Friday, June 28, 2024

พบนวัตกรรมด้านพลังงานที่ยั่งยืนจาก ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ ที่งาน ASEAN Sustainable Energy Week 2024



          บริษัท ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมโชว์นวัตกรรมด้านพลังงานที่ยั่งยืนในงาน ASEAN Sustainable Energy Week 2024 งานนิทรรศการเทคโนโลยีพลังงานชั้นนำของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 3-5 กรกฎาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) โดยปีนี้จัดขึ้นภายในแนวคิด "เสริมสร้างการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด สู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สุทธิเป็นศูนย์" ภายในงานจัดแสดงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้านพลังงานหมุนเวียน การจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเทคโนโลยีของระบบกักเก็บพลังงาน โดยทางบริษัท ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เตรียมการออกบูธเพื่อนำเสนอนวัตกรรมด้านพลังงานที่ผสมผสานระหว่างผลิตภัณฑ์และบริการอันจะส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน นอกเหนือจากการจัดแสดงโซลูชันที่ล้ำสมัย อาทิ EconiQ(TM) solutions นวัตกรรมด้าน Power Quality แล้ว ทางบริษัทยังมีสัมมนาพิเศษที่ผู้เข้าร่วมทุกท่านสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เชี่ยวชาญของทางบริษัทได้อย่างใกล้ชิด

          ร่วมสัมผัสประสบการณ์จริงกับนวัตกรรมด้านพลังงานที่ยั่งยืนของทางบริษัทได้ที่งาน ASEAN Sustainable Energy Week 2024 บูธ T23 ฮอลล์ 3 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ระหว่างวันที่ 3-5 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00 - 18.00 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริษัทฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด Tel. 02 481 5400
          ที่มา:  Hitachi Energy

Discover Hitachi Energy at ASEAN Sustainable Energy Week 2024


          Mark on your calendar for ASEAN Sustainable Energy Week 2024 and come to explore the combination of products and services that results in total superior environmental performance at Hitachi Energy booth T23, Hall 3. This year, in addition to showcasing our cutting-edge solutions, we also have exclusive seminar that all participants can network with professionals. Come and meet our team on July 3-5, 2024 at Queen Sirikit National Convention Center (QSNCC), Bangkok, Thailand. Hitachi Energy is a key partner and keen contributor to the global drive towards a true energy transition. We work daily to advance the world's energy system to be more sustainable, flexible, and secure. As the pioneering technology leader, we collaborate with customers and partners to enable sustainable energy future — for today's generations and those to come.      
          Source:  Hitachi Energy

Thursday, June 27, 2024

บริดจสโตนสานต่อความร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก มอบสิทธิประโยชน์ด้านยางหล่อพรีเมียม สำหรับผู้ประกอบการที่ได้มาตรฐาน Q Mark ทั่วประเทศ ในปี 2567


บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับกรมการขนส่งทางบกเดินหน้ามอบสิทธิประโยชน์ด้านยางหล่อพรีเมียมจากบริดจสโตนสำหรับผู้ประกอบการทั่วประเทศที่สมัครรวมถึงผู้ที่ต่ออายุเพื่อขอรับรองมาตรฐานคุณภาพบริการการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุก หรือ Q Markในปี พ.ศ.2567 เพื่อส่งเสริมและร่วมยกระดับคุณภาพมาตรฐานการขนส่งในประเทศไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มโอกาสให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน อีกทั้งยังตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริดจสโตนในการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชั่นด้านยางพรีเมียมด้วยมาตรฐานความคุ้มค่าและปลอดภัยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการให้ตรงกับความพึงพอใจตลอดจนสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้ประกอบการ

โดยในปี พ.ศ. 2567 บริดจสโตนยังคงส่งมอบสิทธิประโยชน์อย่างต่อเนื่องสำหรับผู้ประกอบการที่สมัครรวมถึงผู้ที่ต่ออายุเพื่อขอรับการรับรองมาตรฐาน Q Mark ดังนี้

  1. ฟรียางหล่อพรีเมียมจากบริดจสโตน รุ่น RT157 ขนาด 11R22.5 จำนวน 2 เส้น (มูลค่า 12,000 บาท)
  2. ส่วนลดค่าหล่อยางมูลค่า 500 บาท จำนวน ครั้ง เมื่อนำโครงยางเดิมกลับมาหล่อ (รวมมูลค่า 20,000 บาทโดยสามารถนำโครงยาง Bridgestone/ Firestone เก่า มาใช้กับส่วนลดในการหล่อยางพรีเมียมจากบริดจสโตนได้
  3. ส่วนลดบริการตั้งศูนย์รถบรรทุก/ รถโดยสาร ณ ศูนย์บริการบีทีซีทั่วประเทศ จำนวน ครั้ง (มูลค่า 2,500 บาท)
  4. ฟรี! คอร์สอบรมและพัฒนาทักษะการดูแลรักษายางเบื้องต้น Onsite ทั่วประเทศ จากผู้เชี่ยวชาญของบริดจสโตน จำนวน 1 ครั้ง (มูลค่า 5,000 บาท) พิเศษสำหรับลูกค้าของบริดจสโตนเท่านั้น

โดยผู้ประกอบการสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Call Center โทร 02-636-1555 หรือที่ https://bridgestonetruckcenter.com/home และ Line OA: @BSTireSolution สิทธิประโยชน์ในข้อ 1.- 4. สามารถใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2567 และสิ้นสุดในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2567

สำหรับผลิตภัณฑ์ยางหล่อพรีเมียมจากบริดจสโตนเป็นนวัตกรรมยางพรีเมียมรักษ์โลกที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงผ่านการนำกรรมวิธีและวัตถุดิบเอกสิทธิ์เฉพาะของบริดจสโตนทำให้โครงยางเดิมนำกลับมาใช้ได้อีก พร้อมด้วยหน้ายางที่ใช้ส่วนผสมแบบเดียวกับยางใหม่ด้วยการควบคุมคุณภาพมาตรฐานการรับประกันใกล้เคียงกับยางใหม่ (สูงสุด 4 ปี นับจากวันที่ผลิต)โดยบริดจสโตนใส่ใจในทุกขั้นตอนนับตั้งแต่การคัดโครงยาง กระบวนการหล่อ จนถึงผลิตภัณฑ์ยางหล่อที่พร้อมใช้งานจึงมั่นใจได้ถึงคุณภาพและความปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนการใช้งานให้กับผู้ประกอบการ นอกจากนี้ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพราะใช้ทรัพยากรน้อยกว่าการผลิตยางสำหรับรถบรรทุกและรถโดยสารเส้นใหม่จึงได้รับความนิยมจากลูกค้าภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม

ยางหล่อพรีเมียมจากบริดจสโตนเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์คุณภาพชั้นนำภายใต้ B-Solution โปรแกรมการบริหารจัดการยางรถบรรทุกและรถโดยสารแบบมืออาชีพ ซึ่งนวัตกรรมยางหล่อพรีเมียมจากบริดจสโตนได้ส่งเสริมการหมุนเวียนของวัสดุเพื่อนำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน สะท้อน Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน) "ด้าน Economy (เศรษฐกิจ)" ด้วยการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจให้ทะยานไปได้สุด เพื่อเพิ่มคุณค่าระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ "ด้าน Ecology (สิ่งแวดล้อม)" ตอบโจทย์ความยั่งยืนอย่างแท้จริงเพื่อสิ่งแวดล้อมด้วยการสรรสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอกย้ำการรักษ์โลกจากบริดจสโตนในด้านการปรับปรุงเรื่องต้นทุนทั้งในมิติของลูกค้าและองค์กร

เงื่อนไขการรับประกันยางหล่อดอกเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด โดยท่านสามารถศึกษานโยบายการรับประกันยางหล่อดอกได้ที่ https://bridgestonetruckcenter.com/product-warranty

เกี่ยวกับบริดจสโตน ประเทศไทย:

บริดจสโตน ผู้นำระดับโลกด้านยางรถยนต์และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับยาง พร้อมนำเสนอโซลูชั่นด้านการเดินทางที่ปลอดภัยและยั่งยืน และสำหรับประเทศไทย บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด คือหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทยจำกัด ผู้นำด้านการนำเข้า จัดจำหน่าย และทำการตลาดยางรถยนต์ภายใต้แบรนด์บริดจสโตน, ไฟร์สโตน และเดย์ตันแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย บริดจสโตนเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ตัวแทนจำหน่าย และพันธมิตรทางธุรกิจ เรานำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์พรีเมียมที่หลากหลายและโซลูชั่นขั้นสูงซึ่งพัฒนาจากนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาการเดินทางการใช้ชีวิต, การทำงาน และการพักผ่อนของผู้คนทั่วโลก

Bridgestone Continuously Joins Hands with DLT, Offering Premium Retread Tire Privileges to 2024 Nationwide Private Truck Transportation Companies with Q Mark Standard

Bridgestone Sales (Thailand) Co., Ltd., has collaborated with the Department of Land Transport (DLT) to offer Bridgestone Premium Retread tire privileges to nationwide private truck transportation companies who apply or renew their Service Quality Standard for Truck Operation (Q Mark) in 2024, aiming to promote and elevate the quality standards of transportation in Thailand for an efficient growth. It also builds trust and increases business opportunities, enhancing logistics and supply chain management competitiveness. Moreover, it reflects Bridgestone's commitment to creating innovative products, services, and solutions for premium tires with a standard of value and safety to meet customer satisfaction and foster sustainable business growth for truck transportation companies.

Bridgestone offers the following privileges for nationwide truck transportation companies who apply or renew their Q Mark in 2024:

  1. Free of charge! 2 Bridgestone Premium Retread tires, model RT157, size 11R22.5 (total value at 12,000 THB).
  2. Retreading discount vouchers of 500 THB for 4 times, when bringing back old tire casings for retreading (total value at 20,000 THB). All users can bring old tire casing from Bridgestone/Firestone to use with discount on Bridgestone Premium Retread tires.
  3. Discount on truck/bus alignment services at BTC service centers nationwide for 1 time (Total value at 2,500 THB)
  4. Free of charge! Nationwide onsite training and basic tire maintenance skills development course from Bridgestone experts for 1 time (Total value at 5,000 THB). Exclusive for Bridgestone customers only.


For further information, all private transportation companies can contact via Call Center: 02-636-1555, page: https://bridgestonetruckcenter.com/home and Line OA: @BSTireSolution. All privileges (1.- 4.) are available from June 1, 2024, to December 30, 2024.

Bridgestone Premium Retread tire is an eco-friendly innovation product utilizing advanced technology and proprietary materials from Bridgestone to reuse old tire casing with tire compound under quality control and warranty standards similar to new tires (up to 4 years from the production date) *. Bridgestone ensures quality and safety in every process, from selecting tire casing and retreading to completing retread tire, demonstrating Bridgestone's commitment to quality and safety while reducing operational costs for businesses Additionally, they minimize environmental impact by reducing raw materials for tire production compared to manufacturing new truck and bus tires, making them valuable among customers both industrial and truck transportation companies.

Bridgestone Premium Retread tire is a quality product under the B-Solution program, a professional management program for truck and bus tires to promote the reuse of materials for maximum usage, reducing the environmental impacts under Circular Economy approach. It also reflects Bridgestone's E8 Commitment, "Economy", Committed to maximizing the economic value of mobility and business operations and "Ecology", Committed to advancing sustainable tire technologies and solutions that preserve the environment for future generations by creating economic value alongside sustainable product development, reinforcing Bridgestone's dedication to cost improvement for both customers and organizations.

Terms and conditions apply, please refer to the Bridgestone Warranty Policy for Premium Retread Tires at https://bridgestonetruckcenter.com/product-warranty

About Bridgestone in Thailand:

Bridgestone is a global leader in tires and rubber building on its expertise to provide solutions for safe and sustainable mobility. In Thailand, Thai Bridgestone Co., Ltd. (TBSC) is a leading manufacturer in the Thai automotive industry, while Bridgestone Sales (Thailand) Co., Ltd. (BSTL) is the exclusive importer & distributor, and supervises the marketing strategy for Bridgestone, Firestone and Dayton branded tires in Thailand. Bridgestone is a brand trusted by its customers, dealers and business partners. Bridgestone offers a diverse product portfolio of premium tires and advanced solutions backed by innovative technologies, improving the way people around the world move, live, work and play.

EBC Financial Group คว้ารางวัล โบรกเกอร์ FX ที่น่าเชื่อถือที่สุด" และ "โบรกเกอร์ CFD ที่ดีที่สุด" ในงาน World Finance Awards

EBC Financial Group (EBC) มีความภูมิใจที่ได้รับรางวัลโบรกเกอร์ FX ที่น่าเชื่อถือที่สุด และ รางวัลโบรกเกอร์ CFD ที่ดีที่สุด ในงาน World Finance Awards 2024 ทั้งสองรางวัลที่ EBC ได้รับนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในด้านความโปร่งใส การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการให้บริการผู้ใช้งานที่เป็นเลิศ

การได้รับรางวัลยกย่องติดต่อกันสองรางวัลนั้นเน้นย้ำถึงความไว้วางใจของนักลงทุนทั่วโลกที่มีต่อการดำเนินงานภายใต้กฎระเบียบระดับสากลของ EBC ความพยายามในการส่งมอบสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ดีที่สุด และมาตรการรักษาความปลอดภัยที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับ EBC ในฐานะผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมการเงินฟอเร็กซ์

ความเป็นเลิศที่ครอบคลุมรอบด้าน: โบรกเกอร์ CFD ที่ดีที่สุด (Best CFD Broker)

สำหรับรางวัล "โบรกเกอร์ CFD ที่ดีที่สุด" เป็นหนึ่งในรางวัลอันทรงเกียรติที่สุดในอุตสาหกรรมการเงินฟอเร็กซ์ เพราะต้องผ่านการประเมินโบรกเกอร์ในด้านการดำเนินการตามคำสั่ง การเพิ่มประสิทธิภาพการกำหนดราคา ประสบการณ์ของผู้ใช้งานจริง ความปลอดภัยของกองทุน การสนับสนุนการซื้อขาย และนวัตกรรมต่างๆที่นำมาใช้ในการลงทุน ในฐานะผู้ที่ได้รับรางวัลประจำปี 2024 แสดงให้เห็นถึงจุดแข็งในระบบดำเนินการที่ได้มาตราฐาน การดำเนินการตามคำสั่งที่รวดเร็ว มีความจุสูงสำหรับการรวมคำสั่ง ที่สำคัญระบบของ EBC Financial Group มีความเสถียรที่ยอดเยี่ยม

รากฐานที่มั่นคง มอบประสบการณ์ที่จริงใจ: โบรกเกอร์ FX ที่น่าเชื่อถือที่สุด (Most Trusted FX Broker)

นอกจากรางวัล "โบรกเกอร์ CFD ที่ดีที่สุด" ในขณะเดียวกัน EBC ยังได้รับเกียรติให้รับรางวัล "โบรกเกอร์ FX ที่น่าเชื่อถือที่สุด" ความน่าเชื่อถือนี้ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดมาตลอด ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถมั่นใจได้ว่าทุกคำสั่งซื้อจะได้รับการดำเนินการอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ พร้อมได้รับการสนับสนุนจากทีมงานฝ่ายบริการลูกค้าที่พร้อมให้ความช่วยเหลือและให้คำปรึกษาที่เหมาะกับสภาวะตลาดต่างๆ

ในปี 2024 EBC Financial Group (Cayman) Limited ได้รับใบอนุญาตตามกฎระเบียบเต็มรูปแบบจาก The Cayman Islands Monetary Authority (CIMA) หมายเลขควบคุม 2038223 แสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติตามกลยุทธ์เชิงรุกของ EBC กับการขยายข้อกำหนดในเขตอำนาจศาลที่กว้างขึ้น ปัจจุบัน EBC ดำเนินการภายใต้ใบอนุญาตระดับระดับสากล ได้แก่ บริษัท EBC Financial Group (UK) Ltd ควบคุมดูแลโดย Financial Conduct Authority (FCA) ในสหราชอาณาจักร ในขณะที่บริษัท EBC Financial Group (Australia) Pty Ltd ควบคุมดูแลโดย Australian Securities and Investments Commission (ASIC) ในออสเตรเลีย และบริษัท EBC Financial Group (Cayman) Limited ควบคุมดูแลโดยหน่วยงานทางการเงิน CIMA ของหมู่เกาะเคย์แมน EBC ยึดมั่นในมาตรฐานสูงสุดของการกำกับดูแลและเข้ารับการตรวจสอบข้ามเขตอำนาจศาลอย่างสม่ำเสมอ

EBC จัดตั้งทีมงานบริการผู้ใช้งานทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อมอบการสนับสนุนนที่ครอบคลุมและทั่วถึงตลอดเวลา เปิดโอกาสในการเรียนรู้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรมร่วมกัน อุปกรณ์และระบบที่ล้ำสมัย รวมถึงการเชื่อมต่อข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อให้มั่นใจว่า ผู้ใช้งานจะสามารถเป็นผู้นำในตลาดได้ตลอดเวลา เรามีชุดอุปกรณ์การเทรดที่ทันสมัย ตัวชี้วัดที่สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ และความร่วมมือกับสถาบันการเงินที่ใกล้ชิด เราเตรียมพร้อมอย่างรอบด้านเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของนักลงทุนและมอบความสะดวกสบายที่มาพร้อมกับความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้งานทุกคน

การได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมและความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการ

Jon Bentley หัวหน้าฝ่ายการผลิตของบริษัท World Finance Magazine ได้แสดงความคิดเห็นว่า "เป็นเวลากว่าทศวรรษที่ World Finance Forex Awards ได้เฉลิมฉลองความสำเร็จที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมการเงินฟอเร็กซ์ โดยยกย่องโบรกเกอร์ที่ตรงตามเกณฑ์ชี้วัดที่สำคัญ เช่น การให้บริการ ความไว้วางใจจากผู้ใช้งาน ความโปร่งใส และนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เป็นต้น ในปี 2024 นี้ EBC Financial Group ถือเป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมดูแลจากสถาบันการเงินทั่วโลก และได้สร้างความแตกต่างด้วยการคว้าตำแหน่งโบรกเกอร์ CFD ที่ดีที่สุดและโบรกเกอร์ FX ที่น่าเชื่อถือที่สุด สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของ EBC Financial Group ที่ตั้งใจมอบบริการที่เป็นเลิศ ส่งเสริมความไว้วางใจ รักษาความโปร่งใสให้กับผู้ใช้งาน และมาพร้อมกับการพัฒนาแนวทางที่เป็นนวัตกรรมใหม่ การอุทิศตนเพื่อความเป็นเลิศในด้านต่างๆได้กำหนดมาตรฐานให้กับอุตสาหกรรมการเงินฟอเร็กซ์ โดยตำแหน่งรางวัลที่โบรกเกอร์ได้รับนั้นเน้นย้ำว่าพวกเขา คือ ผู้นำในตลาดการเงินฟอเร็กซ์"

การได้รับรางวัลอันทรงเกียรติทั้งสองรางวัลนี้ตอกย้ำความไว้วางใจและการสนับสนุนของนักลงทุนทั่วโลกที่มีต่อ EBC ถือเป็นความสำเร็จก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมการเงินฟอเร็กซ์ของ EBC Financial Group

วิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล

EBC Financial Group รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับรางวัลเหล่านี้ และมุ่งมั่นที่จะให้บริการการซื้อขายที่เหนือชั้น ทำความเข้าใจกับแนวโน้มของอุตสาหกรรม และเป็นผู้นำภายใต้กรอบการปฏิบัติตามกฎระเบียบ หากมองไปสู่อนาคต EBC มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามหลักการของความซื่อสัตย์และความเคารพ รักษามาตรฐานของสภาพแวดล้อมการซื้อขายให้ดีที่สุดและพัฒนาปรับปรุงบริการ พร้อมพัฒนาความร่วมมือที่หลากหลายเพื่อมอบระบบนิเวศทางการเงินที่ปลอดภัยและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเปิดโอกาสในการลงทุนให้กับนักลงทุนจากทั่วโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ EBC Financial Group สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่: https://www.ebc.com/.

เกี่ยวกับ EBC Financial Group

EBC Financial Group (EBC) ก่อตั้งขึ้น ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีชื่อเสียงในด้านบริการทางการเงินแบบครบวงจร รวมถึงเป็นนายหน้าทางการเงิน การจัดการสินทรัพย์ และจัดการโซลูชั่นการลงทุนที่ครอบคลุม โดยมีสำนักงานประจำการในศูนย์กลางทางการเงินที่โดดเด่นทั่วทุกภูมิภาค เช่น ลอนดอน ซิดนีย์ ฮ่องกง โตเกียว สิงคโปร์ หมู่เกาะเคย์แมน กรุงเทพฯ ลีมาสซอล เป็นต้น EBC ให้ความสำคัญกับผู้ใช้บริการที่หลากหลาย รวมถึงระดับสถาบันทั่วโลก

EBC ได้รับรางวัลมากมายและเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมทางการเงิน เรามีความภาคภูมิใจในการปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมและกฎระเบียบระหว่างประเทศในระดับสูงสุด EBC Financial Group (UK) Limited อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดย Financial Conduct Authority (FCA) ในสหราชอาณาจักร, EBC Financial Group (Australia) Pty Ltd อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดย Australian Securities and Investments Commission (ASIC) ในออสเตรเลีย และ EBC Financial Group (Cayman) Limited อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดย the Cayman Islands Monetary Authority (CIMA) ในหมู่เกาะเคย์แมน

จุดแข็งของ EBC Group คือ ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปีในสถาบันการเงินชั้นนำ โดยได้นำพาองค์กรผ่านวงจรเศรษฐกิจที่สำคัญ ๆ อย่างเชี่ยวชาญตั้งแต่เหตุการณ์ Plaza Accord ไปจนถึงวิกฤตฟรังก์สวิสและในปี 2015 EBC ได้ส่งเสริมวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์ ความเคารพ และความปลอดภัยของทรัพย์สินของลูกค้าเพื่อให้มั่นใจว่าการมีส่วนร่วมของนักลงทุนทุกคนจะได้รับการปฏิบัติด้วยความจริงจังอย่างที่สมควรได้รับ

EBC เป็นพันธมิตรในด้านการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างเป็นทางการของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา (FC Barcelona) ซึ่งนำเสนอบริการเฉพาะทางในภูมิภาคต่างๆ เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้,ละตินอเมริกา, ตะวันออกกลางและแอฟริกา เป็นต้น EBC ยังเป็นพันธมิตรในโครงการ United to Beat Malaria แคมเปญของมูลนิธิองค์การสหประชาชาติ โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงคุณภาพด้านสุขภาพของประชากรทั่วโลกเริ่มดำเนินกิจกรรมร่วมกันตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี2024 เป็นต้นมา ไม่เพียงเท่านั้น EBC ยังให้การสนับสนุนซีรีส์การมอบความรู้ให้แก่สาธารณะเกี่ยวกับ 'What Economists Really Do' นำโดยภาควิชาเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัย Oxford เพื่อทำให้เศรษฐศาสตร์เป็นเรื่องที่เข้าใจง่ายขึ้นและสามารถประยุกต์ใช้กับสังคมปัจจุบันได้ เพิ่มความเข้าใจและให้ความสำคัญกับเศรษฐศาสตร์รอบตัวเรามากขึ้น https://www.ebc.com/ 

EBC Financial Group Recognised as "Most Trusted FX Broker" and "Best CFD Broker" at World Finance Awards

EBC Financial Group (EBC) is proud to announce that it has been honoured with two prestigious awards at the World Finance Awards 2024: Most Trusted FX Broker and Best CFD Broker. These accolades reflect EBC's unwavering commitment to transparency, regulatory compliance, and exceptional customer service.

This double recognition highlights global investors' trust in EBC's top-tier regulatory credentials, superior trading environment, and diverse security measures, further cementing EBC's position as a global leader in the financial industry.

Comprehensive Excellence: Best CFD Broker

The "Best CFD Broker" award is one of the most prestigious industry accolades, evaluating brokers on order execution, pricing optimization, user experience, fund security, trading support, and innovation. As the 2024 recipient, EBC has demonstrated unparalleled execution advantages, offering lightning-fast order execution, high capacity for order aggregation, and exceptional system stability.

Sincere Foundation: Most Trusted FX Broker

Alongside the "Best CFD Broker" award, EBC was also honoured as the "Most Trusted FX Broker." Trust is built on a foundation of strict regulatory compliance, ensuring every order is executed safely and efficiently, supported by a responsive service team and diverse offerings tailored to various market conditions.

In 2024, EBC Financial Group (Cayman) Limited obtained a full regulatory license from the Cayman Islands Monetary Authority (CIMA), regulatory number 2038223, demonstrating EBC's proactive compliance with broader jurisdictional requirements. Currently, EBC holds top-tier licenses from the UK's Financial Conduct Authority (FCA) for its UK entity, EBC Financial Group (UK) Ltd, whilst EBC Financial Group (Australia) Pty Ltd is regulated by Australia's Securities and Investments Commission (ASIC), and EBC Financial Group (Cayman) Limited by CIMA, adhering to the highest standards of self-regulation and regular cross-jurisdictional audits.

EBC has established a 24/7 service team to provide round-the-clock support and specialized solutions. With localised talent pools, EBC shares industry insights, cutting-edge tools, and real-time information, ensuring users stay ahead. EBC also offers a comprehensive suite of trading tools, customizable indicators, and deep institutional partnerships, catering to the diverse needs of traders at various stages.

Industry Recognition and Client Trust

Jon Bentley, Head of Production at World Finance Magazine comments, "For over a decade, the World Finance Forex Awards have celebrated outstanding achievements in the forex industry, honouring brokers based on key metrics such as customer service, trust, transparency, and technological innovation. In 2024, EBC Financial Group, a globally regulated broker, has distinguished itself by winning the titles of Best CFD Broker and Most Trusted FX Broker. This reflects EBC Financial Group's unwavering commitment to delivering exceptional service, fostering trust, and maintaining transparency with its clients. Their innovative approach and dedication to excellence have set a benchmark in the industry, highlighting their position as a leader in the forex market."

Winning these two prestigious awards underscores global traders' trust and support for EBC and marks a significant milestone in EBC's industry achievements.

Looking Forward

EBC is honored to receive these awards and is committed to continually providing superior trading services, understanding industry trends, and leading within a compliance framework. Looking ahead, EBC will adhere to the principles of integrity and respect, maintain the highest standards of trading environments, and integrate diverse services and partnerships to build a safer, more comprehensive financial ecosystem for global investment opportunities.

For more information on EBC Financial Group, please visit: https://www.ebc.com/.

About EBC Financial Group

Founded in the esteemed financial district of London, EBC Financial Group (EBC) is renowned for its comprehensive suite of services that includes financial brokerage, asset management, and comprehensive investment solutions. With offices strategically located in prominent financial centres, such as London, Sydney, Hong Kong, Tokyo, Singapore, the Cayman Islands, Bangkok, Limassol, and more, EBC caters to a diverse clientele of retail, professional, and institutional investors worldwide.

Recognised by multiple awards, EBC prides itself on adhering to leading levels of ethical standards and international regulation. EBC Financial Group (UK) Limited is regulated by the UK's Financial Conduct Authority (FCA), EBC Financial Group (Australia) Pty Ltd is regulated by Australia's Securities and Investments Commission (ASIC), and EBC Financial Group (Cayman) Limited is regulated by the Cayman Islands Monetary Authority (CIMA).

At the core of EBC Group are seasoned professionals with over 30 years of profound experience in major financial institutions, having adeptly navigated through significant economic cycles from the Plaza Accord to the 2015 Swiss franc crisis. EBC champions a culture where integrity, respect, and client asset security are paramount, ensuring that every investor engagement is treated with the utmost seriousness it deserves.

EBC is the Official Foreign Exchange Partner of FC Barcelona, offering specialised services in regions such as Asia, LATAM, the Middle East, Africa, and Oceania. EBC is also a partner of United to Beat Malaria, a campaign of the United Nations Foundation, aiming to improve global health outcomes. Starting February 2024, EBC supports the 'What Economists Really Do' public engagement series by Oxford University's Department of Economics, demystifying economics, and its application to major societal challenges to enhance public understanding and dialogue. 

Wednesday, June 26, 2024

พิพิธภัณฑ์หูหนานจัดแสดงโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมของสตรีแห่งราชวงศ์ฮั่นและจักรวรรดิโรมัน

พิพิธภัณฑ์หูหนาน

ในช่วงเช้าของวันที่ 15 มิถุนายน "นิทรรศการโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมของสตรีแห่งราชวงศ์ฮั่นและจักรวรรดิโรมัน" ได้เปิดฉากขึ้นที่พิพิธภัณฑ์หูหนาน โดยมีการจัดแสดงโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติมากมาย หนึ่งในนั้นคือ เสื้อคลุมยาวผ้าโปร่งไม่มีซับในสีธรรมชาติแบบสาบแหลม ซึ่งนำมาจัดแสดงให้สาธารณชนได้ชมเป็นครั้งแรก สำหรับนิทรรศการนี้จะจัดไปจนถึงวันที่ 7 ตุลาคม

นิทรรศการดังกล่าวร่วมกันจัดโดยพิพิธภัณฑ์หูหนานและสำนักงานบริหารจัดการมรดกทางวัฒนธรรมโรมัน ภายในนิทรรศการจัดแสดงสิ่งของมากกว่า 200 ชิ้น/ชุด จากพิพิธภัณฑ์ 19 แห่ง ซึ่งรวมถึงพิพิธภัณฑ์หูหนาน และพิพิธภัณฑ์คาปิโตลิเน ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยสิ่งจัดแสดงมีทั้งเครื่องสำริด เครื่องปั้นดินเผา เครื่องเงินและทอง เครื่องแก้ว เครื่องหยก สิ่งทอ และประติมากรรม

นิทรรศการนี้มุ่งนำเสนอชีวิตของสตรีในสามด้านหลัก ๆ ได้แก่ ชีวิตครอบครัว สังคม และอารมณ์ของสตรีทั้งในโลกตะวันออกและตะวันตกเมื่อ 2,000 ปีก่อน ด้วยการรวบรวมโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมของโลกตะวันออกและตะวันตก ซึ่งเผยให้เห็นถึงคุณลักษณะทางวัฒนธรรมที่สะท้อนความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของสตรีจากภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน และการแสวงหาคุณค่าของความงามร่วมกัน

เสื้อคลุมยาวผ้าโปร่งไม่มีซับในสีธรรมชาติแบบสาบแหลม ที่มีน้ำหนักเพียง 48 กรัม แสดงถึงจุดสูงสุดของเทคโนโลยีสิ่งทอในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก และนับเป็นตัวอย่างที่เก่าแก่ที่สุดของเสื้อผ้าชนิดบางเบาที่ถักทอขึ้นจากเส้นไหมที่ไม่ได้ย้อมสี มีปลายแขนและปกเสื้อตกแต่งด้วยผ้าไหม โดยเสื้อคลุมโบราณนี้ขุดพบในบริเวณสุสานหม่าหวังตุย ณ หลุมฝังศพหมายเลขหนึ่งซึ่งเป็นหลุมศพของท่านผู้หญิงซินจุย ภรรยาของหลี่ชาง อัครมหาเสนาบดีแห่งรัฐฉางซาในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก โดยท่านผู้หญิงมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 2,200 ปีก่อน และเสียชีวิตเมื่ออายุประมาณ 50 ปี

ภายในนิทรรศการยังมีการจัดแสดงโบราณวัตถุอื่น ๆ เป็นครั้งแรกเช่นกัน อาทิ เศษผ้าที่มีลวดลายอ่านได้ว่า "ขอให้มีชีวิตยืนยาวและมีความสุข" ซึ่งพบในกล่องไม้ไผ่กล่องหนึ่งในหลุมฝังศพหมายเลขสามของสุสานหม่าหวังตุย จากกล่องใส่เสื้อผ้าที่มีอยู่สองใบ โดยลวดลาย "ขอให้มีชีวิตยืนยาวและมีความสุข" ถือเป็นตัวอย่างที่เก่าแก่ที่สุดของการทอด้วยกี่ทอผ้าในลักษณะนี้

"จิตรกรรมฝาผนังปูนเปียกภาพเพอร์ซีอุสและแอนโดรเมดา" ซึ่งเป็นสมบัติโรมันอันล้ำค่าจากพิพิธภัณฑ์คาปิโตลิเน ก็ถูกนำมาจัดแสดงต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก โดยผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการมรดกทางวัฒนธรรมโรมัน กล่าวกับสื่อมวลชนว่า "จิตรกรรมฝาผนังนี้มาจากช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 4 โดยเล่าเรื่องราวในตำนานเกี่ยวกับวีรบุรุษผู้ช่วยเหลือสาวงาม" ทั้งนี้ วัตถุจัดแสดงจากยุคโรมันจำนวน 138 ชิ้น/ชุด ส่วนใหญ่มาจากพิพิธภัณฑ์คาปิโตลิเน และทั้งหมดจัดแสดงในประเทศจีนเป็นครั้งแรก

ที่มา: พิพิธภัณฑ์หูหนาน 

พิพิธภัณฑ์หูหนานจัดนิทรรศการดิจิทัล ถ่ายทอดศิลปะแห่งชีวิตในวัฒนธรรมราชวงศ์ฮั่นหม่าหวังตุย

พิพิธภัณฑ์หูหนาน

ปีนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษครบรอบ 50 ปีของการขุดค้นสุสานราชวงศ์ฮั่น ณ หม่าหวังตุย โดยพิพิธภัณฑ์หูหนาน (Hunan Museum) ได้ร่วมมือกับห้องสมุดดิจิทัลแห่งประเทศจีน และทีมงานของศาสตราจารย์หวัง เยว่จิน (Wang Yuejin) จากห้องปฏิบัติการแคมแล็บ (CAMLab) มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด จัดนิทรรศการดิจิทัลเพื่อถ่ายทอดศิลปะแห่งชีวิตในวัฒนธรรมราชวงศ์ฮั่นหม่าหวังตุยอย่าง "The Art of Life - Mawangdui Han Dynasty Culture Immersive Digital Exhibition" เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2567

นิทรรศการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสำรวจแนวทางส่งเสริมวัฒนธรรมกับเทคโนโลยีให้ผสมผสานกันอย่างลึกซึ้ง โดยระดมทรัพยากรทางวิชาการจากทั่วโลก และใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียล้ำสมัยเพื่อนำเสนอมรดกทางวัฒนธรรมของสุสานฮั่นที่หม่าหวังตุยในรูปแบบดิจิทัล ผ่านประสบการณ์มัลติมีเดียเชิงละคร ซึ่งให้ภาพรวมในเรื่องแก่นแท้ของอารยธรรมจีนโบราณและความสำเร็จทางศิลปะ นิทรรศการนี้แสดงให้เห็นถึงศิลปะ จินตนาการ และโลกทัศน์ที่สะท้อนจากวัฒนธรรมของสุสานฮั่นที่หม่าหวังตุยอย่างครบถ้วน และหวังสร้างต้นแบบใหม่สำหรับการนำเสนอมรดกทางวัฒนธรรมในรูปแบบดิจิทัลที่มีอิทธิพลระดับโลก

นิทรรศการนี้แบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก ๆ ได้แก่ "กาล-อวกาศ" "หยินและหยาง" และ "ชีวิต" ซึ่งจะพาเราไปสัมผัสกับความเคลื่อนไหวเบื้องหลัง "การทำงานของจักรวาล การเปลี่ยนผ่านของชีวิต" โดยจะได้เห็นโครงสร้างห้อง โบราณวัตถุนับไม่ถ้วน แนวคิดทางวัฒนธรรม และปรัชญาชีวิตของสุสานฮั่น รวมถึงได้สัมผัสกับจินตนาการอันยิ่งใหญ่และงานศิลป์ที่สะท้อนมุมมองต่อจักรวาลและชีวิตของชาวจีนโบราณ ราวกับว่าได้ออก "เดินทางข้ามกาลและอวกาศ" ที่มองเห็นและสัมผัสได้

ภายในนิทรรศการ ผู้เข้าชมจะได้รับประสบการณ์ที่กระตุ้นประสาทสัมผัสหลากหลาย อย่างในโซน "หยินและหยาง" จะได้สำรวจพื้นที่แห่งชีวิตทั้งสี่ภายในโลงศพชั้นนอกสี่ชั้นของสุสานหมายเลขหนึ่ง ซึ่งจะทำให้เราเห็นถึงความพยายามของบรรพชนจีนในการไขความลับของชีวิตอย่างไม่รู้จบ และจินตนาการอันล้ำลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านทางจิตวิญญาณ ส่วนในโซน "ชีวิต" ภาพวาดบนผ้าไหมรูปตัว T ก็ย้อนสู่ "ช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์" อีกครั้ง ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นจอ LED ทรงกลม กราฟิกโต้ตอบ และการบูรณะโบราณวัตถุในโลกดิจิทัล ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในพิธีกรรม "จากดินสู่ฟ้า" ที่ถูกถ่ายทอดผ่านภาพเขียนสีบนผ้าไหม นอกจากจะได้สัมผัสกับวิถีแห่งการเปลี่ยนผ่านของชีวิตแล้ว ยังจะได้เข้าถึงความคิดและความรู้สึกของชาวจีนในอดีตเมื่อกว่า 2,000 ปีก่อนอีกด้วย

นิทรรศการนี้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้จนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 โดยมีแผนเดินสายออกทัวร์ทั่วโลก

ที่มา: พิพิธภัณฑ์หูหนาน 

"Beauty Incarnation - Han and Roman Female Cultural Relics Exhibition" Kicks off

Hunan Museum

On the morning of June 15, the "Beauty Personalized - Han and Roman Female Cultural Relics Exhibition" kicked off in the Hunan Museum. Precious national cultural relics, such as genuine unlined clothes of plain yarn with curving-front, are exhibited for the first time. The exhibition will last until October 7.

The exhibition, planned jointly by the Hunan Museum and Roman Cultural Heritage Supervision Administration, displays more than 200 pieces/set exhibits from 19 museums, including the Hunan Museum and Musei Capitolini (Capitoline Museums) of Rome, Italy. Items on show include bronze works, pottery, gold and silver ware, glassware, textiles, jade ware, and sculpture.

The exhibition, with a focus on women and three main spheres of their lives - their family lives, social lives and emotional lives - presents colorful female narratives in Eastern and Western cultures 2,000 years ago. By engaging Eastern and Western cultural relics in an engaging and meaningful dialogue, it reveals the cultural characteristics of the unique beauty of women from different cultural backgrounds and their pursuit of the value of shared aesthetics.  

The unlined clothes of plain yarn with curving-front, displayed for the first time, represent the peak of textile technology in the Western Han Dynasty. With a weight of 48g, it is to date the earliest example of such thin and light clothing made of undyed plain silk with square holes and a cuff and collar decorated with silk. It was unearthed from Tomb One at Mawangdui, or the Tomb of Xinzui, who, according to historical records, was the wife of Li Cang, Prime Minister of the Changsha State of the Western Han. She lived more than 2,200 years ago, and died at around the age of 50.

Also on display for the first time is a remnant of clothing with a pattern reading "live a long and happy life". The relics of the clothing were from a bamboo box in the west of Mawangdui Tomb 3, where there were "two boxes of clothes". The characters for "live a long and happy life" are the earliest loom-woven specimens of their kind to be found in unearthed silk fabrics.

On its first public exhibition is the "Painted Plaster Mural of Perseus and Andromeda", a Roman treasure from Capitoline Museums. The director of the Roman Cultural Heritage Supervision Administration told the media, "This half-moon mural, from the second half of the 4th century AD, depicts a mythological story of heroes saving beauty." The 138 Roman pieces/sets of exhibits on display are mainly from the Capitoline Museums, all exhibited in China for the first time.

Source: Hunan Museum 

Hunan Museum Hosts "The Art of Life - Mawangdui Han Dynasty Culture Immersive Digital Exhibition"

Hunan Museum

This year marks the 50th anniversary of the archaeological excavation of the Han Tombs at Mawangdui. The Hunan Museum, together with the Digital Library of China and the team of Wang Yuejin, professor at CAMLab, Harvard University, launched "The Art of Life - Mawangdui Han Dynasty Culture Immersive Digital Exhibition" on June 8, 2024.

Intended to explore ways to advance the deep integration of culture and technology, the exhibition mobilizes academic resources from around the world and employs cutting-edge multimedia technology to present the cultural heritage of the Han Tombs at Mawangdui in digitalized form through a theatrical multimedia experience, offering a glance into the essence of early Chinese civilization and artistic achievements. The exhibition delivers a holistic display of the art, imagination, and world view as reflected by the culture of Han Tombs at Mawangdui and seeks to create a new paradigm for digital presentation of cultural heritage with global influence.

The exhibition is structured around three modules: "Time and Space", "Yin and Yang", and "Life". By revealing the dynamic process of "cosmic operations - the sublimation of life", displaying the chamber structure, numerous artifacts, cultural ideas and humanistic thoughts of the Han Tombs, and unfolding the grand imagination and artistic expression of the universe and life by ancient Chinese, it embarks the audience on a "journey through space and time" that can be seen and experienced. 

The exhibition delivers to visitors a multisensory experience. In the "Yin and Yang" section, the four life spaces contained in the four-outer-layer coffins of Tomb One allow visitors to marvel at the ancient Chinese people's endless exploration of the mystery of life and their profound imagination for spiritual sublimation. In the "Life" section, the T-shaped silk paintings relive their "glorious moments". Thanks to the immersive LED ball screen, interactive dynamic graphic design, and digital restoration of cultural relics, among other technologies, visitors feel as if they were attending the "from earth to heaven" ceremony depicted in the silk paintings. While allowing the audience to experience the transformation and ascension of life, the section also offers a glimpse into the thoughts and emotions of the Chinese ancients 2,000 years ago.

The exhibition remains open to the public until February 16, 2025, with plans for a worldwide tour.

Source: Hunan Museum 

Tuesday, June 25, 2024

อินเตอร์เนชั่นแนลเอสโอเอสเผยเคล็ดลับสุขภาพและความปลอดภัยในท้องทะเลเนื่องในวันชาวเรือโลก

วันที่ 25 มิถุนายนของทุกปีตรงกับวันชาวเรือโลก (Day of the Seafarer) เป้าหมายของวันชาวเรือโลกนั้นคือการยกย่องชาวเรือจากทั่วทุกมุมโลกที่ต่างก็เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนโลกใบนี้ วันชาวเรือโลกในปีนี้จึงมุ่งเน้นไปที่เคล็ดลับด้านความปลอดภัยในท้องทะเล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับความเป็นอยู่ที่ดีของชาวเรือ MedSea หน่วยงานด้านการเดินเรือของอินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส (International SOS) ขอนำเสนอมาตรการสำหรับองค์กรต่าง ๆ ในการป้องกันการบาดเจ็บ การเจ็บป่วย และความกังวลด้านความปลอดภัยที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งบนเรือพาณิชย์ ควบคู่ไปกับข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงความท้าทายและปัญหาด้านสุขภาพในด้านต่าง ๆ ของชาวเรือ

จากข้อมูลกรณีการให้ความช่วยเหลือของ MedSea ในปี 2566 พบว่าชาวเรือต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพที่หลากหลายบนเรือ

ปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและกระดูก ซึ่งมักจะเกิดจากการยกของหนักผิดวิธี การอยู่ในท่าทางที่ไม่เหมาะสม รวมถึงการทำงานซ้ำ ๆ ในอิริยาบทเดิม เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในหมู่ชาวเรือมาโดยตลอด โดยในปี 2566 ปัญหาดังกล่าวได้กลายเป็นปัญหาด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งเป็นอันดับที่ 4 โดยส่วนใหญ่ (40%) เกี่ยวข้องกับอาการปวดคอและหลัง นอกจากนี้ หนึ่งในสามของปัญหาด้านสุขภาพทั้งหมดที่ทำให้ชาวเรือถูกประเมินว่า ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้นั้น เกิดจากปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและกระดูก

ในปี 2566 ปัญหาสุขภาพฟันและช่องปากเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวล โดยทะยานขึ้นจากอันดับ 6 มาเป็นอันดับ 2 ของกรณีทางการแพทย์ที่พบบ่อยครั้งที่สุดของ MedSea โดย 67% ของปัญหาเหล่านี้ต้องได้รับการประเมินเพิ่มเติมเมื่อขึ้นฝั่ง เมื่อลูกเรือไม่สามารถเข้าพบทันตแพทย์บนฝั่งได้ทันที ความเจ็บปวดและความไม่สบายที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน สมาธิ การนอนหลับ และความปลอดภัยของลูกเรือได้

นอกจากนี้ ผลกระทบของโรคเรื้อรังที่เกิดขึ้นกับชาวเรือจำนวนมากก็เป็นอีกเรื่องที่ควรจะต้องพิจารณา เพราะส่วนใหญ่โรคเหล่านี้เกิดจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) โดยโรคเรื้อรังที่พบมากที่สุดบนเรือคือ ความดันโลหิตสูง ตามมาด้วยโรคเบาหวาน โรคซึมเศร้า และโรคอ้วน หากไม่ได้รับการจัดการที่ถูกต้อง โรค NCDs อาจกลายเป็นภัยร้ายต่อสุขภาพชาวเรือ นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนและแม้กระทั่งเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ ซึ่งทำให้เรือต้องเบี่ยงเบนเส้นทางและล่าช้า องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าโรค NCDs ยังคงมีแนวโน้มลุกลามเพิ่มขึ้นต่อไปทั่วโลก ภายในปี 2593 โรคเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคระบบทางเดินหายใจ จะคิดเป็นสัดส่วน 86% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด 90 ล้านคนต่อปี1

แม้ว่า โรคหัวใจและหลอดเลือดจะเป็นปัญหาที่พบได้เป็นส่วนน้อยในกรณีทั้งหมดของ MedSea แต่ในระดับโลกก็นับเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตจากโรค NCDs คิดเป็น 17.9 ล้านคนต่อปี ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามสำคัญ เพราะผลลัพธ์ที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็นหัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ล้วนเป็นอันตรายถึงชีวิตทั้งสิ้น ดังนั้น การดูแลสุขภาพหัวใจ เช่น การเลิกสูบบุหรี่ จึงควรเป็นสิ่งที่ทุกคนบนเรือให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก

ดร. แคทเธอรีน ซินแคลร์ ที่ปรึกษาทางการแพทย์อาวุโสของ MedSea กล่าวว่า "ในขณะที่เราร่วมเฉลิมฉลองวันชาวเรือโลกและยกย่องบทบาทที่สำคัญของชาวเรือ เราก็ต้องตระหนักถึงปัญหาสุขภาพเฉพาะตัวที่พวกเขาต้องเผชิญด้วย ชีวิตบนท้องทะเลที่ยาวนาน ความโดดเดี่ยว และการเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ล้วนส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของลูกเรือ ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งเหล่านี้ยังทำให้โรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และปัญหาสุขภาพจิตแย่ลง ในฐานะผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ เราต้องมุ่งเน้นไปที่การป้องกันและพัฒนาสุขภาพและสวัสดิภาพของชาวเรืออย่างต่อเนื่อง"

"องค์กรต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมการเดินเรือมีภาระหน้าที่ในการดูแลลูกเรือ ไม่ใช่แค่เพียงการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์พื้นฐานบนเรือเท่านั้น แต่ควรขยับขยายไปสู่แผนงานการจัดการสุขภาพเชิงรุกที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับความท้าทายที่ชาวเรือต้องเผชิญโดยเฉพาะ ดังนั้น การจัดทำแคมเปญสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติการทำงานอย่างปลอดภัยในสภาพอากาศร้อน จะช่วยลดความเสี่ยงของอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากความร้อนในหมู่ชาวเรือได้มาก"

MedSea ขอแชร์เคล็ดลับดี ๆ สำหรับองค์กรต่าง ๆ เพื่อช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บและโรคภัยไข้เจ็บที่พบบ่อยในหมู่ชาวเรือบนเรือพาณิชย์:

  1. การดูแลและสนับสนุนผู้ป่วยโรคเรื้อรัง: พัฒนาแผนงานเพื่อช่วยให้ชาวเรือจัดการกับโรคเรื้อรังที่เป็นอยู่ก่อนแล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพขณะอยู่กลางทะเล เน้นให้ชาวเรือใส่ใจสุขภาพ รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องให้ชาวเรือเข้าถึงการรักษาพยาบาลและมีการติดตามตรวจสอบข้อมูลสุขภาพอย่างสม่ำเสม
  2. สร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของสุขภาพฟันและช่องปาก: กระตุ้นให้ลูกเรือดูแลสุขภาพฟันอย่างจริงจัง ผ่านสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับสุขอนามัยในช่องปาก
  3. ป้องกันปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและกระดูก: ประเมินความเสี่ยงในการทำงาน วางมาตรการความปลอดภัย เพื่อลดปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและกระดูกที่เกิดจากการใช้เครื่องมืออย่างไม่ถูกต้อง งานที่ต้องทำซ้ำ ๆ ในอิริยาบทเดิม หรือการยกของผิดวิธี
  4. ป้องกันโรคเพลียแดด/อาการเจ็บป่วยจากความร้อน: สนับสนุนให้ดื่มน้ำและพักเป็นระยะ ๆ ลดเวลาการอยู่กลางแจ้งในช่วงเวลาที่อากาศร้อนจัด และตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการใช้อุปกรณ์หรือสวมเสื้อผ้าป้องกัน
  5. สนับสนุนการเลิกบุหรี่: จัดทำแผนงานและแหล่งข้อมูลการเลิกบุหรี่ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงผลเสียของการสูบบุหรี่

ABOUT MEDSEA

MedSea is the maritime arm of International SOS. We help ship owners, managers and operators to fulfil their Duty of Care to seafarers and build a resilient workforce.

Every year we provide telemedical assistance to thousands of seafarers worldwide, supporting all types of physical and emotional health issues. When a case cannot be solved onboard, MedSea refers to our network of 85,000+ approved and verified shoreside medical providers, ensuring that seafarers receive the highest level of care possible.

For 25+ years MedSea has been supporting the worldwide maritime community, helping to maintain happy, healthy vessels. 

DAY OF THE SEAFARER: HEALTH TIPS TO SUPPORT SAFETY AT SEA

 The Day of the Seafarer (25 June) recognises the vital contribution made by seafarers from all over the world to the global community. This year, the focus of the day is on safety tips at sea, a critical factor in seafarer wellbeing. , offers practical measures for organisations to prevent common injuries, illnesses and safety concerns onboard commercial vessels, complemented by data which highlights the diverse health challenges among seafarers.

MedSea's assistance case data from 2023 shows that seafarers suffer from a wide variety of health issues onboard.

Musculoskeletal problems, often caused by improper lifting techniques, posture and repetitive tasks, have always been a concern for seafarers. In 2023, it emerged as the fourth most common medical case type, with a significant portion (40%) involving the neck and back. Additionally, one-third of all cases where seafarers are deemed unfit for duty were attributed to musculoskeletal problems.

In 2023, dental cases saw a concerning rise, jumping from MedSea's sixth most common medical case category to the second. 67% of these cases required further shoreside evaluation. When crew members cannot be immediately attended to by a dentist onshore, the pain and discomfort they experience may affect their job performance, concentration, sleep, and safety.

It is also important to consider the impact of chronic health conditions that many seafarers suffer from, primarily due to non-communicable diseases (NCDs). Hypertension is reported to be the most common chronic condition onboard ships, followed by diabetes, depression and obesity. When incorrectly managed, NCDs pose significant health risks to seafarers, potentially leading to complications and even medical emergencies, requiring vessel diversions and delays. The World Health Organization (WHO) stated that the increasing trend of NCDs will continue worldwide. By around 2050, chronic diseases such as cancer, diabetes, cardiovascular diseases and respiratory illnesses will account for 86% of the 90 million fatalities each year[1].

Whilst cardiovascular diseases represent a much smaller number of overall MedSea cases, globally they account for most NCD deaths, or 17.9 million people annually1. This poses a significant threat as potential consequences, such as a heart attack and a stroke can be potentially life-threatening. Protecting heart health, for example through eliminating tobacco use, should be a key priority for all onboard. 

Dr Katherine Sinclaire, Senior Medical Advisor at MedSea says "As we celebrate the Day of the Seafarer and recognise their critical role, it is important to acknowledge the unique health challenges they face. Long stretches at sea, isolation and exposure to harsh environments can significantly impact crewmembers' wellbeing and exacerbate chronic conditions like hypertension, diabetes and mental health conditions. As an industry, we must continue to focus upon prevention and improving the overall health and welfare of our seafarers.

"Organisations within the Maritime industry have a Duty of Care that goes beyond basic medical facilities onboard and moves towards proactive health management programmes, designed to address the specific challenges seafarers encounter. Running awareness campaigns about safe working practices in hot environments can significantly reduce the risk of heat-related illness among seafarers".

MedSea shares top tips for organisations to prevent common injuries and illnesses among seafarers onboard commercial vessels:

  1. Chronic condition support: develop programmes to help seafarers effectively manage pre-existing chronic conditions while at sea. This could include encouraging seafarers to maintain a healthy lifestyle, eating a well-balanced diet and exercising regularly. It is also important to provide access to medical care and regularly monitor health data.
  2. Raise awareness of the importance of dental health: encourage crewmembers to be proactive with their dental care through educational materials on oral hygiene.
  3. Prevention of musculoskeletal problems: conduct job risk assessments and implement safety protocols to minimise musculoskeletal problems arising from incorrectly using tools, repetitive tasks or improper lifting techniques.
  4. Heat exhaustion/illness prevention: Encourage regular hydration and breaks, limit time spent outside during peak hours of heat and ensure use of protective clothing or equipment.

Provide smoking cessation support: offer smoking cessation programmes and resources to raise awareness of the negative impacts of smoking

ABOUT MEDSEA

MedSea is the maritime arm of International SOS. We help ship owners, managers and operators to fulfil their Duty of Care to seafarers and build a resilient workforce.

Every year we provide telemedical assistance to thousands of seafarers worldwide, supporting all types of physical and emotional health issues. When a case cannot be solved onboard, MedSea refers to our network of 85,000+ approved and verified shoreside medical providers, ensuring that seafarers receive the highest level of care possible.

For 25+ years MedSea has been supporting the worldwide maritime community, helping to maintain happy, healthy vessels.

[1] World Health Organization | Fact Sheet: Non-Communicable Diseases

“IMCAS Asia 2024 17th Edition and 12th ITCAM” งานประชุมเวชศาสตร์ความงามระดับโลก ตอกย้ำไทยเป็นศูนย์กลางทาง เวชศาสตร์ความงามระดับโลก

สมาคมเวชสำอางและศัลยศาสตร์ผิวพรรณแห่งประเทศไทย (Thai Cosderm) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ IMCAS(International Master Course on Aging Science) ซึ่งเป็นองค์กรจัดงานประชุมระดับโลกด้านการแพทย์ผิวหนัง ศัลยแพทย์พลาสติก เวชศาสตร์ความงาม จากประเทศฝรั่งเศส จัดงานประชุมนานาชาติ "IMCAS Asia 2024 17th Edition and 12th ITCAM" ขึ้น ซึ่งเป็นงานประชุมเวชศาสตร์ระดับโลกที่รวบรวมแพทย์ผิวหนัง ศัลยแพทย์ และแพทย์ความงามผู้ทรงคุณวุฒิมากกว่า 315 ท่านจากทั่วโลกมาบรรยายภายในงาน เพื่อตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางทางด้านเวชศาสตร์ความงามระดับโลกของประเทศไทย โดยได้รับเกียรติจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการเปิดงาน พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมเปิดงาน ณ โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ซูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล กรุงเทพฯ

สำหรับการประชุมนานาชาติ "IMCAS Asia 2024 17th Edition and 12th ITCAM"ประเทศไทยได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานเป็นปีที่ 6 ในระหว่างวันที่ 21-23 มิถุนายน 2567 โดยมีเป้าหมาย 4 ประการ ได้แก่

  1. ส่งเสริมการศึกษาเรียนรู้ทางด้านเวชศาสตร์ความงามให้แก่แพทย์ไทยและนานาชาติ
  2. เสริมสร้างความเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคและตอกย้ำความเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพของวงการเวชศาสตร์ความงามไทย
  3. สร้างสายสัมพันธ์แพทย์ความงามผู้ทรงคุณวุฒิจากนานาประเทศผ่านเวทีการประชุมระดับโลกที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
  4. ส่งเสริมการศึกษาเรียนรู้อย่างต่อเนื่องทางด้านเวชศาสตร์ความงาม


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เป็นที่น่าดีใจที่ประเทศไทย, กรุงเทพมหานครของเราได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานประชุมระดับโลก IMCAS ASIA 2024 และได้มีโอกาสต้อนรับแพทย์ความงามจากทั่วโลกที่ลงทะเบียนในงานกว่า 2,500 คนอีกครั้ง ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความพร้อมและความเป็นมหานครชั้นนำของเมืองไทย ทั้งทางด้านความปลอดภัย โครงสร้างสิ่งแวดล้อม การเดินทาง และบรรยากาศแห่งการศึกษาและความคิดสร้างสรรค์ ผ่านการประชุมวิชาการระดับสากล

อนึ่ง การแพทย์ทางด้านเวชศาสตร์ความงามเป็นสาขาวิชาที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นที่สนใจแก่บุคลากรทางการแพทย์จากหลากหลายประเทศ กรุงเทพมหานครของเราถือเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางทางการศึกษาในแขนงวิชานี้และกำลังก้าวขึ้นสู่การเป็นอันดับหนึ่ง ของการเป็น Antiaging and Aesthetic hub of Asia จึงน่าภาคภูมิใจและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่แพทย์ไทยได้รับโอกาสในการแสดงความสามารถและพัฒนาความรู้ร่วมไปกับแพทย์จากนานาประเทศใน platform การประชุมที่เป็นสากล สอดคล้องกับความเป็น High tech ที่มี High touch สำหรับการดูแลคนไข้ระดับมาตรฐานสูงสุด

ผู้บริหารของสมาคมเวชสำอางและศัลยศาสตร์ผิวพรรณแห่งประเทศไทย ได้แก่แพทย์หญิงนลินี สุทธิพิศาล นายกสมาคมเวชสำอางและศัลยศาสตร์ผิวพรรณแห่งประเทศไทย และแพทย์หญิงอัจจิมาสุวรรณจินดา แพทย์ผิวหนังและศัลยกรรมผิวหนังประธานการจัดงานและฝ่ายวิชาการของสมาคมเวชสำอางและศัลยศาสตร์ผิวพรรณแห่งประเทศไทย และนายแพทย์ไพศาล รัมณีย์ธร กรรมการบริหารและวิชาการของสมาคมเวชสำอางและศัลยศาสตร์ผิวพรรณแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า งานประชุมในครั้งนี้ ทางสมาคมได้ร่วมกับ อิมคาส IMCAS (International Master Course on Aging Science) องค์กรจัดงานประชุมระดับโลกด้านการแพทย์ผิวหนัง ศัลยแพทย์พลาสติก เวชศาสตร์ความงาม และฟื้นฟูความเสื่อม จากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีการจัดงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติในรูปแบบ World Congress ทุกปีที่ประเทศฝรั่งเศส โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมมากสูงสุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ไม่ต่ำกว่า 20,000 คนต่อปี นอกจากนี้ IMCAS ยังได้มีการจัดการประชุมในเอเชีย ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศแถบเอเชียที่ได้รับเลือกให้เป็นศูนย์กลางการจัดงาน โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมแบบ onsite จากทั่วโลก มากกว่า 2,500 คน รวมถึงมีการจัดแสดงเครื่องมือทางการแพทย์มากกว่า 100 บูท และมีผู้บรรยายจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกถึง 315 คน


ภายในงานประชุมวิชาการ ได้มีการอัพเดทข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเทคนิคขั้นตอนการผ่าตัด (การปลูกถ่ายเต้านม การผ่าตัดเสริมจมูก การดูดไขมัน การเติมไขมัน ฯลฯ) และการรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด (การสาธิตฉีดฟิลเลอร์ โบท็อก การร้อยไหม เลเซอร์ และ Obesity management and surgery aesthetics, LGBT aesthetic ฯลฯ) มีการถ่ายทอดสด การสอนด้านกายวิภาคศาสตร์ (Anatomy) จากโรงเรียนแพทย์ ในประเทศฝรั่งเศส มายังประเทศไทย โดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งแพทย์จะต้องมีความรู้ความเข้าใจกายวิภาคศาสตร์ของใบหน้า เพื่อที่จะสามารถฉีดได้อย่างถูกต้อง และทำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้เข้ารับบริการ เนื่องจากเป็นหัตถการที่สามารถทำให้เกิดอันตราย จากภาวะฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือดทำให้เกิดผิวหนังตาย สูญเสียการมองเห็น หลอดเลือดสมองอุดตัน ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด การติดเชื้อที่ผิวหนังแบบเรื้อรัง

นอกจากการถ่ายทอดสดการสอนจากฝรั่งเศสแล้ว ภายในงานยังได้มีการบรรยายเกี่ยวกับอนาคตการแพทย์ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูความเสื่อม (Regenerative medicine) ของประเทศไทย กล่าวได้ว่า การรักษาด้วยเซลล์, ยีน, และเอ็กโซโซม ถือเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ล้ำสมัยที่มีศักยภาพสูงในการก้าวข้ามขีดจำกัดของการรักษาในปัจจุบัน และประเทศไทยได้มีการคิดค้นนวัตกรรมทางด้านนี้ อย่างไรก็ตามกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ขั้นสูงเหล่านี้นั้น จำเป็นต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิตยาตามแนวทางของ GMP PIC/S ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อมาตรฐานการผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และเชื่อมโยงกับ ความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการรักษาเป็นอย่างมาก ดังนั้น งานประชุมในเวทีระดับนานาชาติจึงมีความสำคัญอย่างมากในการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องกับแพทย์ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อการโฆษณาเกินจริงจากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้รับบริการ

ภายในงานยังมีการจัดแสดงเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทางการแพทย์ทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก รวมถึงยกระดับศักยภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์เครื่องมือและการให้บริการทางการแพทย์ให้เทียบเท่ากับระดับสากล

ช่องทางอัปเดตข่าวสารสำหรับการจัดประชุมในครั้งถัดไป https://itcam.org/Home 

เว็บไซต์https://itcam.org/Home 

เฟซบุ๊กhttps://www.facebook.com/itcamcongress 

Monday, June 24, 2024

เขตกวนซานหู มณฑลกุ้ยโจว จัดกิจกรรม "นิเวศวิทยา +" มุ่งส่งเสริมระบบนิเวศ-การท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2567 กิจกรรม "ฤดูกาลทางนิเวศ" (Ecological Season) ได้เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ เขตกวนซานหู ในเมืองกุ้ยหยาง มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน นับเป็นปีที่สามติดต่อกันแล้วที่กิจกรรมนี้ได้จัดขึ้นที่เขตกวนซานหู โดยสำนักประชาสัมพันธ์รัฐบาลเขตกวนซานหู สำหรับงานในปีนี้มีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายในสามหัวข้อ ได้แก่ "นิเวศวิทยา + การศึกษาดูงาน" (ecology + study tour) "นิเวศวิทยา + ดนตรี" (ecology + music) และ "นิเวศวิทยา + การศึกษา" (ecology + education)

หลี่ อี้จวิน (Li Yijun) นักศึกษาจากกว่างโจวที่เข้าร่วมกิจกรรม "นิเวศวิทยา + การศึกษาดูงาน" กล่าวด้วยความคาดหวังว่า "เป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือนกุ้ยหยาง รู้สึกแปลกใหม่ที่ได้เห็นทิวทัศน์ของภูเขา แม่น้ำ และความเขียวขจีจากรถไฟความเร็วสูง และหวังว่าจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความงามของนิเวศวิทยาทางธรรมชาติด้วยการเข้าร่วมกิจกรรมนี้ หวังว่าการท่องเที่ยวเชิงนิเวศจะเป็นการเก็บเกี่ยวความรู้และเต็มไปด้วยความสนุกสนาน"

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ สภาพแวดล้อมทางนิเวศของเขตกวนซานหูดีขึ้นทุกปี โดยคุณภาพอากาศได้มาตรฐานทุติยภูมิแห่งชาติ 6 ปีติดต่อกัน ขณะที่สัดส่วนน้ำผิวดินคุณภาพดีในทะเลสาบและแม่น้ำหลักอยู่ที่ระดับ 100% ส่วนคุณภาพสภาพแวดล้อมทางเสียงยังคงมีเสถียรภาพ ด้านสัดส่วนสภาพแวดล้อมทางเสียงคุณภาพดีในเมืองในเวลากลางวันและกลางคืนอยู่ที่ 100% นอกจากนี้ จำนวนสวนสาธารณะทั้งหมดยังมีมากถึง 206 แห่ง และความพึงพอใจของผู้อยู่อาศัยที่มีต่อสภาพแวดล้อมทางนิเวศสูงถึง 93.63%

การปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางนิเวศอย่างต่อเนื่องในเขตกวนซานหูสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก โดยสำนักงานการท่องเที่ยวเขตกวนซานหูระบุว่า เขตกวนซานหูได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบค้างคืนจำนวน 6.39 ล้านคนในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน 2566 นอกจากนั้นยังมีนักท่องเที่ยวราว 420,000 คนในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2567 และประมาณ 600,000 คนในช่วงวันแรงงานปี 2567

ที่มา: สำนักประชาสัมพันธ์รัฐบาลเขตกวนซานหู