เซินเจิ้น, จีน--2 ส.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำแห่งหนึ่งที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างทางตะวันออกเฉียงใต้ของสปป.ลาวนั้นได้พังถล่มลงมา ส่งผลให้มีผู้สูญหายกว่าหลายร้อยคน ประชากรไร้ที่อยู่ประมาณ 6,600 คน และมีอีกเกือบ 3,000 คนที่ยัง "รอรับความช่วยเหลือ" สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยและฝนที่ยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่องได้ทำลายเส้นทางจราจรส่วนใหญ่ อย่างไรก็ดี ทีมกู้ภัยยังคงปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มที่ในสภาวะที่ยากลำบากเช่นนี้
หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว องค์กรอาสาสมัครฝ่ายพลเรือนหลาย ๆ แห่งที่มีแผนเดินทางไปสปป.ลาวเพื่อปฏิบัติภารกิจทางด้านมนุษยธรรมนั้นได้ติดต่อ Hytera เพื่อขอการสนับสนุนด้านการสื่อสารผ่านระบบ PMR ซึ่งทาง Hytera ก็ได้ตอบสนองทันที และได้พัฒนาแผนการสื่อสารฉุกเฉินขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยเมื่อเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 26 กรกฏาคมตามเวลาจีน สำนักงาน Hytera สาขาสปป.ลาวและกลุ่มผู้จัดจำหน่ายในพื้นที่ ได้มีการเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารอย่างครบครัน ขณะที่ทีมวิศวกรเทคนิคในพื้นที่จากแผนกบริการลูกค้าต่างประเทศ ได้ประจำการพร้อมปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรุดให้บริการสนับสนุนได้ทันทีที่ต้องการ
จากนั้นเมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 27 กรกฏาคมตามเวลาจีน Hytera ได้รับการติดต่อจาก Blue Sky Rescue ("BSR") องค์กรเพื่อมนุษยธรรมนอกภาครัฐของจีน ซึ่งแจ้งว่าศูนย์บัญชาการของทางองค์กรนั้นติดต่อหาทีมกู้ภัยไม่ทันเวลาเนื่องจากสัญญาณอ่อน โดยสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนทำให้ทางศูนย์กังวลเรื่องความปลอดภัยของทีมกู้ภัย และหวังว่า Hytera จะแก้ไขปัญหาด้านการสื่อสารให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
เมื่อได้ติดต่อสื่อสารกับ BSR เพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมแล้ว ทีมเทคนิคของ Hytera จึงได้คิดค้นโซลูชั่นสื่อสารฉุกเฉินขึ้นเป็นพิเศษ และได้ลำเลียงอุปกรณ์เครื่องมือถึงที่หมายภายในเวลาอันรวดเร็ว
ทั้งนี้ Hytera บริษัทชั้นแนวหน้าของโลกด้านโซลูชั่นวิทยุสื่อสารเคลื่อนที่สำหรับมืออาชีพ (PMR) ตระหนักถึงความสำคัญและบทบาทที่แทนกันไม่ได้ของการสื่อสารผ่าน PMR ในสถานการณ์กู้ภัยฉุกเฉิน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Hytera ให้การสนับสนุนแก่ BSR ในการกู้ภัยมาแล้วหลายโอกาส ไม่ว่าจะเป็นเหตุแผ่นดินไหวที่เนปาล ภัยน้ำท่วมที่เมียนมา และภัยดินถล่มที่กวงหมิง โดย Hytera จะยังคงทุ่มเทให้กับภัยเขื่อนแตกในสปป.ลาวต่อไป และให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
No comments:
Post a Comment