ผลิตภัณฑ์ของ SealBlock ได้รับการจัดแสดงครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่งาน Silicon Valley Blockchain Security Technology Forum ซึ่งจัดโดย BlockTrain แพลตฟอร์มสื่อบล็อกเชนสองภาษาแห่งแรกที่ตั้งอยู่ในซิลิคอนแวลลีย์
โซลูชันของ SealBlock จะตอบสนองความท้าทายด้านความปลอดภัยมากที่สุดในการบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลในปัจจุบัน นั่นคือ การป้องกันกุญแจส่วนตัว (private keys) ที่ใช้ในการทำธุรกรรมออนไลน์ กุญแจส่วนตัวเหล่านี้มีความเสี่ยงต่อทั้งแฮกเกอร์ภายนอกและการเข้าถึงภายในโดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้น บริษัทจำนวนมากจึงใช้กระเป๋าสตางค์แบบ "cold wallets" เพื่อจัดเก็บกุญแจของตนเองแบบออฟไลน์ แม้ว่าการรักษาความปลอดภัยจะดีขึ้น แต่ประสิทธิภาพของการซื้อขายและการทำธุรกรรมได้ลดลงอย่างมาก รวมถึงการบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายในการบริหารก็สูงขึ้น
SealBlock นำเสนอเครื่องมือกำหนดนโยบายที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ ซึ่งจะกำหนดนโยบายการลงนาม (signing policies) ให้กับกุญแจส่วนตัว (กระเป๋าสตางค์) แต่ละชุด นโยบายดังกล่าวรวมถึงนโยบายแบบหลายลายเซ็น นโยบายเกี่ยวกับรายการที่ได้รับอนุญาต นโยบายการจำกัดจำนวนเงิน ฯลฯ การทำธุรกรรมจะไม่ได้รับการลงนามโดยกุญแจส่วนตัว (private key) นอกเสียจากว่านโยบายการลงนามทั้งหมดจะเป็นที่พอใจ
นอกจากนี้ SealBlock ยังใช้เทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ของ Intel SGX เพื่อปกป้องกุญแจส่วนตัว การลงนามในธุรกรรม และนโยบายความปลอดภัย โดย Intel SGX จะสร้างขอบเขตการเข้ารหัสระดับชิปที่แยกจากระบบปฏิบัติการได้ ด้วยการออกแบบตามความปลอดภัยนี้ กระเป๋าสตางค์แบบ hardware wallet ของ SealBlock จะสามารถเชื่อมต่อแบบออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน เพื่อรองรับการสอบถามต่างๆ ขณะเดียวกันก็จะรักษาระดับความปลอดภัยให้เหมือนกับกระเป๋าสตางค์แบบ cold wallet
ริชาร์ด หยู ซีอีโอของ SealBlock กล่าวว่า
"SealBlock จับคู่ความสะดวกสบายของซอฟต์แวร์ hot wallets เข้ากับความปลอดภัยที่ได้รับจากกระเป๋าสตางค์แบบ hardware cold wallets เราเชื่อว่าโซลูชันกระเป๋าสตางค์นี้จะเป็นโซลูชันที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับทุกคนในการเก็บรักษาและซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล"
นอกเหนือจากการปกป้องสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้ใช้แล้ว โซลูชันของ SealBlock ยังสามารถใช้เพื่อปกป้องข้อมูลอื่นๆ จากผู้ใช้ เช่น ข้อมูล PII และบันทึกทางธุรกิจที่สำคัญ SealBlock จะสร้างชุมชนและปล่อยชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Development Kit - SDKs) เพื่อให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถสร้างโซลูชันบล็อกเชนที่มีความปลอดภัยสูงโดยใช้เทคโนโลยีของ SealBlock
ธุรกิจต่างๆ นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้แล้ว
SealBlock ได้เปิดตัวกระเป๋าสตางค์ hardware hot wallet รุ่นแรก และประสบความสำเร็จในการให้บริการลูกค้ารายแรกๆ ในซิลิคอนแวลลีย์ก่อน ซึ่งรวมถึง SWFT Blockchain, uMining, SVBC และ 6M Capital
แพลตฟอร์ม SWIFT Blockchain คือบริการโอนเงินดิจิทัลข้ามเชนแบบครบวงจร "โซลูชันกระเป๋าสตางค์ hardware hot wallet ของ SealBlock จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในขณะที่เพิ่มประสิทธิภาพภายในด้วย" อเล็กซ์ วิทท์ ซีเอฟโอของ SWFT กล่าว โดย SWFT Blockchain วางแผนที่จะใช้ SealBlock สำหรับกระเป๋าสตางค์ hardware-based hot wallets
เทอร์รี ซิง ซีทีโอของ Umining กล่าวว่า
"เรามีสกุลเงินดิจิทัลเป็นจำนวนมากสำหรับลูกค้าของเรา ดังนั้นเราจำเป็นต้องมีโซลูชันกระเป๋าสตางค์ที่มีความปลอดภัยสูง กระเป๋าสตางค์แบบ hardware wallet ของ SealBlock สนับสนุนนโยบาย multi-sig ซึ่งเราสามารถจัดการสินทรัพย์กับสมาชิกในทีมที่หลากหลายได้อย่างง่ายดาย"
ปัจจุบัน SealBlock กำลังจัดหาเงินทุนรอบแรกและได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนจำนวนมากในซิลิคอนแวลลีย์และทั่วโลก เช่น Whales Capital และ ASB Venture เป็นต้น นักลงทุนทุกรายจะได้รับการนำเสนอให้ใช้กระเป๋าสตางค์ของ SealBlock เพื่อรักษาความปลอดภัยของสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเอง เพื่อให้นักลงทุนสามารถมีประสบการณ์โดยตรงเกี่ยวกับบริการของ SealBlock
การสนับสนุนที่แข็งแกร่ง-ทีมผู้บริหารมากประสบการณ์
VeriClouds ซึ่งเป็นผู้บ่มเพาะ SealBlock เป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ และเป็นผู้นำด้านการเข้ารหัสฮาร์ดแวร์ ในช่วงสามปีที่ผ่านมา VeriClouds ได้ให้บริการแก่บริษัทอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ที่สุดในโลก อาทิ JD.com และ Oracle โดย VeriClouds เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Alibaba Cloud และ Intel โดยบริษัทได้รับเงินลงทุนจาก แฮร์รี่ ชัม รองประธานบริหารของ Microsoft สำหรับการจัดหาเงินทุนรอบแรก
Silicon Valley Blockchain Catalyst ผู้บ่มเพาะเทคโนโลยีบล็อกเชนรายแรกในซิลิคอนแวลลีย์ ให้ความช่วยเหลือ SealBlock ในด้านการพัฒนากระบวนการทางธุรกิจและการระดมทุน
ทีมผู้บริหารของ SealBlock ประกอบด้วยบุคลากรอาวุโสจากทั่วอุตสาหกรรมไอทีและอุตสาหกรรมความปลอดภัยข้อมูล
ริชาร์ด หยู ซีอีโอของ SealBlock เป็นผู้บริหารการขายและการจัดการผลิตภัณฑ์ด้านไอทีที่มีประสบการณ์โชกโชน โดยมีประสบการณ์มากกว่า 12 ปีในบริษัทชั้นนำต่างๆ เช่น HP และ EMC
ริคาร์โด ดิแอซ ซีเอสโอของ SealBlock ทำงานด้านการรักษาความปลอดภัยข้อมูลมานาน 22 ปี รวมถึงประสบการณ์ 13 ปีในการบริหารและพัฒนาธุรกิจให้กับบริษัท Oracle
ดร.ริค หวัง ซีทีโอของ SealBlock สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านความปลอดภัยข้อมูล และเคยเป็นนักวิจัยอาวุโสด้านความปลอดภัยของระบบที่ Microsoft Research เขาเป็นเจ้าของสิทธิบัตรจำนวนหนึ่งในด้านการเข้ารหัสฮาร์ดแวร์และความปลอดภัยบล็อกเชน งานวิจัยของเขาได้ช่วยให้บริษัทหลายแห่ง เช่น Microsoft, Amazon, Google, PayPal, Facebook และบริษัทด้านเทคโนโลยีอื่นๆ สามารถยกระดับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
หวัง เจี้ยผิง นักลงทุนรายแรกของ Bitmain และกรรมการบริหารของ Sinovation Ventures เป็นผู้ให้คำปรึกษาแก่ทีมงานของ SealBlock
ลิงค์:
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://sealblock.io
บัญชีวีแชทอย่างเป็นทางการ: SealBlockSecurity
บัญชีเว่ยป๋ออย่างเป็นทางการ: @SealBlock
เฟซบุ๊ก: SealBlock
เทเลแกรม: https://t.me/sealblock
ทวิตเตอร์: @sealblockio
No comments:
Post a Comment