Thursday, October 31, 2024

Light Show Illuminates the Liangma River

The Convergence Media Center of Chaoyang District, Beijing

During the recently launched 2024 Beijing Chaoyang International Light Festival, the Liangma River Cultural and Economic Belt, on the theme of "Following Light, Beautiful Shadows," has erected over 50 lighting installations and staged over 10 entertainment and consumption event across three main areas: the Liangma River International Water Front with the sub-theme of "Flowing Light and Color," Chaoyang Park with the sub-theme of "A Light Adventure," and Junwangfu (Mansion of Commandery Prince Shuncheng) with the sub-theme of "The Art of Light and Shadow of the National Style." Tourists can access these attractions either on water or on land.

Starting from the Yansha Wharf, an "AI Dancer" gracefully performs on building facades, showcasing a dance projection called "Light Dance of Blossoms," created using AI technology. At Liangma Port, the Bogong Lock features a rich display of light and shadow effects, combining naked-eye projection, laser drawing, and mechanical movements with a strong national style. At SOLONA Wharf, the "Magical Night: Music Box" light show combines music with visual art, creating a lively atmosphere that feels like a magical stage.

The Liangma River connects the major shopping districts of Sanlitun, Yansha, and SOLONA, and is lined by nearly 10,000 high-rated shops including five-star hotels, Michelin restaurants, cafes, tea houses, bookstores, and theaters. This integration of leisure and culture highlights the unique characteristics of a riverside zone with interconnected commercial areas, making it Beijing's only waterfront economic belt that gathers cultural, commercial, and tourism factors.

As a "golden business card" for Beijing's cultural and tourism industries, the Liangma River Cultural and Economic Belt is highly favored by residents and domestic and international visitors alike. In the future, Chaoyang will upgrade this economic belt, introducing emerging industries and digital art activities, and creating avant-garde cultural spaces and popular destinations for cultural, commercial, tourism and sports consumption that appeal to youths and lure more international tourists to enjoy the beautiful night scenery by boat.

Source: The Convergence Media Center of Chaoyang District, Beijing 

การประชุมว่าด้วยการพัฒนาการท่องเที่ยวเซียงถาน ครั้งที่ 3 จัดขึ้นที่อำเภอเสาซานของจีน

คณะกรรมการจัดการประชุมว่าด้วยการพัฒนาการท่องเที่ยวเซียงถาน ครั้งที่ 3

การประชุมว่าด้วยการพัฒนาการท่องเที่ยวเซียงถาน ครั้งที่ 3 (Third Xiangtan Tourism Development Conference) และการประชุมธุรกิจถาน ครั้งที่ 4 (Fourth Tan Business Conference) ได้จัดขึ้นที่อำเภอเสาซาน เมืองเซียงถาน มณฑลหูหนาน ระหว่างวันที่ 28-29 ตุลาคมที่ผ่านมา

การประชุมครั้งนี้ได้ผสมผสานสองจุดเด่นอย่าง "การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม" และ "นักธุรกิจถาน" (Tan businessmen) เข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน โดยหลังจากทำพิธีเปิดงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้มีการนำเสนอโครงการและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม พร้อมจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อส่งเสริมการลงทุน และพิธีลงนามโครงการสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเมืองวิทยาศาสตร์เซียงเจียง (เซียงถาน) ซึ่งก่อให้เกิดการบูรณาการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการพาณิชย์อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ภายในการประชุมธุรกิจถานยังมีการลงนามโครงการ 64 โครงการ คิดเป็นเม็ดเงินลงทุนรวม 1.58 หมื่นล้านหยวน

เมืองเซียงถานมีประวัติศาสตร์ที่สืบทอดมาอย่างยาวนานและทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามตระการตา จึงไม่เพียงแต่มีชื่อเสียงในด้านแหล่งประวัติศาสตร์อันอุดมสมบูรณ์เท่านั้น แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าหลงใหลอีกมากมาย ซึ่งทอดยาวราวภาพวาดอันงดงามตามริมฝั่งแม่น้ำเซียงเจียง

เมืองเซียงถานได้ใช้การประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสในการจัดกิจกรรมย่อยอีกมากมาย ซึ่งรวมถึงการโปรโมตอาหารเซียงถาน การแข่งขันวิ่งฮาล์ฟมาราธอนเสากวน การวิ่งคบเพลิง การเดินป่าสำหรับเยาวชน ตลอดจนกิจกรรมอื่น ๆ ที่ผสมผสานวัฒนธรรม การท่องเที่ยว และกีฬาเข้าด้วยกัน เพื่อมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่หลากหลายให้แก่ผู้มาเยือน ประชาชน และนักท่องเที่ยวทุกคน

อำเภอเสาซาน เจ้าภาพจัดการประชุมว่าด้วยการพัฒนาการท่องเที่ยวเซียงถานประจำปีนี้ ได้ทุ่มเทเจาะลึกความหมายของวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งพัฒนาทรัพยากรการท่องเที่ยว ตลอดจนเติมพลังและชีวิตชีวาให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของเมืองเซียงถานตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยในช่วงเดือนมกราคมถึงกันยายนปีนี้ อำเภอเสาซานได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 4.2707 ล้านครั้ง สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 6.282 พันล้านหยวน

ที่มา: คณะกรรมการจัดการประชุมว่าด้วยการพัฒนาการท่องเที่ยวเซียงถาน ครั้งที่ 3 

ผู้นำด้านธุรกิจอาหารของประเทศไทยได้รับรางวัลระดับโลก GOOD FARM ANIMAL WELFARE AWARDS

แทนคุณออร์แกนิคฟาร์ม, คลองไผ่ฟาร์ม และเคพีเอสฟาร์ม ได้รับรางวัลเกียรติคุณจากความมุ่งมั่นในการปฏิบัติเพื่อยกระดับด้านสวัสดิภาพสัตว์ ในงานมอบรางวัลอันทรงเกียรติจาก Compassion in World Farming

ผู้นำด้านอุตสาหกรรมอาหารระดับโลกรวมถึงประเทศไทย ได้รับรางวัลสวัสดิภาพสัตว์ในฟาร์มดีเด่น (Good Farm Animal Welfare Awards) ประจำปี

องค์กร Compassion in World Farming ได้จัดพิธีมอบรางวัล Good Farm Animal Welfare Awards (GFAWA) ณ กรุงปารีส โดยยกย่องบริษัทอาหาร 49 แห่งจากกว่า 15 ประเทศที่มีความเป็นผู้นำในด้านสวัสดิภาพสัตว์และการผลิตอาหารที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับธรรมชาติ

งานนี้จัดขึ้นโดย เดโบราห์ มีเดน ผู้อุปถัมภ์ของ Compassion และผู้สนับสนุนธุรกิจยั่งยืน ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองให้กับบริษัทที่มุ่งมั่นและมีผลกระทบเชิงบวกต่อชีวิตสัตว์กว่า 500 ล้านตัวในแต่ละปี

เดโบราห์ มีเดน ได้กล่าวว่า "เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นธุรกิจมากมายทั่วโลกก้าวหน้าอย่างมากในด้านสวัสดิภาพสัตว์และความยั่งยืน รางวัลเหล่านี้เป็นเครื่องเน้นย้ำให้เห็นถึงจำนวนบริษัทที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งอุทิศตนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ในช่วงเวลาที่สำคัญยิ่งสำหรับสัตว์ในฟาร์มและสิ่งแวดล้อม ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจอาหารของ Compassion มีความพร้อมที่จะสนับสนุนบริษัทต่างๆ ในการพลิกโฉมชีวิตสัตว์นับล้านและสร้างระบบอาหารที่เหมาะสมสำหรับอนาคต"


ผู้ชนะจากประเทศไทยในปีนี้ ได้แก่

  • แทนคุณออร์แกนิคฟาร์ม ได้รับรางวัล รางวัลความมุ่งมั่นด้านไข่ไก่ดีเด่น (Good Egg Award)
  • คลองไผ่ฟาร์ม ได้รับรางวัลทั้ง รางวัลความมุ่งมั่นด้านไข่ไก่ดีเด่น (Good Egg Award) และ รางวัลความมุ่งมั่นด้านไก่งวงดีเด่น (Good Turkey Award)
  • เคพีเอสฟาร์ม ได้รับรางวัลรางวัลยกย่องด้านการเลี้ยงแม่สุกร (Sow Stall Free Award) เป็นครั้งแรกในประเทศไทย

แทนคุณออร์แกนิคฟาร์ม ผลิตไข่ออร์แกนิกจากแม่ไก่ที่เลี้ยงแบบปล่อยอิสระ 100% ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดูแลสวัสดิภาพสัตว์และการทำเกษตรกรรมที่ยั่งยืน เดิมทีเป็นฟาร์มข้าวออร์แกนิก แทนคุณได้พัฒนาเป็น "ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ฟื้นฟู" ที่ใช้ผลพลอยได้จากการสีข้าวมาเลี้ยงไก่ และนำผลพลอยได้จากไก่มาใช้ในการปลูกข้าวอีกครั้ง วิธีการแบบองค์รวมนี้ช่วยเพิ่มสุขภาพของดินและส่งเสริมการดูแลสวัสดิภาพสัตว์ที่มีจริยธรรม โดยใช้อาหารสัตว์ออร์แกนิกเป็นหลัก และเผยแพร่แนวทางปศุสัตว์ที่ยั่งยืนให้กับเครือข่ายเกษตรกรท้องถิ่น แทนคุณออร์แกนิคฟาร์มจึงเป็นผู้บุกเบิกมาตรฐานใหม่ในการผลิตไข่ไก่อย่างมีจริยธรรมในประเทศไทย

คุณอำนาจ เรียนสร้อย ผู้ก่อตั้งและเกษตรกร บริษัท แทนคุณ ออร์แกนิก ฟาร์ม จำกัด กล่าวว่า "เราภูมิใจที่การมุ่งมั่นในการทำเกษตรยั่งยืนและคุณภาพของเรานั้นได้รับเกียรติด้วยรางวัล Good Egg Award ความสำเร็จนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการผลิตไข่ออร์แกนิกที่ยั่งยืนสำหรับเพื่อผู้บริโภคของเรา ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของ Compassion in World Farming"


คลองไผ่ฟาร์มทุ่มเทให้กับการทำเกษตรกรรมที่มีจริยธรรมและยั่งยืน โดยมุ่งมั่นที่จะเป็นผลิตไข่ไก่จากไก่ที่เลี้ยงปล่อยอิสระคุณภาพสูงและผลิตภัณฑ์จากฟาร์มสู่โต๊ะอาหารที่หลากหลาย คลองไผ่ฟาร์มให้ความสำคัญกับการดูแลและเคารพแม่ไก่ พร้อมทั้งให้การสนับสนุนด้านเงินลงทุนแก่เกษตรกรเพื่อช่วยพัฒนาสังคมในชุมชนชนบท อีกทั้งคลองไผ่ฟาร์มยังมีแผนเพิ่มจำนวนแม่ไก่ขึ้นอีก 50% ภายในสองปีข้างหน้า เพื่อรักษามาตรฐานสูงสุดทั้งในด้านคุณภาพและความยั่งยืน

นอกจากนี้คลองไผ่ฟาร์มยังได้รับรางวัลรางวัลความมุ่งมั่นด้านไก่งวงดีเด่น (Good Turkey Award) ในปีนี้ด้วย สำหรับความมุ่งมั่นที่โดดเด่นในการปฏิบัติต่อสัตว์อย่างมีสวัสดิภาพในการเลี้ยงไก่งวง การใช้สายพันธุ์ที่เติบโตช้าช่วยให้ไก่งวงเติบโตในอัตราที่เป็นธรรมชาติ ลดความเครียด และส่งเสริมสุขภาพโดยรวม ไก่งวงยังได้รับประโยชน์จากพื้นที่กลางแจ้งที่พวกเขาสามารถแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติได้ และพวกเขาถูกเลี้ยงโดยไม่ใช้ฮอร์โมนหรือยาปฏิชีวนะ การดำเนินงานที่มีจริยธรรมของคลองไผ่ฟาร์มทำให้เป็นซัพพลายเออร์ที่ได้รับความเชื่อถือจากโรงแรมและร้านอาหารกว่า 300 แห่งทั่วประเทศไทย ซึ่งส่งผลดีต่อสวัสดิภาพของไก่งวงนับพันตัวต่อปี

คุณโลร็องต์อ๊อพพอทูน (Laurent Opportune) เจ้าของบริษัท โปรซัน ฟาร์มจำกัด และแบรนด์คลองไผ่ฟาร์ม กล่าวว่า "คลองไผ่ฟาร์มรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลรางวัลความมุ่งมั่นด้านไข่ไก่ดีเด่น (Good Egg Award) และ รางวัลความมุ่งมั่นด้านไก่งวงดีเด่น (Good Turkey Award) จากองค์กร Compassion in World Farming รางวัลอันทรงเกียรติเหล่านี้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นต่อมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ระดับสูงและการทำฟาร์มอย่างยั่งยืน ซึ่งยืนยันถึงความทุ่มเทของเราในการจัดหาผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกคุณภาพสูงที่ผลิตขึ้นอย่างมีจริยธรรม"

ในภูมิภาคเอเชีย การเปลี่ยนไปใช้ระบบปลอดกรงสำหรับแม่สุกรยังอยู่ในระยะเริ่มต้น ซึ่งมีการควบคุม การรับรู้ หรือความต้องการของตลาดค่อนข้างจำกัด จึงเป็นเรื่องที่น่ายกย่องเป็นอย่างยิ่งเมื่อผู้ผลิตและบริษัทอาหารในประเทศต่างๆ เช่น จีนหรือไทย ยกเลิกการใช้กรงโดยสมัครใจ เพื่อยกย่องความพยายามเหล่านี้ จึงได้มีการมอบรางวัลรางวัลฟาร์มปลอดคอกขังแม่สุกร ( SOW Stall Free Award) สำหรับผู้นำที่ดำเนินงานในตลาดที่ท้าทายซึ่งมุ่งมั่นที่จะเลิกใช้คอกขังแม่สุกรภายในห้าปี

รางวัลรางวัลฟาร์มปลอดคอกขังแม่สุกร Sow Stall Free Award ครั้งแรกมอบให้กับ KPS ฟาร์ม ซึ่งเป็นผู้ผลิตไทยรายแรกที่ใช้ระบบปลอดคอกขังแม่สุกร 100% ทั่วทั้งฟาร์ม โดยแม่สุกรทั้งหมดจะถูกเลี้ยงแบบรวมกลุ่มในช่วงระยะพักเต้านม ความสำเร็จนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสำหรับสุกรในอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรของไทย

คุณอรินรดาจันทร์เกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคพีเอส ฟาร์ม จำกัด กล่าวว่า "ที่เคพีเอสฟาร์ม เรามีสามสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด คือ สุกร คน และสิ่งแวดล้อม เราเชื่อว่าทุกชีวิตคือครอบครัวของเรา ในสถานที่ที่เราเรียกว่าบ้าน เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนามาตรฐานฟาร์มอย่างต่อเนื่อง เพื่อสวัสดิภาพ ความสุข และความปลอดภัยของทุกชีวิตในฟาร์ม เราเชื่อว่าทุกองค์ประกอบต้องเคลื่อนไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน"


ปีนี้มีการมอบรางวัลเป็นจำนวนมากให้แก่บริษัทที่เป็นผู้นำในระบบปลอดกรงสำหรับแม่ไก่ แม่สุกร และกระต่าย ย้ำให้เห็นถึงพันธกิจของ Compassion ในการยุติยุคแห่งกรง บริษัทชั้นนำเหล่านี้กำลังพิสูจน์ว่าการผลิตแบบปลอดกรงไม่เพียงแต่เป็นไปได้และเป็นสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อผู้บริโภค แบรนด์ และสัตว์ในห่วงโซ่อุปทานของพวกเขา

รางวัลในปีนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าที่โดดเด่นที่บริษัทต่างๆ ทั่วโลกกำลังดำเนินการไปสู่การผลิตอาหารที่มีมนุษยธรรมและยั่งยืนมากขึ้น ผู้บุกเบิกเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับผู้อื่นเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายเป็นไปได้และส่งผลดีต่อสัตว์ มนุษย์ และโลกของเราอย่างลึกซึ้ง

ดร. เทรซี่ โจนส์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจอาหารระดับโลกขององค์กร Compassion in World Farming ได้กล่าวปิดท้ายว่า "ความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ ความหลากหลายของสายพันธุ์สัตว์ และจำนวนสัตว์มากมายที่จะได้รับประโยชน์จากผู้ชนะรางวัลในปีนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่าทึ่งอย่างยิ่ง ด้วยตัวแทนธุรกิจจากประเทศต่างๆ จากอินเดีย ญี่ปุ่น จีน ไทย นิวซีแลนด์ รวมถึงบราซิล ชิลี และสหรัฐอเมริกา ความสำคัญของข้อความที่ Compassion สื่อถึงการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกจึงมีขอบเขตกว้างไกลทั่วโลก ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างจริงใจต่อผู้ชนะรางวัลทุกท่าน"

"ผู้ชนะรางวัลของเราได้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด แสดงให้เห็นว่ารูปแบบธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสามารถเติบโตได้ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพสัตว์ กรงเป็นสัญลักษณ์ของการเลี้ยงสัตว์ในฟาร์มอุตสาหกรรม และเป็นแรงบันดาลใจที่ได้เห็นบริษัทจำนวนมากรื้อถอนระบบดังกล่าวและปูทางไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เพื่อสร้างระบบอาหารที่เหมาะสมกับอนาคตอย่างแท้จริง เราต้องการให้ผู้กำหนดนโยบายก้าวตามผู้นำเหล่านี้"

www.compassioninfoodbusiness.com

Good Farm Animal Welfare Awards

รางวัล Good Farm Animal Welfare Awards ของ Compassion เป็นรางวัลที่มอบให้แก่บริษัทต่างๆ ที่มีผลงานนวัตกรรมในการดูแลสวัสดิภาพสัตว์ฟาร์มและการผลิตอาหารอย่างยั่งยืน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.compassioninfoodbusiness.com/awards/

องค์กร Compassion in World Farming ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2510 โดยเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมชาวอังกฤษที่ตกตะลึงกับการพัฒนาของระบบฟาร์มอุตสาหกรรมแบบเข้มข้น ปัจจุบัน Compassion เป็นองค์กรชั้นนำด้านสวัสดิภาพสัตว์ฟาร์มที่มุ่งมั่นยุติการทำฟาร์มอุตสาหกรรมและสร้างระบบอาหารที่มีมนุษยธรรมและยั่งยืน โดยมีสำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักร และมีสำนักงานในหลายประเทศทั่วยุโรป สหรัฐอเมริกา จีน และแอฟริกาใต้

รายชื่อผู้ชนะรางวัล GFAWA 2024 ทั้งหมด:

รางวัลความมุ่งมั่นด้านไข่ไก่ดีเด่น (Good Egg Awards):

  1. Ferrero (ผู้ผลิต - ทั่วโลก)
  2. Hainan Xin Nong Biological Technology Co., Ltd - Coconut Grove Eggs (ผู้ผลิต - จีน)
  3. Happy Hens (ผู้ผลิต - อินเดีย)
  4. Hill's Pet Nutrition (ผู้ผลิต - สหภาพยุโรป)
  5. Joyful Farm in Carbon-neutral Woods (ผู้ให้บริการด้านอาหาร - จีน)
  6. Kipster (ผู้ผลิต - สหรัฐอเมริกา)
  7. ฟาร์มคลองไผ่ (ผู้ผลิต - ไทย)
  8. Lidl (ผู้ค้าปลีก - โปแลนด์)
  9. Lidl (ผู้ค้าปลีก - สเปน)
  10. Natura Farm แบรนด์: 'Natura Cage-Free Eggs' และ 'Ecocco' (ผู้ผลิต - ญี่ปุ่น)
  11. Planalto Ovos Ltda (ผู้ผลิต - บราซิล)
  12. Sizenhoubokujyou Otafuku Tamago (ผู้ผลิต - ญี่ปุ่น)
  13. ฟาร์มแทนคุณ (ผู้ผลิต - ไทย)

รางวัลการผลิตไข่ไก่ดีเด่น (Good Egg Production Awards) (ผู้ผลิต จีน):

  1. รางวัล 4 ดาว - Shandong Green Pine Agricultural Technology Co., Ltd.
  2. รางวัล 5 ดาว - Longyan Felicity Animal Husbandry Development Co., LTD

รางวัลความมุ่งมั่นด้านไก่ดีเด่น (Good Chicken Awards):

  1. Applegate Farms (ผู้ผลิต - สหรัฐอเมริกา)
  2. Campfire Treats (ผู้ผลิต - สหรัฐอเมริกา)
  3. Evermore Pet Food (ผู้ผลิต - สหรัฐอเมริกา)
  4. Labelle Patrimoine (ผู้ผลิต - สหรัฐอเมริกา)
  5. Wild Nosh Pets (ผู้ผลิต - สหรัฐอเมริกา)

รางวัลการผลิตไก่เนื้อดีเด่น (Good Chicken Production Awards) (ผู้ผลิต - จีน):

  1. รางวัล 5 ดาว - Longyan Felicity Animal Husbandry Development Co., LTD
  2. รางวัล 5 ดาว - Guangdong Tinoo's Foods Group Co.,ltd
  3. รางวัล 5 ดาว - Hainan Chuanwei Wenchang Chicken Industry Co., Ltd. Farm
  4. รางวัล 4 ดาว - GuiZhou Great Endeavour Husbandry Co. Ltd

รางวัลความมุ่งมั่นด้านไก่งวงดีเด่น Good Turkey Award:

  1. ฟาร์มคลองไผ่ (ผู้ผลิต - ไทย)

รางวัลความมุ่งมั่นด้านสุกรดีเด่น (Good Pig Awards):

  1. Bompieri Allevamenti (ผู้ผลิต - อิตาลี)
  2. Madeo Tenuta Corone (ผู้ผลิต - อิตาลี)
  3. Piggly (ผู้ผลิต - อิตาลี)
  4. Riserva 1878 by Citterio (ผู้ผลิต - อิตาลี)
  5. San Giuseppe (ผู้ผลิต - อิตาลี)

รางวัลความมุ่งมั่นด้านการเลี้ยงแม่สุกร Good Sow Commendation:

  1. Niman Ranch (ผู้ผลิต - สหรัฐอเมริกา)
  2. White Oak Pastures (ผู้ผลิต - สหรัฐอเมริกา)

รางวัลความมุ่งมั่นในการเลิกเลี้ยงแม่สุกรแบบยืนซองดีเด่น (Sow Stall Free Award):

  1. ฟาร์ม KPS (ผู้ผลิต - ไทย)

รางวัลความมุ่งมั่นด้านผลิตภัณฑ์นม (Good Dairy Commendation):

  1. Fonterra (ผู้ผลิต - นิวซีแลนด์)
  2. Max Havelaar (สาขาของ Fairtrade International Certification - ฝรั่งเศส)

รางวัลความมุ่งมั่นด้านการเลี้ยงลูกโคดีเด่น Good Calf Commendation:

  1. Kalverliefde (ผู้ผลิต - เนเธอร์แลนด์)

รางวัลความมุ่งมั่นด้านการเลี้ยงกระต่ายดีเด่น (Good Rabbit Commendation):

  1. Les Mousquetaires (ผู้ค้าปลีก - ฝรั่งเศส)
  2. White Oak Pastures (ผู้ผลิต - สหรัฐอเมริกา)

รางวัลนวัตกรรมยอดเยี่ยม Best Innovation Award:

  1. Zonvarken (ผู้ผลิต - เนเธอร์แลนด์)

รางวัลความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรมด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ Aquaculture Innovation Award:

  1. Regal Springs (ผู้ผลิต - ทั่วโลก)

รางวัลยกย่องพิเศษ ประเภทนวัตกรรมยอดเยี่ยม (Special Recognition Award: Best Innovation)

  1. Albert Heijn (ผู้ค้าปลีก - เนเธอร์แลนด์)
  2. M&S (ผู้ค้าปลีก - สหราชอาณาจักร)

รางวัลการตลาดยอดเยี่ยม (Best Marketing Award):

  1. Kalverliefde (ผู้ผลิต - เนเธอร์แลนด์)

รางวัลยกย่องพิเศษ (Special Recognition Award)

  1. Cermaq (ผู้ผลิต - ทั่วโลก)

รางวัลอาหารและการทำฟาร์มแบบยั่งยืนดีเด่น Sustainable Food & Farming Awards:

  1. รางวัล Sustainable Food & Farming Award - องค์กร - Waitrose (ผู้ค้าปลีก - สหราชอาณาจักร)
  2. รางวัล Sustainable Food & Farming Award - ผู้ผลิต - White Oak Pastures (ผู้ผลิต - สหรัฐอเมริกา)
  3. รางวัล Special Recognition Award - Finca Regenerativa Valle del Conde (ผู้ผลิต - สเปน)

รางวัลความเป็นมิตรต่อโลกดีเด่น (Planet Friendly Awards):

  1. Lidl UK - รางวัล Planet Friendly Award ระดับ 'ทองแดง' (ผู้ค้าปลีก - สหราชอาณาจักร)
  2. Compass Group France - รางวัล Planet Friendly Award ระดับ 'ทอง' (ผู้ให้บริการด้านอาหาร - ฝรั่งเศส) 

IAM (ไอแอม) “บริหารสินทรัพย์อย่างจริงใจเพื่อคนไทย” ปรับโฉมใหม่ เพื่อความสุข เพื่อโอกาส เพื่อคนไทย

IAM บริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด ปรับโฉมใหม่ชูแนวคิด "บริหารสินทรัพย์อย่างจริงใจเพื่อคนไทย" ด้วยการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และการจำหน่ายทรัพย์สินรอขาย (NPA) ทั้งกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ รายย่อย และนักลงทุน ด้วยประสิทธิภาพ การดำเนินงานผ่านระบบงาน DMS (Dept Management System) ในการเจรจาชำระหนี้ การปรับโครงสร้างหนี้ หรือปิดบัญชี พร้อมให้การช่วยเหลือลูกหนี้ของ IAM ให้ได้มากที่สุด สอดคล้องตามนโยบายการแก้หนี้ของภาครัฐ

นายเจนวิทย์ ยกบัตร รักษาการผู้จัดการบริษัทฯ กล่าวว่า "นับตั้งแต่ IAM ได้รับโอนหนี้จากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เมื่อเดือนมิถุนายน 2560 มูลค่ากว่า 48,000 ล้านบาท โดยเป็นลูกค้าที่ไม่ใช่มุสลิม ในช่วงที่ผ่านมา IAM เดินสายไกล่เกลี่ยหนี้ทั่วประเทศ ได้เข้าร่วมโครงการแก้หนี้ต่าง ๆ ของรัฐบาล ปัจจุบัน IAM สามารถแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและช่วยเหลือลูกค้าในการไกล่เกลี่ยชำระหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ หรือปิดบัญชีเพิ่มมากขึ้น รวมถึงช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย ลูกค้ารายใหญ่ภาคธุรกิจ ให้กลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง จำนวนกว่า 11,300* ราย เป็นจำนวนเงินรวมกว่า 12,700* ล้านบาท"

(*ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2567)


ในส่วนของทรัพย์มือสอง ปัจจุบัน IAM มีทรัพย์สินรอการขายมูลค่ารวมกว่า 1,600* ล้านบาท ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ ห้องชุด ที่ดินเปล่า โรงงาน และโรงแรม เป็นต้น กระจายอยู่ทั่วประเทศ ทั้งนี้รายงานจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) คาดการณ์ว่าในปี 2567 ตลาดบ้านมือสองมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ 5 - 10% ตามภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัย เป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลและทิศทางดอกเบี้ยที่อาจมีการปรับตัวลดลง 0.25% - 0.50%

(*ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567)

นายเจนวิทย์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า "IAM มีภารกิจที่ต้องดำเนินงานให้แล้วเสร็จตามแผนยุทธศาสตร์ขององค์กรในแต่ละปี ซึ่งการปรับภาพลักษณ์ของ IAM ในครั้งนี้ เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญเพื่อให้เข้าถึงลูกค้า ของ IAM ได้อย่างทั่วถึง ตอบโจทย์ด้วยภาพลักษณ์การดำเนินงานด้วยความจริงใจ พร้อมช่วยเหลือลูกค้า อีกทั้งยังสร้างความสุขให้กับคนที่ต้องการบ้านเพื่ออยู่อาศัย หรือมองหาโอกาสในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการบริหารงานที่ทันสมัย รวดเร็ว และเป็นธรรม สร้างความเชื่อมั่นต่อกลุ่มเป้าหมายในการเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่พร้อมให้บริการอย่างจริงใจเพื่อคนไทย" นายเจนวิทย์ ยกบัตร รักษาการผู้จัดการบริษัทฯ กล่าวย้ำถึงการปรับโฉมของ IAM ในครั้งนี้





สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย หรือเพื่อลงทุน IAM มีส่วนลดสูงสุดถึง 30% สามารถติดต่อเพื่อขอข้อมูลและคำปรึกษาหรือเลือกชมทรัพย์ได้ที่ โทร.0-2555-5999 หรือคลิก https://www.iam-asset.co.th/npa

IAM บริหารสินทรัพย์อย่างจริงใจ...เพื่อคนไทย

Wednesday, October 30, 2024

The Third Xiangtan Tourism Development Conference Was Held in Shaoshan County

The Organizing Committee of the Third Xiangtan Tourism Development Conference

From October 28th to 29th, the Third Xiangtan Tourism Development Conference & the Fourth Tan Business Conference were held in Shaoshan, Xiangtan city, Hunan province.

The conference innovatively combined the two major IPs of "cultural tourism" and "Tan businessmen". Following the opening ceremony, the focus was on cultural tourism projects and industries, with a special investment promotion and project signing ceremony for the cultural tourism industry and the Xiangjiang Science City (Xiangtan) segment, effectively achieving seamless integration of cultural tourism and commerce. This Tan Business Conference facilitated the signing of 64 projects with a total investment of 15.8 billion yuan.

Xiangtan, a city with profound historical heritage and breathtaking natural scenery, is not only renowned for its abundant historical sites but also boasts numerous enchanting tourist attractions, unfolding like exquisite paintings along the banks of the Xiangjiang River.

Taking advantage of this conference as an opportunity, Xiangtan city has also launched a series of subsidiary activities, including the promotion of Xiangtan cuisine, the Shaoguan Half Marathon, the Torch Relay Run, the Youth Hiking, and other integrated cultural, tourism, and sports series events, providing guests, citizens, and tourists with a rich cultural tourism experience.

As the host of this year's Xiangtan Tourism Development Conference, Shaoshan has been committed in recent years to deeply exploring the connotations of historical culture, developing tourism resources, injecting new vitality and energy into Xiangtan's cultural tourism industry. From January to September this year, Shaoshan received a total of 4.2707 million tourist visits, achieving a total tourism revenue of 6.282 billion yuan.

Source: The Organizing Committee of the Third Xiangtan Tourism Development Conference 

EBC Financial Group ส่งเสริมคุณภาพชีวิตเด็กกำพร้าผ่านโครงการ CSR ณ บ้านหทัยรัก กรุงเทพฯ ประเทศไทย

รักษาวัฒนธรรมองค์กร ส่งเสริมการพัฒนาสังคม

EBC Financial Group (EBC) ยังคงให้การสนับสนุนโครงการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด EBC ได้จัดกิจกรรมการกุศลให้กับเด็กกำพร้าที่บ้านหทัยรัก กรุงเทพมหานคร เมื่อเดือนกันยาที่ผ่านมา ทีมงาน EBC ได้ร่วมแบ่งปันสร้างรอยยิ้มให้กับเด็กกำพร้าจำนวน 36 คน ซึ่งสิ่งย้ำเตือนถึงหน้าที่ของเราในการพัฒนาชุมชนกลุ่มเปราะบางทั่วโลก

ทีมงาน EBC ได้นำสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นมามอบให้กับน้อง ๆ ที่บ้านหทัยรัก สถานพักพิงเด็กกำพร้า และมอบเงินสนับสนุนช่วยเหลือสถานสงเคราะห์ใช้ในการดำเนินงานกิจกรรมต่างๆ ทีมงาน EBC ยังได้จัดกิจกรรมสันทนาการให้กับเด็กๆ เสริมสร้างความผูกพัน เติมเต็มความสุขให้กับเด็กๆทุกคน กิจกรรมวันนั้นสิ้นสุดลงด้วยการร่วมรับประทานอาหารกับน้อง ๆ และเจ้าหน้าที่ของสถานสงเคราะห์ โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ EBC ในการมีส่วนร่วมต่อสวัสดิภาพของชุมชนทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นถึงความยุติธรรม ความซื่อสัตย์ และความรับผิดชอบต่อสังคม

เสริมสร้างพลังชุมชน ผ่านวัฒนธรรมองค์กร EBC

โครงการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม EBC ให้ความสำคัญกับชุมชนเด็กกำพร้าที่บ้านหทัยรัก สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคม EBC เข้าใจดีว่าการดำเนินธุรกิจ ต้องทำควบคู่ไปกับการช่วยเหลือสังคม โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ด้อยโอกาส ดังนั้น เราจึงเลือกสนับสนุนกลุ่มเปราะบาง ผ่านโครงการนี้ EBC พร้อมให้การสนับสนุนด้านทรัพยากร ความช่วยเหลือ และให้การดูแลอย่างครอบคลุม เพื่อให้น้อง ๆ สามารถเติบโตสภาพแวดล้อมที่ดีและมีชีวิตที่ดีในอนาคต

บ้านหทัยรัก ก่อตั้งขึ้นโดยมูลนิธิศรัทธาชนในปี 2009 เพื่อเป็นที่พักพิงให้กับเด็กกำพร้าที่ยากไร้และให้การศึกษาอย่างเท่าเทียม มูลนิธิก่อตั้งขึ้นในปี 1998 จุดประสงค์เพื่อรองรับต่อจำนวนเด็กกำพร้าที่เพิ่มขึ้นในกรุงเทพฯและจังหวัดรอบข้าง โดยเฉพาะเด็กนับถือศาสนาอิสลาม สถานสงเคราะห์ได้ให้ที่พักอาศัย การศึกษา และการฝึกอบรมวิชาชีพ เพื่อช่วยให้เด็กกำพร้าสามารถพึ่งพาตนเองได้ ปลูกฝังศรัทธา พัฒนาคุณภาพชีวิต สอดแทรกไปกับหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม


"การสนับสนุนบ้านพักพิงเด็กกำพร้า บ้านหทัยรักนั้น สอดคล้องกับความเชื่อหลักของเราที่ว่า ทุกคนมีโอกาสในการประสบความสำเร็จอย่างเท่าเทียม" โฆษกของ EBC Financial Group เคยกล่าวว่า "EBC เชื่อว่าความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ใช่เพียงแค่หน้าที่ทางธุรกิจ แต่ยังเกี่ยวข้องกับการยกระดับผู้คนรอบตัว สร้างอนาคตที่เท่าเทียมให้กับทุกคน ส่งเสริมการพัฒนาตัวเองและดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของตัวเองออกมาใช้"

ผลักดันโครงการ CSR ส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับชุมชน

โครงการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม ถือเป็นหนึ่งในหลายกิจกรรมที่ EBC ได้ดำเนินการเพื่อให้การสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศไทย ในช่วงต้นปี 2024 ที่ผ่านมา EBC ได้จัดกิจกรรม CSR ที่สำคัญทั้งหมด 2 งาน ซึ่งแสดงให้เห็นถึง ความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการเติบโตอย่างเท่าเทียมและครอบคลุม:

  • เดือนมิถุนายน ปี 2024 EBC ได้จัดกิจกรรมการกุศลร่วมกับสำนักงานมูลนิธิธรรมิกชน เพื่อคนตาบอดในประเทศไทย สาขากรุงเทพฯ ณ โรงเรียนบ้านเด็กรามอินทรา โดยบริจาคสิ่งของจำเป็นและจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทางอารมณ์และการศึกษาให้กับเด็กที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น อีกทั้งยังแก้ไขปัญหาการขาดแคลนสื่อการเรียนรู้และอุปสรรคการมีส่วนร่วมทางสังคมที่เด็ก ๆ เหล่านี้ต้องเผชิญ
  • เดือนมีนาคม ปี 2024 EBC ได้จัดกิจกรรมการกุศลที่โรงเรียนบ้านข้าวคำแพง ในจังหวัดสุพรรณบุรี และได้บริจาคการอุปกรณ์การเรียนรู้ และเครื่องมือกีฬา จำนวน 357 คน โครงการนี้ให้การสนับสนุนแก่เด็ก ๆ ที่ขาดแคลนทรัพยากรทางการศึกษา และเสริมสร้างความรู้อย่างเท่าเทียม

โครงการเหล่านี้ เป็นหนึ่งในหน้าที่หลักของ EBC ในการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่ม หรือชุมชนที่ขาดแคลน โดยมุ่งเน้นไปที่การศึกษา การเสริมสร้างศักยภาพ และการดูแลความเป็นอยู่ที่ดี EBC แสดงให้เห็นว่า ความสำเร็จในด้านการเงินและความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกัน

วัฒนธรรมองค์กรที่เป็นหัวใจหลักของ EBC

แนวทางของ EBC ในการรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) โดยยึดหลักวัฒนธรรมองค์กร 3 ประการ ได้แก่ ความมุ่งมั่น ความรับผิดชอบ และความซื่อสัตย์ เราเชื่อว่าหน้าที่สำคัญในการยกระดับสังคม คือ การส่งเสริมโครงการที่มุ่งเน้นด้านการศึกษา การเข้าถึง และการเสริมสร้างความรู้ทางการเงิน EBC ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างโอกาสในเติบโตและพัฒนากลุ่มเปราะบาง เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ดีอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นผ่านการจัดการเรียนการสอน เสริมความรู้ทางการเงิน การเข้าถึงชุมชน หรือกิจกรรมการกุศล ภารกิจของ EBC คือ การสร้างโอกาสในการเติบโต การพัฒนา และการสร้างความหวังให้กับชุมชนทั่วทุกภูมิภาค

เกี่ยวกับ EBC Financial Group

EBC Financial Group (EBC) ก่อตั้งขึ้น ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ EBC เป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา และได้เข้าร่วมโครงการ United to Beat Malaria แคมเปญของมูลนิธิองค์การสหประชาชาติ มุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพด้านสุขภาพของประชากรทั่วโลก โดยเริ่มกิจกรรมร่วมกันตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2024 EBC ยังให้สนับสนุนซีรีส์การมอบความรู้แก่สาธารณะเกี่ยวกับ What Economists Really Do นำโดยภาควิชาเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัย Oxford เพื่อทำให้เศรษฐศาสตร์เป็นเรื่องที่เข้าใจง่ายขึ้น และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสังคมในปัจจุบัน 

EBC Financial Group Enriches Lives of Orphans Through CSR Initiative at Baan Hathairak in Bangkok, Thailand

Continuing a Tradition of Compassionate Action and Community Support

EBC Financial Group (EBC) continues to uphold its commitment to community support and social responsibility with its latest Corporate Social Responsibility (CSR) initiative at Baan Hathairak Orphanage in Thailand. Late last month, EBC employees dedicated their time and resources to providing much-needed support for 36 orphaned children, reinforcing the company's mission to make a positive impact across marginalised and vulnerable communities worldwide.

The day-long event, saw seven EBC employees distributing essential supplies, offering financial contributions to sustain the orphanage's ongoing operations, and engaging with the children through interactive activities. The day culminated in a shared meal with the orphans and staff, providing both emotional and material support. This initiative is part of EBC's broader strategy to actively contribute to the well-being of communities in Thailand and globally, aligning with the company's values of fairness, integrity, and responsibility.

A Deeper Connection to Community Empowerment

EBC's participation in the Baan Hathairak initiative reflects the company's ongoing commitment to creating meaningful change in the communities it serves. EBC recognises that businesses have a fundamental duty to address the socio-economic challenges faced by underserved populations. By supporting vulnerable groups such as orphans through initiatives that address both immediate needs and long-term growth, EBC seeks to empower individuals with the resources and care they need to thrive.

Baan Hathairak, established by the Satthachan Foundation in 2009, serves as a critical shelter for orphaned children, many of whom lack access to basic care and religious education. The foundation was created in 1998 to address the growing number of orphans in Bangkok and surrounding provinces, particularly those of Muslim faith. The shelter provides housing, education, and vocational training to help orphans become self-sufficient and lead dignified lives in accordance with Islamic teachings.


"Supporting communities like Baan Hathairak aligns with our core belief that every individual deserves an opportunity to succeed," said a spokesperson at EBC Financial Group. "At EBC, we are driven by the conviction that corporate responsibility goes beyond business; it's about uplifting those around us and fostering a future where everyone has the potential to achieve their best."

Continuing a Tradition of Community Engagement

This initiative at Baan Hathairak is one of many actions taken by the global financial brokerage to support local communities across Thailand. Earlier in 2024, EBC organised two key CSR events that emphasised its dedication to fostering inclusive growth:

  • In June 2024, EBC hosted an event at the Ramindra Home for Blind Children, donating essential supplies and participating in interactive activities to support the emotional and educational development of visually impaired children. This effort addressed the lack of access to learning materials and social integration challenges faced by these children.
  • In March 2024, EBC held a charity event at Ban Khao Kam Phaeng School in Suphanburi, benefiting 357 underprivileged students with vital educational resources, school supplies, and sports equipment. This initiative provided direct support to children in need, ensuring they have the tools necessary for academic success.

These efforts are part of EBC's broader mission to contribute to societal progress and improve the quality of life for communities where it operates. By focusing on education, empowerment, and community well-being, EBC demonstrates that financial success and social responsibility are interconnected.

Values at the Core of EBC's Mission

EBC's approach to CSR is firmly grounded in its core values of dedication, responsibility, and integrity. The company believes that businesses have a fundamental duty to contribute positively to the societies they serve. Through initiatives that focus on education, community outreach, and financial literacy, EBC aims to create opportunities for growth and development, driving lasting, positive change for individuals and communities alike. Whether through financial literacy programs, community outreach, or charitable support, EBC's mission is to create opportunities for growth, development, and hope in the regions where it operates.

About EBC Financial GroupAbout EBC Financial Group

EBC Financial Group (EBC) was founded in London, England. EBC is an official partner of FC Barcelona and has joined the United to Beat Malaria campaign, an initiative by the United Nations Foundation, aimed at improving the health quality of populations worldwide. Collaborative activities commenced in February 2024. EBC also supports a series of public education initiatives titled "What Economists Really Do," led by the Department of Economics at the University of Oxford, to make economics more accessible and applicable to contemporary society. 

เปิดตัว arLoupe แว่นขยายดิจิทัล AR ยกระดับบริการทางการแพทย์และทันตกรรมในประเทศไทย

บริษัท ไอคอม เทค จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเพียงรายเดียวของ arLoupe ในประเทศไทย ขอแนะนำ arLoupe, AR Magnifying Loupe แว่นขยายดิจิทัลที่รวมเทคโนโลยีเสมือนจริง (AR) เป็นอุปกรณ์ขยายภาพดิจิทัลอันล้ำสมัย สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและความแม่นยำในการรักษา การออกแบบที่ทันสมัยและหลักการยศาสตร์ arLoupe ช่วยให้ทันตแพทย์สามารถทำงานได้สะดวกและมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น

เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อการทันตกรรม

arLoupe ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการใช้งานด้านทันตกรรม ช่วยให้ทันตแพทย์สามารถมองเห็นรายละเอียดที่ซับซ้อนในการทำงานทางทันตกรรม ช่วยเพิ่มความแม่นยำในระหว่างการทำหัตถการต่างๆ เช่น การบูรณะฟัน การรักษารากฟัน และทันตกรรมความงาม นอกจากนี้ arLoupe ยังช่วยในด้านการศึกษาและการฝึกอบรมด้วยการเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์ไปยังจอแสดงผลภายนอก เช่น ทีวีและโปรเจคเตอร์ เพื่อให้การวินิจฉัยและการรักษามีประสิทธิภาพมาก นวัตกรรมนี้ได้รับความไว้วางใจทั่วโลกและเป็นที่นิยมในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และมหาวิทยาลัยด้านทันตกรรม ในไต้หวัน จีน แคนาดา และสหรัฐอเมริกา

คุณสมบัติสำคัญของ arLoupe

  • จอแสดงผลความละเอียดสูง ช่วยให้เห็นรายละเอียดที่สำคัญ เช่น รอยแตกและพื้นผิวที่ซับซ้อน
  • การขยายภาพ มีตัวเลือกการขยายภาพหลายระดับ (3x/6x หรือ 4x/8x) เพื่อการตรวจสอบรายละเอียดที่แม่นยำ
  • ไฟ LED ปรับได้ รองรับการปรับอุณหภูมิสี เพื่อการจับคู่สีที่แม่นยำในการวินิจฉัย
  • ออกแบบตามหลักการยศาสตร์ น้ำหนักเพียง 240 กรัม ช่วยให้ผู้ใช้งานสบายในท่าทางที่เหมาะสม ลดอาการปวดหลังและคอ
  • การทำงานแบบแฮนด์ฟรี ควบคุมง่ายและบันทึกภาพได้โดยไม่รบกวนการทำงาน
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน สามารถใช้งานต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมง พร้อมตัวเลือกการชาร์จอย่างรวดเร็ว

บริษัท ไอคอม เทค จำกัด ในฐานะตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ arLoupe ในประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะยกระดับมาตรฐานการดูแลทันตกรรมโดยมอบเครื่องมือคุณภาพสูงที่สามารถเสริมประสบการณ์การรักษาและช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่ทันตแพทย์ การเปิดตัว arLoupe ยังได้รับการสนับสนุนจากกิจกรรมสาธิตและการฝึกอบรมในสถาบันการศึกษาทางทันตกรรม และคลินิกชั้นนำทั่วประเทศไทย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ arLoupe หรือเพื่อขอทดสอบการใช้งาน สามารถติดต่อ บริษัท ไอคอม เทค จำกัด ได้ที่ เว็บไซต์ arloupe.icom.co.th หรือ โทรศัพท์ 02-203-7599

เกี่ยวกับบริษัท ไอคอม เทค จำกัด

บริษัท ไอคอม เทค จำกัด ผู้นำในการนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยในประเทศไทย ด้วยพอร์ตโฟลิโอที่ครอบคลุมตั้งแต่อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคไปจนถึงโซลูชันมืออาชีพและอุตสาหกรรม โดยคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้เชี่ยวชาญยุคดิจิทัล ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ อุปกรณ์เครือข่ายและอุปกรณ์ต่อพ่วง เช่น โซลูชันด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (cybersecurity solution) จอแสดงผล (visual display) ซอฟต์แวร์ด้านแอนิเมชัน ชุด Motion Capture และอุปกรณ์ IT Gadget

นอกจากนี้ ไอคอม เทค ภาคภูมิใจที่ได้เป็นผู้แทนจำหน่าย arLoupe ในประเทศไทย และพร้อมสนับสนุนการนำเทคโนโลยี AR เข้าสู่วงการทันตกรรม เพื่อช่วยให้ทันตแพทย์มองเห็นรายละเอียดที่ซับซ้อนในการทำหัตถการต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุนในทุกขั้นตอนของการใช้เทคโนโลยี

ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำในการจัดจำหน่ายสินค้า IT และนวัตกรรมที่เชื่อถือได้ ไอคอม เทค ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพบริการและการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกระดับ ทั้งสำหรับผู้บริโภคและภาคธุรกิจ

NT ประกาศศักยภาพในการเป็นพาร์ทเนอร์กับภาครัฐและ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจด้วยเทคโนโลยี

บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที (NT) ผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่เป็นรัฐวิสาหกิจของไทย ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ของ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (AWS หรือ เอ ดับบลิว เอส) ในระดับ Advanced Tier ประกาศความพร้อมในการเป็นพันธมิตรทางเทคโนโลยี เพื่อให้คำปรึกษาและบริหารจัดการเทคโนโลยีและบริการต่างๆ ด้านคลาวด์คอมพิ้วติ้ง บน AWS เพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจทั้งภาครัฐและเอกชนในหลายอุตสาหกรรม ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้สูงสุด

ดร.ยุทธศาสตร์ นิติไพจิตร ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจคลาวด์และบิ๊กดาต้า จาก NT กล่าวว่า “ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา NT ได้ให้บริการคลาวด์ในรูปแบบต่างๆ ทั้ง Private Cloud, Public Cloud และ Hybrid Cloud กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนมากกว่า 1,700 หน่วยงาน และเป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (Government Data Center and Cloud services หรือ GDCC) แสดงให้เห็นว่า NT มีประสบการณ์ความพร้อมในการเป็น พาร์ทเนอร์ของภาครัฐและสนับสนุนภาครัฐขับเคลื่อนนโยบาย Cloud First Policy นอกจากนั้นเรายังเป็นผู้ให้บริการ AWS Outposts ซึ่งเป็นระบบคลาวด์รูปแบบพิเศษของ AWS ที่รองรับการจัดเก็บข้อมูลในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 อีกด้วย” 

นอกจากนั้น NT ยังมีอีกหลายบริการที่ พร้อมให้บริการผู้ใช้งาน AWS รองรับการเปิดให้บริการ AWS Regions ในไทย เช่น 

1. AWS Billing Service

บริการที่ผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการต่าง ๆ ของ AWS บน Public Region โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต ด้วยบริการออกใบแจ้งค่าใช้บริการ ใบเสร็จรับเงิน และใบกำกับภาษีสำหรับการใช้บริการ AWS ให้กับทุกนิติบุคคล, องค์กรต่างๆ และหน่วยงานราชการ ลดความยุ่งยากของการทำบัญชี โดยผู้ใช้บริการสามารถชำระค่าใช้บริการ AWS ด้วยสกุลเงินบาทไทย

2. AWS Implementation Service

ให้บริการด้านวางแผน, ติดตั้งระบบ, การย้ายระบบ, และการทดสอบระบบ โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญผ่านการรับรองจากทางAWS

3. AWS Managed Service 

บริการบริหาร, ดูแล, และจัดการระบบไอทีพื้นฐานขององค์กรแบบครบวงจร ตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านไอที 

4. AWS Migration Assessment and Deployment

บริการที่ช่วยในการย้ายระบบ ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน, ข้อมูล, แอปพลิเคชัน และฐานข้อมูลไปยัง AWS Cloud ให้องค์กรเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมและได้การรับรองจาก AWS พร้อมให้คำปรึกษา, วางแผน, Migrate, และทดสอบการใช้งาน ให้การย้ายระบบมีความเสถียร, รวดเร็ว, และปลอดภัย

5. AWS Direct Connect by NT

บริการระบบคลาวด์ในการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงที่เชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายขององค์กรเข้าถึงข้อมูลบน AWS Regions ได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และ เสถียรภาพ ด้วยโครงข่ายส่วนบุคคลความเร็วสูงของ NT ครอบคลุมทั้งในประเทศไทย และระหว่างประเทศ

ในอนาคต NT จะยังคงยึดมั่นในความเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับคลาวด์ของ AWS บริษัทมีแผนที่จะใช้ประโยชน์จาก AWS Region ในประเทศไทย เพื่อสร้างและส่งมอบโซลูชันดิจิทัลที่เป็นนวัตกรรมและสามารถปรับตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าภาครัฐ โดยมุ่งเน้นที่การรองรับข้อกำหนดด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อกำหนดของการจัดเก็บของข้อมูล เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐมีการใช้คลาวด์เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักในการจัดการสำคัญที่มีต้องการเสถียภาพและความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้ได้มาตรฐานสูงสุดทั้งในด้านอธิปไตยและความปลอดภัยของข้อมูลอีกด้วย


ในวันที่ 27 และ 28 พฤศจิกายน 2567 NT จะมีการเดินสายโรดโชว์เพื่อนำเทคโนโลยีไปจัดแสดงในงาน AWS Public sector 2024 และ AWS Roadshow 2024 ที่จังหวัดชลบุรี ผู้สนใจสามารถติดต่อลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมงานได้ที่ ntcloud@ntplc.co.th 

Tuesday, October 29, 2024

ลอรีอัล ผลักดันนวัตกรรมความงามผ่านความร่วมมือและนวัตกรรมแบบเปิด จัดแข่งขัน L'Oréal Big Bang Beauty Tech Innovation ครั้งใหญ่ในภูมิภาค สตาร์ทอัพจากสิงคโปร์และอินเดียคว้ารางวัลชนะเลิศในปีแรก

ลอรีอัล กรุ๊ป ประกาศผู้ชนะ Big Bang Beauty Tech Innovation การแข่งขันนวัตกรรมแบบเปิดที่สุดในภูมิภาคที่มุ่งค้นหา สนับสนุน และบ่มเพาะสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพจากทั่วภูมิภาคเอเชียใต้แปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ (SAPMENA) โดยสตาร์ทอัพสามรายจากสิงคโปร์และอินเดียได้ชนะการแข่งขันในปีแรก ได้แก่ Creatively Squared (สิงคโปร์), Live2.ai (อินเดีย) และ NeuralGarage (อินเดีย) จะได้ร่วมงานกับลอรีอัล กรุ๊ป ในโครงการนำร่องเชิงพาณิชย์กับหนึ่งใน 37 แบรนด์ระดับโลกในเครือ และโอกาสเข้าถึงตลาด 35 ประเทศทั่วภูมิภาค SAPMENA พร้อมเข้าร่วมโปรแกรมพี่เลี้ยงตลอดหนึ่งปีกับผู้บริหารระดับสูงจากลอรีอัลและพันธมิตรของโครงการ

วิสเมย์ ชาร์มา ประธานของลอรีอัล ภูมิภาค SAPMENA กล่าวว่า "เราเชื่อว่าภูมิภาคเอเชียใต้แปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือมีศักยภาพที่จะกลายเป็นศูนย์กลางนวัตกรรม Beauty Tech และกำหนดอนาคตของความงามได้ ภูมิภาคนี้มีระบบนิเวศสตาร์ทอัพที่มีพลวัตสูง มีผู้บริโภคที่ช่ำชองการใช้เทคโนโลยีมากที่สุดในโลก ทั้งหมดนี้ช่วยสร้างโอกาสให้กับนวัตกรรมล้ำยุคที่จะยกระดับประสบการณ์ความงามของผู้บริโภค ในการเปิดตัวโครงการ Big Bang Beauty Tech Innovation Program ครั้งแรกนี้ เราได้เห็นแนวคิดที่มีศักยภาพอย่างเหลือเชื่อ และตั้งตารอที่จะร่วมมือกับสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่ได้รับรางวัลทั้งสามรายเพื่อบ่มเพาะนวัตกรรมสำหรับโลกแห่งความงาม ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เรามุ่งมั่นที่จะเร่งขับเคลื่อนนวัตกรรม Beauty Tech ของเราเพื่อผู้บริโภคใน SAPMENA"

สตาร์ทอัพที่ได้รับรางวัลชนะเลิศใน L'Oreal SAPMENA Big Bang Beauty Tech Innovation Program ปี 2567 ได้แก่

Creatively Squared (สิงคโปร์): แพลตฟอร์มผลิตเนื้อหาภาพที่ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถผลิตภาพถ่ายและวิดีโอดิจิทัลที่มีคุณภาพสูง มีประสิทธิภาพ และตรงตามแบรนด์

Live2.ai (อินเดีย): แพลตฟอร์ม SaaS ที่นำเสนอโซลูชันวิดีโอแบบอินเทอร์แอกทีฟ โดยมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีวิดีโอที่สามารถซื้อสินค้าได้สำหรับ Connected TV (CTV), เว็บไซต์ และแอพต่างๆ แบรนด์ ช่วยให้ส่วนธุรกิจธุรกิจสามารถสร้างวิดีโอที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ชมสามารถซื้อสินค้าได้โดยตรงภายในเนื้อหาวิดีโอ

NeuralGarage (อินเดีย): ใช้ Generative AI เพื่อแก้ปัญหาการพากย์เสียงที่ไม่เป็นธรรมชาติในสื่อบันเทิง ด้วยเทคโนโลยีที่ซิงค์การเคลื่อนไหวของริมฝีปากของนักแสดงกับเสียงพากย์ สร้างประสบการณ์การรับชมที่เป็นธรรมชาติโดยยังคงรักษาอารมณ์ของเนื้อหาต้นฉบับ



เหล่าสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมการแข่งขันได้นำเสนอโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อรับมือกับความท้าทายสำคัญในอุตสาหกรรมความงาม โดยมุ่งเน้นไปที่หนึ่งในห้าหัวข้อที่กำหนด หรือมากกว่านั้น ได้แก่ ประสบการณ์ของผู้บริโภค (Consumer Experience), เนื้อหา (Content), สื่อ (Media), พาณิชยกรรมรูปแบบใหม่ (New Commerce) และเทคโนโลยีเพื่อสังคม (Tech for Good) สตาร์ทอัพที่เข้าร่วมการแข่งขันมีโอกาสได้เชื่อมต่อกับผู้นำด้านการค้าและดิจิทัล รวมถึงพันธมิตรเชิงกลยุทธ์และพี่เลี้ยง ผู้ให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อทดสอบแนวคิดใหม่ๆ และศักยภาพในการขยายธุรกิจ คณะกรรมการตัดสินประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงจากลอรีอัล, เอคเซนเชอร์, กูเกิล, เมตา และ เวรอส เวนเจอร์ส

อึ้ง วี เว่ย กรรมการผู้จัดการอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเอคเซนเชอร์กล่าวว่า "เรามีความภูมิใจและตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับลอรีอัลและระบบนิเวศที่กว้างขึ้น เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรม ยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภค และกำหนดมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมความงาม การได้เห็นผู้เข้าร่วมผลักดันขีดจำกัดด้วยโซลูชั่นที่สร้างสรรค์และกล้าหาญ ซึ่งผสมผสานความเฉลียวฉลาดของมนุษย์เข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างราบรื่นนั้น เป็นแรงบันดาลใจอย่างแท้จริง และเป็นการปูทางสำหรับอนาคตของบบิวงตี้เทค ขอแสดงความยินดีกับลอรีอัล ผู้เข้าแข่งขัน และผู้ชนะทุกท่านสำหรับความพยายามและการมีส่วนร่วมที่ยอดเยี่ยม"

ลอรีอัลมุ่งมั่นส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรม เมื่อเร็วๆ Fast Company ได้ยกย่องให้ลอรีอัลติดอันดับ 50 สุดยอดสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดสำหรับผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมประจำปี 2024 (Top 50 2024 Best Workplaces for Innovators ) และเป็นผู้ชนะในหมวดความงามและแฟชั่น เพื่อเป็นการยกย่องความมุ่งมั่นในการส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมในทุกระดับ


เกี่ยวกับโครงการ Big Bang Beauty Tech Innovation ในภูมิภาค SAPMENA

โครงการ Big Bang Beauty Tech Innovation เป็นการแข่งขันนวัตกรรมแบบเปิดระดับภูมิภาคที่มุ่งค้นหา สนับสนุน และบ่มเพาะสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพจากทั่วภูมิภาคเอเชียใต้แปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ (SAPMENA) สตาร์ทอัพเหล่านี้จะได้รับโอกาสในการพัฒนานวัตกรรมโซลูชั่นด้านบิวตี้เทตของพวกเขาในหนึ่งในห้าธีมความท้าทาย ได้แก่ ประสบการณ์ผู้บริโภค, เนื้อหา, สื่อ, พาณิชยกรรมรูปแบบใหม่ และเทคโนโลยีเพื่อสังคม

ทีมที่ผ่านการคัดเลือกจากการแข่งขันรอบรองชนะเลิศระดับภูมิภาคทั้งสามรายการสำหรับกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) อินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะเข้ามาแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ SAPMENA Grand Finale โดยทีมที่เข้าแข่งจะเดินทางมาร่วมการแข่งขันด้วยตนเอง คณะกรรมการตัดสินประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงจากลอรีอัลและพันธมิตรของโครงการ ได้แก่ เอคเซนเชอร์, กูเกิล และเมตา

ผู้ชนะเลิศสามอันดับแรกในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศโซน SAPMENA จะได้รับโอกาสพัฒนาโครงการนำร่องเชิงพาณิชย์ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากลอรีอัล และเข้าร่วมโปรแกรมพี่เลี้ยงกับผู้บริหารระดับสูงจากลอรีอัลและพันธมิตรของโครงการเป็นระยะเวลาหนึ่งปี สตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จในโครงการนำร่องในภูมิภาค SAPMENA อาจมีโอกาสร่วมงานกับลอรีอัลในระดับโลก โดยมีลอรีอัล SAPMENA เป็นจุดเริ่มต้น ช่วยให้สตาร์ทอัพสามารถเข้าถึงเครือข่ายพันธมิตรที่กว้างขวางและข้อมูลเชิงลึกของตลาด

ภูมิภาค SAPMENA เป็นที่อยู่อาศัยของประชากร 40% ของโลก ครอบคลุมตลาด 35 ประเทศ รวมถึงตลาดที่มีการเติบโตเร็วที่สุด มีประชากรมากที่สุด และมีประชากรวัยหนุ่มสาวมากที่สุดในโลกหลายแห่ง ผู้บริโภคในภูมิภาคนี้เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีดิจิทัล โดยมีอายุเฉลี่ย 28 ปี (เทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 33 ปี) และมีผู้ซื้อสินค้าออนไลน์มากกว่า 60% ทุกสัปดาห์ โมเดลธุรกิจและเทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซที่เป็นนวัตกรรมใหม่ มีบทบาทสำคัญเพื่อเข้าถึงและดึงดูดผู้บริโภคกลุ่มนี้ ซึ่งถือเป็นผู้นำในการเร่งการเติบโตของอุตสาหกรรมความงามด้วยอุดมคติความงามที่หลากหลาย วัฒนธรรมดิจิทัลที่คึกคัก ต้องการการเชื่อมต่อและมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมสูงอยู่ตลอดเวลา ระบบนิเวศสตาร์ทอัพรวมกันทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และตะวันออกกลาง ประกอบด้วยสตาร์ทอัพมากกว่า 40,000 ราย โดยมีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น (สตาร์ทอัพที่มีมูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไป) กว่า 180 บริษัท และมีเงินทุนหมุนเวียนสูงถึงสองหมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปีที่ผ่านมา

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อ่านได้ที่ http://bigbang.lorealsapmena.com/




เกี่ยวกับลอรีอัล ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตอนใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ (SAPMENA)

ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตอนใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ (SAPMENA) มีประชากร 3 พันล้านคน ซึ่งคิดเป็น 40% ของประชากรโลก จึงเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตของลอรีอัล และยังเป็นศูนย์รวมผู้มีทักษะและความสามารถระดับโลกอีกด้วย ทั้งนี้ ลอรีอัล ภูมิภาค SAPMENA ก่อตั้งขึ้นในปี 2564 เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจในตลาดที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีประชากรวัยหนุ่มสาวจำนวนมาก และมีเศรษฐกิจใหม่ที่เติบโตรวดเร็วที่สุด โดยลอรีอัลภูมิภาค SAPMENA นำเสนอประสบการณ์ความงามรูปแบบใหม่ให้แก่ผู้บริโภคภายใต้แบรนด์ที่มีความเป็นสากลมากกว่า 30 แบรนด์และนวัตกรรมบิวตี้เทคที่พลิกโฉมอุตสาหกรรม โดยดำเนินงานผ่านบริษัทสาขารวม 13 แห่ง ใน 35 ประเทศทั่วภูมิภาค ตั้งแต่นิวซีแลนด์ไปจนถึงโมร็อกโก โมเดลธุรกิจของเรายึดมั่นในการเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับ 3 ส่วนหลัก ได้แก่ โลก ผู้คน และผลิตภัณฑ์ของเรา

เกี่ยวกับลอรีอัล กรุ๊ป

ลอรีอัล กรุ๊ป ในฐานะองค์กรด้านความงามชั้นนำของโลก ทุ่มเทในธุรกิจความงามมายาวนานกว่า 115 ปี เพื่อตอบสนองต่อความปรารถนาด้านความงามของผู้คนทั่วโลก ภายใต้เป้าหมายในการสร้างสรรค์ความงามที่ขับเคลื่อนโลกใบนี้ ลอรีอัลกำหนดทิศทางและมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้านความงามที่ครอบคลุม มีจริยธรรม สร้างความยั่งยืนให้กับสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมีพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์อันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งประกอบด้วยกว่า 37 แบรนด์ชั้นนำระดับโลก และพันธสัญญาเพื่อความยั่งยืนอย่าง L'Oreal for the Future ลอรีอัลมุ่งมั่นมอบสิ่งที่ดีที่สุดด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย เต็มเปี่ยมไปด้วยความจริงใจ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมความงามอันเป็นเอกลักษณ์ให้กับผู้คน

ลอรีอัล กรุ๊ป มียอดขายผลิตภัณฑ์ 4.118 หมื่นล้านยูโรในปี 2566 มีผลิตภัณฑ์จัดจำหน่ายผ่านทุกช่องทาง ครอบคลุมถึงอีคอมเมิร์ซ ตลาดทั่วไป ห้างสรรพสินค้า เภสัชกรรมและร้านขายยา ซาลอน ร้านค้าปลีก และร้านค้าในสนามบิน และมีพนักงาน 90,000 คนทั่วโลก ลอรีอัลยึดมั่นในกลยุทธ์ที่สำคัญขององค์กรในการค้นคว้าวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องโดยมีศูนย์วิจัยและพัฒนากว่า 20 แห่งใน 11 ประเทศทั่วโลก พร้อมด้วยทีมงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมมากกว่า 4,000 คน และผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลกว่า 6,400 คน คิดค้นและพัฒนาความงามแห่งอนาคต เพื่อก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ชั้นนำด้าน Beauty Tech ต่อไป

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.loreal.com/en/mediaroom

เกี่ยวกับลอรีอัล ประเทศไทย

ลอรีอัล ประเทศไทย เป็นสาขาของบริษัทผู้นำความงามของโลก นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์ระดับสากล ใน 4 แผนกผลิตภัณฑ์

  • แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค: ลอรีอัล ปารีส, การ์นิเย่ และ เมย์เบลลีน นิวยอร์ก
  • แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง: ลังโคม, ไบโอเธิร์ม, จิออร์จิโอ อาร์มานี, คีลส์, ชู อูเอมูระ, อีฟส์ แซ็งต์ โลร็องต์ และ อิท คอสเมติกส์
  • แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ: ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล และเคเรสตาส
  • แผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง: ลา โรช-โพเซย์, วิชี่ และเซราวี

ข้อมูลเพิ่มเติม: www.lorealthailand.com และ www.facebook.com/lorealthailand