- บริดจสโตนสนับสนุนยางรถยนต์พรีเมียมให้กับยานพาหนะขนส่งมากกว่า 1,000 คัน เพื่อขับเคลื่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ปารีส 2024
- นอกเหนือจากยางรถยนต์ บริดจสโตนยังสนับสนุนนักกีฬา ทีมงาน และการดำเนินงานผ่านการสร้างความรู้ด้านความปลอดภัยบนท้องถนน การให้บริการด้านยานยนต์ อุปกรณ์กีฬาที่มีประสิทธิภาพสูง และอื่นๆ
- การสนับสนุนของบริดจสโตนในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ปารีส 2024
ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัย ความยั่งยืน การยอมรับความหลากหลาย และการสร้างสรรค์นวัตกรรม
บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น (บริดจสโตน) ในฐานะพันธมิตรการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกอย่างเป็นทางการ ร่วมสนับสนุนยางรถยนต์หลากหลายรุ่นที่มาพร้อมกับการให้บริการและอุปกรณ์กีฬาที่มีประสิทธิภาพสูงในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ปารีส 2024 เพื่อยกระดับประสบการณ์ของทัพนักกีฬา ทีมงาน เหล่าแฟนกีฬา รวมถึงผู้เข้าชมการแข่งขัน
บริดจสโตนในฐานะผู้นำระดับโลกด้านยางรถยนต์ ได้ขับเคลื่อนนวัตกรรมความพรีเมียมผ่านการสนับสนุนการดำเนินงานและกิจกรรมต่างๆ ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ปารีส 2024 เพื่อส่งมอบคุณค่าแก่สังคมและลูกค้าผ่านความปลอดภัย ความยั่งยืน การยอมรับความหลากหลาย และการสร้างสรรค์นวัตกรรม ได้แก่
- การสนับสนุนยางรถยนต์และบริการด้านยานยนต์ที่ล้ำสมัยสำหรับยานพาหนะเพื่อการขนส่ง
- การให้ความรู้ด้านความปลอดภัยบนท้องถนนแก่ผู้ขับขี่
- ความร่วมมือกับเหล่าพันธมิตรเพื่อยกระดับตัวเลือกด้านการขนส่งที่ยั่งยืนและเท่าเทียม
- การสนับสนุนผลิตภัณฑ์กอล์ฟที่มีประสิทธิภาพสูงและอุปกรณ์กีฬาที่ออกแบบพิเศษสำหรับนักกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก
คุณ Laurent Dartoux ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานกรรมการกลุ่ม บริดจสโตน ยุโรป เอเชียตะวันออกกลาง และแอฟริกา (BSEMEA) เผยว่า "การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกถือเป็นแพลตฟอร์มทรงพลังที่เชื่อมโยงและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลกด้วยการสร้างอารมณ์ร่วมและผลงานด้านกีฬา" "โดยวัตถุประสงค์ของการแข่งขันสอดคล้องกับพันธกิจของบริดจสโตนที่ว่า 'รับใช้สังคมด้วยคุณภาพที่เหนือกว่า' และวิสัยทัศน์ในการสร้างสรรค์โลกที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไปในอนาคตผ่านการสนับสนุนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ปารีส 2024 เพื่อส่งมอบคุณค่าร่วมให้กับพนักงาน สังคม และลูกค้าของเรา"
การสนับสนุนยางรถยนต์และบริการด้านยานยนต์ที่ล้ำสมัยสำหรับยานพาหนะเพื่อการขนส่งในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกปารีส2024
ในฐานะผู้สนับสนุนยางรถยนต์ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกอย่างเป็นทางการ บริดจสโตนได้ขับเคลื่อนกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกด้วยยางรถยนต์พรีเมียมในหลากหลายรุ่นให้กับแบรนด์รถโตโยต้ารุ่นที่ใช้ในงานมากกว่า 1,000 คัน
ผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ Bridgestone Turanza 6 รุ่นใหม่ และ Bridgestone Alenza 001 มาพร้อมกับเทคโนโลยี ENLITEN ที่ล้ำสมัยซึ่งเป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีและการใช้วัสดุด้วยคุณสมบัติในการเพิ่มประสิทธิภาพ ความทนทาน และ/หรือความยั่งยืน1 ซึ่งบริดจสโตนเดินหน้าออกแบบยางพรีเมียมให้เหมาะสมกับสมรรถนะการขับขี่ที่เปลี่ยนแปลงตามความต้องการของลูกค้าและระบบนิเวศการเดินทางแห่งโลกอนาคตโดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า
บริดจสโตนยังสนับสนุนยางรถมอเตอร์ไซค์มากกว่า 20 คัน ที่ใช้บนท้องถนนในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ปารีส 2024 รวมถึงยางที่ติดรถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฮโดรเจนรุ่นต้นแบบของแบรนด์คาวาซากิ
รวมถึงจัดตั้งศูนย์บริการดูแลยางของบริดจสโตนที่แรกและรวดเร็ว (Bridgestone-owned Speedy and First Stop tire and maintenance service centers) มากกว่า 36 แห่ง ที่พร้อมให้บริการในช่วงเกมการแข่งขันเพื่อดูแลรักษายางสำหรับยานพาหนะขนส่งและโดยสาร โดยกระจายอยู่ตามสถานที่สำคัญในช่วงการแข่งขัน ซึ่งจะให้บริการเช็กสภาพยางและด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์เกือบ 3,000 คัน ที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ปารีส 2024 รวมถึงยางที่ติดรถมอเตอร์ไซค์ซึ่งใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) แบบไฮโดรเจนรุ่นต้นแบบของแบรนด์คาวาซากิ
การให้ความรู้ด้านความปลอดภัยแก่ผู้ขับขี่ยานพาหนะในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ปารีส 2024
เพื่อสนับสนุนความปลอดภัยบนท้องถนน บริดจสโตนได้ออกแบบหลักสูตรการให้ความรู้แบบออนไลน์ในการฝึกอบรมผู้ขับขี่ โดยเปิดอบรมให้แก่ผู้ขับขี่จิตอาสามากกว่า 4,000 คน ก่อนที่จะเริ่มขับขี่ยานพาหนะขนส่งที่ใช้ในการแข่งขัน โดยให้ความสำคัญกับบทบาทของยางรถยนต์เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการขับขี่และความปลอดภัยของยานพาหนะ รวมถึงให้คำแนะนำในการเช็กดอกยางและระดับแรงดันลมยางที่เหมาะสม
ความร่วมมือเพื่อพัฒนาการขนส่งที่เข้าถึงได้ง่ายและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
นอกจากการสนับสนุนยานพาหนะเพื่อการขนส่งของโตโยต้าที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% แล้ว บริดจสโตนยังจัดหายางที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับนวัตกรรมการเดินทางด้วยพลังงานไฮโดรเจนของโตโยต้าและการเดินทางที่เท่าเทียมมากยิ่งขึ้น ความร่วมมือในการสนับสนุนนวัตกรรมยานพาหนะนี้รวมถึงการติดตั้งยางสำหรับรถยนต์ Toyota Mirai Fuel Cell Electric Vehicle (FCEV) ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนจำนวน 500 คัน และรถยนต์โดยสาร FCEV ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนจำนวน 2 คัน นอกจากนี้ยังรวมถึงการติดตั้งยางสำหรับรถยนต์ Toyota Accessible People Movers (APMs) ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์จำนวน 250 คัน ซึ่งจะใช้ในการขนส่งทัพนักกีฬา ทีมงาน และเหล่าบรรดาแฟนกีฬาในระหว่างการแข่งขัน
รถยนต์ Toyota Accessible People Movers (APMs) เป็นยานพาหนะที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้พิการทางร่างกาย โดยติดตั้งยาง ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สบายและยังมีความต้านทานการหมุนต่ำจึงสามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บริดจสโตนยังจะจัดหาจักรยานมากกว่า 600 คัน เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการเดินทางที่ไม่ใช้เครื่องยนต์ นอกจากนี้บริดจสโตนกำลังร่วมมือกับ Decathlon ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬานานาชาติในฝรั่งเศสและเป็นพันธมิตรการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ปารีส 2024 อย่างเป็นทางการ ความร่วมมือดังกล่าวจะส่งผลให้จักรยานพร้อมใช้งานในสถานที่ต่างๆ ตลอดการแข่งขันรวมถึงการใช้งานในหมู่บ้านนักกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ซึ่งจักรยานเหล่านี้จะพร้อมให้บริการแก่ทัพนักกีฬา อาสาสมัคร และทีมงาน เพื่อความสะดวกและมีประสิทธิภาพในการเดินทางในพื้นที่ที่ไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ และหลังจากสิ้นสุดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ปารีส 2024 บริดจสโตนจะร่วมมือกับ Ville de Paris บริจาคจักรยานประมาณ 500 คัน ให้กับองค์กรชุมชนในท้องถิ่นต่อไป
อุปกรณ์กีฬาประสิทธิภาพสูงสำหรับนักกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก
นักกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกที่เข้าร่วมในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ปารีส 2024 ยังจะช่วยแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ระดับพรีเมียมของบริดจสโตน ที่นอกเหนือไปจากยางรถยนต์
ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของ Bridgestone Golf จะถูกจัดแสดงในการแข่งขันกอล์ฟชายและหญิง ซึ่งมีนักกอล์ฟมืออาชีพจำนวนมากที่ใช้ลูกกอล์ฟของบริดจสโตนและได้ผ่านการคัดเลือกสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 เพื่อสนับสนุนนักกีฬาเหล่านี้ บริษัทฯ กำลังจัดเตรียมลูกกอล์ฟที่มีประสิทธิภาพสูงประมาณ 3,500 ลูก สำหรับการใช้ในสนามฝึกซ้อมของการแข่งขัน
นอกจากนี้นักกีฬาผู้พิการจำนวนมากจากประเทศสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับยางและอุปกรณ์ของบริดจสโตนระหว่างการแข่งขันพาราลิมปิก ปารีส 2024 โดยทีมวิศวกร นักออกแบบ และผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุของบริดจสโตนได้ใช้ประสบการณ์ด้านยางรถยนต์และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวกับยาง เพื่อศึกษาการประยุกต์ใช้ยางในกีฬาหลากหลายประเภท ซึ่งโอกาสจากการสำรวจนวัตกรรมครั้งนี้รวมถึงการใช้ยางจากยางรถยนต์ของบริดจสโตนสำหรับถุงมือ, วงล้อสำหรับมือจับของรถเข็นวีลแชร์, ขาเทียมทรงใบมีด, ปุ่มบนพื้นรองเท้า, ยางสำหรับรถวีลแชร์ และอื่นๆ
การดำเนินงานของบริดจสโตนกับทัพนักกีฬาระดับโลกมีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนที่มาจากทุกภูมิหลังและมีความสามารถในการเอาชนะอุปสรรคและไล่ตามความฝันของพวกเขา ซึ่งในขณะนี้ บริดจสโตนกำลังร่วมมือกับนักกีฬาโอลิมปิก พาราลิมปิก และนักกีฬาที่มีความหวังจะได้เข้าร่วมการแข่งขันจำนวนทั้งสิ้น 40 คน เพื่อเป็นตัวแทนแบรนด์ในฐานะทีมนักกีฬาบริดจสโตน
"บริดจสโตนได้ขับเคลื่อนนวัตกรรมมาเกือบหนึ่งศตวรรษ และเรายังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมในปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยียางขั้นสูงและอื่นๆ" คุณ Dartoux กล่าว "เราภูมิใจที่จะได้สนับสนุนทัพนักกีฬาพาราลิมปิกพร้อมการดำเนินงานในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ปารีส 2024 ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชั่นที่ความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีของเราสามารถจะช่วยสนับสนุนพวกเขาเหล่านั้นได้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการดำเนินงานระดับพรีเมียมสู่ความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น เพราะสิ่งที่สำคัญจริงๆ คือการที่เราทำให้ทุกคนสามารถแสดงศักยภาพที่ดีที่สุดของตนเองได้จากรุ่นสู่รุ่น"
การสนับสนุนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกของบริดจสโตนสอดคล้องกับ Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน) ซึ่งประกอบด้วยคุณค่า 8 ด้านของบริดจสโตนที่เริ่มต้นด้วยตัวอักษร "E" (ด้าน Energy (พลังงาน) ด้าน Ecology (สิ่งแวดล้อม) ด้าน Efficiency (ประสิทธิภาพ)ด้าน Extension (การเติบโต) ด้าน Economy (เศรษฐกิจ) ด้าน Emotion (ความรู้สึก) ด้าน Ease (ความสะดวกสบาย) และด้าน Empowerment (พลังทางสังคม)) ซึ่ง Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน) เป็นแนวทางในการสร้างสรรค์โลกให้ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น และในฐานะพันธมิตรการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกอย่างเป็นทางการของบริดจสโตนยังสอดคล้องกับคุณค่า "ด้าน Emotion (ความรู้สึก) และ "ด้าน Empowerment (พลังทางสังคม)"
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเป็นพันธมิตรการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกอย่างเป็นทางการของบริดจสโตนได้ทางออนไลน์ที่ Bridgestone.com/olympics/
1 คุณสมบัติของเทคโนโลยี ENLITEN ขึ้นอยู่กับแต่ละผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ ซึ่งผลลัพธ์เป็นไปตามการดูแลรักษายางและยานพาหนะ สภาพพื้นถนน และพฤติกรรมการขับขี่
BRIDGESTONE TURANZA 6 ได้รับการออกแบบเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงหรือยืดระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ (ขึ้นอยู่กับชนิดยานพาหนะ) ช่วยลดความต้านทานการหมุนอยู่ที่ 4% เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมและได้รับการรับรองมาตรฐานยางในยุโรประดับเกรด A ด้านความต้านทานการหมุนสำหรับยางบางขนาด โดยเทคโนโลยีด้านวัสดุในผลิตภัณฑ์ได้รับการออกแบบให้เพิ่มความทนทานอยู่ที่ 22% เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนยางบ่อยและลดการใช้งานวัตถุดิบในระยะยาว โดยรุ่น TURANZA 6 ได้รับการพัฒนาผ่านเทคโนโลยีการพัฒนายางเสมือนจริงที่ช่วยคาดการณ์การใช้งานของยางรถยนต์ในสภาพถนนที่แตกต่างกันก่อนนำไปสร้างยางรถยนต์ต้นแบบ โดยในช่วงของระยะการพัฒนายางช่วยลดการใช้งานวัตถุดิบอยู่ที่ 21% รวมถึงปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจากผลการทดลองกลางแจ้ง พบว่าสามารถลดระยะทางอยู่ที่ 60,000 กิโลเมตร และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 7.7 ตัน
BRIDGESTONE ALENZA 001 ที่มาพร้อมเทคโนโลยี ENLITEN ประกอบด้วยโครงยางที่ได้รับการออกแบบเพื่อลดความต้านทานการหมุนและปรับปรุงประสิทธิภาพเชื้อเพลิง/พลังงาน โดยเทคโนโลยีวัสดุที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ได้รับออกแบบเพื่อเพิ่มความทนทานและยืดอายุการใช้งานสูงขึ้นถึง 11% เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ยางของบริดจสโตนในรุ่นเดิม ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนยางบ่อยและลดการใช้วัตถุดิบในระยะยาว
เกี่ยวกับบริดจสโตน ประเทศไทย:
บริดจสโตน ผู้นำระดับโลกด้านยางรถยนต์และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับยาง พร้อมนำเสนอโซลูชั่นด้านการเดินทางที่ปลอดภัยและยั่งยืน และสำหรับประเทศไทย บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด คือหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการนำเข้า จัดจำหน่าย และทำการตลาดยางรถยนต์ภายใต้แบรนด์บริดจสโตน, ไฟร์สโตน และเดย์ตันแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย บริดจสโตนเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ตัวแทนจำหน่าย และพันธมิตรทางธุรกิจ เรานำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์พรีเมียมที่หลากหลายและโซลูชั่นขั้นสูงซึ่งพัฒนาจากนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาการเดินทาง, การใช้ชีวิต, การทำงาน และการพักผ่อนของผู้คนทั่วโลก
No comments:
Post a Comment