Wednesday, June 30, 2021

Rockwell Automation เข้าซื้อกิจการ Plex Systems เดินหน้าขยายซอฟต์แวร์คลาวด์เพื่ออุตสาหกรรมเต็มกำลัง

 แพลตฟอร์มการผลิตอัจฉริยะแบบสมัครเป็นสมาชิก (subscription) ชั้นนำของ Plex Systems จะช่วยเร่งการพลิกโฉมสู่ โลก ดิจิทัลของลูกค้า และปรับ มุมมองใหม่ ในระบบการผลิต ตั้งแต่ต้นจนจบ  ด้วยโซลูชันระบบคลาวด์ที่ปรับใช้งานได้ง่าย

  • Rockwell เตรียมเข้าซื้อกิจการ Plex Systems ด้วยเงินสด 2.22 พันล้านดอลลาร์
  • Plex เป็นแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ SaaS แบบ cloud-native เพื่อการผลิตอัจฉริยะชั้นนำสำหรับองค์กรทุกขนาด
  • Plex นำเสนอแอปพลิเคชันชั้นนำในการดำเนินการผลิต, supply chain และการจัดการคุณภาพในกลุ่มอุตสาหกรรมแบบสายพานลำเลียงและเครื่องจักร หรือมีการผสมผสาน ตลอดจนกระบวนการผลิตแบบต่อเนื่อง
  • รายได้ของ Plex เติบโตในอัตราเลขสองหลัก และคาดว่าการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยเพิ่มกำไรจากการดำเนินงานของ Rockwell ได้ทันที
  • การเข้าซื้อกิจการ Plex คาดว่าจะช่วยเร่งให้ Rockwellบรรลุเป้าหมายรายได้ประจำปีของ Rockwell ได้ในเวลาราว ๆ 2 ปี

Rockwell Automation, Inc. (NYSE: ROK) บริษัทรายใหญ่ที่สุดในโลกที่อุทิศให้กับการพัฒนานวัตกรรมระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล และ Plex Systems แพลตฟอร์มการผลิตอัจฉริยะบนคลาวด์ชั้นนำสำหรับองค์กรทุกขนาด ประกาศว่า Rockwell ได้บรรลุข้อตกลงเพื่อเข้าซื้อกิจการ Plex ด้วยเงินสด 2.22 พันล้านดอลลาร์

Plex นำเสนอแพลตฟอร์มการผลิต SaaS single-instance และ multi-tenant สำหรับองค์กรในขนาดต่าง ๆ ซึ่งรวมเอาศักยภาพในด้านการจัดการระบบการดำเนินการผลิตขั้นสูง การจัดการคุณภาพ และความสามารถในการจัดการ supply chain เข้าไว้ด้วยกัน ทางบริษัทมีลูกค้ามากกว่า 700 รายและจัดการธุรกรรมมากกว่า 8 พันล้านรายการต่อวัน ความสามารถด้านซอฟต์แวร์ของ Plex จะเพิ่มเติมศักยภาพและสร้างความแตกต่างในการเข้าถึงตลาดทั่วโลกของ Rockwell ด้วยความเชี่ยวชาญในโลกอุตสาหกรรม และความสามารถในการเปลี่ยนข้อมูลแบบเรียลไทม์ให้เป็นข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริง

"การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยเร่งกลยุทธ์ของเราในการทำให้ Connected Enterprise เป็นจริง พร้อมร่นระยะเวลาส่งมอบบริการตามความต้องการ (time-to-value) ให้เร็วขึ้นให้กับลูกค้าของเรา ซึ่งเริ่มรับนำเอาโซลูชันคลาวด์ไปใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อปรับปรุงความยืดหยุ่น ความคล่องตัว และความยั่งยืนในการดำเนินงานของพวกเขา" Blake Moret ประธานและซีอีโอ Rockwell Automation กล่าว "การรวมเทคโนโลยีคลาวด์ที่ล้ำสมัยของ Plex เข้ากับบริการซอฟต์แวร์ที่มีอยู่และความเชี่ยวชาญด้านโดเมนของ Rockwell ก็จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าและเปิดโอกาศช่องทางทางการตลาดที่มากขึ้น การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ยังจะช่วยเร่งการเติบโตของรายได้จากซอฟต์แวร์ของเรา ตลอดจนเสริมความแข็งแกร่งให้กับแหล่งรายได้ประจำปีของเราด้วย"

ความยากลำบากของผู้ผลิตที่กำลังเพิ่มขึ้นคือความจำเป็นเร่งด่วนในการเพิ่มศักยภาพการผลิตและยกระดับความยืดหยุ่น ขณะเดียวกันก็ต้องขับเคลื่อนประสิทธิภาพและการปฏิบัติตามระเบียบด้วย บริษัทต่าง ๆ กำลังมองหาทางปรับปรุงระบบการผลิตของตนเองด้วยระบบการจัดการการผลิตบนคลาวด์ที่ทันสมัย ใช้งานง่าย และบำรุงรักษาง่าย แพลตฟอร์มของ Plex ช่วยให้ลูกค้าเชื่อมต่อ วางระบบอัตโนมัติ ติดตาม และวิเคราะห์การทำงานของตนเองและ supply chain ที่เชื่อมต่อกันได้

"Rockwell เชื่อในพลังของข้อมูลและเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงการศักยภาพในการผลิตและการดำเนินงานของอุตสาหกรรม" Brian Shepherd รองประธานอาวุโสฝ่ายซอฟต์แวร์และการควบคุมของ Rockwell Automation กล่าว "เมื่อรวมกับความสามารถในการบำรุงรักษาและบริหารจัดการสินทรัพย์ขั้นสูงที่ได้จากการเข้าซื้อ Fiix ล่าสุดนี้แล้ว Rockwell ก็จะมีโซลูชันคลาวด์ที่แข็งแกร่งสำหรับระบบการผลิตของลูกค้าเราหลังการเข้าซื้อ Plex เสร็จสิ้น"

"Plex เป็นมากกว่าแค่บริษัทมาโดยตลอด" Bill Berutti ซีอีโอของ Plex กล่าว "เราเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนสู่การผลิตอัจฉริยะ และพันธมิตรที่ไว้วางใจได้แก่ผู้ผลิตกว่า 700 รายทั่วโลก การร่วมมือกับ Rockwell เป็นผลดีอย่างยิ่งต่อลูกค้าของเรา พันธมิตรของเรา และพนักงานของเรา ขณะที่เราพยายามขยายการเข้าถึงและผลกระทบ และเร่งพันธกิจของเราในการนำการผลิตสู่คลาวด์"

Plex จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยปฏิบัติการซอฟต์แวร์และการควบคุมของ Rockwell ซึ่งให้บริการฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ชั้นนำสำหรับการออกแบบ ปฏิบัติงาน และบำรุงรักษาการผลิตอัตโนมัติและระบบการจัดการต่าง ๆ ในฐานะส่วนหนึ่งของการเข้าซื้อนี้ Rockwell จะให้การต้อนรับพนักงานใหม่ที่มีส่วนร่วมเป็นอย่างดีกว่า 500 คน

การเข้าซื้อกิจการนี้จะได้รับเงินทุนจากเงินสดและสินทรัพย์ทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขตามธรรมเนียมปกติทั่วไปในการตรวจสอบของหน่วยงานกำกับดูแล คาดว่าการเข้าซื้อนี้จะเสร็จสิ้นช่วงไตรมาส 4 ของปีงบการเงินของ Rockwell

เกี่ยวกับ Rockwell Automation

Rockwell Automation, Inc.  (NYSE: ROK) คือผู้นำระดับโลกด้านระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล เราเชื่อมโยงจินตนาการของผู้คนเข้ากับศักยภาพของเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มพูนความเป็นไปได้ใหม่ ๆ เท่าที่มนุษย์จะทำได้ ซึ่งจะทำให้โลกใบนี้มีความอุดมสมบูรณ์และยั่งยืนยิ่งขึ้น Rockwell Automation ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน มีพนักงานราว 24,000 คนที่คอยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าในกว่า 100 ประเทศอย่างทุ่มเท เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่เราใช้เพื่อสร้างองค์กรที่เชื่อมต่อถึงกันทั้งหมดให้เกิดขึ้นจริงกับองค์กรในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ที่ www.rockwellautomation.com

เกี่ยวกับ Plex Systems

Plex Systems(R) คือผู้นำในด้านโซลูชันการผลิตอัจฉริยะบนคลาวด์ ส่งเสริมผู้ผลิตทั่วโลกให้สร้างผลิตภัณฑ์ชั้นยอด แพลตฟอร์มของเราช่วยให้ผู้ผลิตเชื่อมต่อ วางระบบเป็นอัตโนมัติ ติดตาม และวิเคราะห์ทุกแง่มุมของธุรกิจตนเองเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง แพลตฟอร์ม Plex Smart Manufacturing Platform ประกอบด้วยโซลูชันสำหรับการจัดการการผลิต (MES), ERP, คุณภาพ, การวางแผนและการจัดการ supply chain, IOT อุตสาหกรรม และการวิเคราะห์เพื่อเชื่อมโยงผู้คน ระบบ เครื่องจักร และ supply chain ช่วยให้พวกเขาเป็นผู้นำด้วยความแม่นยำ ประสิทธิภาพ และความคล่องตัว

แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น และ Nobu Hospitality ประกาศแผนขยายธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารเครือ Nobu ในประเทศไทย

       บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร และ Nobu Hospitality แบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลกที่ก่อตั้งโดยโนบุ มัตสึฮิสะ, โรเบิร์ต เดอ นิโร และเมียร์ เทเปอร์ มีความยินดีในการประกาศความร่วมมือครั้งใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เดินทางทั้งในปัจจุบันและอนาคต ด้วยการสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนใคร

ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ เพื่อสรุปข้อตกลงในการพัฒนาพื้นที่ในไทยให้แล้วเสร็จ โดยมีเป้าหมายเพื่อเปิดโรงแรมและร้านอาหารเครือ Nobu หลายแห่งร่วมกับ AWC แต่เพียงผู้เดียวตามทำเลทองอันดับต้น ๆ ของไทย ซึ่งรวมถึงร้านอาหาร Nobu แห่งแรกของกรุงเทพฯ ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ทันใช้เป็นจุดชมวิวพร้อมเคาท์ดาวน์ต้อนรับปีใหม่อย่างตื่นตาตื่นใจส่งท้ายปี 2021

Nobu ทุ่มเทให้กับการสร้างสรรค์ประสบการณ์เกี่ยวกับอาหารชั้นเลิศที่น่าประทับใจไม่รู้ลืมมาตั้งแต่ต้น ชื่อของ Nobu ได้กลายเป็นตัวแทนของดีไซน์เรียบง่ายแบบมินิมอล ส่วนผสมชั้นเลิศ ความแข็งแกร่ง และความหลงใหลในการให้บริการที่มีอยู่ในตัว โรงแรมและร้านอาหารแต่ละแห่งล้วนมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับตลาดในพื้นที่ และเปิดโอกาสให้แขกได้ผ่อนคลายและดื่มด่ำกับประสบการณ์ในบรรยากาศอันเต็มไปด้วยความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งพิเศษเกินธรรมดา Nobu ดำเนินธุรกิจตามปรัชญา Kokoro ซึ่งมาจากคำภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่าหัวใจ โดยยึดเป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์ และเป็นสิ่งที่หลอมรวมจุดหมายต่าง ๆ เข้าด้วยกัน

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า " เรารู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับความร่วมมือกับ Nobu ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นความร่วมมืออันสมบูรณ์แบบของแบรนด์ AWC และ Nobu รวมถึงความเชื่อที่เรามีร่วมกันในการนำเสนอบริการ ดีไซน์ และประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ เมื่อมองในแง่ธุรกิจนั้น การเปิดตัวร้านอาหาร Nobu แห่งแรกในไทย จะเข้ามาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอสังหาริมทรัพย์ที่เรามีอยู่แล้วอย่างอาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ โดยเปลี่ยนให้เป็นแหล่งรวมประสบการณ์ไลฟ์สไตล์และสิ่งอำนวยความสะดวกแบบมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ยังจะเข้ามาสร้างสีสันให้กับเมืองหลวงของไทยด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของ Nobu ซึ่งจะทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นแหล่งรวมอาหารและเครื่องดื่มระดับเวิลด์คลาส และเรายังมีเป้าหมายการเติบโตร่วมกันเพื่อขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมโรงแรมในแบรนด์ Nobu ในอนาคตด้วย ซึ่งจะสอดแทรกอาหารชั้นเลิศในทุกมื้อ และนำเสนอดีไซน์ที่โดดเด่นสะดุดตา ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งยืนยันว่า AWC มีความมุ่งมั่นในการสร้างมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และสะท้อนว่าเราเป็นผู้เล่นหลักที่พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้เดินทางทั้งปัจจุบันและอนาคตจากทั่วโลก รวมถึงผู้เดินทางชาวไทยในทุกไลฟ์สไตล์ "

เชฟโนบุ มัตสึฮิสะ, โรเบิร์ต เดอ นิโร และเมียร์ เทเปอร์ กล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งในการร่วมงานกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำอย่าง AWC ในไทย เพื่อพัฒนาโรงแรมและร้านอาหารเครือ Nobu เราให้ความสำคัญอย่างมากกับพันธมิตรของเรา และด้วยการนำของคุณวัลลภา ไตรโสรัส เรามั่นใจว่าอนาคตจะสดใสอย่างแน่นอนสำหรับ Nobu ในไทยและที่อื่น ๆ"

เทรเวอร์ ฮอร์เวลล์ ซีอีโอของ Nobu Hospitality กล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นในการบรรลุความร่วมมือครั้งใหม่กับ AWC กลยุทธ์รับอนาคตของเราคือการทำให้แบรนด์เติบโตด้วยพันธมิตรทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ เพื่อให้พันธมิตรเหล่านี้เข้าถึงโมเดลธุรกิจและความเข้มแข็งของเราในหลายด้าน อย่างที่หลาย ๆ รายได้ประสบความสำเร็จมาก่อนแล้ว"

วิดีโอ - https://mma.prnewswire.com/media/1554782/AWC_x_NOBU_Thailand.mp4

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1554789/AWC_X_Nobu_Hospitality_Signing.jpg

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1554781/NOBU_HOSP_EXEC_TEAM.jpg

Asset World Corporation and Nobu Hospitality Announce Plans to Expand Nobu Hotels and Restaurants in Thailand

       Asset World Corp Public Company Limited (AWC), Thailand's leading integrated lifestyle real estate group and Nobu Hospitality, the global lifestyle brand founded by Nobu Matsuhisa, Robert De Niro and Meir Teper, are delighted to announce a new partnership established to meet the needs of existing and future travellers by creating new unique experiences.

Both parties have signed a memorandum of understanding to complete an area development agreement covering Thailand with intent to open multiple Nobu Hotels and Restaurants exclusively with AWC in Thailand's most compelling destinations, including Bangkok's first ever Nobu restaurant, expected to open in time to serve as a spectacular New Year's countdown viewpoint at the end of 2021.

From the beginning Nobu has been about creating unforgettable experiences around exceptional food.  The name Nobu has become synonymous with minimalist, instinctive design, the finest ingredients, a powerful energy, and an innate passion for service.  Each hotel and restaurant are fully engaged with the local market and offers guests the place to relax and savour an experience in an atmosphere charged with a sense of being part of something extraordinary.  The philosophy of Kokoro - which comes from the Japanese word for heart - is the heartbeat of the brand and what ties the destinations together.

Wallapa Traisorat, Chief Executive Officer and President of AWC, stated
"We are thrilled about this collaboration with Nobu, which is such a perfect partnership of the AWC and Nobu brands and our shared belief in unique offerings, design and creating experiences. From a business perspective, introducing Thailand's first Nobu restaurant will enhance the value of our existing property Empire Tower, turning it into a large mixed-use facility and lifestyle experience destination right in the middle of the Bangkok CBD. Moreover, it will uplift the spirit of Thailand's capital city, Bangkok with the uniqueness of Nobu furthering the city as a world class food and beverage destination. Our shared growth plan is to extend to a hotel under the Nobu brand in the future, which is to feature exquisite cuisine at every meal and a distinct, intriguing design. All of this is an affirmation that AWC is committed to building value for the tourism industry, that we are a key player ready to meet the existing and future needs of tourists from across the globe as well as Thai travelers of any lifestyle."

"We are extremely excited to be working with leading lifestyle real estate developer AWC in Thailand to develop Nobu Hotels and Restaurants.  Partners are extremely important for us, and with the leadership of Wallapa Traisorat we know that the future is bright with Nobu in Thailand and beyond," stated Chef Nobu Matsuhisa, Robert De Niro and Meir Teper.

Trevor Horwell, CEO of Nobu Hospitality stated, "We are excited to be entering into a new partnership with AWC.  Our strategy looking forward is to grow our brand with both regional and national partners so that they can access our business model and strength on a multi-site basis as others have successfully done before."

Video - https://mma.prnewswire.com/media/1554782/AWC_x_NOBU_Thailand.mp4

Photo  - https://mma.prnewswire.com/media/1554789/AWC_X_Nobu_Hospitality_Signing.jpg

Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1554781/NOBU_HOSP_EXEC_TEAM.jpg


Huion ภูมิใจผลิตภัณฑ์วาดภาพดิจิทัลของแบรนด์ อยู่เบื้องหลังการสร้าง Step into the River ผลงานที่คว้ารางวัลแอนิเมชันเรื่องสั้นยอดเยี่ยมจากเวที Palm Springs International Shortfest ลุ้นชิงรางวัลออสการ์

 

เทศกาลภาพยนตร์สั้นนานาชาติ 2021 Palm Springs International ShortFest ซึ่งเป็นอีเวนต์ภาพยนตร์สั้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ และเป็นอีเวนต์ตัดสินคุณสมบัติของผลงานที่จะมีสิทธิเข้าชิงรางวัล Oscars, Baftas and Goyas ได้ประกาศผู้ชนะรางวัลจากการตัดสินของคณะกรรมการเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยผลงานแอนิเมชันเรื่องสั้นอย่าง Step into the River (จีน/ฝรั่งเศส) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Huion และกำกับโดย Weijia Ma ได้คว้ารางวัลแอนิเมชันเรื่องสั้นยอดเยี่ยมจากเทศกาลนี้ไปครอง ส่งผลให้เป็นรางวัลระดับนานาชาติอีกรายการหนึ่งที่ Step into the River คว้ามาได้ หลังจากที่ได้คว้ารางวัล Silver Hugo Award จากเวที Chicago International Film Festival มาก่อนแล้ว

ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของประเทศจีนในช่วงเวลาหนึ่ง และถ่ายทอดเรื่องราวจากมุมมองของเด็กสาวในช่วงเวลานั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความยาว 15 นาที โดยได้มีการสร้างและเรนเดอร์ภาพวาดกว่าหลายหมื่นรายการ เท่ากับว่าเป็นงานหนักสำหรับนักสร้างแอนิเมชัน และเพื่อช่วยให้บรรดาครีเอเตอร์ทำผลงานให้เสร็จอย่างสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพ Huion จึงได้สนับสนุนอุปกรณ์วาดภาพที่มีสมรรถนะทรงพลังเป็นอันดับต้น ๆ ให้กับทีมแอนิเมชัน หนึ่งในนั้นคือ Kamvas Pro 22(2019) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างผลงานชิ้นนี้

Kamvas Pro 22(2019) เป็นจอแสดงผลพร้อมปากกาขนาด 21.5 นิ้วที่ Huion ได้เปิดตัวไปเมื่อปี 2019 โดยมาพร้อมกับพื้นที่ทำงานขนาดใหญ่และสมรรถนะอันเหนือชั้นในเรื่องสี ทำให้ผู้ใช้งานเรนเดอร์ภาพวาดที่มีความละเอียดเป็นธรรมชาติได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ อุปกรณ์ดังกล่าวยังมีหน้าจอแบบด้าน ให้ประสบการณ์การวาดภาพเสมือนใช้ปากกาวาดบนกระดาษ รองรับการเอียง และความไวต่อแรงกดสูง เพื่อให้ครีเอเตอร์ทำงานได้ง่ายขึ้นด้วย

"จอแสดงผลพร้อมปากการุ่นนี้แสดงภาพวาดได้อย่างละเอียดและนำเสนอได้อย่างสมจริง" Jihua Zhu หนึ่งในช่างวาดภาพพื้นหลังของโปรเจกต์นี้ กล่าว "เราสแกนภาพวาดแบบพาสเทลเพื่อรักษารายละเอียดของภาพ และบนหน้าจอที่ให้สีสันสดใสนี้ เราก็เพิ่มเส้นสายต่าง ๆ เพื่อทำให้ภาพดูดีขึ้นได้"

จอแสดงผลพร้อมปากกาของ Huion ทำให้เหล่าครีเอเตอร์เบื้องหลังผลงานแอนิเมชันเรื่องสั้น เช่น ช่างวาดภาพพื้นหลังและแอนิเมเตอร์ มีเครื่องมือช่วยทำงานที่สะดวกสบายและเชื่อถือได้ ทั้งยังทำให้พวกเขาถ่ายทอดไอเดียของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมจริงด้วย ทำให้ผลงานออกมามีสีสันและน่าสนใจกว่าเดิม

Huion เป็นซัพพลายเออร์อุปกรณ์กราฟิกอินพุตสำหรับมืออาชีพ โดยผลิตภัณฑ์ของแบรนด์มีการนำไปใช้อย่างกว้างขวางในสาขาต่าง ๆ เช่น แอนิเมชัน CG, การสร้างภาพยนตร์ดิจิทัล, การออกแบบ ID, การออกแบบทางสถาปัตยกรรม เป็นต้น

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ Huion ได้ที่ www.huion.com
รับชมเรื่องราวเบื้องหลังการสร้างผลงาน Step into the River ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=pCboJ4MH56w

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1554754/20210630100545.jpg

คำบรรยายภาพ - แอนิเมชันเรื่องสั้น Step into the River

Huion Digital Drawing Products Support the Creation of the Oscar-Qualifying Best Animated Short Award of the Palm Springs International Shortfest, Step into the River

      The biggest event for short films in North America, a designated awards-qualifying event for the Oscars, Baftas and Goyas, the 2021 Palm Springs International ShortFest announced its juried award winners on 28th June. An animated short film, Step into the River (China/France), sponsored by Huion and directed by Weijia Ma, won the best animated short at the festival. Following the Silver Hugo Award of Chicago International Film Festival, this is another international award that Step into the River won.

The film explores a specific period of China and tells a story from the perspective of girls from that time. In this 15-minute film, tens of thousands of drawings were produced and rendered, which means a massive workload for animators. To help the creators finish their works in a comfortable and efficient way, Huion offered some of its most powerful drawing devices to the animation team, among which Kamvas Pro 22(2019) played an important role during the creation.

Kamvas Pro 22(2019) is a 21.5inch pen display that introduced by Huion in 2019. With its large working area and outstanding color performance, users can render more detailed and natural drawings conveniently. Besides, the anti-glare screen, the pen-on-paper drawing experience, the tilt support, and high pressure sensitivity level are provided to facilitate the work of creators.

'Rich details of drawings can be preserved and presented authentically on this pen display', said Jihua Zhu, one of the background painters from the team, 'we scan the pastel drawings to keep the rich details of the image. On this screen, with vibrant colors we can continue adding lines to make the image better'.

With the help of Huion pen display, creators of this animated short film such as background painters and animators can not only enjoy a comfortable and reliable work device but also express their ideas efficiently and realistically, making their works more vivid and appealing.

As a professional supplier of graphic input devices, Huion products have been widely applied in areas such as CG animation, digital film making, ID design, architectural design, etc.

For more information about Huion products, please visit www.huion.com.
To watch the creation story behind Step into the River, please visit
https://www.youtube.com/watch?v=pCboJ4MH56w

Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1554754/20210630100545.jpg
Caption - Step into the River

CGTN: สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนสะท้อนความลับเบื้องหลังความสำเร็จของพรรค

"ตราบเท่าที่ฉันยังหายใจ ฉันจะยังขึ้นพูดบนโพเดียมและมอบทุกอย่างที่ฉันมีให้กับนักเรียนของฉัน ฉันจะไม่มีวันเสียใจ" จาง กุ้ยเหมย ผู้เข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) เมื่อปี 2541 และใช้เวลาทั้งชีวิตการทำงานให้การศึกษาฟรีแก่เด็กหญิงในพื้นที่ห่างไกลในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน กล่าว


ถ้อยแถลงดังกล่าวของเธอมีขึ้นเมื่อวานนี้ ในนามของผู้ได้รับเหรียญรางวัล 1 กรกฎาคม ซึ่งเป็นเกียรติยศสูงสุดของพรรค ที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง


ในขณะที่ทั่วโลกสำรวจหาทฤษฎีทางวิชาการต่าง ๆ เพื่อนำมาอธิบายความสำเร็จระยะยาวของพรรคคอมมิวนิสต์จีน แต่คำตอบนั้นมองหาได้จากสมาชิกพรรค


เป้าหมายเริ่มแรกของพรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่เคยเปลี่ยนแปลง


"ผู้ได้รับรางวัลคือฮีโร่ทั่วไปที่เติมเต็มหน้าที่ของตัวเองและอุทิศตนอย่างเงียบ ๆ" ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง กล่าวสุนทรพจน์ ณ พิธีมอบเหรียญรางวัล 1 กรกฎาคม


ผู้ได้รับรางวัลเหรียญ 1 กรกฎาคม สะท้อนหลักการพื้นฐานของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางของความสำคัญและบริการประชาชนด้วยใจ ปธน.สีกล่าวเสริม


นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 100 ปีก่อน พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ได้ยึดมั่นพันธกิจนี้ไว้เสมอ นั่นคือเพื่อสร้างความสุขให้กับประชาชนและฟื้นฟูประเทศจีน และได้รับการปฏิบัติตามอย่างจริงจังโดยสมาชิกพรรค


เรื่องราวที่น่าชื่นชมของสมาชิกพรรคที่ได้รับรางวัลเหรียญ 1 กรกฎาคม อธิบายได้อย่างชัดเจนถึงการยึดมั่นในจุดประสงค์เริ่มต้นและพันธกิจการก่อตั้งของพรรค และตัวอย่างอีกมากมายนี้สามารถพบได้ง่าย ๆ จากการพัฒนาของจีนภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน


ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีน มีสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนกว่า 39 ล้านคนที่ต้องอยู่รับมือโควิดที่แนวหน้า และมีอาสาสมัครอีกกว่า 13 ล้านคนคอยให้บริการ สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนเกือบ 400 คนได้ปกป้องชีวิตและความปลอดภัยของผู้อื่นด้วยชีวิตตนเอง


ในส่วนของโครงการบรรเทาความยากจนของจีนตั้งแต่ปี 2556-2563 มีสมาชิกพรรคกว่า 3 ล้านคนได้รับเลือกและส่งตัวไปเป็นเลขาธิการพรรคและเป็นสมาชิกทีมทำงานในพื้นที่ เพื่อทำตามเป้าหมายโครงการระดับชาติ


ด้วยความพยายามอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนในชนบทผู้ยากไร้ที่เหลืออยู่ 98.99 ล้านคนพัฒนาขึ้นและหลุดพ้นจากความยากจนภายในสิ้นปี 2563


ปธน.สี เปิดเผยว่า สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนหลายต่อหลายรุ่นได้ยืนหยัดต่อสู้เพื่ออิสรภาพและเสรีภาพของชาติ เพื่อความรุ่งเรืองและความแข็งแกร่งของประเทศ และเพื่อความสุขของประชาชน


ความมุ่งมั่นทางการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน: ประชาชนต้องมาก่อน


ปี 2564 เป็นปีครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน และตลอดเวลาที่ผ่านมา พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังคงมุ่งมั่นต่อหลักการของการพัฒนาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และการบริการประชาชนคือพันธกิจหลักของพรรคเมื่อครั้งก่อตั้งขึ้นในปี 2464


ในถ้อยแถลงของปธน.สีที่พิธีมอบรางวัลเมื่อวานนี้ ปธน.สีได้เน้นย้ำว่า สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนควรจะยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ทำงานเพื่อให้บริการประชาชน ตอบสนองความต้องการและอยู่ใกล้ชิดประชาชน


"ประชาชน" คือคำสำคัญในสุนทรพจน์ของปธน.สีมาเสมอ "ประชาชนคือผู้สร้างประวัติศาสตร์ พวกเขาคือกำลังหลักที่กำหนดอนาคตของพรรคและของประเทศ" ปธน.สีกล่าว และการพัฒนาของจีนก็สอดคล้องกับปรัชญานี้


ความสำเร็จทางเศรษฐกิจมหภาคของจีนก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ณ ปี 2563 ระบบประกันสังคมครอบคลุมประชากรกว่า 1.3 พันล้านคน


ขณะที่จีนมุ่งหน้าสู่การเดินทางใหม่เพื่อสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่อย่างเต็มรูปแบบ ปธน.สีได้เรียกร้องให้สมาชิกและเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์จีน เดินหน้าอย่างจริงจังสู่เป้าหมาย 100 ปีที่สอง รวมถึงฝันของชาวจีนที่จะฟื้นฟูประเทศ


https://news.cgtn.com/news/2021-06-29/CPC-holds-ceremony-to-honor-outstanding-Party-members--11tUUiGwBOM/index.html

Ryan Ding ผู้บริหารหัวเว่ย เผยนวัตกรรมที่ก้าวล้ำช่วยสรรค์สร้างอนาคตที่สดใสให้กับทุกอุตสาหกรรม

ในมหกรรม MWC Barcelona 2021 คุณ Ryan Ding กรรมการบริหารของหัวเว่ยและประธานของ Carrier BG ได้กล่าวสุนทรพจน์หลักในหัวข้อ "Innovation: Lighting up the Future" หรือนวัตกรรมจุดประกายอนาคตสดใส โดยในการบรรยายนั้น คุณ Ding ระบุว่า นวัตกรรมด้าน ICT จะก้าวขึ้นเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกที่สำคัญ และมีมูลค่าก้าวกระโดดอย่างมากในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม โดยเฉพาะนวัตกรรมในด้าน 5G ที่จะสร้างคุณค่ามหาศาลให้กับผู้ให้บริการ อุตสาหกรรม ICT และเศรษฐกิจโลก ตลอดจนสรรค์สร้างอนาคตที่สดใสให้กับทุกอุตสาหกรรม

มากกว่าแค่โทรคมนาคม:นวัตกรรมในอุตสาหกรรมICTก้าวขึ้นเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ


คุณ Ding กล่าวว่า การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ได้ก่อให้เกิดสภาวะปกติใหม่ (New Normal) ซึ่งเศรษฐกิจดิจิทัลก้าวขึ้นมาเป็นแรงผลักดันให้กับเศรษฐกิจโลก โครงสร้างพื้นฐานด้าน ICT ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัลกำลังมีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ คุณ Ding กล่าวว่า มูลค่าของ ICT อยู่เหนืออุตสาหกรรมโทรคมนาคม และมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลกในภาพรวม


ในประเทศที่ 5G มีการพัฒนารวดเร็วขึ้นนั้น จะเห็นได้ว่ารายได้ของกลุ่มผู้ให้บริการขยายตัวเร็วขึ้น และประเทศเหล่านี้ก็มีแนวโน้มที่จะมีโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่ดีขึ้นในองค์รวม ยกตัวอย่างเช่นในประเทศจีนมีการติดตั้งสถานีฐาน 5G มากกว่า 820,000 แห่งในเวลาไม่ถึง 18 เดือน และผู้ให้บริการของจีนมีรายได้เพิ่มขึ้น 6.5% ส่วนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5.6% ในไตรมาสแรกของปีนี้ การพัฒนาอย่างรวดเร็วของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย 5G จะช่วยหนุนเศรษฐกิจในอีก 5 ปีข้างหน้าด้วยเม็ดเงินกว่า 1.9 ล้านล้านยูโร ซึ่งอุตสาหกรรม 5G ในเกาหลีใต้และยุโรปก็กำลังขยายตัวเช่นเดียวกับจีน


มากกว่าการเชื่อมต่อ:นวัตกรรม5Gช่วยให้ธุรกิจของผู้ให้บริการประสบความสำเร็จ


เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานด้าน ICT เป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัลในยุค 5G ผู้ให้บริการจึงมีบทบาทสำคัญมากกว่าที่เคย


คุณ Ding กล่าวว่า "ปัจจุบัน เป้าหมายหลักของผู้ให้บริการเครือข่าย 5G คือการบรรลุความสำเร็จทางธุรกิจในตลาดหลัก 3 แห่ง ได้แก่ ผู้บริโภค บ้านพักอาศัย และอุตสาหกรรม ผ่านนวัตกรรมในการปรับใช้เครือข่าย การพัฒนาตลาด และการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน"


"ในตลาดผู้บริโภค 5G ไม่ได้หมายถึงแค่ความเร็วที่มากขึ้น แต่ยังนำประสบการณ์ใหม่ๆ และคุณค่าใหม่ๆ มาให้พร้อมกัน ซึ่งมีผู้ให้บริการบางรายประสบความสำเร็จในขั้นต้นแล้ว"


คุณ Ding กล่าวว่า มี 3 ขั้นตอนที่ผู้ปฏิบัติงานสามารถนำไปปฏิบัติเพื่อให้ประสบความสำเร็จในตลาด 5GtoC ประการแรกคือการเร่งความเร็วในการใช้งาน 5G ด้วยการวางแผนเครือข่ายเป้าหมายและการลงทุนโดยอิงจากข้อมูลเชิงลึกที่แม่นยำในพื้นที่ที่มีมูลค่าสูง สถานการณ์สำคัญ และผู้ใช้ที่มีศักยภาพ ประการที่สองคือการเร่งย้ายผู้ใช้งาน 5G และประการสุดท้ายคือการสร้างโมเดลการกำหนดราคาที่ยืดหยุ่นและขับเคลื่อนด้วยมูลค่า


ปัจจุบัน 5G ถูกนำไปใช้ในโครงการมากกว่า 1,000 โครงการในกว่า 20 อุตสาหกรรม รวมถึงเหล็กและเหมืองแร่ ทำให้การผลิตมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้ประกอบการชาวจีนได้ดำเนินธุรกิจรุดหน้าไปอย่างมาก และกำลังใกล้เข้าสู่การประสบความสำเร็จในขั้นต้น ซึ่งจะขยายวงกว้างต่อไปในอนาคต


คุณ Ding กล่าวว่า "เราได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้ให้บริการชาวจีนว่า ความสำเร็จของ 5GtoB ขึ้นอยู่กับปัจจัย 3 ประการ อันดับแรกคือการเลือกอุตสาหกรรมที่เหมาะสม ผู้ประกอบการควรเลือกอุตสาหกรรมเป้าหมายโดยพิจารณาจากปัจจัย 4 ประการ ได้แก่ ความต้องการ กำลังซื้อ ความสามารถในการขยายธุรกิจ และความเป็นไปได้ทางเทคนิค ประการที่สองนั้นคือการกำหนดขอบเขตของข้อเสนอของคุณ ผู้ให้บริการสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายที่ให้บริการการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ องค์กรยังสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์ หรือแม้แต่ผู้รวมระบบที่ให้บริการแบบบูรณาการเอ็นด์-ทู-เอ็นด์ บทบาทที่แตกต่างกันนี้ต้องการชุดทักษะที่แตกต่างกัน ซึ่งจะมอบมูลค่าทางธุรกิจที่แตกต่างกัน ประการที่สามคือการออกแบบโมเดลธุรกิจที่เป็นนวัตกรรมใหม่ นี่คือกุญแจสำคัญในขยายความสำเร็จของ 5GtoB ในวงกว้าง"


ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ความต้องการบรอดแบนด์ที่บ้านพักอาศัยปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงคุณประโยชน์ของ 5G FWA ที่ช่วยเร่งให้เกิดการใช้งานอย่างรวดเร็วและ O&M แบบไร้สัมผัส ผู้ประกอบการในตะวันออกกลางประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์โดยใช้ FWA เป็นยูสเคสหลักของ 5G


มากกว่าธุรกิจ:หัวเว่ยเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนตลอดทั้งอุตสาหกรรม


คุณ Ding กล่าวว่า "ความสำเร็จของ 5G ขั้นแรกนั้นต้องใช้เครือข่าย 5G ที่มอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้ และสิ่งนี้ได้ชี้นำถึงวิธีการที่หัวเว่ยเลือกสร้างสรรค์นวัตกรรม" ทั้งนี้ หัวเว่ยได้เปิดตัว Massive MIMO ซึ่งมีน้ำหนักเบาที่สุดและทรงพลังที่สุดในอุตสาหกรรมและกินพลังงานต่ำ โดยนวัตกรรมดังกล่าวสามารถติดตั้งได้โดยใช้คนเพียงคนเดียว ซึ่งทำให้การปรับใช้งานเครือข่ายรวดเร็วขึ้น ด้วย Optical Cross-Connect (OXC) ของหัวเว่ย ชั้นวางย่อยหนึ่งชั้นสามารถแทนที่ตู้ได้ 9 ตู้ โดยมีความจุมากกว่าถึง 4 เท่า แต่ใช้พลังงานน้อยกว่า 95% โซลูชัน 5G Super Uplink ของหัวเว่ยผสมผสานข้อดีของ 2.1 GHz และ 3.5 GHz เข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มความจุอัปลิงค์ (Uplink) และความครอบคลุมในอาคาร โซลูชันนี้ให้อัตราอัปลิงค์สูงสุดกว่า 450 Mbit/s ทำให้ผู้ใช้หลายร้อยรายสามารถสตรีม Xiamen Marathon แบบสด ๆ ได้ในระดับ 4K ในเดือนเมษายนโดยใช้สมาร์ทโฟน 5G


เพื่อสนับสนุนโมเดลการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความเป็นกลางทางคาร์บอน คุณ Ding กล่าวว่า หัวเว่ยยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมใน 3 ระดับ ได้แก่ อุปกรณ์ ไซต์ และเครือข่าย ในระดับอุปกรณ์ หัวเว่ยใช้ส่วนประกอบที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานสูงขึ้นเพื่อทำให้แพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์ประหยัดพลังงานได้มากขึ้น ในระดับไซต์ โซลูชันไซต์ที่เรียบง่ายของหัวเว่ยจะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถลดการใช้พลังงาน รวมทั้งประหยัดไฟฟ้าและค่าเช่า ส่วนในระดับเครือข่าย หัวเว่ยได้เปิดตัวโซลูชันประหยัดพลังงานแบบหลายแบนด์และหลาย RAT ซึ่งสามารถลดการใช้พลังงานในเครือข่ายไร้สายโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของเครือข่าย ด้วยโซลูชันนวัตกรรมของหัวเว่ย อุปกรณ์ 5G ที่ทำงานในย่านความถี่ต่ำและความถี่สูงสามารถแบ่งปันพื้นที่ร่วมกันได้ ส่งผลให้ใช้พลังงานน้อยลง และหากพูดถึงการประหยัดพลังงานของอุปกรณ์แบบมัลติแบนด์แล้วนั้น เป้าหมายของหัวเว่ยคือการทำให้หนึ่งบวกหนึ่งน้อยกว่าหนึ่ง


ร่วมมือกันสร้างระบบนิเวศและพัฒนา5Gเพื่ออนาคตที่ดีกว่า


คุณDingได้สรุปสาระสำคัญในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ โดยเน้นย้ำว่าการพัฒนา 5G จำเป็นต้องมีนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ใน 5GtoB มาตรฐาน 5G จำเป็นต้องสอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรมในอัตราที่เร็วขึ้น และควรบูรณาการ 5G เข้ากับกระบวนการผลิตหลักขององค์กรเพื่อช่วยผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและเทคโนโลยีอัจฉริยะ ในขณะเดียวกัน การผนึกกำลังระหว่าง 5G, คลาวด์ และการประมวลผลจะขยายขอบเขตของธุรกิจของผู้ให้บริการออกไป และสร้างพื้นที่สำหรับการเติบโตใหม่ นวัตกรรม 5G เป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง ซึ่งหัวเว่ยเชื่อว่านวัตกรรมจะสร้างอนาคตที่สดใสให้กับทุกคน


รูปภาพ -https://mma.prnewswire.com/media/1554278/image_5005966_40339249.jpg

คำบรรยายภาพ - Ryan Ding ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์

MoEngage เผยรายงานตอกย้ำผลเชิงบวกของการทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคลตามพฤติกรรม และการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเชิงลึก

ข้อมูลเชิงลึกจากผู้บริโภคดิจิทัล 6.6 ล้านรายระบุถึงแนวโน้มและโอกาสสำหรับการมีส่วนร่วมทางดิจิทัลและบนมือถือครอบคลุมอุตสาหกรรมสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

MoEngage แพลตฟอร์มด้านการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคชั้นนำ เปิดเผยผลการวิจัยจากรายงาน 2021 Southeast Asia Consumer Engagement Benchmark Report ที่ประกอบด้วยข้อมูลจากผู้ใช้งาน 6.6 ล้านคนทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะจากอินโดนีเซีย, สิงคโปร์, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ไทย และเวียดนาม พร้อมเจาะลึกถึงแนวโน้มและโอกาสที่สำคัญในภูมิภาค

ในรายงานฉบับนี้ MoEngage วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคโดยเฉพาะใน 3 ภาคส่วนอุตสาหกรรมที่โดดเด่น ได้แก่ การค้าปลีก การธนาคารและการเงิน และความบันเทิงดิจิทัล โดยพิจารณาว่าลูกค้ามีส่วนร่วมและตอบสนองต่อช่องทางการสื่อสารต่างๆ อย่างไร รายงานจึงนี้นำเสนอเกณฑ์มาตรฐาน กลยุทธ์ และกลวิธีที่จะช่วยให้นักการตลาดปรับขนาดการมีส่วนร่วมของลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล

นับตั้งแต่เดือนม.ค.-เม.ย. 2564 MoEngage เฝ้าติดตาม 4 ช่องทางการสื่อสารใน 3 ภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ การแจ้งเตือนแบบพุชบนมือถือ, อีเมล, การส่งข้อความบนแอปพลิเคชัน และการส่งข้อความผ่านเว็บ เนื้อหาส่วนสำคัญของผลการวิจัยระบุว่า

- ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน (DAUs) ของแบรนด์อีคอมเมิร์ซ การค้าปลีก และ D2C เพิ่มขึ้น 13.36% ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 เมื่อศึกษาแนวโน้มของผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAU) ของแบรนด์เดียวกัน MAU บนเว็บไซต์เพิ่มขึ้น 8.7% ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบกับบนมือถือ ซึ่งเป็นไปได้ว่ามีสาเหตุมาจากมาตรการจำกัดการเดินทางและเหล่านักช้อปที่ทำงานจากที่บ้าน ซึ่งต่างจากการช้อปปิ้งผ่านมือถือระหว่างที่เดินทาง

- การแจ้งเตือนแบบพุชที่อาศัยลักษณะพฤติกรรม พร้อมด้วยการเพิ่มการปรับแต่งเฉพาะบุคคลจากแบรนด์ช้อปปิ้ง ทำให้ยอดข้อความที่ถูกส่งถึงกล่องข้อความของผู้รับ (Deliverability) เพิ่มขึ้น 85.67% และการเปลี่ยนผู้ชมให้กลายเป็นลูกค้า (Conversion) เพิ่มขึ้นกว่า 27%

- ยอด DAU เพิ่มขึ้นอย่างมาก แตะ 54.9% บนทุกแฟลตฟอร์มของธนาคารดิจิทัล, ฟินเทค, สินเชื่อ P2P, ประกันภัย และคริปโตในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564

- อีเมลที่ปรับตามพฤติกรรมมีอัตราการคลิกต่อจำนวนการมองเห็น (CTR) และการเปลี่ยนผู้ชมให้กลายเป็นลูกค้าเพิ่มขึ้นในทุกอุตสาหกรรมเมื่อเทียบกับอีเมลทั่วไป กล่าวคือ อัตราการเปิดอีเมลจากแบรนด์ช้อปปิ้งเพิ่มขึ้นแตะ 28.17% และ 0.5% ของอีเมลที่ปรับตามพฤติกรรมในภาคความบันเทิงดิจิทัลมีอัตรา CTR ดีขึ้น 2.4 เท่า ขณะที่ในภาคธนาคาร อีเมลที่ปรับตามพฤติกรรมช่วยเพิ่มอัตราการเปลี่ยนผู้ชมให้เป็นลูกค้า 2.72 เท่า เมื่อเทียบกับการส่งแบบทั่วไป

- แบรนด์สื่อดิจิทัลและความบันเทิงที่ใช้กลุ่มผู้ใช้ที่กำหนดขึ้นเองตามพฤติกรรมและลักษณะของผู้ใช้เพื่อส่งข้อความบนแอปไปยังผู้ใช้งานแอนดรอยด์พบว่าอัตรา CTR เพิ่มขึ้น 2 เท่า และอัตราการเปลี่ยนผู้ชมให้กลายเป็นลูกค้าเพิ่มขึ้นแตะ 50.05% เมื่อเทียบกับการส่งข้อความเดียวกันไปถึงผู้ใช้ทุกราย

ในภาพรวม ผลการวิจัยดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคอย่างใกล้ชิดในทุกช่องทางที่สำคัญ และพัฒนาการขยายบริการทั้งเชิงรุกและเชิงรับที่มาพร้อมกับข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ การโฟกัสจะช่วยสร้างแนวคิดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งทำให้แบรนด์ต่างๆ สามารถตอบสนองและเกินความคาดหวังของลูกค้า และเพิ่มความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาวและการซื้อที่ต่อเนื่อง

Saurabh Madan ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ของ MoEngage กล่าวว่า "MoEngage มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือลูกค้าของเราในการยกระดับผลการดำเนินธุรกิจผ่านการใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ และส่งเสริมความสำเร็จของการตลาดดิจิทัลและระบบนิเวศด้านโฆษณาทั้งหมด ผ่านการแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกของเรากับชุมชน พฤติกรรมผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา มีการนำดิจิทัลมาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงการแพร่ระบาด เรามีความยินดีที่จะส่งมอบมุมมองแบบองค์รวมแก่องค์กรทั่วโลกว่าลูกค้าปัจจุบันและผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้ามีพฤติกรรมอย่างไร และแนะนำพวกเขาผ่านการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเชิงลึกและเส้นทางการเติบโตของธุรกิจ"

ข้อมูลที่วิเคราะห์สำหรับรายงาน MoEngage Southeast Asia Consumer Engagement Benchmark Report 2021 เป็นข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ และมาจากผู้ใช้งานหลายล้านคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีส่วนร่วมโดยองค์กรต่างๆ ที่ใช้แพลตฟอร์ม MoEngage นอกจากผลวิจัยจากข้อมูล รายงานยังเผยข้อมูลเชิงลึกและเคล็ดลับที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จากแบรนด์ชั้นนำ เช่น Zilingo, Kredivo, Homecredit Philippines, Marks & Spencer, OVO และอื่นๆ รับชมรายงานฉบับเต็มได้ที่ https://www.moengage.com/industry-reports/customer-engagement-benchmarks-kpis-metrics-2021-southeast-asia/?utm_campaign=seaengagementreport2021&utm_source=prwire&utm_medium=paid&utm_content=seaengagementreport2021

เกี่ยวกับ MoEngage

MoEngage เป็นแพลตฟอร์มการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่นำข้อมูลเชิงลึกซึ่งสร้างขึ้นสำหรับนักการตลาดและเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจความต้องการของลูกค้า โดยมาพร้อมกับความสามารถในการปรับแต่งหลายช่องทาง ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพและทำให้เป็นอัตโนมัติโดยขับเคลื่อนด้วย AI แบรนด์ต่าง ๆ ยังจะสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้มาเยี่ยมชมและเข้าไปมีส่วนร่วมกับลูกค้าผ่านการสื่อสารแบบส่วนตัวในทุก ๆ ช่องทางการติดต่อได้ตลอดวัฏจักรการใช้งานของพวกเขา แบรนด์ต่าง ๆ กว่า 1,000 แบรนด์ อย่างเช่น CIMB bank, JD.ID, Telecom Malaysia, Blibli, Alodokter, Bigbasket, Flipkart, McAfee, Deutsche telecom และแบรนด์อื่นๆ ใน 35 ประเทศ ใช้แพลตฟอร์ม MoEngage ในการส่งข้อความมากกว่า 5 หมื่นล้านครั้งให้กับผู้บริโภคกว่า 500 ล้านคนในแต่ละเดือน นอกจากนี้ MoEngage ยังได้รับการยกย่องในฐานะ Leader ในรายงานของ Gartner, Forrester และ G2 บริษัทมีสำนักงานอยู่ใน 9 ประเทศ และได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ อาทิ Eight Roads, F-Prime Capital, Matrix Partners, Helion Ventures, Exfinity Ventures และ Venture East ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.moengage.com


Strava แต่งตั้งซีอีโอของ RISE เป็นสมาชิกคณะกรรมการ

Diahann Billings-Burford จะนำความเชี่ยวชาญเชิงลึกและประสบการณ์ความเป็นผู้นำในการสร้างชุมชนผู้ใช้มาช่วยขยายต่อยอดแพลตฟอร์มโซเชียลสำหรับนักกีฬาที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

Strava แพลตฟอร์มโซเชียลชั้นนำสำหรับนักกีฬา รวมถึงคนเล่นกีฬาและออกกำลังกายที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 86 ล้านคน และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกาศแต่งตั้งกรรมการ ได้แก่ Diahann Billings-Burford ซีอีโอของ RISE ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรระดับชาติที่ให้ความรู้และสร้างพลังแก่ชุมชนกีฬาในการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ ส่งเสริมความยุติธรรมทางสังคม และปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างเชื้อชาติ

การแต่งตั้งที่สำคัญนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ Strava กำลังพุ่งแรงโดยมีผู้ใช้งานมากกว่า 86 ล้านคน และยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังเห็นได้จากจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น 2 ล้านคนทุกเดือน การเติบโตดังกล่าวทำให้ Strava กลับมาให้ความสนใจอีกครั้งกับโครงสร้างคณะกรรมการ โดยต้องประกอบไปด้วยผู้นำธุรกิจที่มีทักษะสูงและมีกลยุทธ์ ซึ่งจะช่วยเร่งการเติบโตของแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งเสริมจุดยืนของ Strava ในฐานะชุมชนกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลก

"Diahann เป็นผู้สร้างชุมชนตัวฉกาจ ด้วยประสบการณ์การทำงานทั้งในภาคเอกชน ภาครัฐ และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เธอมีความสามารถและความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความสำคัญของการค้นหามุมมองที่แตกต่างกัน และนำมาปรับใช้ให้เข้ากับกรอบการทำงานและวัตถุประสงค์ที่เราทุกคนสามารถผลักดันร่วมกันได้ ซึ่งจะช่วยเร่งให้ Strava บรรลุพันธกิจต่อไป" Michael Horvath ซีอีโอของ Strava กล่าว

พันธกิจดังกล่าวสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของ Strava ในการเชื่อมโยงนักกีฬาเข้ากับสิ่งที่กระตุ้นและช่วยให้พวกเขาค้นพบสถิติหรือผลงานที่ดีที่สุดของตัวเอง

"ดิฉันไม่เพียงประทับใจในวิสัยทัศน์ที่ Mark Gainey และ Michael Horvath ผู้ก่อตั้งและผู้ร่วมก่อตั้งได้วางไว้เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความเปิดกว้างและความโปร่งใสในการนำเสนอโอกาสที่พวกเขารู้สึกว่ามีอยู่ใน Strava ความตั้งใจที่จะสร้างชุมชนกีฬาที่มีความหลากหลายถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การเติบโตของยอดสมาชิกในอนาคต แต่เพื่อปลดล็อกกุญแจนั้น เราต้องทุ่มเทเวลาและพลังงานร่วมกันเพื่อสร้างชุมชนผู้ใช้ภายใต้ประสบการณ์ปัจจุบัน Strava มุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะสร้างแพลตฟอร์มที่เสมอภาคและเท่าเทียมอย่างแท้จริง และฉันยินดีที่จะได้ถ่ายทอดมุมมองและประสบการณ์การเป็นผู้นำเพื่อช่วยสร้างระบบนิเวศใหม่นี้ร่วมกับชุมชนผู้ใช้ การเดินทางของเราเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น" Billings-Burford กล่าว

ประสบการณ์ดังที่กล่าวมาของ Billings-Burford เป็นประสบการณ์เชิงลึกอย่างแท้จริง และครอบคลุมทั้งองค์กรไม่แสวงหากำไร ภาคเอกชน และบริษัทมหาชน เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเยล และได้รับปริญญานิติศาสตรบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สำหรับประสบการณ์การทำงาน เธอดำรงตำแหน่งผู้นำที่โดดเด่นหลายตำแหน่ง ซึ่งรวมถึงการดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารของ Cultural Investments และรองประธานมูลนิธิ Time Warner Foundation บริษัท Time Warner นอกจากนี้ Billings-Burford ยังดำรงตำแหน่ง Chief Service Officer ประจำสำนักนายกเทศมนตรีเมืองนิวยอร์กเป็นเวลาหลายปี โดยทำงานเพื่อช่วยให้ชาวนิวยอร์ก 1.3 ล้านคนเข้าถึงบริการต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น รวมทั้งดูแลเรื่องอาสาสมัครเพื่อตอบสนองความต้องการที่สำคัญที่สุดของเมือง ตลอดจนส่งเสริมการบริการ

ด้วยตระหนักดีว่าการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนต้องอาศัยความตั้งใจจริงและการดำเนินการในระยะยาว Diahann และ RISE จึงได้นำโปรแกรมที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหามาสู่ชุมชนกีฬาในช่วงเวลาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเธอได้ช่วยกระชับความร่วมมือกับพันธมิตรในกว่า 35 รัฐและในภูมิภาคสำคัญ ๆ เช่น ลอสแอนเจลิส เซาท์ฟลอริดา และมินนีแอโพลิส รวมทั้งพัฒนาความร่วมมือระยะเวลาหลายปีทั้งในระดับอาชีพและระดับมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ Diahann ยังเป็นผู้นำ RISE ในการสร้างการมีส่วนร่วมกับพันธมิตรมากกว่า 650 รายการตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งรวมถึงการจัดเวิร์กช็อปหลายร้อยรายการในระดับอาชีพ ระดับมหาวิทยาลัย และกีฬาเยาวชน ซึ่งช่วยให้ผู้นำมีส่วนร่วม และสร้างวัฒนธรรมกีฬาที่เสมอภาคและเท่าเทียมมากขึ้น

เกี่ยวกับ Strava

Strava คือแพลตฟอร์มโซเชียลชั้นนำสำหรับนักกีฬา รวมถึงคนเล่นกีฬาและออกกำลังกายที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 86 ล้านคนใน 195 ประเทศ หากคุณเหงื่อออก แสดงว่าคุณเป็นนักกีฬา แอปมือถือและเว็บไซต์ของ Strava เชื่อมโยงผู้คนหลายล้านคนที่มีความกระฉับกระเฉง โดย Strava มอบวิธีที่ง่ายและสนุกเพื่อให้ผู้ใช้มีแรงจูงใจในการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย ตลอดจนแข่งขันกับตัวเองหรือผู้อื่นโดยไม่ต้องอยู่ที่เดิม เวลาเดิม เพราะทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของ Strava ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ชอบเล่นกีฬาอะไร หรือใช้อุปกรณ์อะไร มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนและเล่นกีฬาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการสมัครสมาชิก Strava  

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1553461/Strava_headshotdbb1.jpg  


Techman Robot เปิดหลักสูตร AI ฟรีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


อุตสาหกรรมการผลิตจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมและปรับเปลี่ยนไปใช้โซลูชันที่มีมาตรฐาน มีความเป็นอัตโนมัติ และชาญฉลาดมากขึ้น เพื่อรับมือกับความท้าทายที่เกิดจากการระบาดของโรคโควิด-19 โดยปัญญาประดิษฐ์หรือ AI นั้นจะกลายเป็นเทคโนโลยีหลักอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้สถาบัน SEA Taiwan AI College จึงขอนำประสบการณ์การผลิตโดยใช้ AI จากบริษัท ICT ชั้นนำอย่าง Techman Robot มาไว้ในหลักสูตรออนไลน์ที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งไม่เพียงแค่จัดฝึกอบรมให้ผู้ที่มีความสามารถด้าน AI ในแวดวงวิชาการและในอุตสาหกรรมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น แต่ยังตอบสนองความต้องการด้านการเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลของบริษัทไต้หวันด้วย

เริ่มต้นหลักสูตร AI กับผู้ผลิตหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงานอันดับสองของโลก: สัมผัสประสบการณ์การใช้งาน AI และหุ่นยนต์
หุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงานที่ใช้ AI มีบทบาทสำคัญในการนำโซลูชัน AI ไปใช้ให้แพร่หลายทั่วโลก Techman Robot จึงได้เตรียมเปิดคลาสเรียนในเดือนก.ค.นี้ โดยบริษัทไม่ได้เป็นแค่แบรนด์หุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงานที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้บุกเบิกในการรวมระบบ AI วิชั่น (AI vision) เข้ากับระบบแมชชีนวิชั่น (Machine Vision) แบบบิลท์อินไว้ในการผลิตด้วย

TM AI + เป็นการนำเครื่องจักรแบบดั้งเดิมและระบบ AI วิชั่นขั้นสูงมารวมเข้าด้วยกันในระบบหุ่นยนต์ตัวเดียวเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรม โดยไม่ต้องใช้ผู้ควบคุมเพิ่มเติม ทั้งยังลดเวลาและงบประมาณซึ่งเคยต้องใช้ในการรวมระบบอย่างในอดีตลงได้มาก ระบบแมชชีนวิชั่นในตัวของหุ่นยนต์มีกล้องสำหรับอุตสาหกรรมที่มีน้ำหนักเบา และอุปกรณ์เซ็นเซอร์เพื่อจับภาพ นอกจากนี้ ยังรวมเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกของ AI ไว้ด้วยกัน เพื่อช่วยในการตรวจจับรูปทรง ประเภท และสีของวัตถุได้อย่างแม่นยำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ และลดความยากในการผลิตแบบอัตโนมัติ ตลอดจนปรับปรุงการตรวจสอบคุณภาพและความแม่นยำในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

ในหลักสูตรออนไลน์ภาษาอังกฤษฟรี 11 ชั่วโมง Techman Robot จะนำผู้เรียนไปสำรวจฟังก์ชันและการใช้งานขั้นพื้นฐานของ AI และช่วยให้ผู้เรียนได้ทำความรู้จักกับฟังก์ชันหลักของ AI สองรายการ นั่นคือ การจัดหมวดหมู่และการตรวจจับ หลักสูตรนี้ยังแสดงการลงมือปฏิบัติจริงเอาไว้มากมาย โดยผู้เรียนจะได้รับคำแนะนำให้รวบรวมตัวอย่างการใช้งานของตนเองผ่านแพลตฟอร์ม TM AI+ ของ Techman Robot แล้วสร้างโครงการฝึกอบรม AI ซึ่งจะใช้เพื่อคาดการณ์การใช้งานด้าน AI เมื่อสิ้นสุดการบรรยาย

การรับรองแบบคู่ขนานเพื่อยกระดับด้านอาชีพ
เข้าร่วมกับเราไม่ว่าคุณจะอยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมหรือสถาบันการศึกษา
ผู้เข้าร่วมหลักสูตรอย่างน้อย 80% ของเวลาเรียนในชั้น จะได้รับประกาศนียบัตรจบการอบรมหลักสูตร 11 ชั่วโมงของ SEA Taiwan AI College ส่วนผู้ที่เรียนจนจบตลอดหลักสูตรและผ่านการฝึกอบรมด้าน AI ของ Techman Robot แล้วจะได้รับประกาศนียบัตร TM AI+ อีกฉบับ และจะได้รับการพิจารณาให้เข้าฝึกงานหรือโอกาสเข้าทำงานที่สำนักงานใหญ่ของ Techman Robot ในไต้หวัน รวมถึงเปิดโอกาสเพื่อรับการพิจารณาให้เป็นผู้จัดจำหน่ายของ Techman Robot ในต่างประเทศด้วย

หลักสูตรออนไลน์ทั้งหมดของ SEA Taiwan AI College เปิดให้ผู้สนใจสมัครได้ฟรี โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานวิชาชีพด้านคณิตศาสตร์หรืออัลกอริทึมเพื่อเข้าร่วมหลักสูตร โดยเปิดรับจำนวนจำกัด สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมได้แล้วตอนนี้ ที่ลิงก์: https://staic.tca.org.tw/


Techman Robot to Provide Free AI Courses in Southeast Asia


To tackle the challenges brought by the COVID-19 pandemic, the manufacturing industry really has to step up and transform by adopting more standardized, automated and intelligent solutions. Artificial intelligence, AI is undoubtedly the key technology here. That is why the SEA (Southeast Asia) Taiwan AI College is turning the AI manufacturing experiences from leading ICT companies, Techman Robot, into free-of-charge online courses. It will not only train important AI talents in the academia and industry in Southeast Asia, but also help with the digital transformation needs of Taiwanese companies there.

Kick Off the AI Course with the World's Second Largest Collaborative Robot Company: Experience the Use of AI and Robots
AI-enabled collaborative robots play an important role in making AI solutions more widespread in the world. Techman Robot, which is going to start its classes in July,not only is the second largest collaborative robot brand in the world, but also blazes a trail in combining AI vision with built-in machine vision in manufacturing.

TM AI + is the industry's first integration of traditional machine and advanced AI vision in a single robotic system. Without the need of additional controllers, time and money required in past integration have been considerably reduced. The built-in machine vision of Robots integrates with light, industrial cameras and sensing elements to capture images. The deep learning technology of AI is also combined in order to accurately sense the shape, type and color of an object as a means to further enhance the inspection efficiency and difficulty in automated production, improving the quality inspection and accuracy in different industries.

In its 11-hour free English online course, Techman Robot will lead the students to explore the basic functions and applications of AI, and help them get to know the two major functions of AI: classification and detection. The course is nothing short of plenty of hands-on practices. Students will be instructed to gather their own samples through the Techman Robot's TM AI+ platform and create an AI training project, and use it to execute an AI prediction at the end of the lectures.

Dual Certification to Take Your Career to the Next Level
Join Us Whether You're from Industry or Schools
Participants who finish up at least 80% of the classes will be awarded the certificate of the SEA Taiwan AI College's very first eleven-hour course. Those who complete the course and pass the Techman Robot's AI training exercise will have another TM AI+ certificate, and be given the priority of getting an internship or job offer at Techman Robot's Taiwan headquarters. They also have a chance to be the top candidates of becoming one of Techman Robot's overseas distributors.

All the SEA Taiwan AI College online courses are open to whoever's interested for free. You are not required to have professional background knowledge of mathematics or algorithms to join the course. Enrollment is limited, so apply right now.Please find the link here: https://staic.tca.org.tw/

Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1552574/20210514163818.jpg


MoEngage Report Reinforces Positive Effects of Behavior-Based Personalization and Insights-led Customer Engagement

Insights from 6.6M digital consumers identifies trends and opportunities for digital and mobile engagement across key industries in Southeast Asia

MoEngage, the leading consumer engagement platform, announces today the findings from its 2021 Southeast Asia Consumer Engagement Benchmark Report. The report comprises data from 6.6 million users across Southeast Asia, primarily from Indonesia, Singapore, Malaysia, Philippines, Thailand and Vietnam and drills down into key trends and opportunities in the region.

In this report, MoEngage analyzes consumer behavior specifically across three dominant industry sectors - retail, banking and finance, and digital entertainment. Looking at how consumers have engaged with and responded to various communications channels, this report presents benchmarks, strategies and tactics to help marketers scale personalized customer engagement.

From January to April 2021, MoEngage looked at four communications channels across the three named sectors: push notifications, email, in-app messages and website messages. Notable findings include:

- In Southeast Asia, Daily Active Users (DAUs) of eCommerce, Retail and D2C brands increased by 13.36% in the first four months of 2021. When studying the Monthly Active User (MAU) trends of the same brands, web MAUs had increased the highest (by 8.7%) compared to mobile. This is likely due to pandemic movement restrictions and shoppers working from home, as opposed to shopping via mobile on the go

- Push notifications using behavioral attributes with an added layer of personalization from shopping brands saw deliverability of up to 85.67% and campaign conversions increased to over 27%

- A meteoric increase of 54.9% in the number of DAUs across all digital banking, fintech, P2P lending, insurance and crypto platforms during the first four months of 2021

- Behavior-based emails saw better click-through rates and conversion across all industries as compared to the generic ones: open rates of emails from shopping brands went up to 28.17% and the 0.5% of emails that were behavior-based in the digital entertainment sector saw a 2.4x better click rate, while in banking, behavior-based emails boosted conversions by 2.72x compared to generic broadcasts

- Digital media and entertainment brands using custom user segments based on behavioral and user attributes to send in-app messages to Android users saw a 2x increase in click through rates and conversion rate of up to 50.05% as compared to sending the same message to all users

Overall, the findings demonstrate the importance of closely analyzing consumer behavior across every critical channel and developing both proactive and reactive outreach in association with these insights. Laser-focus on this establishes customer-centricity, ensuring that brands meet and exceed the expectations of their customers and boost long-term loyalty and repeat business.

"MoEngage is committed to helping our clients improve business performance through effective use of data, and well as supporting the success of the entire digital marketing and advertising ecosystem as a whole by sharing our insights with the community," said Saurabh Madan, GM, SEA & A/NZ at MoEngage. "Consumer behavior in Southeast Asia has changed rapidly over the last year, and digital adoption across industries has accelerated during the pandemic period. We're pleased to provide organizations globally with a holistic view of how their current and prospective customers are behaving and guide them through their insights-led customer engagement and business growth journey."

The data analyzed for the MoEngage Southeast Asia Consumer Engagement Benchmark Report 2021 is completely proprietary and comes from the millions of users in Southeast Asia engaged by organizations using the MoEngage platform. In addition to the findings from the data, the report also includes insights and actionable tips from leading brands including Zilingo, Kredivo, Homecredit Philippines, Marks & Spencer, OVO and more. The full report can be found at https://www.moengage.com/industry-reports/customer-engagement-benchmarks-kpis-metrics-2021-southeast-asia/?utm_campaign=seaengagementreport2021&utm_source=prwire&utm_medium=paid&utm_content=seaengagementreport2021

About MoEngage

MoEngage is an insights-led engagement platform built for customer-obsessed marketers and product owners, enabling hyper-personalization at scale across multiple channels. With AI-powered automation and optimization, brands can analyze audience behavior and engage consumers at every point of their purchasing journey. Over 1,000 brands such as CIMB bank, JD.ID, Telecom Malaysia, Blibli, Alodokter, Bigbasket, Flipkart, McAfee, Deutsche telecom and more across 35 countries use MoEngage to send 50 billion messages to 500 million consumers every month. MoEngage has been recognized as a leader in its space by Gartner, Forrester and G2. With offices in nine countries, MoEngage is backed by investors including Eight Roads, F-Prime Capital, Matrix Partners, Helion Ventures, Exfinity Ventures and Venture East. To learn more, visit www.moengage.com.


หมู่เกาะเกรเนดาได้รับฉายา "Culinary Capital" เป็นแห่งแรกของโลก


สมาคม World Food Travel Association (WFTA) ประกาศว่า ทางองค์กรได้แต่งตั้งให้หมู่เกาะเกรเนดา (Greneda) และหมู่เกาะพี่น้องอย่างกาเรียกู (Carriacou) และเปอร์ติต มาร์ตีนิก (Petite Martinique) เป็น "Culinary Capital" หรือเมืองหลวงแห่งการทำอาหารแห่งแรกของโลก ซึ่ง Culinary Capitals เป็นโครงการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่จัดทำโดย WFTA เพื่อให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมการทำอาหารทั่วโลก ในขณะที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวหลังจากต้องหยุดชะงักไปนาน

Kirl Grant-Hoschialek รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารของการท่องเที่ยวแห่งเกรเนดา (Grenada Tourism Authority หรือ GTA) กล่าวว่า "การรับรองจุดหมายปลายทางในฐานะ Culinary Capitals โดยสมาคม World Food Travel Association เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สำหรับเกรเนดา เราเป็นที่รู้จักทั่วโลกในฐานะ Spice of the Caribbean หรือเครื่องเทศแห่งแคริบเบียน ดังนั้นจึงเหมาะสมแล้วที่เราได้เป็นเกาะแห่งแรกในแคริบเบียนที่ได้รับตำแหน่งนี้ และแน่นอนว่า การแต่งตั้งครั้งนี้จะดึงดูดนักเดินทางผู้มีวิสัยทัศน์ที่ต้องการสำรวจความเชื่อมโยงระหว่างอาหารและวัฒนธรรม รวมถึงผู้ที่ต้องการที่จะมั่นใจได้ว่า อาหารทุกจานที่ลิ้มรสในช่วงวันหยุดจะมีรสชาติที่น่าทึ่ง!"

การผสมผสานเครื่องเทศเข้ากับอาหารของเกรเนดาก่อให้เกิดอาหารประจำชาติที่มีรสชาติชัดเจนและจัดจ้าน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าชาวเกรเนเดียนมีรสนิยมและไหวพริบในการทำอาหารรสเลิศ ตั้งแต่ร้านอาหารระดับภัตตาคารไปจนถึงร้านอาหารริมชายหาดสบายๆ หรือแม้แต่อาหารข้างทาง ทั้งนี้ หมู่เกาะต่างๆ ล้วนเป็น Culinary Capital ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และมีสินทรัพย์ด้านการทำอาหารที่โดดเด่นมากมายที่จะนำมาแสดง ตัวอย่างเช่น ประเพณีซารากะ (Saraka), อาหารประจำชาติ "Oil down", ช็อคโกแลต, ไอศกรีมลูกจันทน์เทศ, เหล้ารัมที่ทำด้วยมือ ตลอดจนการใช้เครื่องเทศมากมายบนเกาะ ทั้งสำหรับทำอาหารและเพื่อการแพทย์และสุขภาพ

เมื่อวัฒนธรรมการทำอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของเกรเนดาได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการแล้ว หน่วยงาน GTA จึงได้ตั้งเป้าที่จะทำการตลาดสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับ "นักเดินทางสายกิน" และพัฒนาบริการท่องเที่ยวด้านอาหารของเกาะต่อไป และทำให้เกรเนดาเป็นหมุดหมายของผู้บริโภคที่เดินทางเพื่อสัมผัสประสบการณ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์และน่าจดจำ

Erik Wolf กรรมการบริหารของสมาคม World Food Travel Association ซึ่งเป็นหน่วยงานชั้นนำของโลกด้านการท่องเที่ยวด้านอาหารและเครื่องดื่มกล่าวว่า "จุดหมายปลายทางขนาดเล็กอย่างเกรเนดาต้องการความได้เปรียบทางการแข่งขันทุกประการ และนั่นคือสิ่งที่ Culinary Capitals มอบให้ นักเดินทางที่รักการกินกำลังเพิ่มจุดหมายที่คล้ายกับเกรเนดาลงในลิสต์ของพวกเขาตอนนี้ และเรารอคอยอย่างใจจดจ่อถึงวันที่พวกเขาจะออกเดินทางอีกครั้ง"

โครงการ Culinary Capitals รับรองจุดหมายปลายทางที่มีสิทธิ์ผ่านขั้นตอนการสมัครที่เข้มงวด ซึ่งโครงการนี้เป็นมากกว่าแค่การได้รับการยอมรับ เนื่องจากจุดหมายปลายทางที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการสนับสนุนด้านการตลาดและกลยุทธ์ในปีหน้าในขณะที่พวกเขานำฉายาใหม่ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในความพยายามด้านตลาดของสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนี้ สำหรับนักเดินทางที่รักการทานอาหารและเครื่องดื่ม การแต่งตั้งตำแหน่ง Culinary Capitals จะมอบทางเลือกใหม่ๆ ของจุดหมายที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนให้กับพวกเขา ซึ่งตรงกับสิ่งที่นักเดินทางแสวงหาหลังเกิดโรคระบาด

จุดหมายปลายทางที่สนใจสามารถติดต่อ WFTA เกี่ยวกับการเป็น Culinary Capital ที่ได้รับการรับรอง

เกี่ยวกับ GRENADA   เกรเนดาประกอบด้วย 3 หมู่เกาะในหนึ่งจุดหมายปลายทางที่มีเอกลักษณ์ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้สุดของแคริบเบียน ผู้มาเยือนทุกคนจะเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์เกรเนดาอันบริสุทธิ์ที่แสนพิเศษและปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับความต้องการได้อย่างราบรื่น ด้วยหาดทรายขาวระดับโลก 50 แห่ง, น้ำตกตระการตา 15 แห่ง, เส้นทางเดินป่านับไม่ถ้วน และจุดดำน้ำที่ติดตาตรึงใจ 60 แห่ง รวมถึงซากเรืออับปางที่ใหญ่ที่สุดในทะเลแคริบเบียน และสวนประติมากรรมใต้น้ำแห่งแรกของโลก ตลอดจนเสน่ห์ที่ไม่มีใครเทียบ รวมถึงการต้อนรับที่อบอุ่นและเป็นกันเอง

เกี่ยวกับ  WORLD FOOD TRAVEL ASSOCIATION (WFTA)

WFTA เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2544 โดย Erik Wolf ผู้อำนวยการคนปัจจุบัน WFTA ได้รับการยอมรับว่าเป็นหน่วยงานชั้นนำของโลกในด้านอาหารและเครื่องดื่ม (การท่องเที่ยวเชิงอาหารและการท่องเที่ยวเพื่อสำรวจศาสตร์การทำอาหาร) ด้วยพันธกิจในการอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมการทำอาหารผ่านงานบริการและการท่องเที่ยว โดยในทุกๆ ปี ทางองค์กรให้บริการแก่บุคลากรในสายงานเกือบ 200,000 คนในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก

สื่อมวลชนติดต่อ: Erik Wolf, โทร. (+44) 7827 582 554, อีเมล: help@worldfoodtravel.org


Xu Ziyang ซีอีโอ ZTE ขึ้นเวทีกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ "ขับเคลื่อนการก้าวสู่ดิจิทัล สร้างความอัจฉริยะ"

                    


การกล่าวสุนทรพจน์หลักในงาน Mobile World Congress 2021

ZTE Corporation (0763.HK / 000063.SZ) ผู้ให้บริการรายใหญ่ระดับโลกด้านโซลูชันโทรคมนาคมและเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตมือถือสำหรับองค์กรและผู้บริโภค ประกาศวันนี้ว่า Xu Ziyang ผู้เป็นซีอีโอของบริษัท ได้กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ "Fuel the Digitalization, Endow with Intelligence" (ขับเคลื่อนการก้าวสู่ดิจิทัล สร้างความอัจฉริยะ) ในพิธีเปิดงาน Mobile World Congress 2021

ในการนี้ คุณ Xu Ziyang เปิดเผยว่า การประยุกต์ใช้งาน 5G ด้วยการใช้เครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์ระดับใหญ่ ได้เข้าสู่ช่วงของการพัฒนาแบบแบ่งย่อย (iterative development) แม้ว่าจะมีความท้าทายที่ต้องรับมือ อย่างเช่นการก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและโมเดลธุรกิจ ทิศทางของนวัตกรรมในด้านนี้เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยการทำงานกับคู่ค้าในอุตสาหกรรมและในระบบนิเวศเป็นระยะเวลากว่าสองปี ZTE ได้พัฒนาทิศทางนวัตกรรมการประยุกต์ใช้งานที่สำคัญสามประการ ตลอดจนรากฐานของการส่งเสริมเชิงดิจิทัล

ทั้งสามทิศทางของนวัตกรรมในการใช้งาน 5G ดังกล่าว ประกอบด้วย การส่งเสริมคนแต่ละคนด้วย 5G เพื่อขยายพรมแดนของการสัมผัสและสร้างความเป็นไปได้ที่ไม่จำกัด การส่งเสริมกลุ่มเป้าหมายด้วย 5G เพื่อปิดช่องว่างดิจิทัล และการส่งเสริมอุตสาหกรรมด้วย 5G เพื่อสนับสนุนการปฏิวัติทางอุตสาหกรรม

ในขณะเดียวกัน รากฐานของการส่งเสริมเชิงดิจิทัลได้บรรลุความสำเร็จในด้าน "บรอดแบนด์ที่มีอยู่ทุกที่" "ระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในทุกหนทุกแห่ง" "การหลอมรวมหลายมิติ" และ "การประหยัดพลังงานที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม" จึงช่วยให้เกิดปฏิสัมพันธ์ในการใช้งานแบบเรียลไทม์ที่คล่องตัวและเป็นไปในเชิงนวัตกรรม ตลอดจนทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ทรัพยากรและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

บริษัทยังยินดีที่จะเปิดให้ทั้งอุตสาหกรรมและคู่ค้าในระบบนิเวศสามารถเข้าถึงสมรรถนะเหล่านี้ เพื่อสร้างอนาคตที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน

สุนทรพจน์ของคุณ Xu Ziyang มีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สวัสดียามเช้า ยามบ่าย และยามเย็น ท่านแขกผู้มีเกียรติ ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทุกท่านครับ

ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ผมได้เข้าร่วมงาน MWC Barcelona 2021 ทางออนไลน์ ซึ่งเป็นรูปแบบที่แตกต่างจากที่เราคุ้นเคย ในการนี้ ผมจะนำเสนอแนวคิด 'ขับเคลื่อนการก้าวสู่ดิจิทัล สร้างความอัจฉริยะ' (Fuel the Digitalization, Endow with Intelligence) ร่วมกับคู่ค้าของเราในระบบนิเวศ โดยมุ่งหาหนทางในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและระบบอัจฉริยะของสังคมมนุษย์ด้วยการเสริมสร้างรากฐานดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง

อย่างที่พวกคุณหลายคนคงทราบดี นับเป็นเวลาสองปีแล้วตั้งแต่การเปิดตัว 5G เป็นครั้งแรก จนถึงปัจจุบันนี้ สถานีฐาน 5G กว่า 1.1 ล้านแห่งดำเนินการอยู่ทั่วโลก 5G ไม่เพียงแต่ยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้น แต่ยังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลและระบบอัจฉริยะในตลาดแนวดิ่ง ที่เราเห็นอยู่นี้คือฐานการผลิต 5G อัจฉริยะของ ZTE ในหนานจิง ซึ่งมีการผลิตสถานี 5G ห้าแห่งในทุก ๆ นาที ก่อนที่จะส่งไปทั่วโลก ถือเป็นตัวอย่างที่ดีมากของการดำเนินการของเราตามแนวคิด 'การผลิตอัจฉริยะด้วย 5G' (Intelligent Manufacturing Powered by 5G) ในฐานการผลิตแห่งนี้ ด้วยเครือข่าย 5G ที่ครอบคลุมอย่างทั่วถึงและการใช้งานระบบ MEC เราได้ดำเนินการประยุกต์ใช้ 5G แบบทั่วไปจำนวน 10 วิธีซึ่งจำเป็นต่อการสร้างระบบการผลิตอัจฉริยะ ประกอบด้วย AGV ระบบคลาวด์, ระบบตรวจสอบคุณภาพการผลิต (machine vision) ความคมชัดระดับ 8K, PLC ระบบคลาวด์, พื้นที่จัดเก็บอัจฉริยะ, อุปกรณ์เทคโนโลยีแบบสวมใส่เชิงอุตสาหกรรม การทำสำเนาฝาแฝดดิจิทัล และการตรวจสอบ ณ สถานที่จริง ตัวเลขที่เกิดขึ้นมีแนวโน้มในเชิงบวก โดยใช้กำลังคนลดลง 40% อัตราการเกิดความสูญเสียจากงานเสียลดลง 20% และวงจรการผลิตลดลง 30% ขณะที่ประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มขึ้น 40%

ยิ่งไปกว่านั้น เราพร้อมทั้งผู้ดำเนินการกว่า 90 รายและคู่ค้ากว่า 500 รายทั่วโลก ได้สำรวจการประยุกต์ใช้งาน 5G เชิงนวัตกรรมในขอบเขตที่ครอบคลุมกว้างขวาง และได้พัฒนากรณีการใช้งานระบบจำนวนมากในกว่า 15 อุตสาหกรรมซึ่งมีผลลัพธ์เชิงบวก เรายินดีที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ด้วย 5G และได้เห็นการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น ๆ อีกมากมายในโรงงานในประเทศไทย ท่าเรือในเบลเยียม ฟาร์มในออสเตรีย ตลอดจนการผลิต การคมนาคมขนส่ง ระบบโครงข่ายไฟฟ้า และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในจีน

แม้การใช้งาน 5G จะยังอยู่ในขั้นแรก แต่ขณะนี้เราก็มองเห็นทิศทางที่เป็นไปได้อยู่บ้าง สิ่งแรกที่ผมนึกออกคือการขยายพรมแดนการสัมผัสและการสร้างความเป็นไปได้ที่ไม่จำกัดให้แก่คนแต่ละคน ในปัจจุบันพรมแดนระหว่างโลกดิจิทัลกับโลกกายภาพเริ่มพร่าเลื่อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเครือข่ายและบริการคลาวด์ใหม่ ๆ บ้านอัจฉริยะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น การสวมแว่น AR/VR ทำให้เราสามารถดื่มด่ำประสบการณ์เสมือนจริงในการเดินทาง การเล่นเกม การแข่งกีฬา และการชมคอนเสิร์ตได้จากที่บ้านของตัวเอง ด้วยการใช้งานโดรน เราสามารถขยายทัศนวิสัยของเรา นอกจากนี้การประยุกต์ใช้แบบอัตโนมัติ อย่างเช่น การขับขี่อัตโนมัติ แมชชีนวิชัน การทำเหมืองแร่โดยไม่ใช้มนุษย์ และหุ่นยนต์กู้ภัย ยังทำให้ทรัพย์สินและชีวิตของเราได้รับการคุ้มครองอย่างดียิ่งขึ้น

ประการที่สอง คือเพื่อปิดช่องว่างดิจิทัล โดยมุ่งบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในโลก ตัวอย่างเช่น การแพทย์ทางไกลโดยใช้ 5G ช่วยให้แพทย์และผู้เชี่ยวชาญสามารถวินิจฉัยผู้ป่วยได้จากทางไกล ทำให้ทรัพยากรการแพทย์คุณภาพสูงสามารถเข้าถึงได้อย่างทันที นักข่าวสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ต่อหน้ากันโดยใช้เทคโนโลยีโฮโลแกรม การเรียนระยะไกลช่วยสร้างโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมกันสำหรับภูมิภาคต่าง ๆ ที่อยู่ต่างขั้นของการพัฒนา 5G FWA ช่วยให้เกิดการให้บริการบรอดแบนด์ในบางพื้นที่ที่มีโครงสร้างพื้นฐานจำกัด ผู้คนสามารถทำงานได้จากที่บ้านอย่างมีอิสระและมีประสิทธิผลเช่นเดียวกับอยู่ในสำนักงาน และด้วยเทคโนโลยี 5G จากห้วงอากาศสู่พื้นดิน หรือ 5G Air-To-Ground ผู้โดยสารสามารถใช้บริการการเชื่อมต่อระหว่างอยู่บนเครื่องบินได้อย่างราบรื่นเหมือนกับเวลาอยู่บนพื้นดิน อย่างที่เห็น 5G ช่วยลดระยะทางระหว่างผู้คนและช่วยพาหัวใจให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่สังคมที่มีความสมานฉันท์ยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ เพื่อให้สอดรับกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคใหม่ เราได้พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเร่งการพัฒนาทางสังคม ตัวอย่างเช่น โรงงานอัจฉริยะเป็นการก้าวกระโดดจากการผลิตแบบดั้งเดิม ซึ่งช่วยลดต้นทุนขณะที่เพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพ  โครงสร้างพื้นฐานการจราจรอัจฉริยะเอื้อต่อการปล่อยก๊าซคาร์บอนในระดับที่ต่ำและการคมนาคมที่มีประสิทธิผลยิ่งขึ้น 5G ช่วยสร้างโครงข่ายไฟฟ้าฉัจฉริยะที่เชื่อถือได้ ปลอดภัย ประหยัด มีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้งานการเชื่อมต่อความหน่วงต่ำและต้นทุนต่ำในการครอบคลุมที่กว้างขวางซึ่งช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน 5G ทำให้การบริหารจัดการอัจฉริยะเกิดขึ้นได้จริงในด้านเกษตรกรรม และ 5G ยังช่วยยกระดับสภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตของเราด้วยคุณภาพของน้ำและอากาศที่ดีขึ้น จึงเป็นการส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน

แน่นอนว่าการประยุกต์ใช้งานเชิงนวัตกรรมที่เรามีในวันนี้ยังจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาต่อไปด้วยการประหยัดต่อขนาดและโมเดลธุรกิจ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องคำนึงถึงสิ่งสำคัญในระดับพื้นฐาน ได้แก่การมีแพลตฟอร์มส่งเสริมดิจิทัล

อย่างที่หลายคนทราบดีอยู่แล้ว 'การขับเคลื่อนด้วยข้อมูล' เป็นกุญแจสำคัญสู่การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลขององค์กรแนวดิ่งหลายแสนแห่ง ผลที่เกิดขึ้นคือการมุ่งเน้นคอมพิวเตอร์ได้มีวิวัฒนาการเป็นการมุ่งเน้นข้อมูล ด้วยความเข้าใจเช่นนี้ รากฐานเชิงดิจิทัลซึ่งมีบทบาทสำคัญจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในแง่ของการเป็น 'บรอดแบนด์ที่มีอยู่ทุกที่' 'ระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในทุกหนทุกแห่ง' และ 'การหลอมรวมหลายมิติ' นอกจากนี้ ยังจะมีการขยายตลาดใหม่หลายแห่งและมุ่งสู่ความยั่งยืนทางธุรกิจ

เราเชื่อว่าสมรรถนะของเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นจะช่วยส่งเสริมเครือข่ายในสามด้าน ได้แก่ แบนด์วิดท์ ความคล่องตัว และการจัดการตารางเวลา

ในแง่ของการขยายแบนด์วิดท์ สิ่งสำคัญที่ควรพูดถึงคือการปรับปรุง 5G uplink และการเข้าถึงแบบ gigabit optical สำหรับบรอดแบนด์ที่เชื่อมต่อแบบใช้สาย

ในแง่ของความคล่องตัวของเครือข่าย SRv6 ทำให้เครือช่าย IP มีความยืดหยุ่นและตั้งค่าโปรแกรมได้ สมรรถนะ VPN จาก FlexE และการจัดสรรเครือข่ายแบบ hard slicing ตอบโจทย์ความต้องการความหน่วงต่ำ ความล่าช้าในการรับข้อมูลต่ำ ความเชื่อถือได้สูงพิเศษ และการแยกตัวอย่างปลอดภัย เครือข่ายนำแสงได้ยกระดับ mesh ขึ้นไปอีกขั้นของวิวัฒนาการ ซึ่งช่วยเพิ่มสมรรถนะ ลดความหน่วง และเพิ่ม redundancy แกนหลักที่อยู่ในระบบคลาวด์ช่วยรองรับการใช้งานและปฏิบัติการให้เป็นไปอย่างยืดหยุ่นและคล่องตัวยิ่งขึ้น

เราใช้การบริหารจัดการทรัพยากร การแยกระหว่าง control กับ forwarding การจัดสรรเครือข่ายอัตโนมัติแบบครบวงจร การจัดเตรียมอัตโนมัติภายในไม่กี่นาที และการดำเนินการจัดสรรเครือข่ายที่ยืดหยุ่นได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการดำเนินการ

ข้อมูลเพิ่มสูงขึ้นทั้งในแง่ของปริมาณและความหลากหลายในยุค AIoT ในขณะเดียวกัน การประมวลผลข้อมูลก็ซับซ้อนยิ่งขึ้นเมื่อมีปัญญาประดิษฐ์ ตัวอย่างเช่น อัลกอริทึมการเรียนรู้อัตโนมัติแบบ deep learning ในแง่นี้ สมรรถนะคอมพิวเตอร์แบบรวมศูนย์ไม่สามารถสร้างความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดได้อีกต่อไป ในทางตรงกันข้าม การประสาน cloud-edge-terminal ถูกมองว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาดังกล่าวแบบครอบจักรวาล สมรรถนะที่แตกต่างกันระหว่าง cloud, edge และ terminal และการยกระดับให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และชิปเซ็ต ทำให้ hyper-convergence ที่มีลักษณะ load-sensitive ได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานที่จะทำให้เกิดความสามารถในการขยายตัว ความคล่องตัว และการพัฒนาที่รวดเร็ว

ในเรื่องนี้ผมต้องพูดถึงคำสำคัญ ประกอบด้วย การบรรจบกันของคลาวด์และเครือข่าย การบรรจบกันของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ไปจนถึงการบรรจบกันของ AI เช่นเดียวกับระบบรักษาความปลอดภัยภายในอย่างแท้จริง

เหนือสิ่งอื่นใด เราต้องการระบบคลาวด์แบบออนดีมานด์ และการทำงานแบบประสานกันของเครือข่ายกับคลาวด์ เพื่อให้สอดรับกับความหลากหลาย แนวทางที่เราได้ดำเนินการเมื่อปีที่แล้ว 'โซลูชั่นคลาวด์และเครือข่ายแม่นยำ' (Precise Cloud and Network Solution) เป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงพลังของการให้บริการองค์กรแนวดิ่งและเร่งการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล

นอกจากนี้ การหลอมรวมซอฟต์แวร์กับฮาร์ดแวร์ยังช่วยเสริมสร้างทักษะของเราในการทำตามธรรมชาติของธุรกิจและบรรลุประสิทธิภาพด้านต้นทุน ซอฟต์แวร์มุ่งสำหรับการทำงานแบบ microservice การรองรับการประมวลผลในระบบคลาวด์และองค์ประกอบของคลาวด์ ขณะที่ฮาร์ดแวร์มุ่งให้เกิดสมรรถนะสูงสุด เราสามารถทลายเส้นแบ่งระหว่างทั้งสองสิ่งนี้ด้วยการดำเนินกระบวนการยกระดับประสิทธิภาพร่วมกันระดับโลก ซึ่งมุ่งสำหรับรูปแบบของสถานการณ์การใช้งานที่เฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น เราจะได้เห็นทางเลือกการเร่งสู่ดิจิทัลที่ครอบคลุมมากขึ้น ตลอดจนได้เห็นนวัตกรรมชิปเล็ต (chiplet) ที่เพิ่มมากขึ้น

ในแง่ของปัญญาประดิษฐ์ ต้องมุ่งใช้มูลค่าของข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุด บิ๊กดาต้าและการหลอมรวมปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้ training model รองรับการทำงานประสานกันข้ามโดเมนระหว่างระบบและ node ต่าง ๆ จึงช่วยให้การทำงานประสานกันจากศูนย์ข้อมูลไปยังจุดเชื่อมต่อทางวิทยุ (radio interface) เป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น และช่วยให้การปฏิบัติการและการซ่อมบำรุงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ความปลอดภัยภายในอย่างแท้จริงทำหน้าที่เป็นเหมือนระบบภูมิคุ้มกันสำหรับเครือข่ายที่มีสัมผัสของตัวเองและมีการปรับตัวและวิวัฒนาการอยู่เสมอ ระบบความปลอดภัยนี้สร้างขึ้นในระหว่างขั้นตอนการก่อสร้างเครือข่าย และมีฟังก์ชันการรักษาความปลอดภัยที่หลากหลาย ตลอดจนสามารถพัฒนาได้โดยอัตโนมัติระหว่างการทำงานของเครือข่าย จึงรับประกันได้อยู่เสมอในเรื่องความปลอดภัย บริการ และข้อมูล

นอกจากนี้ จากข้อมูลของ GSMA อุตสาหกรรมโทรคมนาคมเคลื่อนที่มีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นสัดส่วน 0.4% ของทั้งโลก การลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนถือเป็นเป้าหมายร่วมกันของทั้งอุตสาหกรรม เพื่อสร้างเครือข่ายสีเขียวที่ใช้พลังงานน้อยลง ZTE มุ่งผลักดันให้เกิดการใช้มาตรการที่เหมาะสมตลอดทั้งวงจรชีวิตของเครือข่าย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้วยอินเทอร์เน็ต 5G สำหรับอุตสาหกรรม (5G Industrial Internet), MEC และ AI การผลิตแบบอัจฉริยะอย่างมีประสิทธิภาพสามารถเกิดขึ้นได้โดยมีการบริโภคพลังงานน้อยลง สำหรับนวัตกรรมในสถานีฐาน เราสามารถปรับปรุงการออกแบบชิปเซ็ต ตัวขยายสัญญาณ (power amplifier) และการบูรณาการระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ในระหว่างการก่อสร้างเครือข่ายยังสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ด้วยการใช้พลังงานสะอาดและแหล่งพลังงานสำรองประสิทธิภาพสูงสำหรับสถานีฐาน ตลอดจนเทคโนโลยีการกระจายความร้อนสำหรับศูนย์ข้อมูล อย่างเช่น การออกแบบโมดูลที่กำหนดไว้แล้วและเทคโนโลยีการระบายความร้อนด้วยของเหลว ขณะที่ระหว่างการทำงานของเครือข่ายสามารถใช้โซลูชันอย่างเช่น PowerPilot เพื่อจัดการ traffic แบบอัจฉริยะโดยใช้อัลกอริทึม จึงช่วยลดการบริโภคพลังงานพร้อมทั้งมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดี

ด้วยมาตรการเช่นนี้ตลอดทั้งวงจรชีวิตของเครือข่าย เราสามารถช่วยผู้ปฏิบัติในการสร้างเครือข่ายสีเขียวได้อย่างมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น

แม้ 5G จะถูกนำมาใช้งานเชิงพาณิชย์มาเป็นเวลากว่าสองปีแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในขั้นแรก เพื่อให้เกิดความสำเร็จเชิงพาณิชย์นั้น เราควรร่วมมือกันเพื่อพัฒนาระบบนิเวศและโมเดลธุรกิจ ZTE มีพันธกิจในการพัฒนาอุตสาหกรรมและระบบนิเวศ โดยมีประสบการณ์อย่างลึกซึ้งในเทคโนโลยีที่เป็นแกนหลัก ผลิตภัณฑ์และโซลูชัน E2E DICT องค์ประกอบคลาวด์ และนวัตกรรม 5G เรายินดีที่จะทำให้สมรรถนะเหล่านี้เข้าถึงได้โดยคู่ค้าทั้งหมดในอุตสาหกรรมและในระบบนิเวศ ผมตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าเทรนด์นี้จะพาเราไปในทิศทางใด ขอเราจงมาร่วมมือกันเพื่อสร้างอนาคตที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์แบบวินวิน

ขอบคุณครับ

สื่อมวลชนติดต่อ:

Margaret Ma  
ZTE Corporation  
โทร: +86 755 26775189  
อีเมล: ma.gaili@zte.com.cn

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1553643/CEO.jpg


Grenada, The Spice of the Caribbean, Named World's First "Culinary Capital"

Today the World Food Travel Association (WFTA) announced that it has just named Grenada and sister islands Carriacou, and Petite Martinique, as the world's first "Culinary Capital." Culinary Capitals is a regenerative tourism program devised by the WFTA to put the spotlight on culinary cultures around the world as the tourism industry begins to recover after its long hiatus.

Kirl Grant-Hoschtialek, Acting CEO of the Grenada Tourism Authority (GTA), said that "the Culinary Capitals destination accreditation by the World Food Travel Association is a huge achievement for Grenada.  We are known around the world as the Spice of the Caribbean, so it is fitting that we are the first Caribbean island to earn this designation.  This will undoubtedly attract discerning travelers who want to explore the link between food and culture, and who want to ensure that every dish they have on their vacation tastes amazing!"

The integration of spices into Grenada's cuisine has resulted in an overall robust and flavourful national food profile.  From fine dining to casual beachside restaurants and even street food, it is undeniable that Grenadians have a taste and flair for delicious food.  The islands are perfectly positioned as a Culinary Capital, with their many distinctive culinary assets to showcase. Examples include the tradition of saraka, the national dish 'oil down', chocolate, nutmeg ice cream, handcrafted rums, and of course, the many uses of the spices on the island - both in food and for medicinal and wellness purposes.

Now that Grenada's unique culinary culture is officially recognized, the GTA is set to market the destination to "foodie travelers" and further develop the island's food tourism offerings and put Grenada on the map for consumers who travel for unique and memorable food and beverage experiences.

Erik Wolf, Executive Director of the World Food Travel Association, the world's leading authority on food and beverage tourism, said that "Smaller destinations like Grenada need every competitive advantage, and that is what Culinary Capitals provides. Savvy food-loving travelers are adding destinations like Grenada to their bucket lists right now, eagerly waiting for when they can travel again."

The Culinary Capitals program accredits eligible destinations through a rigorous application process. The program is about much more than just earning recognition. Successful destinations also receive marketing and strategy support for the coming year, as they put their new moniker to good use in their destination marketing efforts. And for food- and beverage-loving travelers, Culinary Capitals designation gives them new choices with under-visited destinations, which is exactly what travelers now seek post-pandemic.

Interested destinations can contact the WFTA about becoming an accredited Culinary Capital.

ABOUT GRENADA Grenada comprises three islands in one unique destination located in the Caribbean's southernmost region. With 50 world-class white sand beaches, 15 breathtaking waterfalls, countless hiking trails, and 60 unforgettable dive sites including the largest shipwreck in the Caribbean and the world's first Underwater Sculpture Park as well as offering unmatched charm, warm and friendly hospitality, each visitor enjoys a seamlessly tailored beyond-the-ordinary Pure Grenada experience.

ABOUT THE WORLD FOOD TRAVEL ASSOCIATION  (WFTA)

The WFTA is a non-profit organization that was founded in 2001 by Erik Wolf, its current Executive Director. It is recognized as the world's leading authority on food and beverage tourism (a.k.a. culinary tourism and gastronomy tourism). The WFTA's mission is to preserve and promote culinary cultures through hospitality and tourism. Every year, the organization provides professional programs and services to 200,000 professionals in 150+ countries.

Media Contact:  Erik Wolf (+44) 7827 582 554  help@worldfoodtravel.org


With the Second-Generation transcatheter aortic valve replacement system approved for marketing, Peijia Medical leads China into the "Retrievable Era" using TAVR products

The TaurusElite(R) Transcatheter Aortic Valve Replacement System (hereinafter referred to as "TaurusElite(R)") developed by Peijia Medical (9996.HK) is approved for marketing by the National Medical Products Administration (NMPA) in June 2021 (Reg. No. GXZZ 20213130464). This approval will accelerate the transition of China TAVR practice into retrievable era.

TaurusElite(R) is the second-generation TAVR system developed by Peijia Medical, and is also the second and the latest retrievable TAVR system approved in China. Similar to the design of TaurusOne(R), TaurusElite(R) uses bovine material for prosthetic aortic valve, and has ideal radial support and flexibility that has taken consideration of China's large cohort of patients experiencing high aortic valve calcification, bicuspid aortic valves and other such lesions. TaurusElite(R) is widely accepted by clinical institution researchers for its improved delivery system, enhanced axial support and flexibility for passing through the aortic arch, ability of repeated retrieval in situ or during high segment release, transvalvular procedures permitted after retrieval, and other advantageous benefits. TaurusElite(R) is expected to improve the safety of TAVR surgeries and curtail the learning period of surgeons, with an aim to accelerate the advancement of TAVR approaches and to benefit more patients.

TAVR technology in China is currently progressing from an early stage to a rapid development stage. A total of more than 6000 cases of TAVR surgeries have been successfully performed in China as of today. According to the analysis of Frost & Sullivan, the number of patients with aortic stenosis in China is approximately 4.5 million in 2021 and it is expected to increase to 4.9 million by 2025, within which approx. 23% will have severe aortic valve stenosis. The aging of the Chinese population and the expansion of TAVR operation will result in more aortic stenosis patients receiving TAVR treatment in the near future.

Academician Han Yaling of General Hospital of Northern Theater Command served as Coordinating Investigator for the TaurusElite(R) TAVR System's clinical trial that was completed by multiple organizations (listed in order of Chinese Pinyin of the Institute's initials): Zhongshan Hospital of Fudan University, Guangdong Provincial People's Hospital, the Second Affiliated Hospital of Harbin Medical University, Xijing Hospital of Air Force Military Medical University, West China Hospital of Sichuan University, Beijing Anzhen Hospital of Capital Medical University, the Second Affiliated Hospital of Zhejiang University School of Medicine, the Second Xiangya Hospital of Central South University, General Hospital of Northern Theater Command and Fuwai Hospital Chinese Academy of Medical Sciences.

Chairman and CEO of Peijia Medical Dr. Zhang Yi proclaimed that: " TaurusOne(R), our first-generation TAVR that received NMPA approval in April, has treated many patients with great success. However, we still see growing clinical needs for a better and safer TAVR product. In addition, given the limited survival time of severe AS patients, the speed of TAVR's expansion in China will determine whether the large number of patients can receive treatment in time. Now that we have our second-generation TAVR TaurusElite(R) approved for commercialization, Peijia will start promote this latest iteration as soon as possible. Globally, those first-generation irretrievable TAVR products are rarely used today, as the retrievable TAVR contributes to an overall reduction of surgical risk, while also shortening the learning curve of doctors. We do hope that TAVR in China can evolve in the retrievable era to mitigate unnecessary risks and reduce the pressures on doctors conducting the operation. In the end and most important of all, to bring benefit to more patients. "

Peijia Medical has a comprehensive global layout of product pipeline and technologies for structural heart disease, covering aortic valve, mitral valve, tricuspid valve and surgical accessories. With the marketing of TaurusElite(R), Peijia Medical will provide an array of clinical product portfolio, demonstrating its whole R&D process and productive capacity within the field. Peijia Medical is committed to building Yijia College, a global professional education platform of TAVR techniques for valvular heart disease, developing diversified and multi-dimensional clinical techniques and providing opportunity for academic exchange and cooperation with internationally and domestically renowned interventional valvular disease therapy centers, together enhancing surgeon training support, basic education and knowledge propagation, so to make continuous efforts for the technical promotion of interventional therapy for valvular disease in China and benefit more patients.

Peijia Medical was founded in 2012 and its headquarter is based in Suzhou, Jiangsu Province, China. It was listed on the Hong Kong Stock Exchange in May 2020. With "Devotion to the Heart, Reverence for Life" as its vision, Peijia Medical always puts life and safety in the first place, striving to maintain human life and health from its years of exploration in technology and its innovative persistence. Peijia Medical's strategic layout can be summarized as the "Innovation-oriented, Simultaneous Treatment of Cardiovascular and Cerebrovascular Diseases". It is dedicated to the innovation, R&D and production of high-end medical devices for structural heart disease and cerebrovascular interventions—covering aortic valve, mitral valve, tricuspid valve, surgical accessories, and diseases related to hemorrhage, ischemia and pathways in cerebrovascular intervention. It has built a relatively comprehensive array of product and solution portfolios in the field of structural heart disease and cerebrovascular interventions for use throughout China.