ZTE Corporation (0763.HK / 000063.SZ) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันโทรคมนาคมและเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตมือถือสำหรับองค์กรและผู้บริโภค ประกาศในวันนี้ว่า คุณ Chen Zhiping รองประธานและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการสร้างแบรนด์ของ ZTE ได้ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "เส้นทางดิจิทัลเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน" (A Digital Road to Carbon Neutrality) พร้อมแบ่งปันวิธีที่ ZTE ใช้ช่วยเหลือบริษัทในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในการประหยัดพลังงาน ลดการปล่อยมลพิษ และส่งเสริมการตระหนักถึงเป้าหมายของสังคมในการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลของ ZTE บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน
คุณ Chen กล่าวว่า "เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและความท้าทายด้านการประหยัดพลังงานและการลดการปล่อยมลพิษในอุตสาหกรรมทั้งหมด เราเชื่อว่าการทำให้เป็นดิจิทัลจะช่วยเหลืออุตสาหกรรมดั้งเดิมได้"
ในฐานะผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ZTE ใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อปูทางสู่เส้นทางเศรษฐกิจดิจิทัลสีเขียว และส่งเสริมความสำเร็จของเป้าหมายคาร์บอนแบบคู่ผ่านการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซัพพลายเชนสีเขียว โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสีเขียว และอุตสาหกรรมสีเขียว
เนื้อหาปาฐกถาฉบับเต็มของคุณ Chen มีดังนี้
ในปี 2563 นอกจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว คุณรู้สึกได้บ้างหรือเปล่าว่าอุณหภูมิผิดปกติไป ในเดือนมิถุนายน 2563 เมืองแห่งหนึ่งในไซบีเรียแถบอาร์กติกเซอร์เคิลมีอุณหภูมิสูงถึง 38 องศา ซึ่งเป็นอุณหภูมิสูงสุดในอาร์กติกเซอร์เคิลที่เคยมีการบันทึกไว้ หากอุณหภูมิโลกถูกจำกัดมิให้สูงขึ้นเกิน 1.5 องศาแล้ว เราก็จะหลีกเลี่ยงการสูญเสียและความเสี่ยงจำนวนมากที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้
ปัจจุบัน ความเป็นกลางทางคาร์บอนได้กลายเป็นฉันทามติทั่วโลก
นับจนถึงเดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา 137 ประเทศทั่วโลกได้เสนอเป้าหมายในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน ขณะที่องค์กรมากกว่า 1,200 แห่งได้ให้คำมั่นที่จะเข้าร่วมกับ SBTi โดยมียักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารระดับโลกเป็นผู้นำในการกำหนดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์เพื่อทำให้คาร์บอนเป็นศูนย์ และประเทศจีนเองก็ได้ประกาศความมุ่งมั่นและเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนไว้ด้วยเช่นกัน
เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน
หากเราต้องการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนทั่วโลก อุตสาหกรรมดั้งเดิมจะต้องเผชิญกับความท้าทายที่มากขึ้นในการลดปริมาณการบริโภค อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารคิดเป็น 2% ของการปล่อยคาร์บอนทั้งหมดในโลกทุกปี โดยเมื่อโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลมีการใช้งานมากขึ้น การลดการปล่อยมลพิษของธุรกิจยังเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก ขณะที่ ITU (International Telecommunication Union) ประกาศว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจะลดการปล่อยมลพิษลง 45% ภายในปี 2573
การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้เทคโนโลยี 5G บิ๊กดาต้า การประมวลผลคลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เทคโนโลยีดิจิทัลถูกนำไปใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นในทุกด้านของการดำเนินชีวิต
เรายกระดับประสิทธิภาพของการจัดสรรทรัพยากร การผลิต และคุณภาพชีวิตได้ ผ่านการเชื่อมต่อข้อมูล การจัดเก็บ การคำนวณ และการนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อมูลการวิจัยจำนวนมากแสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยให้อุตสาหกรรมอื่น ๆ ลดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับการปล่อยคาร์บอนของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เราจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน
ZTE ขอเป็นตัวอย่างโดยเลือกใช้เส้นทางการพัฒนาสีเขียวในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล
ในฐานะผู้ปฏิบัติงานด้านการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในเชิงบวก ZTE ส่งเสริมการจัดการด้านการปกป้องสิ่งแวดล้อมในสำนักงานและการปฏิบัติงานด้านการผลิต เพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
บริษัทได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนขององค์กร เช่น การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์ทรัพยากรและพลังงาน ผ่านการเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง
การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต (บ่มเร่งด้วยความร้อน) ทำให้ประหยัดพลังงานต่อปีได้กว่า 30 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง เราเริ่มการจัดการการติดตามการปล่อยคาร์บอนตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ทั้งหมด เราส่งเสริมเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะและระบบไฟอัจฉริยะเพื่อลดการใช้ไฟฟ้า และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่สะดวกสบายสำหรับพนักงานในคราวเดียวกัน การผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทำให้มีปริมาณไฟฟ้าต่อปีเกิน 3 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง นอกจากนี้ บริษัทยังทำงานร่วมกับผู้ให้บริการด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลกมากกว่า 160 ราย เพื่อสร้างเครือข่ายวัฏจักรสีเขียวทั่วโลก
เป้าหมายด้านคาร์บอนของเรายังขึ้นอยู่กับกระบวนการแยกคาร์บอนออกจากผลิตภัณฑ์และบริการต้นทางอีกด้วย เรากำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรต้นทางและปลายทาง เพื่อร่วมกันบรรลุการประหยัดพลังงานและลดการปล่อยมลพิษในการเลือกวัสดุ การรีไซเคิลวัสดุ และการขนส่ง
จนถึงปัจจุบัน ซัพพลายเออร์ชั้นนำกว่า 40 รายได้พัฒนาแผนกลยุทธ์การลดคาร์บอน ซัพพลายเออร์ส่วนใหญ่จะมาจากพันธมิตรที่มีความมุ่งมั่นในเป้าหมายระยะเวลา 5-10 ปีข้างหน้า การจัดการระบบจัดซื้อยังช่วยส่งเสริมการลดก๊าซคาร์บอนสำหรับซัพพลายเออร์ในหลาย ๆ ด้านอย่างจริงจัง ยกระดับความสามารถในการแข่งขันด้านการพัฒนาที่สร้างคาร์บอนปริมาณต่ำและยั่งยืนอย่างต่อเนื่องในซัพพลายเชนของเรา
โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสีเขียวช่วยให้ผู้ประกอบการสร้างเครือข่ายการปล่อยคาร์บอนปริมาณต่ำ
สำหรับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแล้ว ไซต์แบบไร้สายและศูนย์ข้อมูลมีสัดส่วนการใช้พลังงานมากที่สุด การปล่อยก๊าซคาร์บอนนั้นทำให้ลดลงได้โดยการใช้พลังงานสีเขียว การสร้างไซต์สีเขียว และศูนย์ข้อมูลสีเขียว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกระบวนการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของเครือข่ายการสื่อสาร ZTE ได้นำเสนอเครือข่ายพลังงาน "คาร์บอนเป็นศูนย์" รูปแบบใหม่ภายใต้แนวคิด "ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีประสิทธิภาพ ชาญฉลาด และเชื่อถือได้" เพื่อเพิ่มสัดส่วนของการใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น
ปริมาณการสื่อสารที่เพิ่มขึ้นทุกปี และการใช้งาน 5G ที่มีอยู่มาก ทำให้สัดส่วนของการใช้พลังงานของไซต์ต่อการใช้พลังงานของเครือข่ายทั้งหมดนั้นเกิน 45% ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการลดการปล่อยมลพิษ
ในฐานะซัพพลายเออร์อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารชั้นนำ ZTE Corporation ได้รวมแนวคิดเรื่องการปกป้องสิ่งแวดล้อมและการสร้างคาร์บอนปริมาณต่ำไว้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ของไซต์งาน และการนำโซลูชันเหล่านี้ไปใช้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่องสำหรับการสร้างไซต์งานสีเขียว
ขณะเดียวกัน ความก้าวหน้าในด้านบริการข้อมูลและบริการคลาวด์ที่หลากหลาย ยังทำให้ศูนย์ข้อมูลเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการใช้พลังงาน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ไอที อุปกรณ์ทำความเย็น ระบบจ่ายไฟและระบบแจกจ่าย รวมถึงอุปกรณ์ให้แสงสว่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์ไอทีและอุปกรณ์ทำความเย็นที่ใช้พลังงานไปกว่า 80% ของการใช้พลังงานทั้งหมด อย่างไรก็ตาม โซลูชัน ZEGO ของ ZTE ช่วยแก้ปัญหาการใช้พลังงานของอุปกรณ์เหล่านี้ได้
ในปัจจุบัน โซลูชัน UniSite, PowerPilot และ iEnergy ที่ ZTE นำเสนอผ่านแนวปฏิบัติด้านดิจิทัล ได้ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในเครือข่ายของผู้ให้บริการทั่วโลก ซึ่งช่วยให้พวกเขาประหยัดและลดการใช้พลังงานได้
- ZTE ปรับใช้โซลูชัน UniSite+ ในประเทศสเปน ซึ่งเป็นโซลูชันไซต์ที่ใช้งานง่ายที่สุดในอุตสาหกรรมปัจจุบัน ทำให้ลด radio unit ลงได้ 60% และประหยัดพลังงานมากขึ้น 30% เมื่อเทียบกับโซลูชันแบบดั้งเดิม
- บริษัทประสบความสำเร็จในการเปิดตัวโซลูชันประหยัดพลังงาน PowerPilot AI ในมาเลเซีย ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 7 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี
- ด้วยความร่วมมือกับลูกค้า ZTE ได้สร้างศูนย์ข้อมูลย่อยแบบแยกส่วนอัจฉริยะที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียในเขตผิงซาน เมืองเซินเจิ้น โดยประหยัดพลังงานได้มากกว่า 60 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงในแต่ละปี
ความร่วมมือกับลูกค้าและพันธมิตรเพื่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในการประหยัดพลังงานและลดการปล่อยมลพิษ
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ZTE ได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการและบริษัทชั้นนำของอุตสาหกรรม ในการสำรวจสถานการณ์การใช้งานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และสร้างวิธีการปฏิบัติรูปแบบใหม่ที่นำไปทำซ้ำในสเกลใหญ่ได้
- เพื่อเป็นการแนะนำการใช้งานพลังงานสีเขียว China Southern Power Grid ร่วมกับ China Mobile และ ZTE ได้สร้างโซนสาธิตขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับการใช้งานสมาร์ทกริด 5G ในประเทศจีนในเขตหนานซาของเมืองกวางโจว บริการดังกล่าวช่วยผลกระทบของการเข้าถึงพลังงานใหม่บนโครงข่ายไฟฟ้าได้อย่างมาก ขณะที่ความน่าเชื่อถือในการส่งพลังงานหมุนเวียนจะเพิ่มขึ้นสี่เท่าในอนาคตข้างหน้า
- สำหรับอุตสาหกรรมถลุงแร่ที่ใช้พลังงานสูง ZTE และ Aluminium Corporation of China ประสบความสำเร็จในการนำเทคโนโลยี 5G มาใช้ ซึ่งช่วยประหยัดไฟฟ้าได้มากกว่า 90 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงในแต่ละปี
- สำหรับอุตสาหกรรมการขนส่ง ZTE และ Guangzhou Mobile ได้เปิดตัวเมืองสาธิตการขนส่งอัจฉริยะ 5G แห่งแรกของโลก ซึ่งรวมถึงรถไฟอัจฉริยะความเร็วสูง รถไฟใต้ดินอัจฉริยะ สายส่งรถบัส 5G การเชื่อมโยงเครือข่ายอัจฉริยะ 5G และการตรวจสอบนโยบายถนน 5G ส่งผลให้ประสิทธิภาพการขนส่งโดยรวมเพิ่มขึ้น 10%
นอกจากนี้ ในอุตสาหกรรมการผลิต ZTE ยังได้สร้างโรงงานอัจฉริยะ 5G ระดับโลกในเขตปิ่นเจียง เมืองหนานจิง ซึ่งเป็นโรงงานสาธิตสำหรับแนวคิด "การผลิตอัจฉริยะโดยเทคโนโลยี 5G" ทำให้ลดการใช้พลังงานลง 40% สร้างตัวอย่างเชิงสาธิตด้านการประหยัดพลังงานและการลดการปล่อยมลพิษสำหรับการผลิตขั้นสูง
ปัจจุบัน ZTE และพันธมิตรยังคงดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยใช้ 5G+ อย่างต่อเนื่อง และได้ดำเนินโครงการสาธิตมากกว่า 60 โครงการทั่วโลก
ZTE นำกลยุทธ์ความเป็นกลางทางคาร์บอนมาใช้อย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการประหยัดพลังงานและลดการปล่อยมลพิษในการผลิตและการดำเนินงานขององค์กร ช่วยผู้ประกอบการในการสร้างเครือข่ายคาร์บอนต่ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร และส่งเสริมอุตสาหกรรมแนวตั้งอย่างแข็งขันเพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงานและลดการปล่อยมลพิษ จนถึงตอนนี้ ZTE ได้ปรับใช้สิทธิบัตรนวัตกรรม 5G ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า 500 รายการ เพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงานด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยี และสร้างเครือข่ายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ในอนาคต ZTE จะยังคงวิจัยพลังงานใหม่ วัสดุใหม่ และส่วนประกอบใหม่ เพื่อสร้างความก้าวหน้าในเทคโนโลยีหลัก วางรากฐานทางเทคนิคที่มั่นคงสำหรับโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยกระดับความลึกและครอบคลุมของเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับอุตสาหกรรมดั้งเดิมที่จำเป็นต้องใช้พลังงานสูง นอกจากนี้ ZTE จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพ การประหยัดพลังงาน และการลดการใช้พลังงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และช่วยให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนทั้งหมดในสังคม
การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนนั้น ต้องใช้กระบวนการระยะยาวและความพยายามร่วมกันของทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรม ZTE ร่วมกับพันธมิตรระดับโลก มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างเส้นทางดิจิทัลสีเขียวด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่ออนาคตที่สดใส
No comments:
Post a Comment