Friday, September 22, 2017

เมอร์คเปิดศูนย์ BioReliance(R) End-to-End Biodevelopment Center แห่งแรกในจีนที่เซี่ยงไฮ้

          - ศูนย์ครบวงจรนอกยุโรปแห่งแรกของบริษัท
          - เร่งกระบวนการพัฒนาทางคลินิกจากระดับโมเลกุลไปจนถึงการผลิตเชิงพาณิชย์



          เมอร์ค ( Merck ) บริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำ ประกาศเปิดศูนย์  BioReliance(R) End-to-End Biodevelopment Center แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เพื่อให้บริการด้านการพัฒนากระบวนการครบวงจร ตั้งแต่การพัฒนาเซลล์ไลน์ การพัฒนากระบวนการต้นน้ำและปลายน้ำ ไปจนถึงการผลิตทางคลินิกแบบไม่มี GMP

          อูดิท บาทรา สมาชิกคณะกรรมการบริหารของเมอร์ค และซีอีโอกลุ่มธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ (Life Science) กล่าวว่า "ศูนย์ BioReliance(R) End-to-End Biodevelopment Center แห่งใหม่ของเราจะให้บริการแก่บริษัทผลิตยาขนาดเล็กที่กำลังอยู่ในขั้นตอนของการทดลองทางคลินิกขั้นต้น เมอร์คมีประสบการณ์ด้านการพัฒนากระบวนการมานานกว่า 30 ปี และมีประวัติที่แข็งแกร่งด้านกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์และวัสดุทางการแพทย์ภายใน 9-12 เดือน เรามุ่งหวังที่จะขับเคลื่อนการค้นพบทางวิทยาศาสตร์และการพัฒนานวัตกรรมทั้งในจีนและประเทศอื่นๆ"

          ศูนย์ดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของลูกค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีบุคลากรเป็นนักวิทยาศาสตร์กระบวนการและวิศวกรในท้องถิ่น ที่พร้อมมอบบริการครบวงจรให้แก่บริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ทั้งในจีนและประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อช่วยเร่งกระบวนการพัฒนายาตั้งแต่ระดับโมเลกุลไปจนถึงการผลิตเชิงพาณิชย์ ลูกค้าจะได้รับการช่วยเหลือออย่างเต็มที่ ไม่ใช่เฉพาะด้านการพัฒนากระบวนการและการผลิตเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ การควบคุมคุณภาพ และการฝึกอบรมพนักงานด้วย

          ดร.เฉิงปิน อู่ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ EpimAb Biotherapeutics บริษัทสตาร์ทอัพเอกชนที่ทุ่มเทให้กับการคิดค้นวิธีการรักษาโรคมะเร็งด้วยแอนติบอดี้ประเภท bi-specific โดยอาศัยแพลตฟอร์ม FIT-Ig (Fabs-In-Tandem) ที่บริษัทคิดค้นขึ้น กล่าวว่า "เมอร์คคือผู้จัดหาโซลูชั่นชั้นนำ การเปิดศูนย์แห่งใหม่นี้จะช่วยให้บริษัทชีวเภสัชภัณฑ์และบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพเกิดใหม่อย่างเราเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดและนักวิทยาศาสตร์ที่มากด้วยประสบการณ์ ช่วยให้เราสามารถเร่งกระบวนการพัฒนายาให้เร็วขึ้น และช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาที่มีราคาย่อมเยากว่าเดิม"

          ทีมงานระดับโลกของเมอร์คมีประวัติในการพัฒนาโครงการระดับโมเลกุลเกือบ 240 โครงการ ตั้งแต่ขนาด 3 ไปจนถึง 2,000 ลิตร บริษัทเกิดใหม่ที่มีทรัพยากรและอุปกรณ์จำกัดจะได้รับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของเมอร์คในด้านการพัฒนากระบวนการและการผลิตตามมาตรฐาน GMP ซึ่งจะช่วยให้การพัฒนาทางคลินิกขั้นต้นมีความก้าวหน้า นอกจากนี้ กระบวนการที่ครอบคลุมของเมอร์คยังช่วยอำนวยความสะดวกในด้านการปรับขนาด กระบวนการ การรับรองวิธีการวิเคราะห์ และการส่งผ่านทางเทคนิคจากกระบวนการทั้งหมดไปจนถึงผู้บริโภค

          ข้อเสนอที่ครอบคลุมของเมอร์คเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ทั้งยังช่วยรับมือกับปัญหาที่บริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ต้องเผชิญในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การพัฒนาระดับโมเลกุลไปจนถึงการผลิตเชิงพาณิชย์

          ศูนย์ BioReliance(R) End-to-End Biodevelopment Center ของเมอร์คในเมืองมาร์ติญัค ประเทศฝรั่งเศส เป็นศูนย์ปฏิบัติการเต็มรูปแบบเพื่อการผลิตทางคลินิกที่ได้มาตรฐาน GMP เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีของเมอร์ค ซึ่งรวมถึง Mobius(R) ถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบใช้ครั้งเดียวขนาด 2,000 ลิตร ศูนย์แห่งนี้มอบโซลูชั่นที่ครอบคลุมให้แก่บรรดาบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ เพื่อสนับสนุนการพัฒนากระบวนการทางคลินิกของบริษัทเหล่านี้

          ศูนย์ BioReliance(R) End-to-End Biodevelopment Center ของเมอร์คในเมืองเบอร์ลิงตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา มอบศักยภาพและบริการด้านการพัฒนากระบวนการครบวงจร ตั้งแต่การพัฒนาเซลล์ไลน์ การพัฒนากระบวนการต้นน้ำและปลายน้ำ ไปจนถึงการผลิตทางคลินิกแบบไม่มี GMP

          การลงทุนครั้งใหม่ในจีนถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของเมอร์คในตลาดเทคโนโลยีชีวภาพที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย ทั้งนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559 เมอร์คได้ประกาศลงทุนในห่วงโซ่การผลิตมูลค่า 250 ล้านยูโรในเมืองหนานทง เพื่อผลิตยาตามบัญชียาหลักแห่งชาติของจีน รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ตลอดจนมอบบริการอันหลากหลายสำหรับอุตสาหกรรมยา ชีวเวชภัณฑ์ และชีววิทยาศาสตร์

          ข่าวประชาสัมพันธ์ทั้งหมดของเมอร์คได้รับการเผยแพร่ผ่านทางอีเมลในเวลาเดียวกับที่มีการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของเมอร์ค กรุณาเข้าไปที่ www.merckgroup.com/subscribe เพื่อลงทะเบียนออนไลน์ เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกบริการนี้

          เกี่ยวกับเมอร์ค
          เมอร์ค คือบริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำในด้านการดูแลสุขภาพ ชีววิทยาศาสตร์ และเพอร์ฟอร์แม้นซ์ แมททิเรียล พนักงานราว 50,000 คนของบริษัทได้ร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยปรับปรุงและยกระดับคุณภาพชีวิต ตั้งแต่ยาชีวภาพเพื่อรักษาโรคมะเร็งหรือโรคปลอกประสาทอักเสบ ระบบที่ทันสมัยสำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการผลิต ไปจนถึง liquid crystal ที่ใช้กับสมาร์ทโฟนและโทรทัศน์ LCD ทั้งนี้ ในปี 2559 เมอร์คทำยอดขายได้ 1.5 หมื่นล้านยูโร ใน 66 ประเทศ

          เมอร์ค เป็นบริษัทเภสัชภัณฑ์และเคมีที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2211 และปัจจุบันครอบครัวผู้ก่อตั้งยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เมอร์คครอบครองสิทธิ์ในชื่อและแบรนด์ "เมอร์ค" ทั่วโลก ยกเว้นในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งบริษัทดำเนินธุรกิจในชื่อ อีเอ็มดี โซโรโน่, มิลลิพอร์ซิกม่า และอีเอ็มดี เพอร์ฟอร์แม้นซ์ แมททิเรียล



No comments:

Post a Comment