Monday, September 24, 2018

ผู้เชี่ยวชาญชี้ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมระหว่างเมืองตงก่วน-ฮ่องกงส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของชาติและภูมิภาคโดยรอบ

          เมื่อเมืองที่เป็นศูนย์กลางการผลิตระหว่างประเทศประสานความร่วมมือเชิงลึกกับศูนย์กลางทางการเงินของโลก บรรดาประเทศและภูมิภาคโดยรอบจะได้ประโยชน์ใดบ้างจากความเคลื่อนไหวครั้งนี้ นี่คือคำถามที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญได้มาร่วมกันอภิปรายในการประชุมเพื่อส่งเสริมความร่วมมือภาคอุตสาหกรรมระหว่างเมืองตงก่วนและฮ่องกงประจำปี 2561 (2018
Joint Promotion Conference of Dongguan-Hong Kong Industry Cooperation) ซึ่งจัดขึ้นในฮ่องกง เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา โดยผู้เชี่ยวชาญมองว่า โครงการอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (Guangdong-Hong Kong-Macao Greater Bay Area) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จะก่อให้เกิดความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณระหว่างเมืองตงก่วนและฮ่องกง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและหลายประเทศตามแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม (Belt and Road)

          เมืองตงก่วนมีรากฐานการผลิตอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง ในฐานะที่เป็นเมืองศูนย์กลางการผลิตระหว่างประเทศ โดยเป็นที่ตั้งของกิจการมากกว่า 1 ล้านแห่ง ซึ่งรวมถึงองค์กรบริษัทเกือบ 5 แสนแห่ง และบริษัทอุตสาหกรรม 1.7 แสนแห่ง โดยอุตสาหกรรมกว่า 30 กลุ่มและผลิตภัณฑ์ 6 หมื่นประเภทล้วนมีระบบการผลิตของตนเอง โดยมีอุตสาหกรรมข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมสนับสนุนต่าง ๆ คิดเป็นสัดส่วนถึง 90% เพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมที่กำลังขยายตัว

          ในขณะที่ฮ่องกงนั้นเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงบริการด้านการเงิน การขนส่ง และบริการสมัยใหม่ต่าง ๆ นอกจากระบบตุลาการและกฎหมายที่ได้รับการพัฒนาดีขึ้นแล้ว ฮ่องกงยังมีเครือข่ายธุรกิจระดับโลกที่ครอบคลุมและมีบุคลากรมากความสามารถซึ่งคุ้นเคยกับตลาดทั้งในและต่างประเทศ

          ตงก่วนและฮ่องกงต่างก็เป็นส่วนสำคัญของเขตอ่าว Greater Bay Area ซึ่งทั้งสองเมืองจะดึงเอาจุดแข็งของแต่ละเมืองออกมา พร้อมทั้งขยายขอบข่ายการพัฒนาขณะเดินหน้ายกระดับการเชื่อมต่อระหว่างกันให้ดียิ่งขึ้น

          "ตงก่วนได้เปรียบในแง่ตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ พื้นที่สำหรับการพัฒนา อุตสาหกรรมที่รองรับ ต้นทุนการดำเนินงาน และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ" นายเซียว หย่าเฟย นายกเทศมนตรีเมืองตงก่วน ซึ่งเป็นผู้จัดงานกล่าว พร้อมกับเสริมว่า การใช้โอกาสจากการเป็นหน้าต่างสู่ฮ่องกงให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุดนั้น จะช่วยให้ตงก่วนดึงดูดปัจจัยต่าง ๆ มากขึ้น ทั้งในด้านนวัตกรรมระหว่างประเทศ อุตสาหกรรมขั้นสูง และบุคลากรที่มีความสามารถจากทั่วโลก เพื่อผลักดันการพัฒนาเขตอ่าว Greater Bay Area อย่างครบวงจร

          "ฮ่องกงและตงก่วนควรรับบทบาทเป็นผู้นำในการสร้างกลไกและระบบความร่วมมือใหม่เพื่อทะลายกำแพงด้านการบริหารงานในเขตอ่าว Greater Bay Area" หลี่ จี่เจี้ยน ประธานสถาบันวิจัยเศรษฐกิจนวัตกรรมเอเชียแปซิฟิก กล่าว ทั้งนี้ คาดว่าความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นในหลากหลายอุตสาหกรรมจะก่อให้เกิดการแบ่งแรงงานออกเป็นหลายภาคส่วนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยขจัดความร่วมมือรูปแบบเดิม ๆ ในด้านการผลิตและการจำหน่ายสินค้าระหว่างฮ่องกงและตงก่วน โดยปัจจุบันฮ่องกงมุ่งเน้นด้านการวิจัยและการบริการมากขึ้น ในขณะที่เมืองตงก่วนนำผลการวิจัยมาใช้ต่อยอดทางการค้าและพัฒนาการผลิตอัจฉริยะ ซึ่งทั้งสองเมืองจะใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบของตนเพื่อกระชับความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

          นายหลี่เชื่อว่า ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมของทั้งสองเมืองจะเพิ่มแรงกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของประเทศและภูมิภาคโดยรอบ เช่น เมืองตงก่วนได้มีส่วนช่วยสนับสนุนการสร้างท่าการค้าเสรีหรือนิคมอุตสาหกรรมสมัยใหม่ในหลายประเทศตามแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหมภายใต้ความร่วมมือกับฮ่องกง ทั้งนี้ ฮ่องกงมีความสามารถในการวางแผนระดับสูงสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะในภาคการค้า โลจิสติกส์ และบริการทางการเงิน ขณะที่เมืองตงก่วนนำความได้เปรียบด้านการผลิตมาใช้ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่แท้จริง

          "ยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในโครงการก่อสร้างเขตอ่าว Greater Bay Area นี้ สร้างโอกาสที่สำคัญสำหรับฮ่องกงและเมืองตงก่วน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือที่มีอยู่แล้วให้ลึกและหลากหลายมากยิ่งขึ้น ตลอดจนแข่งขันกับทั่วโลกได้มากขึ้น" เหลียง เหว่ยตง เลขาธิการคณะกรรมการเทศบาลเมืองตงก่วนกล่าว พร้อมทั้งระบุด้วยว่า ความร่วมมือของทั้งสองเมืองจะมีบทบาทสำคัญเพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางการเติบโตของกลุ่มเมืองในเขตอ่าว Greater Bay Area

          ที่มา: The People's Government of Dongguan Municipality

No comments:

Post a Comment