Thursday, September 28, 2017

GAC Motor นำรถเอสยูวีรุ่น GS7 ออกทริปทดสอบสมรรถนะ พิสูจน์คุณภาพระดับพรีเมียม


ยานยนต์รุ่นใหม่ GS7 และ GS3 มาพร้อมดีเอ็นเอของแบรนด์ นั่นคือ "คุณภาพและการยกผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง"

          GAC Motor บริษัทยานยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในจีน เสร็จสิ้นการเดินทาง 5,100 กิโลเมตรผ่านเมืองต่างๆ ที่มีอากาศร้อนที่สุดในจีน เพื่อพิสูจน์คุณภาพระดับพรีเมียมของรถเอสยูวีของบริษัท โดยขบวนรถเอสยูวีขนาดกลางรุ่นใหม่อย่าง GS7 พร้อมด้วยยานยนต์รุ่นแฟลกชิปอย่าง GS8 และ GS4 PHEV ได้ร่วมการเดินทางระยะเวลา 1 เดือนซึ่งสิ้นสุด ณ ศูนย์ทดสอบอุณหภูมิสูงในเมืองทูลู่ฟาน เขตปกครองตนเองซินเจียง ซึ่งขบวนรถเอสยูวีของ GAC ล้วนผ่านบททดสอบพิเศษจากสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมสุดหฤโหด

 คุณหยู จุน ประธาน GAC Motor ณ งานเปิดตัว GS7 และ GS3


          ขบวนรถเอสยูวีได้เริ่มออกเดินทางจากเมืองกว่างโจว และขับเคลื่อนไปตามเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่ตะวันตกของจีน ผ่านเมืองซีอาน หลานโจว ตุนหวง และเมืองเก่าแก่อื่นๆ ตามแนวเส้นทางสายไหม โดยมีปลายทางอยู่ที่ศูนย์ทดสอบอุณหภูมิสูงในเมืองทูลู่ฟาน ซึ่งทราบกันดีว่ามีอากาศร้อนและแห้งแล้งที่สุดในจีน โดยอุณหภูมิช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคมอาจพุ่งแตะ 53 องศาเซลเซียส และมีความชื้นสัมพัทธ์เพียง 6%

          หลังการเดินทางผ่านสภาพอากาศที่แผดเผาในฤดูร้อน ขบวนรถเอสยูวีของ GAC Motor ยังอยู่ในสภาพดี โดยผ่านการทดสอบสมรรถนะและความน่าเชื่อถือหลายด่านที่ศูนย์ทดสอบ โดยรถ GS7 ซึ่งได้รับตำแหน่ง "A New Generation Blockbuster SUV" จากนิวยอร์กไทม์ส และ "Impressive Worldwide Debut" จากนิตยสารฟอร์บส์ ได้ขับเคลื่อนไปบนเส้นทางอันขรุขระภายใต้อุณหภูมิ 43 องศาเซลเซียส และหลังการขับขี่วิบากระยะทาง 4.4 กิโลเมตร รถเอสยูวี GS7 ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถต้านทานอุณหภูมิสูงและรักษาสมรรถนะในระดับสูงเอาไว้ได้เป็นอย่างดี

          รถเอสยูวี GS7 ที่ออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ G-series 320T รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีกำลังสูงสุด 148kW (201.28 แรงม้า) รอบเครื่อง 1,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ขณะที่ เทคโนโลยี G-CPMA (Cross-Platform Modular Architecture) ก็มอบรูปลักษณ์ที่คล่องตัว พื้นที่ในตัวรถที่กว้างขวางสะดวกสบาย ระบบความบันเทิงอัจฉริยะ และระบบควบคุมไฟฟ้าที่ทนทาน   

          ส่วนรถสปอร์ตเอสยูวี GS3 ที่เปิดตัวสู่ตลาดพร้อมกับรุ่น GS7 เมื่อเดือนสิงหาคม ก็สร้างมาเพื่อครอบครัวสมัยใหม่โดยเฉพาะ มาพร้อมเครื่องยนต์ 200T เจเนอเรชั่นที่สองของ GAC Motor แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร และรอบเครื่อง 1,500 รอบต่อนาที ทั้งยังรองรับเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนกับระบบอัตโนมัติ ฟีเจอร์เชื่อมต่ออัจฉริยะของ Carlife และระบบนำทางด้วยเสียงแบบสามมิติ   

          คุณหยู จุน ประธาน GAC Motor กล่าวว่า การขับขี่ทดสอบในสภาพอากาศสุดหฤโหดแสดงให้เห็นถึงคุณภาพอันเหนือชั้นของยานยนต์ GAC Motor ซึ่งเกิดขึ้นได้ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาอันแข็งแกร่งของบริษัท "คุณภาพคือสิ่งที่ทำให้แบรนด์ GAC Motor โดดเด่นท่ามกลางคู่แข่ง เรามุ่งมั่นต่อการพัฒนายานยนต์ที่มอบสมรรถนะอันเป็นเลิศในสภาพแวดล้อมหฤโหดทุกรูปแบบ" 

          การเปิดตัวยานยนต์รุ่น GS3 และ GS7 ช่วยขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์อันครอบคลุมของ GAC Motor ทั้งยังช่วยยกระดับศักยภาพด้านการแข่งขันของแบรนด์ และจะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายยอดขาย 500,000 คันในปี 2560 นอกจากนี้ สิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการครองส่วนแบ่งตลาดก็คือ เทคโนโลยีที่สมบูรณ์ ความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนการผลิตและการจัดการที่เราภาคภูมิใจ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ความแข็งแกร่งของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี 

No comments:

Post a Comment