Mederi Therapeutics เปิดตัวโครงการวิจัยแบบหลายศูนย์ครั้งใหม่ เพื่อศึกษาคุณประโยชน์ของ Stretta Therapy ในการรักษาผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน (GERD) ภายหลังการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ (Sleeve Gastrectomy)
โครงการวิจัยหัวข้อ "Examining the Benefit of RF Treatment (Stretta) of GERD after Sleeve Gastrectomy" มีการรวบรวมข้อมูลจากโครงการผ่าตัดลดความอ้วนระดับแนวหน้าของสหรัฐอเมริกา 15 โครงการ เพื่อศึกษาอาการของผู้ป่วยที่เป็นโรคกรดไหลย้อนนานอย่างน้อย 6 เดือนหลังผ่านการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ โดยเน้นประเมินระดับการควบคุมอาการของโรคกรดไหลย้อน (HRQL) หลังรักษาด้วย Stretta ซึ่งจะมีการติดตามผลทุกๆ 6, 12 และ 24 เดือน
การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะเป็นการผ่าตัดลดความอ้วนยอดนิยม คิดเป็นสัดส่วน 51% ของการผ่าตัดลดความอ้วนทั้งหมดในสหรัฐในปี 2557 ( เพิ่มขึ้นจาก 42% ในปี 2556 ) โดยผู้ป่วยมักเลือกการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะมากกว่าการผ่าตัดแบบตัดต่อกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก (Gastric Bypass) เนื่องจากการผ่าตัดแบบแรกนั้น กระเพาะอาหารยังสามารถทำงานได้เป็นปกติ
Erin Moran-Atkins, MD, FACS หัวหน้านักวิจัย ผู้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์สาขาวิชาศัลยศาสตร์ ณ Montefiore Medical Center และ Albert Einstein School of Medicine ได้อธิบายถึงปัญหาในการรักษาผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนหลังผ่าตัดลดขนาดกระเพาะว่า "ผู้ป่วยโรคอ้วนมีความเสี่ยงเป็นโรคกรดไหลย้อนมากกว่าคนทั่วไปหลายเท่าตัว การผ่าตัดลดความอ้วนช่วยรักษาโรคกรดไหลย้อนได้ในผู้ป่วยบางคน ขณะที่หลายคนยังคงมีอาการอยู่ ผู้ป่วยที่ผ่านการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะบางรายยังอาจประสบกับปัญหาในการต้านฤทธิ์ยารักษาโรคกรดไหลย้อน และอาจไม่ต้องการผ่าตัดแบบตัดต่อกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก ซึ่งเป็นวิธีการรักษาขั้นต่อไปตามมาตรฐาน"
W. Scott Melvin, MD, FACS ผู้วิจัยร่วม ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการแผนกศัลยกรรมทั่วไป ณ Montefiore Medical Center และศาตราจารย์สาขาวิชาศัลยศาสตร์ ณ Albert Einstein School of Medicine ได้กล่าวถึงทางเลือกที่จำกัดสำหรับผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนหลังผ่าตัดลดขนาดกระเพาะว่า "การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะทำให้ลักษณะทางกายภาพของกระเพาะเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นจึงไม่สามารถผ่าตัดแบบ Fundoplication เพิ่มเติมในภายหลังได้ ขณะที่การผ่าตัดแบบตัดต่อกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนสูงกว่า ด้วยเหตุนี้ จึงได้มีการศึกษา Stretta กันอย่างกว้างขวางในกลุ่มผู้ป่วยที่มีลักษณะทางกายภาพเปลี่ยนแปลงไปหลังผ่าตัด และสำหรับผู้ป่วยที่ผ่านการผ่าตัดลดความอ้วนนั้น การรักษาด้วย Stretta ยังไม่ปิดกั้นโอกาสในการผ่าตัดในอนาคตด้วย ทั้งนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลจากการวิจัยนี้ จะพิสูจน์ให้เห็นว่า Stretta มีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนหลังผ่าตัดลดความอ้วน ซึ่งกำลังมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ"
ผลการวิจัยพบว่า ผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนมากถึง 84% ยังคงมีอาการของโรคหลังเข้ารับการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ ขณะที่ผู้ป่วยอย่างน้อย 8% เกิดอาการไหลย้อนกำเริบหลังการผ่าตัด
Stretta คือวิธีการรักษาโรคกรดไหลย้อนโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยเป็นการส่งพลังงานคลื่นความถี่วิทยุเพื่อแก้ไขและฟื้นฟูกล้ามเนื้อระหว่างกระเพาะอาหารกับหลอดอาหาร ซึ่งผลการศึกษามากมายบ่งชี้ว่า Stretta ช่วยบรรเทาอาการของโรคกรดไหลย้อน ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถลดหรือหยุดใช้ยาได้ รวมทั้งลดการสัมผัสกับกรดในกลุ่มผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนเรื้อรัง Stretta เป็นเทคนิคการรักษาผ่านทางช่องปาก โดยไม่ทำให้ลักษณะทางกายภาพเปลี่ยนแปลงไป จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนที่เคยผ่านการผ่าตัดลดความอ้วน
เกี่ยวกับ STRETTA(R)
Stretta เป็นวิธีการรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัดสำหรับผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนที่ไม่ค่อยตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาและไม่ต้องการเข้ารับการผ่าตัด Stretta ได้รับการศึกษาในกว่า 40 โครงการ ซึ่งทั้งหมดล้วนแสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพในระดับสูง ทั้งนี้ Stretta ผลิตโดย Mederi Therapeutics และสามารถเข้าถึงได้ทั่วโลก
No comments:
Post a Comment