บริษัทปัญญาประดิษฐ์ชั้นนำ machine Vantage ใช้ปัญญาประดิษฐ์และประสาทวิทยาศาสตร์ เพื่อหาวิธีการสื่อสารสาธารณะที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการรับมือกับโควิด-19
ท่ามกลางการระบาดครั้งใหญ่ระดับโลกของไวรัสโคโรนา
สิ่งหนึ่งที่เป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับรัฐบาล หน่วยงานสาธารณสุข ภาคธุรกิจ และภาคประชาชนได้แก่
การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดเกี่ยวกับวิธีการรับมือกับโรคระบาดดังกล่าว
บริษัท AI ชั้นนำ machine Vantage
(www.machinevantage.com)
ได้ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์และระบบการเรียนรู้ของเครื่องจักร
ร่วมกับองค์ความรู้ด้านประสาทวิทยาศาสตร์ขั้นสูง
เพื่อหารูปแบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพสูงในการรับมือกับวิกฤตด้านสุขภาพระดับนานาชาติครั้งนี้
โดยบริษัท machine Vantage มีความเชี่ยวชาญในการหาคำเปรียบเทียบที่เชื่อมโยงกับจิตไม่รู้สำนึก (non-conscious mind) ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดการตัดสินใจในชีวิตประจำวันกว่า 95%
“ประสาทวิทยาศาสตร์สอนเราว่า คำอุปมาคือ ‘ภาษาของจิตไม่รู้สำนึก’
และเป็นวิธีการที่ทรงพลังในการสื่อสารข้อมูลที่สำคัญ” Dr. A. K. Pradeep ผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัท machine Vantage กล่าว
“โดยพื้นฐานแล้ว คำอุปมาเป็นรูปแบบหนึ่งของ ‘ชวเลข’ สำหรับสมอง ซึ่งให้ความสำคัญกับข้อมูลลักษณะนี้เป็นอย่างยิ่ง
ด้วยการใช้อัลกอริทึมที่ได้จาก
AI การเข้าถึงคลังข้อมูลคำอุปมาขนาดใหญ่
และการใช้การเรียนรู้เชิงประสาทวิทยาศาสตร์
เราจึงสามารถหาคำอุปมาคำใหม่ที่มีความหมายและมีอิทธิพลที่สุด
เพื่อนำมาใช้ในการกล่าวถึงวิกฤตการณ์ไวรัสโคโรนา”
“คำอุปมาดังกล่าวได้แก่ ‘สุขภาพเชื่อมโยงกับทางเข้าออก’ (Health connects to Gateways)" Dr.
Pradeep กล่าว “เราจำแนกคำอุปมาออกเป็นสี่ระดับ และระบบ AI ของเราก็ได้จัดให้การใช้คำว่า ‘ทางเข้าออก’ ในเชิงอุปมา (Gateway Metaphor) นี้ เป็นคำ ‘อุบัติใหม่’ (Emergent) ซึ่งหมายความว่า คำอุปมาดังกล่าวกำลังได้รับความสำคัญในจิตไม่รู้สำนึก
เราหวังว่าจะทำให้การค้นพบนี้เป็นข้อมูลที่ทราบกันในระดับสากล เพื่อให้เราได้ทำหน้าที่ในส่วนของเราในการช่วยรับมือกับโรคนี้
ด้วยการทำให้การสื่อสารสาธารณะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”
Dr. Pradeep อธิบายว่าจิตไม่รู้สำนึกของคนเราเชื่อมโยงคำว่าสุขภาพ (Health) กับทางเข้าออก (Gateway) ในหลายแง่
โดยหลัก ๆ
แล้วได้แก่ แนวคิดที่ฝังอยู่ใน Getaway
Metaphor ดังนี้
A. สุขภาพคือประตู สู่ชีวิตที่ดีขึ้นและสิ่งที่มีความสำคัญ
B. ประตูสู่สุขภาพ คือเส้นทางที่สร้างสุขภาพและเอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดี
คำอุปมาทั้งสองแบบข้างต้นนี้จะเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่
“การทำลายสุขภาพคือการปิดประตูสู่อนาคตที่ดีกว่า” และ “เราจำเป็นต้องปิดประตูเพื่อการมีสุขภาพที่ดีท่ามกลางการระบาดของไวรัสโควิด-19”
เมื่อกล่าวถึง Gateway โดยปกติแล้วเราจะนึกถึงโครงสร้างทางกายภาพ เช่น ประตู ประตูรั้วเหล็ก
หรือสะพาน ขณะที่ในจิตไม่รู้สำนึกนั้น Gateway ถูกนึกคิดเป็นประตูเชิงอุปมา
ซึ่งอนุญาตหรือห้ามการเข้าออก ไวรัสอย่างเช่น โควิด-19 จึงเป็นเหมือนศัตรูที่ทำให้เกิดคำอุปมา
Gateway Metaphor ในจิตไม่รู้สำนึก
Dr. Pradeep ระบุแนวคิดการสื่อสารที่สำคัญหกประการที่เกิดจากคำอุปมา
Gateway Metaphor ดังนี้
1) เราจะล็อกประตู: การปิดเมืองและปิดชายแดนกลายเป็นเรื่องที่ยอมรับได้
2) เราจะได้รับการปกป้องอยู่ข้างในถ้าไม่ออกไปนอกประตู: การจำกัดการเดินทางกลายเป็นเรื่องยอมรับได้
3) ทุกคนต้องเคาะประตู: การตรวจสอบทุกคนที่จะเดินทางผ่านเข้ามากลายเป็นเรื่องที่คาดว่าจะต้องทำ
4) ประตูอาจต้องปิดสักพักหนึ่ง: การกักตุนเครื่องอุปโภคบริโภคกลายเป็นเรื่องที่ยอมรับได้
5) การรออยู่ข้างในอาจทำให้รู้สึกตึงเครียด: ขณะรออยู่ด้านในของประตู ควรจะต้องหาอะไรทำและใช้เวลาอย่างมีคุณค่า
6) ประตูจะต้องแข็งแกร่งและต้องมีการสร้างใหม่: ผู้ออกนโยบายและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะต้องคอยประเมินและปรับมาตรการและกระบวนการในการรับมืออย่างสม่ำเสมอ
“การเข้าใจวิธีการประมวลและตอบสนองของจิตไม่รู้สำนึกต่อข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าผ่านคำอุปมา
Gateway Metaphor เหล่านี้
ช่วยให้เราได้ทราบทิศทางที่สำคัญในการออกแบบและสื่อสารข้อความเกี่ยวกับโรคนี้แก่สาธารณะ” Dr. Pradeep กล่าว
ข้อมูลค้าปลีกเกี่ยวกับรูปแบบการจับจ่ายของผู้บริโภคยืนยันว่า
คำอุปมา Gateway Metaphor ได้เกิดขึ้นในจิตไม่รู้สำนึก การกักตุนเครื่องอุปโภคบริโภคพื้นฐานอย่างกระดาษชำระและอาหารกระป๋อง
สื่อถึงแนวคิดการสื่อสารที่ว่า
“ประตูอาจถูกปิดสักพักหนึ่ง” ขณะที่การควานหาสื่อบันเทิง อย่างเช่น เกม ซีดี และดีวีดี สะท้อนแนวคิดการสื่อสารที่ว่า “การรออยู่ข้างในอาจทำให้รู้สึกตึงเครียด” ซึ่งเกิดขึ้นในจิตไม่รู้สำนึกเช่นกัน
“ขณะที่มีความกังวลเกี่ยวกับโรคระบาดครั้งใหญ่นี้เพิ่มขึ้น
ผู้ออกนโยบายสาธารณะ ผู้ให้บริการด้านสุขภาพ นักการตลาดของแบรนด์สินค้าคอนซูมเมอร์
และฝ่ายอื่น ๆ ควรพิจารณาใช้คำอุปมา Gateway Metaphor ทั้งเพื่อสื่อสารและให้ความรู้แก่สาธารณะ” Dr. Pradeep กล่าว
“เราต้องการมีส่วนช่วยเหลือทั่วโลกในการต่อสู้กับไวรัส
ด้วยการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการค้นพบเรื่อง Gateway Metaphor แก่ผู้ปฏิบัติงานในแนวหน้า”
No comments:
Post a Comment