- ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้จะทำให้ Telepizza เป็นเจ้าของร้านพิซซ่าเพิ่มอีก 10 แห่ง เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,352 แห่งทั่วโลก
- Telepizza เดินหน้าลงทุนและขยายธุรกิจทั่วโลก ทั้งร้านพิซซ่าที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง พันธมิตรร่วมทุน และมาสเตอร์แฟรนไชส์
Telepizza บริษัทส่งพิซซ่ารายใหญ่ที่สุดในโลกที่มีสาขาอยู่นอกสหรัฐอเมริกา มีความยินดีที่จะประกาศว่าบริษัทได้เข้าซื้อ "Pizza Blitz" แบรนด์ส่งพิซซ่าต้นตำรับของสวิตเซอร์แลนด์
การซื้อกิจการครั้งล่าสุดนี้จะทำให้ Telepizza มีร้านพิซซ่าเพิ่มอีก 10 แห่ง รวมเป็นตัวเลขน่าประทับใจที่ 1,352 แห่งทั่วโลก อันจะเป็นสนับสนุนแผนการเติบโตเชิงรุกของแบรนด์ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดสามเท่าในช่วง 3 ปีข้างหน้า
ปาโบล ฮวนเตกิ ซีอีโอและประธานกรรมการ Telepizza กล่าวว่า "พวกเราชาว Telepizza ภูมิใจที่จะได้แนะนำแบรนด์ของเราในตลาดใหม่ๆ สำหรับเราแล้ว สวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นก้าวที่น่าตื่นเต้นของแบรนด์ เราคำนึงถึงคุณสมบัติเด่นของชาวสวิสเพื่อปรับสูตรของเราให้เข้ากับรสนิยมของพวกเขา โดยคงไว้ซึ่งหัวใจสำคัญของแบรนด์นั่นคือ แป้งพิซซ่าสูตรลับ"
จอร์โจ มินาร์ดี ประธานฝ่ายต่างประเทศ กล่าวว่า "เรายินดีกับการซื้อกิจการใหม่ในครั้งนี้ เพราะเป็นอีกก้าวหนึ่งที่จะนำเราไปสู่การบรรลุแผนการขยายธุรกิจ สวิตเซอร์แลนด์เป็นตลาดสำคัญสำหรับเรา เราเชื่อว่าบริการลูกค้าที่โดดเด่นและผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยมของเราจะดึงดูดผู้บริโภคสวิสได้อย่างแน่นอน"
สำหรับบรรณาธิการ
Telepizza เป็นบริษัทส่งพิซซ่าที่ตั้งอยู่นอกสหรัฐและมีสาขามากที่สุดในโลก โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน Telepizza ดำเนินงานในกว่า 15 ประเทศ โดยมีทั้งร้านที่เป็นของบริษัทเอง รวมถึงร้านแฟรนไชส์และมาสเตอร์แฟรนไชส์ รวมทั้งสิ้น 1,342 สาขาทั่วโลก โดย 456 สาขาเป็นร้านของบริษัทเอง (34%) และอีก 886 สาขาเป็นร้านแฟรนไชส์และมาสเตอร์แฟรนไชส์ (66%) ณ วันที่ 30 กันยายน 2559
หากรวมคู่แข่งจากสหรัฐแล้ว เราจะเป็นบริษัทส่งพิซซ่าที่มีสาขามากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก นอกจากนี้ เรายังเป็นบริษัทส่งพิซซ่าที่มีสาขามากเป็นอันดับต้นๆในหลายประเทศ (มีสาขามากเป็นอันดับ 1 ในสเปน โปรตุเกส ชิลี และโคลอมเบีย และมากเป็นอันดับ 2 ในโปแลนด์)
ยอดขายรวมของเรา ทั้งร้านที่เป็นของบริษัทเอง รวมถึงร้านแฟรนไชส์และมาสเตอร์แฟรนไชส์ อยู่ที่ 506 ล้านยูโร ในรอบ 12 เดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ที่ 63.4 ล้านยูโรในช่วงเวลาดังกล่าว
www.telepizza.com
No comments:
Post a Comment