เส้นทางขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางเรือโดยตรงระหว่างเมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ยในภาคตะวันออกของจีน กับเมืองโอซากา โกเบ และนาโกยาของญี่ปุ่น เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
เมื่อเทียบกับเส้นทางที่มีอยู่เดิม เส้นทางใหม่ที่เชื่อมแม่น้ำกับทะเลจะช่วยให้ประหยัดเวลาได้ถึง 2 วัน และใช้เวลาเพียง 5 วันในการขนส่งสินค้าจากเมืองอู่ฮั่นไปยังจุดหมายปลายทางที่กล่าวถึงข้างต้น
นอกจากจะลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์อย่างมากแล้ว เส้นทางดังกล่าวยังช่วยขยายช่องทางการขนส่งทางรถไฟ-เรือระหว่างญี่ปุ่นกับยุโรป โดยมีเมืองอู่ฮั่นเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้า
คุณจาง หลิน ผู้อำนวยการคณะกรรมการบริหารท่าเรือใหม่อู่ฮั่น เปิดเผยว่า บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางเรือโดยตรงจะให้บริการสัปดาห์ละครั้ง โดยมีเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ 2 ลำทำหน้าที่ขนส่งสินค้าสลับกัน
คุณจางกล่าวว่า เมื่อการให้บริการเข้าที่เข้าทางมากขึ้น จะมีการเพิ่มความถี่ในการให้บริการเป็นสัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยมีเรือขนส่งสินค้าให้บริการ 4 ลำสลับกัน และจะมีการเพิ่มท่าเรือปลายทางในญี่ปุ่นด้วย
ภายในเดือนเมษายน 2563 คาดว่าจะสามารถเชื่อมเส้นทางนี้กับเส้นทางรถไฟขนส่งสินค้าจีน-ยุโรปในเมืองอู่ฮั่น เพื่อสร้างระบบขนส่งข้ามประเทศหลายรูปแบบผ่านจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าในเมืองอู่ฮั่น
ช่องทางโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบปิดจะช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าจากญี่ปุ่นไปยังภูมิภาคต่าง ๆ เช่น เอเชียกลาง ตะวันออกกลาง และยุโรป
ในช่วงหลายปีมานี้ การค้าระหว่างเมืองอู่ฮั่นกับต่างประเทศเติบโตอย่างรวดเร็ว และเมืองอู่ฮั่นส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ 80% ทางเรือ ทำให้เส้นทางขนส่งสินค้าทางเรือโดยตรงระหว่างประเทศเป็นที่ต้องการอย่างมาก
ในปี 2561 ญี่ปุ่นได้กลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 4 ของมณฑลหูเป่ยของจีน และเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของเมืองอู่ฮั่น โดยมีมูลค่าการค้ารายปีกับมณฑลหูเป่ยที่ระดับ 2.74 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 18.5% เมื่อเทียบรายปี
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกล่าวว่า การเปิดเส้นทางขนส่งตู้คอนเทนเนอร์โดยตรงจะช่วยปลดล็อกความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างเมืองอู่ฮั่นกับญี่ปุ่น ขณะเดียวกัน การเชื่อมเส้นทางนี้กับเส้นทางรถไฟขนส่งสินค้าจีน-ยุโรปในเมืองอู่ฮั่น จะช่วยให้ผู้ประกอบการในอู่ฮั่นและญี่ปุ่นสามารถร่วมมือกันสำรวจตลาดใหม่ ๆ ในเอเชียกลาง ตะวันออกกลาง และยุโรป
สามารถดูข่าวต้นฉบับได้ที่ https://en.imsilkroad.com/p/309673.html
No comments:
Post a Comment