Wednesday, December 30, 2020

Journeying With Love - Heartfelt Stories of GAC MOTOR's Car Owners From Around The World

GAC MOTOR recently released 4 touching stories of car owners on its channel, drawing widespread attention on social media. These stories of passion, life, family, and dreams have touched base with the audience. As viewers relate to the contents, strong feelings are stirred, reminding them to share love and communicate wonder to one another.

Passionate and Purposeful, a University Professor Pursues His Dreams of Cross-Country Driving


A university professor has fulfilled his long-time "cross-country dream", with the help of GAC MOTOR. While others see him as a stoic academic, this professor has a passionate desire to seek out adventure. After owning GAC MOTOR's flagship SUV the GS8, he finally embarked on this journey. The professor has since influenced his friends to purchase three GAC MOTOR cars, and continues to evangelize the brand to those around him. 


A Dedication of Love, Expressed in a Birthday Surprise for a Daughter


The mother of a 22-year-old girl who was about to graduate decided to buy her daughter GAC MOTOR's SUV the GS3, as a birthday present. After owning the GS3, mother and daughter have been enjoying driving the car.


Hitting His Soft Spot, An Environmentalist Makes a Green Choice


An environmentalist and his wife have always loved pursuing an active traveling lifestyle but want a minimal carbon footprint. Through GAC MOTOR's new-energy model the GE3, they are now able to pursue the seemingly conflicting goals of protecting the environment and doing what they love - driving to exotic locations on a whim. 


A Choice of Love - Family Bonding Over Weekends


This particular family of four has bought a star model - the GS5. They are seen camping in the wild, frolicking on beaches, enjoying sunrises on mountaintops. Each memory is indelibly etched into their minds. The GS5 is not just a car to them, but an integral part of their family, accompanying them every step of the way. 


More of such stories continue to be added, communicating the warm reception to the brand. It is this favorable response from car owners all over the world, which drives GAC MOTOR to continue its steady development and progress. All of these will lead to an even better journey with GAC MOTOR into the future - one that contains high-quality innovation, one that is driven with and by love.


Photo: https://mma.prnewswire.com/media/1393038/1.jpg

Caption: Journeying With Love - Heartfelt Stories of GAC MOTOR's Car Owners From Around The World

มาเก๊าเตรียมจัดงานแสดงสินค้า BEYOND Tech Expo ครั้งแรก

วันนี้ TechNode และ Macau International Grand Event Promotion Association ประกาศว่า งาน BEYOND International Technology Innovation Expo ครั้งแรกจะจัดขึ้นที่มาเก๊าในปีหน้า

ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลกที่กำลังมาแรง จึงจำเป็นต้องมีงานอีเวนต์ระดับโลกที่สามารถจัดแสดงเทคโนโลยีสุดล้ำให้โลกได้เห็น และดึงดูดเงินลงทุนและความร่วมมือจากนานาประเทศมากขึ้น งาน BEYOND International Technology Innovation Expo คืองานที่จะช่วยให้เกิดสิ่งนั้น

งาน BEYOND Expo ครั้งแรกจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 17 มิถุนายน 2564 ที่โรงแรม Venetian Macau งานนี้จะมีขึ้นเป็นเวลา 2 วัน โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 10,000 รายจากทั่วโลก และผู้จัดแสดงสินค้ากว่า 1,000 ราย ทั้งบริษัทในทำเนียบ Fortune Global 500 บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ สตาร์ทอัพยูนิคอร์น และสตาร์ทอัพเกิดใหม่ บริษัทต่าง ๆ จะจัดแสดงเทคโนโลยีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชีววิทยาศาสตร์ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานใหม่ แอปพลิเคชันเมืองอัจฉริยะ และเทคโนโลยีแห่งอนาคต นอกจากนี้ ผู้จัดยังจะเชิญบริษัทการลงทุนระดับโลกและสื่อต่างประเทศรวมกันกว่า 500 แห่งเข้าร่วมในงานด้วย นอกเหนือไปจากการจัดแสดงและงานประชุมแล้ว งาน BEYOND Expo ยังมีงานจัดควบคู่กันไป เช่น งานประชุม ทัวร์นวัตกรรม งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ การสาธิตผลงานจากสตาร์ทอัพ งานพบปะ VC และงานเลี้ยงหลังจบงาน


BEYOND ได้เริ่มต้นเจรจากับบริษัทระดับโลกมาแล้วหลายราย เช่น CP Group, Foxconn, BMW, Huawei, Mi, ZTE, AliCloud และ SenseTime


เทคโนโลยีและผลกระทบที่เกิดขึ้นคือจุดสนใจของงาน BEYOND Expo ในงานนี้จะเน้นในเรื่องว่าเทคโนโลยีเข้ามาพลิกโฉมการทำธุรกิจแบบดั้งเดิมและแก้ปัญหาความยั่งยืนทั่วโลกได้อย่างไร BEYOND Expo ตั้งใจจะทำลายขอบเขตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลก และเพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ใช้นำเสนอนวัตกรรมจากบริษัท สตาร์ทอัพ และมหาวิทยาลัยทั่วโลกได้

"เราเชื่อว่าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลกต้องการแพลตฟอร์มใหม่เพื่อจัดแสดงการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม รวมถึงการเปลี่ยนจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคสู่การเป็นดิจิทัลในอุตสาหกรรม และจากนวัตกรรมของซิลิคอนแวลลีย์สู่นวัตกรรมระดับโลก" ดร. Lu Gang ผู้ก่อตั้ง TechNode กล่าว "เราเชื่อว่า BEYOND จะกลายเป็นงานเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นที่ซึ่งผู้คนทั่วโลกสามารถรวมตัวกันและแลกเปลี่ยนความคิดกันได้"

Lo Tak Chong ประธาน Macau International Grand Events Promotion Association ผู้ร่วมจัดงาน BEYOND ครั้งแรก กล่าวว่า "ผมเชื่อว่าพวกเขาจะนำมุมมองและแรงบันดาลใจที่แตกต่างมาสู่วัยรุ่นและผู้ประกอบการชาวมาเก๊า ขณะเดียวกันก็สำรวจอนาคตของธุรกิจแบบมองถึงอนาคต"

Agostinho Vong รักษาการประธานของสถาบัน Macau Trade and Investment Promotion Institute กล่าวว่า "BEYOND จะดึงดูดบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้เข้าร่วมกิจกรรมในมาเก๊า สร้างบรรยากาศสำหรับการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี กระตุ้นนวัตกรรมในตลาด และส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีในมาเก๊า"

นโยบายที่เอื้ออำนวยต่อการค้าและการเรียกเก็บภาษีที่ต่ำ คาดว่าจะทำให้บริษัทข้ามชาติเข้าถึงเอเชียแปซิฟิกได้อย่างง่ายดายผ่านทางมาเก๊า ด้วยการสนับสนุนจาก BEYOND Expo ที่จัดทุกปีแล้ว มาเก๊าหวังที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีระดับโลกแห่งใหม่ ที่เชื่อมต่อระบบนิเวศเทคโนโลยีทั่วโลกเข้าด้วยกัน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานนี้ได้ที่ beyondexpo.com หรือกดติดตามเพจ Facebook ที่ facebook.com/beyondtechexpo


รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1392686/image.jpg


GAC MOTOR แบ่งปันเรื่องราว "การเดินทางด้วยความรัก" จากเจ้าของรถทั่วโลก


เมื่อไม่นานมานี้ GAC MOTOR ได้เปิดเผย 4 เรื่องราวสุดประทับใจจากเจ้าของรถผ่านทางสื่อโซเชียล ซึ่งดึงดูดความสนใจผู้คนจำนวนมากในโลกออนไลน์ โดยเรื่องราวแห่งความปรารถนา ชีวิต ครอบครัว และความฝัน ตราตรึงอยู่ในใจของผู้ชมมากมาย เรื่องใกล้ตัวเหล่านี้กระตุ้นให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกร่วมอย่างแรงกล้า และย้ำเตือนให้แบ่งปันความรักและความมหัศจรรย์ของชีวิตกับคนรอบตัว

ความปรารถนาและความหวัง: ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยทำตามความฝันในการขับรถเที่ยวทั่วประเทศ

ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยคนหนึ่งเติมเต็มความฝันอันยาวนานในการขับรถเที่ยวทั่วประเทศโดยได้รับความช่วยเหลือจาก GAC MOTOR หลายคนมองว่าเขาเป็นนักวิชาการมาดนิ่ง แต่แท้จริงแล้วเขามีความปรารถนาอันแรงกล้าในการผจญภัย หลังจากได้ครอบครองรถเอสยูวีเรือธง GS8 ในที่สุดเขาก็ออกเดินทาง เขาทำให้เพื่อนตัดสินใจซื้อรถ GAC MOTOR ถึงสามคัน และยังคงชักชวนคนรอบตัวให้มาเป็นเจ้าของรถ GAC MOTOR ต่อไป

รักโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน: เซอร์ไพรส์วันเกิดลูกสาว

คุณแม่คนหนึ่งมีลูกสาววัย 22 ปีซึ่งกำลังจะเรียนจบ เธอจึงตัดสินใจซื้อรถเอสยูวี GS3 ของ GAC MOTOR ให้ลูกสาวเป็นของขวัญวันเกิด หลังจากได้เป็นเจ้าของ GS3 ทั้งคุณแม่และลูกสาวก็มีความสุขกับการนั่งรถด้วยกัน

ตรงกับความต้องการ: นักสิ่งแวดล้อมเลือกสิ่งที่ดีต่อธรรมชาติ

นักสิ่งแวดล้อมและภรรยารักการเดินทางท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ แต่ต้องการปล่อยคาร์บอนให้น้อยที่สุด ซึ่งยานยนต์พลังงานใหม่ GE3 ของ GAC MOTOR ก็ตอบโจทย์ดังกล่าว ตอนนี้ทั้งคู่สามารถปกป้องสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกับทำสิ่งที่รัก นั่นคือ การขับรถไปยังสถานที่แปลกใหม่ตามใจปรารถนา

ทางเลือกของความรัก: กระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวช่วงวันหยุด

ครอบครัวที่มีสมาชิก 4 คนได้ซื้อรถรุ่นเรือธง GS5 เพื่อเดินทางไปตั้งแคมป์ในป่า เที่ยวทะเล และดูพระอาทิตย์ขึ้นบนภูเขา ทุกความทรงจำประทับอยู่ในใจไม่รู้ลืม สำหรับพวกเขาแล้ว GS5 ไม่ใช่แค่ยานพาหนะเท่านั้น แต่เป็นส่วนสำคัญของครอบครัวที่ไปด้วยกันทุกที่

เรื่องราวเช่นนี้ยังคงดำเนินต่อไป และแสดงให้เห็นว่าแบรนด์ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่น เสียงตอบรับที่ดีจากเจ้าของรถทั่วโลกเป็นสิ่งที่ช่วยขับเคลื่อน  GAC MOTOR ให้พัฒนาและก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การเดินทางที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต โดยเป็นการเดินทางที่ประกอบด้วยนวัตกรรมคุณภาพสูงและขับเคลื่อนด้วยความรัก

รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1393038/1.jpg
คำบรรยายภาพ: GAC MOTOR แบ่งปันเรื่องราว "การเดินทางด้วยความรัก" จากเจ้าของรถทั่วโลก

Suning ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ Hainan Tourism Investment Development มุ่งขยายความร่วมมือในตลาดค้าปลีกปลอดภาษีของจีน

ซานย่า, จีน--29 ธ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์




Suning Group กลุ่มธุรกิจพาณิชย์ชั้นนำของจีน ร่วมด้วย Suning International และ Hainan Tourism Investment Development Co. Ltd. ลงนามข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ เมืองซานย่า มณฑลไห่หนาน ทางภาคใต้ของจีน โดยทั้งสองฝ่ายจะใช้จุดแข็งของตนเองเพื่อโฟกัสไปที่ธุรกิจโลจิสติกส์ อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ การค้าปลีกในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ฯลฯ เพื่อสร้างความร่วมมือรอบด้านในหลายระดับ บูรณาการห่วงโซ่อุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน และสนับสนุนการสร้างท่าเรือการค้าเสรีไห่หนาน


การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและตลาดการค้าปลีก หลังจากที่จำนวนนักท่องเที่ยวขาออก (outbound tourists) กลับมาเพิ่มขึ้นอย่างมาก ความต้องการช็อปปิงสินค้าปลอดภาษีก็เบนเข็มมาที่จีน เนื่องจากมณฑลไห่หนานมีสภาพอากาศอบอุ่นแบบเขตร้อน ท่าเรือการค้าเสรีไห่หนานจึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนมากกว่าช่วงก่อนเกิดโรคระบาด นอกจากนี้ ไห่หนานยังประกาศนโยบายช็อปปิงสินค้าปลอดภาษีใหม่ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยยกเลิกการจำกัดโควตาซื้อสินค้าปลอดภาษีต่อปี ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายสินค้าปลอดภาษีของไห่หนาน และทำให้ไห่หนานเป็นจุดหมายปลายทางการช็อปปิงสินค้าปลอดภาษีที่ดึงดูดใจมากยิ่งขึ้นท่ามกลางข้อจำกัดด้านการเดินทางในปัจจุบัน บรรดานักวิเคราะห์กล่าว


สตีเวน จาง รองประธาน Suning Group กล่าวว่า "นโยบายที่เอื้ออำนวยช่วยผลักดันให้เขตการค้าเสรีไห่หนานเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ก็เปิดโอกาสให้เราสามารถขยายความร่วมมือและสร้างความเจริญรุ่งเรืองในเขต โดยอาศัยห่วงโซ่อุปทานระดับโลกของ Suning รวมถึงประสบการณ์และความรู้เชิงลึกด้านการค้าปลีกอัจฉริยะหลายช่องทาง และศักยภาพอันแข็งแกร่งในการนำเสนอบริการระดับพรีเมียมที่เฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้าแต่ละราย"


"ภายใต้ข้อตกลงครั้งสำคัญนี้ เราหวังว่าจะสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่ไห่หนานร่วมกับพาร์ทเนอร์ของเรา" เฉิน เถี่ยจวิน ประธานของ Hainan Tourism Investment Development Co., Ltd. กล่าว "เราจะกระชับความร่วมมือกับ Suning และเปิดตัวโครงการใหม่ ๆ ในภูมิภาค เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเขตการค้าเสรีไห่หนานต่อไป"


ก่อนที่จะมีพิธีลงนามความร่วมมือSuning International ได้เยี่ยมชมศูนย์ขายสินค้าปลอดภาษีนอกชายฝั่งของเมืองซานย่า ซึ่ง Hainan Tourism Investmentเตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคมนี้


Hainan Tourism Investment คือรัฐวิสาหกิจที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลไห่หนานและรัฐบาลมณฑลไห่หนาน โดยเริ่มดำเนินงานเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2563 ซึ่งเป็นวาระครบรอบสองปีของการจัดตั้งเขตการค้าเสรีไห่หนาน เป้าหมายขององค์กรคือการพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งหมด และสร้างแพลตฟอร์มความร่วมมือเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับนานาชาติของไห่หนาน


Hainan Tourism Investment ได้รับใบอนุญาตซื้อขายสินค้าปลอดภาษีนอกชายฝั่งบริเวณเกาะโดยรอบเมื่อเดือนสิงหาคม รวมทั้งได้รับใบอนุญาตให้นำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคปลอดภาษีด้วย


Suning International คือธุรกิจระดับโลกในเครือบริษัท Suning Group ซึ่งมีพันธกิจในการสร้างห่วงโซ่อุปทานการนำเข้าและส่งออก รวมถึงการค้าปลีกอัจฉริยะออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อตอบสนองผู้บริโภคชาวจีนที่ต้องการสินค้านำเข้ามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากธุรกิจ Suning International แล้ว บริษัทยังพัฒนาแพลตฟอร์มบริการค้าปลีกระดับไฮเอนด์ในชื่อ Sup's ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การค้าปลีกระดับโลกของบริษัท และสะท้อนถึงหลักปรัชญาของแบรนด์ในระดับสากล โดย Sup's มีพันธกิจในการแนะนำและส่งเสริมประสบการณ์ บริการ และผลิตภัณฑ์ที่มีความพิเศษและมีคุณภาพระดับไฮเอนด์ทั่วโลก


กระตุ้นการบริโภคแบบปลอดภาษีในแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของจีน


ความร่วมมือระหว่าง Suning กับ Hainan Tourism Investment จะได้รับประโยชน์จากจุดแข็งด้านห่วงโซ่อุปทานระดับโลกของ Suning โดยจะมีการนำเข้าสินค้าโดยตรงจากต่างประเทศทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์สุขภาพ เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน อาหาร ฯลฯ เพื่อนำเสนอให้แก่ผู้บริโภคในไห่หนานและนอกมณฑล ปัจจุบัน Suning International มีสำนักงาน 9 สาขาทั่วโลก และมีการพัฒนาพิมพ์เขียวครอบคลุมการค้าปลอดภาษี การค้าข้ามพรมแดน การค้าทั่วไป รวมถึงการค้าแบบ B2B และ B2C ขณะเดียวกัน บริษัทยังเดินหน้าสร้างและยกระดับโซลูชันบริการสำหรับแบรนด์คุณภาพสูงจากต่างประเทศ และยกระดับตนเองขึ้นเป็นผู้ให้บริการแบรนด์ระดับโลก


นอกจากนี้ Suning ยังมีแบรนด์ไฮเอนด์ในเครือข่ายหลายแบรนด์ที่มีความเป็นเลิศด้านประสบการณ์การบริโภค โดยนอกเหนือจาก Sup's แล้ว ยังมีแบรนด์โรงแรมหรู Bellagio Shanghai และร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำ KUROGI ซึ่งอยู่ในเครือของ Suning International โดยธุรกิจเหล่านี้มีศักยภาพในการจัดกิจกรรมหลากหลาย ซึ่งรวมถึงการเปิดป๊อปอัพสโตร์ ในไห่หนานในอนาคต


ทั้งนี้ Suning มีหน้าร้านอยู่แล้วมากกว่า 70 สาขาในไห่หนาน และมีแผนเปิดสาขาเพิ่มอีกในอนาคตภายใต้ข้อตกลงกับ Hainan Tourism Investment


เกี่ยวกับSuning Group


Suning ก่อตั้งขึ้นในปี 2533 ในฐานะกลุ่มธุรกิจพาณิชย์ชั้นนำของประเทศจีน ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทมหาชนสองแห่งในจีนและญี่ปุ่น ในปี 2563 Suning Group รั้งอันดับสองในทำเนียบบริษัทเอกชนชั้นนำ 500 แห่งในจีน ด้วยรายได้ต่อปี 6.65259 แสนล้านหยวน (ประมาณ 9.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) และยังรั้งตำแหน่งผู้นำวงการค้าปลีกทางอินเทอร์เน็ต บริษัทมีพันธกิจในการก้าวขึ้นเป็น "ผู้นำในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ผ่านการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดให้แก่ทุกคน" บริษัทเสริมแกร่งและขยายธุรกิจหลักอย่างธุรกิจค้าปลีกผ่านระบบนิเวศองค์กรที่ประกอบด้วยอุตสาหกรรมแนวดิ่งหลายอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ บริการทางการเงิน และกีฬา นอกจากนี้ Suning.com ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท และผู้บุกเบิกวงการค้าปลีกออนไลน์และออฟไลน์ ยังติดทำเนียบองค์กร Fortune Global 500 สี่ปีติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2560-2563


รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1392213/image_1.jpg

รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1392214/image_2.jpg


Fenty Skin ประกาศวางจำหน่ายทั่วโลก

ซานฟรานซิสโก--29 ธ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์


"ฉันอยากทำให้แน่ใจว่าผู้คนจะได้มีโอกาสสัมผัสกับสกินแคร์และผลิตภัณฑ์เพื่อความงามคุณภาพเยี่ยม การนำ Fenty Skin วางจำหน่ายที่ Sephora สาขาต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึง Boots และ Harvey Nichols นั้นหมายความว่า ผู้คนทุกที่จะได้เพลิดเพลินไปกับการชื่นชม Fenty Skin ด้วยตัวเองที่ร้าน พร้อมตื่นตาตื่นใจกับ Fenty Beauty ทั้งหมดในที่เดียว" ริฮานนา กล่าว


Fenty Skin แบรนด์สกินแคร์แบรนด์แรกของริฮานนา วางจำหน่ายแล้วที่ Sephora, Boots และ Harvey Nichols บางสาขาทั่วโลก เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2020 เป็นต้นไป โดยริฮานนาได้พัฒนาแบรนด์ Fenty Skin ขึ้นด้วยความร่วมมือกับ Kendo Brands ผู้บ่มเพาะแบรนด์ความงามในเครือบริษัท LVMH เมื่อช่วงต้นปีนี้ ด้วยความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการมอบคำตอบง่าย ๆ ให้กับผิวทุกโทนและทุกประเภท ความร่วมมือนี้จะทำให้ผู้บริโภคเข้าถึง Fenty Skin ได้มากขึ้นตามจุดวางจำหน่ายใน 30 ประเทศ


รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบมัลติแชนแนลอินเตอร์แอคทีฟได้ที่ https://www.multivu.com/players/English/8833951-rihanna-fenty-skin-global-retail-launch/


Fenty Skin สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมใหม่ของสกินแคร์ หรือ The New Culture of Skincare เพื่อมอบสกินแคร์ที่บริสุทธิ์ เรียบง่าย และให้ผลลัพธ์ดีแก่ทุกคน ผลิตภัณฑ์แต่ละตัวทำได้หลายอย่าง โดยใช้งานได้ง่าย และอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มไลน์เมคอัพแบรนด์ Fenty Beauty และได้รับการทดสอบแล้วกับผิวทุกโทนและทุกประเภทเพื่อให้ทำงานร่วมกันได้อย่างแนบเนียน การเพิ่ม Fenty Skin เข้าจุดขายนั้นทำให้นักช้อปพบและสัมผัสกับทั้งแบรนด์ Fenty Skin และ Fenty Beauty ได้ง่าย ๆ ในจุดเดียวกัน


ริฮานนาได้รับแรงบันดาลใจจากไลฟ์สไตล์ที่ทำให้เธอได้ไปมาแล้วทั่วโลก โดยเธอนำส่วนผสมต่าง ๆ จากทั่วโลกมารวมเข้ากับส่วนผสมที่นิยมมาทำเป็นสกินแคร์ ไม่ว่าจะเป็นกรดไฮยาลูรอนิคและไนอะซินาไมด์ เพื่อผลลัพธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในทางคลินิก ริฮานนาให้ความสำคัญกับความบริสุทธิ์ของผลิตภัณฑ์ ทั้งยังเป็นวีแกน ไม่ทดลองกับสัตว์ ไม่ใช้กลูเตน และรักษ์โลก โดยผลิตภัณฑ์มอยเจอร์ไรเซอร์แบบเดย์ไทม์ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติในการกันแดดนี้เป็นมิตรกับแนวปะการัง ตัวแพ็กเกจเน้นใช้วัสดุที่นำไปรีไซเคิลได้และยังมีแพ็กรีฟิลที่ชาญฉลาด แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา นอกจากนี้ ริฮานนายังได้ยกระดับประสบการณ์ทั้งหมดด้วยเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวลเป็นเอกลักษณ์ พร้อมกลิ่นที่ทำให้รู้สึกอบอุ่น เพลิดเพลิน และบริสุทธิ์ ริฮานนาคิดค้นแบรนด์ Fenty Skin ขึ้นเพื่อแชร์สกินแคร์รูทีนที่ตัวเองใช้จริง ๆ เพื่อผิวที่สดใสดูสุขภาพดีทั้งตอนเช้าและตอนกลางคืน


ผลิตภัณฑ์ในไลน์ Fenty Skin ประกอบด้วย


- Total Cleans'r Remove-It-All Cleanser (25 ดอลลาร์) ผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งเมคอัพรีมูฟเวอร์และเคลนเซอร์ในตัว พร้อมเนื้อสัมผัสแบบครีมที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรก น้ำมัน และเมคอัพที่ติดทน โดยไม่ทำให้ผิวแห้ง

- Fat Water Pore-Refining Toner Serum (28 ดอลลาร์) โทนเนอร์และซีรัมในตัวที่เรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์พลิกวงการ มุ่งจัดการรูขุมขน ทำให้จุดด่างดำดูดีขึ้น ทั้งยังทำให้ผิวดูสดใส เนียนเรียบ และควบคุมความมัน โดยไม่ทำให้ผิวระคายเคือง

- Hydra Vizor Invisible Moisturizer Broad Spectrum SPF 30 Sunscreen (35 ดอลลาร์ และรีฟิล 30 ดอลลาร์) มอยเจอร์ไรเซอร์และกันแดดน้ำหนักเบา ไม่มีน้ำมัน และแนบเนียนไปกับทุกโทนผิวโดยติดชมพูนิด ๆ มุ่งจัดการปัญหาผิวขาดน้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ และจุดด่างดำ ทั้งยังใช้ก่อนลงเมคอัพได้ด้วย ไม่ทำให้เกาะตัวเป็นก้อนหรือหน้าลอยเวลาเจอแสงแฟลช แถมยังรีฟิลได้ด้วย

- Instant Reset Overnight Recovery Gel-Cream (40 ดอลลาร์ และรีฟิล 36 ดอลลาร์) มอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้นในแบบกึ่งเจลกึ่งครีม ช่วยเติมน้ำให้ผิว ลดริ้วรอยร่องตื้นและริ้วรอยร่องลึก ให้ผิวดูสดใสเปล่งปลั่งมากขึ้นในตอนเช้า โดยรูขุมขนและจุดด่างดำจะดูดีขึ้นภายในสัปดาห์เดียว แถมยังรีฟิลได้เหมือนกันด้วย

- Fenty Skin Start'r Set (40 ดอลลาร์) เซ็ตผลิตภัณฑ์ 3 ชิ้น ได้แก่ Total Cleans'r, Fat Water และ Hydra Vizor ไซส์มินิเหมาะกับการเดินทาง


--

Vietnam has the largest chicken export factory complex in Southeast Asia for the first time

BINH PHUOC, VIETNAM--29 Dec--PRNewswire/InfoQuest


On the morning of December 23, CPV FOOD Co., Ltd., a member of C.P Vietnam Livestock Joint Stock Company held the Inauguration Ceremony of CPV Food Factory Complex in Binh Phuoc. This is the largest chicken farming complex for export in Southeast Asia up to now.


For the full multimedia release, click here: https://www.prnasia.com/mnr/CPVietnam_202012.shtml


The inauguration ceremony of the CPV FOOD factory complex took place in parallel and was an outstanding activity of the Investment Promotion Conference of Binh Phuoc province in Becamex Binh Phuoc Industrial Park chaired by Vietnam Permanent Deputy Prime Minister Truong Hoa Binh and nearly 1000 delegates came from ministries, departments, consulates of countries and economic groups at home and abroad.


After two years of the Investment Trade Promotion Conference of Binh Phuoc province 2018, C.P. Vietnam has realized its commitment to invest and build the CPV FOOD Binh Phuoc export chicken processing factory complex, contributing to the economic development of the province and the lives of local people.


CPV FOOD Binh Phuoc Factory Complex Project has an initial investment capital of 250 million USD, a design capacity of up to 100 million units/year (after 2023), implemented by CP Group. CPV FOOD Binh Phuoc is rated internationally, creating a strong breakthrough in the livestock industry in Vietnam; providing high quality, food-safe chicken products to domestic consumers and exporters: Japan (45%), Europe (35%), Asia (10%), and the Middle East (10%). The project is expected to bring in foreign currency of 100 million USD/year in phase 1 and 200 million USD/year in phase 2.


Mr. Montri Suwanposri - General Director of CP Vietnam Joint Stock Company shared: "Investing in Vietnam for over a quarter of a century, we deeply understand the macro policy of the Government of Vietnam and director of the Ministry of Agriculture and Rural Development in promoting Vietnam to become a country producing international standard food and increasing exports. With the strength and successful experience in exporting poultry meat over 20 years of CP Group, we boldly set out the Mission of the closed chain project to export poultry meat from Vietnam. That is the Mission 'Improving the quality of Vietnamese food, contributing to bringing Vietnam on the map of branded poultry meat exports in the world'."


CPV FOOD Binh Phuoc factory complex complies with 100% traceability of the entire supply chain from upstream of raw materials for food production to processed products, ... With synchronous solutions for the environment and well-being animal benefits, ... meet all the strict criteria from high-end importing countries. The project is divided into 2 phases. In which, phase 1 (from 2019-2023) is implemented in 6 localities in Binh Phuoc province including Dong Xoai city, Binh Long town, Dong Phu district, Chon Thanh district, Hon Quan district, district Bu Dang, with a scale of 50 million broilers/year. Phase 2 will then increase capacity to 100 million broilers/year.


Contact:

VTVCorp JSC 

Ms. Linh 

+84-963-376-037


Photo: https://mma.prnewswire.com/media/1392231/CP1.jpg

Photo: https://mma.prnewswire.com/media/1392232/CP2.jpg

Photo: https://mma.prnewswire.com/media/1392233/CP3.jpg

Photo: https://mma.prnewswire.com/media/1392234/CP4.jpg


--


          Click for photo release at www.thaipr.net

แอปขายเสื้อผ้ามือสอง LESS_ เติบโตไม่หยุดยั้ง เตรียมระดมทุนรอบใหม่

 LESS_ แพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตสำหรับขายเสื้อผ้ามือสองและแอคเซสซอรีต่าง ๆ จากโปแลนด์ มีผู้ใช้งานกว่า 700,000 รายทั่วโลก แอปนี้เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน 2562 และหกเดือนต่อมาก็ระดมทุนรอบ Seed Round ได้ถึง 4 ล้านยูโร และในตอนนี้ LESS_ กำลังเตรียมระดมทุนรอบใหม่เพื่อนำเงินมาใช้ขยายธุรกิจไปยังยุโรปตะวันออกและยุโรปใต้ แอปนี้สามารถตอบสนองเทรนด์ของผู้บริโภคทั่วโลก และสร้างโอกาสมากมายให้แก่นักลงทุน

การพัฒนาอย่างรวดเร็วของ LESS_ รวมถึงประโยชน์ทางสังคมของโมเดลธุรกิจ ได้สร้างความประทับใจให้กับนิตยสารธุรกิจ MyCompany จนคว้าตำแหน่งสตาร์ทอัพแห่งปี 2563 ของโปแลนด์ โดยคุณ Mateusz Oleksiuk ซีอีโอ อธิบายว่า "LESS_ ถือกำเนิดขึ้นเพราะเราเล็งเห็นว่าจำเป็นต้องสร้างพื้นที่ให้กับคนรักแฟชั่น เราร่วมกันเปลี่ยนวิธีการช็อปปิงด้วยการเปิดโอกาสให้สนุกสนานกับชีวิตในแบบมินิมอล เราให้ความรู้และกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เราส่งเสริมการบริโภคอย่างมีสติ ในมุมมองของเรา แฟชั่นและมินิมอลลิสม์สามารถไปด้วยกันได้ เทรนด์นี้เป็นหนึ่งในเทรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และเรากำลังสร้างความได้เปรียบระดับโลกให้กับนักลงทุนของเรา การเติบโตของอีคอมเมิร์ซระหว่างสถานการณ์โรคระบาดก็เป็นเทรนด์ระดับโลก และเทรนด์นี้ก่อให้เกิดกิจกรรมอีคอมเมิร์ซมากมาย"

นอกจากนี้ แอปนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงตู้เสื้อผ้าเสมือนจริงของดารา นักร้อง นักกีฬา อินฟลูเอนเซอร์ ฯลฯ หลายพันราย หนึ่งในนั้นคือ Robert Lewandowski เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปี 2563 ของ FIFA ซึ่งลงทุนในบริษัทที่ดำเนินการแพลตฟอร์มนี้ด้วย นอกจากดาวเตะของบาเยิร์นมิวนิกรายนี้แล้ว ยังมีนักลงทุนมากประสบการณ์อีกหลายรายที่ถือหุ้นในบริษัท ได้แก่ Krzysztof Pawinski ประธานและเจ้าของบริษัท Maspex Group บริษัทอาหารรายใหญ่ที่สุดในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก, Dawid Urban นักลงทุนประเภท Angel Investor ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ LESS_, Eryk Stankunowicz บรรณาธิการนิตยสาร Forbes ฉบับภาษาโปแลนด์, Cezary Pietrasik อดีต CEE Director ของ Warburg Pinkus บริษัทไพรเวทอิควิตี้ในลอนดอน รวมถึงผู้ก่อตั้ง Allegro แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป    


ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ LESS_ ได้ที่ https://less.app/article/16-about-us 


LESS_ continues to grow and prepares for the next round of financing

 700,000 users across the world have joined the LESS_, an internet platform for selling second-hand clothes and accessories that operates from Poland. The app was launched in June 2019 and six months later it obtained EUR 4 million in the seed round. Now, LESS_ is preparing for the next round of financing which will be allocated to expand into markets of Eastern and Southern Europe. The application fits in the most significant global consumer trends creating opportunities for investors.  

The rapid pace of development of LESS_ as well as the social usefulness of the adopted business model was appreciated by MyCompany business magazine and recognized as the Polish start-up of 2020. Mateusz Oleksiuk, CEO, explains: "LESS_ was born because we saw a need to create a space for conscious fashion lovers.Together we change the approach to shopping by giving the opportunity to enjoy life in the vein of minimalism. We educate and inspire to change. We promote a conscious view of consumption. In our opinion, fashion and minimalism can go together. It is one of the strongest global trends and we already are on it building our global advantage for our investors. The growth of e-commerce during the pandemic is also a global trend and this trend boosts the rise of e-commerce initiatives."

The platform provides access to thousands of virtual wardrobes owned, among others, by celebrities, influencers, athletes and singers, who easily offer their fans access to their idols' items. One of LESS_'s account holders is Robert Lewandowski, the best footballer in the world 2020 according to FIFA, who is also an investor in the company that is the platform's operator.  In addition to the Bayern Munich player, the shareholder structure also includes strongly experienced investors. Krzysztof Pawinski is the president and owner of the Maspex Group, the largest food company in Central and Eastern Europe, Dawid Urban, a valued business-angel, co-founder and COO of LESS_, Eryk Stankunowicz, long-time editor of the Polish edition of Forbes, Cezary Pietrasik, ex CEE director at the London private equity Warburg Pinkus, and also the founders of Allegro, the largest e-commerce platform in this region of Europe.


Further information: About LESS_ (https://less.app/article/16-about-us)

นครนิวยอร์กเตรียมจัดงานเคาท์ดาวน์ออนไลน์ครั้งแรก ให้ทั่วโลกร่วมนับถอยหลังสู่ปีใหม่อย่างปลอดภัยไร้โควิด

 คณะผู้จัดพิธีหย่อนลูกบอลฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อันโด่งดังของนครนิวยอร์ก ขอนำปาร์ตีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนี้มาถึงบ้านของคุณ ส่งตรงจากย่านที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสี่แยกของโลกอย่างย่านไทม์สแควร์ โดย Jamestown เจ้าของอาคารวันไทม์สแควร์ ที่ตั้งของลูกบอลไทม์สแควร์อันเลื่องชื่อนี้ ได้สร้างประสบการณ์ฉลองวันส่งท้ายปีเก่าแบบออนไลน์ครั้งแรกอย่าง VNYE เพื่อให้ทุกคนได้ฉลองปีใหม่อย่างปลอดภัย

บิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก กล่าวว่า "ชาวนิวยอร์กต่างตื่นเต้นที่จะได้เริ่มต้นปี 2564 อย่างสดใส และเราขอฉลองปีใหม่ด้วยการทำสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุด นั่นคือการดูแลกันและกัน โดยเราขอทำให้เมืองนี้ปลอดภัยด้วยการยอมไม่จัดงานที่มีคนเป็นจำนวนมาก และผมทราบว่า โปรแกรมออนไลน์สุดยิ่งใหญ่นี้จะยังคงทำให้วันส่งท้ายปีเก่าครั้งนี้เป็นคืนที่น่าจดจำ"

เพื่อเป็นสักขีพยานเนื่องในโอกาสครั้งประวัติศาสตร์นี้ บรรดานายกเทศมนตรีทั่วสหรัฐ รวมถึงผู้นำจากแคนาดา เยอรมนี อินเดีย ญี่ปุ่น เม็กซิโก แอฟริกาใต้ และสเปน ต่างตบเท้าเตรียมร่วมงานเฉลิมฉลองนี้ เพื่อช่วยนิวยอร์กส่งข้อความแห่งความหวังและความสดใสรับปีหน้า

เคชา แลนซ์ บอททอมส์ นายกเทศมนตรีเมืองแอตแลนตา กล่าวว่า "ขอขอบคุณ Jamestown และพันธมิตรทุกคนผู้อยู่เบื้องหลังการจัดงานที่ปลอดภัยเพื่อฉลองวันส่งท้ายปีเก่า แม้ปี 2563 จะเต็มไปด้วยความท้าทายมากมาย การที่เรามาอยู่ที่นี่เพื่อฉลองปีใหม่นั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ความยืดหยุ่นของผู้คนทั่วโลก"

มาร์ติน เจ วอลช์ นายกเทศมนตรีเมืองบอสตัน กล่าวว่า "ปี 2563 เป็นปีที่ท้าทายมาก ๆ แต่ก็แสดงให้เห็นความแข็งแกร่งของเราในการสนับสนุนกันและกัน โดยที่บอสตันและตามเมืองต่าง ๆ ทั่วสหรัฐและทั่วโลก เราได้พบวิธีการที่สร้างสรรค์ในการสืบสานธรรมเนียมปฏิบัติและเชื่อมต่อกันอย่างปลอดภัย งานฉลองวันส่งท้ายปีเก่าแบบออนไลน์ครั้งแรกของนิวยอร์กนับเป็นตัวอย่างที่ดีของสิ่งนี้ และเราภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในนี้ในขณะที่เราหวังที่จะได้เจอวันที่ดีกว่าในปี 2564"

อีริค การ์เซ็ตตี นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส กล่าวว่า "ปีนี้ไม่เหมือนกับปีอื่น ๆ เพราะมีแต่สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้เราเจ็บปวดรวดร้าว และสูญเสียไปหลายอย่าง เราจึงต้องบอกลาปี 2563 ในรูปแบบเสมือนจริงที่แปลกใหม่ สนุกสนาน แต่ยังปลอดภัย แม้ว่าเราจะมารวมตัวกันเพื่อฉลองปีใหม่อย่างที่เคยทำไม่ได้ แต่ก็ขอให้เราพร้อมรับปี 2564 อย่างเต็มไปด้วยความหวัง ความเอาใจใส่ ความเห็นแก่ส่วนรวม ความหวังที่จะมีวัคซีนใช้และจุดจบของวิกฤตินี้ ไปจนถึงการกลับไปกอดครอบครัวและเพื่อน ๆ อีกครั้ง"

งาน VNYE ขอนำบรรยากาศการเฉลิมฉลองจากย่านไทม์สแควร์ส่งตรงถึงคุณ ครบครันทั้งรูปแบบ ความรู้สึก และความยิ่งใหญ่ โดยให้คุณสร้างอวาตาร์ของตัวเองเพื่อเข้าร่วมงาน และสำรวจย่านไทม์สแควร์แบบเสมือนจริงในปีที่ผู้คนมาสัมผัสสถานที่จริงด้วยตัวเองไม่ได้ สำหรับผู้ที่ต้องการโชว์สเต็ปแดนซ์ สัมผัสธรรมชาติ หรือสภาวะความถ่วงเป็นศูนย์ VNYE ก็มีเกมให้เล่นสนุก ๆ 3 เกมด้วยกัน ซึ่งผู้เล่นสามารถเก็บแต้มกระดาษโปรยเพื่อนำไปแต่งตัวให้อวาตาร์ของตัวเอง ส่วนแฟน ๆ อีสปอร์ตสามารถไปที่ Ultimate Gamer Lounge เพื่อเชื่อมต่อกับคอนเทนต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟและของแจกมากมาย ขณะที่แฟนเพลงสามารถรับชมการแสดงสุดพิเศษจากเหล่านักดนตรีหน้าใหม่ไฟแรงอย่าง Alex Boye, Armani White และ Chloe Gilligan นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงศิลปะแบบมัลติมีเดียอย่าง Hi-Resolution ด้วย ซึ่งเป็นการจัดแสดงผลงาน 60 ชิ้นจากศิลปินสายดิจิทัลและสายร่วมสมัยรวมกันกว่า 45 ราย ไม่ว่าจะเป็น Shyama Golden, Molly Soda, Jeanette Getrost และ Ines Alpha ที่ล้วนมุ่งถ่ายทอดในเรื่องของการตั้งจุดมุ่งหมายสำหรับปีที่จะมาถึง

ไมเคิล ฟิลิปส์ ประธานของ Jamestown กล่าวว่า "ที่นิวยอร์ก อาคารวันไทม์สแควร์เป็นที่ที่ผู้คนมารวมตัวกันเพื่อฉลองช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งยังเป็นจุดที่ผู้คนนับล้านมารวมตัวกันทุกปีเพื่อฉลองส่งท้ายปีเก่าด้วย และเมื่อเรา รวมถึงกลุ่ม Times Square Alliance และพันธมิตรของเราในนครนิวยอร์กและรัฐนิวยอร์กมองเห็นตรงกันว่าการเฉลิมฉลองนั้นจะไม่เกิดขึ้นในปีนี้ เราก็ได้หันความสนใจไปกับการสร้างแพลตฟอร์มใหม่ที่ทำให้คนทุกที่ร่วมฉลองไปกับเราได้แบบเสมือนจริงในไทม์สแควร์"

คลอเดีย ชีนโบม นายกเทศมนตรีกรุงเม็กซิโกซิตี กล่าวว่า "ปี 2563 เป็นปีที่ยากลำบากมาก ๆ อันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เรายังจำเป็นต้องทุ่มเทต่อไปเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าว และสำหรับบุคลากรทางการแพทย์แล้ว เราจะติดหนี้บุญคุณตลอดทั้งชีวิต และเราขอขอบคุณทุกท่านในนามของประชาชนทุกคน เราควรยกย่องความพยายามของพวกเขาด้วยการทำตัวอย่างมีความรับผิดชอบ เมื่อผนึกกำลังกันแล้ว เราจะเอาชนะปัญหานี้ การกระทำแต่ละอย่างของเราล้วนมีผลกระทบต่อวิวัฒนาการของการแพร่ระบาด เราต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง สิ่งที่สำคัญที่สุดในวันนี้คือสุขภาพของเรา คือชีวิตของเรา"

โซอิจิโระ ทากาชิมะ นายกเทศมนตรีเมืองฟุกุโอกะ กล่าวว่า "เราทุกคนล้วนกำลังสู้กับโรคโควิด-19 แต่อีกอย่างหนึ่งที่เราต้องสู้ด้วยนั้นคือปัญหาการแบ่งแยกพลเมืองที่ติดเชื้อ ศัตรูของเราคือไวรัส ไม่ใช่มาสู้ด้วยกันเอง เราต้องไม่ยอมให้เรื่องนี้แยกเราออกจากกัน"


ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ VNYE.com


สื่อมวลชนติดต่อ :

Virtual New Year's Eve:

Aarti Parekh / Lauren Weil

M&C Saatchi Sport and Entertainment LA

aarti.parekh@mcsaatchi.com / lauren.weil@mcsaatchi.com


Jamestown:

Jessica Scaperotti

Jessica.Scaperotti@Jamestownlp.com


One Times Square:

Elizabeth Latino / Siobhan Stocks-Lyons

Marino

elatino@marinopr.com / SStocks-Lyons@marinopr.com


โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1386919/Jamestown_Logo.jpg

โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1386920/VNYE_Logo.jpg


BEYOND Tech Expo to kick off in Macau

 Today, TechNode and Macau International Grand Event Promotion Association announce that the first BEYOND International Technology Innovation Expo will be held in Macau next year.

As an emerging center of the global economy, the Asia-Pacific region needs an international event that can display its most cutting-edge technologies to the outside world and attract more investment and collaboration from the international market. The BEYOND International Technology Innovation Expo is that promising event.

The first BEYOND Expo will kick off on June 17, 2021 at the Venetian Macau. The two-day event is expected to attract more than 10,000 attendees from around the globe, and more than 1,000 exhibitors including Fortune Global 500 companies, major multinational corporations, unicorns, and emerging startups. They will show technologies ranging from life sciences to new infrastructure, smart city applications, and future technology. The organizers will also invite more than 500 global investment firms and international media outlets to attend the event. In addition to exhibitions and conferences, the BEYOND tech expo will offer side events such as forums, innovation tours, product launch events, startup demos, VC meetups, and afterparties.

BEYOND has already begun talks with many international companies, including CP Group, Foxconn, BMW, Huawei, Mi, ZTE, AliCloud, and SenseTime.

Technology and its impact are the focus of the BEYOND Expo. BEYOND will highlight how technology disrupts traditional businesses and addresses global sustainability issues. BEYOND is meant to break boundaries across the global tech industry and to create a platform on which innovation from corporates, startups, universities around the world will be represented.

"We believe that the global technology industry needs a new platform to showcase changes in the industry, including the transformation from consumer electronics to industry digitization, and from Silicon Valley innovation to global innovation," said Dr. Lu Gang, founder of TechNode. "We believe BEYOND will become an exciting technology event where people around the globe can gather and exchange ideas."

"I believe that they will bring different perspectives and inspirations to Macanese youth and entrepreneurs, while exploring the future of business in a forward-looking manner," said Lo Tak Chong, president of the Macau International Grand Events Promotion Association, which will co-host the first BEYOND exhibition.

"BEYOND will help attract different tech companies to participate in the activities in Macau, create an atmosphere for tech exchanges, encourage market innovation, and promote the development of technology in Macau," said Agostinho Vong, acting president of the Macau Trade and Investment Promotion Institute.

With favorable trade and low-tax policies, international companies are also expected to be able to easily access the Asia-Pacific through Macau. Supported by the annual BEYOND Expo, the city aspires to become a new global tech hub connecting technology ecosystems across the world.

For more information about the event, please visit beyondexpo.com, or subscribe to its Facebook page at facebook.com/beyondtechexpo.

Tuesday, December 29, 2020

เมืองฝูชิงฉลอง 30 ปีแห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่


ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2533 เมืองฝูชิง ซึ่งเคยเป็นอำเภอมาก่อน ได้รับการรับรองจากคณะรัฐมนตรีให้เป็นเมืองระดับอำเภอของนครฝูโจว นับตั้งแต่นั้นมา เมืองฝูชิงได้เข้าสู่ยุคใหม่ของการพัฒนาอันเจริญรุ่งเรือง


ปัจจุบัน เมืองฝูชิงรั้งอันดับ 15 ในการจัดอันดับ 100 อำเภอชั้นนำของประเทศ และรั้งอันดับ 2 ในมณฑลฝูเจี้ยน โดยเมืองฝูชิงพัฒนาจากอำเภอเกษตรกรรมกลายเป็นเมืองอุตสาหกรรมอันแข็งแกร่ง โดยมีจีดีพีเพิ่มขึ้นถึง 95 เท่าตลอดสามทศวรรษที่ผ่านมา และเมืองฝูชิงยังคงเดินหน้าพัฒนาอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ โดยรั้งอันดับ 1 ในนครฝูโจวจากการประเมิน "การพัฒนาแบบก้าวกระโดดที่ขับเคลื่อนด้วยโครงการต่าง ๆ" และการดึงดูดการลงทุน


เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เมืองฝูชิงยังไม่มีทางด่วนหรือทางรถไฟ และมีเครือข่ายถนนที่หนาแน่นน้อยที่สุดในนครฝูโจว ปัจจุบัน เมืองฝูชิงมีท่าเรือเจียงหยินที่เชื่อมกับโลกภายนอก มีทางด่วนและทางรถไฟเข้า-ออกเมืองอย่างรวดเร็ว และมีเครือข่ายถนนหนาแน่นที่สุดในนครฝูโจว นอกจากนั้นยังได้รับการแต่งตั้งเป็นเมืองศิวิไลซ์และเมืองน่าอยู่ระดับชาติของจีนประจำปี 2563


เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เมืองฝูชิงมีรถพยาบาลคันเดียว ปัจจุบัน คนในท้องถิ่นสามารถเข้ารับบริการทางการแพทย์คุณภาพสูงใกล้บ้าน เนื่องจากเมืองฝูชิงได้สร้างโรงพยาบาล Grade III, Class A แห่งแรก และโรงพยาบาลเมืองฝูชิงก็กลายเป็นโรงพยาบาลในเครือมหาวิยาลัยแพทยศาสตร์ฝูเจี้ยน นอกจากนี้ เมืองฝูชิงยังลงทุนอย่างเต็มที่ด้านการศึกษา บริการดูแลผู้สูงอายุ และสิ่งอำนวยความสะดวกเชิงวัฒนธรรม ซึ่งรวมถึงสนามกีฬา ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม และพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อคนในท้องถิ่น


ความสำเร็จเหล่านี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของอนาคตที่จะเจริญรุ่งเรืองยิ่งกว่านี้ และเมืองฝูชิงจะเดินหน้าสร้างความสำเร็จต่อไป

Fuqing celebrates 30 years of great achievement

On December 26, 1990, Fuqing, previously a county, was approved as a county-level city of Fuzhou by the State Council. Fuqing has since entered a new historical era, embarking on a glorious development journey.


Now ranking the 15th among the top 100 counties in the country and the 2nd in the province of Fujian, Fuqing has developed into a strong industrial city from a large agricultural county, with the regional GDP increased by about 95 times over the past three decades. Continuing a strong momentum of development this year, the city is ranked first in the city of Fuzhou in the evaluations of "project-driven, leapfrogging development" and investment attraction.


Thirty years ago, there were no expressways or railways, and the city had one of the least dense road networks in the city. Today, the port of Jiangyin connects the city with the world, expressways and railways provide fast access in and out of the city, and the density of the road network is the highest in the city of Fuzhou. It's also designated as a National Civilized City and a Livable City of China in 2020.


Thirty years ago, Fuqing had only one ambulance. Today, local people can enjoy high-quality medical services near their homes, as the city has begun to construct its first Grade III, Class A hospital and Fuqing City Hospital has become an affiliated hospital of Fujian Medical University. The city invests heavily in education, old-age care service, and cultural facilities, including a stadium, a cultural and art center, and a museum, bringing greater benefits to local people.


What Fuqing has achieved is just the beginning of an even more prosperous future, and will continue to forge ahead with new achievements.

Simpl คว้ารางวัล "สตาร์ทอัพฟินเทคแห่งปี" จากงาน India Fintech Awards 2020

 - Simpl ได้รับการยกย่องจากการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ก้าวล้ำในการพลิกโฉมประสบการณ์การชำระเงิน ทั้งสำหรับร้านค้าและผู้บริโภค โดยการออกแบบที่คำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง และการใช้กลไกอัจฉริยะ


Simpl สตาร์ทอัพจากเมืองบังคาลอร์ ได้รับรางวัล "สตาร์ทอัพฟินเทคแห่งปี" (Fintech Startup of the Year) ที่งาน Indian Fintech Awards 2020 อันทรงเกียรติ จากการที่บริษัทเสริมสร้างศักยภาพและโอกาสให้ร้านค้าต่างๆ สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ลูกค้าสามารถไว้วางใจได้ในทุกการทำธุรกรรมดิจิทัล


รางวัล Indian Fintech Award เป็นส่วนหนึ่งของงาน India Fintech Forum โดยมีการมอบรางวัลเป็นประจำทุกปีให้แก่ผู้ประกอบการ ธุรกิจและผู้นำในวงการฟินเทคที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการที่ก้าวล้ำ ซึ่งเข้ามากำหนดนิยามใหม่ให้กับประเภทธุรกิจ การใช้เทคโนโลยีที่พลิกโฉมธุรกิจ การเป็นผู้นำทางความคิด ตลอดจนการมีบทบาทต่อระบบนิเวศฟินเทคโดยรวม


ด้วยเครือข่ายร้านค้าออนไลน์มากกว่า 2,500 รายที่เป็นผู้นำในประเภทธุรกิจต่างๆ เช่น Zomato, Bigbasket, Dunzo และอีกมากมาย Simpl กำลังสร้างอนาคตของการชำระเงินด้วยสินเชื่อ (credit-based) สำหรับผู้บริโภคอินเดียในยุค Mobile-First ที่ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นหลัก ผ่านทางแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ไร้รอยต่อ โปร่งใส ครอบคลุม และตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง


Simpl ได้รับแรงบันดาลใจจาก khaata หรือสมุดบัญชียุคเก่าที่ร้านค้าใช้ในการบันทึกรายการซื้อสินค้าของลูกค้าประจำ และกำลังขยายแนวคิดนี้ให้รองรับธุรกิจดิจิทัลคอมเมิร์ซ โดย Simpl ช่วยร้านค้าสร้างประสบการณ์การชำระเงินที่ปลอดภัยและไร้รอยต่อแก่ผู้บริโภคในคลิกเดียว ขณะที่ผู้บริโภคเองก็สามารถรวมรายการธุรกรรมของตนเองด้วยวงเงินสินเชื่อ "ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง" (Buy Now Pay Later) ของ Simpl ที่พร้อมปกป้องผู้ซื้อโดยผู้ซื้อสามารถปฏิเสธการชำระเงินได้ในทันที นอกจากนี้ Simpl ยังช่วยให้ร้านค้าเพิ่มการตัดสินใจซื้อของลูกค้า มูลค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อการซื้อหนึ่งครั้ง และความถี่ในการสั่งซื้อ ตลอดจนสร้างความภักดีและรักษาลูกค้าเก่า ด้วยการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการซื้อสินค้าและบริการผ่านอุปกรณ์มือถือ


Nityanand Sharma  ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Simpl กล่าวถึงการได้รับรางวัลในครั้งนี้ว่า "ทีมงานของเราปลาบปลื้มเป็นอย่างมากที่ได้รับเกียรตินี้ เราทั้งดีใจและภูมิใจกับรางวัลนี้ เพราะแสดงถึงการยอมรับในการทุ่มเททำงานหนักของเราเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่พลิกโฉมประสบการณ์ในการชำระเงินทั้งสำหรับร้านค้าและผู้บริโภค ปัจจุบัน Simpl เป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินแบบ Pay Later ที่ใหญ่ที่สุดของโลกสำหรับการชำระค่าสินค้าและบริการที่มีมูลค่าไม่สูงแต่มีการสั่งซื้อบ่อย เรามาถึงจุดเปลี่ยนบนเส้นทางในการทำให้ Buy Now Pay Later กลายเป็นรูปแบบการชำระเงินที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย รางวัลนี้แสดงถึงการยอมรับในความพยายามทั้งหมดที่ทีมงานของเราได้ทุ่มเทไปเพื่อสร้างรูปแบบใหม่ของการชำระเงินและประสบการณ์ที่ก้าวล้ำสำหรับผู้บริโภค"


เกี่ยวกับ  Simpl:


Simpl เป็นสตาร์ทอัพสัญชาติอินเดีย ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 และปัจจุบันเป็นแพลตฟอร์มแบบ Pay-Later ที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับการชำระค่าสินค้าและบริการที่มีมูลค่าไม่สูงแต่มีการสั่งซื้อบ่อย อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Blog ของเรา หรือติดตามเราได้ทาง LinkedIn

Simpl bags Fintech Startup of the Year title at India Fintech Awards 2020

 - Simpl has been recognised for its groundbreaking innovations towards reimagining the payment experience, both for merchants and consumers using human-centric design and machine intelligence


Simpl, a Bengaluru-based startup has won the prestigious Fintech Startup of the Year title at the Indian Fintech Awards 2020. The company empowers any merchant to build trusted relationships with their customers with every digital transaction.


The Indian Fintech Award is a part of the India Fintech Forum that acknowledges Fintech Entrepreneurs/Businesses/Leaders every year for demonstrating significant success in the launch of innovative products and services, redefining business categories, usage of disruptive technologies, thought-leadership, and for their impact on the overall fintech ecosystem.


With over 2500+ category-leading online merchants like Zomato, Bigbasket, Dunzo, etc., in its merchant network, Simpl is building the future of credit-based payments for the mobile-first consumer in India - fully digital, frictionless, transparent, inclusive and personalized.


Taking inspiration from the age-old tradition of a khaata or tab (book of accounts) used by merchants to serve their regular customers, Simpl is scaling this concept for digital commerce. Simpl enables merchants to give their consumers a safe and seamless 1-click checkout experience while consumers can aggregate their transactions with Simpl's Buy Now Pay Later line of credit, get strong buyer protection and instant chargebacks. By powering this best-in class mobile-first buying experience, Simpl helps merchants increase cart conversion, basket size and order frequency along with driving loyalty & retention of their customers.


Speaking on the win, Nityanand Sharma, Co-Founder & CEO - Simpl, said, "Our team is ecstatic at this honour. We are both happy and proud of this win, as an acknowledgement of the hard work we have put into building a product that completely transforms the payment experience, both for merchants and consumers. Today, Simpl is the world's largest pay later platform for small payments done frequently. We are at an inflexion point in our journey to bringing Buy Now Pay Later as a mainstream category of payments. This award is a recognition of all the efforts our team has put into creating a new category of payments and a breakthrough consumer experience."


About Simpl:


Simpl is an Indian startup founded in 2015 and is the world's largest Pay-Later platform for small payments done frequently. To know more visit our Blog or connect with us on LinkedIn.

People Across The Globe Come Together To Celebrate New York's First Ever Virtual New Year's Eve

Leaders from as far as Germany, India, Japan, Mexico, South Africa, and Spain, and Mayors from cities as close as Atlanta, Boston, Houston, Los Angeles, and Miami join New York in marking this historic occasion


Organizers of the New Year's Eve Ball Drop Celebration invite families around the world to post video messages on Instagram describing their hopes for 2021; a select few may be chosen to participate in a live broadcast hosted by Wonderama's David Osmond


Organizers of the famed New Year's Eve Ball Drop Celebration are bringing the world's biggest party right to your home, live and direct from the crossroads of the world, Times Square. Jamestown, owner of One Times Square - home of the iconic New Year's Eve Ball - has collaborated with Ultimate Gamer, Amazon Web Services (AWS), Samsung, and others to create a first-of-its-kind virtual New Year's Eve experience to allow people to ring in the New Year safely.


New York City Mayor Bill de Blasio said: "New Yorkers are excited for a fresh start in 2021, and we'll ring in the New Year by doing what we do best: looking out for one another. We're keeping our city safe by forgoing large gatherings, and I know this dynamic virtual programming will still make this New Year's Eve a night to remember." 


Times Square Alliance  President Tim Tompkins said: "New York has always been a global city and Times Square New Year's Eve a global celebration, so we are pleased to join with mayors from around the world to virtually celebrate together and to say goodbye - finally! - to 2020."


To mark this historic occasion, US mayors from Atlanta, Birmingham, Boston, Charleston, Charlottesville, Houston, Los Angeles, Miami, Savannah, and Seattle along with leaders from Canada, Germany, India, Japan, Mexico, South Africa, and Spain are joining the festivities to help New York in sending messages of hope and optimism for 2021.


Atlanta Mayor Keisha Lance Bottoms  said: "Thank you to Jamestown and all of the partners for organizing a safe event to celebrate New Year's Eve. Although 2020 has been full of challenges, the fact that we are here to celebrate a New Year is a testament to the resilience of people around the world."


Boston Mayor Martin J. Walsh  said: "2020 has been a challenging year, but it has also shown us how strong we can be when we support one another. In Boston, and in cities and towns all across the United States and across the globe, we've found creative ways to keep traditions alive and stay connected, safely. New York's first-ever virtual New Year's Eve celebration is a great example of that, and we're proud to be a part of it as we look forward to better days ahead in 2021."


Charleston Mayor John Tecklenburg  said: "It's a genuine honor to be able to help ring in the New Year in Times Square, and to offer everyone, everywhere best wishes for a happy, healthy 2021. As we say here in Charleston, Happy New Year, y'all!"


Los Angeles Mayor Eric Garcetti  said: "This year has been unlike any other -- unprecedented, painful, filled with loss and anguish -- so it's only fitting we should bid farewell to 2020 in a unique, fun, safe, and virtual way. While we can't gather together to ring in the New Year like we usually do, let's all look ahead to 2021 with hope, vigilance, selflessness, the promise of a vaccine and an end to this crisis -- and a return to the embrace of family and friends."


New Orleans Mayor LaToya Cantrell  said: "Here in New Orleans, we know how to celebrate; we practically invented it, and we are looking forward to ringing in a New Year. We also know how to rise to a challenge, and 2020 was a year of challenges. In our city, and across the country, we are putting in the work and there is a light at the end of this tunnel, and we will continue to move forward together. On behalf of the City of New Orleans, I wish everyone around the world good health, happiness, and prosperity in the New Year."


Seattle Mayor Jenny A. Durkan  said: "2020 presented unprecedented challenges for cities across the world. We saw the resiliency, compassion and determination of our neighbors, friends, essential workers, and first responders to respond to a one in a lifetime pandemic and economic crisis. In 2021, there is so much hope on the horizon. Cities like Seattle will build back stronger, better and more equitable. We still have some tough months ahead, but we have the grit and determination to not just get through them, but to create a better future for the next generations. May the New Year bring us all peace, joy, and happiness. Goodbye 2020 and hello 2021."


Everyone everywhere can start the festivities today by downloading the NYE app to enter the virtual world of Times Square. On December 31st, viewers can tune in for a live broadcast presented by David Osmond, host of the award-winning television series Wonderama. The all-night show will feature amazing talent and greetings from world leaders and families as we all ring in the New Year together.


Event organizers are inviting families from around the world to post video messages on Instagram describing their hopes for 2021. A select few who post videos and tag @OneTimesSquareNYC and #WonderamaWishes may also be chosen to speak with David Osmond in the coming days and have their message featured during the live broadcast.


Wonderama Host David Osmond  said: "All of us at Wonderama are thrilled to be a part of this historic world-wide celebration. We are all ready to move on from 2020 and in ring in a fabulous New Year! I am proud to be virtually hosting this exciting event, culminating with iconic ball drop in Times Square. It is a global community coming together with a shared wish for health, happiness and human kindness."


Jamestown President Michael Phillips  said: "Here in New York, One Times Square is the place where people mark the world's biggest moments. It is also the place where a million-plus people gather each year to celebrate New Year's Eve. When it became clear to us, the Times Square Alliance, and our partners in the city and the state, that this celebration would not be possible this year, we turned our attention to creating a new platform that enables everyone, everywhere to join us virtually in Times Square. For us, this was a simple decision. Jamestown, as a steward of New Year's Eve, had a responsibility to bring people together, in a safe and socially distanced way, while making sure the time-honored tradition of ringing in the New Year didn't get lost in 2020."


Mayor de Blasio will push the crystal button on the main stage in the center of Times Square, which signals the lowering of the Waterford Crystal Times Square New Year's Eve Ball. Historically, he is joined by special guests on the mainstage for this moment. This year, due to onsite social distancing protocols, guests will not appear on stage with the Mayor. This year each guest and their family will represent the Everyday Heroes of 2020 and will watch the event from a private, physically distanced viewing area.


Mexico City Mayor Claudia Sheinbaum  said: "2020 has been a difficult year, due to the COVID 19 pandemic. We need to continue making extraordinary efforts to reduce the number of people infected by the virus. To the health personnel, we owe you our life, on behalf of all citizens, we thank you. We must honor their efforts by being responsible. Together, we will overcome. Each one of our actions has an impact on the evolution of the pandemic. We must take responsibility for our actions. The most important thing today is our health, our lives."


Fukuoka City Mayor S?ichir? Takashima  said: "We are all fighting COVID-19, but there is one more fight against discrimination towards infected citizens. Our enemy is the virus, not each other. We must not let it divide us."


###


About Virtual New Year's Eve:

Jamestown has created a gamified New Year's Eve experience to bring the look, feel, and iconic celebrations from Times Square to you. Create your personalized avatar to enter and explore the virtual world of Times Square in a year when you can't be there in person.


For those who want to dance it out, take in nature, or experience zero gravity, VNYE has three fun games where you can collect celebratory confetti points to outfit your avatar. Gamers and esports fans can head to the Ultimate Gamer Lounge to connect to exclusive content and giveaways. Music fans can view exclusive performances by emerging musicians Alex Boye, Armani White, and Chloe Gilligan.


The experience also features a multimedia art exhibition, Hi-Resolution. The 60-piece collection from 45+ digital and contemporary artists-including Shyama Golden, Molly Soda, Jeanette Getrost, and Ines Alpha- focuses on setting intentions for the coming year.


Finally, on December 31, tune in for a Livestream from Times Square, as we countdown to midnight and the iconic Ball Drop Celebration. Direct your New Year's Eve show through the NYE experience: check out Twitch as creators share our broadcast on their channels, choose your view of Times Square from multiple camera feeds, and watch New Year's celebrations from around the world and even the International Space Station through our EarthCam Rolling Live feed.


For more information, visit VNYE.com or download the app NYE in all app stores.


About Wonderama:


Wonderama is a legacy media brand, with a 40+ year history in entertaining kids. Today, it has been reimagined and relaunched to critical acclaim. Designed to entertain, educate and engage kids and families across multiple platforms through our original content, Wonderama blends musical performances, science experiments, cooking demos, games, and much more in every episode. Our creative and interactive approach makes learning truly resonate with kids. 


Wonderama is certified by Stanford University and Metropolitan College of New York as Educational and Informational Programming. Wonderama has quickly expanded its platform to help serve the educational needs of elementary and middle school kids. With over 100 half hours of television and close to 500 individual video segments. Wonderama TV is syndicated across the U.S in over 100 markets, and distributed internationally. It is also available on Amazon Prime FVOD service, Tubi TV, an eponymous Music Choice Channel and through our own YouTube Channel.


About Jamestown:


Jamestown is a design-focused real estate investment and management company with a 35+ year track record and a clear mission: to transform spaces into innovation hubs and community centers. With headquarters in Atlanta, Georgia, and Cologne, Germany, and offices in Amsterdam, Bogot?, Boston, Los Angeles, New York, and San Francisco, the company is known for its market discipline. Since its founding in 1983, Jamestown has executed transactions in excess of $35 billion, and as of September 30th 2020, the company has assets under management of $11.8 billion. In its capacity as owner of One Times Square in New York City, Jamestown is the producer and host of the time-honored New Year's Eve Ball Drop Celebration, which brings people from around the world together to welcome in the New Year.  Other current and previous iconic projects include Chelsea Market in New York City, Industry City in Brooklyn, Ponce City Market in Atlanta, Ghirardelli Square in San Francisco, and the Innovation and Design Building in Boston. Jamestown recently expanded its investment footprint to South America and Europe.


Media Contacts:


Virtual New Year's Eve:

Aarti Parekh / Lauren Weil

M&C Saatchi Sport and Entertainment LA

aarti.parekh@mcsaatchi.com / lauren.weil@mcsaatchi.com


Jamestown:

Jessica Scaperotti

Jessica.Scaperotti@Jamestownlp.com


One Times Square:

Elizabeth Latino / Siobhan Stocks-Lyons

Marino

elatino@marinopr.com / SStocks-Lyons@marinopr.com


Logo - https://mma.prnewswire.com/media/1386919/Jamestown_Logo.jpg

Logo - https://mma.prnewswire.com/media/1386920/VNYE_Logo.jpg  

เมืองเกาสงตั้งเป้าเป็นประตูหลักตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ ด้วยการสร้างเมืองอัจฉริยะ 5G

 เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา Chen Chi-Mai นายกเทศมนตรีเมืองเกาสง ประกาศจัดตั้งคณะกรรมการเมืองอัจฉริยะเกาสงขึ้น โดยคณะกรรมการประกอบด้วยผู้นำจากรัฐบาล อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย และสถาบันอุตสาหกรรมสารสนเทศ รวมถึง Audrey Tang รัฐมนตรีดิจิทัลจากสภาบริหารไต้หวัน Lee-Feng Chien สมาชิกคณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสภาบริหารไต้หวัน และผู้บริหารอาวุโสจาก AWS, Microsoft, Siemens, IBM, ASE Group, Advantech, ChungHwa Telecom, FET, III และอื่น ๆ


ดร. Kung Ming-Hsin ประธานสภาพัฒนาแห่งชาติ ได้แสดงการสนับสนุนในเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยระบุว่า สภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตในเมืองเกาสงนั้นคล้ายคลึงกับประเทศต่าง ๆ ตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ และเป็นเรื่องง่ายกว่าที่จะติดต่อกับตลาดเหล่านี้ ดร. Kung ได้แนะนำเพิ่มเติมว่า การที่เมืองอัจฉริยะเข้าสู่ยุค 5G จะก่อให้เกิดโอกาสใหม่ ๆ ในการคิดค้นแอปพลิเคชันและระบบอัจฉริยะที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เมืองเกาสงสามารถมอบสภาพแวดล้อมและการจัดตั้งอุตสาหกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ในฐานะพื้นที่ทดสอบ POC ที่น่าสนใจ และยกระดับสู่การเป็นประตูเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่

คุณ Chen Chi-Mai นายกเทศมนตรีเมืองเกาสง เปิดเผยว่า สมาชิกคณะกรรมการเมืองอัจฉริยะเกาสงต่างเป็นบุคลากรชั้นแนวหน้าจากหลายภาคส่วน เขาเชื่อว่าเทศบาลเมืองเกาสงสามารถหาทางออกที่เหมาะสมและให้คำแนะนำที่มีประโยชน์เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เทศบาลเมืองเกาสงต้องเผชิญ ในอนาคต การพัฒนาเมืองอัจฉริยะจะถูกขับเคลื่อนโดยอุตสาหกรรมดิจิทัล การ "แสดงให้เห็นในเมืองเกาสงและส่งออกทั่วโลก" จะนำการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลสู่อีกขั้น ทำให้เมืองเกาสงเป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมดิจิทัลโลก

คุณ Charles Lin รองนายกเทศมนตรีเมืองเกาสง และรองผู้อำนวยการคณะกรรมการเมืองอัจฉริยะเกาสง เปิดเผยว่า เมืองเกาสงจะสร้างยุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่ออำนวยความสะดวกให้การพัฒนาเมืองอัจฉริยะเกาสงในอนาคต พร้อมกับเรียกร้องให้เทศบาล อุตสาหกรรมโทรคมนาคม และประชาชน ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อแก้ปัญหาด้านการปกครองสาธารณะ

นอกจากนี้ คุณ Tsai Zse-hong เลขานุการฝ่ายบริหารของคณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งสภาบริหารไต้หวัน ยังเชื่อมั่นในความสามารถของผู้ให้บริการวางระบบของไต้หวัน โดยเมื่อผู้ให้บริการเหล่านี้แสดงความสามารถให้เห็นในไต้หวันแล้ว พวกเขาควรจะสำรวจโอกาสทางธุรกิจอันมากมายในแวดวงเมืองอัจฉริยะในกลุ่มประเทศตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ด้วย

ศูนย์การจัดการสารสนเทศ เทศบาลเมืองเกาสง ฝ่ายโฆษณา


Suning ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ Hainan Tourism Investment Development มุ่งขยายความร่วมมือในตลาดค้าปลีกปลอดภาษีของจีน

Suning Group กลุ่มธุรกิจพาณิชย์ชั้นนำของจีน ร่วมด้วย Suning International และ Hainan Tourism Investment Development Co. Ltd. ลงนามข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ เมืองซานย่า มณฑลไห่หนาน ทางภาคใต้ของจีน โดยทั้งสองฝ่ายจะใช้จุดแข็งของตนเองเพื่อโฟกัสไปที่ธุรกิจโลจิสติกส์ อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ การค้าปลีกในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ฯลฯ เพื่อสร้างความร่วมมือรอบด้านในหลายระดับ บูรณาการห่วงโซ่อุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน และสนับสนุนการสร้างท่าเรือการค้าเสรีไห่หนาน

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและตลาดการค้าปลีก หลังจากที่จำนวนนักท่องเที่ยวขาออก (outbound tourists) กลับมาเพิ่มขึ้นอย่างมาก ความต้องการช็อปปิงสินค้าปลอดภาษีก็เบนเข็มมาที่จีน เนื่องจากมณฑลไห่หนานมีสภาพอากาศอบอุ่นแบบเขตร้อน ท่าเรือการค้าเสรีไห่หนานจึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนมากกว่าช่วงก่อนเกิดโรคระบาด นอกจากนี้ ไห่หนานยังประกาศนโยบายช็อปปิงสินค้าปลอดภาษีใหม่ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยยกเลิกการจำกัดโควตาซื้อสินค้าปลอดภาษีต่อปี ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายสินค้าปลอดภาษีของไห่หนาน และทำให้ไห่หนานเป็นจุดหมายปลายทางการช็อปปิงสินค้าปลอดภาษีที่ดึงดูดใจมากยิ่งขึ้นท่ามกลางข้อจำกัดด้านการเดินทางในปัจจุบัน บรรดานักวิเคราะห์กล่าว

สตีเวน จาง รองประธาน Suning Group กล่าวว่า "นโยบายที่เอื้ออำนวยช่วยผลักดันให้เขตการค้าเสรีไห่หนานเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ก็เปิดโอกาสให้เราสามารถขยายความร่วมมือและสร้างความเจริญรุ่งเรืองในเขต โดยอาศัยห่วงโซ่อุปทานระดับโลกของ Suning รวมถึงประสบการณ์และความรู้เชิงลึกด้านการค้าปลีกอัจฉริยะหลายช่องทาง และศักยภาพอันแข็งแกร่งในการนำเสนอบริการระดับพรีเมียมที่เฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้าแต่ละราย"

"ภายใต้ข้อตกลงครั้งสำคัญนี้ เราหวังว่าจะสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่ไห่หนานร่วมกับพาร์ทเนอร์ของเรา" เฉิน เถี่ยจวิน ประธานของ Hainan Tourism Investment Development Co., Ltd. กล่าว "เราจะกระชับความร่วมมือกับ Suning และเปิดตัวโครงการใหม่ ๆ ในภูมิภาค เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเขตการค้าเสรีไห่หนานต่อไป"

ก่อนที่จะมีพิธีลงนามความร่วมมือSuning International ได้เยี่ยมชมศูนย์ขายสินค้าปลอดภาษีนอกชายฝั่งของเมืองซานย่า ซึ่ง Hainan Tourism Investmentเตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคมนี้

Hainan Tourism Investment คือรัฐวิสาหกิจที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลไห่หนานและรัฐบาลมณฑลไห่หนาน โดยเริ่มดำเนินงานเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2563 ซึ่งเป็นวาระครบรอบสองปีของการจัดตั้งเขตการค้าเสรีไห่หนาน เป้าหมายขององค์กรคือการพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งหมด และสร้างแพลตฟอร์มความร่วมมือเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับนานาชาติของไห่หนาน

Hainan Tourism Investment ได้รับใบอนุญาตซื้อขายสินค้าปลอดภาษีนอกชายฝั่งบริเวณเกาะโดยรอบเมื่อเดือนสิงหาคม รวมทั้งได้รับใบอนุญาตให้นำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคปลอดภาษีด้วย

Suning International คือธุรกิจระดับโลกในเครือบริษัท Suning Group ซึ่งมีพันธกิจในการสร้างห่วงโซ่อุปทานการนำเข้าและส่งออก รวมถึงการค้าปลีกอัจฉริยะออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อตอบสนองผู้บริโภคชาวจีนที่ต้องการสินค้านำเข้ามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากธุรกิจ Suning International แล้ว บริษัทยังพัฒนาแพลตฟอร์มบริการค้าปลีกระดับไฮเอนด์ในชื่อ Sup's ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การค้าปลีกระดับโลกของบริษัท และสะท้อนถึงหลักปรัชญาของแบรนด์ในระดับสากล โดย Sup's มีพันธกิจในการแนะนำและส่งเสริมประสบการณ์ บริการ และผลิตภัณฑ์ที่มีความพิเศษและมีคุณภาพระดับไฮเอนด์ทั่วโลก

กระตุ้นการบริโภคแบบปลอดภาษีในแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของจีน

ความร่วมมือระหว่าง Suning กับ Hainan Tourism Investment จะได้รับประโยชน์จากจุดแข็งด้านห่วงโซ่อุปทานระดับโลกของ Suning โดยจะมีการนำเข้าสินค้าโดยตรงจากต่างประเทศทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์สุขภาพ เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน อาหาร ฯลฯ เพื่อนำเสนอให้แก่ผู้บริโภคในไห่หนานและนอกมณฑล ปัจจุบัน Suning International มีสำนักงาน 9 สาขาทั่วโลก และมีการพัฒนาพิมพ์เขียวครอบคลุมการค้าปลอดภาษี การค้าข้ามพรมแดน การค้าทั่วไป รวมถึงการค้าแบบ B2B และ B2C ขณะเดียวกัน บริษัทยังเดินหน้าสร้างและยกระดับโซลูชันบริการสำหรับแบรนด์คุณภาพสูงจากต่างประเทศ และยกระดับตนเองขึ้นเป็นผู้ให้บริการแบรนด์ระดับโลก

นอกจากนี้ Suning ยังมีแบรนด์ไฮเอนด์ในเครือข่ายหลายแบรนด์ที่มีความเป็นเลิศด้านประสบการณ์การบริโภค โดยนอกเหนือจาก Sup's แล้ว ยังมีแบรนด์โรงแรมหรู Bellagio Shanghai และร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำ KUROGI ซึ่งอยู่ในเครือของ Suning International โดยธุรกิจเหล่านี้มีศักยภาพในการจัดกิจกรรมหลากหลาย ซึ่งรวมถึงการเปิดป๊อปอัพสโตร์ ในไห่หนานในอนาคต

ทั้งนี้ Suning มีหน้าร้านอยู่แล้วมากกว่า 70 สาขาในไห่หนาน และมีแผนเปิดสาขาเพิ่มอีกในอนาคตภายใต้ข้อตกลงกับ Hainan Tourism Investment


เกี่ยวกับSuning Group

Suning ก่อตั้งขึ้นในปี 2533 ในฐานะกลุ่มธุรกิจพาณิชย์ชั้นนำของประเทศจีน ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทมหาชนสองแห่งในจีนและญี่ปุ่น ในปี 2563 Suning Group รั้งอันดับสองในทำเนียบบริษัทเอกชนชั้นนำ 500 แห่งในจีน ด้วยรายได้ต่อปี 6.65259 แสนล้านหยวน (ประมาณ 9.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) และยังรั้งตำแหน่งผู้นำวงการค้าปลีกทางอินเทอร์เน็ต บริษัทมีพันธกิจในการก้าวขึ้นเป็น "ผู้นำในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ผ่านการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดให้แก่ทุกคน" บริษัทเสริมแกร่งและขยายธุรกิจหลักอย่างธุรกิจค้าปลีกผ่านระบบนิเวศองค์กรที่ประกอบด้วยอุตสาหกรรมแนวดิ่งหลายอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ บริการทางการเงิน และกีฬา นอกจากนี้ Suning.com ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท และผู้บุกเบิกวงการค้าปลีกออนไลน์และออฟไลน์ ยังติดทำเนียบองค์กร Fortune Global 500 สี่ปีติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2560-2563


สมการรอคอย Fenty Skin ประกาศวางจำหน่ายทั่วโลก

"ฉันอยากทำให้แน่ใจว่าผู้คนจะได้มีโอกาสสัมผัสกับสกินแคร์และผลิตภัณฑ์เพื่อความงามคุณภาพเยี่ยม การนำ Fenty Skin วางจำหน่ายที่ Sephora สาขาต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึง Boots และ Harvey Nichols นั้นหมายความว่า ผู้คนทุกที่จะได้เพลิดเพลินไปกับการชื่นชม Fenty Skin ด้วยตัวเองที่ร้าน พร้อมตื่นตาตื่นใจกับ Fenty Beauty ทั้งหมดในที่เดียว" ริฮานนา กล่าว

Fenty Skin แบรนด์สกินแคร์แบรนด์แรกของริฮานนา วางจำหน่ายแล้วที่ Sephora, Boots และ Harvey Nichols บางสาขาทั่วโลก เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2020 เป็นต้นไป โดยริฮานนาได้พัฒนาแบรนด์ Fenty Skin ขึ้นด้วยความร่วมมือกับ Kendo Brands ผู้บ่มเพาะแบรนด์ความงามในเครือบริษัท LVMH เมื่อช่วงต้นปีนี้ ด้วยความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการมอบคำตอบง่าย ๆ ให้กับผิวทุกโทนและทุกประเภท ความร่วมมือนี้จะทำให้ผู้บริโภคเข้าถึง Fenty Skin ได้มากขึ้นตามจุดวางจำหน่ายใน 30 ประเทศ

รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบมัลติแชนแนลอินเตอร์แอคทีฟได้ที่ https://www.multivu.com/players/English/8833951-rihanna-fenty-skin-global-retail-launch/

Fenty Skin สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมใหม่ของสกินแคร์ หรือ The New Culture of Skincare เพื่อมอบสกินแคร์ที่บริสุทธิ์ เรียบง่าย และให้ผลลัพธ์ดีแก่ทุกคน ผลิตภัณฑ์แต่ละตัวทำได้หลายอย่าง โดยใช้งานได้ง่าย และอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มไลน์เมคอัพแบรนด์ Fenty Beauty และได้รับการทดสอบแล้วกับผิวทุกโทนและทุกประเภทเพื่อให้ทำงานร่วมกันได้อย่างแนบเนียน การเพิ่ม Fenty Skin เข้าจุดขายนั้นทำให้นักช้อปพบและสัมผัสกับทั้งแบรนด์ Fenty Skin และ Fenty Beauty ได้ง่าย ๆ ในจุดเดียวกัน

ริฮานนาได้รับแรงบันดาลใจจากไลฟ์สไตล์ที่ทำให้เธอได้ไปมาแล้วทั่วโลก โดยเธอนำส่วนผสมต่าง ๆ จากทั่วโลกมารวมเข้ากับส่วนผสมที่นิยมมาทำเป็นสกินแคร์ ไม่ว่าจะเป็นกรดไฮยาลูรอนิคและไนอะซินาไมด์ เพื่อผลลัพธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในทางคลินิก ริฮานนาให้ความสำคัญกับความบริสุทธิ์ของผลิตภัณฑ์ ทั้งยังเป็นวีแกน ไม่ทดลองกับสัตว์ ไม่ใช้กลูเตน และรักษ์โลก โดยผลิตภัณฑ์มอยเจอร์ไรเซอร์แบบเดย์ไทม์ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติในการกันแดดนี้เป็นมิตรกับแนวปะการัง ตัวแพ็กเกจเน้นใช้วัสดุที่นำไปรีไซเคิลได้และยังมีแพ็กรีฟิลที่ชาญฉลาด แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา นอกจากนี้ ริฮานนายังได้ยกระดับประสบการณ์ทั้งหมดด้วยเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวลเป็นเอกลักษณ์ พร้อมกลิ่นที่ทำให้รู้สึกอบอุ่น เพลิดเพลิน และบริสุทธิ์ ริฮานนาคิดค้นแบรนด์ Fenty Skin ขึ้นเพื่อแชร์สกินแคร์รูทีนที่ตัวเองใช้จริง ๆ เพื่อผิวที่สดใสดูสุขภาพดีทั้งตอนเช้าและตอนกลางคืน

ผลิตภัณฑ์ในไลน์ Fenty Skin ประกอบด้วย

- Total Cleans'r Remove-It-All Cleanser (25 ดอลลาร์) ผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งเมคอัพรีมูฟเวอร์และเคลนเซอร์ในตัว พร้อมเนื้อสัมผัสแบบครีมที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรก น้ำมัน และเมคอัพที่ติดทน โดยไม่ทำให้ผิวแห้ง
- Fat Water Pore-Refining Toner Serum (28 ดอลลาร์) โทนเนอร์และซีรัมในตัวที่เรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์พลิกวงการ มุ่งจัดการรูขุมขน ทำให้จุดด่างดำดูดีขึ้น ทั้งยังทำให้ผิวดูสดใส เนียนเรียบ และควบคุมความมัน โดยไม่ทำให้ผิวระคายเคือง
- Hydra Vizor Invisible Moisturizer Broad Spectrum SPF 30 Sunscreen (35 ดอลลาร์ และรีฟิล 30 ดอลลาร์) มอยเจอร์ไรเซอร์และกันแดดน้ำหนักเบา ไม่มีน้ำมัน และแนบเนียนไปกับทุกโทนผิวโดยติดชมพูนิด ๆ มุ่งจัดการปัญหาผิวขาดน้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ และจุดด่างดำ ทั้งยังใช้ก่อนลงเมคอัพได้ด้วย ไม่ทำให้เกาะตัวเป็นก้อนหรือหน้าลอยเวลาเจอแสงแฟลช แถมยังรีฟิลได้ด้วย
- Instant Reset Overnight Recovery Gel-Cream (40 ดอลลาร์ และรีฟิล 36 ดอลลาร์) มอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้นในแบบกึ่งเจลกึ่งครีม ช่วยเติมน้ำให้ผิว ลดริ้วรอยร่องตื้นและริ้วรอยร่องลึก ให้ผิวดูสดใสเปล่งปลั่งมากขึ้นในตอนเช้า โดยรูขุมขนและจุดด่างดำจะดูดีขึ้นภายในสัปดาห์เดียว แถมยังรีฟิลได้เหมือนกันด้วย
- Fenty Skin Start'r Set (40 ดอลลาร์) เซ็ตผลิตภัณฑ์ 3 ชิ้น ได้แก่ Total Cleans'r, Fat Water และ Hydra Vizor ไซส์มินิเหมาะกับการเดินทาง

Vietnam has the largest chicken export factory complex in Southeast Asia for the first time

On the morning of December 23, CPV FOOD Co., Ltd., a member of C.P Vietnam Livestock Joint Stock Company held the Inauguration Ceremony of CPV Food Factory Complex in Binh Phuoc. This is the largest chicken farming complex for export in Southeast Asia up to now.

For the full multimedia release, click here: https://www.prnasia.com/mnr/CPVietnam_202012.shtml

The inauguration ceremony of the CPV FOOD factory complex took place in parallel and was an outstanding activity of the Investment Promotion Conference of Binh Phuoc province in Becamex Binh Phuoc Industrial Park chaired by Vietnam Permanent Deputy Prime Minister Truong Hoa Binh and nearly 1000 delegates came from ministries, departments, consulates of countries and economic groups at home and abroad.

After two years of the Investment Trade Promotion Conference of Binh Phuoc province 2018, C.P. Vietnam has realized its commitment to invest and build the CPV FOOD Binh Phuoc export chicken processing factory complex, contributing to the economic development of the province and the lives of local people.

CPV FOOD Binh Phuoc Factory Complex Project has an initial investment capital of 250 million USD, a design capacity of up to 100 million units/year (after 2023), implemented by CP Group. CPV FOOD Binh Phuoc is rated internationally, creating a strong breakthrough in the livestock industry in Vietnam; providing high quality, food-safe chicken products to domestic consumers and exporters: Japan (45%), Europe (35%), Asia (10%), and the Middle East (10%). The project is expected to bring in foreign currency of 100 million USD/year in phase 1 and 200 million USD/year in phase 2.

Mr. Montri Suwanposri - General Director of CP Vietnam Joint Stock Company shared: "Investing in Vietnam for over a quarter of a century, we deeply understand the macro policy of the Government of Vietnam and director of the Ministry of Agriculture and Rural Development in promoting Vietnam to become a country producing international standard food and increasing exports. With the strength and successful experience in exporting poultry meat over 20 years of CP Group, we boldly set out the Mission of the closed chain project to export poultry meat from Vietnam. That is the Mission 'Improving the quality of Vietnamese food, contributing to bringing Vietnam on the map of branded poultry meat exports in the world'."

CPV FOOD Binh Phuoc factory complex complies with 100% traceability of the entire supply chain from upstream of raw materials for food production to processed products, ... With synchronous solutions for the environment and well-being animal benefits, ... meet all the strict criteria from high-end importing countries. The project is divided into 2 phases. In which, phase 1 (from 2019-2023) is implemented in 6 localities in Binh Phuoc province including Dong Xoai city, Binh Long town, Dong Phu district, Chon Thanh district, Hon Quan district, district Bu Dang, with a scale of 50 million broilers/year. Phase 2 will then increase capacity to 100 million broilers/year.

Contact:
VTVCorp JSC 
Ms. Linh 
+84-963-376-037

Photo: https://mma.prnewswire.com/media/1392231/CP1.jpg 
Photo: https://mma.prnewswire.com/media/1392232/CP2.jpg 
Photo: https://mma.prnewswire.com/media/1392233/CP3.jpg 
Photo: https://mma.prnewswire.com/media/1392234/CP4.jpg


DDPAI จับมือ HUAWEI HiCar และ HONOR Choice เปิดตัวจอติดรถยนต์และแท่นชาร์จไร้สายในรถยนต์

 


DDPAI ร่วมกับ HUAWEI HiCar และ HONOR Choice พัฒนาสองผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ จอติดรถยนต์ Huawei Car Smart Screen และแท่นชาร์จไร้สายในรถยนต์ Wireless Fast Charging Car Holder โดยจอติดรถยนต์ Car Smart Screen ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคมในงานเปิดตัวสมาร์ทโฟน Mate 40 Series จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่อัจฉริยะมากขึ้น พร้อมมอบการเชื่อมต่อที่ราบรื่นกับสมาร์ทโฟน HUAWEI และ HONOR โดยแอปที่รองรับ HUAWEI HiCar สามารถถ่ายโอนข้อมูลสู่จอสมาร์ทสกรีนในรถได้ ขณะเดียวกัน ผู้ใช้งานสามารถวิดีโอคอล ควบคุมอินเทอร์เฟซด้วยเสียงเต็มรูปแบบและควบคุมฟังก์ชันอัจฉริยะอื่น ๆ อย่างไหลลื่น

นอกจากนี้ DDPAI ยังร่วมมือกับ HONOR Choice Life House เปิดตัวแท่นชาร์จไร้สายในรถยนต์ DDPAI Wireless Fast Charging Car Holder รุ่นใหม่ โดย HONOR Choice เป็นโครงการความร่วมมือเชิงนิเวศของ HONOR ที่มอบโอกาสให้กับผู้เล่นทุกรายในอุตสาหกรรมสินค้าเพื่อผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายในการสร้างระบบนิเวศ AIoT ที่ครอบคลุม ทั้งนี้ ความเป็นมืออาชีพในตลาดอุปกรณ์เสริมสำหรับรถยนต์และความเป็นผู้นำในวงการกล้องติดรถยนต์ของ DDPAI ผสานกับกระบวนการผลิตอันเข้มงวดและการควบคุมคุณภาพอันยอดเยี่ยมของ HONOR ได้สร้างรากฐานอันแข็งแกร่งสำหรับความร่วมมือระหว่างทั้งสองแบรนด์

แท่นชาร์จไร้สายในรถยนต์ Wireless Fast Charging Car Holder พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยกระดับไปอีกขั้น โดยออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ด้วยมือเดียว แท่นชาร์จจะยึดจับสมาร์ทโฟนโดยอัตโนมัติเมื่อนำสมาร์ทโฟนเข้าไปใกล้ และชาร์จแบบฟาสต์ชาร์จด้วยกำลังไฟ 15 วัตต์ ผู้ใช้งานจึงสามารถบอกลาสายไฟที่พันกันยุ่งเหยิงในรถ แท่นชาร์จไร้สายในรถยนต์ตัวนี้จะวางจำหน่ายในประเทศไทยในเดือนมกราคม 2564

เพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่ DDPAI เตรียมมอบของขวัญและบริการส่งสินค้าฟรีเมื่อซื้อผ่านร้านค้าอย่างเป็นทางการบน Lazada และ Shopee ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2563 ถึง 1 มกราคม 2564 นอกจากนี้ หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่สั่งซื้อสินค้า 50 ออเดอร์แรกนับตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนวันที่ 1 มกราคม 2564 จะมีโอกาสลุ้นรับสินค้าไปฟรีๆ 

กรุณาติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ของ DDPAI ปัจจุบัน กล้องติดรถยนต์ที่ดีที่สุดของ DDPAI เช่น Mola N3, Mini และ Mini 5 วางจำหน่ายในร้านค้าอย่างเป็นทางการของแบรนด์บน Shopee และ Lazada แล้ว



Giift เปิดตัว Giift Engage แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

Giift แพลตฟอร์มบริหารจัดการลอยัลตี้โปรแกรมครบวงจร ประกาศเปิดตัว Giift Engage เครื่องมือการตลาดที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าผ่านโปรแกรมรีวอร์ด

ปัจจุบันมีลอยัลตี้โปรแกรมมากมายหลากหลายรูปแบบให้ลูกค้าเลือกใช้งาน แต่ละโปรแกรมจึงจำเป็นต้องวิวัฒนาการตัวเองจากระบบให้คะแนนอัตโนมัติที่ทำงานเชิงรับ เป็นเครื่องมือเชิงรุกที่ผู้ประกอบการสามารถใช้ดึงดูดลูกค้า และ Giift Engage ก็ตอบสนองความต้องการนี้ด้วยโซลูชันสุดล้ำที่ใช้ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญซึ่ง Giift และลอยัลตี้โปรแกรมในเครือกว่า 50,000 โปรแกรมสั่งสมร่วมกัน

Giift Engage เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถนำเสนอโปรโมชันอิงคะแนนสะสมให้แก่ลูกค้า ในรูปแบบของประสบการณ์ดิจิทัลส่วนบุคคล เกม และอื่น ๆ ผ่านช่องทางการสื่อสารหลายช่องทาง

บริษัทต่าง ๆ สามารถใช้ Giift Engage ในหลากหลายกิจกรรม ทั้งการดึงดูดลูกค้า การสร้างรายชื่อลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย การใช้พอร์ตลูกค้า การสนับสนุนให้ลูกค้าใช้ช่องทางดิจิทัล และอีกมากมาย ยิ่งไปกว่านั้น Giift Engage ยังสามารถนำไปใช้ภายในองค์กรได้ด้วย เช่น ใช้จูงใจพนักงานให้ทำกิจกรรม สร้างผลลัพธ์ สร้างผลิตภาพ สร้างความร่วมมือ ทำภารกิจให้สำเร็จ ฯลฯ  

Pascal Xatart ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการบริษัท Giift กล่าวว่า "ความภักดีของลูกค้าเกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องและตรงจุดระหว่างแบรนด์กับลูกค้า แต่ส่วนใหญ่แล้วลอยัลตี้โปรแกรมมักประสบความล้มเหลวเนื่องจากไม่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์อย่างมีประสิทธิภาพกับลูกค้า Giift Engage จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้โดยที่แบรนด์ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนที่สร้างความตึงเครียด ทั้งยังคุ้มค่ามากกว่าด้วย"

แพลตฟอร์ม Giift Engage ใช้งานง่ายและยืดหยุ่น และได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในหมู่ลูกค้าของ Giift ทั่วโลก โดย Giift Engage เป็นแพลตฟอร์มในอุดมคติสำหรับผู้จัดการลอยัลตี้โปรแกรมที่กำลังหาทางสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

เกี่ยวกับ Giift.com: เทคโนโลยีบริหารจัดการลอยัลตี้โปรแกรมครบวงจรอันทันสมัยของ Giift เปลี่ยนโปรแกรมรีวอร์ดให้กลายเป็นสกุลเงินที่แลกเปลี่ยนได้ Giift ดำเนินงานในกว่า 50 ประเทศ โดยมีสำนักงานสาขาในนิวยอร์ก ลอนดอน สิงคโปร์ อู่ฮั่น ไนโรบี ดูไบ จาการ์ตา มุมไบ โคลอมโบ โดฮา และธากา และดำเนินงานโดยใช้โมเดลธุรกิจแบบอิงธุรกรรม

โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1162353/Giift_Logo.jpg

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวนี้ กรุณาติดต่อ:

Pascal Xatart ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการบริษัท
โทร. +44(0)7470605095 
อีเมล: pascal.xatart@giift.com 

เว็บไซต์: www.giift.com 

DDPAI, Collaborates with HUAWEI HiCar and HONOR Choice to release Car Smart Screen and Wireless Fast Charging Car Holder

DDPAI has jointly developed two new products in collaboration with HUAWEI HiCar and HONOR Choice - the Huawei Car Smart Screen and Wireless Fast Charging Car Holder. Officially launched at the Mate 40 series in October, the Car Smart Screen is dedicated to providing users with a smarter travel experience and provides a seamless connectivity with HUAWEI and HONOR smartphones. Based on distributed capabilities, apps that support HUAWEI HiCar can be seamlessly transferred to the in-vehicle smart screen. At the same time, users will also enjoy smooth video calls, full interface voice control, and other smart functions.

DDPAI also collaborated with HONOR Choice Life House to release the new -DDPAI Wireless Fast Charging Car Holder. HONOR Choice is an eco-partnership program of HONOR open to all smart life scenario players in the consumer field, aiming to create a comprehensive AIoT ecosystem. DDPAI's professionalism in the automotive accessories market and position as the leader in car dash cams, coupled with HONOR's strict production process and excellent quality control, makes for a strong foundation for cooperation between the two brands.

The Wireless Fast Charging Car Holder aims to offer an elevated driving experience for drivers and designed for a single hand operation. Offering not just an clamp that automatically holds the smartphone when hovered in front of it, it also offers 15w wireless fast-charging. Now people can say goodbye to messy cables in their car. The holder will be available for purchase in Thailand January 2021.

This coming 2021, DDPAI is offering free gifts and shipping for all purchases made via its official store on Lazada and Shopee from 28 Dec 2020 to 1 Jan 2021. If the buyer is one of the first 50 orders beginning 12am, 1 Jan 2021, they will stand a chance to take their purchase home for free.

Stay tuned for more information on DDPAI's latest products and its availability. Currently, some of DDPAI's best dash cams such Mola N3, Mini and Mini 5 are already available on the brand's official store on Shopee and Lazada.

Photo: https://mma.prnewswire.com/media/1390705/Huawei_Hicar_intelligent.jpg
Caption: Huawei Hicar more intelligent

Giift Launches Giift Engage - an Innovative Digital Engagement Platform

Today, Giift, the only complete Rewards Management Platform, announced the launch of Giift Engage, a unique marketing tool to drive customer engagement through rewards-based offers.  

With a wide variety of programs available and adopted by customers, loyalty programs need to evolve from being simply passive and automated point granting systems to becoming tools that companies use to proactively engage with their customers. Giift Engage addresses this need with an innovative solution that leverages assets and expertise that Giift and its more than 50,000 program affiliates have collectively built.  

Giift Engage lets companies push to their customers points-based promotions in the form of personalized digital customer experiences, games and more across multiple communication channels. 

Companies will use Giift Engage for a wide range of client activities across acquisition, lead generation, portfolio usage, digital adoption and much more. Moreover, Giift Engage will be used internally as well, for instance to incentivize staff for activities and outcomes, productivity, project completion, collaboration, etc... 

Pascal Xatart, Co-founder and Director - Giift, says, "Loyalty is a consequence of sustained and relevant engagement between a brand and its customers. Most of the time, programs fail due to their inability to engage meaningfully with their customer base. Giift Engage seeks to address that without brands having to go through a stressful implementation exercise and in a more cost-efficient manner." 

The platform is easy to integrate and flexible to host; and is gaining momentum with Giift's clients worldwide. Giift Engage is the ideal platform for any program manager looking to activate connections to their customer.  

About Giift.com: Giift innovative end-to-end loyalty technology turns rewards programs into fungible currencies. Giift operates in more than 50 countries, with offices in New York, London, Singapore, Wuhan, Nairobi, Dubai, Jakarta, Mumbai, Colombo, Doha, and Dhaka. Giift business model is transaction based. 

For more information about this story, contact: 

Pascal Xatart, Co-Founder & Director 
+44(0)7470605095 
pascal.xatart@giift.com 

www.giift.com  

Logo - https://mma.prnewswire.com/media/1162353/Giift_Logo.jpg


สถานีโทรทัศน์ ABS-CBN ของฟิลิปปินส์ได้เปิดตัวกระแสงานการตัดต่อวิดีโอบนคลาวด์แบบใหม่ในช่วงโควิด-19 จนคว้ารางวัลจาก YouTube มาครอง

ทีมตัดต่อวิดีโอของ ABS-CBN ได้เปลี่ยนไปใช้โหมดการผลิตจากระยะไกลโดยใช้ Wildmoka อย่างรวดเร็วก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงล็อกดาวน์ในวันที่ 11 มีนาคม 2020 ความสามารถในการเผยแพร่เนื้อหามากขึ้นได้ดึงดูดผู้คนกว่า 10 ล้านคนให้มาติดตามช่อง YouTube ทำให้ทางสถานีได้รับรางวัล YouTube Diamond อันทรงเกียรติไปครอง


ในวันเดียวกันนี้ คณะผู้บริหารของ ABS-CBN Corporation (บริษัทผลิตสื่อและความบันเทิงระดับแนวหน้าของฟิลิปปินส์) ก็ได้ตัดสินใจที่จะปิดสำนักงานและเปลี่ยนให้พนักงานส่วนใหญ่ทำงานจากที่บ้านแทน ทำให้ฝ่ายปฏิบัติการด้านวิดีโอของบริษัทต้องรับมือกับความท้าทายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งก็คือการเปิดตัวแพลตฟอร์มเนื้อหาดิจิทัลบนระบบคลาวด์แบบใหม่ Erwin Malimban หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีการแพร่ภาพได้อธิบายความท้าทายนี้ในวันสำคัญ 


Erwin ให้สัมภาษณ์ว่า "เราได้ทดสอบและเตรียมพร้อมที่จะเปิดตัวแพลตฟอร์มนี้โดยใช้ Wildmoka มาสักสองสามสัปดาห์แล้ว และทีมงานก็ตื่นเต้นมากๆ และพร้อมที่จะเปิดตัวแล้ว วันที่เราวางแผนไว้ว่าจะเปิดตัวแพลตฟอร์ม เราก็ได้ข่าวว่าต้องปิดสำนักงาน แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องท้าทายสำหรับเรา แต่โชคดีที่เราไม่ได้พลาดโอกาสอะไรไปเลย ทุกคนสามารถเข้าถึง Wildmoka ได้จากระยะไกล เมื่ออยู่ที่บ้านในวันถัดไป"


โชคดีจริงๆ แต่ความสำเร็จของพวกเขาส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะแผนที่ ABS-CBN เริ่มนำมาใช้เมื่อหลายเดือนก่อนหน้าเพื่อยกระดับซัพพลายเชนการผลิตเนื้อหาดิจิทัลและก็ได้เลือกที่จะจับมือกับ Wildmoka โดย Patrick Ongchangco หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมสื่อ และ Darryl Bernard Reyes หัวหน้าฝ่ายการปฏิบัติการถ่ายทอดสด ได้ทำแผนนี้ให้เป็นความจริงขึ้นมาอย่างหวุดหวิด 


หนึ่งเดือนหลังจากประกาศปิดออฟฟิศ Patrick ก็กล่าวว่า มีผู้ตัดต่อ ผู้ผลิต และผู้จัดการโซเชียลมีเดียกว่า 100 คนที่ใช้ Wildmoka เพื่อตัด ตัดต่อ และเผยแพร่เนื้อหาทุกวันลงบนเว็บไซต์ ABS-CBN และเว็บไซต์โซเชียลมีเดียอื่นๆ อีกมากมาย ในปัจจุบัน ปริมาณเนื้อหาที่ผลิตและเผยแพร่อยู่ระหว่าง 300-400 โพสต์ต่อวัน ส่วนใหญ่เป็นข่าวและเนื้อหาบันเทิง 


Darryl ให้สัมภาษณ์ว่า "เหมือนกับว่างานผลิตของเราไม่เคยสะดุดเลย เรายังคงเผยแพร่เนื้อหาในปริมาณมหาศาลทุกวัน ให้ความรู้และความบันเทิงแก่ผู้ชมด้วยไฮไลท์วิดีโอจากรายการโปรดของพวกเขาที่ออกอกาศทางช่อง ABS-CBN สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มี Wildmoka"


กลยุทธ์ดิจิทัลใหม่นี้ได้ช่วยให้ ABS-CBN News คว้ารางวัล Diamond ของ YouTube ไปครองเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ซึ่งก็เป็นระยะเวลาไม่ถึงแปดเดือนหลังจากที่ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มร่วมกับ Wildmoka รางวัลนี้ยกย่องความสำเร็จขององค์กรที่มีผู้ติดตามเกินกว่า 10 ล้านคนและจะเป็นการช่วยทำให้วิดีโอบน YouTube ของพวกเขาโดดเด่นขึ้นอย่างรวดเร็ว


Laurent Demene หัวหน้าฝ่ายขาย (ประจำทวีปเอเชีย) ของ Wildmoka อธิบายว่า "เราทราบดีว่านักตัดต่อวิดีโอประสบปัญหามากแค่ไหนในช่วงเวลาเช่นนี้ที่ต้องทำงานจากระยะไกล แต่เราก็ดีใจที่ได้เห็น ABS-CBN ประสบความสำเร็จจากการใช้ Wildmoka ภายในเวลาอันแสนสั้น ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์มสามารถอำนวยความสะดวกให้มีการผลิตและเผยแพร่วิดีโอของสถานีโทรทัศน์ขนาดใหญ่จากระยะไกลได้อย่างมหาศาลในช่วงการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 และในช่วงเวลาอื่นด้วย" Laurent กล่าวเสริมว่า "การทำให้ผู้ชมเท่าทันข่าวสารและได้รับความบันเทิงในช่วงกักตัวและล็อกดาวน์มีความสำคัญอย่างยิ่ง และเราก็ยินดีที่ได้เห็นว่า Wildmoka ได้มีส่วนช่วยให้บริษัทต่างๆ อย่าง ABS-CBN เข้าถึงผู้ชมได้ในช่วงวิกฤตินี้"




Fenty Skin Global Retail Launch

"I always want to make sure that people have access to great skincare and great beauty products. Bringing Fenty Skin to Sephora around the world, plus Boots and Harvey Nichols, means people everywhere will now have the ability to enjoy the retail experience of Fenty Skin, in addition to Fenty Beauty, all under the same roof." - Rihanna


Fenty Skin - Rihanna's debut skincare brand - will now be available in Sephora, Boots and Harvey Nichols in select locations around the world starting December 26, 2020. Rihanna developed Fenty Skin in partnership with Kendo Brands, a LVMH-owned beauty developer, earlier this year with an unwavering mission to provide simple solutions for all skin tones and types. With this expansion, Fenty Skin will become even more accessible to even more consumers with locations in 30 countries.


Fenty Skin represents The New Culture of Skincare, providing clean, uncomplicated, effective skincare for all. Every multitasking product is easy to use and packed with benefits. It's all designed to complement Fenty Beauty makeup and has been tested on all skin types and tones to work seamlessly together. With Fenty Skin's retail expansion, shoppers can easily navigate and enjoy both Fenty Skin and Fenty Beauty all under the same roof.


Inspired by her global lifestyle, Rihanna brings together ingredients from around the world and pairs them with skincare powerhouses, such as hyaluronic acid and niacinamide, for clinically proven results. She's prioritized clean formulas that are also vegan, cruelty-free, gluten-free and earth-conscious: The daytime moisturizer-spf is coral reef-friendly, and the packaging has prioritized recyclable materials and smart refillable packs that still feel luxurious. Plus, she's elevated the entire experience with supple, unique textures and warm, delicious, clean scents. With Fenty Skin, Rihanna shares her real-life skincare routines for achieving a bright, healthy-looking complexion for both morning and night.


The Fenty Skin assortment includes:


- Total Cleans'r Remove-It-All Cleanser ($25), a makeup remover and cleanser in one with a creamy lather to remove dirt, oil, and longwear makeup without drying out the skin.

- Fat Water Pore-Refining Toner Serum ($28), a game-changing toner-serum hybrid that targets pores, improves the look of dark spots, brightens, smooths, and fights shine—all without stripping skin.

- Hydra Vizor Invisible Moisturizer Broad Spectrum SPF 30 Sunscreen ($35, refill $30), a moisturizer and sunscreen in one that's lightweight, oil-free, and truly invisible on all skin tones with its subtle pink hue. It claps back at dehydration, discoloration, and dark spots, and is makeup-friendly - no pilling or flashback. Plus, it's refillable.

- Instant Reset Overnight Recovery Gel-Cream ($40; refill $36), a rich gel-cream moisturizer that instantly hydrates, reducing the look of fine lines and wrinkles to reveal a fresher, brighter complexion in the morning. In just one week, pores and dark spots look better, too. Plus, it's refillable.

- Fenty Skin Start'r Set ($40), a 3-piece set containing Total Cleans'r, Fat Water, and Hydra Vizor in travel-size minis.