InComm ผู้นำด้านเทคโนโลยีการชำระเงินและบัตรเติมเงิน ฉลองครบรอบ 10 ปีการดำเนินธุรกิจในเอเชียแปซิฟิกในเดือนนี้ บริษัทเปิดสำนักงานแห่งแรกในภูมิภาคที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2551 ปัจจุบัน บริษัทจำหน่ายบัตรเติมเงินและให้บริการชำระเงินคิดเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี โดยมีสำนักงาน 10 สาขาในหลายประเทศและดินแดน เช่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง ไทย และออสเตรเลีย เป็นต้น
คุณแฟรงค์ โมนาโค รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไปบริษัท InComm International กล่าวว่า "เราทำงานอย่างหนัก สร้างความร่วมมือกับหลายฝ่าย และพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องตลอด 10 ปีจนมีวันนี้ เคล็ดลับความสำเร็จของเราคือบุคลากรอันยอดเยี่ยม ความมุ่งมั่นทุ่มเท และการเจาะตลาดท้องถิ่น เอเชียเป็นตลาดที่มีความหลากหลายมาก การยอมรับและปรับตัวตามความหลากหลายตั้งแต่แรกรุกเข้าสู่ตลาดเอเชียถือเป็นรากฐานความสำเร็จของเรา"
เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
- เปิดสำนักงานแห่งแรกและให้บริการทำธุรกรรมครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2551 ที่ประเทศญี่ปุ่น
- วางจำหน่ายบัตรเติมเงินในร้านสะดวกซื้อชั้นนำของญี่ปุ่นในปี 2553 ครอบคลุมร้านสะดวกซื้อ 12,000 สาขา โดยใช้เทคโนโลยีระบบขายหน้าร้านชั้นนำของ InComm
- สร้างความร่วมมือกับบรรดาบริษัทด้านความบันเทิงยักษ์ใหญ่ของโลก เพื่อวางจำหน่ายบัตรเติมเงินในฮ่องกงก่อนเทศกาลส่งท้ายปี 2555
- วางจำหน่ายบัตรเติมเงินสำหรับซื้อแอป media player ในออสเตรเลียในปี 2557
- เข้าซื้อกิจการ ValueAccess หุ้นส่วนด้านการจัดจำหน่ายบัตรเติมเงิน ในปี 2559
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี และคืนกำไรให้กับสังคม พนักงานของ InComm จากกว่า 30 ประเทศได้ช่วยกันระดมทุนให้กับ องค์การยูนิเซฟ ซึ่งดำเนินงานใน 190 ประเทศและดินแดนทั่วโลกเพื่อคุ้มครองเด็กๆทุกคน โดยพนักงานต่างร่วมระดมทุนทั้งแบบเดี่ยวและแบบทีมผ่านกิจกรรม "10 for 10 Challenge" ซึ่งประกอบด้วยการวิ่ง เดิน หรือปั่นจักรยาน 10 กิโลเมตร หรือการเล่นโยคะ 4 ครั้ง ซึ่งเผาผลาญพลังงาน 10,000 กิโลจูล สำหรับเงินบริจาคที่รวบรวมมาได้จะมอบให้แก่ยูนิเซฟทั้งหมด 100%
เกี่ยวกับ InComm
InComm ผสานโซลูชั่นของบริษัทเข้ากับระบบขายหน้าร้านของบรรดาร้านค้า ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถทำธุรกรรมต่างๆได้ในร้านค้ามากกว่า 500,000 แห่ง ทั้งนี้ InComm มีสำนักงานใหญ่อยู่ในแอตแลนตา มีการดำเนินงานในกว่า 30 ประเทศ และครอบครองสิทธิบัตร 366 ฉบับทั่วโลก
No comments:
Post a Comment