อุปกรณ์การทดสอบและรับรองอินเวอร์เตอร์และอุปกรณ์ DG ที่เชื่อมต่อกับสาธารณูปโภคอื่นๆสำหรับฟังก์ชั่นสนับสนุนเครือข่ายไฟฟ้าของ UL จะใช้ มาตรฐาน UL 1741 Supplement A ใหม่
UL ซึ่งเป็นองค์กรวิทยาศาสตร์ด้านความปลอดภัยชั้นนำระดับโลก เปิดตัวโปรแกรมการทดสอบอินเวอร์เตอร์ขั้นสูงและการรับรอง ในช่วงเวลาที่ผู้ให้บริการไฟฟ้าในระดับสาธารณูปโภคเดินหน้าปรับปรุงระบบเครือข่ายไฟฟ้าของตนเองให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่องด้วยการใช้งานโรงไฟฟ้าที่หลากหลายและแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่มีขนาดใหญ่ขึ้น บริการต่างๆของ UL จึงขยายตัวอย่างสอดคล้องกับความต้องการทั้งในเรื่องของความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และฟังก์ชั่นการรองรับเครือข่ายไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา โปรแกรมใหม่นี้จะใช้ มาตรฐานUL 1741 Supplement A (SA) ใหม่ในการทดสอบและรับรองอินเวอร์เตอร์และอุปกรณ์กำเนิดไฟฟ้าแบบกระจาย (DG) ที่เชื่อมต่อกันกับสาธารณูปโภคอื่นๆ เพื่อให้สามารถรองรับฟังก์ชั่นของระบบเครือข่ายไฟฟ้า ซึ่งจะส่งผลให้การเชื่อมโยงของเครือข่ายไฟฟ้ามีความเป็นอัจฉริยะ ความปลอดภัย และเป็นเชิงโต้ตอบมากขึ้น
"การดับไฟเป็นบางส่วนหรือภาวะไฟดับนั้น บ่งชี้ถึงผลกระทบจากภาวะไร้เสถียรภาพของระบบเครือข่ายไฟฟ้าในระดับสาธารณูปโภค" เจฟฟ์ สมิดท์ รองประธานและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายพลังงานและเทคโนโลยีพลังงานกล่าว "เรายินดีที่ต่อจากนี้ไป จะได้มีการเผยแพร่ข้อมูลล่าสุดผ่านทาง มาตรฐาน UL 1741 SA สำหรับอินเวอร์เตอร์เชิงโต้ตอบในระดับสาธารณูปโภคที่รองรับระบบเครือข่ายไฟฟ้าเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการระบบเครือข่ายไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพมากขึ้นในตลาดปัจจุบัน"
การทดสอบอินเวอร์เตอร์ขั้นสูงมีการควบคุม DG แบบอัจฉริยะและเชิงโต้ตอบ เพื่อรองรับการปรับระบบกริดให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่องโดยใช้ระดับ DG และแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่สูงขึ้น ข้อกำหนดการเชื่อมโยงของระบบสาธารณูปโภคในแบบดั้งเดิม (IEEE 1547) กำหนดให้อุปกรณ์ DG ต้องตัดการเชื่อมต่อเมื่อกริดมีปัญหาด้านเสถียรภาพ มาตรฐานUL 1741 SA ได้กำหนดวิธีการทดสอบที่จำเป็นในการวางรากฐานเพื่อช่วยให้อุปกรณ์ DG เชื่อมต่อได้ตลอดเวลา และมีการปรับเอาต์พุตและพฤติกรรมโดยทั่วไปเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับกริดเมื่อเกิดเหตุผิดปกติในการทำงานมากกว่าที่จะตัดการเชื่อมต่อไป
รัฐแคลิฟอร์เนียได้ประกาศว่า อินเวอร์เตอร์ที่ติดตั้งในรัฐจะต้องทำตามข้อกำหนดการเชื่อมโยงโครงข่ายไฟฟ้า Rule 21 ภายในหนึ่งปีนับจากการตีพิมพ์ มาตรฐาน UL 1741 SA ขณะที่รัฐอื่นๆกำลังพิจารณานำข้อกำหนดการติดตั้งที่คล้ายกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการใช้งานของ DG และพลังงานแสงอาทิตย์ในระดับสูง
Rule 21 เป็นส่วนการปรับปรุงข้อกำหนดเกี่ยวกับอินเวอร์เตอร์ใน State of California Electric Tariff Rule 21 โดยคณะกรรมการสาธารณูปโภคภาครัฐแห่งแคลิฟอร์เนีย (CPUC) Rule 21 ถือเป็นเอกสาร Source Requirement Document (SRD) ที่ใช้ควบคู่กับ มาตรฐาน UL 1741 SA เอกสาร SRD โดยทั่วไปจะกำหนดการตั้งค่าพารามิเตอร์เฉพาะ เพื่อใช้กับวิธีการทดสอบ มาตรฐานUL 1741 SA เอกสาร SRD อื่นๆอาจนำมาใช้กับ มาตรฐานUL 1741 SA ได้เช่นกัน ในขณะที่ตลาดต่างๆก็หาทางพัฒนาการทำงานของระบบเครือข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะเพื่อให้ระบบส่งไฟฟ้าของพื้นที่เหล่านั้นมีความทันสมัย
UL ก้าวขึ้นเป็นผู้นำวงการ โดยร่วมมือกับในวงการ เพื่อพัฒนา มาตรฐาน UL 1741 SA ขึ้นมาใช้เป็นแนวทางสำหรับการเชื่อมโยงระบบเครือข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะสมัยใหม่ นอกจากนี้ UL ยังสร้างห้องปฏิบัติการทดสอบอินเวอร์เตอร์ล้ำสมัย 2 แห่ง เพื่อรองรับอินเวอร์เตอร์ขั้นสูง ห้องปฏิบัติการเหล่านี้ใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อร่นระยะเวลาการเปิดตัวสินค้าสู่ตลาด และยังสามารถลดเวลาในการทดสอบเฉลี่ยลงเหลือไม่ถึง 3 สัปดาห์ นอกจากนี้ UL ยังมีบริการจัดส่งเจ้าหน้าที่วิศวกรที่ชำนาญเฉพาะทาง เพื่อไปสังเกตการณ์การทดสอบถึงโรงงานของลูกค้าซึ่งติดตั้งอุปกรณ์จากห้องปฏิบัติการที่สามารถทดสอบตามแผนการทดสอบที่กำหนดไว้ได้
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม พบกับเราได้ที่งาน SPI บูธหมายเลข W525 และ The Battery Show บูธหมายเลข 1621 ลงทะเบียนร่วมฟังผ่านทางเว็บบินาร์ฟรีเกี่ยวกับ Advanced Inverters มาตรฐาน UL 1741 SA วันที่ 6 ตุลาคม 2559 เวลา 10.00-11.00 น. ตามมาตรฐานเวลา CST ได้ที่ http://s.ul.com/UL1741SAWebinar หรือเข้าชมที่เว็บไซต์http://www.ul.com/inverters กรณีที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทดสอบ การประเมิน และการรับรองผลิตภัณฑ์ ส่งอีเมลหาเราได้ที่ ULHELPS@ul.com
เกี่ยวกับ UL
ULเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านวิทยาศาสตร์ความปลอดภัยที่เป็นอิสระ ซึ่งมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 120 ปี ผู้เชี่ยวชาญเกือบ 10,000 รายปฏิบัติตามพันธกิจของULในการส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานและการอยู่อาศัยที่ปลอดภัยสำหรับทุกๆคน ULได้ใช้การวิจัยและมาตรฐานต่างๆ เพื่อยกระดับ และตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมออย่างต่อเนื่อง เราเป็นพันธมิตรกับบรรดาธุรกิจ ผู้ผลิต สมาคมการค้า และหน่วยงานกำกับดูแลระดับนานาชาติ เพื่อนำโซลูชั่นต่างๆ เข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกที่มีความซับซ้อนมากขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับรอง การทดสอบ การตรวจสอบ การให้คำปรึกษา และบริการด้านการศึกษาของเรา สามารถรับชมได้ที่ http://www.UL.com
No comments:
Post a Comment