รางหมายเลข 1 ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของเซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก ในดูไบเชื่อมต่อกับกริดแล้ว

 

เป็นโครงการพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ของความจุติดตั้ง ขนาดการลงทุน และความร้อนสำรองจากเกลือหลอมเหลว

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน (ตามเวลาดูไบ) รางหมายเลข 1 ของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนขนาด 700 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 250 เมกะวัตต์ของเซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก (Shanghai Electric) ในดูไบ ประสบความสำเร็จในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับกริดแล้ว ถือเป็นก้าวสำคัญตลอดเส้นทางของบริษัทในการตีตลาดพลังงานหมุนเวียน โรงงานแห่งนี้ได้ส่งมอบค่าพารามิเตอร์ทางเทคนิคชั้นยอดและการทำงานที่เชื่อถือได้ของทั้งอุปกรณ์หลักและอุปกรณ์เสริม จัดหาพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับชุมชนท้องถิ่นเป็นครั้งแรก

โครงการที่เซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก กรุ๊ป (Shanghai Electric Group) เป็นผู้รับเหมา เป็นเฟสที่สี่ของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนและพลังงานแสงอาทิตย์ที่พัฒนาโดยการไฟฟ้าและประปาของดูไบ (DEWA) ในสวนโซลาร์โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มักตูม หรือเอ็มบีอาร์ (Mohammed bin Rashid Al Maktoum Solar Park หรือ MBR) การเชื่อมต่อโรงงานเข้ากับกริดถือเป็นการบรรลุเป้าหมายสำคัญในแผนงานโลกาภิวัตน์ของเซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก โครงการนี้สร้างขึ้นบนทาวเวอร์ชั้นนำของโลกและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ระบบราง ทำให้ก้าวข้ามข้อจำกัดที่สถานีไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบเดิมไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ในตอนกลางคืน และทำให้โครงการนี้เป็นต้นแบบการสาธิตสำหรับโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road) ของรัฐบาลจีน และความพยายามในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนระดับโลก

โมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ขนาด 250 เมกะวัตต์ กระจายอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อเพิ่มการใช้งานของโรงงานให้ได้สูงสุด ในขณะที่โรงงานพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ขนาด 700 เมกะวัตต์ประกอบด้วยยูนิตแบบรางขนาด 200 เมกะวัตต์ 3 ยูนิต และยูนิตแบบทาวเวอร์ 100 เมกะวัตต์ 1 ยูนิต เป็นโครงการเซลล์แสงอาทิตย์แบบสแตนด์อโลนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีพื้นที่ 44 ตารางกิโลเมตร (ประมาณ 17 ตารางไมล์) เทียบเท่ากับสนามฟุตบอลมาตรฐานกว่า 6,000 สนาม หรือจัตุรัสเทียนอันเหมิน 100 แห่ง โครงการนี้ใช้เกลือหลอมเหลวประมาณ 560,000 ตันและเฮลิโอสแตต 70,000 แผ่น แต่ละแผ่นมีขนาดประมาณ 25 ตารางเมตร โครงการนี้จำเป็นต้องใช้ปริมาณดินเพื่อปรับพื้นที่ทะเลทรายประมาณ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร เท่ากับปริมาณน้ำใน 'สนามลูกบาศก์น้ำ' (Water Cubes) 41 สนาม (ศูนย์กีฬาทางน้ำที่มีชื่อเสียงที่อุทยานโอลิมปิกในกรุงปักกิ่ง) หรือเท่ากับปริมาณทรายและกรวดที่ใช้ในการสร้างเกาะเทียมที่รองรับสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า 2 เกาะ โรงงานแห่งนี้สูงถึง 262 เมตร (ประมาณ 860 ฟุต) เป็นโครงการพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์แบบทาวเวอร์ที่สูงที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีการเปิดสล็อตเชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยระยะการเปิด 8.2 เมตร การดำเนินงานของโรงงานทดแทนการเผาไหม้ถ่านหินมาตรฐาน 2 ล้านตันต่อปี ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้รวมกันทำให้เป็นโครงการพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ของความจุติดตั้ง ขนาดการลงทุน และความร้อนสำรองจากเกลือหลอมเหลว

ทำเลที่ตั้งที่อยู่กลางทะเลทราย ซึ่งอุณหภูมิในตอนกลางวันอาจสูงถึงเกือบ 50 องศาเซลเซียส (122 องศาฟาเรนไฮต์) ประกอบกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และปัจจัยอื่น ๆ ทำให้โครงการประสบปัญหาหลายประการระหว่างการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นของต้นทุนโดยรวม (ซึ่งต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้นมากที่สุด) ความล่าช้าในการขนส่ง ปัญหาในด้านห่วงโซ่อุปทานในการผลิตอุปกรณ์ และการขาดแคลนพนักงานอย่างรุนแรง การใช้โซลูชันที่สร้างสรรค์และการเตรียมการล่วงหน้าอย่างพิถีพิถัน ทำให้ฝ่ายก่อสร้างโครงการเอาชนะปัญหาทางเทคนิคหลายประการเพื่อบรรลุเป้าหมายสำคัญนี้ได้

พลังงานจะถูกเก็บไว้ในยูนิตแบบรางและแบบทาวเวอร์ เมื่อยูนิตทั้งหมดทำงาน จะสามารถผลิตพลังงานได้อย่างต่อเนื่องสูงสุด 13.5 ชั่วโมงในเวลากลางคืน และ 15 ชั่วโมงในช่วงที่สภาพอากาศแปรปรวน เมื่อโครงการทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ จะทำให้ดูไบเข้าใกล้เป้าหมายพลังงานสะอาดในปี 2593 เพื่อจัดหาพลังงานสะอาดให้กับครอบครัวในท้องถิ่น 320,000 ครัวเรือน และลดการปล่อยคาร์บอนลง 1.6 ล้านตันต่อปีได้มากขึ้น

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1957963/Solar_Thermal_Trough_Unit_No__1.jpg

คำบรรยายภาพ - โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนแสงอาทิตย์ รางหมายเลข 1

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1957964/Solar_Thermal_Trough_Unit_No__1_in_Dubai_Connected_to_the_Grid.jpg

คำบรรยายภาพ - โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนแสงอาทิตย์ รางหมายเลข 1 ในดูไบ เชื่อมต่อกับกริด

CGTN: จีนแสดงวิสัยทัศน์สู่อนาคตในสารคดีชุดใหม่ "China Aspirations"

หลังการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ปิดฉากลง โรดแมปสู่อนาคตของจีนได้กลายเป็นจุดสนใจของประชาคมโลก ด้วยเหตุนี้ สารคดีชุดใหม่ China Aspirations (ความปรารถนาของจีน) จึงนำเสนอการตีความใหม่เพื่อเผยให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงของจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีส่วนกำหนดวิสัยทัศน์สำหรับอนาคตอย่างไร

สารคดีชุดความยาว 4 ตอนซึ่งนำเสนอโดยสถานีโทรทัศน์ซีจีทีเอ็น (CGTN) ออกอากาศครั้งแรกทั่วโลกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน โดยพาผู้ชมเดินทางไปทั่วโลก ตั้งแต่แหล่งกำเนิดของอารยธรรมจีนไปจนถึงแหล่งกำเนิดของเทคโนโลยีควอนตัมของจีน ตั้งแต่วัดฮินดูโบราณของเนปาลไปจนถึงทุ่งหญ้าสะวันนาอันยิ่งใหญ่ของเคนยา

สารคดีชุดนี้ตามติดชีวิตของบุคคล 24 กลุ่ม ซึ่งรวมถึงนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ฟิวชัน ช่างฝีมือเกราะเหล็ก ผู้พิทักษ์ช้าง นักวาดภาพแอนิเมชัน ผู้กำหนดนโยบาย แพทย์ ฯลฯ เพื่อเปิดเผยเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่งของจีนในทศวรรษที่ผ่านมา ผ่านการบันทึกเรื่องราวชีวิตของบุคคลที่ช่วยกำหนดภูมิทัศน์ของจีนในปัจจุบัน

China Aspirations พลิกโฉมการเล่าเรื่องแบบเดิม ๆ ของจีน และนำเสนอชีวิตจริงของคนที่คิดว่าตนเองควรแตกต่างและสามารถแตกต่างได้ รวมถึงการทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้เพียงแค่ "ลงมือทำให้สำเร็จ" และสิ่งสำคัญกว่านั้นคือมุมมองที่มีต่อตนเองและบทบาทในฐานะพลเมืองโลก

สารคดีทั้ง 4 ตอน ได้แก่ "NEW COOL", "MONEY STORIES", "MARK MY WORDS" และ "INTO THE FUTURE" ครอบคลุมหัวข้อวัฒนธรรม เศรษฐกิจ ธรรมาภิบาล และกิจการโลก

หลายคนกล่าวว่าจีนได้ผ่านช่วงทศวรรษแห่งความเชื่อมั่นที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลสำหรับนักวิจารณ์และนักการเมืองจำนวนมาก แต่สำหรับคนที่เติบโตในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงนี้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิต และพวกเขาก็ภูมิใจที่ได้ค้นพบมรดกของชาติและฟื้นฟูประเพณีที่สูญหายไป

China Aspirations แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสังคมแบบระลอกคลื่นที่เกิดจากคนรุ่นใหม่ โดยนำเสนอในรูปแบบที่ไม่เหมือนใครจากมุมมองของกวีโรแมนติกผู้เป็นวีรบุรุษและตำนานในประวัติศาสตร์จีน

ซ่งฉือ (Song Ci) คือบทกวีดนตรีรูปแบบพิเศษของจีน ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อโลกแห่งจิตวิญญาณของชาวจีนมานานกว่าพันปี ผู้ผลิตสารคดีได้ทำงานร่วมกับกลุ่มศิลปินที่อุทิศตนเพื่อนำศิลปะที่สูญหายกลับคืนมา และเป็นครั้งแรกที่สามารถสร้างบทเพลงที่สูญหายไปของหนึ่งในบทกวีซ่งฉือที่มีชื่อเสียงและทรงอิทธิพลที่สุด เพื่อให้โลกสมัยใหม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง

สารคดีชุดนี้ยังเปิดเผยความลับเบื้องหลังเมืองที่เติบโตเร็วที่สุดของจีน ด้วยความเร็วที่แทบไม่เคยพบมาก่อนในพื้นที่ส่วนใหญ่ทั่วโลก ตลอดจนนำเสนอเรื่องราวของบริษัทเทคโนโลยีควอนตัมแห่งแรกของโลกที่เสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) หลังจากถูกสหรัฐอเมริกาคว่ำบาตรหลายรอบ

China Aspirations สำรวจพลังขับเคลื่อนใหม่ที่อยู่เบื้องหลังประเทศเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การพัฒนาคุณภาพสูง พร้อมฟังเสียงของคนรุ่นใหม่ที่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อบรรลุความฝันของตนเอง

สถานีโทรทัศน์ซีจีทีเอ็นเผยแพร่สารคดีชุด China Aspirations ใน 15 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ สเปน อาหรับ รัสเซีย ฝรั่งเศส มองโกเลีย ฮิบรู โปรตุเกส ฮินดี เปอร์เซีย เวียดนาม เบงกาลี เมียนมา อินโดนีเซีย และเยอรมัน

นอกจากนี้ สารคดีเวอร์ชันเต็มและคลิปสั้นยังเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสถานีโทรทัศน์ซีจีทีเอ็น แอปพลิเคชัน และโซเชียลมีเดีย หลังจากออกอากาศครั้งแรกผ่านทางสถานีโทรทัศน์ซีจีทีเอ็นแล้ว

https://www.cgtn.com/specials/2022/china-aspirations.html

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1958662/image_1.jpg

วิดีโอ - https://www.youtube.com/watch?v=b6CHBaJRwkk 

CGTN: China's Vision into the Future on New CGTN Docuseries "China Aspirations"

After China's 20^th National Congress, the country's roadmap for the future has been the main focus of the international community. China Aspirations offers a fresh interpretation of how China's change over the years is set to shape its vision for the future.

Presented by CGTN, the four-part docuseries premieres on November 24 globally. China Aspirations will take the audience on a journey across the world, from the birthplace of Chinese civilization to the cradle of China's quantum technology. From the ancient Hindu temples of Nepal to the great Savannah of Kenya. 

Following the lives of 24 groups of individuals, including nuclear fusion scientists, iron-armor craftsmen, elephant guardians, animators, policy makers and doctors etc., the docuseries uncovers clues behind the country's remarkable change in the past decade by documenting the lives of the individuals who have helped shape the current landscape of China.

China Aspirations  dismantles the conventional narrative of China by showcasing the vivid real-life characters that believe they should be different and can be different. How they can make the impossible possible and simply 'get things done', but more importantly, how they see themselves and their role as a global citizen.   

The four-part series - "NEW COOL", "MONEY STORIES", "MARK MY WORDS", and "INTO THE FUTURE", will cover topics on culture, economy, governance, and global affairs.

Many say China has gone through a decade of growing confidence, which has been the cause of concern for many critics and politicians. But for the generations growing up in the past decade, this change is now an intrinsic part of their life and they take pride in rediscovering their heritage and reviving lost traditions.

China Aspirations  showcases the rippling effect brought by this new generation by taking a unique approach from the perspective of a romantic, heroic, and legendary poet in the Chinese history.

Song Ci poem, a special form of China's musical poetry, has greatly influenced the Chinese people's spiritual world for over a thousand years. Working with a group of artists dedicated to bringing back the lost form of art, the docuseries, for the first time ever, has been able to re-create the lost tune of one of the most famous and influential Song Ci poems for the modern world to see.

The series also unveils the secrets behind China's fastest-growing city, at a speed almost unheard of in most parts of the world. And how the world's first IPO quantum tech company operates after several rounds of U.S. sanctions. 

China Aspirations explores the new driving forces behind the world's second-largest economy on the transition to a high-quality development mode, while listening to the voice of a new generation embracing change to accomplish their dreams.

CGTN will release China Aspirations in 15 languages, including English, Spanish, Arabic, Russian, French, Mongolian, Hebrew, Portuguese, Hindi, Persian, Vietnamese, Bengali, Myanmar, Indonesian and German.  

The full series and short clips will also be available on CGTN's official website, APP and social media handles after its premier on CGTN.

https://www.cgtn.com/specials/2022/china-aspirations.html

Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1958662/image_1.jpg

Video - https://www.youtube.com/watch?v=b6CHBaJRwkk 

Tencent Highlights Its Global Vision and Strategies on Leading Next Wave of Cloud at Flagship Summit

 Annual flagship summit alongside its first-ever international summit to showcase how Tencent's industrial internet and cloud expertise help businesses succeed globally in digital transformation

Tencent introduced its first-ever Global Digital Ecosystem Summit at its annual Digital Ecosystem Summit held on 30 November and 1 December in Shenzhen, in effort to deepen the company's ties with international audiences.

Tencent Cloud and Smart Industries Group (CSIG)'s leaders and experts, as well as strategic business partners, joined together to share their visions for the future of cloud, immersive convergence, Web 3.0 and other detailed strategies to accelerate international growth, while showcasing a diverse portfolio of business success stories on integrating cloud solutions into gaming, fintech, social communications, entertainment, e-commerce, and other verticals.

Industrial Internet: Propelling Collective Success across Multiple Industries

As Tencent looks to further create sustainable growth, Dowson Tong, Senior Executive Vice President of Tencent and President of CSIG, underlined 'Immersive Convergence' as an important strategy and roadmap for the company's future pipeline, "The convergence between our physical and virtual worlds is transforming the way we live. Leveraging our technologies and connectivity solutions, we will continue driving innovations for enterprises to boost their digital competitiveness."

Tencent has been spearheading the evolution of the Industrial Internet, creating innovative enterprise solutions to enhance performance and bring business value. Today, Tencent's enterprise communication platform, WeCom connects over 10 million organizations to 500 million Weixin/WeChat active users. Tencent's cloud conferencing tool, Tencent Meeting/VooV Meeting supports more than 300 million users worldwide, while its blockchain-powered e-signature service supports millions of users to complete signing a contract in only 15 seconds. More than three million of developers have also used Tencent CloudBase to create mini programs, deploy web applications and develop mobile applications.

Global Partner Ecosystem: Co-creating Business Values

Approaching its seventh year of operating in international markets, Tencent Cloud has already made significant strides in supporting enterprises' growth globally, as well as their expansion into China - including the likes of Fortune Global 500 companies BMW Group, Sanofi, and Novartis.

This year, Tencent Cloud also rolled out its first global partner program, aimed at nurturing a stronger and more diverse partner ecosystem around the world - including more channel partners, technology partners, service providers and consulting partners - to support global digital transformation. To date, Tencent has built more than 400 customized solutions for over 10,000 partners - jointly serving 2 million customers in their digital transformation journey. The Tencent Cloud's partner ecosystem is generating up to one-third of its total revenues.

Tencent Cloud continues to see an upward growth trajectory and it is now turning to further expansions into Latin America, and the Middle East. Tencent Cloud currently operates in five key regions and markets - Hong Kong & Macau, Southeast Asia, Northeast Asia, Europe and the Americas.

Tong added "Going forward, we will continue to invest in the global market for our cloud and software businesses by expanding our overseas infrastructure coverage, developing our local integration and service partnership network, as well as enriching our product offerings around cloud, video, AI, database, and network security for the international markets. All of this with the goal of building a competitive product portfolio and a sustainable technology business to service and scale with our global customers and partners as the world embraces digital transformation."  

Last year, Tencent Cloud opened six new data centers in Bangkok, Frankfurt, Hong Kong, Jakarta, Tokyo, and Sao Paulo, bringing its total to 26 geographic areas on five continents and 70 availability zones, as well as exabyte-level storage capacity. Its content delivery network has deployed 2,800 acceleration nodes worldwide.

Next Wave of Cloud: Empowering Partners in Web 3.0 Era

Best known for its expertise in cloud and years of experience in the fields of games, audio and video solutions, Tencent Cloud provides a solid and reliable foundation for businesses to adapt and scale into Web 3.0.

Poshu Yeung, Senior Vice President, Tencent Cloud International further pointed out that more global partners are looking to integrate their operations and services to adapt and scale into Web 3.0. He added, "From providing the best hyperscale infrastructure to creating a one-stop shop for cloud solutions, we aim to support the Web 3.0 community to adopt critical technologies, such as the Internet of Things, Tencent Real-Time Communication (TRTC), extended reality, remote and multi-sensory interaction, to drive deeper connection between the virtual and real worlds."

Digital Transformation in Southeast Asia

During the summit, Tencent Cloud shared more on how it provides support to partners and clients across a variety of industries in their digital transformation journey across Southeast Asia, namely Bank Neo Commerce (BNC), STTelemedia Global Data Centres, Millennium Technology Services (MTS), Helios Informatika Nusantara (Helios), KinderWorld, and more.

Vice President of Tencent Cloud, Southeast Asia's Krittee Manoleehagul also echoed Tencent Cloud's ability as a digital enabler in "providing secure, reliable, and smart cloud technologies to support enterprises to improve their business agility." Manoleehagul also added, "Web 3.0 is a new focus industry and is a natural extension of Tencent's internet services."

For example, since the adoption of Tencent Cloud Distributed Database (TDSQL), Bank Neo Commerce (BNC), a digital bank headquartered in Indonesia, is now able to process 2 million transactions and 150,000 loan disbursements per day. This provides reliable and powerful support for more than 50% of BNC's monthly active user growth, and its 20 million users and 35 million accounts acquired each year.

In another example, STTelemedia Global Data Centres (STT GDC) has collaborated with Tencent Cloud to provide smart building solutions for STT Bangkok 1, a carrier-neutral data centre in the STT Bangkok Data Centre Campus, located at Hua Mak, one of Bangkok's major business districts. With the adoption of Tencent Cloud Weiling, STT Bangkok 1 has become Thailand's first smart building with Instavue and database security service (DBSS) implementation, and Raydata 3D visual management, and is now able to deliver up to 20 MW and scale to 40 MW of total IT load capacity, to support their customers' business expansion demands.

For further information, please visit: www.tencentcloud.com. 

About Tencent Digital Ecosystem Summit 2022

Tencent Digital Ecosystem Summit is the annual event of Tencent Group facing the industrial Internet with the highest specification, the largest scale and the widest coverage. And the Tencent Digital Ecosystem Summit 2022 aims to gather global wisdom and insight into new opportunities for industrial development, depict the development blueprint of key technologies such as cloud, AI, big data and security, and display Tencent's latest research results, strategic planning, cutting-edge technologies, core products and solutions. The conference gathered the industry best practices accumulated by Tencent's global digital ecological partners in the process of promoting "industrial digitization" and "digital industrialization". It is regarded as a panoramic interface for enterprises, partners, developers and the public to understand Tencent's digital ecology. 

About Tencent Cloud

Tencent Cloud, one of the world's leading cloud companies, is committed to creating innovative solutions to resolve real-world issues and enabling digital transformation for smart industries. Through our extensive global infrastructure, Tencent Cloud provides businesses across the globe with stable and secure industry-leading cloud products and services, leveraging technological advancements such as cloud computing, Big Data analytics, AI, IoT and network security. It is our constant mission to meet the needs of industries across the board, including the fields of gaming, media and entertainment, finance, healthcare, property, retail, travel and transportation.

About Tencent

Tencent uses technology to enrich the lives of Internet users. Our communication and social services, Weixin and QQ, connect users with each other and with digital content and services, both online and offline, making their lives more convenient. Our targeted advertising service helps advertisers reach out to hundreds of millions of consumers in China. Our FinTech and business services support our partners' business growth and assist their digital upgrade. Tencent invests heavily in talent and technological innovation, actively promoting the development of the Internet industry. Tencent was founded in Shenzhen, China, in 1998. Shares of Tencent (00700.HK) are listed on the Main Board of the Stock Exchange of Hong Kong.

Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1958516/DES_2022_press_photo.jpg
Caption - Tencent introduced its first-ever Global Digital Ecosystem Summit at its annual Digital Ecosystem Summit held on 30 November and 1 December in Shenzhen

Photo - https://mma.prnewswire.com/media/1958517/Tencent_Cloud_International_Poshu_Yeung.jpg
Caption - Poshu Yeung, Senior Vice President, Tencent Cloud International pointed out that more global partners are looking to integrate their operations and services to adapt and scale into Web 3.0

Tate Corporation to Present Special Night Tribute to Luciano Pavarotti by Placido Domingo & Jose Carreras in Tokyo on January 26, 2023

 A special night tribute to Luciano Pavarotti by Placido Domingo and Jose Carreras, presented by Tate Corporation Co., Ltd., will be held on Thursday, January 26, 2023, from 6:30 p.m. (JST) at Tokyo Garden Theater.

Image1:
https://kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M107443/202211220146/_prw_PI1fl_A1Br3a5K.jpg

Image2:
https://kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M107443/202211220146/_prw_PI6fl_oENByrVW.png

A Special night tribute to Luciano Pavarotti Placido Domingo & Jose Carreras:
Two legendary superstars will be on stage for a dream-come-true performance in Japan. It was on the eve of the world-famous soccer event in 1990 at the Baths of Caracalla in Rome that the first joint performance by the three world-renowned tenors, Domingo, Carreras and Pavarotti, took place. The tenor trio then went on a world tour, which ended in 2003. And now, 20 years later in Tokyo, Japan, Domingo and Carreras will once again have a miraculous collaboration in a concert dedicated to Pavarotti.

Message from Placido Domingo
"I would like to tell the audience that I am waiting for everyone to spend an evening of music together with Jose Carreras and with the extraordinary Armenian soprano Nina Minasyan, remembering with great affection and enormous admiration our dear Luciano."

Message video:
https://videos.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M107443/202211220146/_prw_PM1fl_41rxc44z.mp4

Concert overview
- Cast:
Placido Domingo / Jose Carreras
Special guest: Nina Minasyan (soprano)
Conductor: Marco Boemi
Orchestra: Tokyo 21c Philharmonic
Cooperation: Embassy of Spain in Japan / Embassy of Italy in Japan

- When: Thursday, January 26, 2023
Doors opening at 5:00 p.m. (JST)
Show starting at 6:30 p.m. (JST)

- Venue information: Tokyo Garden Theater
https://www.shopping-sumitomo-rd.com/tokyo_garden_theater/

- Ticket prices: SS 68,000 JPY / S 58,000 JPY / AA 48,000 JPY / A 38,000 JPY / BB 28,000 JPY

Photo1: Placido Domingo
https://kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M107443/202211220146/_prw_PI3fl_Ri89Wb2n.jpg

Photo2: Jose Carreras
https://kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M107443/202211220146/_prw_PI4fl_XjJsHDW3.jpg

Photo3: Nina Minasyan
https://kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M107443/202211220146/_prw_PI5fl_l6Lam1bF.jpg

Official site: http://www.tate.jp/concert2020/Domingoeng.html

Source: Tate Corporation Co., Ltd.

Data-centric Security Leader SecuPi to open its first Asia Pacific Office in Singapore

 SecuPi, a leader in data-centric security, has announced the opening of a regional office in Singapore to deliver data protection to the Asia Pacific region.

Data protection and Attribute-Based Access Control (ABAC) are increasingly coming to the forefront of global discussion and legislation for data Privacy and Sovereignty. With the increasing number of countries in Asia Pacific region initiating strict data privacy and data movement restrictions, there is major demand growth opportunities.

"We have been experiencing a rise in demand for our platform over the entire APAC region. After dozen of successful implementations in the region including leading enterprises in insurance such as AIA, banking including the largest Philippine Bank Cloud transformation, retail and energy industries, we are excited to be opening an office in Singapore, expanding our local activities in the region", says Alon Rosenthal, Co-founder and CEO of SecuPi.

"Our mission is to provide organizations with a flexible and robust solution for addressing an ever-growing range of data security, privacy and sovereignty needs over a wide range of technologies and allow them to gain the highest level of data protection with no code changes and minimal time, efforts and resources", says Rosenthal.

The SecuPi platform is particularly suitable for the needs and demands in the Asia-Pacific region; with its Hybrid Cloud Data-centric Protection, FPE Encryption, DAM and Attribute-based Access Controls (ABAC), organizations use SecuPi to meet sovereignty and privacy laws requirements through the transition to the cloud. 

About SecuPi

SecuPi (www.secupi.com) empowers organizations to use data in a secure, compliant and responsible manner. SecuPi's award-winning solution and methodology delivers next-generation data security and privacy compliance for on-prem, cloud, and hybrid environments. SecuPi's centrally managed, consistently applied, transparent, data-centric protection platform is easy and quick to implement and is used by the largest global financial services, insurance, telcos, retailers and more. With Attribute Based Access Control (ABAC), monitoring, User Behavior Analytics (UBA), and privacy enforcement capabilities, organizations gain the controls and flexibility to protect their sensitive data without disrupting ongoing business activity.

For additional information, visit: secupi.com, follow us on LinkedIn or contact us at info@secupi.com.

เซคิวพาย ผู้นำด้านความมั่นคงปลอดภัยที่มุ่งเน้นข้อมูล เตรียมเปิดสำนักงานแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิกที่สิงคโปร์

 เซคิวพาย (SecuPi) ผู้นำด้านความมั่นคงปลอดภัยที่มุ่งเน้นข้อมูล ประกาศการเปิดสำนักงานประจำภูมิภาคในสิงคโปร์ เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

การคุ้มครองข้อมูลและการควบคุมการเข้าถึงโดยคัดกรองจากคุณสมบัติผู้ใช้ (Attribute-Based Access Control หรือ ABAC) ถูกหยิบยกมาพูดถึงมากขึ้นทั่วโลก และยังเป็นประเด็นในการออกกฎหมายในด้านความเป็นส่วนตัวและอำนาจอธิปไตยของข้อมูลด้วย ขณะนี้ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้เริ่มใช้มาตรการควบคุมความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและการเคลื่อนย้ายข้อมูล ด้วยเหตุนี้จึงมีโอกาสการเติบโตของความต้องการในด้านนี้เป็นอย่างมาก

"เราพบว่าแพลตฟอร์มของเราเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นมากทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หลังจากที่เราประสบความสำเร็จนับสิบรายการในภูมิภาคแห่งนี้ รวมทั้งสำหรับองค์กรชั้นนำด้านประกันภัย อย่างเช่นเอไอเอ (AIA) ด้านธนาคาร ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบคลาวด์ของธนาคารรายใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ ตลอดจนในอุตสาหกรรมค้าปลีกและพลังงาน เราตื่นเต้นที่ได้เปิดสำนักงานในสิงคโปร์ในการขยายกิจกรรมการดำเนินงานระดับท้องถิ่นของเราในภูมิภาคแห่งนี้" อาลอน โรเซนธาล (Alon Rosenthal) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอเซคิวพาย กล่าว

"ภารกิจของเราคือให้บริการองค์กรต่าง ๆ ด้วยโซลูชันที่ยืดหยุ่นและแข็งแกร่ง ในการจัดการกับความจำเป็นที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในด้านความมั่นคงปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และอำนาจอธิปไตยของข้อมูล ซึ่งครอบคลุมหลากหลายด้านของเทคโนโลยี ตลอดจนช่วยให้องค์กรเหล่านั้นมีการคุ้มครองข้อมูลในระดับสูงสุดโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงโค้ด ประกอบกับใช้เวลา ความพยายาม และทรัพยากรอย่างจำกัด" คุณโรเซนธาล กล่าว

แพลตฟอร์มเซคิวพายมีความเหมาะสมเป็นพิเศษสำหรับความจำเป็นและความต้องการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยการคุ้มครองแบบมุ่งเน้นข้อมูลสำหรับระบบคลาวด์แบบไฮบริด, การเข้ารหัสแบบรักษาฟอร์แมตข้อมูล (FPE encryption), การติดตามเฝ้าระวังฐานข้อมูล (DAM) และการควบคุมการเข้าถึงโดยคัดกรองจากคุณสมบัติผู้ใช้ (ABAC) องค์กรต่าง ๆ ใช้บริการเซคิวพาย เพื่อบรรลุตามข้อกำหนดของกฎหมายด้านอำนาจอธิปไตยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลด้วยการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์

เกี่ยวกับเซคิวพาย

เซคิวพาย (SecuPi) (www.secupi.com) สนับสนุนองค์กรต่าง ๆ ให้ใช้งานข้อมูลอย่างมั่นคงปลอดภัย เป็นไปตามกฎระเบียบ และมีความรับผิดชอบ โซลูชันและหลักวิธีการที่ได้รับรางวัลของเซคิวพาย มอบการปฏิบัติตามกฎระเบียบยุคใหม่ด้านความมั่นคงปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลสำหรับสภาพแวดล้อมแบบติดตั้งใช้งานภายในองค์กร (on-premise) ระบบคลาวด์ และไฮบริด แพลตฟอร์มการคุ้มครองแบบมุ่งเน้นข้อมูลซึ่งบริหารจากส่วนกลาง มีการประยุกต์ใช้อย่างสม่ำเสมอ และโปร่งใสของเซคิวพาย สามารถดำเนินการใช้งานได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว แพลตฟอร์มดังกล่าวนี้ใช้งานโดยองค์กรรายใหญ่ที่สุดระดับโลกในด้านบริการการเงิน ประกันภัย โทรคมนาคม ค้าปลีก และอื่น ๆ ทั้งนี้ สมรรถนะด้านการควบคุมการเข้าถึงโดยคัดกรองจากคุณสมบัติผู้ใช้ การติดตามเฝ้าระวัง การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ (UBA) และการดำเนินการให้เกิดความเป็นส่วนตัว ทำให้องค์กรต่าง ๆ มีอำนาจควบคุมและความยืดหยุ่นในการคุ้มครองข้อมูลที่อ่อนไหวขององค์กรโดยไม่ต้องรบกวนกิจกรรมทางธุรกิจที่กำลังดำเนินการอยู่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ secupi.com ติดตามเราทางลิงด์อิน (LinkedIn) หรือติดต่อเราที่ info@secupi.com

เมาเซอร์ อิเล็กทรอนิกส์ พาเจาะลึกหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ ในคอนเทนต์ตอนใหม่ของโปรแกรมส่งเสริมนวัตกรรม

 เมาเซอร์ อิเล็กทรอนิกส์ (Mouser Electronics, Inc.) ผู้จัดจำหน่ายระดับ New Product Introduction (NPI) ชั้นนำที่มีเซมิคอนดักเตอร์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ให้เลือกมากที่สุด(TM) ประกาศคอนเทนต์ตอนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ของปี 2565 ในโปรแกรมระดับรางวัลอย่าง Empowering Innovation Together(TM) ซึ่งคอนเทนต์ตอนใหม่นี้เมาเซอร์จะเจาะลึกการพัฒนาล่าสุดของหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMR) ซึ่งนำไปสู่ความก้าวหน้าใหม่ ๆ และแอปพลิเคชันที่ล้ำสมัยในหลายอุตสาหกรรม

แม้หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติจะมีมาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1990 แต่ก็ได้รับการปรับแต่งทางเทคโนโลยีนับตั้งแต่นั้นด้วยปัญญาประดิษฐ์ ระบบการแบ่งแยกด้วยคอมพิวเตอร์ และการสื่อสาร 5G ส่งผลให้หุ่นยนต์ที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถมอบอีกขั้นของความยืดหยุ่น ความเป็นอิสระ และประโยชน์ด้านการผลิต คลังสินค้า และการขนส่ง ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมให้ถึงขีดสุด

"เทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้นทำให้หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนให้กับโรงงานและซัพพลายเชนของเรา" เกล็นน์ สมิธ (Glenn Smith) ประธานและซีอีโอของเมาเซอร์ อิเล็กทรอนิกส์ กล่าว "เราหวังว่าผู้ชมโปรแกรม EIT จะมีความเข้าใจมากขึ้นว่า หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานด้วยวิธีที่ปลอดภัยและชาญฉลาดได้อย่างไร"

คอนเทนต์ใหม่ล่าสุดนี้ ผู้ชมจะสามารถฟังพอดแคสต์ The Tech Between Us (เทคโนโลยีที่อยู่ในชีวิตของเรา) รับชมวิดีโอ Then, Now & Next (แต่ก่อน ตอนนี้ และตอนหน้า) ตอนใหม่ และอ่านเนื้อหาพิเศษอื่น ๆ เพื่อทำความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับแอปพลิเคชันและเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนและสนับสนุนหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ ตลอดจนกรณีการใช้งานทางธุรกิจรูปแบบต่าง ๆ

คุณเรย์มอนด์ หยิน (Raymond Yin) ผู้อำนวยการฝ่ายเนื้อหาทางเทคนิคของเมาเซอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และผู้จัดรายการพอดแคสต์ The Tech Between Us นั่งคุยกับคุณนีฟ ดอนเนลลี (Niamh Donnelly) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอาร์โอของอาคารา โรโบติกส์ (Akara Robotics) เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติรุ่นใหม่ ๆ ผู้ที่สนใจสามารถรับฟังพอดแคสต์ได้ที่เว็บไซต์ของเมาเซอร์และบนแพลตฟอร์มสตรีมมิงหลักทั้งหมด

คุณดอนเนลลี กล่าวว่า "เรย์มอนด์และฉันได้พูดคุยกันเกี่ยวกับหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติและความก้าวหน้าของฮาร์ดแวร์และมาตรการด้านความปลอดภัย ที่ทำให้หุ่นยนต์เหล่านี้เป็นอุปกรณ์เสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายรูปแบบ" และเพิ่มเติมว่า "การออกแบบใหม่ ๆ นั้นมีความก้าวล้ำขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความซับซ้อนของเทคโนโลยีล่าสุด ซึ่งเป็นการสร้างหุ่นยนต์ช่วยทำงาน อันจะเป็นประโยชน์ในอีกหลายปีข้างหน้า"

โปรแกรมส่งเสริมนวัตกรรม "Empowering Innovation Together" ของเมาเซอร์ มีขึ้นเมื่อปี 2558 โดยเป็นโปรแกรมที่ได้รับการยอมรับมากเป็นอันดับต้น ๆ ในแวดวงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.mouser.com/empowering-innovation และติดตามเมาเซอร์ทางเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมจากเมาเซอร์ได้ที่ https://www.mouser.com/newsroom/ 

เกี่ยวกับเมาเซอร์ อิเล็กทรอนิกส์

เมาเซอร์ อิเล็กทรอนิกส์ (Mouser Electronics) บริษัทในเครือเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ (Berkshire Hathaway) เป็นผู้จัดจำหน่ายเซมิคอนดักเตอร์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับอนุญาต ซึ่งมุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ (New Product Introductions) จากคู่ค้าผู้ผลิตชั้นนำ ในฐานะผู้จัดจำหน่ายระดับโลก เมาเซอร์มุ่งให้บริการชุมชนวิศวกรการออกแบบด้านอิเล็กทรอนิกส์และผู้ซื้อทั่วโลกด้วย mouser.com เว็บไซต์ที่ใช้งานได้ในหลายภาษาและหลายสกุลเงิน อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์กว่า 6.8 ล้านรายการจากแบรนด์ผู้ผลิตกว่า 1,200 ราย เมาเซอร์มีศูนย์บริการลูกค้า 27 แห่งทั่วโลกเพื่อให้บริการชั้นเยี่ยมในภาษาท้องถิ่น สกุลเงินท้องถิ่น และเขตเวลาท้องถิ่น นอกจากนี้ยังจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้ากว่า 650,000 รายใน 223 ประเทศ/เขตแดนจากศูนย์กระจายสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีก้าวหน้าขนาด 1 ล้านตารางฟุตในเมืองแดลลัส รัฐเท็กซัส ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.mouser.com/

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1954185/mouser_eit2022_autonomousmobilerobots_pr_hires_en.jpg

Xinhua Silk Road: การประชุม ไฟแนนเชียล สตรีท ฟอรัม ปิดฉากด้วยการหารือเรื่องการสร้างศูนย์บริหารการเงินแห่งชาติ

การประชุม ไฟแนนเชียล สตรีท ฟอรัม (Financial Street Forum) ประจำปี 2565 ปิดฉากลงด้วยการพูดคุยและหารือเกี่ยวกับการปฏิรูปการเงินเชิงลึก รวมถึงการเปิดกว้างและส่งเสริมการสร้างไฟแนนเชียล สตรีท ที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้เป็นศูนย์บริหารการเงินแห่งชาติ

หลี่ เหวินหง (Li Wenhong) หัวหน้าสำนักงานกำกับดูแลการเงินท้องถิ่นแห่งกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า ทางสำนักงานจะดำเนินการปรับปรุงความสามารถในการให้บริการและปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมการเงินในกรุงปักกิ่งให้เหมาะสม เพื่อส่งเสริมบทบาทของไฟแนนเชียล สตรีท ในฐานะศูนย์บริหารการเงินแห่งชาติ และส่งเสริมการพัฒนาทางการเงินในท้องถิ่นให้มีคุณภาพสูงขึ้นในยุคใหม่

ซุน ซัว (Sun Shuo) เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเขตซีเฉิง กรุงปักกิ่ง เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สถาบันการเงินหลากหลายประเภทราว 1,900 แห่ง รวมถึงสำนักงานใหญ่ของสถาบัน 175 แห่ง ตั้งอยู่ในไฟแนนเชียล สตรีท ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่งและศาลการเงินปักกิ่งด้วยเช่นกัน และเสริมว่าตอนนี้ไฟแนนเชียล สตรีท มีฟังก์ชันมากขึ้นและระบบนิเวศทางการเงินก็ดีขึ้น

เขตซีเฉิงของกรุงปักกิ่งมุ่งมั่นที่จะสร้างไฟแนนเชียล สตรีท ให้กลายเป็นศูนย์บริหารการเงินแห่งชาติที่มีฟังก์ชันทางการเงินที่สมบูรณ์ ตลาดการเงินที่เปิดกว้าง สภาพแวดล้อมทางธุรกิจชั้นนำ และอิทธิพลระหว่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น คุณซุนกล่าวเสริม

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นพร้อมกับวาระครบรอบ 30 ปีแห่งการสร้างไฟแนนเชียล สตรีท ในเขตซีเฉิงของกรุงปักกิ่ง และมีการเน้นย้ำถึงบทบาทของไฟแนนเชียล สตรีท ในฐานะหน้าต่างที่แสดงให้เห็นการปฏิรูปและเปิดกว้างทางการเงินของจีน

เฉิน หยวน (Chen Yuan) รองประธานคณะกรรมการแห่งชาติประจำสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งประชาชนจีน (CPPCC) ชุดที่ 12 กล่าวว่า การประชุมปีนี้มีการนำเสนอแนวคิดมากมายที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของจีนในการเปิดกว้างมากขึ้นและมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจโลกอย่างมีความรับผิดชอบ

จาง เซียงเฉิน (Zhang Xiangchen) รองผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (WTO) กล่าวว่า การทบทวนประวัติศาสตร์ การสรุปประสบการณ์ รวมถึงการวิจัยเกี่ยวกับความท้าทายที่มีอยู่และแนวโน้มในอนาคต ถือว่ามีค่าอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนความทันสมัยของเศรษฐกิจจีน

การประชุมไฟแนนเชียล สตรีท ฟอรัม ประจำปี 2565 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 พฤศจิกายน ณ กรุงปักกิ่ง ร่วมกันเป็นเจ้าภาพโดยรัฐบาลประชาชนของเทศบาลนครปักกิ่ง ธนาคารกลางจีน สำนักข่าวซินหัว คณะกรรมการกำกับดูแลการธนาคารและการประกันภัยแห่งประเทศจีน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน และสำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน

ลิงก์ข่าวต้นฉบับ: https://en.imsilkroad.com/p/331334.html

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1957346/3.jpg

Kohle Capital Markets (KCM) ได้ประกาศให้ Rachael Jones เป็นนักวิเคราะห์ตลาดโลกอย่างเป็นทางการ

เมื่อวันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา Kohle Capital Markets (KCM) โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ชั้นนำระดับโลกและโบรกเกอร์ดิจิทัล ได้ประกาศให้ ราเชล โจนส์ ( Rachael Jones ) เป็นนักวิเคราะห์ตลาดโลก

คุณราเชล โจนส์ ( Rachael Jones ) มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปีในอุตสาหกรรมธุรกิจ การเงิน และการลงทุนในฐานะนักข่าวออกอากาศที่ได้รับรางวัล ประสบการณ์ที่กว้างขวางของเธอครอบคลุมข่าวทางวิทยุ โทรทัศน์ และแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งเธอได้สัมภาษณ์และกล่าวถึงข่าวด่วนที่สำคัญเกี่ยวกับบริษัทซื้อขายหลักทรัพย์สาธารณะและผู้ประกาศข่าวระดับโลกอย่าง Bill Gates

คุณราเชล โจนส์ ( Rachael Jones ) ได้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี (เกียรตินิยม) สาขาวารสารศาสตร์จากมหาวิทยาลัยลอนดอน นอกจากนี้เธอยังสำเร็จการศึกษาหลักสูตรด้านการเมืองทรัพยากรโลกที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและประกาศนียบัตรด้านกฎหมายการค้าและสัญญา

Kohle Capital Markets (KCM) มุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ในอุตสาหกรรมการซื้อขาย แลกเปลี่ยนอัตราสกุลเงินต่างประเทศ โดยคุณราเชล โจนส์ ( Rachael Jones ) เป็นผู้ดูแลวิเคราะห์กับแนวโน้มตลาดเชิงลึกและให้ความรู้แก่ลูกค้าทุกท่าน และเริ่ม บทบาทการสนับสนุน Kohle Capital Markets (KCM) ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ของออสเตรเลียที่ได้รับการควบคุม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและให้บริการที่ดียิ่งขึ้นแก่ลูกค้า

Kohle Capital Markets (KCM) กำลังดำเนินการสัมมนาผ่านเว็บและการสัมมนาอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือลูกค้าในการซื้อขายได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่วิดีโอการวิเคราะห์ตลาดรายวันของ Rachael จะให้ข้อมูลเชิงลึกและสื่อสารการศึกษาที่มีคุณภาพเกี่ยวกับการซื้อขายแลกเปลี่ยนอัตราสกุลเงินต่างประเทศ

เกี่ยวกับ Kohle Capital Markets

Kohle Capital Markets (KCM) ก่อตั้งขึ้นในปี 2559 โดยเริ่มเป็นผู้ให้บริการสภาพคล่องสำหรับโบรกเกอร์สถาบัน เมื่อเราเติบโตอย่างมีชื่อเสียงไปทั่วโลก บริษัทได้ขยายบริการเพื่อให้บริการผู้ค้าปลีกในปี 2019 โดยแพลตฟอร์มนายหน้าดิจิทัลช่วยให้เข้าถึงการซื้อขายฟอเร็กซ์ หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนีได้อย่างง่ายดายและง่ายดาย

Kohle Capital Markets เชื่อมโยงลูกค้าเข้ากับโอกาสในตลาดการซื้อขายแลกเปลี่ยนอัตราสกุลเงินต่างประเทศ ( Forex ) โดยการให้บริการซื้อขายที่เชื่อถือได้ ปรับแต่งได้ และรวดเร็ว

ด้วยความสำเร็จและรางวัลมากมาย Kohle Capital Markets ได้บริจาคและให้การสนับสนุนอันทรงเกียรติมากมายแก่สถานประกอบการระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในออสเตรเลีย

รางวัล

ผู้ให้บริการซื้อขายที่เติบโตเร็วที่สุด 2022

รางวัลโบรกเกอร์ Forex ที่โปร่งใสที่สุด 2022

โบรกเกอร์ ECN ที่ดีที่สุด 2022

A+OZ โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ STP/ECN ที่ดีที่สุดในปี 2021

รางวัล Forex โบรกเกอร์ ECN/STP ที่ดีที่สุดในปี 2020

การบริจาค/การสนับสนุน

บริจาคงานศิลปะให้กับไลออนส์คลับอินเตอร์เนชั่นแนลที่เมลเบิร์น Ausina ที่ Le Grange Gallery 2022

สนับสนุนงาน iFX Expo เอเชีย 2022

สนับสนุนม้าที่ได้รับรางวัลซิดนีย์ฮอร์สเรซซิ่งคัพครั้งที่ 1 ปี 2022

สนับสนุนงาน iFX Expo International 2022 ในประเทศไซปรัส

สนับสนุนเมลเบิร์น TVB สตาร์อะคาเดมี่ 2022

สนับสนุนการแข่งขันกอล์ฟการกุศลเมลเบิร์น Ausina Lions Club 2022

สนับสนุนการแข่งขันเมลเบิร์นโกลด์ทัวร์นาเมนต์ 2022

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา https://www.kohlecapital.com/

คำเตือนการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง:

ธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) และสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) เป็นเครื่องมือที่มีการเก็งกำไรสูงและมีความเสี่ยงสูงและอาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกราย ผู้ค้าอาจสูญเสียเงินลงทุนบางส่วนหรือทั้งหมดดังนั้นเขาจึงไม่ควรเก็งกำไรด้วยเงินทุนที่เขาไม่สามารถจ่ายได้

ผู้ซื้อขายควรตระหนักถึงความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายมาร์จิ้น ดังนั้นการอ่านนโยบายการเปิดเผยความเสี่ยงฉบับเต็มจึงเป็นที่พึงปรารถนา

ประเทศที่ถูกจำกัด:

Kohle Capital Markets ไม่ได้ให้บริการแก่ผู้อยู่อาศัยในเขตอำนาจศาลบางแห่ง รวมถึงสหรัฐอเมริกา คิวบา อิหร่าน ซูดาน ซีเรีย และเกาหลีเหนือ (เกาหลีเหนือ)

ข้อมูลข้างต้นไม่เหมาะสำหรับการแจกจ่ายหรือใช้งานโดยบุคคลใด ๆ ในเขตอำนาจศาลใด ๆ ดังกล่าวข้างต้น การแจกจ่ายหรือการใช้งานดังกล่าวอาจละเมิดกฎหมายหรือข้อบังคับในท้องถิ่น

Kohle Capital Markets(KCM) Announces Rachael Jones as Global Market Analyst

Kohle Capital Markets(KCM), a leading global forex broker announces Rachael Jones as its Global Market Analyst.

Rachael has over 15 years of experience in the Business, Finance, and Investment industry as an award-winning Broadcast Journalist. Her experience spans covering news on radio, television and online platforms, where she has interviewed and covered significant breaking news on public traded companies and global newsmakers like Bill Gates.

Rachael received a BA(Hons) in Journalism from the University of London, a Harvard University degree in Global Resource Politics and certification in Trade and Contract Law.

Focusing on Rachael's Forex Trading experience, KCM will address trends, educate consumers and initiate market growth. Her role supports KCM, a regulated Australian forex broker to cater to its clients' needs and provide better service to its clients.

KCM is conducting an ongoing series of webinars and seminars to better assist its clients in trading, while Rachael's daily market analysis videos will provide insight and quality educational material on forex trading.

About Kohle Capital Markets

Kohle Capital Markets(KCM) began as a liquidity provider for institutional brokers in 2016. As the brand grew in prestige globally, it expanded its services to serve retail traders, where its brokerage platform provides easy access to forex, stocks, commodities, and indices trading. 

Kohle Capital Markets connects its clients to opportunities in the Forex markets by providing reliable, customisable, and fast trading services.

Awards

Fastest Growing Trading Services Provider 2022

Most Transparent Forex Broker Award 2022

Best ECN Broker 2022

A+OZ Best STP/ECN Forex Broker 2021

Forex Awards Best ECN/STP Broker 2020

Donations

Lions Club International, Melbourne Ausina at Le Grange Gallery 2022

Sponsorships

iFX Expo Asia 2022

iFX Expo International 2022

Winning Horse, 1st Sydney Horse Racing Cup 2022

Melbourne TVB Stars Academy 2022

Melbourne Ausina Lions Club Charity Golf Tournament 2022

Melbourne Gold Tournament 2022

For further information, please visit: https://www.kohlecapital.com/ 

High-risk investment warning:

Foreign exchange transactions (Forex) and contracts for differences (CFDs) are highly speculative and risky instruments and may not be suitable for all investors. The trader may lose part or all of the investment capital, so he should not speculate with capital that he cannot afford.

?The trader should be aware of all the risks associated with margin trading. So reading the full risk disclosure policy is desirable. 

Restricted countries: 

Kohle Capital Markets does not provide services to residents of certain jurisdictions, including the United States, Cuba, Iran, Sudan, Syria, and North Korea (North Korea).

The information above is not suitable for distribution or use by anyone in any of the aforementioned jurisdictions. Such distribution or use may violate local laws or regulations.

เรียลซีจับมือมายหมู่บ้าน นำนิทรรศการไทยสู่ออนไลน์ด้วยทัวร์เสมือนจริง 3 มิติ

ใช้เครื่องสแกนเลเซอร์กาลัว วีอาร์ ของเรียลซี นำพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการขนาดใหญ่สู่โลกออนไลน์

เรียลซี (Realsee) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีทัวร์เสมือนจริง 3 มิติชั้นนำของโลก ร่วมกับมายหมู่บ้าน (MyMooBan) แพลตฟอร์มชุมชนดิจิทัลของไทย จัดงานยอดนิยม บ้านและสวนแฟร์ (Baan Lae Suan Fair) และงานมหกรรมบ้านและคอนโด (Thailand Real Estate and Property Show) ครั้งที่ 42 ในรูปแบบออนไลน์สำหรับผู้ชมจำนวนมากทั่วโลก

อุตสาหกรรมการประชุมและกิจกรรมต่าง ๆ ได้รับผลกระทบในช่วงโควิด เนื่องจากผู้เข้าร่วมไม่สามารถเดินทางไปร่วมงานสำคัญด้วยตนเองได้ การประชุมจำนวนมากจึงต้องหยุดชั่วคราวเป็นเวลานานกว่าสองปี เมื่อเผชิญกับความลำบากดังกล่าว อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมจึงได้ยอมรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล

ประสบการณ์ออนไลน์เป็นทางออกที่ดีสำหรับข้อจำกัดทางกายภาพของการป้องกันการแพร่ระบาด แต่ผู้จัดงานยังคงต้องการให้แน่ใจว่าประสบการณ์ของผู้เข้าร่วมนั้นเหมือนจริงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น วีอาร์ (VR) ก้าวเข้ามาแทนที่ โดยจัดการกับปัญหาหลักของอุตสาหกรรมการจัดงานอีเวนต์ในระหว่างการแพร่ระบาด และมอบประสบการณ์ออนไลน์ที่สมจริงให้กับผู้ใช้

มายหมู่บ้านจึงได้นำเทคโนโลยีการสร้างวีอาร์และ 3 มิติชั้นนำระดับโลกของเรียลซีมาใช้ในช่วงเวลานี้ ต้องขอบคุณความร่วมมือที่เป็นไปอย่างราบรื่นและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย งานขนาดใหญ่เหล่านี้จึงสามารถปูพรมต้อนรับผู้ชมทั่วโลกได้อย่างปลอดภัยและเป็นระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น

บ้านและสวนแฟร์: แปลงพื้นที่จัดแสดง 56,000 ตร.ม. เป็นระบบดิจิทัล

บ้านและสวนแฟร์เป็นงานแสดงสินค้ายอดนิยมงานหนึ่งของประเทศไทย ในฐานะงานบ้านและสวนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ในปี 2565 งานนี้ได้จัดขึ้นที่อิมแพ็คชาเลนเจอร์ ซึ่งเป็นศูนย์จัดงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีผู้แสดงสินค้ากว่า 2,000 ราย และผู้เยี่ยมชมงานราวห้าแสนคน

มายหมู่บ้านใช้เครื่องสแกนเลเซอร์ระดับมืออาชีพ กาลัว วีอาร์ (Galois VR Laser Scanner) ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเรียลซี เพื่อสแกนพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการอันกว้างใหญ่ถึง 56,000 ตารางเมตร แม้ในพื้นที่ขนาดใหญ่เช่นนี้ เครื่องสแกนเลเซอร์ กาลัว วีอาร์ สามารถจัดหาและสร้างวีอาร์ใหม่ที่มีประสิทธิภาพและมีความแม่นยำสูง ซึ่งเครื่องนี้มีความแม่นยำในการรับความลึกในระดับแนวหน้าของโลก โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนสัมบูรณ์ที่ต่ำเพียง 10 มม. กาลัวของเรียลซียังนำเสนอข้อมูลเชิงพื้นที่ในรัศมีสูงสุด 25 เมตร โดยมีอัตราความคลาดเคลื่อนต่ำกว่า 0.4% ซึ่งทำให้การทำงานในพื้นที่กว้างใหญ่อย่างบ้านและสวนแฟร์นั้นง่ายกว่าที่เคย

ด้วยประสิทธิภาพและความแม่นยำของเครื่องสแกนกาลัวของเรียลซี พื้นที่ไฮไลต์ทั้งแปดของงานจึงถูกสร้างขึ้นใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ ผู้เข้าชมจากทั่วโลกเข้าร่วมงานทางออนไลน์ พร้อมโอกาสเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ดิจิทัลอย่างเต็มที่ เพียงคลิกเดียว ผู้เข้าชมก็สามารถเข้าร่วมทัวร์ครั้งยิ่งใหญ่ของงานได้ทุกเมื่อ

"เนื่องจากสถานการณ์โควิด ผู้เข้าชมไม่สามารถมางานนิทรรศการของเราได้นานกว่าหนึ่งปี แต่ด้วยเทคโนโลยีของเรียลซีและแพลตฟอร์มของมายหมู่บ้าน เราจึงนำนิทรรศการมาสู่ผู้ชมแทน โดยใช้เทคโนโลยีวีอาร์ทั้งหมด เราหวังว่าจะได้ร่วมงานกันอีกครั้ง โดยใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อช่วยภัณฑารักษ์และแบรนด์ต่าง ๆ นำเสนองานนิทรรศการที่ยอดเยี่ยม" ผู้จัดงานบ้านและสวนแฟร์ กล่าว

งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42: สร้างประสบการณ์ 3 มิติที่สมจริง

สำหรับงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42 ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่ผ่านมา แพลตฟอร์มดิจิทัลของมายหมู่บ้านใช้กาลัวของเรียลซี เพื่อสร้างหอประชุมจำลองที่งดงามสมจริงในสัดส่วน 1:1 ผู้เข้าชมจากทั่วโลกสามารถสัมผัสกับศูนย์การประชุมระดับโลกได้โดยตรงผ่านวีอาร์

ความสำเร็จของงานในปีนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ งานนี้ไม่เพียงแค่เปิดแสดงโครงการของพวกเขาอย่างเต็มที่เท่านั้น แต่ยังสร้างแพลตฟอร์มการพัฒนาธุรกิจระยะยาวที่มีประสิทธิภาพผ่านวีอาร์ เนื่องจากพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการดิจิทัลยังคงอยู่ในระบบออนไลน์อีกเป็นระยะเวลานาน

"เราไม่สามารถจัดงานในสถานที่จริงมาเกือบสองปีครึ่งแล้วนับตั้งแต่ต้นปี 2563 การที่ไม่สามารถเยี่ยมชมสถานที่ให้บริการมีผลกระทบอย่างมากต่อยอดขาย แต่ตอนนี้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทุกรายได้เปลี่ยนกิจกรรมการขายเป็นแบบออนไลน์ ด้วยการเพิ่มเทคโนโลยีวีอาร์ของเรียลซี ทำให้ผู้แสดงสินค้าทุกประเภทสามารถเปิดให้เข้าชมทางออนไลน์ตลอดทั้งปี ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าจากทั่วโลกสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับโครงการและติดต่อกับทีมขายโดยตรงผ่านลิงก์วีอาร์ของนิทรรศการได้ทุกที่ทุกเวลา" ผู้จัดงานจากงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42 กล่าว

แอปพลิเคชันทัวร์เสมือนจริงวีอาร์แบบพาโนรามาในอุตสาหกรรมการจัดนิทรรศการมอบประโยชน์มากมายให้กับผู้จัดงานและผู้ใช้ ประการแรก ประสบการณ์ออนไลน์ที่เหมือนจริงช่วยลดความแออัดของผู้เข้าชมงานนิทรรศการออฟไลน์ ในขณะที่เพิ่มจำนวนผู้เข้าชมโดยรวมและมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ประการที่สอง ทัวร์ดังกล่าวยังเอาชนะข้อจำกัดทางกายภาพและข้อจำกัดอื่น ๆ เช่น มาตรการป้องกันการแพร่ระบาด

อุตสาหกรรมและองค์กรทุกประเภททั่วโลกกำลังใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีพาโนรามาวีอาร์ชั้นนำของเรียลซี และปรับเปลี่ยนรูปแบบประสบการณ์ผู้ใช้ด้วยความสมบูรณ์ของทัวร์วีอาร์เสมือนจริงออนไลน์

การรับรองมาตรฐาน RSPO เติบโตขึ้นจากสามประเทศในปี 2551 เป็น 21 ประเทศในปี 2564 คิดเป็น 4.5 ล้านเฮกตาร์ของพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันที่ยั่งยืน

แผนภูมิรายงานผลกระทบปี 2565 ของ RSPO สานต่อความพยายามด้านความยั่งยืนของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในการบรรเทาปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปรับปรุงวิถีชีวิตของเกษตรกรรายย่อย และยุติการเอารัดเอาเปรียบคนงาน

ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั่วโลกจากอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มรวมตัวกันเพื่อร่วมงาน RSPO Annual Roundtable on Sustainable Palm Oil (RT2022) ซึ่งเป็นการประชุมแบบพบหน้ากันครั้งแรกที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 โดยหัวใจหลักของงานอยู่ภายใต้หัวข้อ "การขยายห่วงโซ่คุณค่าน้ำมันปาล์มที่ยั่งยืนผ่านการดำเนินการร่วมกัน" งาน RT2022 ดึงดูดผู้เข้าร่วมเกือบพันคนที่เป็นตัวแทนของภาคส่วนสำคัญในห่วงโซ่มูลค่าน้ำมันปาล์ม เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาแรงงานที่สำคัญ และความก้าวหน้าเพิ่มเติมเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์โต๊ะกลมครั้งแรกนั้น Joseph D'Cruz ซีอีโอคนใหม่ ได้เปิดตัวรายงานผลกระทบประจำปี 2565 โดยเน้นย้ำถึงความก้าวหน้าที่น่าประทับใจของสมาชิก RSPO ในตัวชี้วัดความยั่งยืนที่หลากหลาย รายงานฉบับใหม่นำเสนอกรอบผลกระทบของ RSPO ใหม่ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ซึ่งประมวลเป็นชุดของผลกระทบเจ็ดประเด็น ได้แก่ การเคารพสิทธิมนุษยชน การสนับสนุนการรวมตัวของเกษตรกรรายย่อย การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม การป้องกันอัคคีภัย การจำกัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การรับรองขั้นสูง และการยกระดับตลาด

รายงานผลกระทบเปิดเผยความสำเร็จที่สำคัญหลายประการในช่วงเกือบสองทศวรรษที่ผ่านมานับตั้งแต่ก่อตั้ง RSPO รวมถึงการเพิ่มพื้นที่ที่ได้รับการรับรองทั่วโลกจาก 125,000 เฮกตาร์ (781,250 ไร่) ในสามประเทศในปี 2551 เป็น 4.5 ล้านเฮกตาร์ (28.125 ล้านไร่) กระจายอยู่ใน 21 ประเทศ ซึ่งพื้นที่ 301,020 เฮกตาร์ (1,881,375 ไร่) ได้รับการอนุรักษ์และคุ้มครองผ่านการรับรองจาก RSPO ประเด็นว่าด้วยความเคารพต่อสิทธิมนุษยชนในปัจจุบัน พนักงานประมาณครึ่งล้านคนในนิคมอุตสาหกรรมและโรงสกัดทั่วโลกได้รับการรับรองภายใต้หลักการและหลักเกณฑ์ของ RSPO (P&C) ประเด็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ได้รับการป้องกันตั้งแต่ปี 2558 สามารถลดลงได้เทียบเท่ากับรถยนต์เกือบ 400,000 คันที่ขับต่อปี นอกจากนี้ ในประเด็นกลุ่มเกษตรกรรายย่อยที่มีเกษตรกรเกือบ 5,000 รายในเซียร์ราลีโอนได้รับการรับรองเป็นกลุ่มเกษตรกรรายย่อยอิสระรายแรกในแอฟริกา ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวหน้าของการผลิตน้ำมันปาล์ม

ในคำกล่าวต้อนรับ D'Cruz กล่าวว่า "ความยั่งยืน คือ การเดินทาง และร่วมกับทีมงานของผมและสมาชิกทุกคน RSPO จะยังคงเดินหน้าสร้างเส้นทางให้กับภาคส่วนปาล์มน้ำมัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าการผลิตและการใช้ปาล์มมีความสำคัญอย่างไรต่อการสนับสนุนพันธสัญญาสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อเน้นย้ำถึงบทบาทของการผลิตปาล์มเพื่อชีวิตที่ดีและมีเกียรติแก่ครอบครัวในชนบทหลายล้านครอบครัวในประเทศกำลังพัฒนา เพื่อแสดงให้เห็นว่าสวนปาล์มน้ำมันที่ได้รับการจัดการและมีการฟื้นฟูปรับปรุงเป็นอย่างดีสามารถมีส่วนสำคัญในการอนุรักษ์สายพันธุ์และความหลากหลายทางชีวภาพได้อย่างไร"

แอนน์ โรเซนบาร์เกอร์ (Anne Rosenbarger) และ ดาโต๊ะ คาร์ล เบ๊ค เนลสัน (Dato' Carl Bek-Nielsen) ประธานร่วมของคณะกรรมการนโยบาย RSPO (RSPO Board of Governors) ร่วมกันเรียกร้องให้มีการตอบสนองอย่างเป็นเอกภาพเพื่อเพิ่มศักยภาพของภาคส่วนในการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่คุณค่าน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืนไว้ว่า "ในช่วงเวลาที่ประชาคมโลกกำลังต้องการวิธีแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงและปฏิบัติได้เพื่อช่วยโลกที่ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ประวัติการทำงานของ RSPO แสดงให้เห็นว่าเรากำลังสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงให้กับโลกและผู้คน ความมุ่งมั่นของสมาชิก RSPO ต่อความรับผิดชอบร่วมกันนำมาซึ่งการดำเนินการร่วมกัน ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด โดยไม่คำนึงว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใดในห่วงโซ่คุณค่า"

สมาชิกสะท้อนให้เห็นว่า RSPO ต้องเรียกร้องความสนใจจากตลาดผู้บริโภคที่มีความสำคัญ เช่น จีน อินเดีย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ให้เลือกใช้น้ำมันปาล์มที่ยั่งยืน และเข้าร่วมการริเริ่มร่วมกันเพื่อให้ RSPO มีผล เปลี่ยนแปลงต่ออุปสงค์และอุปทานน้ำมันปาล์มที่ยั่งยืนทั่วโลก

เกี่ยวกับ RSPO

Roundtable on Sustainable Palm Oil (RSPO) ก่อตั้งขึ้นในปี 2547 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเติบโตและการใช้ผลิตภัณฑ์ปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืนผ่านมาตรฐานระดับโลกที่น่าเชื่อถือและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย RSPO เป็นองค์กรสมาชิกระหว่างประเทศที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่รวบรวมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากภาคส่วนต่าง ๆ ของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ได้แก่ ผู้ผลิตปาล์มน้ำมัน ผู้แปรรูปหรือผู้ค้าน้ำมันปาล์ม ผู้ผลิตสินค้าอุปโภค บริโภค ผู้ค้าปลีก ธนาคาร และนักลงทุน องค์กรพัฒนาเอกชนด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือธรรมชาติ และองค์กรพัฒนาเอกชนเพื่อสังคมหรือการพัฒนา

การเป็นตัวแทนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายส่วนนี้ สะท้อนให้เห็นในโครงสร้างการกำกับดูแลของ RSPO ซึ่งที่นั่งในคณะกรรมการนโยบาย คณะกรรมการขับเคลื่อน และคณะทำงานได้รับการจัดสรรอย่างเป็นธรรม ให้กับแต่ละภาคส่วน ด้วยวิธีนี้ RSPO ปฏิบัติตามหลักปรัชญาของ "โต๊ะกลม" โดยให้สิทธิเท่าเทียมกันแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละกลุ่ม อำนวยความสะดวกแก่ผู้มีส่วนได้เสียที่เป็นปฏิปักษ์ตามประเพณีดั้งเดิมในการทำงานร่วมกัน เพื่อบรรลุการตัดสินใจโดยฉันทามติ และบรรลุวิสัยทัศน์ร่วมกันของ RSPO ในการสร้างบรรทัดฐานของน้ำมัน ปาล์มที่ยั่งยืน

RSPO จดทะเบียนที่ตั้งองค์กรที่เมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่สำนักงานเลขาธิการประจำอยู่ที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีสำนักงานในกรุงจาการ์ตา ลอนดอน ซูเธอร์เมียร์-เนเธอร์แลนด์ ปักกิ่ง โบโกตา-โคลัมเบีย และนิวยอร์ก

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1957528/image_1.jpg

Xinhua Silk Road: เมืองหนิงเต๋อ มณฑลฝูเจี้ยน จัดเทศกาลบูชาเทพธิดาแห่งท้องทะเล ผสานรวมวัฒนธรรมข้ามช่องแคบไต้หวัน

 

เทศกาลวัฒนธรรมเฉินจิ้งกู (Chen Jinggu Cultural Festival) ซึ่งเป็นเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้น 3 วันเพื่อบูชาเทพธิดาแห่งท้องทะเล ได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ณ วัดบรรพบุรุษพระราชวังหลินซุ่ย (Linshui Palace Ancestor Temple) ในอำเภอกู่เถียน เมืองหนิงเต๋อ มณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกของจีน

ภายในงานได้มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบไต้หวันและสนับสนุนความเชื่อพื้นบ้านเกี่ยวกับเทพธิดา เช่น พิธีบูชา การจัดแสดงสินค้าเกษตร การรักษาพยาบาลฟรี และการบันทึกเรื่องราวทางวัฒนธรรมบนแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นโต่วอิน (Douyin)

เทพธิดาเฉินจิ้งกูแห่งหลินซุ่ย ได้รับการเคารพบูชาในฐานะผู้พิทักษ์ของหญิงตั้งครรภ์และเด็ก ๆ โดยดึงดูดผู้ศรัทธาจำนวนมากจากทั้งสองฟากฝั่งของช่องแคบไต้หวันให้เข้าร่วมงานทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์

หลังผ่านกาลเวลายาวนานนับพันปี วัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับเทพธิดาแห่งท้องทะเล ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากวัดพระราชวังหลินซุ่ยในอำเภอกู่เถียน ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมทั้งสองฟากฝั่งของช่องแคบไต้หวัน และส่งอิทธิพลไปถึงชุมชนชาวจีนทั่วโลก

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ อำเภอกู่เถียนได้พยายามอย่างเต็มที่ในการส่งเสริมคติความเชื่อเกี่ยวกับเทพธิดาเฉินจิ้งกู เพื่อให้เป็นสายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมที่หลอมรวมผู้คนทั้งสองฝั่งของช่องแคบไต้หวันให้เป็นหนึ่งเดียว ผ่านการส่งเสริมความสอดคล้องกันของวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ตลอดจนสนับสนุนจิตวิญญาณแห่งความเมตตากรุณาปรานีในคติความเชื่อนี้

ลิงก์ข่าวต้นฉบับ: https://en.imsilkroad.com/p/331391.html

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1957677/Futian.jpg
คำบรรยายภาพ - ภาพการจัดเทศกาลวัฒนธรรมเฉินจิ้งกูเมื่อวันอาทิตย์ ณ วัดบรรพบุรุษพระราชวังหลินซุ่ย ในอำเภอกู่เถียน เมืองหนิงเต๋อ มณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกของจีน

"วีเมด" เปิดตัวเกมใหม่ พร้อมเป็นผู้สนับสนุนงานจี-สตาร์ ประจำปี 2565

 

• เผยสุดยอดเกม MMORPG "ไนท์ คราวส์" ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนเมษายนปีหน้า และ "เลเจนด์ ออฟ อีเมียร์"
• เฮนรี ชาง กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อเศรษฐกิจระหว่างเกมและเมตาเวิร์ส ซึ่งเชื่อมโยงเศรษฐกิจในเกมกับชีวิตจริงเข้าไว้ด้วยกัน

วีเมด (Wemade) เปิดตัวเกมใหม่อย่างไนท์ คราวส์ Night Crows) และเลเจนด์ ออฟ อีเมียร์ (Legend of YMIR) ภายในงานจี-สตาร์ (G-STAR) ประจำปี 2565 ซึ่งเป็นงานเกมโชว์ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี

ไนท์ คราวส์ จากค่ายแมดเอ็นจิน (MADNGINE) เป็นเกมแนว MMORPG คุณภาพสูง มาพร้อมสุดยอดกราฟิกสมจริงที่สร้างโดยอันเรียล เอ็นจิน 5 (Unreal Engine 5) มีกำหนดเปิดตัวในเดือนเมษายน 2566 โดยแมดเอ็นจินเกิดจากการรวมตัวระหว่างเจ้าแห่งเกม MMORPG อย่างคุณเมียนซอก ซอน (Myeonseok Son) และคุณจองวุก ลี (Jeongwook Lee)

จุดที่น่าสนใจหลักของไนท์ คราวส์ ได้แก่ระบบต่อสู้ระหว่างผู้เล่น (PVP) ขนาดใหญ่ที่เปิดให้ผู้เล่นมากกว่า 1,000 คนสามารถเข้าร่วม เพื่อร่วมประลองและสัมผัสการเคลื่อนไหวทั้งในอากาศและบนพื้นดินสุดอลังการ ท่ามกลางเนื้อเรื่องซึ่งอิงจากยุคกลางที่ดึงดูดความสนใจจากฝูงชนผ่านการต่อสู้ในพื้นที่เปิดโล่ง

ส่วนเลเจนด์ ออฟ อีเมียร์ ซึ่งกำลังพัฒนาโดยวีเมด เอ็กซ์อาร์ (Wemade XR) เป็นเกมแนว MMORPG ที่สร้างจากตำนานเทพเจ้านอร์ส "อีเมียร์" เป็นสิ่งมีชีวิตตัวแรกและเป็นยักษ์ในนิยาย ตัวเกมจะนำผู้เล่นเพลิดเพลินไปกับเนื้อเรื่องที่ต่อเนื่องของซีรีส์เมีย (Mir) โดยก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคม ได้มีการเปิดตัววิดีโอแนะนำเกมที่ใช้อันเรียล5 (Unreal5) แล้ว

เลเจนด์ ออฟ อีเมียร์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวละครที่ต้องการหยุดการมาถึงของโศกนาฏกรรมแร็คนาร็อก (Ragnarok) ซึ่งเป็นวันสิ้นโลกที่เกิดขึ้นทุก 9,000 ปีบนทวีปอีเมียร์ การจับภาพใบหน้าจะทำให้การเคลื่อนไหวสมจริง และทำให้กราฟิกดูเหมือนมีชีวิตและสร้างความเพลิดเพลินให้แก่ผู้เล่น

นอกเหนือจากกิจกรรมหลักภายในงานแล้ว คุณเฮนรี ชาง (Henry Chang) ซีอีโอของวีเมด ยังได้ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานจี-คอน เอ็กซ์ ไอจีซี (G-CON X IGC) ในหัวข้อ "กระบวนทัศน์ใหม่: เศรษฐกิจระหว่างเกมและเมตาเวิร์ส" (New Paradigm: Inter-game economy and the Metaverse) ด้วย

นักพัฒนาและผู้จัดการจำนวนมากจากหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นเกมออนไลน์ คอนโซล มือถือ อินดี้ เมตาเวิร์ส และอื่น ๆ ได้รับเชิญให้ร่วมพูดคุยภายในงานจี-คอนในปีนี้ โดยคุณเฮนรี ชาง ได้รับเกียรติเป็นวิทยากรคนแรก

"แม้จะยังคงมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลอยู่ แต่วีเมดมีวิสัยทัศน์ที่ไม่เหมือนใครสำหรับวีมิกซ์ และนั่นคือเหตุผลที่เราเปิดตัวแพลตฟอร์ม DAO และ NFT อย่าง NILE, บริการ DeFi อย่าง WEMIX.Fi และสเตเบิลคอยน์อย่าง WEMIX$"

หลังจากอธิบายว่าเพราะเหตุใดวีเมดจึงก้าวเข้าสู่ธุรกิจบล็อกเชน เขากล่าวว่าเกมเป็นเครื่องมือสำหรับเทคโนโลยีดิจิทัลและบล็อกเชน

"เมีย4 โกลบอล (MIR4 Global) ซึ่งมีทั้งเกมเพลย์ที่สนุกสนานและเทคโนโลยีบล็อกเชน ได้เปิดตลาด P&E (การเล่นเพื่อสร้างรายได้) ทั่วโลก และกลายเป็นเกมอันดับ 1 ของโลก" เขากล่าว พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่าการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ เพื่อเชื่อมต่อการออกแบบเศรษฐกิจในเกมที่ดีและคุณค่าในชีวิตจริงคือสาเหตุที่ทำให้เกมนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก "การพัฒนาเกมบล็อกเชนที่ยอดเยี่ยมอย่างเมีย4 โกลบอล คือสิ่งที่ทำให้วีมิกซ์เพลย์เป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดในโลก"

นอกจากนี้ เขายังย้ำว่า วีมิกซ์เพลย์จะสร้างตัวเองให้เป็นแพลตฟอร์มแบบเปิดทั่วโลกในปี 2566 "เกมกว่า 100 เกมจะเปิดให้บริการภายในไตรมาสแรกของปี 2566 โดยการให้บริการแพลตฟอร์มขั้นสูงที่ทุกคนสร้างเศรษฐกิจโทเคนเฉพาะของตนเองได้คือเป้าหมายของเรา"

ภายใต้ธีม "ชีวิตคือเกม" (Life is Game) วีเมดได้นำเสนอระบบนิเวศวีมิกซ์ และเปิดตัวเกมใหม่ 2 เกม ได้แก่ "ไนท์ คราวส์" และ "เลเจนด์ ออฟ อีเมียร์" ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของงานจี-สตาร์ ประจำปี 2565

เกี่ยวกับวีมิกซ์

วีมิกซ์ (WEMIX) เป็นแพลตฟอร์มเกมบล็อกเชนที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท วีมิกซ์ จำกัด (WEMIX Pte. Ltd) โดยให้บริการหลากหลายรูปแบบ ทั้งคริปโทเคอร์เรนซีวอลเล็ต ตลาดซื้อขายโทเคนไร้คนกลาง ตลาดซื้อขายเอ็นเอฟที การทำสเตกกิ้งวีมิกซ์ และเกมเกตเวย์ บริษัท วีมิกซ์ จำกัด เป็นบริษัทในเครือวีเมด ผู้พัฒนาและเจ้าของเกมที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีด้วยยอดผู้ใช้งานกว่า 500 ล้านรายอย่าง "เดอะ เลเจนด์ ออฟ เมีย" (The Legend of Mir)

เกี่ยวกับวีเมด

วีเมด (Wemade) เป็นผู้บุกเบิกการพัฒนาเกมจากเกาหลี นำเทรนด์โลกเมตาเวิร์สและบล็อกเชน (NFT, DeFi) โดยมุ่งสร้างประสบการณ์การเล่นเกมแบบเฉพาะบุคคล วีเมดหวังใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนพลิกโฉมเกม และดันให้โทเค็นวีมิกซ์ (WEMIX) เป็นสกุลเงินหลักในวงการเกม

ติดต่อ

ริช แบค (Rich Bak) (บริษัท วีมิกซ์ จำกัด / สิงคโปร์) อีเมล: rich@wemix.com

วอนยุล ลี (Wonyul Lee) (วีเมด / โซล) อีเมล: wylee@wemade.com

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1957485/HenryChang_Wemade_keynote_2022GSTAR.jpg

คำบรรยายภาพ - เฮนรี ชาง กล่าวปาฐกถาพิเศษที่งานจี-สตาร์ ประจำปี 2565

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1957486/LegendOfYmir_2022GSTAR.jpg

คำบรรยายภาพ - เลเจนด์ ออฟ อีเมียร์

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1957487/NightCrows_2022GSTAR.jpg

คำบรรยายภาพ - ไนท์ คราวส์