของการจัดงานที่รวมพื้นที่ 3 ฮอลล์จัดงานเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมขยายพื้นที่จัดงานเพิ่มขึ้น 20% รองรับผลิตภัณฑ์และบริการระดับพรีเมี่ยมจากผู้ร่วมจัดแสดงงานกว่า 400 ราย รวมทั้งพบกับกิจกรรมและงานสัมมนาใหม่สำหรับผู้เข้าร่วมชมงานและการดำเนินธุรกิจ

          เพื่อตอบสนองต่อการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยและภูมิภาค งานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ 2018 จึงได้มีการขยายพื้นที่การจัดงานเพิ่มขึ้น 20% จากปีที่ผ่านมา เป็น 18,000 ตารางเมตร เต็มพื้นที่การจัดงาน 3 ฮอลล์ (102-104) ของศูนย์ไบเทค บางนา ภายในงานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ 2018 มีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์และบริการระดับพรีเมี่ยมกว่า 1,500 แบรนด์ ที่รอให้ค้นพบ ผู้ร่วมชมงานจะสามารถสร้างความสัมพันธ์และพบกับผู้นำในธุรกิจอาหารและโรงแรมมืออาชีพในและต่างประเทศกว่า 400 ราย จาก 33 ประเทศ กับ 7 พาวิลเลี่ยนนานาชาติ ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจประกอบด้วย จีน อิตาลี ญี่ปุ่น (x3) โปแลนด์ และแอฟริกาใต้

          นอกจากนั้นภายในงานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ ยังมีการประชุมเกี่ยวกับแนวโน้มอุตสาหกรรมและเคล็ดลับในการพัฒนาทักษะและขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการ อาทิ งานประชุมสภาอุตสาหกรรมโรงแรมไทยครั้งที่ 20 การแข่งขันเชฟชิงแชมป์ประเทศไทยครั้งที่ 24 งานสัมมนาสมาคมภัตตาคารไทย การแข่งขันวาดลวดลายศิลปะบนถ้วยกาแฟ การประกวดไวน์ครั้งที่ 14 และ สัมมนาไวน์ 2018 การแข่งขันผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ฝรั่งเศสและไวน์ไทย 2018 พร้อมพบกับ 5 กิจกรรมใหม่ที่พลาดไม่ได้ ทั้งการอบรมการทำไอศกรีมเจลาโต้โดย Carpigiani Gelato University การแข่งขันการสร้างสรรค์เครื่องดื่มจากกาแฟผสมแอลกอฮอลล์ 2019 การสอนเชิงสาธิต คลาสสาเกและวิสกี้โดยสมาคมเครื่องดื่มมืออาชีพแห่งภูมิภาคอาเซียน และงานสัมมนาเรื่องการจัดการเรื่องการแพ้อาหารสำหรับธุรกิจอาหารและการจัดเลี้ยง

          การกลับมาของงานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ 2018 ครั้งนี้นับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเนื่องจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยกำลังดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง โดยคาดว่ารายได้จากการท่องเที่ยวในปีนี้จะสูงถึง 3 ล้านล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยว 30 ล้านคน หรือ เพิ่มขึ้น13.4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนยังเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดมีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 30% จาก 3.5 ล้านคน เป็น 1.6 ล้านคนในปีนี้ ซึ่งสนใจที่จะท่องเที่ยวทั้งในเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองรอง

          "ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้นและมีการใช้จ่ายที่สูงขึ้น ทำให้เกิดความต้องการมีการเติบโตพร้อมไปกับแนวโน้มในการพัฒนาและโอกาสทางธุรกิจโดยเฉพาะกลุ่มอาหารและโรงแรมที่สามารถขยายตัวจนเกิดเป็นธุรกิจใหม่ ซึ่งงานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ 2018 ถือเป็นผู้นำในการจัดงานแสดงสินค้าอาหารและบริการพรีเมี่ยมระดับนานาชาติ และ ถือเป็นงานที่มีกานนำเสนอแนวคิดและแนวทางใหม่ๆ สำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องมีการมองและก้าวไปข้างหน้าเพื่อการเติบโตและการพัฒนาในธุรกิจ" นายจัสติน พาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว "เรารู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่งานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ มีบทบาทสำคัญในการช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยมีการเติบโต และ ยังสร้างพื้นที่ให้แก่ผู้ประกอบการซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจกทั้งในและต่างประเทศได้แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด และ แนวทางการดำเนินธุรกิจตามแนวโน้มและเทคโนโลยีล่าสุด"

          งานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ 2018 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 กันยายน 2561 เวลา 10.00-18.00 น. ฮอลล์ 102-104 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมการจัดงานได้ที่ www.foodhotelthailand.com

          สอบถามข้อมูลข่าวประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่ คุณ วันทิตา พรธนาวงศ์ (โบว์) Tel: +662 036-0521 Email: wantita.p@ubm.com

          Photo: http://photos.prnasia.com/prnh/20180829/2222463-1-a
          Photo: http://photos.prnasia.com/prnh/20180829/2222463-1-b
          Photo: http://photos.prnasia.com/prnh/20180829/2222463-1-c 
          Logo: https://photos.prnasia.com/prnh/20180829/2222463-1LOGO
          Logo: http://photos.prnasia.com/prnh/20170222/8521701055LOGO

The 26th Food & Hotel Thailand Returns as a Stage for Visitors to Discover Premium Solutions from around the WORLD



- With 20% increase in space, the region's premier Food & Hospitality trade event can showcase more products and services, and provide more opportunities to connect with leading industry players

          This 5 to 8 September, Food & Hotel Thailand (FHT) 2018 will return for its 26th edition as the region's leading premier international food and hospitality trade event. This year's exhibition will feature a new layout combining together 3 exhibition halls and delivering a 20% bigger show, with premium products and services from more than 400 exhibitors, as well as new workshops and activities for visitors and businesses.

          In response to Thailand's and the region's growing Food & Hospitality industry, FHT 2018 is expanding to three exhibition halls (102-104) with an area of over 18,000 sqm -- a 20% increase from last year. At FHT 2018, premium products and services from over 1,500 brands await to be discovered. Visitors can build their network and meet with leading Food & Hospitality professionals from more than 400 local and international companies from 33 countries. Visitors can explore seven international country pavilions from leaders in this sector, including China, Italy, Japan x3, Poland and South Africa.

          In addition, FHT will feature conferences discussing trends and tips in order to improve skills and increase competitiveness in this industry, including Thailand's 20th Hospitality Industry Congress, Thailand's 24th International Culinary Cup (TICC), Thai Restaurant Association Seminar, Thailand National Latte Art Championship 2019, 14th FBAT International Wine Challenge, Wine Seminars, Best Sommelier in French and Thai Wines 2018. There are five brand new activities that shouldn't be missed including: Gelato Workshops by Carpigiani Gelato University, the Thailand National Coffee in Good Spirits Championship, Sake Introduction/Masterclass and Whiskey Class Introduction, and Innolab Forum Food Allergen Management for Food Retail, Food Services & Food Catering.

          FHT 2018 returns at a time when Thailand's tourism industry is attracting more visitors and more higher spending tourists. The country expects to reach 3 trillion Baht with more than 30 million tourists this year alone, having already experienced a 13.4% increase in tourism from the same period last year. Chinese tourists remain the largest group with a 30% growth from 3.5 million to 4.6 million already this year, as people flock to primary and secondary tourist cities.

          "With more tourists, higher spending visitors, strong domestic demand and constantly evolving trends there is an ever-growing amount of opportunities for food & hospitality businesses to expand and capture new business. FHT is the leading international trade event showcasing premium products and services from around the world, and delivering new ideas and solutions for industry looking to take the next step to grow and improve their business," said Justin Pau, General Manager of UBM Asia (Thailand) Co., Ltd. "We are proud that FHT plays a key role in driving Thailand's thriving tourism industry and growing business together by creating a platform where leading local and global suppliers can share knowledge and ideas, and find solutions based on the latest trends and technologies," added Mr. Pau.

          Food & Hotel Thailand 2018 will be held from 5 to 8 September, 10am to 6pm in Exhibition Halls 102-104 at BITEC, Bangkok. For more information, please visit www.foodhotelthailand.com , Facebook Page: https://www.facebook.com/foodandhotelthailand/?ref=br_rs

          Notes to Editor:
          For more information, please contact Wantita Porntanawong (Bow)
          Tel: +662 036 0521
          Email: wantita.p@ubm.com

          Photo: http://photos.prnasia.com/prnh/20180829/2222463-1-a
          Photo: http://photos.prnasia.com/prnh/20180829/2222463-1-b
          Photo: http://photos.prnasia.com/prnh/20180829/2222463-1-c
          Logo: https://photos.prnasia.com/prnh/20180829/2222463-1LOGO
          Logo: http://photos.prnasia.com/prnh/20170222/8521701055LOGO

KT's Nasmedia Opens Thai Entity for Digital Advertising



          - New Thai Unit to Provide a Foothold Into Southeast Asian Markets -
          - Nasmedia to Export Latest Solutions ADfork, AdMixer, adpacker -

          Nasmedia Co., a digital media marketing subsidiary of KT Corp. (KRX: 030200; NYSE: KT), South Korea's largest telecommunications company, has set up a local entity in Thailand to accelerate its expansion in Southeast Asian markets.

          Nasmedia (Thailand) Co., Ltd. (KOSDAQ: 089600) will be launched on August 30 by South Korea's top digital advertising marketing agency. The new unit in Thailand will begin operations marketing on Facebook by using Nasmedia's specialized ad solution, ADfork.

          "We are fully prepared to expand our business overseas after operating a special team over the past year to meet our clients' needs for global marketing," said Kim Byung-Jo, CEO of Nasmedia (Thailand) Co., Ltd. and head of Nasmedia's Global Business Office. "Our Thai company will be our springboard for success in Southeast Asia, and eventually in all of Asia."

          Nasmedia's ad solution ADfork, which is customized for Facebook, refines and classifies customer data to pinpoint high-value prospects, and maximizes the efficiency of ad campaigns. In recognition of ADfork's operational excellence, Facebook named Nasmedia its marketing partner in ad tech in June 2017.

          Through its Thai entity, Nasmedia will also introduce its supply-side and demand-side mobile ad platforms, called AdMixer and Adpacker, respectively. AdMixer is Korea's largest ad exchange and it is based on real-time bidding (RTB), the buying and selling of online ad impressions through real-time auctions that happen nearly instantly. Adpacker uses billions of data points for effective audience targeting and re-targeting.

          Nasmedia's Thai company will also be tasked with helping domestic game developers make inroads into Southeast Asian markets, taking advantage of its exclusively developed mobile app marketing platform, Nswitch. The platform has already proven to be efficient in assisting the marketing activities of major Korean game companies in Thailand and the region.

          Nasmedia (Thailand) will participate in the Digital Advertising Association of Thailand (DAAT) Day 2018, the country's largest event for the digital communication industry, on August 30, as a major sponsor. It will introduce Nasmedia's platforms and marketing capability as well as business insights.

          Thailand ranks eighth in the world in the number of active Facebook users, according to a 2018 report from We Are Social and Hootsuite. Bangkok has more active Facebook users than any other city in the world; its ratio of active Facebook users to population is 67 percent, compared to the global average of 39 percent. According to Newzoo's market intelligence, Thailand is also the largest game market in Southeast Asia, accounting for a 23 percent market share.

          Since beginning in 2000 as Doubleclick Korea, Nasmedia has led South Korea's sprawling digital media market with outstanding expertise in online, mobile, IPTV, digital broadcasting and digital outdoor advertising solutions. The company was renamed Nasmedia in 2002, and joined KT Corp. in 2008. It was listed on the KOSDAQ, South Korea's tech-heavy secondary stock market, in 2013.

Makeblock ปิดการระดมทุนรอบ Series C คว้าเงินทุน 300 ล้านหยวน




 โซลูชั่น STEAM Education ของ Makeblock



          บริษัทจะนำเงินที่ได้ไปใช้สนับสนุนการวิจัยและพัฒนา การตลาด และการดำเนินงานทั่วโลก

          Makeblock ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่น STEAM Education ประกาศปิดการระดมทุนรอบ Series C มูลค่า 300 ล้านหยวน (ราว 44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะที่มีการประเมินมูลค่าบริษัทที่ระดับ 2.5 พันล้านหยวน (ราว 367 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) การระดมทุนครั้งนี้นำโดย CICC ALPHA ร่วมด้วย Yuexiu Industrial Investment Fund, GX Capital และ Everest Capital (LMFVC) โดยมี For-Capital เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

          Makeblock จะนำเงินที่ได้ไปใช้สนับสนุนการวิจัยและพัฒนา การตลาด รวมถึงการดำเนินงานของบริษัทในเครือ ขณะที่บริษัทเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆในเดือนตุลาคมนี้ โดย Jasen Wang ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Makeblock กล่าวว่า "เราจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในราคาที่ถูกกว่าเดิมเพื่อตอบสนองความต้องการของครอบครัวและโรงเรียนต่างๆ ตลอดปีที่ผ่านมาเราครองส่วนแบ่งในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งในยุโรป เอเชียแปซิฟิก ทวีปอเมริกา และจีน อันเป็นผลพวงมาจาก 3 กลยุทธ์หลักของเรา ได้แก่ โซลูชั่นซอฟต์แวร์-ฮาร์ดแวร์ โซลูชั่นการศึกษาอย่างเป็นระบบ และการแข่งขันหุ่นยนต์ทั่วโลก บัดนี้ เรามีแรงผลักดันในการขยายความครอบคลุมของผลิตภัณฑ์ และผสานเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดไว้ในโซลูชั่น STEAM ของเรา ในขณะที่เรายังคงมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า"

          โซลูชั่น STEAM ของ Makeblock คว้ารางวัลระดับนานาชาติมาครองถึง 9 รางวัล ได้แก่ American 2018 Family Choice Awards, American Gold Edison Awards, American IDEA Gold Award, CES Innovation Awards, German IF Design Award, German Red Dot Product Design Award, Finland Kokoa Education Standard Certification, Korean K-Design Gold Award และ Japanese Good Design Award

          ปัจจุบัน Makeblock ก้าวขึ้นเป็นบริษัทข้ามชาติที่มีพนักงาน 500 คน และมีบริษัทในเครือหลายแห่งในอเมริกา เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น และฮ่องกง บริษัทร่วมงานกับตัวแทนจำหน่ายกว่า 1,600 รายทั่วโลก รวมถึงสร้างธุรกิจในกว่า 140 ประเทศและดินแดน ตลอดจนสร้างความร่วมมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft และพันธมิตรเชิงกลยุทธ์หลายราย เช่น SoftBank C&S ในประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น โรงเรียนมากกว่า 20,000 แห่งทั่วโลกได้ประโยชน์จากโซลูชั่น STEAM ของ Makeblock ครอบคลุมถึงโรงเรียนมัธยม 7,000 แห่งในฝรั่งเศส และโรงเรียนมัธยมกว่า 50% ในฮ่องกง ส่วนในเม็กซิโก Makeblock ได้ผนึกกำลังกรมการศึกษาแห่งรัฐฮาลิสโก สร้างสถิติห้องเรียนสอนประดิษฐ์หุ่นยนต์ที่มีนักเรียนมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ ในแอนตาร์กติกา Makeblock ยังเป็นแบรนด์หุ่นยนต์เพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับเลือกจาก Antarctica Education & Research Program (AERP) และในแอฟริกา Makeblock รับหน้าที่เป็นซัพพลายเออร์อย่างเป็นทางการของ RobotsMali National Collaborative Robotics Education Center อีกทั้งยังร่วมมือกับ NOSI (Operational Nucleus of the Information Society) เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในประเทศกาบูเวร์ดี

          รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.makeblock.com 

GAC Motor เข้าร่วมงาน MIAS เป็นครั้งแรก พร้อมเผยแผนบุกตลาดรัสเซียในปี 2019

          GAC Motor ผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำของจีน ประสบความสำเร็จในการเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ Moscow International Automobile Salon (MIAS) เป็นครั้งแรก โดยได้ยกขบวนยานยนต์ดาวเด่นมาอวดโฉมภายในงาน ตลอดจนมีการจัดกิจกรรมโปรโมทแบรนด์ ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนจำนวนมาก พร้อมกันนี้ ทางบริษัทยังได้เผยแผนการเข้าสู่ตลาดรัสเซียในปี 2019 ด้วยการประกาศเปิดตัว GAC Motor RUS อย่างเป็นทางการ ในฐานะบริษัทย่อยแห่งแรกในต่างประเทศของแบรนด์

          การเข้าร่วมงาน MIAS ในครั้งนี้ถือเป็นการปรากฏตัวในต่างประเทศเป็นครั้งแรกของ GAC Motor นับตั้งแต่ที่บริษัทได้ยกระดับวัฒนธรรมองค์กรใหม่ โดยแบรนด์ได้นำยานยนต์ระดับพรีเมี่ยมมาจัดแสดงที่งานนี้ ได้แก่ รุ่น GS8, GA8 และรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง GS4 ทั้งยังได้จัดงานแถลงข่าว ซึ่งได้รับเกียรติจาก Ms Zhao Qiuyan ที่ปรึกษาประจำสำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการค้า สถานทูตจีนประจำสหพันธรัฐรัสเซีย, Mr Li Shao รองประธาน GAC Group, Mr Zhan Songguang รองประธานบริหาร, Mr Gao Feng ผู้ช่วยประธานบริษัท GAC Motor และ Mr Wang Shunsheng ประธานบริษัท GAC Motor RUS ขณะที่นักข่าวถึงราว 100 คนจากสื่อท้องถิ่นของรัสเซียและสื่อต่างชาติ ให้ความสนใจติดตามการแถลงข่าวอย่างใกล้ชิด

          ในโอกาสนี้ GAC Motor ได้ประกาศเปิดตัว GAC Motor RUS อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นบริษัทย่อยในต่างประเทศแห่งแรกของทางแบรนด์ และเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการสนับสนุนการขยายธุรกิจออกสู่ตลาดโลกของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดกิจกรรมโปรโมทแบรนด์ขึ้นภายในงาน MIAS และเริ่มต้นการสรรหาดีลเลอร์รัสเซียเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่ตลาดรัสเซียอย่างเต็มตัวในปี 2019 GAC Motor ตั้งเป้าที่จะผลักดันแบรนด์ให้ก้าวขึ้นมายืนอยู่ในแถวหน้าอย่างโดดเด่น ด้วยยานยนต์คุณภาพสูงหลากหลายรุ่น เพื่อทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและยอมรับของชาวรัสเซีย รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ภายใน 3-5 ปี

          สื่อมวลชนรัสเซียต่างประทับใจและแสดงความชื่นชมในคุณภาพและการออกแบบรถยนต์สำหรับตลาดบนของ GAC Motor อาทิรุ่น GS8 และ GM8 โดยคุณสมบัติด้านความแรง ความทนทาน และความปลอดภัยของยานยนต์เหล่านี้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวรัสเซีย และพวกเขาตั้งตารอการเปิดตัวของแบรนด์ในปีหน้าอย่างใจจดใจจ่อ

          GAC Motor เป็นบริษัทในเครือของ GAC Group ซึ่งติดอันดับ Fortune Global 500 โดย GAC Motor เป็นแบรนด์ยานยนต์จีนรุ่นใหม่ที่มีความเป็นอิสระ ซึ่งนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 บริษัทได้เดินหน้าขยายธุรกิจออกไปยังตลาดต่างประเทศอย่างไม่หยุดยั้ง ส่งผลให้ในระยะเวลาเพียง 10 ปี GAC Motor สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน พร้อมรักษาตำแหน่งอย่างเหนียวแน่นด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีสมรรถนะและคุณภาพอันเป็นเลิศ GAC Motor วางเครือข่ายการขายและการให้บริการใน 15 ประเทศและดินแดน ทั้งยังได้รับการยกย่องในฐานะ "แบรนด์ยานยนต์จีนที่ดีที่สุด" ในตลาดต่างประเทศหลายแห่ง นอกจากนั้นยังได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 1.3 ล้านรายทั่วโลก

          GAC Motor มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะก้าวขึ้นเป็นบริษัทระดับโลกและสร้างแบรนด์ระดับเวิลด์คลาส ทั้งนี้ หลังจากงาน MIAS ทางบริษัทจะยังคงแนะนำผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และทำให้แบรนด์เป็นที่นิยม มีชื่อเสียง และทรงอิทธิพลในตลาดรัสเซีย เพื่อสานต่อพันธกิจในการสร้างสรรค์การเดินทางอันน่าอภิรมย์ให้แก่ลูกค้าในรัสเซีย

          เกี่ยวกับ GAC Motor

          Guangzhou Automobile Group Motor CO., LTD หรือ GAC Motor ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2008 เป็นบริษัทในเครือของ GAC Group ที่ติดอันดับ 202 ในทำเนียบ Fortune Global 500 โดย GAC Motor เป็นผู้พัฒนาและผลิตยานยนต์ เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และอุปกรณ์ประดับยนต์คุณภาพสูง ปัจจุบัน GAC Motor รั้งอันดับสูงสุดในบรรดาแบรนด์จีนเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน ในรายงาน China Initial Quality Study (IQS) ของ J.D. Power Asia Pacific ซึ่งสะท้อนถึงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นคุณภาพ ทั้งในส่วนของการวิจัยและพัฒนา การผลิต ห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการขายและการให้บริการ

          สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่
          เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/GACMotor
          อินสตาแกรม: https://www.instagram.com/gac_motor
          ทวิตเตอร์: https://www.twitter.com/gac_motor

          สื่อมวลชนติดต่อ:

          Sukie Wong
          โทร. +86-186-8058-2829
          อีเมล: GACMotor@126.com

Uoolu Releasing 2018 Ten Countries on Belt and Road Property Investment Data report

          On August 31, 2018, Uoolu, the leading platform for cross-border real estate transactions in China, is releasing the "Uoolu 2018 Ten Countries on Belt and Road Property Investment Data Report".


          The "Belt and Road Initiative" was proposed by the Chinese government in 2013 in order to strengthen the relationship with surrounding Asian countries. Since then, there has been frequent activity between China and other Asian countries in terms of property investment.

          In the report, Uoolu selected eight countries in Southeast Asia and two countries in the Middle East along the Belt and Road based on the Cooperative Development Index to assess the investment risk in the Belt and Road Initiative region.

          The ten countries were ranked by different criteria such as housing price growth rate and price-to-rent ratio. The data highlights the significant and accessible property markets of the region, as well as the demographics of Chinese investors.

          Surprisingly, the primary investors in overseas property are aged between 30 to 49 years old and are mostly from new industries. Investors come from IT, and Internet business accounts for 31% of investors who are open to mobile technology and new services. The new affluent generation has exhibited a short decision-making cycle. 43.56% of Chinese investors only take a week to decide on a property investment, and 67% invest between US$70,000 to $150,000.

          The report also reveals that Thailand, the Philippines, the United Arab Emirates, and Vietnam are the major markets today that receive the most attention from Chinese investors.

          To receive the full report, please follow us on Facebook or LinkedIn and drop us the message: "Belt and Road Report".

          Uoolu Website: www.uoolu.com
          Uoolu Facebook: https://www.facebook.com/Uoolu/
          Uoolu LinkedIn: https://www.linkedin.com/company/uoolu.com/ 



Honor Magic 2 Debuts at IFA 2018

          - REAL Full View Display, AI Magic Slide, Kirin 980 and more amazing features packed in one smartphone


          Today, at the Honor Play launch event held on the eve of the IFA in Germany, Mr. George Zhao, President of Honor, unexpectedly unveiled the Honor Magic 2, the brand's new flagship smartphone. Building on the success of the first-generation Honor Magic launched in 2016, the Honor Magic 2 boasts an intelligent Magic Slide feature, which gives users a real full view display and instantly activates the world of AI with one sliding motion. The device will also be the first Honor smartphone powered by the Kirin 980 processor.

          "The launch of Honor Magic two years ago introduced the concept of the AI smartphone to consumers", noted Mr. George Zhao, President of Honor. "The first-generation Honor Magic was an era-defining smartphone that transformed the industry. In addition to AI-features that make the phone truly smart, Honor Magic's ground-breaking all-curved panel design and powerful 40W charging support have reshaped smartphone design and become a benchmark for all smartphones. The developments of these futuristic flagship devices are closely followed by the smartphone and AI industry, and now the Honor Magic 2 has arrived."

          With intense competition across global markets, many smartphone brands are striving to enhance the user experience by offering a full view display. However, most, if not all, phones with this new feature have sacrificed user friendliness and the photography experience. The designs focus solely on screen layout and presentation improvements, failing to bring true value to users.

          In contrast, the intelligent Magic Slide feature of the Honor Magic 2 is designed to achieve full view display without compromising other practical functions. The hidden-from-view front camera enables a nearly 100% screen-to-body ratio, overcoming the challenge of incorporating a camera in a notchless design. It delivers a superior visual experience with great convenience and practicality to redefine the value of a full-screen smartphone.

          By sliding the top screen, users can instantly activate all AI features. This innovation in design is based on ergonomic science.

          In addition to its revolutionary design, the Honor Magic 2 is the first Honor smartphone powered by the Kirin 980 processor, unlocking the phone's groundbreaking AI-performance and again raising the bar in smartphone performance and user experience.

          Moreover, the latest Magic 2 comes with the 40W Magic Charge for maximum charging power. To further ensure safety, 15 layers of protection are also embedded in the smartphone. The phone can automatically identify the battery, cable and charger and only when all of the three parts are identified as safe, the Super Charger will start.

          Debuting in Germany, the Honor Magic 2 will be a key flagship that is showcased in world-class exhibition to reaffirm the company's confidence in this latest model. In the first half of 2018, Honor recorded a remarkable 150% increase year-on-year in international sales volume outside of China. Following the recent launch of Honor 10 and Honor Play, the Honor Magic 2 will continue to propel Honor forward in its goal to become a top-five smartphone brand within three years.

          # # #

          About Honor

          Honor is a leading smartphone e-brand. In line with its slogan, "For the Brave", the brand was created to meet the needs of digital natives through internet-optimized products that offer superior user experiences, inspire action, foster creativity and empower the young to achieve their dreams. In doing this, Honor has set itself apart by showcasing its own bravery to do things differently and to take the steps needed to usher in the latest technologies and innovations for its customers.

          For more information, please visit Honor online at www.hihonor.com or follow us on:
           https://www.facebook.com/honorglobal/
           https://twitter.com/Honorglobal
           https://www.instagram.com/honorglobal/ 
           https://www.youtube.com/honorglobal 



Honor says "Game On" to Global Gaming Industry with Honor Play, at EUR 329

          - Honor Play will be first to deliver the phenomenally fast mobile gaming and entertainment experience that gamers have always wanted.


          Honor launched the Honor Play today, the first of a game changing new product series to deliver the revolutionary fast gaming and entertainment experience the global gaming industry has been waiting for. The Honor Play is a performance beast with the groundbreaking graphics processing technology GPU Turbo to meet young gamers' demands for "lightning fast" graphics processing capability and extended battery life.

          Completing the Honor portfolio strategy, the Honor Play offers young people what they really want from their smartphone, an immersive non-stop gaming and entertainment experience. Until now, however, this experience has been plagued by space and capacity problems, thermal efficiency and battery consumption issues because of the popularity of tactical tournament games, and because AR, VR and HDR rendering rely on fast graphic processing power. Working with PUBG MOBILE, which is one of the most popular tactical tournament games, Honor took every effort to not only solve these performance problems but develop the first-ever gamer-oriented phone, the Honor Play – a "Game On" moment for the industry because it will redefine the mobile gaming user experience at an affordable price point of EUR329.

          The Honor Play offers an unprecedented gaming performance and a 24/7 "Always On" entertainment experience. This launch brings two ground-breaking and industry leading smartphone technologies to gamers and casual users. The first is Honor's new GPU Turbo, which dramatically increases the graphics processing and computing efficiency, and the other is Honor's advanced AI technology, which revolutionizes the smartphone camera function.

          The GPU Turbo is an innovative hardware-software integration solution that leaves Honor's competitors trailing in the dust. As the global strategic partner of PUBG MOBILE, Honor Play has dramatically increased the graphics processing and boosted the average frame rate to 39.46[1] on PUBG MOBILE. The jitter rate has been reduced to 0.21%[2], more than a full percentage point below Honor's key rivals, and the battery life has a 30-minute lead over other flagship devices with 4.5 hours of solid gameplay.

          The Honor Play in-game experience has been AI-enabled for total immersion. The 4D gaming experience includes 3D audio effects and AI vibration customized for the most popular mobile games and matched to in-game objects and scenarios. AI 4D Smart Shock can be enabled for 30 different scenario vibrations[3], according to the direction of approaching enemies or gunfire. This is complemented by the 3D surround sound by Histen 3D audio technology, an ultra-wide 3D sound field that immerses the player in a cinematic audio experience.

          The Honor Play is one of the smartest mid-range phones on the market. With AI motion detection and intelligent recognition, snapshots using the 16MP front camera are now easier than ever before. Casual users will experience just as much fun from this device as gamers, thanks to the huge 3,750 mAh battery which allows for heavy gaming and entertainment use, equaling more than 15 hours of video streaming and 95 hours for music playback, even with the 6.3-inch Honor FullView FHD+ display. A range of smart features are enabled by the Kirin 970 NPU chipset which, together with EMUI 8.2, unleashes a truly AI-mazing processing power.

          The slim and subtle unibody metal design comes in a range of colors for all gamers: Midnight Black, Navy Blue, Ultra-Violet, and a special Player Edition patterned in red and black. The design retains the body of a typical 5.5-inch screen device to ensure it fits comfortably in your hand and packs a 19.5:9 bezel-less display.

          The Honor Play will be available at of EUR329 for purchase at  HiHonor.com in global markets including Western Europe (UK, France, Germany, Italy and Spain), CEE & Nordic, Middle East, Russia, India and Asia Pacific.

          "The Honor Play is a new moment for the global gaming industry. Honor will be the first to offer a phenomenally fun mobile gaming and entertainment experience," said George Zhao, President of Honor. "But we don't stop at making a good product, we are creating the future of mobile gaming with young people worldwide. The Honor Play is our response to their demand for a fast, smooth gaming performance and entertainment experience."

          Honor Play fans will have the opportunity to put their skills to the test and compete with and against the world's star gamers at Gamescom this year, on PUBG MOBILE and Asphalt 9. Both games have been customized for the Honor Play, with many others due to be announced shortly.

          Sharing the same passion for speed and performance, Honor, the smartphone e-brand is working with Audi to celebrate the arrival of Honor Play. As the official partner of Audi Sports R8 LMS Cup, with the Audi R8, the Honor Play combines sleek design and blistering performance. Both Audi R8 and Honor Play deliver speed that surpass the limits of the imagination.

          About Honor

          Honor is a leading smartphone e-brand under the Huawei Group. In line with its slogan, "For the Brave", the brand was created to meet the needs of digital natives through internet-optimized products that offer superior user experiences, inspire action, foster creativity and empower the young to achieve their dreams. In doing this, Honor has set itself apart by showcasing its own bravery to do things differently and to take the steps needed to usher in the latest technologies and innovations for its customers.

          For more information, please visit Honor online at www.hihonor.com or follow us on:
           https://www.facebook.com/honorglobal/
           https://twitter.com/Honorglobal
           https://www.instagram.com/honorglobal/
           https://www.youtube.com/honorglobal

          [1] Full frame rate is 40. Based on Honor laboratory testing
          [2] Based on Honor laboratory testing
          [3] Currently available on PUBG MOBILE



BlockEx 'Carbon Blue' Delivers Biggest Ever Upgrade to Award-Winning Digital Asset Trading Platform

          - 40 new crypto trading pairs added to BlockExMarkets.com with new user interface, brokerage traderoom, and primary & secondary marketplaces -


          BlockEx, the digital asset exchange provider for institutional-grade financial markets, has unveiled its new 'Carbon Blue' release, the most significant upgrade to its exchange platform to date.

          Carbon Blue delivers a brand new user interface centred on a new traderoom with a ten-times increase in performance. A primary listing cart and enhanced KYC flows streamline the ICO issuance process and include a new 'flash sale' feature. New crypto-to-crypto trading is supported by the listing of 20 new secondary market tokens.

          Adam Leonard, CEO at BlockEx, said: "We're very excited about the Carbon Blue release to our award-winning platform. It is a major milestone for BlockEx that is the culmination of many months of work. It delivers a wealth of capabilities to BlockExMarkets.com, built around a new traderoom, including 40 new crypto-pairs, and exciting primary and secondary listing features. It is also built on a revised architecture that allows us to slipstream in the many upgrades we have planned over the next year."

          BlockEx's platform now offers more than 40 BTC/ETH crypto-pairs and 20 secondary tokens, including: aELF, Aeron, ContentBox, CortexLabs, DAXT, DistrictOx, Dock, EOS, Ethos, Golem, GoNetwork, Holo, LOCI, LOOM, Mark.Space, Nuls, OmiseGO, RCC, Stox, Zilliqa.

          About BlockEx

          BlockEx is the blockchain digital asset exchange and technology provider for institutional-grade financial market participants, to allow them to deliver a step change in opportunity, efficiency and transparency in their own businesses. The company, an award winning London-based fintech success, delivers and operates http://www.BlockExMarkets.com its own brokerage, which incorporates blockchain asset origination, dematerialisation and lifecycle management tools. Find out more at http://www.BlockEx.com .



IFA 2018 งานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำระดับโลกเตรียมเปิดฉากที่เบอร์ลิน 31 ส.ค.นี้

          - สื่อมวลชนขอรับคลิปวิดีโอจากงาน IFA ได้ที่ IFA Global Broadcast Center -

          IFA งานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำระดับโลกกลับมาอีกครั้งในปีนี้ โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม - 5 กันยายน ณ ลานจัดแสดงของ Messe Berlin


          แบรนด์ชั้นนำระดับโลกเตรียมยกขบวนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านรุ่นล่าสุดมาอวดโฉม ขณะที่นวัตกรรมหลายรายการก็เตรียมเปิดตัวเป็นครั้งแรกที่งาน IFA ประจำปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้เป็นจำนวนมาก ยิ่งไปกว่านั้น มหกรรมแสดงสินค้าครั้งนี้จะสมบูรณ์ยิ่งขึ้นไปอีก เนื่องจากจะมีการเปิดตลาดกลางสำหรับการจัดซื้อจัดหาสินค้าแบบ B2B ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปอย่าง IFA Global Markets ในระหว่างวันที่ 2 - 5 กันยายน ณ "STATION-Berlin"

          ขณะเดียวกัน หลังจากประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมเมื่อปีที่แล้ว ทางผู้จัดงานจึงตัดสินใจขยายพื่นที่จัดแสดงสำหรับเหล่าสตาร์ทอัพออกไปอย่างมาก โดย IFA NEXT 2018 จะแบ่งธีมออกเป็น 6 วัน เพื่อรองรับการแสดงผลงาน การอภิปรายแบบคณะ และการนำเสนอบริษัท นอกจากนี้ บริษัทนวัตกรรม สถาบันวิจัย และองค์กรต่าง ๆ ก็จะมานำเสนอไอเดียของตนเองสำหรับตลาดในอนาคตอีกด้วย

          สำหรับกิจกรรมน้องใหม่ในปีนี้ ได้แก่ Shift Automotive! งานประชุมเพื่อการเดินทางแห่งอนาคต ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Geneva International Motor Show, Palexpo, IFA และ Messe Berlin โดยกิจกรรมนี้จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่งาน IFA ในวันที่ 4 - 5 กันยายน ซึ่งผู้มาเยือนจะได้พบกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกี่ยวกับการเดินทางในงานนี้

          ในส่วนของเทรนด์ปี 2561 คือ ปัญญาประดิษฐ์ โดยมีการคาดการณ์กันว่าผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อและผลิตภัณฑ์อัจฉริยะต่าง ๆ จะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานมากขึ้นด้วยการจดจำเสียงพูด นอกจากนี้ อุปกรณ์ต่าง ๆ จะมีความยืดหยุ่น (adaptive) มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน การที่ผู้คนหันมาใส่ใจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพส่วนบุคคลกันมากขึ้นนั้น จึงทำให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาวะทีดีเพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

          TVT.media ในฐานะพันธมิตรด้านสื่อของงาน IFA จะรับหน้านี้ผลิตภาพเคลื่อนไหวจากงาน IFA 2018 อย่างครอบคลุม ตั้งแต่งานเลี้ยงกาล่าเปิดงาน บรรยากาศความประทับใจภายในงานแสดงสินค้า ตลอดจนบทสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมและผู้จัดแสดง ซึ่งสามารถขอรับได้ที่ Global Broadcast Center



TVT.media: IFA 2018 – The Leading Global Consumer Electronics Trade Fair Opens in Berlin on August 31st

          - IFA video footage for journalists available at the IFA Global Broadcast Center -

          The IFA in Berlin is the global leading trade fair for consumer electronics and home appliances and will take place from August 31 to September 5 at the fairgrounds of Messe Berlin.


          The worldwide leading brands will present their latest consumer electronics and household appliances products and numerous innovations making their debut at IFA will draw visitors into the exhibition halls. From September 2 to September 5, the IFA Global Markets - Europe's biggest B2B-Sourcing-Platform in the location "STATION-Berlin" - will complete the exhibition.

          Last year's big success - IFA NEXT 2018, the successful innovation platform for start-ups will be extended substantially. The six theme days will be dedicated to presentations, panel discussions and pitches. Innovative companies, research institutes and organizations will present their ideas for future markets.

          This year's newcomer: Shift Automotive! The new Future Mobility Convention is a cooperation between Geneva International Motor Show, Palexpo, IFA, and Messe Berlin and will take place for the first time at IFA on September 4 and September 5. Here, it's all about new technologies which will change mobility.

          The trend in 2018: Artificial intelligence. Smart and connected products are expected to become more convenient by speech recognition. Besides, the devices are supposed to become adaptive. There will be increased focus on personal health, too. The range of products for the improvement of well-being is increasing also.

          The media partner, TVT.media will be supplying journalists with comprehensive moving-image material covering IFA 2018. Material on the Opening Gala, trade fair impressions and interviews with exhibitors and industry experts will be obtainable at the Global Broadcast Center.



Thursday, August 30, 2018

POWERCHINA จับมือ LJUNGSTROM เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพโรงงานไฟฟ้า

          เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา LJUNGSTROM และ POWERCHINA Turbo Technologies (PCTT) ในเครือ POWERCHINA ได้ประกาศความเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ "One Belt One Road" ของรัฐบาลจีน ด้วยเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่น และยกระดับผลการดำเนินงานของโรงงาน โดย LJUNGSTROM จะร่วมมือกับ PCTT ในด้านการผลิตไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเข้าถึงลูกค้าด้วยเทคโนโลยีชั้นหนึ่งที่ครบครัน ทั้งพัดลม เครื่องอุ่นอากาศ และผลิตภัณฑ์กำเนิดไฟฟ้าอื่น ๆ


          Li Yueping สมาชิกถาวรคณะกรรมการกลางพรรคฯ และรองผู้จัดการทั่วไปของ POWERCHINA กล่าวว่า "ผมหวังว่า LJUNGSTROM และ PCTT จะผนึกกำลังเป็นชุมชนที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ผ่านการลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ครั้งนี้ โดยทำงานบนหลักการของการควบรวมกิจการขนาดใหญ่ ข้อได้เปรียบที่ส่งเสริมกัน การโอนความเสี่ยง ตลอดจนผลประโยชน์ร่วมกัน บนพื้นฐานของความเท่าเทียมและการพัฒนาร่วมกัน"

          Dave Breckinridge ประธานบริษัท LJUNGSTROM กล่าวว่า "การเป็นพันธมิตรกับ PCTT ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญให้ LJUNGSTROM ได้ขยายบทบาทในตลาดจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับ PCTT เพื่อนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้ในโครงการของเราทั้งสองฝ่าย และเพื่อเพิ่มสมรรถนะการทำงานของโรงงานไฟฟ้า"

          เกี่ยวกับ POWERCHINA

          POWERCHINA ให้บริการแก่ภาคพลังงานน้ำ พลังงานความร้อน พลังงานใหม่ และโครงสร้างพื้นฐาน ด้วยบริการที่ครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผน ตรวจสอบ ออกแบบ ให้คำปรึกษา การก่อสร้างงานโยธา ไปจนถึงการติดตั้งงานระบบ M&E และการผลิต ในปี 2561 POWERCHINA ติดอันดับ 182 ในการจัดอันดับ Fortune 500 และรั้งอันดับ 2 ในการจัดอันดับ 150 บริษัทออกแบบชั้นนำของโลกโดย ENR นอกจากนี้ POWERCHINA ยังได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการก่อสร้างในยุทธศาสตร์ "Belt and Road" รวมทั้งเป็นบริษัทชั้นนำตามแผนความร่วมมือ "International Industrial Capacity Cooperation" อีกด้วย

          เกี่ยวกับ PCTT

          POWERCHINA Turbine Technologies Co., Ltd ให้บริการโซลูชั่นระบบและอุปกรณ์กังหันแก่โรงงานไฟฟ้า โลหกรรม การทำเหมือง งานระบบราง อุโมงค์ลม การบำบัดน้ำ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ

          เกี่ยวกับ LJUNGSTROM

          LJUNGSTROM ในเครือ ARVOS Group เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลก บริษัทมีความเชี่ยวชาญในการจัดหาโซลูชั่นและการให้บริการตลอดอายุการใช้งานแก่โรงงานไฟฟ้าพลังความร้อนและโรงงานอุตสาหกรรมอื่น ๆ ด้วยประวัติการดำเนินงานยาวนาน 95 ปีในการพัฒนาด้านการนำความร้อนทิ้งกลับมาใช้ (heat recovery) LJUNGSTROM ได้สร้างนิยามของเทคโนโลยีพลังงานความร้อนสะอาดทั่วโลก ผ่านทางความรู้เฉพาะทางและความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ljungstrom-global.com

          ติดต่อ: Clint Rankin, 1-256-714-7993, clint.e.rankin@arvos-group.com


          รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/736940/ljungstrom.jpg
          โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/433824/LJUNGSTROM_Logo.jpg

POWERCHINA and LJUNGSTROM Announce Strategic Partnership to Boost Performance of Power Plants

          On August 20, 2018, LJUNGSTROM and POWERCHINA Turbo Technologies (PCTT), a division of POWERCHINA, announced a strategic partnership to support the China "One Belt One Road" Strategy with technology that enhances plant efficiency, flexibility and operational performance. LJUNGSTROM will work together with PCTT in power generation and industrial facility markets in China and South East Asia to jointly approach customers with an integrated suite of best in class technologies, including fans, air preheaters, and other power generation products.


          Li Yueping, member of the Standing Committee of the Party Committee and Deputy General Manager of POWERCHINA, said, "I hope, through the signing of the strategic cooperation agreement, LJUNGSTROM and PCTT will form a united community, sticking to the principles of mega merger, complementary advantages, risk sharing, and mutual benefits based on equality and common development."

          "The partnership with PCTT represents a powerful opportunity for LJUNGSTROM to significantly expand our presence in China and the South East Asian markets," said Dave Breckinridge, President of LJUNGSTROM. "We're excited to partner with PCTT to bring innovative technologies to both of our projects and to enhance plant performance."

          About POWERCHINA

          POWERCHINA provides a full range of comprehensive services, from planning, investigation, designing, consulting, and civil works construction to M&E installation and manufacturing services in the fields of hydropower, thermal power, new energy and infrastructure. In 2018, POWERCHINA ranked 182nd of the Fortune 500 and 2nd in the ENR 2018 Top 150 Global Design Firms. POWERCHINA has become the leader in the construction of the "Belt and Road" and the leading enterprise of "International Industrial Capacity Cooperation".

          About PCTT

          POWERCHINA Turbine Technologies Co., Ltd. is committed to providing turbine equipment and system solutions for power plants, metallurgy, mining, rail transit, wind tunnel, water treatment and other industries.

          About LJUNGSTROM

          LJUNGSTROM, a division of ARVOS Group, is a global technology and innovation leader, specializing in full life-cycle services and solutions for thermal power plants and industrial facilities. With a history of heat recovery advances spanning 95 years, LJUNGSTROM is redefining clean thermal power technologies through its deep customer and technical knowledge, worldwide. For more information, visit www.ljungstrom-global.com .

          CONTACT: Clint Rankin, 1-256-714-7993, clint.e.rankin@arvos-group.com


          Photo - https://mma.prnewswire.com/media/736940/ljungstrom.jpg
          Logo - https://mma.prnewswire.com/media/433824/LJUNGSTROM_Logo.jpg

ซีรีย์จีน “สัประยุทธ์ทะลุฟ้า” เตรียมออนแอร์แดนมังกร 3 กันยายนนี้

          ซีรีย์จีน "สัประยุทธ์ทะลุฟ้า" (ซีซั่น 1) ที่ผลิตโดยบริษัท Wanda Media และ New Classics Media จะเริ่มออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์หูหนานทีวีในวันที่ 3 กันยายน 2561 ทุกวันจันทร์-พุธ เวลา 22.00 น. (GMT+8) ในช่วง Youth in Action Theatre ส่วนช่องทางออนไลน์จะฉายผ่านทาง Tencent Video เพียงที่เดียวเท่านั้น พร้อมกันนี้ได้มีการปล่อยเทรลเลอร์และโปสเตอร์ออกมาด้วย


          ซีรีย์เรื่องนี้กำกับโดยอวี่หรงกวาง และได้จางถิงมาเป็นผู้เขียนบท นำแสดงโดยอู๋เหล่ย หลินหยุ่น หลี่ชิ่น (ดารารับเชิญหลัก) เฉินฉู่เหอ ซินจื๋อเหล่ย หลิวเหม่ยถง นอกจากนั้นยังมีหนุ่มๆวง XNINE ได้แก่ เซียวจ้าน อู่เจียเฉิง เผิงฉู่เยว่ กู่เจียเฉิง รวมถึง ซูชิง (ดารารับเชิญพิเศษ)

          ในเทรลเลอร์ "เอาชนะบททดสอบ" เด็กหนุ่มอัจฉริยะนาม "เซียวเหยียน" เสียปราณยุทธ์ในตัวไปหมดสิ้น แม้ว่าจะต้องจมอยู่กับเคราะห์กรรมนานถึง 7 ปี เขากลับเผชิญหน้ากับบททดสอบครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างกล้าหาญ ด้วยความอุตสาหะและความคิดที่ไม่เคยยอมแพ้ ความช่วยเหลือจาก "เย่าเฉิน" และ "เซียวซวินเอ๋อ" รวมถึงมิตรสหายทำให้เขาผ่านอุปสรรคมากมายมาได้

          ส่วนโปสเตอร์ "ก้าวไปด้วยกัน" เซียวเหยียนถืออาวุธอยู่ในมือ เตรียมออกเดินทางไปพร้อมกับเซียวซวินเอ๋อ ซึ่งถือคันธนูในมือ ทั้งคู่ไม่หวาดกลัวต่อความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้า และพร้อมปกป้อง "ความยุติธรรม" และ "ความเมตตา" ในระหว่างการเดินทางเพื่อค้นหาตัวเอง

          จางถิง ผู้เขียนบท กล่าวว่า "วัยรุ่นทุกคนอยากเข้าสู่โลกของผู้ใหญ่และพูดคุยกับผู้ใหญ่อย่างเท่าเทียม" ในหนังสือนิยาย เย่าเฉินเป็นตัวละครหลักที่ช่วยเหลือเซียวเหยียนในการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นผู้ใหญ่ การปรับเปลี่ยนบุคลิกของเย่าเฉิน การเปลี่ยนวิธีการสื่อสารระหว่างทั้งคู่ รวมถึงการเปลี่ยนชื่อเป็นเย่าเฉิน (จากเดิมชื่อเย่าเหล่า ซึ่งแปลว่าผู้อาวุโส) เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมกันมากขึ้น ซึ่งเป็นสถานะที่วัยรุ่นต้องการ นอกจากนี้ บทบาทของแหวนก็ถูกขยายเพิ่มเติมจากในนิยาย ช่วยให้เซียวเหยียนมีกำลังในการสร้างความเชื่อมั่นในตัวเองในช่วงเวลาที่กำลังสับสน

          รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20180829/2223448-1

Handheld แต่งตั้งผู้จัดการฝ่ายขายและพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุดใหม่ มุ่งสนับสนุนการขยายธุรกิจทั่วโลก


Handheld Group ผู้นำด้านการผลิตคอมพิวเตอร์พกพาที่แข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ ประกาศแต่งตั้งผู้จัดการคนใหม่ 3 ท่าน เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจทั่วโลก รวมถึงเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับฝ่ายขายและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัท

          (โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/736199/Handheld_Logo.jpg )

          - คุณเจฟฟ์ โรเจอร์ส ดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายประจำภูมิภาคตะวันออกของ Handheld US เขาสั่งสมประสบการณ์นาน 20 ปีในการเป็นผู้นำฝ่ายขาย และมีความชำนาญด้านกลยุทธ์การขาย เขาเข้าใจความต้องการของตัวแทนจำหน่ายและลูกค้าผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์พกพาเป็นอย่างดี เขาเคยทำงานให้กับบริษัทชั้นนำมากมาย เช่น Panasonic Solutions, Data Source Mobility และ Getac USA

          - คุณจอห์น โอคอนเนอร์ ดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบริหารจัดการลูกค้าของ Handheld US โดยรับผิดชอบในส่วนของการรักษาความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับลูกค้าที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านลูกค้าสัมพันธ์ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 20 ปีในการช่วยเหลือลูกค้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามความต้องการ เขาเคยทำงานกับบริษัทใหญ่อย่าง Oki Data America และ Custom America

          - คุณเอริก กราดีน ดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายโครงการทางเทคนิคของ Handheld Group โดยทำงานร่วมกับทีมงานในสวีเดนและโรงงานผลิตในต่างประเทศ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้กับ Handheld เขามีประสบการณ์โชกโชนในการพัฒนาซอฟต์แวร์และโซลูชั่น GNSS จากการทำงานกับบริษัท Trimble นานถึง 18 ปี ในตำแหน่งวิศวกรซอฟต์แวร์และผู้จัดการโครงการ

          การแต่งตั้งผู้จัดการ 3 ท่านที่มีคุณสมบัติครบถ้วน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Handheld ในการสนับสนุนลูกค้าดั้งเดิมและลูกค้าใหม่ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการชั้นเยี่ยม Handheld ยังคงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์พกพาที่แข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยในราคาย่อมเยาเพื่อคนทำงานภาคสนามในสภาพแวดล้อมสุดหฤโหดทั่วโลก

          คุณเจอร์เกอร์ เฮลล์สตรอม ซีอีโอของ Handheld Group กล่าวว่า "บุคลากรที่ได้รับการแต่งตั้งในครั้งนี้เป็นตัวอย่างของบุคลากรทั่วโลกของเราที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถ ในขณะที่บริษัทกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เราก็ได้พบเจอกับผู้มีความสามารถมากมายที่เหมาะกับตำแหน่งใหม่ๆของเรา เรายินดีต้อนรับเจฟฟ์ จอห์น และเอริก สู่องค์กรของเรา เราภาคภูมิใจมากที่ทีมงานที่เราสร้างขึ้นสามารถดึงดูดบุคลากรที่มีทักษะสูงและมีคุณภาพยอดเยี่ยมเช่นนี้"

          ดาวน์โหลดรูปภาพของคุณเจฟฟ์ โรเจอร์ส คุณจอห์น โอคอนเนอร์ และคุณเอริก กราดีน ได้ที่ https://www.handheldgroup.com/pressroom/new-sales-and-product-development 

          ลิงค์ที่เป็นประโยชน์

          เกี่ยวกับ Handheld: https://www.handheldgroup.com/about-handheld 
          ภาพสำหรับสื่อมวลชน: https://www.handheldgroup.com/pressroom/new-sales-and-product-development 
          ผลิตภัณฑ์ของ Handheld: https://www.handheldgroup.com/rugged-computer 
          นิยามของความทนทาน: https://www.handheldgroup.com/why-rugged-handheld-computers 

          ทวีตข่าวนี้: Handheld แต่งตั้งผู้จัดการฝ่ายขายและพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุดใหม่ มุ่งสนับสนุนการขยายธุรกิจทั่วโลก: https://www.handheldgroup.com/New-Hires 

          เกี่ยวกับ Handheld

          Handheld Group คือผู้ผลิตคอมพิวเตอร์พกพา แท็บเล็ต และอุปกรณ์มือถือที่แข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ Handheld และตัวแทนจำหน่ายทั่วโลกนำเสนออุปกรณ์พกพาหลากหลายรูปแบบให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ โลจิสติกส์ ภูมิสารสนเทศ ป่าไม้ ขนส่งมวลชน สาธารณูปโภค การก่อสร้าง การซ่อมบำรุง การทำเหมืองแร่ การทหาร และการรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท Handheld Group ตั้งอยู่ในสวีเดน และมีสำนักงานสาขาอยู่ในฟินแลนด์ สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ อิตาลี เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา

          สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.handheldgroup.com 

          สื่อมวลชนติดต่อ

          โซเฟีย ลอฟบลาด
          ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด Handheld Group ประเทศสวีเดน
          โทร. +46-510-54-71-70
          อีเมล: s.lofblad@handheldgroup.com 

          เอมี่ เออร์เบิน
          ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด Handheld-US สหรัฐอเมริกา
          โทร. +1-541-752-0319
          อีเมล: a.urban@handheld-us.com 

          ที่มา: Handheld Group

GAC Motor Debuts at MIAS and Reveals Plans to Enter Russian Market in 2019

          GAC Motor, China's leading automaker, in the midst of its first debut at the Moscow International Automobile Salon (MIAS) with an all-star vehicle lineup and successful brand promotion event, has announced the official launch of the company's first overseas subsidiary in Russia, GAC Motor RUS, along with plans to enter the Russian market in 2019.

          As its first oversea appearance since the company upgraded its corporate culture, GAC Motor displayed its premium vehicle models, including GS8, GA8, and its brand new GS4 at MIAS. Ms Zhao Qiuyan, Counsellor of the Economic and Commercial Counsellor's office of the Embassy of the People's Republic of China in the Russian Federation, Mr Li Shao, Vice President of GAC Group, Mr Zhan Songguang, Executive Vice President, Mr Gao Feng, Assistant President of GAC Motor, Mr Wang Shunsheng, President of GAC Motor RUS, as well as around 100 journalists from Russian local media and other international media have attended the press conference.

Caption: Ms Zhao Qiuyan, Counsellor of the Economic And Commercial Counselor's Office of the Chinese Embassy in the Russian Federation in Russia(third from right), Mr Xu Jinli, Chief Representative of China Council for the Promotion of International Trade (CCPIT) Representative Office in Russia (second from left),Mr Li Shao, Vice President of GAC Group (third from left), Mr Zhan Songguang, Executive Vice President (second from right), Mr Wang Shunsheng, Executive director and president of GAC Motor RUS (first from left) and Mr Dai Binzheng, Vice President of Zhong Long investment co., LTD take photos together.

          At the event, GAC Motor announced the official launch of GAC Motor RUS, the brand's first overseas subsidiary, which is another important step to facilitate the company's internationalization. The company also hosted a brand promotion conference during MIAS and launched a recruitment drive of Russian dealers to prepare for its entry to the Russian market in 2019. With its high-quality vehicles, GAC Motor aims to make its brand stand out in Russia and win the recognition of consumers in Russia and neighboring countries within 3- 5 years.

Caption: GAC Motor announced the official launch of GAC Motor RUS

          Many Russian media have been impressed and highly valued that the quality and design of GAC Motor's upmarket vehicle models, such as the GS8 and GM8. The dynamics, durability and safety of these automobiles meet Russian customers' demand in Russia, and they look forward to the brand's release in 2019.

Caption: Local and global media pay close attention to the press conference of the China automobile brand GAC Motor

          GAC Motor, a subsidiary of Fortune Global 500 GAC Group, is a young and dynamic independent Chinese auto brand. Founded in 2008, the company has relentlessly followed a path towards internationalization. In just ten years, GAC Motor has secured its position as a leader in China's automotive industry. Standing firm on excellent product quality and performance, GAC Motor has established sales and service networks in 15 countries and regions and has been named the "Best Chinese Car Brand" in multiple overseas markets and earned the trust of more than 1.3 million car owners worldwide.

          GAC Motor is committed to the ambition of building a world-class brand and a global company. After MIAS, the company will continue to introduce more high-quality products and enhance the brand's popularity, reputation and influence in the Russian market with the brand mission of creating an enjoyable life of mobility for Russian customers.

          About GAC Motor

          Founded in 2008, Guangzhou Automobile Group Motor CO., LTD (GAC Motor) is a subsidiary of GAC Group which ranks 202nd among Fortune Global 500 companies. The company develops and manufactures premium quality vehicles, engines, components and auto accessories. GAC Motor has now ranked first among all Chinese brands for five consecutive years in J.D. Power Asia Pacific's China Initial Quality Study SM (IQS), demonstrating the company's quality-centric strategy from innovative research and development (R&D), manufacturing to supply chain and sales & services.

          For more information, please visit:

          Facebook: https://www.facebook.com/GACMotor
          Instagram: https://www.instagram.com/gac_motor
          Twitter: https://www.twitter.com/gac_motor

          Media Contact:

          Sukie Wong
          +86-186-8058-2829
           GACMotor@126.com

          Photo - https://photos.prnasia.com/prnh/20180830/2224647-1-a       
          Photo - https://photos.prnasia.com/prnh/20180830/2224647-1-b       
          Photo - https://photos.prnasia.com/prnh/20180830/2224647-1-c
         

Handheld Hires New Sales and Product Development Managers to Support Continued Global Growth


Handheld Group , a leading supplier of rugged mobile computers, today announced the appointment of three new managers to support Handheld's continued global growth and to strengthen its sales and product development teams.

          (Logo: https://mma.prnewswire.com/media/736199/Handheld_Logo.jpg )

          - Jeff Rogers is the new Eastern Regional Sales Manager for Handheld US. Jeff has two decades of experience in sales leadership and an impressive track record for strategic sales. He has deep experience understanding the needs of resellers and end customers deploying rugged mobile computers from his experience with Panasonic Solutions, Data Source Mobility, and Getac USA.

          - John O'Connor is the new Strategic Account Manager for Handheld US, responsible for maintaining strategic partnerships with large corporate accounts. John is a customer relations specialist with over 20 years of experience assisting clients to develop creative and customized product solutions in his work with companies like Oki Data America and Custom America.

          - Erik Gradine is the new Technical Program Manager for Handheld Group, working with our Swedish team and international manufacturing sites to develop Handheld's next-generation products. He brings extensive experience developing software and GNSS solutions from his 18 years at Trimble as a software engineer and program manager.

          The addition of these three highly qualified managers demonstrates Handheld's commitment to supporting new and existing clients with superior product offerings and excellent customer service. Handheld continues to lead the ultra-rugged computing industry in developing innovative, affordable mobility solutions for fieldwork teams in the world's most challenging environments.

          "These appointments represent the best talent from across the world," says Jerker Hellstroem, CEO, Handheld Group. "As Handheld grows we continue to be impressed and humbled by the incredible group of candidates we see for new positions. We're excited to welcome Jeff, John and Erik to Handheld - and very proud that the team we've built here draws not only such deep skill sets but also such top-quality people."

          Download press images of Jeff Rogers, John O'Connor and Erik Gradine here https://www.handheldgroup.com/pressroom/new-sales-and-product-development .

          Helpful links

          About Handheld: https://www.handheldgroup.com/about-handheld 
          Press images: https://www.handheldgroup.com/pressroom/new-sales-and-product-development
          Handheld product lineup: https://www.handheldgroup.com/rugged-computer 
          Why rugged?: https://www.handheldgroup.com/why-rugged-handheld-computers

          Tweet this: Handheld adds three sales and product development managers in anticipation of continued strong growth: https://www.handheldgroup.com/New-Hires

          ABOUT HANDHELD

          Handheld Group is a manufacturer of rugged mobile computers, tablets and handhelds. Handheld and its partners worldwide deliver complete mobility solutions to businesses in industries such as logistics, geomatics, forestry, public transportation, utilities, construction, maintenance, mining, military and security. The Handheld Group of Sweden has subsidiaries in Finland, the U.K., the Netherlands, Italy, Germany, Switzerland, Australia and the USA.

          For more information, please see http://www.handheldgroup.com .

          MEDIA CONTACTS

          Sofia Loefblad , Marketing Director, Handheld Group, Sweden: +46-510-54-71-70, s.lofblad@handheldgroup.com 
          Amy Urban, Marketing Director, Handheld-US, USA: +1-541-752-0319, a.urban@handheld-us.com 

          Source: Handheld Group

สายการบิน Aeroflot เลือก Vitaly Saveliev รั้งตำแหน่ง CEO ต่ออีกสมัย

คณะกรรมการบริหารริษัท PJSC Aeroflot ได้ลงมติเลือก Vitaly Saveliev เป็นประธานกรรมการบริหาร หรือ CEO ของบริษัทต่ออีกสมัย โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งอยู่ที่ 5 ปี การแต่งตั้งดังกล่าวได้รับการอนุมัติเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2561 ในการประชุมคณะกรรมการบริหาร ซึ่งมี Mikhail Poluboyarinov ทำหน้าที่ประธานตามคำสั่งของรัฐบาลรัสเซีย

          (โลโก้: http://mma.prnewswire.com/media/561410/Aeroflot_Logo.jpg )

          Vitaly Saveliev ทำหน้าที่บริหารสายการบิน Aeroflot มาตั้งแต่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนี้เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2552 ขณะนั้นบริษัทเป็นสายการบินในภูมิภาคที่ได้มาตรฐานโลกโดยมีผู้โดยสารทั้งหมด 8.6 ล้านราย (11.1 ล้านราย หากรวมสายการบินในเครือ) สายการบิน Aeroflot พร้อมทั้งสายการบินในเครือได้เป็นสายการบินที่รั้งอันดับ 68 ในระดับนานาชาติ

          ในปี 2553 ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้มอบหมายให้ Vitaly Saveliev สร้างกลุ่มธุรกิจการบินรัสเซียที่ครบวงจร รัฐบาลได้โอนสายการบินในภูมิภาคจำนวนหนึ่งให้บริษัท Aeroflot บริหารจัดการ ซึ่งนำไปสู่การจัดตั้งกลุ่ม Aeroflot ภายหลังการเปลี่ยนโฉมของเครือ Aeroflot Group รวมทั้งสายการบิน Rossiya Airlines ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของรัสเซีย (พัฒนาจากสายการบิน Rossiya ซึ่งเป็นสายการบินระดับภูมิภาคเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และสายการบิน Donavia และ Orenburg) และสายการแห่งตะวันออกไกลอย่าง ออโรร่า (Aurora) ซึ่งพัฒนาจากสายการบิน SAT Airlines และ Vladivostok Avia)

          การจัดตั้งสายการบินโลว์คอสต์สายแรกของรัสเซียอย่าง สายการบิน Pobeda ในเครือ Aeroflot Group นั้น ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม โดยมี Vitaly Saveliev ผู้ซึ่งช่วยให้ผ่านการแก้ไขกฎเกณฑ์ด้านการบินที่สำคัญของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงการเริ่มใช้ตั๋วโดยสารแบบที่ไม่สามารถคืนเงินได้ การอนุญาตให้สายการบินคิดค่าสัมภาระและจ้างนักบินจากต่างประเทศ และการขึ้นบัญชีดำผู้โดยสารที่ก่อความวุ่นวาย การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้กฎหมายการบินรัสเซียสมบูรณ์มากขึ้นและทำให้สายการบินโลว์คอสต์สามารถให้บริการในรัสเซียได้

          สายการบิน Pobeda ให้บริการเที่ยวบินเที่ยวแรกเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2557 และส่งผลพวงอย่างมีนัยสำคัญในการทำให้ประชาชนชาวรัสเซียสามารถเข้าถึงการเดินทางโดยเครื่องบินได้ โดยมีผู้โดยสารกว่าหนึ่งล้านคนขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรกในช่วง 2 ปีแรกที่เปิดให้บริการ นับตั้งแต่เที่ยวบินเที่ยวแรกมาจนถึงวันนี้ Pobeda ให้บริการผู้โดยสารมาแล้วเป็นจำนวนกว่า 15 ล้านคน

          ในปี 2554 Vitaly Saveliev นำเสนอกลยุทธ์ประจำปี 2568 ของเครือ Aerofort Group ต่อประธานาธิบดีปูติน วัตถุประสงค์หลักของกลยุทธ์คือ การนำพา Aeroflot ไปสู่ตำแหน่งสายการบินระดับแนวหน้าของโลกและเป็นสายการบินอันดับต้น ๆ ภายในปี 2568 เครือ Aerofort Group ได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 5 เครือสายการบินระดับแนวหน้าของยุโรป และ 1 ใน 20 เครือสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก

          นับเป็นการบรรลุเป้าหมายก่อนกำหนดอย่างมีนัยสำคัญ ที่ Aeroflot ได้เป็น 1 ใน 20 สายการบินระดับแนวหน้าของโลกและ 1 ใน 5 เครือสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตั้งแต่ปี 2560 (ร่วมกับสายการบินหลักต่าง ๆ) นิตยสารการบินสากลที่น่าเชื่อถือสองเล่ม ได้แก่ Flight Airline Business และ Air Transport World รายงานว่า ในปี 2561 Aeroflot สามารถรั้งตำแหน่ง 1 ใน 20 สายการบินระดับแนวหน้าของโลก หลายปีที่ผ่านมาจำนวนผู้โดยสารของสายการบิน Aeroflot ได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก จาก 8.6 ล้านราย ในปี 2553 เป็น 32.8 ล้านราย ในปี 2560 โดย Aeroflot และสายการบินในเครือมีจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 50.1 ล้านรายในปี 2560

          ในปีนี้ Aeroflot ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นบริษัทสายการบินที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเป็นครั้งที่สองโดย Brand Finance ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาอิสระชั้นนำด้านการวัดมูลค่าของแบรนด์ มูลค่าของบริษัท Aeroflot เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงและอยู่ที่ 1.429 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

          Aeroflot เป็นสายการบินระดับพรีเมียม จัดเป็นสายการบินระดับ 4 ดาวโดย Skytrax และสายการบินระดับ 5 ดาวโดยสมาคมการบินสหรัฐฯ APEX นอกจากนี้บริษัท Aeroflot ยังได้รับรางวัลอันทรงเกียรติระดับนานาชาติมากมาย อีกทั้งได้รับการเสนอชื่อเป็นสายการบินที่ดีที่สุดในยุโรปตะวันออกเป็นครั้งที่ 7 โดย Skytrax World Airline Awards 2018 ได้รับเลือกเป็นสายการบินนานาชาติในดวงใจของจีนโดย Flyer Awards และยังได้รับการเสนอชื่อเป็นสายการบินชั้นนำของโลกโดย World Travel Awards 2017 ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นรางวัลออสการ์แห่งวงการท่องเที่ยว

          ภายใต้การบริหารของ Vitaly Saveliev สายการบิน Aeroflot กลายเป็นผู้ให้บริการเครื่องบินรัสเซียรุ่นใหม่รายใหญ่ที่สุด โดยมีเครื่องบิน Sukhoi Superjet 100 รุ่นใหม่ล่าสุดทั้งหมด 50 ลำ ในอนาคต สายการบินคาดว่าจะได้รับการส่งมอบเครื่องบิน MC-21 ทั้งหมด 50 ลำ ขณะนี้สายการบิน Aeroflot อยู่ในระหว่างการพิจารณาเรื่องการเพิ่มจำนวนเครื่องบินรัสเซียในสังกัด

          สายการบิน Aeroflot มุ่งเสริมสร้างสถานะการเป็นสายการบินชั้นนำของโลก Vitaly Saveliev และทีมงานบริหารของสายการบินได้เตรียมกลยุทธ์เครือ Aeroflot Group 2566 ฉบับใหม่ ซึ่งจะนำเสนอต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ต่อไป

          ที่มา: Aeroflot

Vitaly Saveliev Re-elected as CEO of Aeroflot

The Board of Directors of PJSC Aeroflot has re-elected Vitaly Saveliev as CEO for a term of five years. The appointment was approved on 28 August 2018 at a meeting of the Board of Directors chaired by Mikhail Poluboyarinov, pursuant to a Directive from the Russian government.

          (Logo: http://mma.prnewswire.com/media/561410/Aeroflot_Logo.jpg )

          Vitaly Saveliev has led Aeroflot since his appointment on 10 April 2009. At that time, the Company was considered a regional carrier by global standards with passenger traffic of 8.6 million (11.1 million including subsidiaries). Aeroflot together with its subsidiaries ranked 68th internationally.

          In 2010 President Vladimir Putin tasked Vitaly Saveliev with creating Russia's first full-fledged airline group. The state transferred a number of regional carriers to Aeroflot's management, and from these assets the construction of Aeroflot Group began. Following the transformation the Group included Russia's second biggest airline Rossiya Airlines (created from St. Petersburg-based regional airline Rossiya, as well as Donavia and Orenburg Airlines) and Far Eastern airline Aurora (created out of SAT Airlines and Vladivostok Avia).

          The creation of Russia's first-ever genuine low-cost carrier, Pobeda, as part of Aeroflot Group represented a genuine breakthrough. Thanks to Vitaly Saveliev, important amendments to Russia's Aviation Code were passed, including the introduction of non-refundable tickets, the ability for airlines to charge for baggage and hire pilots from abroad, and the introduction of blacklists for disruptive passengers. It was these changes that harmonised Russia's Aviation Code and made it possible for low-cost flights to take off in Russia.

          Pobeda launched its first flight on 1 December 2014. Since then it has had an enormous impact on making air transport accessible to ordinary Russians, with more than a million people flying for the first time in the low-cost carrier's first two years of operations. Since its first flight, Pobeda has already carried more than 15 million passengers.

          In 2011, Vitaly Saveliev presented Aeroflot Group's Strategy-2025 to President Putin. The key goal of the strategy was to establish Aeroflot as one of the world's leading airlines, ranking in the top flight of global aviation. By 2025, Aeroflot Group was called on to become one of Europe's top five and the world's 20 largest aviation groups.

          These goals were achieved significantly ahead of time, with Aeroflot becoming one of the world's top 20 airlines and one of Europe's five largest as early as 2017 (among legacy carriers). In 2018, Aeroflot confirmed its place among the 20 leading airlines worldwide, according to two authoritative global aviation publications, Flight Airline Business and Air Transport World. Over the years Aeroflot airline's passenger traffic has significantly increased, from 8.6 million passengers in 2009 to 32.8 million in 2017. In total, Aeroflot and its subsidiaries carried a record 50.1 million passengers in 2017.

          This year, Aeroflot was named the world's strongest airline brand for the second time by Brand Finance, the leading independent brand valuation consultancy. Aeroflot's brand value is growing steadily and today amounts to USD 1.429 billion.

          Aeroflot is a recognised premium carrier, holding 4-Star Airline status from Skytrax and a 5-Star Global Airline rating from US aviation association APEX. The Company regularly wins prestigious international awards: it was named Best Airline in Eastern Europe for the seventh time at 2018 Skytrax World Airline Awards, and has twice been recognised as China's Favourite International Airline at the Flyer Awards. Russia's flag carrier was also named the world's leading airline brand at World Travel Awards 2017, known as the Oscars of the tourism industry.

          Under Vitaly Saveliev Aeroflot has become the largest operator of modern Russian aircraft. The company operates 50 of the latest Sukhoi Superjet 100. In the coming years the Company is expected to take delivery of 50 MC-21. Aeroflot is considering further expansion of its fleet of Russian aircraft.

          Aeroflot intends to strengthen its status as a leading global airline. Vitaly Saveliev and the Company's management team have prepared an updated Aeroflot Group Strategy-2023, which will be presented in the near future to President Vladimir Putin.

          Source: Aeroflot

Makeblock ปิดการระดมทุนรอบ Series C คว้าเงินทุน 300 ล้านหยวน

บริษัทจะนำเงินที่ได้ไปใช้สนับสนุนการวิจัยและพัฒนา การตลาด และการดำเนินงานทั่วโลก

          Makeblock ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่น STEAM Education ประกาศปิดการระดมทุนรอบ Series C มูลค่า 300 ล้านหยวน (ราว 44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะที่มีการประเมินมูลค่าบริษัทที่ระดับ 2.5 พันล้านหยวน (ราว 367 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) การระดมทุนครั้งนี้นำโดย CICC ALPHA ร่วมด้วย Yuexiu Industrial Investment Fund, GX Capital และ Everest Capital (LMFVC) โดยมี For-Capital เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

          Makeblock จะนำเงินที่ได้ไปใช้สนับสนุนการวิจัยและพัฒนา การตลาด รวมถึงการดำเนินงานของบริษัทในเครือ ขณะที่บริษัทเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆในเดือนตุลาคมนี้ โดย Jasen Wang ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Makeblock กล่าวว่า "เราจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในราคาที่ถูกกว่าเดิมเพื่อตอบสนองความต้องการของครอบครัวและโรงเรียนต่างๆ ตลอดปีที่ผ่านมาเราครองส่วนแบ่งในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งในยุโรป เอเชียแปซิฟิก ทวีปอเมริกา และจีน อันเป็นผลพวงมาจาก 3 กลยุทธ์หลักของเรา ได้แก่ โซลูชั่นซอฟต์แวร์-ฮาร์ดแวร์ โซลูชั่นการศึกษาอย่างเป็นระบบ และการแข่งขันหุ่นยนต์ทั่วโลก บัดนี้ เรามีแรงผลักดันในการขยายความครอบคลุมของผลิตภัณฑ์ และผสานเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดไว้ในโซลูชั่น STEAM ของเรา ในขณะที่เรายังคงมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า"

          โซลูชั่น STEAM ของ Makeblock คว้ารางวัลระดับนานาชาติมาครองถึง 9 รางวัล ได้แก่ American 2018 Family Choice Awards, American Gold Edison Awards, American IDEA Gold Award, CES Innovation Awards, German IF Design Award, German Red Dot Product Design Award, Finland Kokoa Education Standard Certification, Korean K-Design Gold Award และ Japanese Good Design Award

          ปัจจุบัน Makeblock ก้าวขึ้นเป็นบริษัทข้ามชาติที่มีพนักงาน 500 คน และมีบริษัทในเครือหลายแห่งในอเมริกา เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น และฮ่องกง บริษัทร่วมงานกับตัวแทนจำหน่ายกว่า 1,600 รายทั่วโลก รวมถึงสร้างธุรกิจในกว่า 140 ประเทศและดินแดน ตลอดจนสร้างความร่วมมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft และพันธมิตรเชิงกลยุทธ์หลายราย เช่น SoftBank C&S ในประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น โรงเรียนมากกว่า 20,000 แห่งทั่วโลกได้ประโยชน์จากโซลูชั่น STEAM ของ Makeblock ครอบคลุมถึงโรงเรียนมัธยม 7,000 แห่งในฝรั่งเศส และโรงเรียนมัธยมกว่า 50% ในฮ่องกง ส่วนในเม็กซิโก Makeblock ได้ผนึกกำลังกรมการศึกษาแห่งรัฐฮาลิสโก สร้างสถิติห้องเรียนสอนประดิษฐ์หุ่นยนต์ที่มีนักเรียนมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ ในแอนตาร์กติกา Makeblock ยังเป็นแบรนด์หุ่นยนต์เพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับเลือกจาก Antarctica Education & Research Program (AERP) และในแอฟริกา Makeblock รับหน้าที่เป็นซัพพลายเออร์อย่างเป็นทางการของ RobotsMali National Collaborative Robotics Education Center อีกทั้งยังร่วมมือกับ NOSI (Operational Nucleus of the Information Society) เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในประเทศกาบูเวร์ดี

          รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.makeblock.com 

          รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20180830/2224571-1 
          คำบรรยายภาพ - โซลูชั่น STEAM Education ของ Makeblock