RF Fund Management ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือ RF International Holdings เปิดเผยว่า ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ได้อนุมัติคำขอการเริ่มต้นธุรกิจของบริษัท ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนจดทะเบียน เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวปูทางให้ RF Fund Management สามารถเริ่มบริหารกองทุนไพรเวทอิควิตี้มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยการมุ่งเน้นไปที่เศรษฐกิจดิจิทัล กองทุนดังกล่าวจะสนับสนุนการยกระดับบทบาทของสิงคโปร์ในฐานะศูนย์กลางการจัดการกองทุนระดับสากล ภายใต้กรอบการดำเนินงาน Variable Capital Companies (VCC) ที่ธนาคารกลางสิงคโปร์เพิ่งเปิดตัว
Eric Neo Say Wei ประธานบริหารกลุ่มธุรกิจ RF International Holdings และกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหารของ RF Fund Management กล่าวว่า "เรามีวิสัยทัศน์ในการสร้างโอกาสและความมั่งคั่งข้ามพรมแดนที่ยั่งยืนให้กับทุกคน ด้วยกองทุนไพรเวทอิควิตี้นี้ เราจะใช้กลยุทธ์โครงสร้างนวัตกรรมซึ่งจะเน้นเร่งการเพิ่มมูลค่าของเงินทุนในระดับสูง เพื่อเฟ้นหา บ่มเพาะ และลงทุนในธุรกิจ SME และสตาร์ทอัพ พร้อมช่วยให้นักลงทุนของเราและธุรกิจเหล่านี้เดินหน้าได้เต็มศักยภาพ และสอดคล้องกับงบประมาณของสิงคโปร์ปี 2563"
กระทรวงการคลังสิงคโปร์ (MoF) ได้จัดสรรงบประมาณถึง 8.3 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในช่วง 3 ปีข้างหน้า เพื่อปูทางสู่การเปลี่ยนผ่านและเร่งการเติบโตของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ทางกระทรวงยังได้จัดสรรเงินอีก 300 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพในภาคเทคโนโลยีขั้นสูงโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย Startup SG Equity ของรัฐบาล
Eric กล่าวว่า "สิ่งที่เราเห็นจากกระทรวงการคลังสิงคโปร์คือการมุ่งเน้นไปที่อนาคต ด้วยนโยบาย 'สร้างนิยามใหม่แห่งโลกอนาคต' รวมถึงความมุ่งมั่นของเราเพื่อใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการดำเนินการด้านการบริหารจัดการกองทุน อาทิ Distributed Ledger Technology และ Smart Contract เราหวังที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการเงินในสิงคโปร์"
สิงคโปร์มีบริษัทสตาร์ทอัพเทคโนโลยีประมาณ 3,800 แห่งทั่วประเทศ แต่คุณ Eric เสริมว่า "อย่างไรก็ตาม สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีหลาย ๆ แห่งยังต้องเผชิญกับความยากลำบากในการหานักลงทุนเชิงกลยุทธ์ เพราะคนกลุ่มนี้จะช่วยผลักดันการเติบโตของสตาร์ทอัพ อย่างไรก็ดี การดำเนินการจะต้องเชื่อถือได้ มีความยืดหยุ่น และยั่งยืน"
RF International Holdings ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ RF Fund Management ได้สนับสนุนระบบนิเวศสตาร์ทอัพดิจิทัลของสิงคโปร์มากกว่าแค่การสนับสนุนเงินหรือทุน RF International Holdings เป็นนักลงทุนระยะแรกของ iSTOX ซึ่งก่อตั้งและบริหารโดย ICHX Tech และกำกับดูแลโดยธนาคารกลางสิงคโปร์ โดยทาง RF International Holdings ได้ลงทุนเชิงกลยุทธ์มูลค่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2562 ส่งผลให้กลายเป็นผู้ถือหุ้นภายนอกอันดับที่ 3 ของ ICHX หรือเป็นรองเพียงตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และ Heliconia Capital ซึ่งเป็นธุรกิจของเทมาเส็ก
คุณ Eric กล่าวว่า "เราอยู่ในทุกช่วงของการเติบโต ตั้งแต่การเข้าครอบครองกิจการใหม่และกลยุทธ์การเจาะตลาด ไม่ว่าจะเป็นจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ หรือชาติอื่น ๆ ในอาเซียน ไปจนถึงการสนับสนุนและผลักดันราคาให้สูงขึ้น ระบบนิเวศของเราเปิดทางให้ SME และสตาร์ทอัพต่าง ๆ สามารถนำไอเดียไปต่อยอดได้ผ่านการลงทุน การให้คำแนะนำ และการใช้ประโยชน์จากเศรษฐกิจดิจิทัล เราขอเชิญให้นักลงทุนที่มีแนวคิดเหมือนกันกับเรา ให้เข้ามาร่วมสร้างการเติบโตให้กับ SME และสตาร์ทอัพเหล่านี้ไปด้วยกัน"
เกี่ยวกับ RF Fund Management:
RF Fund Management ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือ RF International Holdings เป็นบริษัทจัดการกองทุนที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารกลางสิงคโปร์ ซึ่งถูกต้องตามหลักมโนธรรมและมีหน้าที่สนับสนุนคนรุ่นปัจจุบันและคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ ทางบริษัทให้ความสำคัญกับสถาบันมากกว่าตัวบุคคล พร้อมเน้นย้ำถึงความยั่งยืน และพาพนักงานและนักลงทุนไปสู่โลกการเงินหรือความสนใจของชุมชนตามวัฎจักรเศรษฐกิจต่าง ๆ
ด้วยทีมผู้นำการลงทุนที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมรวมกันกว่า 60 ปี เราหวังที่จะได้ 'สร้างนิยามใหม่แห่งอนาคต' ให้กับเศรษฐกิจดิจิทัลในอุตสาหกรรมการจัดการสินทรัพย์
RF International Holdings เป็นกลุ่มบริษัทการเงินดิจิทัลที่เน้นการใช้เทคโนโลยีในระดับโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rf.com.sg/ หรือ https://www.linkedin.com/company/rf-fund-management/
No comments:
Post a Comment