Friday, June 28, 2019

จังหวัดยามางาตะเผยแพร่วิดีโอแนะนำสองสถานที่ท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณ “เดวะซังซัน” และ “ยามาเดระ” รวมถึง “ดอกคำฝอย” สัญลักษณ์ประจำจังหวัด

          จังหวัดยามางาตะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น เผยแพร่สองคลิปวิดีโอโปรโมทจังหวัด โดยคลิปแรกชูจุดเด่นของ "โชจินเรียวริ" อาหารเจดั้งเดิมที่สืบทอดมาแต่โบราณ ณ "เดวะซังซัน" (ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสาม) ส่วนคลิปที่สองบอกเล่าเรื่องราวของดอกคำฝอย ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดยามางาตะ รวมถึงความงดงามของวัด "ยามาเดระ" ที่ตั้งอยู่บนภูเขา โดยสถานที่ทั้งสองต่างได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกญี่ปุ่น

เดวะซังซัน

ดอกคำฝอย

ยามาเดระ

          1. เกี่ยวกับโชจินเรียวริ ณ เดวะซังซัน

          นับตั้งแต่สมัยโบราณ ผู้ที่เคารพบูชาธรรมชาติได้มาบำเพ็ญตนบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสาม ตามความเชื่อที่ว่าจะได้รับของขวัญจากธรรมชาติที่ทำให้ร่างกายบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นความเชื่อที่อยู่เบื้องหลังโชจินเรียวริ (การรับประทานอาหารเจเพื่อบำเพ็ญตน) ในแบบฉบับอาหารของเดวะซังซัน

          เว็บไซต์: https://nihonisan-dewasanzan.jp/en/
          วิดีโอ: https://www.youtube.com/watch?v=fwec4d1T_Z0

          2. เกี่ยวกับเรื่องราวของ "วัฒนธรรมดอกคำฝอยที่ผูกพันกับวัดยามาเดระ"

          ในต้นยุคเอโดะ (ค.ศ.1603-1867) จังหวัดยามางาตะเจริญรุ่งเรืองในฐานะแหล่งปลูกดอกคำฝอยชั้นนำของญี่ปุ่น การขายดอกคำฝอยให้กับเกียวโตและโอซาก้ามีความสำคัญยิ่งต่อเศรษฐกิจของยามางาตะ โดยนำความมั่งคั่งและวัฒนธรรมคามิงาตะ (ญี่ปุ่นตะวันตก) อันดีงามมาสู่จังหวัด เช่น เสื้อผ้าย้อมสีดอกคำฝอย และตุ๊กตา "ฮินะ" เป็นต้น ว่ากันว่าในช่วงเวลานั้นดอกคำฝอยมีราคาสูงกว่าทองคำนับ 10 เท่า และมีราคาสูงกว่าข้าวนับ 100 เท่า

          ดอกคำฝอยคือดอกไม้มหัศจรรย์ โดยนอกจากจะนำไปทำลิปสติกและสีย้อมผ้าแล้ว ยังสามารถใช้ทำอาหารและปรุงยาจีนแผนโบราณได้ด้วย ดอกคำฝอยเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดยามางาตะ และช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการชมดอกคำฝอยที่สุดคือเดือนกรกฎาคม ทุ่งดอกคำฝอยที่เบ่งบานเต็มที่สวยสดงดงามจนได้รับการพรรณาในบทกวีของ "บาโช" กวีเอกยุคโบราณของญี่ปุ่น นอกจากนี้ ความมั่งคั่งที่ดอกคำฝอยนำมาสู่จังหวัดยามางาตะยังมีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับวัดยามาเดระ หนึ่งในสถานที่อันงดงามที่สุดของจังหวัดยามางาตะ

          เว็บไซต์: https://yamadera-benibana.jp/
          วิดีโอ: https://www.youtube.com/watch?v=yf3gt2nnm6g

          เกี่ยวกับมรดกญี่ปุ่น
          ทรัพย์สินและสมบัติทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ของญี่ปุ่น เช่น ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมในท้องถิ่น ได้รับการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นผ่านการเล่าขาน เรื่องราวที่บอกเล่าถึงมรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ในท้องถิ่นเหล่านี้ ได้รับการรับรองจากสำนักงานวัฒนธรรมให้เป็น "มรดกญี่ปุ่น"

          ที่มา: เทศบาลจังหวัดยามางาตะ

Videos Introduce Two Spiritual Spots in Yamagata Prefecture, "Dewa Sanzan" and "Yamadera," and Prefectural Symbol "Safflowers"

          Yamagata Prefecture in northeastern Japan has released two promotional videos. The first focuses on "Shojin Ryori"--traditional vegetarian cuisine passed down since antiquity--of the "Dewa Sanzan" (Three Mountains of Dewa) region--and the second introduces the story of safflowers--Yamagata's prefectural flower--and the picturesque "Yamadera" mountain temple. Both have been certified as Japan Heritage sites.


Dewa Sanzan

Safflowers

Yamadera

          1. About Dewa Sanzan Shojin Ryori

          Since long ago, worshippers of nature have practiced on these mountains in the Dewa region based on the belief that they can receive more of these gifts which purify their bodies; faith behind Shojin Ryori (ascetic vegetarian cuisine) that is one characteristic of Dewa Sanzan cuisine.

          Website: https://nihonisan-dewasanzan.jp/en/
          Video: https://www.youtube.com/watch?v=fwec4d1T_Z0

          2. About "Safflower Culture Supported by Yamadera Temple" story

          In the early Edo Period (1603-1867), Yamagata prospered as the top location in Japan that produced safflowers. The safflower trade to Kyoto and Osaka was a cornerstone of Yamagata's economic culture, bringing great wealth and magnificent Kamigata (western Japan) culture to the prefecture, such as safflower-dyed clothing and "Hina" dolls. At the time, the price of safflowers was said to be 10 times that of gold and 100 times that of rice.

          The safflower is a wondrous flower, used not only for lipsticks and dyes, but also in cooking and Chinese medicine. It is Yamagata Prefecture's symbolic flower, and the best time to see it is in July. The beauty of safflower fields in full bloom is so sweet that it was even noted in ancient master poet Basho's works. In addition, the prosperity that safflowers brought to Yamagata is deeply related to one of Yamagata's most picturesque locations, Yamadera.

          Website: https://yamadera-benibana.jp/
          Video: https://www.youtube.com/watch?v=yf3gt2nnm6g

          About Japan Heritage
          Japanese tangible and intangible cultural properties/assets, i.e. regional histories, traditions and customs, are passed down for generations through narratives. These stories, telling of the legacy of local culture and history, have been designated as "Japan Heritage" by the Agency of Cultural Affairs.

          Source: Yamagata Prefectural Government

ZTE คว้ารางวัลบริการมือถือยอดเยี่ยมเพื่อชีวิตที่เชื่อมต่อถึงกันในเอเชีย จากความเป็นเลิศของโซลูชั่น ATG Air Broadband

          ZTE Corporation (0763.HK / 000063.SZ) ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชั่นโทรคมนาคมและเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตมือถือสำหรับองค์กรและผู้บริโภค ประกาศว่า ZTE ได้รับรางวัลบริการมือถือยอดเยี่ยมเพื่อชีวิตที่เชื่อมต่อถึงกันในเอเชีย (Best Mobile Service for Connected Living in Asia Award) ที่งาน Mobile World Congress (MWC) Shanghai 2019 จากความเป็นเลิศของโซลูชั่น Air to Ground (ATG) Air Broadband



          โซลูชั่น Air to Ground (ATG) ของ ZTE ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารเคลื่อนที่ภาคพื้นดินที่สมบูรณ์เพื่อสร้างเครือข่ายบรอดแบนด์สามมิติที่ครอบคลุมจากพื้นดินถึงอากาศ ซึ่งทำให้สามารถมอบบริการความบันเทิงบนเครื่องบิน การทำงานบนเครื่องบิน บริการที่ปรับแต่งได้ตามต้องการ และบริการแอปพลิเคชันอุตสาหกรรมที่ครอบคลุม โซลูชั่น ATG ของ ZTE รองรับความเร็วสูงถึง 1200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ครอบคลุมรัศมี 300 กิโลเมตร เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับบริการความเร็วสูงที่มีความเสถียรกลางอากาศ

          ZTE ได้ก้าวเข้าสู่แวดวง ATG ตั้งแต่ปี 2552 ด้วยความสามารถในการรวมเทคโนโลยีการสื่อสารภาคพื้นดินต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ทำให้ ZTE สามารถเอาชนะอุปสรรถนานัปการ เช่น การใช้งานในสถานการณ์พิเศษ การครอบคลุมของสัญญาณในพื้นที่พิเศษ และการรบกวนเครือข่ายภาคพื้นดิน

          ZTE เป็นผู้นำในสาขา ATG มาเป็นเวลาหลายปี โดยในปี 2552 บริษัทได้พัฒนาเครือข่าย 3G ATG เครือข่ายแรกขึ้น ต่อมาในปี 2557 บริษัทได้ดำเนินการทดสอบ LTE ATG ครั้งแรกในอุตสาหกรรมร่วมกับสายการบินแอร์ไชน่า และเปิดเส้นทางบินทดสอบสองเส้นทาง จากนั้นในปี 2560 เครื่องบินลำแรกที่ติดตั้งเทคโนโลยี 4G ATG ความถี่ร่วมจากอากาศสู่พื้นดิน ประสบความสำเร็จในการขึ้นบิน จวบจนปัจจุบัน ZTE มุ่งมั่นที่จะพัฒนาและวิจัยโซลูชั่น 5G ATG เพื่อนำเสนอประสบการณ์ 5G บนอากาศ

          เกี่ยวกับ ZTE

          ZTE เป็นผู้ให้บริการระบบโทรคมนาคมขั้นสูง อุปกรณ์เคลื่อนที่ และโซลูชันเทคโนโลยีระดับองค์กร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ผู้ให้บริการเครือข่าย ภาคธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐ ZTE มุ่งมั่นที่จะนำเสนอนวัตกรรมแบบบูรณาการครบวงจรให้แก่ลูกค้าตามกลยุทธ์ M-ICT ของบริษัท เพื่อมอบคุณค่าและความเป็นเลิศในยุคที่เทคโนโลยีโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ZTE จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและเซินเจิ้น (รหัสหุ้นในตลาดฮ่องกง: 0763.HK / รหัสหุ้นในตลาดเซินเจิ้น: 000063.SZ) บริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมกว่า 500 ราย ในกว่า 160 ประเทศ ในแต่ละปี ZTE จัดสรรเงินรายได้ 10% ให้กับการวิจัยและพัฒนา ทั้งยังมีบทบาทเป็นผู้นำในองค์กรกำหนดมาตรฐานระดับโลกหลายแห่ง ทั้งนี้ ZTE ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นสมาชิกของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact) สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.zte.com.cn

          สื่อมวลชนกรุณาติดต่อ
          Margaret Ma
          ZTE Corporation
          โทร: +86 755 26775189
          อีเมล: ma.gaili@zte.com.cn

QingCloud ได้รับเลือกเป็นขุมพลัง Intel(R) Select Solutions เพื่อเสริมศักยภาพการพลิกโฉมองค์กรสู่ดิจิทัล

          QingCloud ผู้ให้บริการไอซีทีคลาวด์แบบฟูลสแตกระดับองค์กรด้วยเทคโนโลยีชั้นนำ ประกาศเมื่อไม่นานมานี้ว่า ระบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ Qing3 ของบริษัทได้รับเลือกให้เป็นส่วนประกอบสำคัญของ Intel(R) Select Solutions โดยระบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ Qing3 ผนวกรวมสมรรถนะด้านคลาวด์คอมพิวติ้งแบบฟูลสแตกของแพลตฟอร์มคลาวด์ระดับองค์กร QingCloud เพื่อช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถสร้างโซลูชั่น IaaS, PaaS และ SaaS ได้ตั้งแต่เริ่มต้น พร้อมนำเสนอชุดแพลตฟอร์มการพัฒนาแอปพลิเคชัน การจัดส่ง และการทำงานที่สมบูรณ์

          ระบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ Qing3 จะเป็นขุมพลังให้ Intel(R) Select Solutions ผนวกรวมการประมวลผล การจัดเก็บ และเครือข่าย เข้ากับเทคโนโลยีที่กำหนดการทำงานด้วยซอฟต์แวร์ระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถยกระดับระบบไอทีให้เป็นสถาปัตยกรรมคลาวด์ส่วนบุคคลแบบฟูลสแตก รวมถึงเชื่อมต่อกับคลาวด์สาธารณะเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมคลาวด์แบบไฮบริดที่เป็นเนื้อเดียวกัน

          ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีในตลาดไฮเปอร์คอนเวิร์จของจีน ระบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ Qing3 ไม่เพียงช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สร้างศูนย์ข้อมูลที่กำหนดการทำงานด้วยซอฟต์แวร์ ระบบคลาวด์สำหรับเดสก์ท็อป สภาพแวดล้อมการพัฒนาและการทดสอบได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังสามารถรองรับสถานการณ์การใช้งานที่หลากหลาย เช่น IoT, บิ๊กดาต้า, AI, คอนเทนเนอร์ และไฮบริดคลาวด์ เพื่อตอบสนองความต้องการขององค์กรในการพลิกโฉมสู่ความเป็นดิจิทัลในสถานการณ์เชิงธุรกิจที่หลากหลาย สำหรับคุณสมบัติเด่น ๆ ได้แก่ :

          - สถาปัตยกรรมที่เป็นหนึ่งเดียว: ระบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ Qing3 สามารถสร้างประสบการณ์การใช้งานที่แนบเนียนเป็นหนึ่งเดียว และสอดคล้องกับการจัดการการทำงานและบำรุงรักษาภายใต้สถานการณ์การใช้คลาวด์แบบสาธารณะ ส่วนบุคคล แบบผสม และสถานการณ์ที่มีการบริหารจัดการ
          - การส่งมอบที่เป็นหนึ่งเดียว: ระบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ Qing3 รองรับการส่งมอบระบบบริการคลาวด์คอมพิวติ้งที่สมบูรณ์ ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน IaaS ไปจนถึง PaaS รวมถึงแพลตฟอร์มการจัดการแอปพลิเคชันระดับองค์กร
          - ครอบคลุมโมเดลธุรกิจทุกประเภท: ระบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ Qing3 สามารถรองรับโมเดลธุรกิจทั้งที่อยู่ใน "สถานะอ่อนไหว", "สถานะมั่นคง" และ "สถานะแบบไฮบริด" อีกทั้งยังสามารถรองรับโมเดลธุรกิจอินเทอร์เน็ตแบบกระจาย และโมเดลธุรกิจแบบรวมศูนย์ระดับองค์กรได้ในเวลาเดียวกัน
          - เชื่อมต่อถึงกันทั่วโลก: ด้วยการผสมผสานกับเทคโนโลยี SD-WAN ทำให้ระบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ Qing3 สามารถเข้าถึงแบบ one-hop และเชื่อมต่อถึงกันได้ทั่วโลก ตลอดจนรองรับคลาวด์อุตสาหกรรม คลาวด์แบบไฮบริด และสถานการณ์อื่น ๆ อีกมากมาย

          ในรายงาน China Software Definition Storage and Hyper-converged Market ประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2561 ของ IDC ซึ่งเป็นฉบับล่าสุดนั้น ระบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ Qing3 ได้ถูกจัดให้เป็นผู้ผลิตหลักเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยรักษาตำแหน่ง 5 อันดับแรกในตลาดไฮเปอร์คอนเวิร์จของจีนไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ด้วยการให้บริการรองรับอุตสาหกรรมการผลิต การเงิน รัฐบาล สาธารณสุข การศึกษา การสื่อสาร การขนส่ง รวมถึงอุตสาหกรรมอื่น ๆ จนถึงวันนี้ ระบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ Qing3 นับพันระบบได้ถูกนำไปติดตั้งใช้งานอย่างกว้างขวางโดยบริษัทในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

          ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.qingcloud.com/

QingCloud selected for Intel(R) Select Solutions, empowering the digital transformation of the enterprise

           QingCloud, a technology-leading enterprise-class full-stack cloud ICT service provider, announced recently that its Qing3 hyper-converged system was selected to be a key component of Intel(R) Select Solutions. The Qing3hyper-converged system integrated the full-stack cloud computing capability of the QingCloud enterprise cloud platform to help companies build IaaS, PaaS and SaaS solutions from scratch and provide a complete set of application development, delivery and operation platforms.

          Based on Qing3 hyper-converged system, Intel(R) Select Solutions integrates computing, storage and networks with industry-leading software-defined technologies, helping companies smoothly upgrade their IT systems to a full-stack private cloud architecture, as well as connect to the public cloud to create a homogeneous hybrid cloud environment.

          As a technology leader in China's hyper-converged market, Qing3 hyper-converged system not only helps companies to quickly build software-defined data centers, desktop clouds as well as development and testing environments, but also supports scenarios such as IoT, big data, AI, containers and the hybrid cloud, to meet the enterprise's needs for digital transformation in various business scenarios. Highlights include:

          - One Architecture: the Qing3 hyper-converged system can achieve a unified user experience be consistent with operation and maintenance management under the public, private, hybrid and managed scenarios.
          - Unified Delivery: the Qing3 hyper-converged system supports the delivery of a complete cloud computing service system from IaaS infrastructure to PaaS, as well as enterprise application management platforms
          - Coverage for All types of Business Models: the Qing3 hyper-converged system can support enterprise "sensitive state", "steady state" and "hybrid state" business models, while maintaining the ability to simultaneously support innovative distributed Internet business models and enterprise-grade centralized business models.
          - Global Interconnection: combined with SD-WAN technology, the Qing3 hyper-converged system can achieve one-hop access, global interconnection, supporting industry cloud, hybrid cloud and more scenarios.

          According to IDC's latest China Software Definition Storage and Hyper-converged Market tracking report for 2018 Q4, the Qing3 hyper-converged system has been shortlisted as the core manufacturer for two years in a row, ranking firmly among the top five in China's hyper-converged market, serving the manufacturing, finance, government, healthcare, education, communications, transportation as well as other industries. To date, tens of thousands of Qing3 hyper-converged systems are been widely deployed by companies across many industries.

          For more information, please visit: http://www.qingcloud.com/.

Fair Finance Asia เรียกร้องผู้นำ G20 ส่งเสริมการเงินที่ยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ

          ในโอกาสที่การประชุมสุมยอด G20 เปิดฉากขึ้นที่นครโอซากา วันนี้ Fair Finance Asia (เครือข่ายองค์กรประชาสังคมในภูมิภาคเอเชีย) ขอเรียกร้องให้ผู้นำกลุ่มประเทศ G20 ส่งเสริมการเงินที่ยั่งยืนทั้งทางสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงส่งเสริมการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ

          Fair Finance Asia (FFA) เรียกร้องให้ผู้นำประเทศเหล่านี้สนับสนุนแนวปฏิบัติและระเบียบข้อบังคับ ตามข้อเสนอแนะด้านนโยบาย Civil 20 (C20) ที่ทางเครือข่ายได้ยื่นต่อผู้นำ G20 เมื่อเดือนเมษายนปีนี้ ตลอดจนสนับสนุนการลงทุนที่มีคุณภาพในแนวทางที่จะช่วยแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) และการพัฒนาเศรษฐกิจแบบทั่วถึง รวมทั้งส่งเสริมสิทธิมนุษยชนสำหรับทุกคน

          นอกจากนี้ ทางเครือข่ายยังเรียกร้องให้กลุ่มประเทศ G20 ปฏิบัติตามหลักการชี้แนะเรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (UN Guiding Principles on Business and Human Rights) และส่งเสริมการตรวจสอบและความโปร่งใสในห่วงโช่การเงินโลก

          เนื่องด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกลายเป็นประเด็นสำคัญของโลก Fair Finance Asia จึงยินดีที่รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่มประเทศ G20 ได้ให้การรับรองในหนังสือแถลงการณ์ประจำเดือนมิถุนายน ซึ่งกำหนดให้หลักการ G20 ว่าด้วยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ (G20 Principles of Quality Infrastructure Investment) เป็นทิศทางยุทธศาสตร์ร่วมของกลุ่ม โดย FFA ต้องการให้กลุ่มประเทศ G20 ให้คำมั่นและดำเนินการเพื่อปูทางสู่การสร้างแนวนโยบายที่กำหนดให้สถาบันการเงินยุติการสนับสนุนการจัดหาเงินทุนสำหรับธุรกิจถ่านหินในทันที

          ความสามารถของญี่ปุ่นในการเป็นตัวแทนผลักดันหลักการ G20 ว่าด้วยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ ซึ่งครอบคลุมประเด็นสำคัญต่าง ๆ เช่น ความยั่งยืนของหนี้ การปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งขึ้นนั้น น่าชื่นชมยกย่องเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องชี้ให้เห็นด้วยว่า ภายใต้การดำรงตำแหน่งประธานของญี่ปุ่นนั้น กลุ่มการศึกษาการเงินที่ยั่งยืน (Sustainable Finance Study Group - SFSG) ได้ถูกยุบไป โดยก่อนหน้านี้ งานของ SFSG มุ่งเน้นไปที่การศึกษาด้านการเงินสีเขียว รวมถึงประเด็นความยั่งยืนอื่น ๆ เช่น การสร้างงาน และความเท่าเทียมกันทางรายได้ FFA จึงขอเรียกร้องให้มีการฟื้นกลุ่ม SFSG ขึ้นมาใหม่ และขอให้มีการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินและเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายในกลุ่มประเทศ G20 เพื่อจัดการกับความท้าทายด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมในสังคมต่าง ๆ ของเรา

          Bernadette Victorio หัวหน้าโครงการประจำภูมิภาคของ Fair Finance Asia กล่าวว่า "เราตั้งตารอที่จะได้เห็นฉันทามติระดับสูงเหล่านี้แปรเปลี่ยนเป็นการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ องค์กรผู้มีอำนาจและหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินทั่วโลกต้องร่วมมือกันเพื่อดำเนินแผนงานและนโยบายการเงินที่ยั่งยืน เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ทางสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจในเชิงบวกอย่างครอบคลุม เราขอเรียกร้องให้ผู้นำ G20 ส่งเสริมการเงินที่ยั่งยืนและการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งจะกระตุ้นให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนรวมในการทำธุรกิจโดยคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ"

          Yuki Tanabe ตำแหน่ง Program Director ของ Japan Center for a Sustainable Environment and Society (JACSES) ซึ่งเป็นสมาชิกของ Fair Finance Japan กล่าวว่า "จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้นำ G20 จะต้องดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อส่งเสริมการเงินที่ยั่งยืน การให้การสนับสนุนเงินทุนแก่โครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มประเทศ G20 ควรมีความสอดคล้องกับเป้าหมายของความตกลงปารีส (Paris Agreement) และกลุ่ม G20 ควรยุติการจัดหาทุนให้โรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นก้าวแรก"

          หมายเหตุสรุป: Fair Finance Asia เรียกร้องให้กลุ่มประเทศ G20 เห็นพ้องและยึดมั่นในการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะ C20 เพื่อรับรองว่าสถาบันการเงินทั้งหลายลงทุนเพื่อประโยชน์ของเราทุกคน ดูข้อเสนอแนะหลักได้ที่ https://medium.com/@asia.fairfinance/fair-finance-asia-calls-upon-g20-leaders-to-promote-sustainable-and-responsible-finance-786bc16c2733

          Fair Finance Asia (FFA) คือเครือข่ายขององค์กรประชาสังคมที่ดำเนินงานอยู่ในเอเชีย โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้สถาบันการเงินในภูมิภาคคำนึงถึงหลักเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ในการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจและการตัดสินใจลงทุน เจ็ดประเทศในภูมิภาคที่เป็นสมาชิกของ FFA ได้แก่ กัมพูชา ญี่ปุ่น อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม

          ติดต่อโฆษก FFA:

          Bernadette Victorio
          Regional Program Lead
          Fair Finance Asia
          bernadette.victorio@oxfam.org
          +91-9818833021

          Tweet: @FairFinanceAsia

NPCC ฉลองความสำเร็จหลังสร้างแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งใหญ่ที่สุดในโลกให้ ADNOC

         เชค ฮัซซา บิน ซายิด อัล นะห์ยาน รองประธานสภาผู้บริหารอาบูดาบี เป็นประธานเปิดแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยบริษัท National Petroleum Construction Company (NPCC) ในเครือ Senaat ได้สร้างแท่นขุดเจาะดังกล่าวให้กับบริษัท Abu Dhabi National Oil Company (ADNOC)


          แท่นขุดเจาะ Umm Lulu Gas Treatment Platform (ULGTP) มีน้ำหนัก 32,000 เมตริกตัน มีขนาด 77.7 x 83.5 เมตร หรือสูงเกือบเท่าหอนาฬิกาบิ๊กเบนในลอนดอน และเป็น 1 ใน 5 แท่นขุดเจาะที่สร้างโดย NPCC บนไซท์งานก่อสร้างของบริษัทซึ่งกินพื้นที่ 1.3 ล้านตารางเมตรในอาบูดาบี

          โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของสัญญา EPC ที่ ADNOC ร่วมมือกับ TechnipFMC มอบหมายให้ NPCC สร้างกลุ่มแท่นขุดเจาะขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนในแหล่งน้ำมัน Umm Lulu น้ำหนักรวมของกลุ่มแท่นขุดเจาะอยู่ที่ 102,648 เมตริกตัน โดยมีแท่นขุดเจาะ ULGTP เป็นส่วนสำคัญของกลุ่มแท่นขุดเจาะดังกล่าว

          เชค ฮัซซา กล่าวว่า ความสำเร็จครั้งใหม่ในอุตสาหกรรมพลังงานและการผลิตถือเป็นต้นแบบให้กับอุตสาหกรรมระดับชาติ วิสัยทัศน์อันกว้างไกลของผู้นำสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และความตั้งใจจริงของผู้ที่มีความสามารถในประเทศ เป็นกำลังขับเคลื่อนความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้

          ดร.สุลต่าน อัล จาเบอร์ รัฐมนตรีและซีอีโอของ ADNOC Group กล่าวว่า "การบรรลุความสำเร็จในการก่อสร้างถือเป็นอีกหนึ่งหลักชัยสำคัญของ ADNOC ขณะที่เราตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันให้ได้ 4 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในสิ้นปี 2563 พร้อมกับดำเนินกลยุทธ์การเติบโตที่ชาญฉลาด และตอบสนองอุปสงค์พลังงานที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก"

          ดร.โมฮัมเหม็ด ราชิด อัล ฮาเมลี ประธานของ NPCC กล่าวว่า "ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของเราและการพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัลได้สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดให้กับภาคการผลิตของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ความสำเร็จครั้งนี้ส่งผลให้เราเป็นพันธมิตรที่เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับบริษัทพลังงานทั่วโลก"

          อาเหม็ด อัล ดาห์เฮรี ซีอีโอของ NPCC กล่าวว่า "ขณะนี้อาบูดาบีเป็นผู้ส่งออกบริการ EPC ชั้นนำ และเราภาคภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนของการพลิกโฉมอุตสาหกรรมนี้ เรามีทัศนคติที่ดีและมั่นใจว่าเราสามารถเปิดศักราชใหม่ของการเติบโตด้วยทีมงานระดับมืออาชีพของเรา"

          ก่อนหน้านี้ NPCC รับหน้าที่สร้างแท่นขุดเจาะ 8 แท่นในโครงการ Umm Lulu Package 1 โดยทั้งสองเฟสมีการทุ่มเงินลงทุนสูงกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ครอบคลุมถึงการวางสายเคเบิลความยาวกว่า 2,555 กิโลเมตร และการวางท่อส่งน้ำมันความยาว 150 กิโลเมตร

          รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/929602/NPCC_Abu_Dhabi.jpg

          ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
          Rawan AlHosban
          ASDA'A BCW
          โทร. +9714-4507-600
          อีเมล: rawan.alhosban@bcw-global.com

NPCC Abu Dhabi Celebrates Completion of One of the World's Largest Offshore Oil Platforms for ADNOC

          His Highness Sheikh Hazza bin Zayed Al Nahyan, Deputy Chairman of Abu Dhabi Executive Council, inaugurated one of the world's largest offshore oil platforms manufactured in the UAE by the National Petroleum Construction Company (NPCC), a part of Senaat, for Abu Dhabi National Oil Company (ADNOC).



          The Umm Lulu Gas Treatment Platform (ULGTP) - weighing 32,000 metric tonnes (MT) and measuring 77.7 metres x 83.5 metres – nearly as tall as London's Big Ben, is one of five platforms manufactured by NPCC at its 1.3 million sqm fabrication yard in Abu Dhabi.

          This is part of an EPC contract awarded by ADNOC to NPCC, in consortium with TechnipFMC, for a large offshore super complex at the major Umm Lulu field. The total weight of the super complex is over 102,648 MT. The ULGTP will form a key part of the Umm Lulu Field infrastructure.

          HH Sheikh Hazza said the new milestone in the manufacturing and energy sectors is a model for the national industry, adding that the UAE leadership's vision and the committed efforts of Emirati talents are the driving force of this extraordinary achievement.

          HE Dr. Sultan Al Jaber, Minister of State and ADNOC Group CEO, said: "The completion of this key infrastructure asset marks another significant milestone for ADNOC as we drive oil production capacity towards four million barrels per day by end of 2020, delivering on our smart growth strategy and meeting increasing global demand for energy."

          HE Dr. Mohamed Rashed Al Hameli, Chairman of NPCC, said: "Our technological developments and digital transformation have brought a qualitative leap to the UAE's manufacturing sector. This achievement will establish us as a partner of choice for energy majors globally."

          Eng. Ahmed Al Dhaheri, CEO of NPCC, said: "Abu Dhabi is now a leading exporter of EPC services and we are proud to be the ambassadors of this transformational change. We have a robust outlook and are confident that with our team of skilled professionals, we will drive a new era of growth."

          Earlier, NPCC had commissioned eight platforms for Umm Lulu Package 1. The two phases mark an investment of over US$2.5 billion. The contract includes the laying of over 2,555 kilometres of cable and 150 kilometres of pipeline by NPCC.

          Photo - https://mma.prnewswire.com/media/929602/NPCC_Abu_Dhabi.jpg

          For details:
          Rawan AlHosban
          ASDA'A BCW
          +9714-4507-600
          rawan.alhosban@bcw-global.com

Venture Global LNG ประกาศระดมทุนเพิ่ม 675 ล้านดอลลาร์

อาร์ลิงตัน, เวอร์จิเนีย--28 มิ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

          บริษัท Venture Global LNG ประกาศระดมทุนเพิ่ม 675 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนสถาบันระดับโลกหลายราย โดยเงินทุนดังกล่าวจะนำไปใช้พัฒนาสถานีส่งออกก๊าซ Plaquemines LNG ขนาด 20 ล้านตันต่อปี ในพลาคไมน์ส แพริช รัฐลุยเซียนา เมื่อรวมเม็ดเงินจากการระดมทุนครั้งนี้ กับเงินลงทุนที่ได้มา 855 ล้านดอลลาร์ก่อนหน้านี้ และเงิน 1.3 พันล้านดอลลาร์ที่บริษัท Stonepeak Infrastructure Partners ลงทุนในสถานีส่งออกก๊าซ Calcasieu Pass จะส่งผลให้ Venture Global LNG ระดมทุนได้ทั้งสิ้นกว่า 2.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งทั้งหมดจะนำไปใช้พัฒนาสถานีส่งออกก๊าซแอลเอ็นจีของบริษัท

          ไมค์ ซาเบล และบ็อบ เพนเดอร์ ซีอีโอร่วมของบริษัท Venture Global LNG ประกาศร่วมกันว่า "ก่อนหน้านี้เราได้ขยายข้อตกลงขายก๊าซแอลเอ็นจีจากสถานีส่งออกก๊าซ Plaquemines LNG ให้แก่บริษัท PGNiG เพิ่มเป็น 2.5 ล้านตันต่อปี และคาดว่าจะมีการทำข้อตกลงเพิ่มเติมอีกในอนาคตอันใกล้ เรายินดีที่ได้เงินทุนเพิ่มเติมจำนวนมากก่อนจะเริ่มก่อสร้างสถานีส่งออกก๊าซ Plaquemines LNG ในปลายปีนี้"

          สถานีส่งออกก๊าซ Plaquemines LNG ขนาด 20 ล้านตันต่อปี จะใช้โซลูชันครบวงจรจาก Baker Hughes, a GE company (BHGE) ซึ่งรวมถึงโรงงานแปรรูปก๊าซเป็นของเหลวที่เป็นโรงงานประกอบสำเร็จรูปขนาดกลางและมีประสิทธิภาพสูง แบบเดียวกับที่ใช้ในสถานีส่งออกก๊าซ Calcasieu Pass ที่กำลังก่อสร้างในคาเมรอน แพริช รัฐลุยเซียนา ทั้งนี้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานแห่งชาติของสหรัฐ (FERC) จะออกคำสั่งขั้นสุดท้ายให้แก่สถานีส่งออกก๊าซ Plaquemines LNG ไม่เกินวันที่ 1 สิงหาคม 2562

          เกี่ยวกับ Venture Global LNG

          Venture Global LNG คือผู้จัดจำหน่ายก๊าซแอลเอ็นจีต้นทุนต่ำในระยะยาวจากแหล่งก๊าซธรรมชาติในอเมริกาเหนือที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ กระบวนการเปลี่ยนก๊าซให้เป็นของเหลวของบริษัทใช้ชุดผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและเชื่อถือได้จาก BHGE ปัจจุบัน บริษัทได้เริ่มก่อสร้างสถานีส่งออกก๊าซ Venture Global Calcasieu Pass ขนาด 10 ล้านตันต่อปี ซึ่งตั้งอยู่บริเวณจุดตัดระหว่างช่องทางเดินเรือแคลคาชูกับอ่าวเม็กซิโก รวมถึงกำลังพัฒนาสถานีส่งออกก๊าซ Venture Global Plaquemines LNG ขนาด 20 ล้านตันต่อปี ในแม่น้ำมิสซิสซิปปีห่างจากเมืองนิวออร์ลีนส์ไปทางทิศใต้ประมาณ 30 ไมล์ และสถานีส่งออกก๊าซ Venture Global Delta LNG ขนาด 20 ล้านตันต่อปี ในแม่น้ำมิสซิสซิปปีทางตอนใต้ของเมืองนิวออร์ลีนส์เช่นกัน ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบัน Venture Global ระดมทุนได้ราว 2.83 พันล้านดอลลาร์ สำหรับนำไปใช้ในการพัฒนาโครงการต่างๆของบริษัท สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.venturegloballng.com

          โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/825434/VENTURE_GLOBAL_LNG_INC___Logo.jpg

Venture Global LNG Raises $675 Million of Additional Capital

ARLINGTON, Virginia--28 Jun--PRNewswire/InfoQuest

          Venture Global LNG, Inc. announces that it has raised $675 million of additional capital from world-class institutional investors. The capital will be used primarily for the further development of the company's 20 million tonnes per annum (MTPA) Plaquemines LNG export project in Plaquemines Parish, Louisiana. In addition to the $855 million of capital previously raised at Venture Global LNG and the $1.3 billion project-level equity commitment from Stonepeak Infrastructure Partners for the company's Calcasieu Pass LNG project, Venture Global LNG has now raised total committed capital of over $2.8 billion to support the development of its LNG export facilities.

          Co-CEOs Mike Sabel and Bob Pender jointly stated, "With the expansion of our Plaquemines LNG sales and purchase agreement (SPA) with PGNiG to 2.5 MTPA and in anticipation of additional near-term commercialization, we are excited to add significant new resources as we prepare to commence early works at Plaquemines later this year."

          The 20 MTPA Plaquemines facility will employ a comprehensive process solution from Baker Hughes, a GE company (BHGE) that utilizes highly efficient mid-scale, modular, factory-fabricated liquefaction trains in an identical configuration to its Calcasieu Pass LNG project, currently under construction in Cameron Parish, Louisiana. The Final Order for Plaquemines LNG from the U.S. Federal Energy Regulatory Commission (FERC) is currently scheduled to be issued no later than August 1, 2019.

          About Venture Global LNG

          Venture Global LNG is a long-term, low-cost provider of LNG to be supplied from resource rich North American natural gas basins. Venture Global LNG's liquefaction process system employs a highly efficient and reliable suite of products supplied by BHGE. Venture Global LNG has begun construction of the 10 MTPA Venture Global Calcasieu Pass facility at the intersection of the Calcasieu Ship Channel and the Gulf of Mexico and is developing the 20 MTPA Venture Global Plaquemines LNG facility 30 miles south of New Orleans on the Mississippi River, and the 20 MTPA Venture Global Delta LNG facility, also on the Mississippi River south of New Orleans. Venture Global has raised total committed capital to-date of approximately $2.83 billion to support the development of its projects. More can be found at www.venturegloballng.com.

          Logo - https://mma.prnewswire.com/media/825434/VENTURE_GLOBAL_LNG_INC___Logo.jpg

Fair Finance Asia calls upon G20 leaders to promote sustainable and responsible finance

OSAKA, Japan--28 Jun--PRNewswire/InfoQuest

          As the G20 Summit commences in Osaka today, Fair Finance Asia (a regional network of civil society organisations in Asia) calls on the G20 to strengthen its leadership and actions in implementing socially and environmentally sustainable finance and responsible investments.

          In line with the Civil 20 (C20) policy recommendations submitted to the leaders of the G20 in April this year, Fair Finance Asia (FFA) urges the leaders of these countries to boost policies and regulations, and bolster quality investments in a way that addresses climate change, helps achieve the Sustainable Development Goals (SDGs) and inclusive economic development, and promotes human rights for all.

          G20 countries are also called upon to reiterate their commitments to the United Nations Guiding Principles on Business and Human Rights and promote due diligence and transparency in global financial chains.

          As infrastructure development becomes a key global priority, Fair Finance Asia welcomes the endorsement by the G20 Finance Ministers and Central Bank Governors in their June Communique' of the G20 Principles of Quality Infrastructure Investment as a common strategic direction. FFA seeks commitment and action from the G20 countries to lead the way in paving an enabling global policy environment that mandates financial institutions to immediately end their support for coal financing.

          Japan's ability to broker the G20 Principles of Quality Infrastructure Investment, covering important issues such as debt sustainability, social and environmental protection and strengthened governance, is highly commendable. However, it is also important to note that under the Japanese presidency, the Sustainable Finance Study Group (SFSG) has been dissolved. The SFSG's work focused on green finance and other sustainability topics, such as job creation and income equality. FFA calls for the reinstatement of the SFSG and also that cooperation among financial regulators and policymakers across the G20 countries is strengthened towards meeting the social and environmental challenges of our societies.

          Bernadette Victorio, the Regional Program Lead, Fair Finance Asia states, "We eagerly await to see these high level commitments translated into tangible actions at the regional and national levels. Financial regulators and authorities globally must work together to implement sustainable finance initiatives and policies to achieve comprehensive positive social, environmental and economic results. We call upon the G20 leaders to promote sustainable finance and responsible investments that encourage private sector participation in enabling the integration of environmental and social considerations in their business activities."

          Yuki Tanabe, Program Director, Japan Center for a Sustainable Environment and Society (JACSES), who is also a part of Fair Finance Japan, said, "It is critical that the G20 leaders take urgent steps to promote sustainable finance. G20 financing for infrastructure should be in line with the goal of Paris Agreement, and G20 should end their public financing for new coal-fired power development as the first step."

          Endnote: In alignment with the C20, Fair Finance Asia calls on the G20 countries to agree and commit to actions towards ensuring that financial institutions invest for the good of us all. The key recommendations can be seen here [https://medium.com/@asia.fairfinance/fair-finance-asia-calls-upon-g20-leaders-to-promote-sustainable-and-responsible-finance-786bc16c2733].

          Fair Finance Asia (FFA) is a network of civil society organizations working in Asia to ensure that financial institutions in the region give due considerations to the Environmental, Social and Governance (ESG) criteria in their business activities and investment decisions. Seven countries within the region are a part of the FFA: Cambodia, Japan, India, Indonesia, The Philippines, Thailand and Vietnam.

          FFA spokesperson for contacts :

          Bernadette Victorio
          Regional Program Lead
          Fair Finance Asia
          bernadette.victorio@oxfam.org
          +91-9818833021

          Tweet: @FairFinanceAsia

Saudi Aramco เซ็นสัญญา 12 ฉบับวงเงินรวมกว่าหลายพันล้านดอลลาร์ร่วมกับพันธมิตรในเกาหลีใต้

โซล--27 มิ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

          - ข้อตกลงเหล่านี้แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นที่ Saudi Aramco มีต่อความก้าวหน้าและความมั่นคงในแวดวงพลังงานเกาหลีใต้
          - ข้อตกลงครอบคลุมการต่อเรือ การผลิตเครื่องจักร การกลั่น ปิโตรเคมีภัณฑ์ ไปจนถึงการจัดหา จำหน่าย และจัดเก็บน้ำมันดิบ

          Saudi Aramco และบริษัทในเครือ ได้ลงนามในข้อตกลงทั้งสิ้น 12 ฉบับร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ พร้อมขยายการทำธุรกิจในระดับสากล และรองรับความมั่นคงทางพลังงานของภูมิภาคดังกล่าว ด้วยการยกระดับการจัดหาน้ำมันดิบจากอาหรับสู่ตลาดเอเชีย

          Amin H. Nasser ประธานและซีอีโอของ Saudi Aramco กล่าวเกี่ยวกับข้อตกลงเหล่านี้ว่า "ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทเกาหลีมีบทบาทสำคัญในความเจริญรุ่งเรืองของธุรกิจนอกฝั่งในระดับต้นน้ำของ Saudi Aramco นับตั้งแต่นั้น บริษัทเกาหลีได้เคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคส่วนอื่น ๆ ตามกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงของ Saudi Aramco โดยข้อตกลงวันนี้นับเป็นการเปิดศักราชใหม่แห่งความร่วมมือกับพันธมิตรของเราในเกาหลี ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแผนกลยุทธ์ของเรา เพื่อคว้าผลประโยชน์จากโครงการริเริ่มใหม่ ๆ ที่ครอบคลุมทั้งการจัดหาพลังงานระยะยาว การพัฒนาการเดินเรือและโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนการวิจัยและพัฒนาในแวดวงยานยนต์ การแปรรูปน้ำมันดิบเป็นเคมีภัณฑ์ และกลุ่มแร่อโลหะ"

          ข้อตกลงเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในแผนกลยุทธ์ของ Saudi Aramco เพื่อส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจปลายน้ำในระยะยาวและกระจายความเสี่ยงในคราวเดียวกัน โดยบริษัทเกาหลีใต้ที่ได้ร่วมลงนามด้วยนั้นมีดังนี้

          Hyundai Heavy Industries (HHI)

          - ข้อตกลงระหว่าง Saudi Aramco, Hyundai Heavy Industries (HHI) และ The Saudi Arabian Industrial Investments Company (Dussur) เพื่อจัดตั้งธุรกิจร่วมทุน (JV) รองรับการผลิตเครื่องจักรระดับเวิลด์คลาสและศูนย์บริการหลังการขายในซาอุดีอาระเบีย โดยธุรกิจร่วมทุนใหม่นี้มี Saudi Aramco เป็นเจ้าของในสัดส่วน 55% ขณะที่ HHI และ Dussur เป็นเจ้าของในสัดส่วน 30% และ 15% ตามลำดับ
          - บันทึก MoU ระหว่าง Saudi Aramco กับ HHI เพื่อต่อยอดความร่วมมือที่มีอยู่เดิม ในการพัฒนาการต่อเรือ การผลิตเครื่องจักร การกลั่น และปิโตรเคมีภัณฑ์
          - ข้อตกลงระหว่าง Saudi Aramco กับ HHI เพื่อเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้นของ HHI ใน International Maritime Industries (IMI) จากเดิม 10% เป็น 20%
          - บันทึก MoU ระหว่าง HHI, Bahri และ IMI (ธุรกิจร่วมทุนระหว่าง Saudi Aramco, HHI, Lamprell และ Bahri) ครอบคลุมการต่อเรือและการขนส่งอันเป็นขอบข่ายความร่วมมือที่คาดการณ์ไว้
          - บันทึก MoU ระหว่าง HHI กับ IMI เพื่อสำรวจโอกาสใหม่ ๆ ในธุรกิจต่อเรือ

          Hyundai Oilbank

          - ข้อตกลงว่าด้วยการจำหน่ายน้ำมันดิบระหว่าง Saudi Aramco กับ Hyundai Oilbank โดย Saudi Aramco จะเป็นผู้จัดหาน้ำมันดิบอาหรับแก่ Hyundai Oilbank
          - Aramco Trading Company ได้เซ็นสัญญาเพื่อจัดหาน้ำมันดิบนอกอาหรับให้แก่ Hyundai Oilbank

          The Hyundai Motor Group

          - บันทึก MoU ระหว่าง Saudi Aramco กับ Hyundai Motor Company เพื่อผนึกความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ในการเร่งการขยายระบบนิเวศไฮโดรเจนในตลาดซาอุดีอาระเบียและเกาหลีใต้ พร้อมสำรวจการใช้กลุ่มแร่อโลหะขั้นสูงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์

          Korea National Oil Corporation

          - บันทึก MoU ระหว่าง Saudi Aramco กับ Korea National Oil Corporation ซึ่งทาง Saudi Aramco จะเป็นผู้สำรวจหาโอกาสด้านการจัดเก็บน้ำมันดิบในเกาหลีใต้ เพื่อเติมเต็มกิจกรรมทางการตลาดและอุปทาน

          Hyosung

          - จัดทำบันทึก MoU ร่วมกับ Hyosung Group เพื่อสร้างศูนย์การผลิตคาร์บอนไฟเบอร์ในซาอุดีอาระเบีย นอกจากนี้ บันทึก MoU ดังกล่าวยังจะเปิดพื้นที่ความร่วมมือให้กับทั้งสองบริษัทในด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการใช้เทคโนโลยีคาร์บอนไฟเบอร์

          GS Holdings

          - บันทึก MoU ระหว่าง Saudi Aramco กับ GS Holdings เพื่อเสาะหาโอกาสทางการลงทุนเฉพาะจุดในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

          Daelim Industrial

          - Saudi Aramco และ Daelim Industrial กำลังสานความร่วมมือในโครงการปิโตรเคมีภัณฑ์ และได้ลงนามในบันทึก MoU ฉบับใหม่ เพื่อกระชับความร่วมมือในเรื่องเคมีภัณฑ์มูลค่าเพิ่มในซาอุดีอาระเบีย

          เกี่ยวกับ Saudi Aramco

          Saudi Aramco เป็นบริษัทพลังงานและเคมีภัณฑ์ครบวงจรชั้นนำระดับโลก ซึ่งขับเคลื่อนด้วยความเชื่อหลักที่ว่า พลังงานคือโอกาส ทีมงานของเราทุ่มเทให้กับการสร้างผลลัพธ์ด้านบวกในทุกสิ่งที่เราทำ ตั้งแต่การผลิตน้ำมันดิบประมาณหนึ่งบาร์เรลในทุก ๆ แปดบาร์เรลที่ผลิตได้ทั่วโลก ไปจนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานใหม่ เรามุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการสร้างทรัพยากรที่วางใจได้ มีความยั่งยืน และมีประโยชน์มากขึ้น เพื่อช่วยส่งเสริมเสถียรภาพและการเติบโตในระยะยาวทั่วโลก รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.saudiaramco.com

          @Saudi_Aramco



Saudi Aramco Signs 12 Agreements With South Korean Partners Worth Billions of Dollars

SEOUL--27 Jun--PRNewswire/InfoQuest

          - The agreements demonstrate Saudi Aramco's commitment to South Korea's energy security and development
          - The agreements cover ship building, engine manufacturing, refining, petrochemicals, as well as crude supply, sales, and storage

          Saudi Aramco and its affiliates signed 12 agreements with major South Korean companies to reinforce relationships with South Korea, expand international operations, and support the region's energy security with the expansion of Arabian crude oil supply to Asian markets.

          Commenting on the agreements, Saudi Aramco President and CEO, Amin H. Nasser, said: "Only a few decades ago, Korean companies played a vital role in Saudi Aramco's upstream offshore growth development. Since then, they have moved into other sectors matching Saudi Aramco's diversification strategy. Today's agreements mark a new era of cooperation with our Korean partners who will play an increasingly important role in our strategy to capitalize on new initiatives that include long-term energy supply, maritime and infrastructure development, and breakthrough research and development in the automotive, crude to chemicals, and non-metallic sectors."

          The agreements are part of Saudi Aramco's long-term downstream growth and diversification strategy, which were signed with the following South Korean companies:

          Hyundai Heavy Industries (HHI)

          An agreement between Saudi Aramco, Hyundai Heavy Industries (HHI), and The Saudi Arabian Industrial Investments Company (Dussur). The agreement will establish a joint venture (JV) for a world class engine manufacturing and aftersales facility in Saudi Arabia. Under the partnership, Saudi Aramco will own 55% of the JV, while HHI and Dussur will own 30% and 15% respectively.
          An MoU between Saudi Aramco and HHI that extends the existing collaboration to develop ship building, engine manufacturing, refining, and petrochemicals.
          An agreement between Saudi Aramco and HHI to increase HHI's equity share in the International Maritime Industries (IMI) from 10% to 20%.
          An MoU between HHI, Bahri, and IMI (Joint Venture between Saudi Aramco, HHI, Lamprell, Bahri), covering ship building, and transportation as potential areas of cooperation.
          An MoU between HHI and IMI to explore business opportunities in the shipbuilding business.

          Hyundai Oilbank

          A crude oil sales agreement between Saudi Aramco and Hyundai Oilbank for Saudi Aramco to supply Arabian crude oil to Hyundai Oilbank.
          Aramco Trading Company signed a crude oil agreement to supply non-Arabian crude oil to Hyundai Oilbank.

          The Hyundai Motor Group

          An MoU between Saudi Aramco and Hyundai Motor Company will create a strategic collaboration to accelerate the expansion of the hydrogen ecosystem in the Saudi Arabian and South Korean markets, and to explore the use of advanced non-metallic materials in various fields including the automotive industry.

          Korea National Oil Corporation

          An MoU between Saudi Aramco and Korea National Oil Corporation that will allow Saudi Aramco to explore the potential of crude oil storage in South Korea to complement its marketing and supply activities.

          Hyosung

          An MoU with Hyosung Group to build a carbon fiber manufacturing facility in Saudi Arabia. This MoU will also provide a collaboration platform for the two companies on research and development, and deployment of carbon fiber technology.

          GS Holdings

          An MoU between Saudi Aramco and GS Holdings is aimed at identifying specific investment opportunities in the Kingdom of Saudi Arabia.

          Daelim Industrial

          Saudi Aramco and Daelim Industrial are collaborating on petrochemical projects and signed a new MoU to foster collaboration on value-added chemical products in the Kingdom.

          About Saudi Aramco

          Saudi Aramco is a global integrated energy and chemicals company. We are driven by the core belief that energy is opportunity. From producing approximately one in every eight barrels of the world's oil supply to developing new energy technologies, our global team is dedicated to creating impact in all that we do.  We focus on making our resources more dependable, more sustainable and more useful. This helps promote stability and long-term growth around the world. www.saudiaramco.com

          @Saudi_Aramco

          Photo - https://mma.prnewswire.com/media/929275/Saudi_Aramco_and_HHIH.jpg
          Logo - https://mma.prnewswire.com/media/810984/Saudi_Aramco_Logo.jpg


Klaytn เปิดตัว mainnet พร้อมดึง LG และ UnionBank ร่วมด้วยบริษัทชั้นนำของเอเชีย เข้าร่วมอีโคซิสเต็ม

          - Klaytn ตั้งสภาบริหาร ประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจและองค์กรข้ามชาติที่ร่วมรับผิดชอบการบริหารแพลตฟอร์ม การทำงานของ consensus node และการขยายอีโคซิสเต็ม
          - บริษัทขนาดใหญ่ของเอเชีย อาทิ LG Electronics, Celltrion, Netmarble และ Union Bank of the Philippines ร่วมเป็นสมาชิกสภาบริหาร
          - พันธมิตรที่เพิ่งเข้าร่วมเป็น 'KLAY BApp Partners' ต่างใช้โทเคน KLAY ของ Klaytn เพื่อดำเนินการให้บริการ

          Ground X บริษัทย่อยด้านบล็อกเชนของ Kakao แพลตฟอร์มมือถือชั้นนำของเกาหลีใต้ เปิดตัว Klaytn mainnet อย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมทั้งประกาศตั้ง 'สภาบริหาร' (Governance Council) เพื่อร่วมกันบริหารแพลตฟอร์ม

          # Klaytn นำเสนอกลไกสร้างแรงจูงใจใหม่ และพาร์ทเนอร์บริการใหม่ 8 รายเพื่อขยายอีโคซิสเต็ม

          Ground X เปิดตัว Klaytn mainnet ผ่านเว็บเพจทางการของ Klaytn ที่ www.klaytn.com โดย Klaytn มีความมุ่งมั่นที่จะกระตุ้นให้เกิดการใช้บริการต่าง ๆ บนบล็อกเชนอย่างแพร่หลายในวงกว้าง เพื่อเน้นยำถึงคุณค่าและประโยชน์ของเทคโนโลยีบล็อกเชน ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนในเรื่องดังกล่าว Klaytn จึงให้ความสำคัญกับการยกระดับสภาพแวดล้อมในการพัฒนา รวมถึงมอบโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพสูงและสามารถปรับขยายขนาดได้อย่างยืดหยุ่น เพื่อรองรับ BApps (Blockchain Applications) ที่มีทราฟฟิกขนาดใหญ่

          Klaytn mainnet มีจุดเด่นอยู่ที่เวลาการตอบสนองรวดเร็วเทียบเท่ากับเว็บเซอร์วิสที่ใช้กันมานาน ซึ่งเป็นผลมาจากฟีดแบ็กจริงของพาร์ทเนอร์ที่ได้ร่วมการทดสอบ testnet สาธารณะก่อนหน้านี้ อีกทั้งความเสถียรของ mainnet ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วเช่นกันจากการทดสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวดร่วมกับบริษัทด้านความปลอดภัย 4 แห่ง ขณะที่ประสบการณ์การใช้งานดีขึ้น ดังเห็นได้จากผลการทดสอบแบบอำพราง (blind testing) กับกลุ่มนักพัฒนาและผู้ใช้ทั่วไป

          สำหรับ Ground X ความสนใจของบริษัทไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การสร้างแพลตฟอร์ม mainnet เพราะความพยายามในการสร้างอีโคซิสเต็มเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม Klatyn เพื่อมอบประสบการณ์การใช้บล็อกเชนให้แก่ผู้ใช้นับล้านคนนั้น ยังส่งผลให้บริษัทสามารถจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการ 34 ราย ซึ่งประสบความสำเร็จจนเป็นที่ประจักษ์ในแง่ของการดำเนินการให้บริการแก่ฐานผู้ใช้จำนวนมาก โดยในการเปิดตัว Klaytn mainnet ครั้งนี้ ยังถือเป็นโอกาสดีสำหรับโปรเจกต์บล็อกเชน 9 โปรเจกต์ อาทิ 'HintChain' ตลาดข้อมูลอาหาร, 'Antube' บริการความบันเทิงผ่านวิดีโอสั้น และ 'Pibble' บริการ SNS แบบรูปภาพ ที่จะทยอยเปิดตัวบน Klaytn ไปจนถึงต้นเดือนกรกฎาคมนี้

          ขณะเดียวกัน เพื่อสนับสนุนให้ผู้ให้บริการรักษาความเสถียรของเครือข่าย Klaytn จึงมาพร้อมการประเมินความโปร่งใสและกลไกสร้างแรงจูงใจ ซึ่งเรียกว่า Proof of Contribution (PoC) และ Klaytn Improvement Reserve (KIR) โดย PoC จะประเมินระดับการมีส่วนร่วมขององค์กรทางเศรษฐกิจทั้งหมดที่อยู่ในอีโคซิสเต็มของ Klaytn และจัดสรรโทเคน KLAY ที่สอดคล้องกับระดับการมีส่วนร่วมของแต่ละองค์กร ขณะที่ KIR จะถูกจัดสรรให้กับผู้ใดก็ตามที่มีความมุ่งมั่นต่อการรักษาการเติบโตของอีโคซิสเต็มอย่างยั่งยืนผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การวิจัยแพลตฟอร์ม หรืองานอีเวนต์ชุมชน

          นอกจากนี้ Klaytn ยังประกอบด้วย 'KLAY BApp Partners' ซึ่งบริการของพาร์ทเนอร์เหล่านี้ใช้โทเคน KLAY สำหรับเป็นรางวัลและเพื่อการชำระเงิน โดยผู้ใช้จะสามารถได้รับเหรียญโทเคน KLAY และนำโทเคนดังกล่าวไปใช้กับบริการที่หลากหลายได้อย่างอิสระ

          บริการเกมบล็อกเชน ซึ่งพัฒนาโดย 3 ค่ายเกมใหญ่และได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางบนแพลตฟอร์มบล็อกเชนอื่น ๆ นั้น จะมาเข้าร่วมกับ Klaytn อาทิ เกม 'Klaytn Knights' ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นอัพเดทของ 'EOS Knights' ที่พัฒนาโดย Biscuit สตูดิโอเกมบล็อกเชนอันดับหนึ่งของโลกนั้น เปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายนนี้ ขณะที่ 'Marvel Clans' บริการเกมใหม่ที่พัฒนาโดย MixMarvel ซึ่งเคยพัฒนาเกม Hyper Snake จนกลายเป็น DApp อันดับหนึ่งบนแพลตฟอร์ม TRON มาแล้ว และ 'Axie Infinity' เกมสะสมสัตว์เลี้ยงดิจิทัลที่พัฒนาโดยบริษัท Sky Mavis Pte. Ltd. ในเวียดนาม ก็เตรียมให้บริการเกมบนแพลตฟอร์มของ Klaytn ในช่วงต่อไปของปีนี้

          นอกจากนี้ เกมคาแรกเตอร์ยอดนิยมหลายเกมจะถูกนำมาสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ผ่าน Klaytn โดย mgame นักพัฒนาเกมออนไลน์ของเกาหลีที่มีผู้ใช้กว่า 20 ล้านคน เตรียมแปลงโฉม 'Hon' และ 'Princess Maker' ให้กลายเป็นเกมบล็อกเชนด้วยการนำ IP มาใช้ประโยชน์ ขณะเดียวกัน เกม 'Crypto Sword & Magic' จาก Nod Games และเกม 'Infinity Star' จาก Node Brick ซึ่งเป็นสองเกมที่ได้รับคัดเลือกจาก 'Hashed Labs' โครงการสนับสนุนการพัฒนาและใช้งานบล็อกชนในเกาหลี พร้อมด้วยเกม 'Crypto Fishing' ของ MEMORY Inc. ต่างก็ใช้ KLAY เพื่อให้บริการเกมของบริษัทเช่นกัน

          # บริษัทท็อปเทียร์ของโลก อาทิ LG Electronics, Netmarble และ UnionBank เข้าร่วมเป็นสมาชิกในสภาบริหารของ Klaytn

          สภาบริหารแห่งนี้ประกอบด้วยบริษัทชั้นนำของโลก 19 แห่งที่ประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์บริการที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้งานจำนวนมหาศาลในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ อาทิ ไอที เทเลคอม คอนเทนต์ เกม และการเงิน บริษัทเหล่านี้ยังเป็นหน่วยธุรกิจที่สำคัญของบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดของเอเชียหลายบริษัท ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาตลาดที่กำลังเฟื่องฟูของภูมิภาคนี้ ซึ่งมีผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นที่ต้องการรับเทคโนโลยีใหม่ และมีบริษัทเกิดใหม่จำนวนมากที่กำลังใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ จึงคาดว่าการรวมกลุ่มเป็นสภาบริหารจะนำมาซึ่งยุคใหม่แห่งบล็อกเชนผ่านทาง Klaytn

          ในฐานะผู้มีบทบาทในการตัดสินใจเกี่ยวกับวาระทางธุรกิจและทางเทคนิคที่สำคัญ สมาชิกสภาฯ จึงมีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารเครือข่าย consensus node ตลอดจนวางแผนพัฒนาบริการต่าง ๆ บน Klaytn หรือใช้บล็อกเชนกับบริการที่มีอยู่แล้ว เพื่อผลักดันการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนอย่างแพร่หลาย

          สมาชิกที่เข้าร่วมในสภาฯ ประกอบด้วย 'LG Electronics,' 'LG International' และ 'Celltrion' หนึ่งในบริษัทชีวเวชภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียด้วยมูลค่าตลาด 2.5 พันล้านดอลลาร์ ตลอดจนบริษัทชื่อดังอีกหลายราย เช่น 'Netmarble' บริษัทพัฒนา ผลิตและจำหน่ายเกมอันดับหนึ่งในเกาหลี, 'Wemade' บริษัทพัฒนาเกมยอดนิยมที่มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ IP หลากหลาย รวมทั้งเกมสุดฮิต 'Legend of Mir' ที่มีผู้เล่นกว่า 500 ล้านคน, 'Pearl Abyss' ผู้พัฒนา 'Black Desert' ซึ่งเป็นเกมแนว MMORPG ที่โด่งดังใน 150 ประเทศทั่วโลก, 'PUBG' บริษัทเกมแบบมีค่าบริการอันดับหนึ่งของโลกและเจ้าของเกมดังอย่าง 'PlayerUnknown's Battlegrounds', 'Neoply' บริษัทด้านการลงทุนในเครือ 'Neowiz' ซึ่งเป็นบริษัทเกมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลี, 'FSN' บริษัทพัฒนาไอทีผู้สร้าง Six Network ที่ให้บริการทางการเงินและกระเป๋าเงินดิจิทัลในประเทศไทย, 'Kakao' แพลตฟอร์มมือถืออันดับหนึ่งในเกาหลี รวมถึงธุรกิจในเครือ ได้แก่ 'Kakao Pay', 'Kakao Page', 'Kakao Games' และ 'Kakao IX'

          นอกจากนี้ 'Union Bank of the Philippines (UnionBank)' หนึ่งในธนาคารรายใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ ร่วมด้วย 'Axiata Digital และ Axiata Digital Service Indonesia' ธุรกิจบริการดิจิทัลในเครือ 'Axiata Group' ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ 'HashKey' กลุ่มฟินเทคชั้นนำในฮ่องกงซึ่งเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของ 'Wanxiang Blockchain Labs' ของจีน จะเข้าร่วมกับ Klaytn เช่นเดียวกับ 'Everrich' บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความสนใจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างมาก, 'Hi Inc.' บริษัทสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นของฮ่องกงที่ทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ระดับโลกและให้บริการแก่โรงแรมต่างๆ, 'Cocone' บริษัทดิจิทัลคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียชั้นนำจากญี่ปุ่น และ 'gumi, Inc.' ผู้พัฒนา ผลิตและจำหน่ายเกมมือถือชั้นนำของโลกจากญี่ปุ่น ที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในสภาบริหารของ Klaytn โดยในขณะที่แพลตฟอร์ม Klaytn และอีโคซิสเต็มของบริษัทยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องและในอัตราที่รวดเร็วขึ้นนั้น Klaytn จึงวางแผนที่จะเชิญผู้ให้บริการมากความสามารถมาร่วมเป็นสมาชิกที่มีศักยภาพในสภาแห่งนี้ด้วย

          เจสัน ฮัน ซีอีโอของ Ground X ซึ่งเป็นหัวหน้าการพัฒนาและปฏิบัติการของ Klaytn กล่าวว่า "Klaytn จะเป็นผู้จุดชนวนการใช้บล็อกเชนในวงกว้าง และขยายอีโคซิสเต็มด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรกับพาร์ทเนอร์ด้านบริการอีกหลายราย" พร้อมแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า "Klaytn ดำเนินงานโดยกลุ่มพันธมิตรที่ประกอบไปด้วยบริษัทขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงของเอเชีย ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมกันกว่า 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีฐานผู้ใช้หลายร้อยล้านคน ด้วยภารกิจที่จะยกระดับความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์ม" เขากล่าวเสริมด้วยว่า "เรา ร่วมกับสภาบริหารของเรา มุ่งหวังที่จะได้บริหารแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่มีความเสถียรและเชื่อถือได้"

          [เกี่ยวกับ Klaytn]
          Klaytn คือแพลตฟอร์มบล็อกเชนสาธารณะในเครือของ Kakao ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มมือถือชั้นนำของเกาหลีใต้ Klaytn มุ่งมั่นที่จะยกระดับมูลค่าและประโยชน์ใช้สอยของเทคโนโลยีบล็อกเชน ด้วยการให้บริการบล็อกเชนสำหรับการใช้งานอย่างแพร่หลายเป็นวงกว้าง โดย Klaytn มอบสภาพแวดล้อมการพัฒนาที่ง่ายและสร้างประสบการณ์ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ Klaytn จะเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มให้ก้าวหน้าต่อไป เพื่อนำเสนอบริการบล็อกเชนแก่ผู้ใช้หลายล้านราย

          https://klaytn.com
          https://medium.com/klaytn
          https://twitter.com/klaytn_official

          รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20190627/2510415-1

Hotel Royal Classic Osaka, New Landmark in Osaka, to Start Accepting Online Reservations July 1 before Opening Dec. 1, 2019


           With less than six months to go until the opening of Hotel Royal Classic Osaka, operator Royal Classic Ltd. has announced that it will start accepting online reservations from noon on July 1, 2019. The hotel, designed by globally celebrated Japanese architect Kengo Kuma, and incorporating the facade of the former Osaka Shin-Kabukiza theater, is scheduled to open on December 1.




          Image1: Hotel Royal Classic Osaka exterior, May 2019
          https://kyodonewsprwire.jp/img/201906217809-O1-2BLeiVJ1

          (Images2: https://kyodonewsprwire.jp/release/201906217809?p=images )

          The opening of Hotel Royal Classic Osaka will mark the birth of a striking new landmark for the central Osaka Minami area. Along with 150 luxurious guest rooms and suites, the hotel will also offer a choice of restaurants and bars, as well as function rooms and wedding facilities. Situated within convenient reach of the Osaka Metro subway's Namba Station, the hotel will provide an ideal setting for a host of business, bridal, and sightseeing applications.


          Under the leadership of general manager and hospitality industry expert Katsuya Usami, this first venture under the Royal Classic brand will strive to honor the history of a location that has served as a crucible for so much of the distinctive local culture, bringing fresh value to Osaka Minami, and boosting Osaka's development as an international tourist hub.

          For more details, please visit the Hotel Royal Classic website, which will be updated at noon on July 1 with full online reservation capabilities: https://hotel-royalclassic.jp/en/

         About Royal Classic Ltd.
          Founded in September 2013, Royal Classic Ltd. is a subsidiary of Bellco Co., Ltd., a major provider of ceremonial services, including weddings and funerals. Hotel Royal Classic represents the first venture under the Royal Classic brand.

          For more information, please visit:
          https://kyodonewsprwire.jp/attach/201906217809-O1-d7V7i6y8.pdf

          Source: Hotel Royal Classic Osaka

JA Solar คว้าตำแหน่ง “Top Performer” ในรายงานคะแนนความน่าเชื่อถือของแผงเซลล์แสงอาทิตย์โดย DNV GL/PVEL เป็นครั้งที่ 4

          บริษัท JA Solar ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ด้านพลังงานแสงอาทิตย์ประสิทธิภาพสูงระดับแนวหน้าของโลก คว้าตำแหน่ง "Top Performer" ในรายงานคะแนนความน่าเชื่อถือของแผงเซลล์แสงอาทิตย์ "PV Module Reliability Scorecard" ประจำปี 2562 ที่เผยแพร่โดย DNV GL และ PVEL ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่บริษัทได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้

          DNV GL สถาบันรับรองคุณภาพและให้คำปรึกษาด้านพลังงานระดับโลก และ PVEL ห้องปฏิบัติการทดสอบประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของแผงเซลล์แสงอาทิตย์ชั้นนำ ร่วมกันเผยแพร่รายงานการทดสอบความน่าเชื่อถือของแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่ครอบคลุมที่สุด พร้อมกับแนะแนวทางให้แก่ผู้พัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ นายทุน เจ้าของที่ดิน รวมถึงผู้ประกอบการทั่วโลก ในการตัดสินใจเลือกแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพสูงและคุ้มค่า

          รายงานประจำปี 2562 ได้สรุปผลการทดสอบสมรรถนะของแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่ทำการทดสอบโดย PVEL ในระยะเวลา 18 เดือน ซึ่งรวมถึงการทดสอบการต้านทานการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในแต่ละช่วงเวลาของวัน ความร้อนชื้น และการเสื่อมสภาพ (PID) โดยแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่เสื่อมสภาพไม่ถึง 2% ตลอดระยะเวลาทดสอบถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ระดับ "Top Performer" ทั้งนี้ แผงเซลล์แสงอาทิตย์คุณภาพสูงของ JA Solar ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในทุกการทดสอบ โดยคว้าตำแหน่ง "Top Performer" ในการทดสอบทั้ง 4 หมวด

          เมื่อไม่นานมานี้ JA Solar ได้เริ่มผลิตโมดูล PERC แบบแบ่งครึ่งเซลล์ "9BB" ในปริมาณมาก โมดูลรุ่นใหม่นี้มาพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมาย และมีกำลังการผลิตสูงถึง 405 วัตต์สำหรับโมดูลแบบ 72 เซลล์ ทั้งยังมีสมรรถนะเหนือกว่าโมดูลทั่วไปทั้งในแง่ของความน่าเชื่อถือ ความเสถียร คุณสมบัติเชิงกล และความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม นักลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลตอบแทนอย่างงาม นอกจากนั้นยังช่วยลดต้นทุนระบบและต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยไฟฟ้าปรับเฉลี่ย (LCOE) นับเป็นโซลูชันที่มีประสิทธิภาพในการผลักดันให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์เท่ากับหรือถูกกว่าไฟฟ้าจากสายส่ง (Grid Parity)

          คุณจิน เป๋าฟาง ประธานกรรมการและซีอีโอของ JA Solar กล่าวว่า "JA Solar มุ่งมั่นทำการวิจัยและพัฒนารวมถึงผลิตโมดูลประสิทธิภาพสูงเพื่อลด LCOE และส่งเสริม Grid Parity ในอนาคตเราจะเดินหน้าส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงให้แก่ลูกค้าทั่วโลก และส่งเสริมการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกต่อไป"

Ultra ประกาศทำ IEO บนแพลตฟอร์ม Tokinex เป็นโครงการที่ 2

   Bitfinex ประกาศในวันนี้ว่า Ultra จะเปิดระดมทุนด้วยการเสนอขายเหรียญออกใหม่ (IEO) เป็นโครงการที่ 2 บน Tokinex ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเสนอขายเหรียญจากความร่วมมือระหว่าง Bitfinex และ Ethfinex

          Ultra เป็นแพลตฟอร์มและโปรโตคอลที่ถูกสร้างมาเพื่อผลิกโฉมอุตสาหกรรมเกมซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 1.4 แสนล้านดอลลาร์ โดยอาศัยเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาช่วยในการเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถพัฒนาและดำเนินการแพลตฟอร์มกระจายเกมหรือให้บริการซื้อขายสินค้าเสมือนจริงของตนเองได้ การทำเช่นนี้จึงเหมือนเป็นการท้าทายการผูกขาดของผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมอย่าง Steam, Google และ Apple ในปัจจุบัน ทั้งยังมอบทางเลือกที่น่าสนใจให้กับบรรดานักพัฒนาที่ถูกขังไว้หลังกำแพง

          Ultra จะทำให้นักพัฒนาสามารถเข้าไปควบคุมชุมชนได้มากขึ้น และช่วยปลดล็อคช่องทางหารายได้ใหม่ๆ ที่โปร่งใสให้กับพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการหารายได้จากการโฆษณา หรือกระบวนการชำระเงินแบบนาโนเพย์เมนต์ พร้อมสิทธิประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย ซึ่งไม่เพียงมีให้เฉพาะสำหรับนักพัฒนาเพียงเท่านั้น ขณะเดียวกันนักเล่นเกมก็จะได้ประโยชน์จากการที่สามารถเข้าไปเล่นเกมที่ต้องการได้ในทันที รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลเอกซ์คลูซีฟของเกมทั้งหลาย อีกทั้งยังมีโอกาสในการได้รับเหรียญ UOS จากการเล่นเกมอีกด้วย

          Paolo Ardoino ซีทีโอของ Bitfinex กล่าวว่า "หลังจากประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่มาแล้วในการขายโทเคน Ampleforth เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการเสนอขายเหรียญต่อไปบน Tokinex ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของแวดวงบล็อกเชน Ultra ประทับใจมากกับทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและวิสัยทัศน์อันแรงกล้าของเรา และเราก็กำลังเฝ้ารอที่จะได้เห็นการตอบรับอย่างดีจากชุมชนแห่งนี้"

          โทเคน Ultra จะเริ่มเปิดขายบนแพลตฟอร์ม Tokinex ในเวลา 11.00 น. ตามเวลาสากลเชิงพิกัด (UTC) ของวันที่ 16 กรกฎาคม และจะขายไปเรื่อยๆจนกว่าจะระดมทุนได้ครบ 5,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถดูข้อมูลในสมุดปกขาวของ Ultra ได้ที่ https://ultra.io/whitepaper หรือเข้าไปลงทะเบียนกับ Tokinex ทาง https://tokinex.ethfinex.com/token-sales เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่วันนี้

          เกี่ยวกับ Ultra

          Ultra เป็นแพลตฟอร์มเผยแพร่เกมยุคใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายตลาดแบบผูกขาดด้วยการนำเสนอโซลูชั่นใหม่ๆ ให้กับนักพัฒนาและผู้เล่นเกม Ultra มีรากฐานทางบล็อกเชนที่แข็งแกร่งซึ่งต่อยอดมาจากเทคโนโลยีการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ของเราที่ได้รับความไว้ใจให้มอบบริการดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 100 ล้านครั้งทั่วโลก รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Ultra.io

          เกี่ยวกับ Tokinex

          Tokinex เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการเสนอขายเหรียญออกใหม่ (IEO) จาก Bitfinex และ Ethfinex ซึ่งเปิดตัวออกมาเมื่อเดือนพ.ค. 2562 เพื่อมอบโอกาสให้ทุกคนได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับการเสนอขายโทเคนจากโปรเจกต์ใหม่ๆ แพลตฟอร์ม Tokinex เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมได้มีส่วนร่วมในการเสนอขายที่โทเคนที่ผ่านการคัดสรรและตรวจสอบมาแล้วได้โดยตรงจากสินทรัพย์ที่มีอยู่ในวอลเล็ตส่วนตัวของพวกเขา โดยไม่มีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เอาไว้ และไม่มีค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนซื้อขายบนแพลตฟอร์ม

Ultra Announced as Second IEO on Tokinex

         Bitfinex have today announced Ultra as the second initial exchange offering (IEO) to be conducted on Bitfinex and Ethfinex's joint token sale platform, Tokinex.

          Ultra is a protocol and platform positioned to disrupt the $140bn gaming industry using blockchain technology to allow anyone to build and operate their own game distribution platform or virtual goods trading service. In doing so it challenges the current monopoly held by industry heavyweights Steam, Google, and Apple, and provides an attractive alternative to 'walled gardens'.

          For developers, Ultra enables greater control of communities, unlocks transparent new revenue streams including advertising, and instantaneous processing of nano-payments, amongst many other benefits. The benefits extend to gamers too, with immediate play, access to exclusive content, and the ability to earn UOS coins.

          Paolo Ardoino, Bitfinex CTO adds: "Following the huge success of the Ampleforth sale, we are delighted the next token to be sold on Tokinex is another pioneer in the blockchain space. Ultra's expert team and ambitious vision have impressed us and we look forward to seeing the response from the community."

          The Ultra token sale will commence on Tokinex on 16th July at 11:00 UTC and will end when the 5,000,000 USD hard cap is reached. For further information on Ultra the white paper is available here, and head to Tokinex to get started today.

          About Ultra

          Designed to break the market monopoly, Ultra is the next-generation games distribution platform, offering new solutions to both developers and players. Ultra has a blockchain foundation empowered by our staged software download technology, that has reliably served more than 100 million downloads around the world. For more information, visit Ultra.io.

          About Tokinex

          Launched in May 2019, Tokinex is the IEO platform of Bitfinex and Ethfinex that brings fair opportunity to participate in curated token projects. It gives qualified participants the chance to contribute to pre-vetted token sales directly from their personal wallet through common crypto assets, and with no personal data or funds held by the exchange.

นครซีอานเปิดตัวชุดนโยบายปั้นบัณฑิตคุณภาพ หวังเป็นศูนย์กลางด้านสตาร์ทอัพของจีน

          มอบเงินทุน 272 ล้านหยวนสำหรับบัณฑิตผู้ประกอบการ

          นครซีอาน เมืองเอกแห่งมณฑลส่านซีของประเทศจีน ประกาศเปิดตัวชุดนโยบายใหม่สำหรับสตาร์ทอัพเมื่อไม่นานมานี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดึงศักยภาพของผู้สำเร็จการศึกษาในท้องถิ่น มาสรรสร้างนครซีอานขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางในฝันสำหรับเหล่าสตาร์ทอัพในประเทศจีน นโยบายนี้ครอบคลุมการสนับสนุนตั้งแต่การระดมทุนโดยตรง การให้คำปรึกษา การบ่มเพาะ และการจับคู่โครงการ


          แนวคิดเชิงนโยบายโดยย่อ:

          - กระบวนการลงทะเบียนที่สะดวกกว่าที่เคย: เปิดตัวนโยบายรวมสำหรับสตาร์ทอัพ เพื่อลดความยุ่งยากของการจดทะเบียนบริษัท และสนับสนุนการลดหย่อนภาษี การฝึกอบรม การให้คำปรึกษา และการสนับสนุนด้านเงินทุน
          - ส่งเสริมการบ่มเพาะ: นครซีอานมีเป้าหมายในการสร้างศูนย์บ่มเพาะ 50 แห่ง ศูนย์ธุรกิจ 100 แห่ง และศูนย์ฝึกงาน 500 แห่ง ภายในระยะเวลา 3 ปี เพื่อสนับสนุนให้บัณฑิตเริ่มต้นธุรกิจ
          - การจัดหาเงินทุน: จะมอบเงินทุนจำนวน 3 ล้านหยวนที่เป็นสินเชื่อทางการเงินพร้อมการค้ำดอกเบี้ยสำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อยที่เหมาะสม ส่วนบัณฑิตที่มีคุณสมบัติครบถ้วนจะสามารถสมัครขอสินเชื่อจำนวน 1 ล้านหยวน โดยการประกันพื้นฐานส่วนหนึ่งจะครอบคลุมภายใต้โครงการนี้
          - โครงสร้างพื้นฐานที่เปี่ยมศักยภาพ: จะจัดตั้งสมาพันธ์เพื่อการจ้างงานและการเป็นผู้ประกอบการ (EEA) สำหรับนักศึกษาระดับวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ เพื่อให้มหาวิทยาลัย นักศึกษา รัฐบาล และองค์กรมารวมตัวกัน เพื่อเอื้อต่อการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง
          - คลังโครงการ: จะสร้างคลังโครงการทั้งระดับเมืองและเทศมณฑล เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการฝึกอบรมสตาร์ทอัพ การจับคู่โครงการ และโปรแกรมการให้คำปรึกษา
          - โครงการให้คำปรึกษา: ทีมผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ 132 คน จะมาทำงานร่วมกับรัฐบาล สถาบัน และผู้ประกอบการ เพื่อมอบคำแนะนำเพิ่มเติม รวมถึงทิศทางสู่การเป็นผู้นำในอนาคต
          - ปฏิทินกิจกรรม: จะมีการรวมตัวกันของเครือข่ายศูนย์บ่มเพาะที่แข็งแกร่ง แหล่งรวมนายทุนที่มีประสบการณ์ และโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ผ่านกิจกรรมที่จะจัดขึ้นตลอดทั้งปี

          นครซีอานจะดำเนินการนโยบายใหม่สำหรับสตาร์ทอัพนี้ผ่านระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเริ่มธุรกิจ ซึ่งออกแบบมาเพื่อการขยายตัวที่ครอบคลุม โดยนับตั้งแต่การเปิดตัวนโยบายสตาร์ทอัพของซีอาน มีการมอบเงินทุนไปแล้วกว่า 272 ล้านหยวน และเกิดการสร้างงานมากถึง 528,000 ตำแหน่ง ควบคู่ไปกับศูนย์บ่มเพาะ 5 แห่งระดับนานาชาติ และศูนย์บ่มเพาะ 23 แห่งระดับมณฑล โดยมีบริษัทสตาร์ทอัพเกิดขึ้นใหม่กว่า 3,123 แห่ง

          กิจกรรมที่ผ่านมา ได้แก่ การเปิดตัวงาน "2018 Innovation Xi'an Entrepreneurship competition B&R Create@Alibaba Cloud Startup Contest Xi'an" และ "2018 Star Venture Enterprise of Xi'an" และสำหรับปีนี้ จะมีการเปิดตัวกิจกรรมอีกมากมายเช่น "Star Entrepreneur of the Year Election" และ "University Maker Festival"

          เทศบาลนครซีอานจะเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายปั้นบัณฑิตใหม่ล่าสุดนี้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียและนิวมีเดีย เช่น บัญชี WeChat ของรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อมุ่งดึงดูดผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพตลอดช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้

          รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://cbe.xa.gov.cn/default.html

ZTE wins Best Mobile Service for Connected Living in Asia Award by virtue of its ATG Air Broadband Solution

   ZTE Corporation (0763.HK / 000063.SZ), a leading provider of telecommunications, enterprise and consumer technology solutions for the mobile internet, today announced that ZTE has won Best Mobile Service for Connected Living in Asia Award at Mobile World Congress (MWC) Shanghai 2019, by virtue of its Air to Ground (ATG) Air Broadband Solution.

          ZTE's Air to Ground (ATG) uses the mature land mobile communication technology to construct a three-dimensional ground-to-air broadband coverage network, providing on-board entertainment, on-board office, customized services and extensive industrial application services. ZTE's ATG solution supports 1200 km/hour ultra-high speed with 300 km coverage radius, so that users can enjoy stable and high-speed service experience above the air.

          ZTE has stepped into the ATG field since 2009. By means of its accumulation of ground communication technologies, ZTE has overcome a series of difficulties, such as applications in special scenarios, special area coverage and ground network interference.

          ZTE has been leading in the ATG field for many years. In 2009, ZTE developed the first 3G ATG network. In 2014, ZTE conducted the first LTE ATG test in the industry along with Air China and opened two pre-commercial air routes. In 2017, the first plane equipped with 4G air-to-ground common frequency ATG technology successfully took off. Now, ZTE is committed to developing and researching on 5G ATG solution, so as to provide an aerial 5G experience.
About ZTE

          ZTE is a provider of advanced telecommunications systems, mobile devices, and enterprise technology solutions to consumers, carriers, companies and public sector customers. As part of ZTE's M-ICT strategy, the company is committed to provide customers with integrated end-to-end innovations to deliver excellence and value as the telecommunications and information technology sectors converge. Listed in the stock exchanges of Hong Kong and Shenzhen (H share stock code: 0763.HK / A share stock code: 000063.SZ), ZTE's products and services are sold to over 500 operators in more than 160 countries. ZTE commits 10 per cent of its annual revenue to research and development and has leadership roles in international standard-setting organizations. ZTE is committed to corporate social responsibility and is a member of the UN Global Compact. For more information, please visit www.zte.com.cn.

          Media Contacts:
          Margaret Ma
          ZTE Corporation
          Tel: +86 755 26775189
          Email: ma.gaili@zte.com.cn



JA Solar Recognized as "Top Performer" in DNV GL/PVEL 2019 PV Module Reliability Scorecard for the Fourth Time

JA Solar Co., Ltd, a world-leading manufacturer of high-performance photovoltaic products, announced that it has been recognized as "Top Performer" in the 2019 PV Module Reliability Scorecard jointly issued by DNV GL and PVEL. This is the fourth time JA Solar has received the honor.

          Jointly issued by DNV GL, the world's largest independent energy advisory and certification body, and PVEL, a leading reliability and performance testing lab for solar modules, the scorecard presents the most comprehensive publicly available reliability test results about solar modules, and guides solar project developers, financiers, and asset owners and operators around the world to choose cost-effective and high-performance modules.

          The 2019 scorecard summarizes the results of PVEL's tests within an 18 month duration on module performance, including thermal cycling, damp heat, dynamic mechanical load sequence, and potential-induced degradation (PID). The modules that have degraded less than 2% for the entirety of the test sequence are recognized as "Top Performer" products. With its high-quality solar modules, JA Solar performed well in all tests and is recognized as "Top Performer" in all four test categories.

          JA Solar recently commenced mass production of its 9BB half-cell PERC solar module. The new module, featuring numbers of leading-edge technologies, could achieve an output power up to 405W for a 72-cell module. Compared with conventional modules, JA Solar's 9BB half-cell PERC module has superior performance in reliability, stability, mechanical properties and environmental adaptability, which enables it to provide promising guarantee of investors' return and drives down system costs and LCOE, thus resulting in an effective solution to achieving grid parity.

          Mr. Jin Baofang, Chairman and CEO of JA Solar, said, "JA Solar is committed to the R&D and mass production of high-efficiency solar modules to further reduce LCOE and promote grid parity. In the future, we'll continue to provide high-quality products for customers around the world, and promote the development of renewable energy globally."

เพลง OST อัลบั้มเต็มจากเกม BTS WORLD วางจำหน่ายวันที่ 28 มิถุนายนนี้ พร้อมกันทั่วโลก!

          - พร้อมเปิดตัวให้ชมแล้วสำหรับมิวสิควิดีโอเพลงไตเติ้ลอย่างเพลง "Heartbeat" วันที่ 28 มิถุนายนนี้เป็นวันแรก!

          - เกมมือถือที่ทุกคนต่างรอคอย BTS WORLD มียอดดาวน์โหลดพุ่งสูงจนขึ้นอันดับ 1 ของเกมดาวน์โหลดฟรีแล้วบนระบบ iOS ใน 33 ประเทศ และ 5 อันดับแรกใน 82 ประเทศภายใน 14 ชั่วโมงแรกได้นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา!


          วันนี้ เน็ตมาร์เบิ้ลคอร์ปอเรชั่น ประกาศว่า วงบอยแบนด์ชื่อดัง BTS พร้อมปล่อยเพลง OST อัลบั้มเต็มแล้ว! ซึ่งเป็นเพลงพิเศษจากเกม BTS WORLD และพร้อมวางแผนทั่วทั้งโลกในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งเกมมือถือที่ทุกๆ คนต่างรอคอย BTS WORLD นำเสนอประสบการณ์การเป็นผู้จัดการส่วนตัวของวงบอยแบนด์ชื่อดังอย่างวง BTS เพื่อปั้นให้เหล่าสมาชิกของวง BTS กลายมาเป็นซุปเปอร์สตาร์ระดับโลก! หลังจากที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา

          เพลง "Heartbeat" เป็นเพลงไตเติ้ลจาก BTS WORLD OST และเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเกมมือถือเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยเป็นเพลงแนวป๊อปร็อคที่ใช้เป็นเพลงประกอบเรื่องราวบรรดาสมาชิกทั้ง 7 คนของวง BTS ภายในเกม และมีเป้าหมายสูงสุดในการปั้นเหล่าสมาชิกของวงให้ไปสู่ดวงดาวและกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ชื่อดัง! ซึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจและน่าดึงดูดแห่งท่วงทำนอง รวมถึงการสมัครสมานสามัคคีในการประสานเสียงของทุกคนในวงนั้น ทำให้มีพลังและตราตรึงใจผู้ฟังได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเพลงนี้ได้รับการโปรดิวซ์โดยโปรดิวเซอร์มากฝีมือ ที่ได้รับการการันตีจากรางวัลชนะเลิศแกรมมี่อวอร์ดส์สาขา โปรดิวเซอร์ มิกเซอร์ และนักประพันธ์เพลงยอดเยี่ยมอย่าง DJ Swivel

          เพื่อให้สอดคล้องกับการเปิดตัวอัลบั้มเพลง OST วิดีโอเพลงใหม่อย่างเพลง "Heartbeat" จึงเตรียมเปิดตัวในวันที่ 28 มิถุนายนนี้เช่นเดียวกัน และด้วยธีมที่อ้างอิงจากเนื้อหาในเกม BTS WORLD อย่าง "Another Story" วิดีโอจะแสดงให้เห็นถึงเรื่องราวของสมาชิกภายในวงทั้ง 7 คน เรื่องราวความฝันของพวกเขาในฐานะคนธรรมดาในโลกสมมติ ซึ่งคู่ขนานกับโลกแห่งความเป็นจริงในปัจจุบัน

          เกม BTS WORLD ถือเป็นเกมซาวด์แทร็คเกมแรกของวงบอยแบนด์ชื่อดังอย่างวง BTS เลยทีเดียว! และอัลบั้มเต็มเพลง OST จากเกม BTS WORLD ที่ร้องโดยศิลปินวง BTS ก็มีถึง 14 เพลงด้วยกัน รวมถึงเพลง background ของเกม และ theme songs ของบรรดาสมาชิกในวงที่มีอยู่ภายในเกม BTS WORLD รวมถึงเพลง sub-unit ทั้ง 3 เพลงที่ได้ปล่อยออกไปก่อนหน้านี้อย่างเพลง "Dream Glow" ซึ่งร้องโดย Jin, Jimin และ Jung Kook เพลงที่ 2 อย่างเพลง "A Brand New Day" ซึ่งร้องโดย j-hope และ V และเพลงที่สามคือเพลง "All Night" ซึ่งร้องโดย RM และ SUGA!!

          เกม BTS WORLD เป็นเกมที่สร้างขึ้นร่วมกับซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่างบอยแบนด์ชื่อดังของเกาหลีอย่างวง BTS ซึ่งเป็นเกมมือถือแนว story-based ที่จำลองสถานการณ์เสมือนจริงที่จะให้ผู้เล่นร่วมสัมผัสประสบการณ์พิเศษแบบอินเตอร์แอคทีฟกับวงไอดอลชื่อดัง! เรื่องราวของเกม BTS WORLD นั้นจะนำพาให้ผู้เล่นย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นก่อนที่วงจะเปิดตัวในฐานะผู้จัดการส่วนตัวของศิลปินวง BTS โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการปั้นเหล่าสมาชิกของวงให้ไปสู่ดวงดาวและกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ชื่อดัง!

          ภายในเกม BTS WORLD ผู้เล่นจะสามารถใกล้ชิดกับบรรดาสมาชิกของวง BTS ได้มากยิ่งขึ้น ด้วยการโต้ตอบกับสมาชิกของวงผ่านระบบอินเตอร์แอคทีฟแบบ 1 : 1 นอกจากนี้ ภายในเกม ผู้เล่นจะได้พบกับภารกิจต่างๆ ที่พวกเขาจะสามารถเลือกการ์ดภาพสมาชิกของวง BTS เพื่อปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จลุล่วงและผ่านด่าน และการสะสมรวมไปถึงการอัปเกรดการ์ดเหล่านี้นั้นจะช่วยเป็นบัตรผ่านในการเปิดประตูสู่เรื่องราวในลำดับถัดไป ยิ่งไปกว่านั้นภายในเกมยังมีฟีเจอร์ของ "Another Story" ซึ่งเป็นการนำเสนอเรื่องราวของสมาชิกแต่ละคนในวง BTS อีกด้วย

          เกม BTS WORLD เปิดให้ผู้เล่นดาวน์โหลดทั่วโลก (ยกเว้นบางประเทศ) ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ซึ่งตั้งแต่การเปิดตัวตัวของเกม BTS WORLD เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2562 เป็นต้นมาก็ได้รับความนิยมจากบรรดาผู้เล่นเป็นอย่างมาก จนยอดดาวน์โหลดพุ่งสูงขึ้นเป็นอันดับ 1 ของเกมฟรีบนระบบ iOS ใน 33 ประเทศทั่วทั้งเอเชีย อเมริกา และยุโรป ซึ่งใช้เวลาเพียง 14 ชั่วโมงแรกเท่านั้น!! สามารถติดตามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมของ BTS WORLD ได้ทางเว็บไซต์ https://btsw.netmarble.com หรือทาง BTS WORLD site นอกจากนี้การอัปเดตล่าสุดก็ยังมีให้บริการสำหรับผู้ติดตามเกม BTS WORLD ทาง Twitter และ Instagram อีกด้วย!

          เกี่ยวกับเน็ตมาร์เบิ้ลคอร์ปอเรชั่น
          เน็ตมาร์เบิ้ลคอร์ปอเรชั่น (เน็ตมาร์เบิ้ล) เป็นหนึ่งในบริษัทเกมมือถือที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ผู้พัฒนาเกมมือถือที่ติดอันดับต้น ๆ มาอย่างสม่ำเสมอและเผยแพร่ไปทั่วโลก โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างความบันเทิงด้วยสุดยอดประสบการณ์เกมบนมือถือให้แก่คนทุกเพศทุกวัยทั่วโลก เน็ตมาร์เบิ้ลก่อตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 2000 ที่ประเทศเกาหลี ด้วยพนักงานกว่า 6,000 คน ซึ่งผลิตและให้บริการเกมดัง ๆ และประสบความสำเร็จอย่างมากมาย อาทิ Lineage2 Revolution, Blade & Soul Revolution, MARVEL Future Fight, เกมเศรษฐี (Let's Get Rich), และ เซเว่นไนท์ (Seven Knights) นอกจากนี้ Kabam ผู้พัฒนาเกมที่เปิดให้เล่นฟรี ซึ่งอยู่อันดับต้น ๆ ของโลกก็เป็นบริษัทในเครือของเน็ตมาร์เบิ้ลเช่นกัน และปัจจุบันเน็ตมาร์เบิ้ลยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ Jam City ซึ่งเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเกมแคชชวล และยังมีพันธมิตรทางธุรกิจมากมายอย่าง CJ ENM Corporation บริษัทด้านความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย, Tencent Holdings บริษัทอินเตอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และบริษัทที่โดดเด่นด้านเกม MMO อย่าง NCsoft อีกด้วย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.netmarble.in.th

          เกี่ยวกับ Big Hit Entertainment
          ค่าย Big Hit Entertainment เริ่มก่อตั้งขั้นในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005 ในประเทศเกาหลีใต้โดยซีอีโอและโปรดิวเซอร์อย่างคุณบัง ชี-ฮยอก ค่าย Big Hit Entertainment นั้นมุ่งเน้นไปที่การผลิตเพลง การจัดการและการเผยแพร่ศิลปิน โดยที่การลงทุนในธุรกิจของ Big Hit นั้นเป็นการรวบรวมและพัฒนาเนื้อหาหลากหลายที่ผลิตจากศิลปินที่มีคุณภาพระดับโลกอย่าง วงบอยแบนด์ BTS และวงน้องใหม่ล่าสุดอย่างวง TOMORROW X TOGETHER ซึ่งมีภารกิจ 'Music & Artist for Healing' หรือ 'ดนตรีและศิลปินเพื่อการเยียวยา' ซึ่ง Big Hit มีความมุ่งมั่นที่จะจูงใจผู้คนผ่านคอนเทนต์ในขณะที่มอบความอบอุ่นสบายใจและรวมไปถึงสร้างแรงบันดาลใจให้กับแฟนเพลงทั่วโลก

          เกี่ยวกับ Takeone Company:
          บริษัท Takeone เป็นบริษัทที่ดำเนินการเกี่ยวกับเนื้อหาด้านนวัตกรรมที่ใช้วัฒนธรรมที่เป็นที่นิยมสำหรับคนในแต่ละยุคแต่ละสมัย (pop-culture หรือ popular culture) ในสภาพแวดล้อมของเกม โดยบริษัท Takeone นั้นได้เริ่มก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 2016 และเป็นผู้นำเกมแนวใหม่ของเกมมือถือที่เรียกว่า 'Cinematic Games' ซึ่งรวมองค์ประกอบเกมแบบอินเทอร์แอคทีฟไว้ในคอนเซปต์เรื่องราวที่อิงตาม pop-culture และ IP แบบดั้งเดิม ซึ่งเกมดังกล่าวนั้นประกอบไปด้วยวิดีโอภาพเคลื่อนไหวเต็มรูปแบบและเนื้อหาภาพที่หลากหลายซึ่งเป็นตัวผลักดันขอบเขตของการเล่าเรื่องในยุคถัดไป ซึ่งจากประสบการณ์และความรู้อันยาวนานทั้งในเรื่องการเล่าเรื่องและการพัฒนาเกมได้นำไปสู่การสร้างสรรค์ Cinematic Games อาทิเช่น Take Urban และ BTS World บริษัท Takeone กำลังพัฒนาซีรีย์ของ Cinematic Games สำหรับเกมที่กำลังจะเปิดตัวในอนาคตอีกด้วย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.takeonecompany.com



BTS WORLD Original Soundtrack Album To Be Released Worldwide On June 28

          - Music Video for Title Song "Heartbeat" Also Available on June 28

          - Highly Anticipated BTS WORLD Mobile Game Becomes the No.1 Downloaded Free Game on iOS in 33 Countries Across North America, Europe and Asia Within the First 14 Hours Since Launch


          Netmarble today announced that BTS WORLD's full, original soundtrack (OST) album will be available worldwide on June 28 at 6 PM KST. BTS WORLD, the highly anticipated mobile game that offers the fantastic experience of becoming BTS' manager, was released on June 26.

          "Heartbeat," the title song from BTS WORLD's OST, first debuted exclusively in the mobile game on June 26. The pop rock track, which follows the game's story of the seven members of BTS making their way to become superstars, features the attractive tones and harmony of the group and delivers touching and powerful emotions. The song features production from GRAMMY Award-winning producer, mixer and songwriter DJ Swivel.

          To coincide with the release of the OST, a brand new video for "Heartbeat" will be available on June 28. With a theme based on BTS WORLD's "Another Story" game content, the video depicts the stories of the seven members living their own dreams as ordinary people in a parallel universe as opposed to their present reality.

          The first original game soundtrack ever from BTS, the BTS WORLD OST album features 14 tracks, including background music from the game, theme songs for each member and three previously released unit songs. These unit songs are "Dream Glow" by Jin, Jimin and Jung Kook; "A Brand New Day" by j-hope and V; and "All Night" by RM and SUGA.

          BTS WORLD is a story-based mobile simulation game that takes players back to the start before the band's debut to pursue the role of BTS' manager, with the ultimate goal of fostering BTS to become superstars.

          Players can interact virtually with BTS as a manager in the game through various 1:1 interactive content, as well as collect and upgrade BTS member cards to clear missions and open more stories along the way. The game also features individual stories of BTS members within the game's "Another Story" content where each member appears as the main character in their individual story.

          BTS WORLD is now available worldwide (excluding some countries) for iOS and Android devices. Since its June 26 release, the game has become the No.1 downloaded free game on iOS in 33 countries across North America, Europe and Asia within the first 14 hours. For more information, please visit the official site [https://btsw.netmarble.com] or follow BTS WORLD on Twitter, YouTube and Instagram.

          About Netmarble Corporation
          Netmarble Corporation strives to entertain audiences of all ages around the world by providing great mobile gaming experiences. Established in Korea in 2000, Netmarble is one of the fastest-growing mobile game companies and consistently ranks as a top mobile developer and publisher worldwide. With more than 6,000 employees, Netmarble has been producing and servicing some of the most successful mobile games including Lineage 2: Revolution, Blade & Soul Revolution, MARVEL Future Fight, Everybody's Marble, and Seven Knights. As a parent company to Kabam, a top mobile game developer in massively multiplayer free-to-play games, and the largest shareholder to Jam City, a leading casual social game developer, Netmarble has a strategic partnership with CJ ENM Corporation, Asia's largest entertainment company, Tencent Holdings, Asia's largest internet company, and NCsoft, a prominent MMORPG company. More information can be found at http://company.netmarble.com

          About Big Hit Entertainment
          Founded in February 2005 in South Korea by CEO and Producer Bang Si-Hyuk, Big Hit Entertainment's core business focuses on music production, artist management and publishing. Big Hit's business ventures incorporate and develop a range of content produced from top-notch artists' IP, including global superstars BTS and its newest addition TOMORROW X TOGETHER. With its mission of 'Music & Artist for Healing,' Big Hit strives to impart a positive influence through content while providing comfort and inspiration to music fans worldwide.

          About Takeone Company
          Takeone Company Corp. is an innovative content company that utilizes pop-culture within a gaming environment. Established in 2016, Takeone is leading the new genre of mobile games called 'Cinematic Games' that combines interactive game elements within a story concept based on both pop-culture and original IP's. The games include full motion videos and various visual contents that push the boundaries of next-generation storytelling. Years of experience and knowledge in both storytelling and game development have led to the creation of cinematic games such as Take Urban, BTS WORLD. Takeone is currently developing a series of future cinematic games for their next up and coming titles. For more information, please refer to www.takeonecompany.com.