ทบวงวัฒนธรรมญี่ปุ่นนำเสนอ "CULTURE GATE to JAPAN"
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ทบวงวัฒนธรรมญี่ปุ่น (Agency for Cultural Affairs) ได้เปิดนิทรรศการศิลปะที่ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "CULTURE GATE to JAPAN" ผลงานศิลปะแบบมัลติมีเดียของศิลปิน 8 ท่านได้รับการจัดแสดงตามสนามบินต่าง ๆ และบนช่องทางออนไลน์ เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมญี่ปุ่นและผลักดันให้ทั้งโลกได้เห็น
ภาพรวมอีเวนต์
นับตั้งแต่ยุคโบราณ ภูมิภาคคันไซของญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อความเจริญรุ่งเรืองของญี่ปุ่นทั้งในแง่การเมือง การค้า และวัฒนธรรม และจนถึงปัจจุบัน สถานที่ทางประวัติศาสตร์และขนบธรรมเนียมต่าง ๆ ก็ยังปรากฏหลงเหลือให้เห็น วิถีชีวิตและวัฒนธรรมอันหลากหลายที่พบภายในภูมิภาคนี้ถูกหล่อหลอมด้วยสภาพภูมิศาสตร์ที่อยู่ล้อมรอบ ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขา แม่น้ำ ท้องทะเล และอื่น ๆ แนวชายฝั่งซันอิงอันตะปุ่มตะป่ำที่ก่อตัวขึ้นเมื่อครั้งที่หมู่เกาะญี่ปุ่นได้แยกตัวออกจากเอเชียแผ่นดินใหญ่เมื่อหลายล้านปีก่อนนั้น ส่งผลให้เกิดท่าเรือตามธรรมชาติมากมาย โดยทะเลสาบบิวะ ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ทำหน้าที่เป็นแหล่งน้ำจืดส่งให้กับทั้งภูมิภาคโฮคุริคุ ส่วนเกาะอะวะจิและโทคุชิมะเป็นบ่อเกิดตำนานการสร้างที่เก่าแก่เป็นอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น ขณะที่พื้นที่ประวัติศาสตร์อย่างอิเสะและนาราในคาบสมุทรคิอิ ซึ่งเต็มไปด้วยหินที่ก่อตัวเป็นรูปร่างแปลกตา รายล้อมด้วยป่าดิบ และวัฒนธรรมงานฝีมือท้องถิ่น ก็ได้กลายมาเป็นท้องเรื่องให้กับตำนานบางอย่างอันเป็นที่เล่าขานมาถึงทุกวันนี้ สภาพทางภูมิศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพื้นที่ ล้วนมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมของภูมิภาค ซึ่งแต่ละวัฒนธรรมก็มีความโดดเด่นเป็นของตัวเอง
สำหรับนิทรรศการศิลปะครั้งนี้ สถานที่ 8 แห่งทั้งที่อยู่ภายในและรายรอบภูมิภาคคันไซ ได้รับการถ่ายทอดใหม่เป็น "ถนน 8 เส้น" ที่อยู่ร่วมกันกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน โดยศิลปินมังงะ 8 รายที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับแต่ละพื้นที่ ได้สร้างสรรค์ผลงานที่สะท้อนให้เห็นธรรมชาติ วัฒนธรรม และผู้คนของ "ถนน" แต่ละเส้นเหล่านี้
- วันที่: เปิดให้ชมวันที่ 20 มีนาคม 2564
- สถานที่: สนามบินคันไซ อาคาร 1, 2F Atrium, Canyon Bridge
- ค่าเข้าชม: ฟรี
- ธีมงาน: LIFE
- ศิลปิน: ตามรายชื่อด้านล่าง เรียงตามตัวอักษร
"The Cape Route" - ชายฝั่งซานิน
IGARASHI Daisuke
ศิลปินมังงะรายนี้เกิดที่จังหวัดไซตามะ สำเร็จการศึกษาจากภาควิชาจิตรกรรม มหาวิทยาลัยศิลปะทามะ ศิลปินผู้นี้ถ่ายทอดความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติกับมนุษย์ โลกแห่งขนบธรรมเนียมประเพณีและตำนาน ไปจนถึงจุดกำเนิดของชีวิตและระบบนิเวศ ผ่านมุมมองต่อโลกที่ไม่เหมือนใคร โดยเมื่อปี 2547 เขาได้รับรางวัล Excellence Award บนเวที Japan Media Arts Festival Manga Division ครั้งที่ 8 จากผลงานมังงะเรื่อง "Witches" (Shogakukan Inc.) ต่อมาในปี 2552 เขาได้รับรางวัล Excellence Award ทั้งจากการประกาศรางวัล Japan Cartoonists Association Award ครั้งที่ 38 และ Japan Media Arts Festival Manga Division ครั้งที่ 13 จากผลงานมังงะเรื่อง "Children of the Sea" (Shogakukan Inc.) ส่วนผลงานสร้างชื่ออื่น ๆ มีทั้ง "Little Forest" และ "Designs" (Kodansha Ltd.), "SARU" (Shogakukan Inc.) และ "The Adventures of Kabocha" (Takeshobo Co., Ltd.) นอกจากนี้ เขายังได้สร้างสรรค์หนังสือภาพและออกแบบปกหนังสือมาแล้วมากมาย และผลงานเรื่อง "Little Forest" ก็ยังได้ดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ไลฟ์แอคชันในญี่ปุ่นเมื่อปี 2557 และเกาหลีเมื่อปี 2561 ด้วย ส่วนเรื่อง "Children of the Sea" ได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันในญี่ปุ่นเมื่อปี 2562
"The Fruitful Route" - ทัมบะ
KARI Sumako
ศิลปินหญิงรายนี้เกิดที่จังหวัดฟุกุโอกะ แจ้งเกิดครั้งแรกเมื่อปี 2537 กับผลงาน "SWAYIN' IN THE AIR" ("Ranmaru" ตีพิมพ์โดย Ohta Publishing Co.) เธอได้ฝากผลงานเอาไว้มากมายหลายหมวด รวมถึงการ์ตูนผู้หญิงและการ์ตูนวัยรุ่น ผลงานมังงะของเธอโดดเด่นด้วยเรื่องราวที่แฝงอารมณ์ขัน ตลอดจนคำบรรยายทางจิตวิทยาที่มีความอ่อนไหวและตัวละครที่มีคาแรคเตอร์เฉพาะ ส่งผลให้มีผู้อ่านติดตามผลงานจำนวนมาก ผลงานที่สร้างชื่อให้กับเธอนั้นมีทั้ง "Kayo-chan no Nimotsu" (Takeshobo Co., Ltd.), "Ibara Ra Lullaby" (Kodansha Ltd.), "Nohara Nohara no" (Taiyotosho Co.) และ "Ikuhyaku Seiso" (Ohta Publishing Co.) โดยในปี 2549 "Family Restaurant" (Ohta Publishing Co.) ได้รับดัดแปลงทำเป็นภาพยนตร์ และในปี 2563 เธอผู้นี้ก็ได้รับรางวัล Excellence Award จากเวที Japan Media Arts Festival Manga Division ครั้งที่ 23 ด้วยผลงานมังงะเรื่อง "Ashita Shinuniha (If I Might Die Tomorrow)" (Ohta Publishing Co.)
"The Sea Route" - เกาะอะวะจิและโทคุชิมะ
SATONAKA Machiko
เธอเกิดที่จังหวัดโอซาก้าเมื่อปี 2491 โดยขณะอยู่ชั้นมัธยมห้า เธอได้รับรางวัล Kodansha New Faces Award ครั้งที่ 1 จากผลงานเรื่อง "Portrait of Pia" จากนั้นก็ได้ก้าวขึ้นเป็นศิลปินมังงะมืออาชีพ ผลงานของเธอหลายเรื่องมีเนื้อหาอิงประวัติศาสตร์ เธอได้ใช้เวลาถึง 32 ปีกว่าจะวาดมังงะเรื่อง "Celestial Rainbow" ซึ่งมีจักรพรรดินีจิโตเป็นตัวละครหลักจนเสร็จสมบูรณ์ ผลงานที่สร้างชื่อให้กับเธอมีทั้ง "Tomorrow Will Shine", "Ladies of Aries", "Aurora of the Ocean", "Cypress Hill", "Constellation of the Hunter" และ "Kojiki: Manga Koten Bungaku" โดยในปี 2549 เธอได้รับรางวัล Japanese Ministry of Culture and Science Achievement Certificate for Lifetime Works and Cultural Activities นอกจากนี้ เธอยังเคยคว้ารางวัลมาอีกมากมาย ทั้ง Commendation of the Commissioner of the Agency for Cultural Affairs (2553), รางวัล Kojiki Publishing Grand Prize's Ono Yasumaro Award จากผลงานเรื่อง "Kojiki: Manga Koten Bungaku" (2556) และรางวัล Japanese Foreign Minister's Commendation (2557) และนอกเหนือจากการเป็นศิลปินมังงะแล้ว เธอยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อทำให้มังงะและวัฒนธรรมเป็นที่นิยมมากขึ้น ไม่ว่าจะในฐานะศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยศิลปะโอซาก้า, ผู้อำนวยการสมาคม Japan Cartoonists Association และตัวแทนของ NPO Asian Manga Summit Administering Authority Japan
"The Water Route" - ทะเลสาบบิวะและโฮคุริคุ
SEKINE Yuki
SEKINE Yuki เป็นนักวาดและศิลปินมังงะ เกิดที่เมืองคาวาโกเอะ จังหวัดไซตามะ โดยปัจจุบันอาศัยอยู่ที่เมืองอิสุมิ จังหวัดชิบะ และสำเร็จการศึกษาจากคณะ International and Cultural Studies ของมหาวิทยาลัยทสึดะ ผลงานของคุณ SEKINE มีเอกลักษณ์เป็นภาพสีน้ำในโทนอบอุ่นซึ่งได้แรงบันดาลใจจากชีวิตประจำวัน รวมไปการแสดงออกที่เปิดกว้างต่อการตีความและสื่อความหมาย คุณ SEKINE ได้รับรางวัล Excellence Award ในงาน Japan Media Arts Festival Manga Division ครั้งที่ 9 สำหรับหนังสือภาพชื่อ "A Continuous Day" (Shinpusha) และยังมีผลงานภาพวาดอีกมากมาย อาทิเช่น "Sora no Teppen Giniro no Kaze" (Komine Shoten / อยู่ในรายชื่อหนังสือแนะนำของการประกวด National Youth Book Report Contest ครั้งที่ 51), "Saigo no Jugyo" (Poplar Publishing Co., Ltd.), "Yasashii Oto" (Komine Shoten / รางวัลชนะเลิศ Niimi Nankichi Children's Literature Award ครั้งที่ 28), "Asu no Konai Kuni" (ซีรี่ส์นวนิยาย, Asahi Shogakusei Shimbun) รวมไปถึงผลงานมังงะ "Yuruyuru Makurobi Seikatsu Kantan Genmai Saishoku Comic Essay" (Kadokawa Co.)
"The Pilgrimage Route" - คาบสมุทรคิอิ
URUSHIBARA Yuki
URUSHIBARA Yuki เกิดที่จังหวัดยามากุจิในปี 2517 เป็นผู้สร้างผลงานซีรี่ส์มังงะ "Mushishi" ("Light of the Eyelid") ซึ่งคว้ารางวัล Grand Prix ในงาน Four Seasons Award และวางจำหน่ายในปี 2541 โดยผลงานเรื่อง "Mushishi" นี้ได้รับการนำไปผลิตเป็นซีรี่ส์แอนิเมชันในปี 2548 และเป็นภาพยนตร์ในปี 2550 ผลงานของคุณ URUSHIBARA โดดเด่นเรื่องการแสดงถึงโลกที่โหยหาอดีตและแฝงไว้ด้วยความเจ็บปวด รวมถึงสไตล์ผลงานที่แสดงอารมณ์ได้เด่นชัดซึ่งเล่าถึงสิ่งที่ไม่อาจอธิบายได้อย่างตรงไปตรงมาและละเอียดอ่อน ผลงาน "Mushishi" ได้รับรางวัล Excellence Award ในงาน Japan Media Arts Festival Manga Division ครั้งที่ 7 และ Kodansha Manga Award ครั้งที่ 30 สาขาทั่วไป สำหรับผลงานที่เป็นที่รู้จักดีของคุณ URUSHIBARA ได้แก่ "Mushishi" (Kodansha Ltd.), "Suiiki" (Kodansha Ltd.) และ "Neko ga Nishimukya" (Kodansha Ltd.)
"The Crafts Route" - ฟุคุอิ ทางตะวันออกของทะเลสาบบิวะ และมิเอะ
YAMADA Yoshihiro
คุณ YAMADA Yoshihiro เกิดที่จังหวัดนิอิกาตะเมื่อปี 2511 เริ่มสร้างสรรค์ผลงานมังงะระหว่างศึกษาอยู่ระดับมหาวิทยาลัยในปี 2530 โดยได้ตีพิมพ์กับนิตยสารรายสัปดาห์ "Comic Morning" ด้วยผลงานชื่อ "Taisho Yaro" ซึ่งได้รับรางวัล Chiba Tetsuya Prize จาก Kodansha Ltd. ปัจจุบันคุณ YAMADA ก็ยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานเพื่อแสดงภาพ "ชาวญี่ปุ่น" โดยตัวละครในผลงานเขามักเกี่ยวพันกับโชคชะตายิ่งใหญ่และเรื่องราวพลิกผันอันมีเอกลักษณ์อย่างมาก จนทำให้ผลงานเขาได้รับการยอมรับจากผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานจากหลายแนว ผลงานที่โดดเด่นของคุณ YAMADA ได้แก่ "Decathlon" (Shogakukan Inc.), "Dokyo-Boshi" (Shogakukan Inc. และ Kodansha Ltd.), "Giant" (Kodansha Ltd.) และ "Hyouge Mono" (Kodansha Ltd.) คุณ YAMADA ได้รับรางวัล Excellence Award ในงาน Japan Media Arts Festival Manga Division ครั้งที่ 13 และรางวัล Grand Prize ในงาน Tezuka Osamu Cultural Prize ครั้งที่ 14 สำหรับผลงานมังงะ "Hyouge Mono" และในขณะนี้มีผลงานมังงะซีรี่ส์ "Bokyo Taro" (2562) ที่ได้การเผยแพร่ในนิตยสารรายสัปดาห์ "Morning"
"The Mythology Route" - อิเสะและนารา
YASUHIKO Yoshikazu
คุณ YASUHIKO Yoshikazu เกิดที่จังหวัดฮอกไกโดเมื่อปี 2490 และทำงานเป็นศิลปินแอนิเมชันมาตั้งแต่ปี 2513 โดยมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ผลงานชื่อดังอย่าง "Space Battleship Yamato" (2517), "Brave Raideen" (2519) และ "Invincible Super Man Zambot 3" (2520) โดยสำหรับผลงาน "Mobile Suit Gundam" (2522) นั้น คุณ YASUHIKO มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้กำกับแอนิเมชันและผู้ดูแลการออกแบบตัวละคร หลังจากนั้นในปี 2532 คุณ YASUHIKO ก็ก้าวเข้าสู่เส้นทางศิลปินมังงะแบบเต็มตัว โดยได้มีส่วนร่วมสร้างสรรค์ในผลงานแนวประวัติศาสตร์มากมาย ตั้งแต่ผลงานที่ได้แรงบันดาลใจมาจากประวัติศาสตร์ครั้งโบราณและเทพปกรณัมของญี่ปุ่น ไปจนถึงผลงานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ร่วมสมัย โดยคุณ YASUHIKO ได้รับรางวัล Excellence Award ในงาน Japan Cartoonists Association Award ครั้งที่ 19 สำหรับผลงาน "Namuji" และรางวัล Excellence Award ในงาน Japan Media Arts Festival Manga Division ครั้งที่ 4 สำหรับผลงาน "Oudo no Inu" นอกจากนี้ ผลงาน "Mobile Suit Gundam: The Origin" ยังคว้ารางวัล Best Comic จากงาน Seiun Award ครั้งที่ 43 อีกด้วย
"The Artisans' Route" - ฮาริมะ
YOKOYAMA Yuichi
คุณ YOKOYAMA Yuichi เป็นทั้งศิลปินทั่วไปและศิลปินมังงะ เกิดในจังหวัดมิยาซากิเมื่อปี 2510 และจบการศึกษาจากคณะจิตรกรรมของมหาวิทยาลัยศิลปะมุซาชิโนะ คุณ YOKOYAMA เผยแพร่ผลงานครั้งแรกในปี 2548 ด้วยหนังสือเรื่อง "New Engineering" ผลงานมังงะของคุณ YOKOYAMA ซึ่งได้รับการเรียกขานว่าเป็น Neo-manga นั้นมักจะไม่มีการดำเนินเรื่องอย่างชัดเจน มีเพียงการแสดงถึงการกระทำต่าง ๆ ที่ไม่เป็นมิตรและไม่อาจเข้าใจจุดประสงค์ได้ ผ่านตัวละครและวัตถุลึกลับที่เคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงรูปร่างเพื่อสื่อถึงเวลาที่ล่วงเลยไป ผลงานที่โดดเด่นของคุณ YOKOYAMA ได้แก่ "Travel", "NIWA", "Baby Boom" และ "World Map Room" นอกจากนี้คุณ YOKOYAMA ยังได้เคยจัดนิทรรศการส่วนตัวมาแล้วทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ โดยผลงาน "Baby Boom" ของเขาคว้ารางวัล Jury Selection ในงาน Japan Media Arts Festival Manga Division ครั้งที่ 14
เกี่ยวกับ CULTURE GATE to JAPAN
นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 สำนักวัฒนธรรมของรัฐบาลญี่ปุ่นได้เปิดตัวโครงการส่งเสริมวัฒนธรรม "CULTURE GATE to JAPAN" ซึ่งจัดขึ้นที่สนามบิน 7 แห่งทั่วญี่ปุ่น ร่วมถึงท่าเรือ Tokyo International Cruise Terminal โดยศิลปินและนักสร้างสรรค์มีเดียอาร์ตได้ร่วมกันจัดแสดงผลงานศิลปะที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมอันโดดเด่นของแต่ละท้องถิ่น เพื่อโปรโมทเสน่ห์อันหลากหลายของวัฒนธรรมญี่ปุ่น
การที่ไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดไปทั่วโลกส่งผลให้การพบปะผู้คนและสัมผัสวัฒนธรรมใหม่กลายเป็นเรื่องที่ยากลำบาก อย่างไรก็ตาม โรคระบาดไม่ควรขัดขวางการแลกเปลี่ยนศิลปะ ไอเดีย และวัฒนธรรม เราหวังว่าโครงการนี้จะช่วยให้ผู้คนทั่วโลกรู้สึกตื่นตาตื่นใจและมีความสุขเหมือนกับที่รู้สึกเมื่อได้สัมผัสวัฒนธรรมใหม่
ผู้จัดงาน: สำนักวัฒนธรรมของรัฐบาลญี่ปุ่น
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://culture-gate.jp/
ประชาสัมพันธ์โครงการ "CULTURE GATE to JAPAN" โดย wondertrunk & co. Inc.
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1471599/kansai.jpg
คำบรรยายภาพ - "The Pilgrimage Route" โดย URUSHIHARA Yuki (บน), "The Sea Route" โดย SATONAKA Machiko (ล่างซ้าย), "The Mythology Route" โดย YASUHIKO Yoshikazu (ล่างขวา)
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1471600/Scan_information_CULTURE_GATE_JAPAN.jpg
คำบรรยายภาพ - สแกนเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ CULTURE GATE to JAPAN
No comments:
Post a Comment