นับตั้งแต่เข้าร่วมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) เมื่อ 31 ปีที่แล้ว จีนมุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรระดับภูมิภาคและมุ่งมั่นต่อความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทุกฝ่าย และในปีนี้ ฝ่ายจีนได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของสภาพแวดล้อมการค้าที่เสรีและเปิดกว้างสำหรับเศรษฐกิจเอเปค
สมาชิกเอเปค 21 เขตเศรษฐกิจซึ่งมีประชากรรวมกัน 2.9 พันล้านคน มีปริมาณเศรษฐกิจรวมกันมากกว่า 60% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของโลก และท่ามกลางอุปสรรคที่มาจากโรคระบาด เงินเฟ้อสูง วิกฤติภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมาชิกเอเปคจึงเดินทางมายังกรุงเทพ เมืองหลวงของไทย และตัดสินใจที่จะกระชับความร่วมมือพหุภาคีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคครั้งที่ 29 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในการหารือถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการลงทุนที่ยั่งยืน โดยระบุว่า การค้าและการลงทุนที่เสรีและเปิดกว้างคือจุดประสงค์และหลักการของเอเปค
ปธน.สีกล่าวเสริมว่า สิ่งนี้ยังเป็นเสาหลักในการทำให้วิสัยทัศน์ปุตราจายา ค.ศ. 2040 เกิดขึ้นจริงด้วย
สนับสนุนระบบพหุภาคีที่แท้จริง
ประธานาธิบดีสีเรียกร้องให้สนับสนุนระบบพหุภาคีที่แท้จริงและรักษาระบบการค้าพหุภาคี
เขากล่าวว่า สมาชิกควรดำเนินการมากกว่านี้เพื่อปกป้องระบบการค้าพหุภาคีที่อิงตามกฎระเบียบ รักษาอุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกให้ปลอดภัยและมีเสถียรภาพ ส่งเสริมสภาพแวดล้อมการค้าและการลงทุนที่เปิดกว้าง ยุติธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ และพยายามบรรลุเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิก (FTAAP) ที่ครอบคลุมและมาตรฐานสูงโดยเร็ว
จีนซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกกลุ่มแรก ๆ ที่ให้สัตยาบันความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ในปีที่แล้ว กำลังพยายามที่จะเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค (CPTPP) และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) เพื่อการรวมตัวทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคต่อไป
ทั้งนี้ เชื่อว่าข้อตกลง RCEP และ CPTPP จะเป็นเส้นทางสู่ FTAAP ที่ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งสมาชิกเอเปคทั้ง 21 ประเทศตั้งเป้าที่จะจัดตั้งขึ้น
ส่งเสริมความครอบคลุมเพื่อประโยชน์ของทุกคน
ปธน.สีเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาอย่างครอบคลุม โดยเน้นย้ำว่าจำเป็นต้องมีความพยายามในการสร้างสถาปัตยกรรมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคที่มีการปรึกษาหารืออย่างเสมอภาค การมีส่วนร่วมและผลประโยชน์ร่วมกัน และส่งเสริมตลาดเอเชียแปซิฟิกขนาดใหญ่ที่มอบผลประโยชน์ให้กับทุกคน
เศรษฐกิจทั้งหมดสามารถเติบโตไปด้วยกันผ่านการพัฒนาที่เชื่อมโยงถึงกัน และดำเนินความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทุกฝ่ายผ่านความสัมพันธ์ที่เอื้อเฟื้อกัน
ปธน.สีระบุว่า จีนได้เสนอความคิดริเริ่มในการฟื้นฟูพื้นที่ชนบท สนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่ใช้เทคโนโลยีพิเศษและซับซ้อนเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่และไม่เหมือนใคร และส่งเสริมการผนวกรวมเศรษฐกิจผ่านการค้าและการลงทุน
สนับสนุนความร่วมมือระดับภูมิภาคที่เปิดกว้าง
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีจีนได้เน้นย้ำถึงการสนับสนุนความร่วมมือระดับภูมิภาคที่เปิดกว้าง โดยกล่าวว่าสิ่งสำคัญคือต้องมีการริเริ่มมากขึ้น ในการเปิดกว้างและยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคในทุก ๆ ด้าน
จีนจะไม่ลังเลในความมุ่งมั่นต่อการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจที่มีมาตรฐานสูง และจะเปิดประตูให้กว้างขึ้นไปอีก
งานมหกรรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีน (China International Import Expo) ครั้งที่ 5 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นการพิสูจน์ความมุ่งมั่นของบริษัทจีนในการสนับสนุนการค้าเสรีและเปิดกว้าง
นอกจากนี้ยังมีการบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นที่มีมูลค่ารวม 7.35 หมื่นล้านดอลลาร์ในมหกรรมแสดงสินค้านำเข้าดังกล่าว ที่เป็นข้อพิสูจน์ถึงตลาดขนาดมหึมาของจีนและโอกาสทางธุรกิจมากมาย
ขณะเดียวกัน ปักกิ่งซึ่งเป็นเมืองหลวงของจีนและเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการสำรวจการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจระดับสูงของประเทศ ได้เร่งพัฒนา "สองเขต" ในเมือง ซึ่งได้แก่ เขตการค้าเสรีนำร่องและเขตสาธิตครบวงจรระดับชาติสำหรับการขยายการเปิดกว้างในภาคบริการ
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เมืองหลวงของจีนได้นำเสนอนโยบายที่บุกเบิกและก้าวหน้ามากกว่า 100 นโยบายที่เกี่ยวข้องกับ "สองเขต" ดังกล่าว พร้อมทั้งดำเนินโครงการสำคัญและแพลตฟอร์มการทำงานมากกว่า 100 โครงการ
การปฏิรูปและการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจได้ขับเคลื่อนการพัฒนาทางสังคมและเศรษฐกิจของจีนอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทศวรรษที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยรายงานที่ระบุว่า จีนมีสัดส่วนทางเศรษฐกิจมากกว่า 30% ของการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกโดยเฉลี่ยในปี 2556-2564 ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของโลก
https://news.cgtn.com/news/2022-11-19/China-urges-for-a-free-open-trade-environment-for-APEC-economies-1f5uxVsV9UQ/index.html
No comments:
Post a Comment