Friday, November 2, 2018
Quantstamp จับมือ OmiseGo สร้างระบบนิเวศอีเธอเรียมที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี Plasma MVP
- เทคโนโลยีนี้จะปูทางสู่ความสามารถในการขยายระบบเพื่อรองรับการใช้งาน รวมทั้งเข้ามาเปลี่ยนเกมสำหรับอนาคตของอีเธอเรียมอย่างมีนัยสำคัญ
Quantstamp บริษัทรักษาความปลอดภัยบล็อกเชนที่ได้รับการสนับสนุนจาก Y-Combinator ได้ดำเนินการตรวจสอบครั้งสำคัญที่สุดเมื่อไม่นานมานี้ ได้แก่ การตรวจสอบการวางระบบ Minimum Viable Plasma (MVP) ของ OmiseGo
วัตถุประสงค์การตรวจสอบของ Quantstamp คือเพื่อประเมินพื้นที่เก็บข้อมูล OmiseGo Plasma MVP สำหรับการรับมือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย คุณภาพของรหัส ตลอดจนการดำเนินงานตามข้อกำหนดและแนวปฎิบัติที่ดีที่สุด โดยเป้าหมายการออกแบบของ Plasma MVP คือการคงไว้ซึ่งการรับประกันความปลอดภัยของการปรับโครงสร้างห่วงโซ่หลักที่มีอยู่ ซึ่งผู้ตรวจสอบของ Quantstamp พบช่องโหว่ที่สามารถหลีกเลี่ยงการป้องกันนี้ และทีมของ OmiseGo ได้แก้ไขช่องโหว่ดังกล่าวแล้ว
"Plasma สามารถนำเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาความท้าทายที่ขัดขวางอีเธอเรียมไม่ให้บรรลุเป้าหมายการออกแบบ" คุณสตีเวน สจ๊วต ซีทีโอของ Quantstamp กล่าว "เราเชื่อว่าสิ่งนี้จะช่วยให้ระบบนิเวศทั้งระบบเคลื่อนไปข้างหน้า และเรารู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ยกระดับความปลอดภัยของต้นแบบความสามารถในการขยายระบบนี้"
OmiseGO เป็นบริษัทที่พัฒนาแฟลตฟอร์มการชำระเงินแบบเปิดและการแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นโซลูชั่น White Label และปลอดภัยสำหรับบรรดาร้านค้าและองค์กรธุรกิจ โดย Minimum Viable Plasma ถือเป็นผลงานต้นแบบของ Plasma ซึ่งเป็นโซลูชั่นการปรับขนาดระดับ Layer 2 ชั้นนำที่พัฒนาบนเครือข่ายอีเธอเรียม ด้วยเป้าหมายที่สูงส่งในการเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลแบบเครือข่ายต่อเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก Plasma มาพร้อมกับขีดความสามารถในการเป็นผู้เปลี่ยนเกมสำหรับทั้ง OmiseGo และระบบนิเวศทั้งหมดของอีเธอเรียม
แก้ปัญหาความท้าทายด้านการขยายระบบ
เพื่อให้มีการนำอีเธอเรียมไปใช้งานในวงกว้าง จึงจำเป็นจะต้องเอาชนะความท้าทายด้านการขยายระบบ โดยในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2560 แอปพลิเคชัน CryptoKitties เพียงแอปเดียว เป็นสาเหตุให้เครือข่ายอีเธอเรียมเกิดความแอดอัดเป็นอย่างหนัก หากอีเธอเรียมต้องการที่จะบรรลุขีดความสามารถอย่างเต็มที่ อีเธอเรียมจะต้องสามารถจัดการกับปริมาณธุรกรรมของแอปพลิเคชั่นยอดนิยมจำนวนมากในเวลาเดียวกันได้
ในปัจจุบัน อีเธอเรียมยังไม่มีศักยภาพในการจัดการกับธุรกรรมจำนวนมากเช่นนี้ได้ เนื่องจากบล็อกเชนของอีเธอเรียม ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Layer 1 นั้น สามารถประมวลผลข้อมูลต่อบล็อกได้ในจำนวนจำกัดเท่านั้น เพื่อรับรองความปลอดภัยและการคงสภาพของธุรกรรม
Plasma เป็นเทคโนโลยีที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อขยายระบบอีเธอเรียมให้สามารถจัดการกับอัตราการทำธุรกรรมที่เพิ่มสูงขึ้นในจำนวนมาก ด้วยการลดปริมาณข้อมูลที่เก็บไว้ในบล็อกเชนหลักโดยตรง Plasma มุ่งมั่นที่จะสร้างบล็อกเชนที่อยู่ "เหนืออีเธอเรียม" ซึ่งช่วยให้สามารถทำธุรกรรมได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและมีราคาถูกลง แต่ยังต้องอาศัยห่วงโซ่หลักในการรักษาความปลอดภัย
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment