Tuesday, December 1, 2020

สุเอซ ร่วมกับ เอสซีจี นำเสนอผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกรีไซเคิลจากพลาสติกที่ผ่านการใช้งานจากผู้บริโภค (Post-consumer) เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจพลาสติกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 สุเอซ เดินหน้าสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจกับ ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทปิโตรเคมิคอลแบบครบวงจรชั้นนำในเอเชีย ตอบรับกับความต้องการเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงจากพลาสติกที่ผ่านการใช้งานจากผู้บริโภค หรือ พีซีอาร์ (post-consumer recycled plastic: PCR) ที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยกำลังการผลิตกว่า 30,000 ตันของโรงงาน สุเอซ เซอร์คูล่าร์ พอลิเมอร์ บางพลี โรงงานนี้เป็นแห่งแรกของกลุ่มสุเอซที่ตั้งอยู่นอกทวีปยุโรป และเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่จะนำเสนอโซลูชั่นที่มีความยั่งยืน 100% เพื่อเป็นทางเลือกที่แตกต่างให้แก่ลูกค้าของเรา โรงงานนี้ปัจจุบันอยู่ในช่วงทดสอบระบบการผลิต และมีกำหนดเปิดดำเนินการภายในเดือนธันวาคม 2563 นี้


(จากซ้าย ) ผู้บริหารของ เอสซีจี และ สุเอซ ในการประชุมหารือความร่มมือ นายศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี; นายธนวงษ์ อารีรัชชกุล, กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี;นายเฌอโรม เลอ บอร์กเนีย ผู้อำนวยการพัฒนาโครงการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มรีไซเคิลและการนำกลับมาใช้ สุเอซ เอเชีย และนายดาวิด บูร์ช ผู้จัดการทั่วไป สุเอซ เซอร์คูล่าร์ พอลิเมอร์


ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงในการรีไซเคิล และการวิจัยและพัฒนา โรงงาน สุเอซ เซอร์คูล่าร์ โพลิเมอร์แห่งนี้สามารถผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลที่มีคุณสมบัติเทียบเท่าเม็ดพลาสติกใหม่ ทั้งในส่วนของความแข็งแรงและรูปลักษณ์  ด้วยความร่วมมือกับส่วนธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี  ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการตลาดและมีเครือข่ายทางธุรกิจที่เข้มแข็ง  จะสามารถช่วยพัฒนาช่องทางกระจายสินค้าไปสู่บริษัทเจ้าของตราสินค้าและผู้ผลิตทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

หนึ่งในโซลูชั่นของการใช้พีซีอาร์ คือ การจัดการบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบครบวงจร (Closing the loop on plastic packaging) ซึ่งการใช้พลาสติกรีไซเคิลชนิดนี้จะสามารถลดการใช้พลังงานได้กว่า 90% เมื่อเทียบกับการใช้เม็ดพลาสติกใหม่ที่ผลิตจากน้ำมัน  จากการที่เจ้าของตราสินค้าจำนวนมากริเริ่มและผลักดันการใช้พลาสติกรีไซเคิลในการผลิตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง  การที่มีปริมาณเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงรองรับในตลาดอย่างเพียงพอจะช่วยให้เกิดความสำเร็จในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนของพลาสติก และพลาสติกจะไม่กลายเป็นขยะหรือมลพิษอีกต่อไป จากการกำจัดและการใช้นวัตกรรมเพื่อสร้างการหมุนเวียน

นายธนวงษ์ อารีรัชชกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี กล่าวว่า "การดำเนินงานของเอสซีจีคำนึงถึงความสำคัญของการพัฒนาสินค้าและบริการขององค์กรให้สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน  ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านธุรกิจที่มีความยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภายใต้ความร่วมมือกับสุเอซ  ซึ่งเป็นผู้นำในด้านพลาสติกรีไซเคิลทีมีโรงงานอยู่ถึง 9 แห่งทั่วโลก จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิลและลดการรั่วไหลของขยะพลาสติกสู่สิ่งแวดล้อม และนี่คือโซลูชั่นทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยมและยังส่งเสริมการการปกป้องดูแลสิ่งแวดล้อม"

นายอองตัวร์ ก๊อร์จ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มรีไซเคิลและการนำกลับมาใช้ บริษัท สุเอซ เอเชีย เปิดเผยว่า "สุเอซมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในความร่วมมือกับเอสซีจี ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีแบบครบวงจรที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาสู่ความเป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง เรากับเอสซีจีมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า พีซีอาร์จะเป็นโซลูชั่นทางด้านความยั่งยืนในระยะยาว ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกแก่คู่ค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สุเอซขอสนับสนุรัฐบาลไทยอย่างเต็มกำลังเพื่อบรรลุเป้าหมายในการลดปริมาณขยะพลาสติก ด้วยเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญของเรา รวมถึงการปฏิบัติตามข้อกฎหมายและข้อบังคับต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด"

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :

SUEZ Asia

Ivy Wong

ivy.wong@suez.com   

LinkedIn: SUEZ Asia

Twitter: @suezASIA


เกี่ยวกับธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี

ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี เป็นผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ครบวงจรรายใหญ่ของประเทศไทยและเป็นผู้ผลิตชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย ครอบคลุมตั้งแต่การผลิตขั้นต้นไปจนถึนขั้นปลาย โดยมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อผลิตสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (High Value Added Products and Services หรือ HVA) เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย และเน้นกลยุทธ์พัฒนาสินค้าและบริการตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน


เกี่ยวกับ สุเอซ

นับตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 สุเอซสร้างสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขอนามัยของผู้คน รวมถึงด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และด้วยพนักงานกว่า 90,000 คนที่ปฏิบัติงานอยู่ใน 5 ทวีปทั่วโลก ซึ่งมีความมุ่งมั่นในการที่จะรักษาและปกป้องสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ น้ำ ดิน และอากาศ สุเอซนำเสนอโซลูชั่นที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและความยืดหยุ่น ทั้งในด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ การจัดเก็บขยะ การปรับปรุงสภาพแวดล้อมของสถานที่ การปรับปรุงคุณภาพอากาศ และการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรของชุมชนเมืองและภาคอุตสาหกรรมภายใต้โซลูชั่น "เมืองอัจฉริยะ" (Smart City) เพื่อยกระดับคุณภาพสิ่งแวดล้อมและเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ กลุ่มบริษัทสุเอซยังเป็นผู้ให้บริการด้านสุขอนามัยให้แก่ผู้คนกว่า 64 ล้านคน และผลิตน้ำอุปโภคบริโภคกว่า 7.1 พันล้านลูกบาศก์เมตร กลุ่มสุเอซยังช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้วยการจ้างงานทางตรงและทางอ้อมกว่า 200,000 ตำแหน่งในแต่ละปี และผลิตวัตถุดิบที่มาจากวัสดุเหลือใช้กว่าปีละ 4.2 ล้านตัน ภายในปี 2573 สุเอซตั้งเป้าที่จะนำเสนอโซลูชั่นที่มีความยั่งยืน 100% ซึ่งส่งผลในทางบวกแก่สิ่งแวดล้อม สุขภาพ และสภาพอากาศ ทั้งนี้ สุเอซสร้างรายได้กว่า 1.8 หมื่นล้านยูโรในปี 2562


เกี่ยวกับ สุเอซ เอเชีย

สุเอซ ดำเนินธุรกิจนานกว่า 60 ปีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมากกว่า 40 ปี ในประเทศจีน สุเอซเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นที่ไว้วางใจของหน่วยงานรัฐและลูกค้าภาคอุตสาหกรรมในการพัฒนาคุณภาพน้ำ และนำเสนอโซลูชั่นการจัดการของเสียแก่ชุมชนและภาคอุตสาหกรรม เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการจัดการทรัพยากร ปรับปรุงคุณภาพสิ่งแวดล้อม และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานทางธุรกิจ ด้วยพนักงานกว่า 9,000 คน บริษัทร่วมทุนกว่า 70 แห่ง โรงงานผลิตและบำบัดน้ำกว่า 600 แห่งของกลุ่มสุเอซ เอเชีย ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพแก่ผู้คนกว่า 32 ล้านคน ปัจจุบัน สุเอซได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมาตรฐานสูงสุดในอุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อมของภูมิภาค สุเอซเป็นบริษัทแรกที่ได้รับสัมปทานการร่วมทุนภาครัฐและเอกชนเพื่อการผลิตน้ำในมาเก๊า และมีโรงงานกำจัดขยะอันตรายที่ใหญ่ที่สุดแห่งนึงของเอเชียในเซี่ยงไฮ้ โรงงานรีไซเคิลพลาสติกในประเทศไทย นอกจากนี้ กลุ่มสุเอซยังเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการจัดการของเสียของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง และยังเป็นผู้ให้บริการด้านสิ่งแวดล้อมแก่นิคมอุตสาหกรรม 21 Industrial Park อีกด้วย


ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สุเอซ เอเชีย ได้ในเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ของเรา: Twitter, LinkedIn, YouTube, Instagram



No comments:

Post a Comment