วิกฤต CrowdStrike สั่นสะเทือนโลกไอที โซเชียลระอุ! แห่แชร์ผลกระทบรวมถึงจอฟ้ามรณะ ดันเอ็นเกจเมนต์พุ่งเกือบ 6 แสนครั้ง พร้อมเผยกลยุทธ์ Real-time Marketing สุดสร้างสรรค์ที่บรรดาแบรนด์และชาวเน็ตโดดร่วมวงฉวยโอกาสจากวิกฤตทำ Real-time Content เพิ่มเอ็นเกจเมนต์ให้แบรนด์
CrowdStrike บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นนำ กลายมาเป็นกระแสให้คนทั่วโลกพูดถึงจนขึ้นเทรนด์เอ็กซ์ระดับโลกในวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 หลังการอัปเดตซอฟแวร์ใหม่โดยส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ใช้คอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows กว่า 8.5 ล้านเครื่องทั่วโลกเกิด "จอฟ้ามรณะ" หรือ "Blue Screen of Death" ทำให้ใช้งานไม่ได้ ผลกระทบลุกลามสู่ธุรกิจสำคัญ ทั้งสายการบิน ธนาคาร และโรงพยาบาล ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว
บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ได้ทำการรวบรวมข้อมูลผ่านเครื่องมือ DXT360 เพื่อฟังเสียงในสังคมออนไลน์ (Social Listening) ในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2567 พบว่ามีการพูดถึง (Mention) ถึง 3,654 ครั้ง และ ได้รับการมีส่วนร่วม หรือเอ็นเกจเมนต์ (Engagement) จำนวน 579,759 ครั้ง โดย Engagement ของ DXT360 จะนับรวมเฉพาะ reactions comments และ shares
Key Takeaways
- วิกฤตปัญหา CrowdStrike พบว่าชาวโซเชียลในไทยพูดถึงประเด็นเรื่องผลกระทบต่อระบบและการให้บริการมากที่สุด 38.6%
- คนไทยส่วนใหญ่ให้ความสนใจและกล่าวถึงปัญหา Blue Screen จาก Windows มากกว่า ปัญหาการอัปเดตระบบของ CrowdStrike
- Real-time Marketing ยังคงได้ผลลัพธ์ที่ดีและช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ได้เสมอ หากแบรนด์และผู้ติดตามมีความเข้าใจและทันต่อเหตุการณ์ที่อยู่ในกระแส
- KOL (Key Opinion Leader) เป็นอีกหนึ่งที่พึ่งสำคัญของชาวโซเชียลในการหาคำตอบสำหรับเรื่องที่พูดถึงกันบนสังคมออนไลน์ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ของ KOL ในการสื่อสารกับผู้ติดตาม
- Social Listening Tool จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมและเข้าใจผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
รับมือจอฟ้ากับการตลาดในยามวิกฤต… Blue Screen Marketing ก็มา!
ถึงแม้ จอฟ้ามรณะ (Blue Screen of Death) จะเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก แต่สำหรับนักการตลาดและเหล่าครีเอเตอร์ไทย กลับฉกฉวยวิกฤตครั้งนี้มาสร้างสรรค์คอนเทนต์แบบ Real-time Marketing ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มยอด Engagement สร้างผลดีให้กับแบรนด์แล้ว ยังเผยให้เห็นถึงเสน่ห์ของคนไทยที่ไม่ว่าจะเผชิญหน้ากับปัญหาที่หนักหนาแค่ไหน ก็พร้อมจะฝ่าฟันไปด้วยรอยยิ้ม ทำให้กลายเป็นเรื่องที่เบาลงได้ แบรนด์ที่ออกมาทำ Real-time Marketing บนโซเชียลมีเดีย เช่น QuanTum, AP, และไผ่ทอง เป็นต้น
CrowdStrike จุดประกายความสนใจเรื่อง IT ของคนไทย พากันตามหาข้อมูลจาก KOL
วิกฤตไซเบอร์ระดับโลกจาก CrowdStrike ได้สร้างความตื่นตัวในประเทศไทย แม้จะไม่เป็นที่รู้จักกว้างขวางมาก่อนเนื่องจากเป็นธุรกิจ B2B (Business-to-business) ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ได้ดึงดูดความสนใจของสื่อไทยทั้งในโซเชียลมีเดียและสื่อกระแสหลัก ต่างมีการนำเสนอข้อมูลของบริษัท CrowdSrike สาเหตุของปัญหา และผลกระทบระดับโลก ส่งผลให้คนไทยจำนวนมากต้องการฟังคำอธิบายและวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น
นายอาร์ม หนึ่งใน KOL ด้านไอทีที่ได้รับความเชื่อถือจากชาวโซเชียลไทย กลายเป็นที่พึ่งของชาวเน็ตจากปัญหาวิกฤตนี้ หลายคนได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นในโพสต์ข่าวว่ารอฟังการวิเคราะห์จากนายอาร์มอยู่ บางคนถึงกับใช้วลีเฉพาะแฟนคลับอย่าง "คืองี้เว้ยแชท" เพื่อรอติดตามการแสดงความเห็นจากช่องของเขา โดยในวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2567 นายอาร์มก็ได้ Live ถ่ายทอดสดพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาและผลกระทบที่จะตามมากับ CrowdStrike และลูกค้าของ CrowdStrike โดยร่วมกับคุณอู๋ spin9 ทำคอนเทนต์ผ่าน Channel YouTube ใหม่ที่ทำร่วมกันในชื่อ Spin9arm ซึ่งจากการ Live สดพูดคุยประเด็นเรื่องปัญหา Crowdstrike ได้ยอด Engagement ที่ 9,512 ครั้งและยอด views รวม 257,739 ครั้ง
ประเด็นฮอตบนโซเชียลท่ามกลางวิกฤตจอฟ้า
- ผลกระทบต่อระบบและการให้บริการ: 38.6% (ได้แก่ ระบบโอน-ถอนเงิน, mobile banking, เที่ยวบินดีเลย์, การเข้าถึงข้อมูลภายในโรงพยาบาล)
- ปัญหาทางเทคนิคและระบบปฏิบัติการ: 22.7% (ได้แก่ การพูดถึงปัญหาจอฟ้า, bitlocker)
- ความปลอดภัยทางไซเบอร์และการแก้ไขปัญหา: 13.6%
- ข้อเสนอแนะ 4.1%
- อื่นๆ 21.0%
ต้องหาแผนสำรองป้องกันปัญหาเกิดซ้ำ
จากวิกฤตที่เกิดขึ้นพบว่าชาวโซเชียลไทยเริ่มมีความคิดเกี่ยวกับแผนสำรอง หรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างเพื่อเป็นการป้องกัน หรือหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากระบบไอทีล่ม เช่น การพกเงินสดติดตัวเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่เน้นการชำระเงินผ่าน QR Code มีการพูดถึงความจำเป็นที่จะต้องมีโน๊ตบุ๊ค หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ระบบปฎิบัติการอื่นที่ไม่ใช่ Windows เป็นต้น
เหตุการณ์ จอฟ้ามรณะ (Blue Screen of Death) ในครั้งนี้ถือเป็นปรากฎการณ์ครั้งใหญ่ สะท้อนให้เห็นถึงความวิตกกังวล ความสับสนต่อข่าวสารที่พรั่งพรูออกมาจากสื่อต่าง ๆ และความตื่นตัวต่อเหตุการณ์นี้ของชาวโซเชียลไทย รวมไปถึงความพยายามในการหาข้อมูลและวิธีแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ในขณะเดียวกันก็มีการใช้มุกตลกสื่อสารออกมาทั้งในรูปแบบของการแสดงความคิดเห็นและการสร้างคอนเทนต์
ข้อมูลทั้งหมดที่นำมาวิเคราะห์หา Insight รวบรวมข้อมูลจาก DXT360 (Social Listening and Media Monitoring Platform) ของบริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด (dataxet:infoquest) โดยเก็บข้อมูลระหว่าง 19-24 กรกฎาคม 2567
เกี่ยวกับ DXT360
DXT360 เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลข่าวสารได้ทั้งจากโซเชียลมีเดีย สื่อออนไลน์ สื่อบรอดคาสท์ และสื่อสิ่งพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นเสียงของผู้บริโภค (Consumer Voices) คอนเทนต์จาก Influencers และ KOLs ไปจนถึงข่าวจากสื่อมวลชน ที่รวบรวมเข้ามาอยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกัน มีการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบ Dashboard ที่สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการของผู้ใช้งานแต่ละราย (Customizable Dashboard) จึงทำให้เข้าใจและเห็น Insight ในประเด็นต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยให้เห็นทิศทางการสื่อสารของแบรนด์ต่าง ๆ สามารถนำมาต่อยอดเพื่อพัฒนากลยุทธ์การสื่อสารขององค์กรได้
No comments:
Post a Comment