จีเอ็มจี (GMG) บริษัทด้านการส่งเสริมสุขภาวะระดับโลก ซึ่งจัดจำหน่าย กระจาย และผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับสากลและแบรนด์ในประเทศ ครอบคลุมทั้งหมวดกีฬา อาหาร และสุขภาพ ได้เข้าซื้อกิจการร้านค้าปลีกไนกี้จากบริษัทจำหน่ายอุปกรณ์กีฬาในเครือของเอสยูทีแอล คอร์ปอเรชัน (SUTL Corporation) หรือเอสยูทีแอล ("SUTL") บริษัทผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคและไลฟ์สไตล์ชั้นนำให้กับแบรนด์ระดับโลกในเอเชีย
ตามข้อตกลงดังกล่าว จีเอ็มจีจะเป็นผู้ถือครองและบริหารงานร้านของไนกี้ทุกแห่งในสิงคโปร์และมาเลเซียที่เอสยูทีแอล คอร์ปอเรชัน บริหารงานอยู่ในปัจจุบัน โดยในพิธีลงนาม ผู้บริหารระดับสูงจากทั้งสองบริษัทได้ร่วมเป็นสักขีพยาน อาทิ คุณโมฮัมหมัด เอ เบเกอร์ (Mohammad A. Baker) รองประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีเอ็มจี, คุณคาพิล เศรษฐี (Kapil Sethi) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณประทีป จันทรเศขราญ (Pradeep Chandrasekharan) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของบริษัทจีเอ็มจี พร้อมด้วยคุณอาร์เธอร์ เทย์ (Arthur Tay) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, คุณเตียว จู เล้ง (Teo Joo Leng) ผู้จัดการทั่วไป และคุณอเล็กซ์ เทย์ (Alex Tay) ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจกลุ่มบริษัทเอสยูทีแอล
คุณโมฮัมหมัด เอ เบเกอร์ รองประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีเอ็มจี กล่าวว่า "การเข้าซื้อกิจการร้านไนกี้ของเอสยูทีแอลนับเป็นอีกก้าวที่สำคัญในเส้นทางการเติบโตของเรา ซึ่งไม่ได้เป็นแค่การเข้าซื้อกิจการร้านค้าปลีกเพิ่มอีก แต่ยังเป็นโอกาสในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานะของบริษัทในเอเชีย ทำให้เราสามารถประสานความร่วมมือที่มีมายาวนานกับไนกี้ และขยายธุรกิจในเอเชียให้กว้างขวางขึ้น"
จีเอ็มจีได้นำแบรนด์มากกว่า 120 แบรนด์ออกสู่ตลาด โดยส่งเสริมไลฟ์สไตล์เพื่อการมีสุขภาพที่ดีและแอคทีฟยิ่งขึ้นในกลุ่มธุรกิจทั้งสี่ ได้แก่ จีเอ็มจี สปอร์ตส์, จีเอ็มจี ฟู้ด, จีเอ็มจี เฮลท์ และจีเอ็มจี คอนซูเมอร์ กู้ดส์ ธุรกิจเหล่านี้อยู่ภายใต้วิสัยทัศน์ที่มีเป้าหมายเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้จีเอ็มจีได้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนเอาชนะตนเองเพื่อสร้างโลกที่ดีกว่าเดิม
ทางด้านคุณอาร์เธอร์ เทย์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอสยูทีแอล แสดงความเห็นเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ว่า "จากการเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา เราขอขอบคุณไนกี้อย่างสุดซึ้งที่ให้โอกาสเราได้นำแบรนด์มาสานต่อความสำเร็จให้มากยิ่งขึ้น เราได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อขยายธุรกิจร้านของไนกี้ออกสู่ตลาดเหล่านี้ และเชื่อว่าตอนนี้คือช่วงเวลาที่ดีสำหรับการต่อยอดความสำเร็จโดยส่งไม้ต่อให้กับบริษัทที่มีวิสัยทัศน์อย่างจีเอ็มจี เพื่อยกระดับความสำเร็จไปอีกขั้น"
ทั้งนี้ เอสยูทีแอลได้รับการแต่งตั้งจากไนกี้ให้เป็นหนึ่งในสามผู้ดำเนินการร้านค้าของไนกี้เมื่อปี 2553 โดยมีร้านไนกี้ที่บริหารงานอยู่สามแห่ง ต่อมาได้กลายเป็นผู้ดำเนินการแต่เพียงผู้เดียวสำหรับร้านไนกี้ในสิงคโปร์และมาเลเซีย โดยได้ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตในทั้งสองตลาด ส่วนความสำเร็จที่โดดเด่นในช่วงที่ผ่านมาของเอสยูทีแอลนั้น ได้แก่ การเปิดร้านไนกี้ จีเวล (Nike Jewel) ที่ท่าอากาศยานชางงีในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นร้านไนกี้ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (รวมอินเดีย) เมื่อปี 2562 และการเปิดไนกี้ พาวิลเลียน (Nike Pavilion) ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย ซึ่งเป็นร้านค้าของไนกี้ภายใต้แนวคิด Nike Rise แห่งแรกในมาเลเซียเมื่อปี 2564
- จบ -
เกี่ยวกับจีเอ็มจี
จีเอ็มจี คือบริษัทด้านการส่งเสริมสุขภาวะระดับโลก ซึ่งจัดจำหน่าย กระจาย และผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับสากลและแบรนด์ในประเทศ ครอบคลุมทั้งหมวดกีฬา อาหาร และสุขภาพ บริษัทมีวิสัยทัศน์ในการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนเอาชนะตนเองเพื่อสร้างโลกที่ดีกว่าเดิม ปัจจุบัน จีเอ็มจีลงทุนใน 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ จีเอ็มจี สปอร์ตส์, จีเอ็มจี ฟู้ด, จีเอ็มจี เฮลท์ และจีเอ็มจี คอนซูเมอร์ กู้ดส์ ทั้งนี้ บริษัทอยู่ในความครอบครองและอยู่ภายใต้การบริหารของครอบครัวเบเกอร์ และก้าวขึ้นเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก โดยมีการร่วมมือกับแบรนด์ดังที่ประสบความสำเร็จระดับโลกมากมาย ปัจจุบัน จีเอ็มจีนำเสนอสินค้ากว่า 120 แบรนด์ในตลาดต่าง ๆ ทั่วตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ และเอเชีย
กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด:
https://gmg.com/
https://www.instagram.com/gmgvoice/
https://twitter.com/gmgvoice
https://www.facebook.com/GMGVoice/
https://www.linkedin.com/company/gmg-group
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ : gmg@bcw-global.com
เกี่ยวกับเอสยูทีแอล คอร์ปอเรชัน ("SUTL")
เอสยูทีแอลมีธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มไลฟ์สไตล์ และกลุ่มสิ่งแวดล้อม โดยเป็นหนึ่งในบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีสถานะแข็งแกร่งมากที่สุดในสิงคโปร์ ซึ่งจัดจำหน่ายสินค้าหลากหลายกลุ่ม ได้แก่ สินค้าในชีวิตประจำวัน ผลิตภัณฑ์ด้านความงามและน้ำหอม รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนและสินค้าหรูมากมาย ภายใต้การบริหารงานของกลุ่มธุรกิจการสันทนาการ (Leisure) เอสยูทีแอลยังเป็นเจ้าของและบริหารงานเครือข่ายร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดของเคเอฟซีในเวียดนาม บริษัทยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทเอสยูทีแอล เอนเตอร์ไพรซ์ ลิมิเต็ด (SUTL Enterprise Limited) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และเป็นผู้พัฒนา ผู้ดำเนินการ และที่ปรึกษาด้านธุรกิจท่าเทียบเรือระดับชั้นนำแบบครบวงจร ตลอดจนเป็นเจ้าของแบรนด์ ONE?15
กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด:
เว็บไซต์: https://www.sutl.com/
เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/sutllife/
ลิงด์อิน: https://www.linkedin.com/company/sutl-group-of-companies/
อินสตาแกรม: https://www.instagram.com/sutllife/
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ : marcomms@sutl.com
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1805847/GMG_1.jpg
No comments:
Post a Comment