สมาคม World Food Travel Association (WFTA) ประกาศว่า ทางองค์กรได้แต่งตั้งให้หมู่เกาะเกรเนดา (Greneda) และหมู่เกาะพี่น้องอย่างกาเรียกู (Carriacou) และเปอร์ติต มาร์ตีนิก (Petite Martinique) เป็น "Culinary Capital" หรือเมืองหลวงแห่งการทำอาหารแห่งแรกของโลก ซึ่ง Culinary Capitals เป็นโครงการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่จัดทำโดย WFTA เพื่อให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมการทำอาหารทั่วโลก ในขณะที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวหลังจากต้องหยุดชะงักไปนาน
Kirl Grant-Hoschialek รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารของการท่องเที่ยวแห่งเกรเนดา (Grenada Tourism Authority หรือ GTA) กล่าวว่า "การรับรองจุดหมายปลายทางในฐานะ Culinary Capitals โดยสมาคม World Food Travel Association เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สำหรับเกรเนดา เราเป็นที่รู้จักทั่วโลกในฐานะ Spice of the Caribbean หรือเครื่องเทศแห่งแคริบเบียน ดังนั้นจึงเหมาะสมแล้วที่เราได้เป็นเกาะแห่งแรกในแคริบเบียนที่ได้รับตำแหน่งนี้ และแน่นอนว่า การแต่งตั้งครั้งนี้จะดึงดูดนักเดินทางผู้มีวิสัยทัศน์ที่ต้องการสำรวจความเชื่อมโยงระหว่างอาหารและวัฒนธรรม รวมถึงผู้ที่ต้องการที่จะมั่นใจได้ว่า อาหารทุกจานที่ลิ้มรสในช่วงวันหยุดจะมีรสชาติที่น่าทึ่ง!"
การผสมผสานเครื่องเทศเข้ากับอาหารของเกรเนดาก่อให้เกิดอาหารประจำชาติที่มีรสชาติชัดเจนและจัดจ้าน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าชาวเกรเนเดียนมีรสนิยมและไหวพริบในการทำอาหารรสเลิศ ตั้งแต่ร้านอาหารระดับภัตตาคารไปจนถึงร้านอาหารริมชายหาดสบายๆ หรือแม้แต่อาหารข้างทาง ทั้งนี้ หมู่เกาะต่างๆ ล้วนเป็น Culinary Capital ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และมีสินทรัพย์ด้านการทำอาหารที่โดดเด่นมากมายที่จะนำมาแสดง ตัวอย่างเช่น ประเพณีซารากะ (Saraka), อาหารประจำชาติ "Oil down", ช็อคโกแลต, ไอศกรีมลูกจันทน์เทศ, เหล้ารัมที่ทำด้วยมือ ตลอดจนการใช้เครื่องเทศมากมายบนเกาะ ทั้งสำหรับทำอาหารและเพื่อการแพทย์และสุขภาพ
เมื่อวัฒนธรรมการทำอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของเกรเนดาได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการแล้ว หน่วยงาน GTA จึงได้ตั้งเป้าที่จะทำการตลาดสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับ "นักเดินทางสายกิน" และพัฒนาบริการท่องเที่ยวด้านอาหารของเกาะต่อไป และทำให้เกรเนดาเป็นหมุดหมายของผู้บริโภคที่เดินทางเพื่อสัมผัสประสบการณ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์และน่าจดจำ
Erik Wolf กรรมการบริหารของสมาคม World Food Travel Association ซึ่งเป็นหน่วยงานชั้นนำของโลกด้านการท่องเที่ยวด้านอาหารและเครื่องดื่มกล่าวว่า "จุดหมายปลายทางขนาดเล็กอย่างเกรเนดาต้องการความได้เปรียบทางการแข่งขันทุกประการ และนั่นคือสิ่งที่ Culinary Capitals มอบให้ นักเดินทางที่รักการกินกำลังเพิ่มจุดหมายที่คล้ายกับเกรเนดาลงในลิสต์ของพวกเขาตอนนี้ และเรารอคอยอย่างใจจดจ่อถึงวันที่พวกเขาจะออกเดินทางอีกครั้ง"
โครงการ Culinary Capitals รับรองจุดหมายปลายทางที่มีสิทธิ์ผ่านขั้นตอนการสมัครที่เข้มงวด ซึ่งโครงการนี้เป็นมากกว่าแค่การได้รับการยอมรับ เนื่องจากจุดหมายปลายทางที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการสนับสนุนด้านการตลาดและกลยุทธ์ในปีหน้าในขณะที่พวกเขานำฉายาใหม่ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในความพยายามด้านตลาดของสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนี้ สำหรับนักเดินทางที่รักการทานอาหารและเครื่องดื่ม การแต่งตั้งตำแหน่ง Culinary Capitals จะมอบทางเลือกใหม่ๆ ของจุดหมายที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนให้กับพวกเขา ซึ่งตรงกับสิ่งที่นักเดินทางแสวงหาหลังเกิดโรคระบาด
จุดหมายปลายทางที่สนใจสามารถติดต่อ WFTA เกี่ยวกับการเป็น Culinary Capital ที่ได้รับการรับรอง
เกี่ยวกับ GRENADA เกรเนดาประกอบด้วย 3 หมู่เกาะในหนึ่งจุดหมายปลายทางที่มีเอกลักษณ์ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้สุดของแคริบเบียน ผู้มาเยือนทุกคนจะเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์เกรเนดาอันบริสุทธิ์ที่แสนพิเศษและปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับความต้องการได้อย่างราบรื่น ด้วยหาดทรายขาวระดับโลก 50 แห่ง, น้ำตกตระการตา 15 แห่ง, เส้นทางเดินป่านับไม่ถ้วน และจุดดำน้ำที่ติดตาตรึงใจ 60 แห่ง รวมถึงซากเรืออับปางที่ใหญ่ที่สุดในทะเลแคริบเบียน และสวนประติมากรรมใต้น้ำแห่งแรกของโลก ตลอดจนเสน่ห์ที่ไม่มีใครเทียบ รวมถึงการต้อนรับที่อบอุ่นและเป็นกันเอง
เกี่ยวกับ WORLD FOOD TRAVEL ASSOCIATION (WFTA)
WFTA เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2544 โดย Erik Wolf ผู้อำนวยการคนปัจจุบัน WFTA ได้รับการยอมรับว่าเป็นหน่วยงานชั้นนำของโลกในด้านอาหารและเครื่องดื่ม (การท่องเที่ยวเชิงอาหารและการท่องเที่ยวเพื่อสำรวจศาสตร์การทำอาหาร) ด้วยพันธกิจในการอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมการทำอาหารผ่านงานบริการและการท่องเที่ยว โดยในทุกๆ ปี ทางองค์กรให้บริการแก่บุคลากรในสายงานเกือบ 200,000 คนในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก
สื่อมวลชนติดต่อ: Erik Wolf, โทร. (+44) 7827 582 554, อีเมล: help@worldfoodtravel.org
No comments:
Post a Comment