โรงงานผลิตชิปแอลอีดีแห่งใหม่ของ Osram ในเมืองกูลิม ประเทศมาเลเซีย ได้เริ่มเปิดดำเนินการตามกำหนดแล้วในวันนี้ ซึ่ง Olaf Berlien ซีอีโอของ OSRAM Licht AG ได้กล่าวในระหว่างพิธีเปิดโรงงานแห่งใหม่ว่า "เราทำได้ตามกำหนด ทั้งยังอยู่ในงบที่วางไว้ และเมื่อพิจารณาจากอัตราการเติบโตมหาศาลของเราถึง 19% ในธุรกิจหลอดไฟแอลอีดี เราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดฐานการผลิตแห่งใหม่ นอกจากนี้ การลงทุนในกูลิมยังเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีและการก้าวสู่ความเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไฮเทค โดยตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษนี้ หลอดไฟแบบดั้งเดิมยังคิดเป็นสัดส่วนถึง 80% ของธุรกิจของ Osram แต่ในปัจจุบัน ยอดขายสองในสามของเรามาจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Optical Semiconductor"
ในเดือนพฤศจิกายน 2558 Osram ได้ประกาศแผนการสร้างโรงงานชิปแอลอีดีแห่งใหม่ในกูลิม พร้อมตั้งเป้าเปิดดำเนินงานภายในสิ้นปี 2560 โดยเป็นส่วนหนึ่งของ แผนริเริ่มเพื่อการเติบโตและนวัตกรรม Diamond ผ่านมาเพียงสองปีหลังจากการประกาศดังกล่าว และเพียงหนึ่งปีครึ่งหลังพิธีวางศิลาฤกษ์ ปัจจุบันโรงงานแยกส่วนประกอบและสามารถขยายต่อเติมได้แห่งนี้ได้เริ่มเดินเครื่องผลิตแล้ว โดยใช้เงินลงทุนไปทั้งสิ้น 370 ล้านยูโรในการก่อสร้างขั้นแรก และ Osram สามารถขยายโรงงานแห่งนี้เพิ่มอีกสองขั้น รวมเป็นงบประมาณถึง 1 พันล้านยูโร ซึ่งรวมถึงการขยายกำลังการประกอบแอลอีดีในเครือข่ายโรงงานทั่วโลกของ Osram
Aldo Kamper ซีอีโอธุรกิจ OSRAM Opto Semiconductors เน้นย้ำถึงกำลังการผลิตขนาดใหญ่ในเมืองกูลิม โดยกล่าวว่า "เราสามารถเปลี่ยนไฟถนนในมหานครนิวยอร์ก ริโอ ฮ่องกง และเบอร์ลิน เป็นไฟแอลอีดีทั้งหมดด้วยระยะเวลาการผลิตเพียงหนึ่งสัปดาห์ และหากจะยกระดับไฟถนนทั่วโลก กูลิมจะต้องผลิตไฟแอลอีดีตลอดระยะเวลาห้าปีครึ่งเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ไฟแอลอีดีสามารถประหยัดพลังงานได้สูงสุด 80% เมื่อเทียบกับไฟถนนแบบเดิม นอกจากนี้ ไฟแอลอีดียังให้แสงที่มีความเสถียรของสีมากกว่า ทั้งยังสามารถหรี่และปรับแสงได้เร็วขึ้น ดังนั้น ถนนหรือทางเดินที่ไร้ผู้คนจึงไม่จำเป็นต้องมีแสงไฟส่องสว่างในระดับสูงสุดตลอดเวลา
โรงงานของ Osram ในเมืองกูลิมจะผลิตชิปแอลอีดีสีน้ำเงิน ซึ่งสามารถให้แสงสีขาวผ่านทางกรรมวิธีคอนเวอร์เตอร์เลเยอร์ ไฟประเภทนี้ผลิตขึ้นมาสำหรับการใช้แสงทั่วไป อาทิ ไฟถนนสาธารณะดังที่กล่าวไปข้างต้น แต่ยังสามารถใช้เป็นไฟที่ผนังด้านหน้า ภายในและภายนอกบ้านเรือนและอาคารร้านค้า หรือใช้กับป้ายประกาศขนาดใหญ่ ตลอดการใช้งานในรูปแบบพิเศษ เช่น การเพาะปลูก ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า ตลาดแอลอีดีทั่วโลกสำหรับการส่องสว่างทั่วไปนั้นจะมีมูลค่าราว 6 พันล้านยูโรในปี 2561 ซึ่งประมาณ 6% ในจำนวนดังกล่าวเป็นไฟถนน ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยจะอยู่ที่ 7% ต่อปีไปจนถึงปี 2563 ขณะเดียวกัน ตลาดชิ้นส่วนออปโตอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงไฟเพื่อการใช้งานทั่วไปนั้น จะอยู่ที่ 1.75 หมื่นล้านยูโรในปี 2561
นอกจากนี้ ในระยะกลางโรงงานที่ กูลิม จะผลิตชิปแอลอีดีสำหรับการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิ ไฟรถ และการฉายภาพวิดีโอ เป็นต้น โรงงานแห่งนี้มีทำเลที่ตั้งอยู่กลางทุ่ง จึงสามารถออกแบบโรงงานและใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดได้อย่างเต็มที่ และเมื่อเทียบกับเทคโนโลยี 4 นิ้ว ระบบการผลิตสำหรับแผ่นเวเฟอร์ 6 นิ้วนั้น ผลิตชิปแอลอีดีได้มากกว่าถึง 125% ต่อรอบ
Osram กำลังเดินหน้าลงทุนเพื่อขยายฐานการผลิตเดิมหกแห่งในเครือข่ายการผลิตแอลอีดีของบริษัท ด้วยเหตุนี้ Osram จึงกำลังขยายโรงงานในเรเกนสบูร์กด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบันโรงงานแห่งมีพนักงานราว 2,500 คน และจะว่าจ้างพนักงานเพิ่มอีกถึง 1,000 คน เพื่อผลิตชิปแอลอีดีแบบพรีเมียมและเลเซอร์ไดโอด ซึ่งใช้ในไฟหน้ารถคุณภาพสูง นอกจากนี้ยังจะผลิตไดโอดอินฟาเรดสำหรับเซนเซอร์ที่สามารถนำไปใช้งานในรูปแบบต่างๆ อาทิ ฟีเจอร์จดจำใบหน้าในโทรศัพท์มือถือ หรือสำหรับระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ (อาทิ Proximity Sensor) ในรถยนต์
ขณะเดียวกัน Osram จะขยายโรงงานในเมือง ชวาบมึนเชน และในอนาคต Osram จะผลิตวัตถุดิบหลักของแอลอีดีในห้องปลอดเชื้อที่โรงงานดังกล่าว Osram ยังมีโรงงานผลิตวัตถุดิบหลักของแอลอีดีในเมืองเอ็กเซเตอร์ในสหรัฐ ส่วนที่เมือง อู๋ซี ประเทศจีนนั้น Osram กำลังขยายกำลังการประกอบชิปแอลอีดีเข้ากับผลิตภัณฑ์แอลอีดีที่เสร็จสมบูรณ์ อาทิ ไดโอดปล่อยแสงในที่พักอาศัย และในผลิตภัณฑ์ออปติกหลัก เป็นต้น ขณะที่ในเมือง ปีนัง ประเทศมาเลเซีย ซึ่งไม่ไกลจากเมืองกูลิม ก็เป็นฐานการผลิตและประกอบชิปแอลอีดีเช่นกัน
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปิดโรงงานในเมืองกูลิม รวมถึงภาพข่าว ได้ที่ http://www.osram-group.com/en/media/features/mk-2017
สื่อมวลชนติดต่อ
Ms. Lena Wang
โทร. +86 21 5385 3065
อีเมล: Lena.Wang@Osram.com
Ms. Ellen Xu
โทร. +86 185 2130 8962
อีเมล: ellenx@we-redbridge.com
เกี่ยวกับ OSRAM
OSRAM เป็นบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูงชั้นนำระดับโลกที่ตั้งอยู่ในเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี โดยมีประวัติความเป็นมายาวนานย้อนกลับไปมากกว่า 110 ปี ผลิตภัณฑ์หลักของเรามุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีที่อาศัยเซมิคอนดักเตอร์ และมีขอบเขตการใช้งานกว้างขวางครอบคลุมตั้งแต่เวอร์ชวลเรียลลิตี้ไปจนถึงยานพาหนะไร้คนขับ และจากโทรศัพท์มือถือไปจนถึงโซลูชั่นระบบไฟอัจฉริยะในอาคารและเมืองต่างๆ OSRAM พัฒนาเทคโนโลยีระบบไฟอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของมนุษย์และชุมชน นอกจากนี้ นวัตกรรมของบริษัทไม่เพียงแต่ช่วยให้มองเห็นได้ดียิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้คนทั่วโลกสามารถสื่อสาร เดินทาง ทำงาน และดำเนินชีวิตได้ดียิ่งขึ้น OSRAM มีพนักงานประมาณ 26,400 คนทั่วโลก ณ สิ้นปีงบการเงิน 2560 (30 กันยายน) และมีรายได้มากกว่า 4.1 พันล้านยูโร บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ตและมิวนิค (ISIN: DE000LED4000; WKN: LED400; ชื่อย่อหลักทรัพย์: OSR) สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.osram.com
No comments:
Post a Comment