Wednesday, February 27, 2019

ZTE เผยโฉมระบบปฏิบัติการ 5G Slice ขุมพลัง AI สำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ เป็นรายแรกของอุตสาหกรรม


          ZTE Corporation (0763.HK / 000063.SZ) ผู้ให้บริการรายใหญ่ของโลกด้านโซลูชั่นโทรคมนาคมและเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตมือถือสำหรับองค์กรและผู้บริโภค สร้างปรากฏการณ์เป็นรายแรกในอุตสาหกรรมที่เปิดตัวระบบปฏิบัติการ 5G Slice ขุมพลัง AI พร้อมสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ ที่มีชื่อว่า "CloudStudio" ในงาน Mobile World Congress (MWC) 2019 ณ เมืองบาร์เซโลนา

          ระบบนี้ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด 3A ได้แก่ Awareness, Automation และ AI เพื่อสนับสนุนการใช้งานเทคโนโลยี slice แบบอไจล์ ตลอดจนการวิเคราะห์อัจฉริยะ และการซ่อมแซมเครือข่ายด้วยตนเอง (self-healing) ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การดูแลดำเนินการเครือข่าย 5G กลายเป็นเรื่องง่าย โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการบำรุงรักษา (O&M) มากกว่า 30% และลดค่าใช้จ่ายในการสร้างเครือข่ายได้ถึง 20%

          ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิงและอัลกอริทึมขึ้นสูง ระบบปฏิบัติการเครือข่าย CloudStudio ระดับ carrier-grade ของ ZTE นี้ ช่วยวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหามากกว่า 8,000 RCA (root cause analysis) rule repository โดยอาศัยประสบการณ์ด้าน O&M ที่ ZTE สั่งสมมาจากการดำเนินโครงการ cloudification มากกว่า 400 โครงการทั่วโลก ขณะเดียวกัน ระบบดังกล่าวยังรองรับการขยายขนาดและการอัปเกรดทางออนไลน์ด้วย

          ระบบ CloudStudio ของ ZTE มีการกรองสัญญาณเตือนอัตโนมัติและเป็นอัจฉริยะ ตามเวลา ความสัมพันธ์ และนโยบายอื่น ๆ โดยระบบจะจับคู่กับ RCA rule repository และระบุต้นเหตุของปัญหาที่แท้จริงได้อย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่นาที ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากซับซ้อนในด้าน O&M ลงได้เป็นอย่างมาก

          นอกจากนี้ ระบบปฏิบัติการ CloudStudio ของ ZTE ยังบริหารจัดการได้อย่างราบรื่นไม่สะดุด และปรับเปลี่ยนทรัพยากรให้เหมาะสมกับระบบคลาวด์ส่วนตัวและคลาวด์สาธารณะ กล่าวคือ เมื่อภาระงานบริการ (service workload) แตะระดับสูงสุด ระบบ CloudStudio จะเปิดการทำงานของระบบคลาวด์สาธารณะโดยอัตโนมัติเพื่อจัดสรรทรัพยากรตามที่ต้องการ และเมื่อปริมาณงานกลับสู่ภาวะปกติ ระบบก็จะปล่อยทรัพยากรออกจากคลาวด์สาธารณะ ดังนั้น CloudStudio จึงช่วยให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมข้ามขั้นตอนการสร้างเครือข่ายไปได้ ด้วยความสามารถในการรองรับบริการขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการสร้างเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพถึง 20%

          ขณะเดียวกัน ด้วยวิธีการแบ่งเครือข่าย (network slicing) ผู้ประกอบการโทรคมนาคมยังสามารถสร้างเครือข่ายเสมือนแบบเอ็นด์-ทู-เอ็นด์ได้หลายเครือข่ายบนโครงสร้างพื้นฐานกายภาพเพียงโครงสร้างเดียว เพื่อให้บริการเครือข่ายที่มีความแตกต่าง หลากหลาย รวมทั้งมีการรับประกันคุณภาพแก่อุตสาหกรรมแนวดิ่ง

          ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชั่นการสื่อสารครบวงจรชั้นนำของโลก ZTE รุกสร้างความร่วมมือกับบรรดาผู้ประกอบการโทรคมนาคมและพันธมิตรจากอุตสาหกรรมแนวดิ่ง ซึ่งรวมถึง สมาร์ทกริด ระบบควบคุมอุตสาหกรรม และอากาศยานไร้คนขับ (UAV) เพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี 5G slicing เชิงพาณิชย์ ขณะเดียวกัน ZTE ยังทำให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมสามารถพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ เช่น B2B และ B2B2C ที่ต่อยอดมาจากโมเดล B2C แบบเดิม ซึ่งนับเป็นการสร้างโอกาสมหาศาลในการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ 5G

          เกี่ยวกับ ZTE

          ZTE เป็นผู้ให้บริการระบบโทรคมนาคมขั้นสูง อุปกรณ์เคลื่อนที่ และโซลูชั่นเทคโนโลยีระดับองค์กร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ผู้ให้บริการเครือข่าย ภาคธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐ ZTE มุ่งมั่นที่จะนำเสนอนวัตกรรมแบบบูรณาการครบวงจรให้แก่ลูกค้าตามนโยบายของบริษัท เพื่อมอบคุณค่าและความเป็นเลิศในยุคที่เทคโนโลยีโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ZTE จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและเซินเจิ้น (รหัสหุ้นในตลาดฮ่องกง: 0763.HK / รหัสหุ้นในตลาดเซินเจิ้น: 000063.SZ) บริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมกว่า 500 ราย ในกว่า 160 ประเทศ ในแต่ละปี ZTE จัดสรรเงินรายได้ 10% ให้กับการวิจัยและพัฒนา ทั้งยังมีบทบาทเป็นผู้นำในองค์กรกำหนดมาตรฐานระดับโลก ทั้งนี้ ZTE ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นสมาชิกของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact) สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.zte.com.cn

          ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SDN/NFV ได้ที่ sdnfv.zte.com.cn/, openlab.zte.com.cn

          สื่อมวลชนติดต่อ:
          Margaret Ma
          ZTE Corporation
          โทร: +86 755 26775189
          อีเมล: ma.gaili@zte.com.cn

No comments:

Post a Comment