เมื่อไม่นานมานี้ วุฒิสภาแห่งสาธารณรัฐโดมินิกันได้มอบรางวัลให้แก่ประเทศจีน เพื่อยกย่องคุณูปการของจีนที่ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยนายซานติอาโก ซอร์ริลลา (Santiago Zorrilla) รองประธานวุฒิสภาโดมินิกัน กล่าวในพิธีมอบรางวัลว่า สาธารณรัฐโดมินิกันไม่มีวันลืมความช่วยเหลือจากจีนที่มาถึงอย่างทันท่วงทีในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด และความร่วมมือระดับทวิภาคีเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 ครั้งนี้ จะเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการสร้างประชาคมสุขภาพร่วมกันของมวลมนุษยชาติ
นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประเทศจีนได้สร้างความร่วมมือกับทั่วโลกเพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าว โดยจีนได้จัดหาเวชภัณฑ์และวัคซีนให้แก่ประเทศและภูมิภาคอื่น ๆ พร้อมกับแบ่งปันประสบการณ์การป้องกันโรคระบาดและการดูแลรักษาผู้ป่วย
ในเดือนมีนาคม 2563 ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน นำเสนอแนวคิดในการสร้างประชาคมสุขภาพร่วมกันของมวลมนุษยชาติเป็นครั้งแรก และในระหว่างที่ทั่วโลกกำลังต่อสู้กับโควิด-19 นั้น ประธานาธิบดีจีนได้เน้นย้ำในหลายโอกาสถึงความสำคัญของความร่วมมือด้านสุขภาพระดับโลก พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในแนวคิดดังกล่าว
จีนได้นำแนวคิดในการสร้างประชาคมสุขภาพร่วมกันของมวลมนุษยชาติมาปฏิบัติจริง ด้วยการริเริ่มโครงการใหญ่มากมายและประกาศใช้มาตรการต่าง ๆ ที่สอดคล้องกัน
แบ่งปันข้อมูลอย่างรวดเร็ว พร้อมจัดกิจกรรมหลายร้อยรายการ
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) ระบุว่า จีนได้จัดกิจกรรมการแลกเปลี่ยนทางเทคโนโลยีเกี่ยวกับโควิด-19 มากกว่า 300 รายการ ร่วมกับประเทศ ภูมิภาค และองค์กรระดับนานาชาติอื่น ๆ นอกจากนี้ จีนได้ส่งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 37 ทีม ไปยัง 34 ชาติ เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ของจีนกับทั่วโลก
ข้อมูลจากเอกสารบันทึกไทม์ไลน์การตอบสนองต่อโรคระบาดตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2562 ถึงเดือนมีนาคม 2563 เผยให้เห็นว่า ในช่วงแรกที่โควิด-19 เริ่มระบาด รัฐบาลจีนได้เผยแพร่ข้อมูลอย่างรวดเร็ว เปิดกว้าง โปร่งใส และมีความรับผิดชอบ เพื่อคลายความวิตกกังวลในทุกมิติอย่างจริงจัง และยังส่งเสริมความร่วมมือกับประชาคมโลกอีกด้วย
เอกสารระบุว่า จีนเริ่มติดต่อสื่อสารอย่างสม่ำเสมอกับองค์การอนามัยโลก (WHO) รวมถึงประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2563
ต่อมาในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติได้เปิดเว็บไซต์ภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการ และได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโควิด-19 อย่างเนื่อง โดยมีการอัปเดตข้อมูล 58 ครั้ง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563
ประเทศแรกที่ให้คำมั่นยกเว้นการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาวัคซีนโควิด-19
จีนเป็นประเทศแรกที่ให้คำมั่นว่าจะยกเว้นการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาวัคซีนโควิด-19 และเป็นประเทศแรกที่ร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ในการผลิตวัคซีน โดยจีนได้ส่งมอบวัคซีนโควิด-19 มากกว่า 2.2 พันล้านโดสให้แก่ประเทศต่าง ๆ และองค์กรระหว่างประเทศมากกว่า 120 แห่ง
นอกจากนี้ จีนยังทุ่มเทสร้างประชาคมสุขภาพเพื่อทุกคนและได้มอบวัคซีนให้กับทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศกำลังพัฒนา อีกทั้งยังร่วมกันดำเนินการผลิตอย่างจริงจัง เพื่อแสดงให้เห็นว่าวัคซีนโควิด-19 ควรเป็นสินค้าสาธารณะของโลก อันเป็นแนวคิดที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เขียนถึงและมอบให้กับการประชุมนานาชาติว่าด้วยความร่วมมือด้านวัคซีนโควิด-19 ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม 2564
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า "เราเต็มใจทำงานร่วมกับประชาคมโลก เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านวัคซีนในระดับสากลและสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ"
ในการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 48 เมื่อเดือนกันยายน 2564 นายเฉิน สวี่ (Chen Xu) หัวหน้าคณะผู้แทนจีนประจำสำนักงานสหประชาชาติในนครเจนีวา เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกทั้งหมดรวมถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีนและยกระดับขีดความสามารถในการผลิตของประเทศกำลังพัฒนา ผ่านการส่งออก การบริจาค การวิจัยและพัฒนาร่วมกัน การผลิตแบบแฟรนไชส์ และการถ่ายทอดองค์ความรู้
การแพทย์แผนจีนช่วยโลกต่อสู้กับโควิด-19
การแพทย์แผนจีนถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางทั่วโลกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติระบุว่า จีนได้จัดกิจกรรมทางไกลผ่านวิดีโอมากกว่า 100 ครั้ง เพื่อแนะนำการรักษาโดยใช้การแพทย์แผนจีนในกว่า 150 ประเทศและภูมิภาค อีกทั้งยังส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนไปช่วยควบคุมการแพร่ระบาดในกว่า 30 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก
ในรายงานฉบับหนึ่งที่เผยแพร่ช่วงปลายเดือนมีนาคม 2565 ระบุว่า องค์การอนามัยโลกได้ยืนยันว่าการแพทย์แผนจีนมีประโยชน์ในการรักษาโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง
รายงานระบุว่า "มีข้อมูลเชิงบวกที่บ่งชี้ว่าการแพทย์แผนจีนมีประโยชน์ในการลดความเสี่ยงการลุกลามของโควิด-19 จากอาการเล็กน้อยถึงปานกลางไปสู่อาการรุนแรง"
"สำหรับกลุ่มที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง มีหลักฐานสนับสนุนว่าเมื่อใช้การแพทย์แผนจีนเสริมการรักษาตามมาตรฐานทั่วไป อาจช่วยลดระยะเวลาในการกำจัดเชื้อไวรัส การหายขาด และการนอนโรงพยาบาล เมื่อเทียบกับการรักษาทั่วไปเพียงอย่างเดียว"
ในขณะที่จีนช่วยเหลือทั่วโลกต่อสู้กับโควิด-19 นั้น ประเทศอื่น ๆ และประชาคมโลกต่างก็ให้การสนับสนุนจีนเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด
รายงานสมุดปกขาวที่เผยแพร่เมื่อเดือนมิถุนายน 2563 โดยสำนักสารสนเทศของคณะมุขมนตรีจีน (State Council Information Office) ระบุว่า "ประเทศจีนไม่มีวันลืมความช่วยเหลือและน้ำใจไมตรีที่ได้รับ และจะตอบแทนด้วยความปรารถนาดีเช่นเดียวกัน"
https://news.cgtn.com/news/2023-03-25/How-China-keeps-vow-to-build-a-community-of-common-health-for-mankind-1isgvWRsADe/index.html
No comments:
Post a Comment