นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน เปิดเผยว่า ในยามที่โลกยังคงปั่นป่วน ความหนักแน่นของจีนจะเป็นหลักสำคัญในการส่งเสริมสันติภาพและความก้าวหน้าของโลก โดยยกให้เป็น "ข้อเท็จจริงที่เที่ยงแท้ในอดีต และเด่นชัดมากยิ่งขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต"
นายหลี่กล่าวในพิธีเปิดการประชุมโป๋อ่าว ฟอรัม ฟอร์ เอเชีย (Boao Forum for Asia) ประจำปี 2566 เมื่อวันพฤหัสบดีว่า "ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปเพียงใด จีนจะยังคงยืนหยัดปฏิรูปและเปิดกว้าง พร้อมใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนความก้าวหน้าต่อไป"
นายกฯ จีนเน้นย้ำในคำปราศรัยสำคัญว่า เพื่อให้เป็นเช่นนั้นได้ จีนจะไม่เพียงอัดฉีดแรงกระตุ้นและเพิ่มพลังใหม่ ๆ ให้กับเศรษฐกิจโลกเท่านั้น แต่ยังเปิดกว้างให้ทั่วโลกได้แบ่งปันโอกาสและผลประโยชน์จากความก้าวหน้าของจีนด้วย
เศรษฐกิจจีนดีดตัว
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) ระบุว่า ยอดค้าปลีกของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดการเติบโตของการบริโภค ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ จากที่เคยลดลงในช่วง 3 เดือนก่อนหน้า
ขณะเดียวกัน ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมมูลค่าเพิ่มของจีนก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมบริการของจีนเพิ่มขึ้น 5.5%
นายกฯ จีนสังเกตเห็นแนวโน้มที่ดีในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้า โดยมองว่าเดือนมีนาคมน่าจะยิ่งดีกว่าเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจหลัก ๆ สะท้อนให้เห็นแรงกระตุ้นการเติบโตที่ดีขึ้นและแข็งแกร่ง
นายกฯ จีนกล่าว ณ เมืองโป๋อ๋าว ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งในมณฑลไห่หนานของจีนว่า เศรษฐกิจจีนมีความยืดหยุ่น มีศักยภาพ และมีพลังขับเคลื่อนอันแรงกล้า
เขากล่าวเสริมว่า จีนจะนำมาตรการใหม่ ๆ มาใช้เพื่อขยายการเข้าถึงตลาด ปรับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้เหมาะสม และอำนวยความสะดวกในการดำเนินโครงการต่าง ๆ
"เรามีความมั่นใจและความสามารถในการพัฒนาเศรษฐกิจจีนให้ก้าวหน้า รักษาการเติบโตให้มั่นคงและยั่งยืน และมีบทบาทมากขึ้นในการพัฒนาเศรษฐกิจโลก"
ด้านนายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวในการประชุมเดียวกันนี้ว่า จีนได้กลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเกือบทุกประเทศในเอเชีย พร้อมกับน้อมรับโครงการริเริ่มต่าง ๆ ที่จีนได้นำเสนอทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก เช่น ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) และข้อริเริ่มการพัฒนาระดับโลก (Global Development Initiative) เป็นต้น
นายลี เซียนลุง กล่าวว่า "เราหวังที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในโอกาสการเติบโตใหม่ ๆ ในเศรษฐกิจที่ไม่หยุดนิ่งของจีน"
สภาพแวดล้อมที่สงบและมั่นคง เหมาะสมสำหรับการพัฒนา
นายกรัฐมนตรีจีนได้เรียกร้องให้ร่วมกันปกป้องสภาพแวดล้อมที่สงบสุขและมีเสถียรภาพเพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าและเพิ่มความเชื่อมั่นในยามที่โลกปั่นป่วน
นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า "เอเชียไม่ควรจะมาเสียเวลากับความวุ่นวายหรือสงคราม หากต้องการก้าวหน้าให้มากกว่านี้ในวันข้างหน้า"
เขาเน้นย้ำว่า จีนมุ่งมั่นที่จะแก้ไขความแตกต่างและข้อพิพาทระหว่างประเทศต่าง ๆ ด้วยสันติวิธี พร้อมทั้งร่วมกันปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพของโลก และเสริมว่าจีนต่อต้านการใช้มาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียว การใช้เขตอำนาจรัฐนอกดินแดน การเลือกข้าง การเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มประเทศ หรือ "สงครามเย็นครั้งใหม่"
นายหลี่ เฉียง กล่าวว่า ประเทศต่าง ๆ ควรเคารพและไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน เปิดกว้างและไม่แบ่งแยก เคารพเส้นทางการพัฒนาที่ประเทศอื่นเลือกเอง ตลอดจนต่อต้าน "การปะทะกันของอารยธรรม" และการเผชิญหน้าทางอุดมการณ์
จีนได้กำหนดภารกิจหลักในการสร้างจีนให้เป็นประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ที่ยิ่งใหญ่ในทุกด้าน พร้อมผลักดันการฟื้นฟูชาติจีนในทุกด้านผ่านเส้นทางสู่ความทันสมัยแบบจีน
สำหรับประชาคมโลกนั้น ภารกิจของจีนในการสร้างความทันสมัยให้กับประเทศที่มีประชากรมากถึง 1.4 พันล้านคน หรือเกือบหนึ่งในห้าของประชากรโลก ถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
นายหลี่ เฉียง กล่าวว่า จีนมุ่งมั่นที่จะสร้างความทันสมัยด้วยสันติวิธีและการพัฒนา ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันที่เข้มแข็งสำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชียและเศรษฐกิจโลกในท้ายที่สุด
"จีนไม่มีวันสร้างความทันสมัยด้วยสงคราม การล่าอาณานิคม หรือการปล้นโดยเด็ดขาด"
https://news.cgtn.com/news/2023-03-30/Premier-Li-urges-safeguarding-peace-and-stability-for-development-1iACDkMx2nK/index.html
No comments:
Post a Comment