Wednesday, June 29, 2022

โกชันไฮเทคทุ่มทุนสร้างฐานการผลิตในยุโรป ด้วยกำลังการผลิต 18 กิกะวัตต์ชั่วโมง/ปี


  • ฐานการผลิตของโกชันไฮเทคที่ตั้งอยู่ในเมืองเกิททิงเงิน ตั้งเป้าดันกำลังการผลิตแตะระดับเป้าหมายที่ 6 กิกะวัตต์ชั่วโมง/ปี ในเฟสแรก และอีก 12 กิกะวัตต์ชั่วโมง/ปี ในเฟสที่ 2 ตามลำดับ ซึ่งจะเปิดทางสู่การผลิตแบตเตอรี่ของโกชันในยุโรปได้
  • นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวเจนโดม แบรนด์อุปกรณ์กักเก็บพลังงานแบบพกพาแบรนด์แรกที่เข้าตีตลาดต่างประเทศ ณ ฐานการผลิตเมืองเกิททิงเงิน และเตรียมที่จะเดินสายการผลิตในเมืองดังกล่าวด้วย

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน โกชันไฮเทค (Gotion High-Tech) ได้จัดการประชุมเศรษฐกิจพลังงานใหม่ (New Energy Economic Forum) ครั้งที่ 5 พร้อมกับจัดพิธีเปิดโกชัน เยอรมนี (Gotion Germany) ณ ฐานการผลิตในเมืองเกิททิงเงิน ซึ่งถือเป็นฐานการผลิตแบตเตอรี่และฐานการดำเนินธุรกิจของโกชันแห่งแรกในยุโรป โดยคาดว่าจะได้เริ่มเห็นการปฏิรูปภายในสิ้นปีนี้ หลี่ เจิ้น (Li Zhen) ประธานของโกชัน เปิดเผยว่า โกชันได้ผสมผสานเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูงของจีนเข้ากับกระบวนการด้านวิศวกรรมขั้นสูงของเยอรมนีอย่างลงตัว ซึ่งช่วยเปิดทางสู่การผลิตแบตเตอรี่ของโกชันในยุโรปได้ ในโอกาสนี้ โกชันไฮเทคยังได้เปิดตัวเจนโดม (GenDome) อุปกรณ์กักเก็บพลังงานแบบพกพาสำหรับจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ และเจนด็อค 3000 (Gendock 3000) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์กักเก็บพลังงานเคลื่อนที่แบบพกพาตัวแรกของบริษัทในเวลาเดียวกัน

โอกาสนี้ อู๋ เคน (Wu Ken) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มของจีนประจำเยอรมนี, สเตฟาน วีล (Stephan Weil) มุขมนตรีรัฐโลว์เวอร์แซกโซนี เยอรมนี, เปตรา บรอยสเต็ดท์ (Petra Broistedt) นายกเทศมนตรีเมืองเกิททิงเงิน, หลัว หยุนเฟิง (Luo Yunfeng) นายกเทศมนตรีเทศบาลเหอเฟย และหลี่ เจิ้น ประธานโกชันไฮเทค ได้ให้เกียรติร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีด้วย

ฐานการผลิตในเมืองเกิททิงเงินซึ่งมีกำลังการผลิต 6 กิกะวัตต์ชั่วโมง/ปี ในเฟสแรก คาดว่าจะเริ่มเห็นการปฏิรูปภายในสิ้นปีนี้

ฐานการผลิตในเมืองเกิททิงเงินมีพื้นที่ทั้งหมดราว 174,000 ตร.ม. และมีพื้นที่เฉพาะส่วนที่เป็นอาคารรวมประมาณ 40,000 ตร.ม. ซึ่งตามแผนแล้ว โครงการนี้จะแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 เฟสด้วยกัน กล่าวคือโรงงานบราวน์ฟิลด์และโรงงานกรีนฟิลด์ โดยมีเป้าหมายการผลิตที่ระดับ 6 กิกะวัตต์ชั่วโมง/ปี และ 12 กิกะวัตต์ชั่วโมง/ปี ตามลำดับ สำหรับโรงงานบราวน์ฟิลด์ซึ่งเป็นเฟสแรกนั้นคาดว่าจะมีการปฏิรูปอย่างเป็นทางการภายในสิ้นปี 2565 และสายการผลิตแรกที่มีกำลังการผลิต 3.5 กิกะวัตต์ชั่วโมง/ปีจะเริ่มเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2566 ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายกำลังการผลิตที่ 18 กิกะวัตต์ชั่วโมง/ปีได้ หลังจากที่โรงงานบราวฟิลด์และโรงงานกรีนฟิลด์เปิดดำเนินงานอย่างเต็มกำลัง

ดร.อาเหม็ด ท็อปทาส  (Dr. Ahmet Toptas) หัวหน้าโรงงานเกิททิงเงินของโกชัน เยอรมนี เปิดเผยว่า ฐานการผลิตในเกิททิงเงินจะมุ่งเน้นไปที่ด้านผลิตภัณฑ์ พร้อมตั้งเป้าหมายสูงสุดที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน ตลอดจนการสร้างทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในยุโรป

ฐานการผลิตซึ่งมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและเทคโนโลยีในตลาดพลังงานใหม่ของยุโรปแห่งนี้ จะทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่พลังงานใหม่เพื่อจัดจำหน่ายในตลาดยุโรป และดำเนินการผลิตแบตเตอรี่รถบัส แบตเตอรี่รถยนต์ แบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน การชาร์จพลังงานเคลื่อนที่ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกมากมาย โดยในอนาคตคาดว่าจะสามารถขยายความครอบคลุมไปถึงลูกค้าในภาคการกักเก็บพลังงาน รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล "ด้วยเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตขั้นสูงของโกชันไฮเทค ประกอบกับพนักงานชาวเยอรมนีผู้มากด้วยประสบการณ์ ตลอดจนการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด และข้อกำหนดคุณภาพสูงของยุโรป เราตั้งใจที่จะขยายบริการให้ครอบคลุมลูกค้าในภาคส่วนการกักเก็บพลังงาน ยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในอนาคต เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดพลังงานใหม่ในยุโรป และช่วยเร่งให้ธุรกิจของโกชันไฮเทคขยายตัวอย่างรวดเร็วในตลาดต่างประเทศ"

ผลิตภัณฑ์กักเก็บพลังงานแบบพกพาตัวแรกสำหรับจำหน่ายในตลาดต่างประเทศจะผลิตขึ้นที่เมืองเกิททิงเงิน

หลังจากที่ได้เปิดตัวแบตเตอรี่กึ่งแข็งและสถานีชาร์จพลังงานอัจฉริยะเคลื่อนที่ชุดแรกไปเมื่อเดือนพฤษภาคม โกชันไฮเทคก็ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่ใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในพิธีเปิดครั้งนี้ ฐานการผลิตเกิททิงเงินได้เปิดตัวเจนโดม ผลิตภัณฑ์กักเก็บพลังงานแบบพกพาตัวแรกสำหรับจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ และเจนด็อค 3000 ผลิตภัณฑ์กักเก็บพลังงานเคลื่อนที่แบบพกพาซึ่งมีความจุสูงตัวแรกที่สามารถเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมให้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการการใช้พลังงานในครัวเรือนและตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ในครัวเรือนและผู้ใช้งานกลางแจ้งเท่านั้น แต่ยังสามารถตอบสนองความต้องการด้านพลังงานของลูกค้าได้ถึง 99% พร้อมช่วยลดค่าไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลิตภัณฑ์กักเก็บพลังงานในครัวเรือนมีให้เลือก 3 รุ่นด้วยกัน ซึ่งได้รับการพัฒนาและผลิตโดยทีมธุรกิจระหว่างประเทศของโกชันไฮเทค ส่วนในอนาคต บริษัทจะมุ่งเป้าไปที่ตลาดยุโรปเป็นหลัก และในระยะต่อมาก็จะมีการผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในฐานการผลิตที่เมืองเกิททิงเงิน

ในวันเดียวกับที่มีพิธีเปิดนั้น การประชุมเศรษฐกิจพลังงานใหม่ครั้งที่ 5 ได้เปิดฉากขึ้น ณ ฐานการผลิตเกิททิงเงิน ซึ่งจัดขึ้นด้วยความร่วมมือของโกชันไฮเทค, คณะกรรมการ 100 (Committee of 100), มหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งบรันสวิก (Technical University of Braunschweig), เกิททิงเงิน เอ็มบีเอช (Goettingen mbH หรือ "GWG"), หอการค้าจีนประจำเยอรมนี (CHKD) และสถาบันยานยนต์แห่งมหาวิทยาลัยถงจี้ (School of Automobile of Tongji University) การประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่ประเด็นต่าง ๆ อาทิ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจจีน-ยุโรป การปฏิวัติพลังงาน การเปลี่ยนแปลงสู่การปล่อยคาร์บอนต่ำ และตลาดพลังงานใหม่ ซึ่งดึงดูดผู้บริหารระดับสูงของบริษัทที่มีชื่อเสียงมากมายในอุตสาหกรรมพลังงานใหม่มาร่วมภายในงาน ตลอดจนอาจารย์มหาวิทยาลัย นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่เศรษฐกิจและการเมืองที่เกี่ยวข้อง

หลี่ เจิ้น ประธานของโกชันไฮเทค เปิดเผยว่า การผสานรวมเทคโนโลยีจากจีนเข้ากับกระบวนการด้านวิศวกรรมของเยอรมนี ทำให้เราประสบความสำเร็จในการผลิตแบตเตอรี่ของโกชันในยุโรป

หลี่ เฉิน (Li Chen) ประธานธุรกิจระหว่างประเทศของโกชันไฮเทคได้กล่าวปิดท้ายว่า โกชันไฮเทคเป็นบริษัทระดับโลกที่ให้บริการโซลูชันด้านพลังงานแก่ซัพพลายเออร์ ลูกค้า และหุ้นส่วนอื่น ๆ ทั้งในและต่างประเทศ "เราไม่เพียงแต่มุ่งเน้นการพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่พลังงานใหม่ แต่ยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจ ToC ไปพร้อม ๆ กัน"

คุณหลี่ เฉิน เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 โกชันไฮเทคประสบความสำเร็จในการเปิดตัว E-PLUS สถานีชาร์จพลังงานอัจฉริยะเคลื่อนที่สำหรับผู้บริโภคทั่วไปซึ่งทางบริษัทเป็นผู้พัฒนาขึ้นครั้งแรก และเจนโดม ผลิตภัณฑ์กักเก็บพลังงานแบบพกพาสำหรับตลาดต่างประเทศ และในปี 2568 โกชันไฮเทคตั้งเป้าหมายว่าจะมีกำลังการผลิตทั่วโลกแตะที่ 300 กิกะวัตต์ชั่วโมง/ปี โดยมีสัดส่วนของกำลังการผลิตในต่างประเทศอยู่ที่ 100 กิกะวัตต์ชั่วโมง/ปี

หลี่ เจิ้น ประธานของโกชันไฮเทค กล่าวในการปราศรัยว่า วันนี้เราได้เริ่มการวิจัยและพัฒนารูปแบบการใช้งานและการผลิตผลิตภัณฑ์ของโกชัน แบตเตอรี่ (Gotion Battery) ในเยอรมนีและยุโรป ฐานการผลิตในเกิททิงเงินของโกชันจะค่อย ๆ พลิกโฉมจากการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในอดีต สู่การผลิตผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ยากแต่มีแนวโน้มสดใส ซึ่งในขั้นตอนนี้ เราต้องปกป้องวัฒนธรรมองค์กรที่มีอยู่ พร้อมมีส่วนร่วมในเชิงรุกในการพัฒนาเมืองเกิททิงเงิน และเร่งความเร็วของการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ "เราจะผสานรวมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูงของจีนเข้ากับกระบวนการด้านวิศวกรรมขั้นสูงของเยอรมนี เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นและรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าและการพัฒนาของอุตสาหกรรมพลังงานใหม่สืบไป"

*ใช้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น

No comments:

Post a Comment