หลังจากนับถอยหลัง 10 วินาทีตามธรรมเนียมบนนาฬิกาดิจิทัลที่ฉายขึ้นตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์แล้ว เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน ตึกสูงระฟ้าในย่านดาวน์ทาวน์ของนครดูไบแห่งนี้เต็มไปด้วยการแสดงดอกไม้ไฟนาน 8 นาที 43 วินาที ซึ่งทำลายสถิติ โดยผู้โชคดีที่อยู่ชมการแสดงนี้ ได้กลายเป็นสักขีพยานการแสดงพลุดอกไม้ไฟที่ยาวติดต่อกันเป็นเวลานานที่สุดในประวัติการแสดงโชว์พลุดอกไม้ไฟฉลองวันปีใหม่ของตึกบุรจญ์เคาะลีฟะห์ ซึ่งถูกบันทึกไว้ว่านานกว่า 5 นาที การแสดงชุดนี้ใช้พลุดอกไม้ไฟน้ำหนักรวม 1,371 กิโลกรัม ซึ่งถูกวางไว้ตามสถานที่ยิงพลุ 207 แห่ง
เพื่อฉลองการเริ่มต้นทศวรรษใหม่ การแสดงพลุดอกไม้ไฟบนตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ครั้งนี้มี Emaar เป็นผู้วางแนวคิด โดยการแสดงทุก ๆ วินาทีสร้างความเพลิดเพลินเหมือนกับที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ และนอกจากพลุดอกไม้ไฟแล้ว ยังมีการแสดงแอนิเมชันบนจอแอลอีดีด้านหน้าของตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ พร้อมดนตรีประกอบและการแสดงน้ำพุอันงดงาม
งานนี้ต้อนรับผู้ชมกว่า 1 ล้านคนในย่านดาวน์ทาวน์ดูไบ ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ระดับเรือธงของ Emaar เพื่อร่วมชมการแสดงพลุดอกไม้ไฟพร้อมลีลาประกอบเพลงที่สมบูรณ์แบบจำนวน 15,000 ดอกที่มีรูปแบบที่สวยงามจำนวน 48 ลวดลาย ซึ่งแสดงถึงจุดเริ่มต้นของทศวรรษใหม่ ขณะที่เอฟเฟกต์ของดอกไม้ไฟทั้งหมดล้วนได้รับการคัดสรรและผลิตมาเป็นพิเศษเพื่องานแสดงครั้งนี้ และรับประกันว่า ดีไซน์และเอฟเฟกต์ของดอกไม้ไฟนั้นพิเศษแบบไม่เหมือนใครจริง ๆ
งานเฉลิมฉลองครั้งนี้ยังมีการแสดงน้ำพุ The Dubai Fountain ที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่มีการเปิดตัวน้ำพุแห่งนี้ในปี 2009 ซึ่งเป็นการเพิ่มความสำเร็จครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งในการแสดงน้ำพุพร้อมดนตรีประกอบสุดพิเศษเช่นนี้ โดยการแสดงที่มีชื่อเสียงระดับโลกงานนี้ใช้เวลา 160 ชั่วโมงตลอดทั้ง 4 สัปดาห์เพื่อออกแบบท่าระบำของน้ำ และใช้น้ำมากถึง 113.5 กิโลลิตรที่พุ่งขึ้นไปในอากาศเพียงครั้งเดียว โดยน้ำพุถูกปล่อยออกจากหัวน้ำพุจำนวน 1,137 ตัว พร้อมหลอดไฟจำนวน 6,612 ดวง
การแสดงครั้งนี้ยังได้นำเสนอแง่มุมที่สะท้อนวัฒนธรรม ศิลปะ และดนตรีประจำภูมิภาคด้วย โดยก่อนที่นาฬิกาจะถึงเลข 12 ภาพแอนิเมชันบนตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ได้พลิกโฉมตึกนี้ให้กลายเป็นเครื่องดนตรีอู๊ด ซึ่งดีดสายไปตามจังหวะเสียงเพลงแบบอาหรับ หลังจากนั้นเป็นการแสดงภาพมวลดอกไม้กำลังเบ่งบานอันงดงาม เพื่อเสริมชั้นเชิงและความงดงามให้กับการแสดงนี้ นอกเหนือจากการแสดงดังกล่าวแล้วยังมีการชูความกลมเกลียวระหว่างพันธมิตรด้วย โดยมีการประดับธงชาติจากกลุ่มประเทศ GCC ไว้บนด้านหน้าของอนุสาวรีย์แห่งนี้ เพื่อร่วมฉลองสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างประเทศเหล่านี้
หลังจากได้รับการเรียกร้องอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน Emaar ก็ได้มอบโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกได้นำความปรารถนาในปีใหม่ของพวกเขา ขึ้นไปปรากฏบนจอแอลอีดีของตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ในงานฉลอง Emaar NYE 2020 ครั้งนี้ด้วย ซึ่งแคมเปญทางโซเชียลมีเดีย "Burj Wishes" ของการแสดงครั้งนี้ เข้าถึงชาวโซเชียลนับหมื่นคน โดยผู้ที่มีส่วนร่วมในแคมเปญต่างโพสต์ความปรารถนาของพวกเขาผ่านทางทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก หรืออินสตาแกรมของ Emaar @EmaarDubai พร้อมติดแฮชแท็ก #EmaarNYE2020
แคมเปญทางโซเชียลมีเดีย NYE 2020 ของ Emaar ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง TikTok นับเป็นการสานต่อความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างสองแบรนด์นี้ ด้วยกิจกรรมชาเลนจ์ TikTok 2020makeawish ของ Emaar โดยเข้าถึงผู้ใช้กว่า 30 ล้านคนที่ต่างร่วมฉลองปีใหม่นี้ไปด้วยกัน
มร. Ahmad Matrooshi กรรมการผู้จัดการบริษัท Emaar Properties กล่าวว่า "พวกเรา Emaar มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในฐานะเจ้าภาพที่จัดงานนี้เพื่อให้ทั่วโลกได้สนุก ขณะที่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่นั้น เราก็มีวิสัยทัศน์ที่จะผลักดันนวัตกรรม ความก้าวหน้า และอนาคตที่มั่งคั่งต่อไปที่นี่ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโลก"
Emaar NYE 2020 นับเป็นรายการฉลองวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ซึ่งมีผู้ชมทั่วโลกมากที่สุดรายการหนึ่ง และออกอากาศสดผ่านทางเว็บไซต์ mydubainewyear.com และช่องยูทูบ EmaarDubai โดยสามารถชมงานนี้ได้อีกครั้งทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ mydubainewyear.com
No comments:
Post a Comment